1434 ข้อความ
- 1 คนสงสัยhttps://factcheckthailand.afp.com/doc.afp.com.323W82Tข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/m8MsWteuEGsไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน! กสทช. สั่งยกเลิกสถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศ มีผลวันที่ 3 เมษายน 2565 https://www.chorsaard.or.th/content/45945/กสทช-สั่งยกเลิกไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปคบ.-อย.ทลายโกดังสินค้า จับครีมปลอม เลียนแบบยี่ห้อดังทีมดารานักแสดง พรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ทาใบหน้ายี่ห้อหนึ่ง เข้าติดตามคดีปลอมแปลงสินค้าจัดจำหน่ายให้ประชาชน โดยตำรวจ ปคบ.ร่วมกับ อย.บุกปิดโกดังสินค้า ยึดผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 4,000 กล่อง วันนี้ (8 มิ.ย.2564) ตำรวจ ปคบ.และเจ้าหน้าที่ อย.เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้า ซอยกำนันแม้น 13 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยี่ห้อ ดร.จิลล์ จำนวน 4,400 กล่อง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Facial Mark BLOOD ORANGE จำนวน 38,400 ซอง หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมทาใบหน้าและจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด จึงสงสัยว่าอาจเป็นการปลอมแปลงสินค้า พ.ต.อ.เนติ วงศ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 ปคบ.เปิดเผยว่า การตรวจค้นจับผู้ต้องหาชาวจีนได้ 1 คน และพบว่าสินค้าในโกดังทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอม ผลสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่าอยู่เมืองไทยมานานและทราบว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้มีชื่อเสียง มีดารา นักแสดงหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงเลือกปลอมสินค้ายี่ห้อโดยผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาติดสลากเลียนแบบนี้ ก่อนจำหน่ายในตลาดออนไลน์ และจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติค่อนข้างมาก ด้านเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น ผลิตภัณฑ์ล็อตของผู้ต้องหา ผลิตไม่ตรงตามสูตรที่แจ้งไว้กับทาง อย. และไม่ได้ผลิตในโรงงานที่แจ้งไว้เช่นกัน จีงมีความชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ส่วนสูตรผสมที่ปลอมขึ้น ยังไม่ได้ตรวจแยกสารว่าจะมีอันตรายต่อผู้ใช้หรือไม่ ตำรวจยังระบุด้วยว่าที่ผู้ต้องหาจัดจำหน่ายราคาถูก แล้วผู้บริโภคหลงเชื่อ เพราะอ้างว่าสินค้าซื้อตัดล็อตของไม่เสียภาษี และขายในที่ราคาถูก เตือนประชาชนควรระวังการซื้อของในราคาถูกกว่าราคาโดยทั่วไปจนเกินปกติ หรือซื้อกับบริษัทโดยตรง ขณะเดียวกัน ทีมดารานักแสดง ผู้เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เข้าร่วมติดตามการจับผู้ต้องหา เปิดเผยว่า อยากให้ประชาชนระมัดระวังการเลือกซื้อสินค้าผ่านตัวแทน หรือช่องทางอื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านของสินค้าโดยตรง เพราะเห็นว่ามีราคาถูก แต่สินค้าปลอมเมื่อซื้อไปใช้แล้ว แม้อาจจะไม่เกิดผลร้าย แต่ก็อาจจะไม่เกิดคุณ หรือประโยชน์ต่อผู้บริโภค เป็นการสูญเงินเปล่า นอกจากนี้ อย.เตือนผู้บริโภคก่อนซื้อยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทาง Oryor Smart Application หรือเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง และไม่ซื้อเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้ง ไม่มีฉลากหรือแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ หรือที่มีราคาถูกเกินไป และอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณที่เกินไปจากความเป็นเครื่องสำอาง สำหรับผู้กระทำความผิด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน "ขายเครื่องสำอางปลอม" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง" มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐาน "จำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังธนวิชญ์ วินารัตน์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกระทรวงแรงงานออก www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com จริงหรือโครงการจ้างงานเด็กจบใหม่ กระทรวงแรงงานตั้งใจออกแบบเพื่อกลุ่มคนที่จบใหม่ แก้ปัญหาการว่างงานอย่างถูกจุด ด้วยการช่วยเหลือค่าจ้างครึ่งหนึ่ง เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเป็นการช่วยสร้างประสบการณ์ให้แก่เด็กจบใหม่ จริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยแผ่นแปะจมูกแก้นอนกรน ใช้ได้จริงหรือ ?ในเเอปขายของออนไลน์ มีการขายของประเภทเเผ่นแปะจมูก เเก้นอนกรน เเต่ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเรื่องการใช้แผ่นแปะแก้อาการนอนกรน และอาการคัดจมูก เพราะกลไกแผ่นแปะจมูกอาจจะยังไม่ได้แก้ปัญหาทางจมูกให้กับผู้ป่วยได้อย่างชัดเจนมากนัก แพทย์จึงยังไม่แนะนำให้นำมาใช้แก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว การใช้แผ่นแปะจมูกคาดหวังผลได้หรือไม่ ส่วนมากผู้ใช้มักหวังผลแก้ปัญหาในบริเวณจมูก แต่หากสาเหตุการนอนกรนของผู้ป่วยอยู่ในส่วนอื่น ๆ เช่น เพดานอ่อน โคนลิ้น กล่องเสียง ก็อาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาอาการนอนกรนได้ ส่วนในแง่ของการรักษาอาการคัดจมูก ก็ยังไม่มีคำแนะนำการใช้แผ่นแปะมาแก้ปัญหาอาการคัดจมูกได้ กลไกการออกฤทธิ์ยังไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นหากผู้ป่วยมีปัญหาทางเดินหายใจอุดกั้นในระดับของจมูกก็อยากให้ประเมินการรักษาให้ถูกต้องเหมาะสมจะดีกว่า แผ่นแปะแก้นอนกรนอันตรายหรือไม่ ? ระวังอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนังบริเวณแปะแผ่นยาผู้บริโภคเฝ้าระวังMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ ? บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนในปัจจุบัน จากผลสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย จำนวน 40,164 คน ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 - 27 พฤษภาคม 2567 พบว่า เยาวชนยังมีความเชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนถึง 50.2% และยังมีความเชื่อว่า นิโคตินเป็นสารที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวส่งผลดีต่อสุขภาพ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่ผิดและยังขาดความรู้ ความตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ สมอง และ หัวใจ ( แหล่งข้อมูล https://hed.go.th/ ) จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกร ประจำร้านเภสัชกรอิ่ม จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า และ บุหรี่มวน มีความอันตรายไม่ต่างกัน ในหลาย ๆ แง่มุม บุหรี่ไฟฟ้าก็มีความอันตรายมากกว่า และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีภาวะโรคใหม่ที่เกิดขึ้นคือ ภาวะโรคปอดอักเสบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และจากการทดสอบเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า และ ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าในผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีสาร Vitamin E Acetate อยู่ในปอดจำนวนมาก แต่ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีสารชนิดนี้เลย ทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่าสารชนิดนี้มีส่วนที่สร้างความเสียหายแก่ปอด และถูกยืนยันจากบทความของ การวิจัยทางเคมีในพิษวิทยา จาก ACS Publications เว็บไซต์ฐานข้อมูลบทความ และ งานวิจัยต่าง ๆ ทางด้านเคมีและสาขาที่เกี่ยวข้อง ( แหล่งข้อมูล https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.chemrestox.1c00309 ) เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป ยังกล่าวอีกว่า นิโคตินไม่ใช่สารก่อมะเร็ง แต่ว่าเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดีมากขึ้น สารนิโคตินจึงเป็นสารที่สร้างความเสียหาย และ เพิ่มความเสี่ยงต่อระบบต่างๆ เช่น เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับสมอง เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และ เสี่ยงต่อโรคไขมันต่าง ๆ ที่เป็นโรคเรื้อรัง ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้อันตรายน้อยกว่า บุหรี่มวน ผู้เชี่ยวชาญเลยแนะนำไม่ให้สูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้า และ บุหรี่มวนสุขภาพภาคอีสาน64011215088• 8 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยออมสินปล่อยเงินกู้มิจฉาชีพอ้างปล่อยเงินกู้ ห้ามหลงเชื่อSasikan Mueankaeo• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"นายกฯ" สั่ง ตรวจฉี่ทุกคน อายุ 16 ปี ขึ้นไป วันที่ 3 มิ.ย.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ สั่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการเพื่อเป้าหมาย "ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล" รวมทั้งกำชับให้คณะรัฐมนตรี สนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบการบูรณาการการทำงาน ระดความร่วมมือกับตำรวจ สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานรัฐ และภาคประชาชนใน พื้นที่ และให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเสนาธิการ ในการกำหนดเป้าหมายและ KPIs ที่ท้าทาย กำหนดมาตรการที่เหมาะสมให้กับ จังหวัด พร้อมสนับสนุนการประสานงาน และรัพยากรจำเป็นต่อไปและให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับการตำรวจภูธ จังหวัดต้องทำงานคู่กันอย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ 1) ทำการ X-ray พื้นที่ ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงทุกคนที่ อายุ 16 ปี ขึ้นไป ในทุกหมู่บ้าน 2) แยกผู้เสพออกมารับการบำบัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม โดย สำนักงาน ป.ป.ส. และ กระทรวง กลาโหม ขยายผลในการจับกุมผู้ขาย 3) กระทรวงสาธารณสุข แยกแยะผู้เสพตามระดับความรุนแรงมาบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชนเมื่อมีความพร้อม โดยให้ กระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย และ กลาโหม ร่วมกันจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ และผ่านกระบวนการให้แน่ใจว่าจะไม่ กลับไปเสพยาอีก 4) การส่งตัวคืนชุมชน ต้องฝึกอาชีพ หางานให้ทำและมีรายได้เพียงพอกับการดำรงชีวิต ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ต้องเข้ามาดูแลในประเด็นนี้เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นผู้เสพอีก 5) การป้องกันผู้เสพใหม่ ให้ กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เร่งหา มาตรการที่หมาะสมในการสอดส่องดูแลเยาวชน และขอให้ทางโรงเรียนร่วมกันในการปลูกฝั่งค่านิยมคุณค่าใหม่ "เด็กและ เยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด"ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแมลงก้นกระดกมีสารพิษชนิดเหลว เมื่อสัมผัสจะเสียชีวิตเมื่อร่างกายสัมผัสกับสารพิษอาการจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณสารพิษที่สัมผัส โดยอาการจะไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะมีอาการหลังสัมผัสแล้วประมาณ 4-12 ชั่วโมง โดยมีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือเป็นรอยไหม้ รูปร่างมักเป็นทางยาว ผื่นมีขอบเขตชัดเจน ทิศทางหลากหลาย อาการคันมีไม่มากนัก แต่มักจะรู้สึกแสบร้อน และมีตุ่มหนองขนาดเล็กเกิดขึ้นตามมาบริเวณที่พิษสัมผัสกับผิวหนัง หากรอยโรคเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า รอบดวงตา หรือผิวอ่อน ๆ มักจะมีอาการรุนแรงมากกว่าที่อื่น เมื่อสัมผัสกับแมลงและสารพิษพีเดอริน ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ อย่าเกาเพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำที่รอยโรคได้ ทั้งนี้อาการที่พบไม่ได้รุนแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หากพบว่ามีอาการรุนแรงแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน50 ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.iod.go.th หรือ โทร. 02-354-5222 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : แมลงก้นกระดก มีสารพิษชื่อว่า พีเดอริน (Paederin) มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน สามารถทำลายเซลล์เนื้อเยื่อผิวหนังได้ ซึ่งอาการไม่ได้รุนแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย แต่หากแพ้รุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ทันทีstd47954• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย😆อ่านปากผมนะครับ แซ่ลิ้ม แซ่ลิ้ม แซ่ลิ้มมมม‼ "(ผม)แซ่ลิ้ม ยังไงก็ต้องดูแล(ความสัมพันธ์ไทย-จีน) ความใกล้ชิด(Proximity)มันก็อยู่ในนามสกุลผมอยู่แล้ว คือเราก็จะต้องสามารถที่จะพูดคุยกับทางจีนได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องหาสมดุลกับประเทศทางสหรัฐฯด้วยเช่นเดียวกัน เพราะว่าก็เป็นมิตรประเทศของเรามานาน" "อเมริกาไม่ได้อยู่เบื้องหลังผมครับ...ประชาชนคนไทยอยู่เบื้องหลังพพรคก้าวไกลในการทำงาน" "ในเรื่องการต่างประเทศ มันต้องมีการหาสมดุลระหว่างมหาอำนาจในระหว่างประเทศอยู่แล้ว เราก็ต้องยึดผลประโยชน์ของชาติของเรากับชาติของเค้าเป็นที่ตั้ง แล้วก็ยึดหลักการเป็นที่ตั้ง" "มันหมดยุคของการต่างประเทศเอียงข้าง เหมือนเราเป็นเพื่อนใครเราก็ไปเข้าข้างคนนั้น ในเรื่องของหลักการคือยึดหลักการให้มั่น ยิ่งเค้าเป็นเพื่อนเรา ถ้าหากเค้าทำถูกเราก็ต้องสนับสนุน แต่สิ่งใดที่ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค แล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เราก็ต้องกล้าที่จะพูดในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน" "ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้คุยกับทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายอเมริกา มีอยู่สิ่งเดียวที่เค้าต้องการตรงกันและไม่เห็นแตกแยกกัน คือเสถียรภาพในเมียนมาร์..." กล่าวโดยว่าที่นายกฯ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ วันที่ 2 มิ.ย. 2566 (ลิงค์คลิปส่วนนึงในคอมเมนต์เข้าไปกดดู) 平衡权力与关系 Balance Power & Relationshipข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจ่ายแบงค์ 1,000 บาท จริง แต่ถูกหาว่าเป็นแบงค์ปลอม ทางที่ดีก่อนจ่ายแบงค์ 1,000 บาท ควรจำหมายเลขในแบงค์ไว้บ้างนะครับ เพื่อความปลอดภัยคนด่าเพียบ!! แม่ค้าหัวใส ทอนเงินด้วยวิธีใหม่ ถ้าได้วิธีแล้วจะรู้เลยว่าทำไมคนถึงด่าลับหลัง วันก่อนไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านเล็ก ๆ ริมถนนใน จ.ปราจีนบุรี ไปกินกัน 5 คน กินเสร็จก็สั่งเก็บเงิน ยอมรวม 280 บาท เพื่อนผมจ่ายแบ็งค์ 1,000 บาทให้ไป แม่ค้าก็รับไปแล้วเดินไปจะทอนเงิน สักพักเดินกลับมาโวยวายว่า แบ็งค์ 1,000 บาท ที่จ่ายให้ไปนั้น เป็น " แบงค์ปลอม " แม่ค้าตะโกนว่าโต๊ะผมเสียงดังมาก แล้ววางแบงค์ปลอม 1,000 บาท ลงบนโต๊ะ ตอนนั้นคนในร้านมีอยู่ 3 - 4 โต๊ะ ก็เริ่มมอง ๆ มาที่โต๊ะผม เพื่อนผมเพิ่งจะกดเงินมาจากตู้เอทีเอ็ม เป็นแบงค์ใหม่หมด เลขในแบงค์ก็เรียงกัน แต่ใบที่แม่ค้าเอามาวางคืนให้เป็นแบงค์เก่า ก็เลยเถียงกันไปเถียงกันมา แม่ค้าก็ยังไม่ยอม เพื่อนผมมันจึงแกล้งบอกว่า จำเลขในแบงค์ได้ แม่ค้าก็ไม่ยอม พอดีมีสายตรวจมาซื้อของที่ร้านข้าง ๆ ก็เลยเดินไปเรียกตำรวจมา บอกให้ช่วยค้นตัวแม่ค้า ดูว่า มีแบงค์ 1,000 บาท ใบอื่นหรือไม่ แม่ค้าไม่ยอมให้ค้นตัว แต่เดินไปหยิบทอนมาให้ 800 บาท ( ทอนเกิน ) แล้วบอกตำรวจว่า ไม่มีอะไร ( ตำรวจไม่ยอมโวยวาย ) เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ อยากจะเตือนทุกคนให้ระมัดระวังมุกใหม่นี้ด้วย จ่ายแบงค์ 1,000 บาท จริง แต่ถูกหาว่าเป็นแบงค์ปลอม ทางที่ดีก่อนจ่ายแบงค์ 1,000 บาท ควรจำหมายเลขในแบงค์ไว้บ้างนะครับ เพื่อความปลอดภัย กดไลค์และแชร์เพื่อเตือนภัยมิจฉาชีพกันนะคะ ที่มา: Credit คำคมให้คิด ได้ชีวิตเป็นสุขผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยกดรับโปรบินเที่ยวฟรีจากไลอ้อนแอร์ เงินหายจากบัญชี 10 ล้านเศษ เมื่อวานนี้ 23 ม.ค.66 ผู้เสียหาย อยู่ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง มาแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง แจ้งว่าได้มีข้อความ SMS เข้ามาในเครื่องโทรศัพท์ผู้แจ้งเพื่อรับโปรโมชั่นจากไลออนแอร์ให้เที่ยวบินฟรี จึงได้โหลดข้อมูลและบอกหมายเลขประชาชน 13 หลัก,วันเดือนปีเกิด พร้อมสแกนใบหน้า แล้วส่งไปให้ในไลน์แอปของไลออนแอร์ จากนั้นเมื่อผู้แจ้งได้ตรวจสอบข้อมูลเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 4 ธนาคาร ปรากฎว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีผู้แจ้งทั้งหมด รวมจำนวนเงินประมาณ 10,150,000 บาท(สิบล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทบาท) ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกช์กับพนักงานสอบสวนฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 17.30 น. จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดตรังขอย้ำเตือนพี่น้องประชาชน อย่ารับลิ้งค์โปรโมชั่นหรือโหลดแอพ ที่ไม่ผ่าน App Store หรือ Playstore เป็นอันขาด เพราะปัจจุบันนี้มิจฉาชีพมักใช้กลวิธีส่งลิ้งค์ปลอมมาชวนเชื่อ โดยปลอมทั้งโลโก้และชื่อให้ใกล้เคียงของจริง ซึ่งทำให้น่าเชื่อถือและถูกหลอกได้ ประการสำคัญ กรณีการติดต่อผ่านแอพหรือลิ้งค์ ห้ามบอกเลขประจำตัวประชาชน/วันเดือนปีเกิด และสแกนใบหน้าเป็นอันขาด เพราะนั่นคือมิจฉาชีพที่หลอกเอาข้อมูลของเรา ไปแจ้งกับธนาคารและเปลี่ยนรหัสถอนเงินออกจากบัญชีจนหมด ด้วยความปรารถนาดีจาก งานประชาสัมพันธ์ตำรวจภูธรจังหวัดตรังผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนักช้อปออนไลน์รู้ไว้ วิธีสังเกตร้านค้าว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่ ?📦นักช้อปออนไลน์รู้ไว้ ❗ วิธีสังเกตร้านค้าว่าน่าเชื่อถือได้หรือไม่❓ 👉เหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวมาในช่องทางที่หลากหลาย ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าออนไลน์ ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันตัวเองและรู้จักวิธีสังเกตร้านก่อนช้อปปิ้งออนไลน์ ✅วิธีสังเกตเบื้องต้น คือ 1. มีเพจ หรือหน้าร้านชัดเจน ตรวจสอบได้ - ร้านค้าที่ได้มาตรฐาน ขายสินค้าที่มีคุณภาพ มักมีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อสินค้าอยู่เป็นประจำ และมีจำนวนผู้ติดตามเพจค่อนข้างมาก 2. มีช่องทางการชำระเงินหลากหลาย - ให้ลูกค้าได้เลือกวิธีชำระเงินตามที่ลูกค้าสะดวก เช่น โอนเงินเข้าบัญชี ให้ชำระเงินปลายทาง และการจ่ายผ่านบัตรเครดิต 3. มีเจ้าหน้าที่คอยตอบข้อซักถาม - ควรมีเจ้าหน้าที่แอดมินของทางร้านเข้ามาดูแลให้คำตอบโดยเร็ว โดยสามารถให้ข้อมูลอย่างละเอียดกับลูกค้าได้ 4. สินค้ามีราคาสมเหตุสมผล - ของที่ราคาถูกมาก ๆ จนผิดปกติ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาของสินค้าในลักษณะเดียวกันกับร้านอื่น ๆ ด้วย 5. มีนโยบายคืนเงิน คืนสินค้า - ร้านที่มีนโยบายคืนเงิน คืนสินค้า ผู้ซื้อควรอ่านรายละเอียดให้เข้าใจ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง 6. มีการรีวิวที่น่าเชื่อถือจากลูกค้าอื่นๆ - ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ลองมองหารีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย ว่ามีการพูดถึงสินค้าอย่างไร รีวิวที่ดีควรมีภาพประกอบ และอธิบายความรู้สึกที่มีต่อสินค้านั้น ๆ ========================== ข้อมูลจาก PCT POLICE เพื่อรู้ทันความคิดของโจรออนไลน์ โทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000 แจ้งความออนไลน์ ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/ผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 1 คนสงสัย🌿🌿เซฟไว้นะ‼️กัญชาดองน้ำผึ้ง..สรรพคุณช่วยรักษา 40 อาการ ตามสูตรดองน้ำผึ้ง15วัน 1. อัลไซเมอร์ หลงลืม 2. หลับไม่สนิท หลับยากสะดุ้งบ่อย 3. เส้นเลือดสมองตีบ 4. อัมพฤกษ์อัมพาต 5. ความดันสูง 6. ริดสีดวงทวาร 7. เบาหวาน 8. อ้วนผิดปกติ 9. กล้ามเนื้อกระตุก 10. ซึมเศร้า 11. เหน็บชา 12. ไมเกรน 13. ปวดประจำเดือน 14. สมองพิการ 15. ลมชัก 16. ปลอกประสาทเสื่อม 17. ติดมอร์ฟีน 18. เบื่ออาหาร 19. พาร์กินสัน 20. แพ้เคมีบำบัด 21. ภูมิแพ้ตัวเอง 22. มะเร็ง(เจ็บปวดบวมเป็นแผล) 23. ฝี หนอง อักเสบ 24. ต้อหินในตา 25. ตับพิการจากพิษสุรๅ 26. แผลกดทับ รอยช้ำ 27. สะเก็ดเงิน 28. เก๊าท์ 29. เครียด วิตกกังวล 30. ไฮเปอร์ สมาธิสั้น 31. น้ำท่วมแกนสมอง 32. ลำไส้อักเสบ 33. กล้ามเนื้ออักเสบ 34. ปวดตามร่างกาย 35. ขจัดฝันร้าย 36. กลากเกลื้อนตามผิว 37. แผลสดจากเบาหวานแห้งได้ 38. ภูมิแพ้ต่างๆ 39. ขยายหลอดลม ลดการหดตัว 40. แก้อาการบิด ปวดท้องท้องร่วง ส่วนผสม น้ำผึ้ง 1 ขวด กัญชา ทั้งต้น(ต้นกะเทยยิ่งดี) 1 ต้น กิ่ง ก้าน ใบ ราก ดอก หันเป็นท่อน แล้ว ตาก 1 แดด ดองไว้ 15 วัน แล้วกินวันละ1 ช้อนชา ก่อนนอน ทุกวัน ขอบคุณตำรา ดร.ปราชญา บูรพาชลทิศน์ วัดท่าไม้ @เพจ:บูรพาพัฒนะแพทย์ แผนไทย #เพจ:กัญชายาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรามาทำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไว้ใช้เองประหยัดและดีต่อสุขภาพค่ะ วิธีทำน้ำส้มสายชูกลิ่นผิวมะกรูด 1.น้ำส้มสายชูมีค่าPh3=ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อราแบคทีเรียต่างๆได้ 2.น้ำส้มสายชูกลั่น5%นั้นมีน้ำส้มที่5% มีน้ำที่95% เกิดปฏิกิริยาโอโซนที่0.0001ppm.จริงๆมีผลงานวิจัย อยู่ในหนังสือจุดประกายฝัน 3.เมื่อฉีดผสมน้ำอีกอัตราส่วน1:1จะเร่งให้โอโซนแตกตัวเร็วขึ้น 4.ฉีดมากๆไม่มีผลข้างเคียงแต่กลับล้างพิษต่างๆได้เช่นควันบุหรี่ ควันรถยนต์ พื้นที่ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ใช้ได้ทำจำหน่ายเลย 5.ไม่ทำลายเนื้อเยื่อเหมือนแอลกอฮอล์ ยิ่งฉีดถูกร่างกายได้ทุกส่วนไม่มีผลข้างเคียง 6.ถ้าฉีดพ่นมากๆเท่าไหร่เป็นพันๆคน ก็จะเกิดสนามแม่เหล็กโอโซนป้องกันหมู่บ้านและชุมชนนั้นๆๆได้😇😇 7.น้ำหมักชีวภาพที่เปรี้ยวทุกชนิดนำมาฉีดพ่นโดยผสมน้ำได้ในอัตราส่วน1:1เช่นกัน(ต้องเอาแบบเปรี้ยวๆนะ) 8.ช่วยโลกสร้างชั้นบรรยากาศโอโซนได้อีกด้วยหากฉีดกันมากๆๆทุกวัน 9.ช่วยไล่ยุงและแมลงต่างๆๆได้เพราะโอโซนทำให้แมลงต่างๆแสบตาแต่กับคนพอดี แต่ถ้าเป็นโอโซนจากแท่งแก้วเป็นอันตรายต่อเยื่อจมูกและเยื่อตาของคน ลงมือทำน้ำส้มสุตรที่ฉีดพ่นทั่วบ้านถ้าทุกๆบ้านทำก็ดีเลยช่วยกันในห้องทุกๆที่พกติดตัวคอยฉีดขึ้นอากาศบนหัวเราทุกชั่วโมง https://youtu.be/HUVNxXGNK_Iยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยDr. Fauci พูดถึง double mask wearing ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้มากกว่าการใส่หน้ากากชั้นเดียวDr. Fauci พูดถึง double mask wearing ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้มากกว่าการใส่หน้ากากชั้นเดียว โดยเฉพาะในช่วงที่การระบาดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เช่นเชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษที่ระบาดในประเทศไทย จนจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงในช่วงนี้ แต่หมอเองยังเห็นบางคนใช้ชีวิตกันปกติมากกว่าที่ควรจะเป็น เชื้อกลายพันธุ์จากอังกฤษ บางคนก็บอกว่าการดำเนินโรคไม่ได้รุนแรงมากมาย แต่เท่าที่ได้ยินคุณหมอที่ดูแลคนไข้จริงๆ พบว่ามีปอดอักเสบได้มากทีเดียว ทำให้คิดว่าการศึกษาในคนต่างประเทศกับคนไทยอาจจะต่างกันหรือเปล่า ดังนั้นเราควรป้องกันการติดเชื้อแบบเต็มที่ดีที่สุด อย่าประมาท ตอนนี้ต้องตื่นตระหนกสักหน่อยแล้ว อย่าลืมว่าสัญชาตญาณการตื่นตระหนกทำให้คนเราเอาตัวรอดได้ . กลับมาถึงเรื่องการใส่หน้ากากสองชั้น ว่าเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ คือเน้นให้เกิดความกระชับ สรุปจาก CDC ได้ความว่า 1. ใส่หน้ากากที่ได้มาตรฐานและมีแกนตรงสันจมูก ตรวจว่าไม่มีช่องว่างตรงจมูก แก้ม คาง 2. ใส่หน้ากาก 2 ชั้น หรือ Double-mask technique แต่เน้นว่าด้านนอกเป็นหน้ากากผ้า ที่ทำให้มีความกระชับขึ้น และหน้ากากผ้าด้านนอกคลุมหน้ากากอนามัยด้านใน ที่เป็นหน้ากากอนามัยแบบ disposable (หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง) 3. ไม่แนะนำให้ใช้ หน้ากากอนามัยแบบ disposable 2 ชั้น (เพราะหน้ากากอนามัยแบบ disposable ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความกระชับ) 4. ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากผ้าทับหน้ากาก N95 5. วิธีอื่นๆ ที่ทำให้หน้ากากอนามัยกระชับ เช่น การผูกปมสายคล้อง (ดูรูปประกอบในคอมเมนท์) หมายเหตุ: อ้างอิงข้อมูลจาก Center of disease control ค่ะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ค่ะ https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/your-health/effective-masks.html )โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย@ สรุปว่า..พวกเราเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมาตลอด 😀 ปรากฎว่า *วิธีทำให้อายุยืน ด้วยการออกกำลังกาย ถูกจัดให้อยู่ในอันดับแปด* การปฏิบัติเป็นนิสัย ให้ชีวิตยืนยาว แปดอย่างข้างล่าง การออกกำลังกาย อยู่อับดับสุดท้าย แล้วหมายเลข 1 คือวิธีอะไร 😅 ในบรรดาการปฏิบัติเป็นนิสัย ให้ชีวิตยืนยาว การออกกำลังกาย ที่ได้รับการยอมรับในโลก ตามแนวคิดการแพทย์ทั่วไป เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ นี่เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันว่า การปฏิบัติเป็นนิสัย ให้อายุยืนยาวอันดับแรก คืออะไร * การปฏิบัติเป็นนิสัยให้มีอายุยืนยาว แปดประการ * คือ -อันดับที่ 8: การออกกำลังกาย -อันดับที่ 7: กินปลาสัปดาห์ละสองครั้ง -อันดับที่ 6: กินธัญพืช 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ -อันดับที่ 5: ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทุกวัน -อันดับที่ 4: กินไข่ 1 ฟอง ต่อวัน -อันดับที่ 3: กินอาหารให้อิ่มแค่ แปดส่วน -อันดับที่ 2: การพักผ่อนนอนหลับ ที่เพียงพอ -อันดับที่ 1: การยึดมั่น ให้อารมณ์ดีตลอด "อารมณ์ความรู้สึก มีผลกระทบอย่างมาก ต่อสุขภาพ ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ในระยะยาว และความตึงเครียดสูง มีแนวโน้ม ที่จะก่อให้เกิด ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และทำให้เกิด ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มองไม่เห็น ผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวกว่า 100 ปี ล้วนแต่เป็น คนมองโลกในแง่ดี แม้ว่าพวกเขา จะมีประสบการณ์ชีวิตที่เลวร้าย แต่พวกเขา ก็ยังยิ้มได้ในชีวิต อารมณ์ที่มีความสุข และความสงบของจิตใจ เป็น "ยาดี" ที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันโรค" 💖 *หัวใจที่ร่าเริง คือ ยาที่ดี*ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคนขับรถเมล์ สาย 140 ติดโควิดเสียชีวิต ฝากผู้โดยสารทุกคนสังเกตอาการเมื่อวันที่ 13 เมษายน นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อคืนวานนี้ 12เมษายน ได้รับแจ้งว่า พนักงานขับรถของขสมก. เสียชีวิต คาดว่า จะเสียชีวติจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 โดยพนักงานคนขับรถตนดังกล่าวนั้นเป็นพนักงานขับขรถเก่าของขสมก. ที่เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เนื่องจาก ศาลยกฟ้อง และได้กลับเข้ามาเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งพนักงานขับรถสาย 140 เส้นทาง แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา พนักงานขับรถมีอาการไข้ขึ้นสูง จึงได้ไปเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งในวันที่ 4 เมษายนได้รับทราบว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งได้ส่งตัวให้จนท.สาธารณสุขดูแล ขณะที่ ขสมก. ได้ไปตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่ามีพนักงานปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดชายคนดังกล่าวคือ พนักงานขับรถที่ขับรถต่อจากชายคนดังกล่าวและกระเป๋ารถเมล์รวมทั้งสิ้น 18 คน ขสมก.ได้สั่งให้หยุดงานและทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งขณะนี้ยังกักตัวไม่ครบ 14วัน แต่เบื้องต้นได้ให้ไปตรวจคัดเชื้อโควิดทั้งหมดแล้ว เบื้องต้น ผลตรวจ18 คนออกมาไม่พบเชื้อโควิด อย่างไรก็ตาม ขสมก. จะขอแจ้งเตือนไปยังผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ สาย 140 ทุกคนเฝ้าสังเหตุอาการหากพบว่ามีไข้ หรือมีอาการผิดปกติให้เดินทางไปพบแพทย์ต่อไปโควิด 2019Ad.tar• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสำหรับกลุ่มที่ตรวจพบสารกันบูดเกินมาตรฐาน มีจำนวน 7 ตัวอย่าง ได้แก่ 1) น้ำพริกหนุ่ม ร้านดำรงค์ จาก ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 890.32 มก./กก. 2) น้ำพริกหนุ่ม ล้านนา จาก ตลาดของฝากเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 1026.91 มก./กก. 3) น้ำพริกหนุ่ม นิชา (เจ๊หงษ์ น้ำพริกหนุ่ม) จาก ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 1634.20 มก./กก. 4) น้ำพริกหนุ่ม เจ๊หงษ์ จาก ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 1968.85 มก./กก. 5) น้ำพริกหนุ่ม แม่ชไมพร จาก ตลาดสดอัศวิน ร้านสิริกรของฝาก จ.ลำปาง พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 2231.82 มก./กก. 6) น้ำพริกหนุ่ม ยาใจ (รสเผ็ด) จาก ร้านขายของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 3549.75 มก./กก. 7) น้ำพริกหนุ่ม อุมา จาก ตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณ กรดเบนโซอิก เท่ากับ 5649.43 มก./กก.ไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวัคซีนไข้เลือดออกฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกี เพิ่มภูมิคุ้มกันปกป้องชีวิต 5หากเอ่ยถึงโรคไข้เลือดออก หลายคนคงทราบถึงความร้ายแรงและอันตรายถึงแก่ชีวิต ด้วยการวิจัยอย่างยาวนาน วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก CYD – TDV (Chimeric Yellow Fever Dengue Tetravalent Dengue Vaccine) เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกีครบ 3 เข็ม ลดความเสี่ยงในการเป็นผู้ป่วยไข้เลือดออกในอนาคต ห่างไกลความรุนแรงของโรคที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของตัวคุณและคนที่คุณรักKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยต้องสแกนใบหน้าเพื่อลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ในสามจังหวัดชายแดนใต้จริงไหมได้ข่าวว่าการลงทะเบียนซิมในวามจังหวัดต้องสแกนใบหน้าAZ• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ?ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ? การย้อมสีผมในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมเพื่อเปลี่ยนลุคและสไตล์ หรือการซ่อนผมขาว ได้รับการยอมรับในทุกช่วงวัย การย้อมสีผมบ่อยๆจะทำให้เราได้รับสารเคมีอย่างต่อเนื่อง แต่สารเคมีเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่หากการได้รับสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ (ข้อมูลจาก Harvard Medical School) ยาย้อมผมตามท้องตลาดมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทสีชั่วคราว ถ้าสระผมแล้วสีก็จะค่อยๆหายไป 2. ประเภทสีกึ่งถาวร หรือเรียกว่าสีโกรกผม สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% ถ้าสระผม 5-6 ครั้ง ก็จะค่อยๆหลุดออกไป 3. ประเภทสีย้อมถาวร หรือเรียกว่าสีย้อมผม สามารถปกปิดผมได้ สระแล้วสีไม่หลุดลอก แต่วิธีนี้งานวิจัยระบุว่าจะทำให้โครโมโซมร่างกายเสียหาย ถ้าย้อมบ่อยๆเซลล์อาจจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ส่วนผสมในน้ำยาย้อมผมที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้ 1. สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ : ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และระคายเคือง 2. สารฟีนิลินไดอะมีน หรือสีย้อมผมชนิดถาวร : อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้ 3. แอมโมเนีย : สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย รากผมอ่อนแอ 4. สารซิลเวอร์ไนเตรต : ทำให้เกิดการระคายได้ 5. สารเลดอะซีเตด : หากสะสมในร่างกายจะทำลายสมอง ประสาทสัมผัส และจัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง (ข้อมูลจาก Herbplus+) เราจึงควรมีหลักการในการเลือกน้ำยาย้อมสีผม ดังนี้ 1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีวันหมดอายุ วิธีใช้ ส่วนผสม และเลขที่จดแจ้งระบุไว้ชัดเจน 2. เลือกน้ำยาที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย 3. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง 4. เช็กความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรมีมากกว่า 6% เพราะจะทำให้ผมแห้ง ผมกระด้าง และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้ 5. ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Herbplus+ และ Wongnai) นอกจากนี้ คนที่ย้อมสีผมอยู่แล้ว ไม่ควรย้อมเกิน 9 ครั้งต่อปี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสาราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ยังไม่เคยย้อมผมไม่ควรย้อมสีผม โดยเฉพาะคนที่ผมบางหรือผมน้อยอยู่แล้ว เพราะการย้อมผมทำให้รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงได้ง่าย หากสะสมในร่างกาย อาจทำร้ายสมอง ประสาทสัมผัส ที่สำคัญยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน และ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า น้ำยาย้อมสีผมยังเป็นอันตรายต่อช่างทำผม เพราะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีมากกว่าผู้ที่ย้อมผม เนื่องจากต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มาจากน้ำยาต่างๆเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยต่างๆ พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่ายาย้อมสีผมเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นเวลาที่ย้อมสีผมควรอยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี มีการสวมถุงมือ และใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีทุกครั้ง (สาธิตา แสวงลาภ, ฤดีรัตน์ มหาบุญปี ติ, อัจฉรา นราศรี, 2562) (ข้อมูลจาก Herbplus+,สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข) เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามสุขภาพมะเร็งapinya25460• 9 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ .....ความเห็นของหมอสันต์ ที่ให้คำแนะนำ ในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ .....ความเห็นของหมอสันต์ ที่ให้คำแนะนำ ในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวว่า 1. เกิดเป็นผู้ชายหากอายุมาก (เกิน 75 ปี) และอยู่สุขสบายดี ไม่ต้องไปตรวจ PSA 2. หากเผลอตรวจ PSA ไปแล้ว พบว่า ได้ค่าสูงแต่อยู่สุขสบายดี ยังฉี่ออก และอั้นฉี่ได้ ก็ไม่ต้องไป ตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก 3. หากเผลอไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากไป และยืนยันว่า เป็นมะเร็งแล้ว โดยที่ยังอยู่สบายดีฉี่ออกอยู่ ก็ไม่ควรไปตรวจการแพร่กระจาย (bone scan, MRI) 4. หากเผลอไปตรวจการแพร่กระจายแล้วไม่ว่า ผลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องเดินหน้ารักษามะเร็ง ด้วยผ่าตัดฉายแสง หรือฮอร์โมนบำบัด หรือเคมีบำบัด คำแนะนำข้อ 1 และ 2 นั้น เป็นไปตามคำแนะนำล่าสุดของ คณะกรรมการป้องกันโรคของรัฐบาลสหรัฐฯ (USPSTF) ว่า เกิดเป็นชาย ที่อยู่มาได้ถึง อายุ 75 ปีแล้ว อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน โดยการเที่ยวตรวจ PSA เพราะผลที่ได้ออกมา จะนำไปสู่การตรวจ และการรักษาที่ไม่จำเป็นต่างๆ นานา โดยที่เมื่อเทียบกับ คนที่อยู่นิ่งๆ อยู่เปล่าๆ โดยไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว อัตราตายจากมะเร็งต่อมลูกหมาก โหลงโจ้งแล้วก็ ไม่แตกต่างกัน ส่วนคำแนะนำ ข้อที่ 3 และ 4 นั้น เป็นผลจากการใช้ดุลพินิจเทียบประโยชน์ และความเสี่ยงของการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ในคนแก่อายุ 84 ปี กล่าวคือ ในการจะรักษา ด้วยวิธีการรุนแรง รุกล้ำทั้งหลาย วงการแพทย์ มุ่งประโยชน์ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ในสองอย่างคือ (1) ความยืนยาวของชีวิต (2) คุณภาพชีวิต หากทำไปแล้ว ไม่ได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ การรักษานั้น เรียกว่าเป็นการรักษา ไร้ประโยชน์ (futile treatment) ซึ่งตามหลักจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ แพทย์ ไม่พึง ให้การรักษาที่ไร้ประโยชน์แก่คนไข้ ข้อมูลการแพทย์ปัจจุบัน พิสูจน์ ไม่ได้ว่า การรักษา มะเร็งต่อมลูกหมาก ที่แพทย์ทำไปสารพัดนั้น จะยืดอายุคนป่วยให้ยืนยาวออกไปได้จริง หรือเปล่า แปลไทย ให้เป็นจีน ก็คือ รักษา ไม่รักษา ก็แปะเอี้ย คือ ตายในเวลาเท่าๆ กัน เพราะทุกวันนี้ วงการแพทย์ยังไม่ทราบเลยว่า โรคมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ (natural course) มันจะเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่รู้เลยว่า ปล่อยโรคไว้ จะเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า การเข้าไปรักษา ผ่าตัด คีโม ฉายแสง จะดีกว่าโรคปล่อยไว้ จริงแมะ ดังนั้นมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ จะใช้หลักคิดแบบมะเร็งที่อื่น ที่ว่า ตรวจวินิจฉัยได้เร็ว รักษาได้เร็ว อัตราการหายสูงนั้น ใช้ไม่ได้ งานวิจัยเรื่องนี้ที่ดีที่สุดชื่อ PIVOT study ซึ่งเอาคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรก มา 695 คน จับฉลาก แบ่งเป็นสองพวก พวกแรกผ่าตัดรักษาไปตามสูตร พวกที่สองทิ้งไว้ ไม่ทำอะไรเลย แล้วตามดูไป 10 ปี พบว่า พวกที่ทำผ่าตัด เกิดมะเร็ง ขยายตัว และแพร่กระจายน้อยกว่าพวกไม่ทำ อย่างมีนัยสำคัญ แต่อัตราการรอดชีวิต (length of life) ของทั้งสองพวก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการรักษา กลับพบว่า ไม่ต่างกันเลย ส่วนเรื่องประโยชน์ ในด้านคุณภาพชีวิตนั้น คุณพ่อของคุณ ตอนนี้ ฉี่ได้ อั้นได้ นี่เรียกว่า มีคุณภาพชีวิตที่สุดยอดแล้ว การรักษา มีแต่จะทำให้คุณภาพชีวิตที่ดี ๆ อยู่นี้ แย่ลง ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล ยังไม่นับถึงที่จะโดน พิษของรังสี และของยาอีก เมื่อความยืนยาวของชีวิต ก็ไม่ได้ คุณภาพชีวิต ก็มีแต่จะขาดทุน แล้วจะรักษา ไปทำพรือ ละครับ คำแนะนำของผม อาจไม่เหมือนกับของหมอคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา คำแนะนำของผม เกิดจากการชั่งน้ำหนักหลักฐานวิทยาศาสตร์จากมุมมอง แบบองค์รวมของแพทย์ประจำครอบครัว ย่อมแตกต่างจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา ที่มองมา จากมุมของการมุ่งรักษาโรคนั้น ให้สุดๆ กันไปเลย รู้ดี รู้ชั่ว กันไปข้างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง การแพทย์แผนปัจจุบันนี้ มี สองด้าน ด้านสว่าง ก็คือ การมุ่งเอาวิทยาศาสตร์ มาช่วยรักษาคนป่วย ให้หาย อีกด้านหนึ่ง ซึ่งผม ขอเรียกว่า เป็นด้านมืดของการแพทย์แผนปัจจุบัน ก็คือ การที่ธุรกรรมทั้งหมด มีธรรมชาติ เป็นการเสนอขายสินค้า ผม หมายถึงว่า ทั้ง การวินิจฉัย ก็ดี การตรวจ ก็ดี และการรักษา ก็ดี คือ สินค้า ที่ บริษัทยา บริษัทเครื่องมือ โรงพยาบาล ซึ่งเรา เรียกรวมๆ ว่า medical industry เป็นผู้ขาย คุณจะต้องเรียนรู้ ที่จะใช้ประโยชน์จากด้านสว่าง แต่หลีกเลี่ยง การพลัดหลง เข้าไปสู่ด้านมืด นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์สุขภาพMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ให้ความเห็นนี้ จริงหรือไม่ถามความเห็นของหมอสันต์ ผมแนะนำในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวว่า 1.. เกิดเป็นผู้ชายหากอายุมาก (เกิน 75 ปี) และอยู่สุขสบายดี ไม่ต้องไปตรวจ PSA 2.. หากเผลอตรวจ PSA ไปแล้วพบว่าได้ค่าสูงแต่อยู่สุขสบายดียังฉี่ออกและอั้นฉี่ได้ ก็ไม่ต้องไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก 3.. หากเผลอไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากไปและยืนยันว่าเป็นมะเร็งแล้ว โดยที่ยังอยู่สบายดีฉี่ออกอยู่ก็ไม่ควรไปตรวจการแพร่กระจาย (bone scan, MRI) 4. หากเผลอไปตรวจการแพร่กระจายแล้วไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องเดินหน้ารักษามะเร็งด้วยผ่าตัดฉายแสงหรือฮอร์โมนบำบัดหรือเคมีบำบัด คำแนะนำข้อ 1 และ 2 นั้นเป็นไปตามคำแนะนำล่าสุดของคณะกรรมการป้องกันโรคของรัฐบาลสหรัฐฯ (USPSTF) ว่าเกิดเป็นชายที่อยู่มาได้ถึงอายุ 75 ปีแล้ว อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยการเที่ยวตรวจ PSA เพราะผลที่ได้ออกมาจะนำไปสู่การตรวจและการรักษาที่ไม่จำเป็นต่างๆนาๆ โดยที่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่นิ่งๆอยู่เปล่าๆโดยไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว อัตราตายจากมะเร็งต่อมลูกหมากโหลงโจ้งแล้วก็ไม่แตกต่างกัน ส่วนคำแนะนำข้อที่ 3 และ 4 นั้นเป็นผลจากการใช้ดุลพินิจเทียบประโยชน์และความเสี่ยงของการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากในคนแก่อายุ 84 ปี กล่าวคือในการจะรักษาด้วยวิธีการรุนแรงรุกล้ำทั้งหลาย วงการแพทย์มุ่งประโยชน์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งในสองอย่างคือ (1) ความยืนยาวของชีวิต (2) คุณภาพชีวิต หากทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ การรักษานั้นเรียกว่าเป็นการรักษาไร้ประโยชน์ (futile treatment) ซึ่งตามหลักจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ แพทย์ไม่พึงให้การรักษาที่ไร้ประโยชน์แก่คนไข้ ข้อมูลการแพทย์ปัจจุบันพิสูจน์ไม่ได้ว่าการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่แพทย์ทำไปสาระพัดนั้นจะยืดอายุคนป่วยให้ยืนยาวออกไปได้จริงหรือเปล่า แปลไทยให้เป็นจีนก็คือรักษาไม่รักษาก็แปะเอี้ย คือตายในเวลาเท่าๆกัน เพราะทุกวันนี้วงการแพทย์ยังไม่ทราบเลยว่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ (natural course) มันจะเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่รู้เลยว่าปล่อยโรคไว้จะเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการเข้าไปรักษาผ่าตัดคีโมฉายแสงจะดีกว่าโรคปล่อยไว้ จริงแมะ ดังนั้นมะเร็งต่อมลูกหมากนี้จะใช้หลักคิดแบบมะเร็งที่อื่นที่ว่าตรวจวินิจฉัยได้เร็ว รักษาได้เร็ว อัตราการหายสูงนั้น ใช้ไม่ได้ งานวิจัยเรื่องนี้ที่ดีที่สุดชื่อ PIVOT study ซึ่งเอาคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรกมา 695 คน จับฉลากแบ่งเป็นสองพวก พวกแรกผ่าตัดรักษาไปตามสูตร พวกที่สองทิ้งไว้ไม่ทำอะไรเลย แล้วตามดูไป 10 ปี พบว่าพวกที่ทำผ่าตัดเกิดมะเร็งขยายตัวและแพร่กระจายน้อยกว่าพวกไม่ทำอย่างมีนัยสำคัญ แต่อัตราการรอดชีวิต (length of life) ของทั้งสองพวก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการรักษา กลับพบว่าไม่ต่างกันเลย ส่วนเรื่องประโยชน์ในด้านคุณภาพชีวิตนั้น คุณพ่อของคุณตอนนี้ฉี่ได้อั้นได้นี่เรียกว่ามีคุณภาพชีวิตที่สุดยอดแล้ว การรักษามีแต่จะทำให้คุณภาพชีวิตที่ดีๆอยู่นี้แย่ลง ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาล ยังไม่นับว่าจะโดนพิษของรังสีและของยาอีก เมื่อความยืนยาวของชีวิตก็ไม่ได้ คุณภาพชีวิตก็มีแต่จะขาดทุน แล้วจะรักษาไปทำพรือละครับ คำแนะนำของผมอาจไม่เหมือนกับของหมอคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา คำแนะนำของผมเกิดจากการชั่งน้ำหนักหลักฐานวิทยาศาสตร์จากมุมมองแบบองค์รวมของแพทย์ประจำครอบครัว ย่อมแตกต่างจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาที่มองมาจากมุมของการมุ่งรักษาโรคนั้นให้สุดๆกันไปเลยรู้ดีรู้ชั่วกันไปข้างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง การแพทย์แผนปัจจุบันนี้มันมีสองด้าน ด้านสว่างก็คือการมุ่งเอาวิทยาศาสตร์มาช่วยรักษาคนเจ็บไข้ให้หาย อีกด้านหนึ่งซึ่งผมขอเรียกว่าเป็นด้านมืดของการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือการที่ธุรกรรมทั้งหมดมีธรรมชาติเป็นการเสนอขายสินค้า ผมหมายถึงว่าทั้งการวินิจฉัยก็ดี การตรวจก็ดี และการรักษาก็ดี คือสินค้า โดยที่บริษัทยา บริษัทเครื่องมือ โรงพยาบาล ซึ่งเราเรียกรวมๆว่า medical industry เป็นผู้ขาย คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากด้านสว่าง แต่หลีกเลี่ยงการพลัดหลงเข้าไปสู่ด้านมืด นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ