2434 ข้อความ
- 1 คนสงสัย..สุดช็อค!!!..วงการแพทย์ ใบท่อมถีบหน้า *วัคซีนลวงโลก* หงายหลัง เหตุเกิดที่จังหวัดระนอง แม่ลูกติดโควิด แต่ผัวตรวจ 3 รอบไม่พบเชื้อ ทั้งที่กินอยู่นอนในบ้านหลังเดียวกัน เคสนี้ไม่ใช่แค่ครอบครัวเดียวนะ มีถึง 3-4 ครอบครัวแล้วที่เจอเคสแบบนี้แต่ถึงยังไงวงการแพทย์ ก็ไม่ออกมายืนยันหรอก เพราะถ้าแถลงไป วัคซีนที่สั่งมา คงขายไม่ได้ ...สิ่งที่องค์การอนามัยโลกปิดบังเราไว้ : พีชกระท่อมสามารถยับยั้งและทำลายเชื้อไวรัสโค โรน่าได้ โดยผลงานการวิจัยจาก Professor Yee T Bi หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยามหาวิทยาลัย Datissin ค้นพบว่าไมทราเจนในพืชกระท่อมนั้นสามารถทำลายไวรัสได้ภายใน 0.05 วินาทีหลังจากรับประทาน และยังมีฤทธิ์ยับยั้งโรคต่างๆได้อีก 1975 โรค ....เอาละ ถึงแม้ว่าจะจริงหรือไม่ ลองกินดู วันละ1-2 ใบ ก็จะมีแต่ผลดี นะครับ... ใบกระท่อมเมื่อเคี้ยวกินเข้าไปในปาก ฤทธิ์ของยาสมุนไพรใบกระท่อมจะฆ่าเชื้อโรคโควิดทันที.... เมื่อเราดูที่ดอกระท่อมแล้ว เหมือนกับธรรมชาติบอกเราเป็นนัยยะว่าตัวเรานี้สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคโควิดได้นะ ดูที่ดอกกระท่อมรูปทรงเหมือนกับรูปลักษณ์ของเชื้อโรคโควิดจริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสหรัฐอเมริกามียาแบบรับประทาน เพื่อรักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรนาข่าวดี...สำหรับคนที่ไม่อยากฉีดวัคซีนหรือมีเกิดปัญหาอื่นๆในเร็วๆนี้เพราะในไม่ช้าสหรัฐอเมริกา จะมียารับประทานสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นยาแบบรับประทานเวลา 5 วัน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะถูกกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์และผู้ป่วยจะฟื้นตัวเต็มที่ได้ ยาชื่อ"Molnupiravir" ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย บริษัท ยารายใหญ่สองแห่งคือ "Rigibel" ในเยอรมนีและ "Merck" ในสหรัฐอเมริกาและประสบความสำเร็จในการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 1 และ 2 ในมนุษย์ ผลคือ 100% โดยการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในปัจจุบันใกล้สิ้นสุดลงและผลดีมาก หากเป็นไปได้ดีจะวางจำหน่ายในตลาดภายใน 4 ถึง 5 เดือนข้างหน้า ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้ด้วยตัวเองที่บ้านและหายใน 5 วันซึ่งสะดวกในการใช้มาก การรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอนาคต ก็จะเป็นเหมือนกับการรักษาโรคหวัดในตอนนี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว หรือ ? * นี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะในวงการแพทย์ บางทีอาจเป็นไปตาม Valium, แอสไพรินและเพนิซิลลินและ Apin เป็นยาคลาสสิก4 ชนิด * https://www.wtsp.com/article/news/health/coronavirus/antiviral-drug-molnupiravir-showing-promise-in-trials-against-coronavirus/67-87f24932-8244-439a-a664-ba6aa21aac01โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่านใดมีเรื่องเดือดร้อนต้องการจะปรึกษาปัญหากฎหมาย ต้องการจะจัดทำนิติกรรมสัญญา อยากให้พนักงานอัยการช่วยเหลือไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทกับคู่กรณีทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญาอันเป็นความผิดอันยอมความได้ ต้องการให้พนักงานอัยการช่วยเหลือดำเนินคดีคุ้มครองสิทธิทางศาลเช่น การขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก การขอตั้งเป็นผู้ปกครอง การขอรับบุตรบุญธรรม การขอให้เป็นคนสาบสูญ การขอให้เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การแก้ไขปัญหากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติและอื่นๆ จะขอความช่วยเหลือกรณีได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการในฐานะที่เป็นผู้บริโภค หรือเป็นผู้ยากจนเดือดร้อน ได้รับความเสียหายืไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการให้พนักงานอัยการจัดทนายความอาสาช่วยเหลือด้านคดีต่างๆให้ สามารถติดต่อพนักงาน อัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้ทั่วประเทศทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด 76 จังหวัด กับสาขาอีก 36 อำเภอ รวม 112 สำนักงานโดยในสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 นั้น ประชาชนไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปที่สำนักงานอัยการ แต่สามารถติดต่อพนักงานอัยการได้ทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละสำนักงาน แต่ละภาค ที่ท่านอยู่ในพื้นที่ ดังนี้ 1. โทรศัพท์ 2. ทาง Facebook 3. ทางอีเมล 4. ทาง LINE 5. ทาง FaceTime 6. ทางระบบการประชุม Cisco webex (รายละเอียดปรากฎตามช่องทางติดต่อในภาพข้างล่างนี้) “อัยการ สคช. ช่วยได้ ให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศบค. อนุมัติ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 กลุ่มเข้าไทยได้แล้ว จริงหรือศบค. อนุมัติหลักการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าประเทศทั้งระยะสั้นและยาว หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ย้ำเข้มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 1. นักกีฬาต่างชาติ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ (วันที่ 6-16 ต.ค. 2563) 2. นักบินและลูกเรือบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใน Repatriation Flight 3. ผู้ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non Immigrant) ประเภทต่างๆ เน้นเฉพาะนักธุรกิจที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเภทต่างๆ พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท 4. ผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Long Stay มีการตรวจลงตราประเภท Special Tourist Visa 5. ผู้ถือบัตร APEC Card โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น 6. ผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะสั้นและระยะยาว ผู้ที่มีความต้องการที่จะพำนัก 60 วัน สามารถขอต่อได้อีก 30 วัน พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาทโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่ามกลางการไม่มียา หรือวัคซีน เรามาใช้ไวตามิน C ซึ่งเป็นสารต้านไวรัส ในปริมาณสูงๆ จะไม่ดีกว่าหรือ ไวตามิน C ต้านได้อย่างไร ? ไวตามิน C เป็นสารเคมีที่พวกเราเรียกว่า Reducing agent หมายความว่า มันจะไปดีงเอาออกซิเจนออกจากโมเลกุลของไวรัส หรือยัดเยียดไฮโดรเจนให้กับไวรัส จนกระทั่ง คุณสมบัติการทำร้ายร่างกายของเราหมดไป ปัญหาคือ ทำอย่างไรเราจะกำจัดไวรัสได้ดีที่สุด คำตอบ คือ กินในปริมาณมากจนถ่ายอุจจาระเหลว ปัญหาว่า กินไวตามิน C จะเข้าไปภายในเซลล์ โดยผ่านผนังเซลล์ ได้อย่างไร เรื่องนี้เมื่อ 30 ปีนี้ มีการทดลองพบว่า ถ้ากินสารประเภท anthocyanin คือ สารสีม่วง ในมันเทศสีม่วง ในกระหล่ำปลีสีม่วง ในเปลือกชมพู่มะเหมี่ยว ไวตามิน C จะเข้าไปในเซลล์ได้ดี ยื่งกว่านั้น ธาตุสังกะสี ซี่งมีลักษณะทั้งทางกายภาพและทางอะตอมคล้ายแมคนีเซี่ยม Mg มาก เป็น catalyst ที่ดียิ่งในกระบวนการสร้าง enzyme ต้านไวรัส และกระตุ้นเซลล์ผิว epithelial tissue ให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดี จึงทำให้หายใจสะดวก ไม่เป็นปอดบวม สรุป สนใจ 1) ไวตามิน C ปริมาณมาก 2)กิรผักผลไม้เยอะๆ 3) กินสังกะสี 4) ถูกแดด 5) ออกกำลังกาย 6) กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่าไปยั่วยวนให้ไวรัสกระโดดใส่ จบไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยม.มหิดล เปิดสอนภาษาให้ฟรี จริงไหม#TravelNews : อัปสกิลเตรียมเที่ยว ! คอร์สสอน 3 ภาษาเพื่อการท่องเที่ยว เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา เรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ . การเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่ยังคงมีประชาชนในพื้นที่บางกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับเราได้ ดังนั้น หากเรามีความรู้พื้นฐานในภาษาของประเทศนั้นๆ อาจจะทำให้การท่องเที่ยวของเราสนุก และสื่อสารกับผู้คนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย . วันนี้ TravelNews มาชี้พิกัดคอร์สเรียนภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียนของเรา ได้แก่ เวียดนาม เมียนมาร์ และกัมพูชา เรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จัดสอนโดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล . 🇻🇳 ภาษาเวียดนามเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/173 . 🇲🇲 ภาษาเมียนมาเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/172 . 🇰🇭 ภาษากัมพูชาเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/213 . . #อัปสกิลเตรียมเที่ยว #ข่าว #News #ท่องเที่ยว #TravelMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย▪︎เราต้องเดินทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน และวันหนึ่งๆ เราต้องเดินลงน้ำหนักบนขาทั้ง 2 ข้างของเราหลายชั่วโมง ●ข้อมูลจาก American Podiatric Medical Association รายงานว่า โดยเฉลี่ยมนุษย์เดินวันละ 8,000-10,000 ก้าว ซึ่งเท่ากับว่าตลอดชีวิตเราจะต้องเดินประมาณ 207,000 กิโลเมตร หรือเป็นระยะทางเท่ากับเส้นรอบวงของโลกถึง 4 รอบ ● การเดินของมนุษย์มีกลไกที่ซับซ้อนมาก ☆ไม่ใช่เพียงแค่การก้าวเท้าไปข้างหน้า ☆ แต่ต้องอาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อหลายมัด ☆ศีรษะ ข้อกระดูกสันหลัง ข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า เพื่อให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้ ●ยิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม จริงหรือ(?) ▪︎ใครว่ายิ่งเดินมาก ยิ่งทำให้ข้อเสื่อม ต้องบอกเลยว่า ความเชื่อนี้เชยไปแล้วค่ะ ● จากงานวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่พบว่า 🔺️การเดินหรือวิ่งอย่างถูกต้อง และต่อเนื่องจะช่วยป้องกันข้อเสื่อม 🔺️ส่วนการไม่เดินไม่วิ่ง หรือขาดการออกกำลังกายกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อม ● เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น 🔺️คำตอบคือ การเดินหรือวิ่งก่อให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำคอยรับแรงกระแทกในข้อ แรงกดและปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการเดินและวิ่ง จะเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ ▪︎น้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อมีความสำคัญ เพราะสารอาหารของเซลล์กระดูกอ่อนไม่มีเลือดมาเลี้ยง ▪︎จึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากน้ำหล่อเลี้ยงข้อเท่านั้น ▪︎ การเคลื่อนไหวข้อที่ทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกอ่อนอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ ▪︎จึงเป็นการให้สารอาหารแก่กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้างและซ่อมส่วนที่สึกหรอ ช่วยลดความเสี่ยงข้อเสื่อมได้ 🔺️วันนี้หมอมีเคล็ด (ไม่) ลับของการเดิน ที่จะช่วยลดความเสื่อม และป้องกันการบาดเจ็บของข้อเข่า และกระดูกสันหลังมาฝากค่ะ (one).ปรับท่าเดินให้ถูกต้อง เพราะท่าเดินที่ถูกต้องจะช่วยให้บุคลิกดีขึ้นและดูสง่างาม โดย ● ตามองตรง ไม่ก้มศีรษะ เพราะการก้มศีรษะจะไปเพิ่มการลงน้ำหนักที่กระดูกสันหลังบริเวณคอและหลัง ทำให้มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังตามมาได้ ●ไม่เกร็งระหว่างเดิน ผ่อนคลายตั้งแต่มือ ข้อนิ้วมือ อาจจะงอข้อศอกเล็กน้อย และก้าวเท้าให้เหมาะสม ไม่ยาว ไม่สั้นจนเกินไป จะลดอาการปวดเกร็งของเข่า และกล้ามเนื้อต้นขาได้ ● ขณะที่เดินให้ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อน ตามมาด้วยเหยียบเท้าให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนเท้าอีกข้างให้ยกส้นเท้าขึ้นก่อนเช่นกัน จะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้ง (two)เลือกรองเท้าให้เหมาะสม ▪︎โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเดินไกลๆ ควรเลือกรองเท้าหุ้มส้นที่สวมสบาย โดยควรลองสวมรองเท้าเดินก่อนที่จะเดินทางไกล (three)หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมรองเท้าที่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่งเพราะเมื่อสวมส้นสูงจะทำให้หลังงอ และมีการโน้มตัวไปด้านหน้า ร่างกายจึงพยายามรักษาสมดุลด้วยการต้าน หรือเกร็งไม่ให้ลำตัวและแผ่นหลังเอนไปข้างหน้ามากเกินไป ส่งผลให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง ● หากมีพฤติกรรมนี้เป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้กระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้ (four).แขม่วพุงหรือแขม่วท้องเวลาเดิน เป็นการฝึกบริหารกล้ามเนื้อหลังมัดลึก ทำได้ดังนี้คือ ● ขั้นที่ 1 หายใจเข้าและออกให้สุด จำความรู้สึกไว้ว่าการหายใจเข้าและออกแบบลึกสุดๆ คิดเป็นการหายใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ● ขั้นที่ 2 หายใจเข้าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แขม่วท้องค้างไว้ นับ 1-10 แล้วหายใจออก คลายหน้าท้อง โดยขณะเกร็งหรือแขม่ว ให้ผ่อนคลายในระดับที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้อื่นได้ ●การแขม่วพุงยังมีประโยชน์อีกมากมาย เช่น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ลดแรงกระทำ และช่วยกระจายแรงกระทำต่อกระดูกสันหลัง เพิ่มความมั่นคงให้กระดูกสันหลัง ป้องกันการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุบริเวณหลังส่วนล่าง ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น กระชับหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องแบนราบ บุคลิกภาพดี (five)ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ● คนที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 10 กิโลกรัม จะมีแรงกดต่อข้อเข่าเพิ่มขึ้น 40 กิโลกรัม หรือ 4 เท่าของน้ำหนักตัวทุกๆ ย่างก้าวที่เดิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ●โดยน้ำหนักตัวที่เหมาะสมสำหรับชาวไทย คือ ค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 19-25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (six)ไม่ควรหิ้วหรือถือของหนัก โดยเฉพาะของที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวจะไม่มาก แต่ดันหิ้วของหนักมาก โดยเฉพาะกระเป๋าถือของผู้หญิง ก็จะเพิ่มแรงกดต่อกระดูกเช่นกัน (seven)หมั่นบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ด้วยการเหยียดเข่าให้ตรงและเกร็งค้างไว้ครั้งละ 5 วินาที ประมาณวันละ 10-20 ครั้ง หรืออาจเข้ายิมเล่นเวต เพื่อเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสะโพกกว้าง ซึ่งมีแนวโน้มเกิดปัญหาปวดเข่าได้ง่าย การออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว จะสร้างกล้ามเนื้อให้ช่วยรั้งกระดูกสะบ้าเข้าด้านใน เพื่อลดปัญหาปวดเข่าในระยะยาว (eight)หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดบ่อยเกินไป เช่น เดินขึ้น-ลง บ้าน 3 ชั้น มากกว่าวันละ 5 ครั้ง ควรวางแผนการหยิบของใช้ให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลง (nine)หลีกเลี่ยงการยืนพักขาลงน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียว ●การยืนที่ถูกต้อง ควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆ กัน โดยยืนแยกขาให้กว้างเท่าช่วงสะโพก จึงจะเกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย (one)(zero)เป็นคนช่างสังเกต ▪︎โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเจ็บปวดหลังการเดิน ▪︎ ควรสังเกตว่าเรามีอาการเจ็บตรงไหน เพื่อตรวจสอบว่า ตรงไหนที่เราอาจจะมีปัญหา จะได้รีบแก้ไข ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนแก้ไขไม่ได้ 🔺️การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ทำได้ทุกเวลา โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ●แนะนำให้เดินอย่างน้อยวันละ 10,000 ก้าว หรือเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที สะสมให้ได้สัปดาห์ละ 150 นาที ⭐ขอให้คุณผู้อ่านเดินอย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันทุกๆ ท่านเลยนะคะ 🔺️พันเอกหญิง รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสุมาภา ชัยอำนวย (คุณหมอยุ้ย)ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยสุดทึ่ง ใบมะยม ทำให้หน้าขาว รุจิ นวัตกรรมความงามตั้งแต่ยุคกรุงศรีสุดทึ่ง ใบมะยม นำมาสกัด เป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิวได้ ด้วยภูมิปัญญาคนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรี หลายคนคงสงสัยว่าสาวๆสมัย100 ปีที่แล้ว ใช้อะไรถึงได้หน้าขาวไร้สิว ซึ่งก็อาจมีสมุนไพรต่างๆ ที่เราพอทราบ ตั้งแต่ขมิ้นชันนำมาบด มะขามเปียก ตลอดจนแป้งดินสอพอง แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึง และแทบจะมีปลูกอยู่ทุกบ้านคือต้นมะยม คือนำใบมะยมมาบดให้เป็นน้ำแล้วนำมาพอกหน้า จะทำให้ผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งนักวิจัยหลายท่าน ยังเผยอีกว่า ใบมะยม มีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดอาการผิวอักเสบ โรคผิวหนังต่างๆ รวมถึงฝีหนอง ใบมะยมยังให้วิตามินซีสูง ช่วยในเรื่องขาวกระจ่างใส ไม่แปลกเลย ทำไมชาวบ้านสมัยก่อนถึงนิยมปลูกมะยมไว้กินกันทุกบ้าน อีกทั้งยังนำใบมะยม นำมาบดทำสมุนไพรเสริมความงามได้อีก ซึ่งนวัตกรรมนี้ รุจิ เซรั่ม (ruji serum) ไม่รอช้า นำสารสกัดจากใบมะยมครั้งแรกของเมืองไทย นำมาเป็นส่วนของการผสมผสาน ในเนื้อเซรั่ม เพื่อความกระจ่างใส อีกทั้งยังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกต่างชื่นชอบสมุนไพรไทยยกให้เป็นอันดับหนึ่งของนวัตกรรมความงาม ความลับที่แอบซ่อนมายาวนาน กับใบมะยม เมื่อนำมาสกัดทำให้พบว่า มีสารสำคัญที่ให้ผลต่อผิว ทั้งในส่วนของการเป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิว จากผลงานวิจัย นำไปสู่งานนวัตกรรมของเซรั่ม ที่ส่งไปประกวดไกลถึงโรมาเนีย ได้รางวัลเหรียญทองกลับมา พ่วงด้วยงานรางวัลนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ที่ให้ผลช่วยในเรื่องของผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” เพราะปัญหาผิวต้องแก้ที“ต้นเหตุ” Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” คือเซรั่มทีถูกคิดค้นมาเพื่ออุดทุกต้นเหตุความหมองคล้ำ เอา ชนะริ้วรอยก่อนวัยที่มากับวัย พร้อมเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ผิวจึงทนต่อมลภาวะ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นได้เช่น UV ในแสงแดด, แสงสีฟ้า จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ, อายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน, ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” มีสารสกัดหลักสําคัญดังนี้ 1. Glabridin 90% มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว อัพเกรดผิวให้ดู สว่างใส 2. Tetrahydrodiferuloylmethane = สารสกัดขมิ้น ทําหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ชะลอ การเกิดริ้วรอยก่อนวัย 3. Nonapeptide-1 = เปบไทด์ระดับเข้มข้น มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว สีผิวดูเรียบเนียน เสมอกัน 4. Ascorbyl Tetraisopalmitate = เกิดจากการรวมตัวของ vitamin C และ Isopalmitic Acid ซึมซาบสู่ใต้ชั้นผิวได้ดีและล้ำลึกกว่า 5. Azelaic Acid = กรดอะเซลาอิก ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ลดเชื้อแบคทีเรีย 6. Copper Tripeptide -1 = มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน ให้หลุมลึกตื้นขึ้น 7. Palmitoyl Tripeptide-1 = พาลมิโทอิล ไตรเปปไทด์-1 เพิ่มปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว ริ้ว รอยจางลง ไม่ทําให้ชั้นผิวบาง 8. Leuphasyl ( Pentapeptide -18) = มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดํา ให้ดูจางลง 9. Ceramide complex = ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย เติมความชุ่มชื้นให้ใต้ชั้นผิว 10. Troxerutin = สนญี่ปุ่น ต้านการอักเสบของผิว ดูแลปัญหาผิว Seb.Derm 11. rose water = ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย คลายเครียดให้ผิว ลดความอ่อนล้าของผิวstd47676• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์สธ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย 20 หน่วยงาน เดินหน้ารณรงค์ “วันมะเร็งโลก” ภายใต้แนวคิด ปี 2566 “Uniting our voices and taking action ชวนให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็ง หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง เนื่องในวันมะเร็งโลก หากวินิจฉัยเร็ว รักษาไว เพิ่มโอกาสรอดชีวิต มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ด้านนายแพทย์ธงชัย เพิ่มเติมว่า การที่ประชาชนใช้โซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ทำให้พบว่า มีการแชร์ข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็งจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยที่หลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าวเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด ได้รับการรักษาที่เหมาะสมล่าช้า ขาดโอกาสที่จะหายขาด และอาจซ้ำเติมให้โรคมะเร็งที่เป็นอยู่รุนแรงมากขึ้น ที่ผ่านมา แม้จะมีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เพื่อตรวจสอบและให้ข้อมูลข้อเท็จจริง แต่การแชร์ข้อมูลเท็จด้านนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมและประชาชนในการสร้างความตระหนักและหยุดยั้งการแชร์ข้อมูลเท็จต่าง ๆ ภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนา หัวข้อ “ANTI FAKECANCERNEWS:หยุดแชร์ข่าวปลอม = ลงมือทำ” โดยนายแพทย์สกานต์ เปิดเผยว่า เฟคนิวส์หรือข่าวปลอมนั้นกระทบคนหลายกลุ่ม ผู้ที่ยังไม่ป่วยก็จะกลัวโรคมะเร็ง จึงเสาะหาว่าสิ่งไหนป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่การรับข่าวสารต้องระวัง เพราะบางข้อมูลจะมีความจริงบางส่วน เช่น ข่าวปลอมที่ว่า น้ำด่างและน้ำผลไม้ปั่น ป้องกันโรคมะเร็งได้ จริง ๆ แล้ว การดื่มน้ำผักและผลไม้หลากสีจะมีวิตามิน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ต้องพิจารณาว่า ป้องกันได้ในระดับไหน สิ่งที่น่ากลัว คือ กินน้ำเหล่านี้แล้วไม่ปรับพฤติกรรม ยังกินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ระวังมลภาวะ ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งจะรู้สึกเคว้ง เชื่อเรื่องการรักษาด้วยวิธีง่าย ๆ เพราะคิดว่า การรักษาโรคมะเร็งด้วยการฉายแสง ใช้ยาเคมีบำบัดหรือการทำคีโม การผ่าตัด เป็นสิ่งที่ทรมาน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนไปเยอะ แผลผ่าตัดเล็กลง การใช้ยาและการฉายแสง ไม่ส่งผลต่อร่างกายมากเท่าเดิม ซึ่งคนที่เชื่อข่าวปลอมก็จะทิ้งการรักษามาตรฐาน แทนที่จะเข้าสู่การรักษา แล้วกลับมาตอนที่เป็นในระยะที่ 3-4 ซึ่งยากต่อการรักษา อีกทั้งผลิตภัณฑ์บางอย่างยิ่งซ้ำเติมอาการให้รุนแรงอีกด้วย "สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้เปิดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง มากว่า 2 ปีแล้ว พบข่าวปลอม 600 กว่าเรื่อง หากมีข้อสงสัยในข้อมูลที่ได้รับมา สามารถเสิร์ชหาในเว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง หรือ Anti Fake Cancer News (AFCN) และยังสามารถอ่านข้อมูลจากข่าวปลอมได้ที่เฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand โดยได้ทำข้อมูลความรอบรู้สู้มะเร็ง เพื่อให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งที่ถูกต้องควบคู่กันไปด้วย สำหรับตัวอย่างข่าวปลอม เช่น ข่าวปลอมว่า ใช้โรลออนอย่างต่อเนื่องทำให้เป็นมะเร็งเต้านม เพราะน้ำยาระงับเหงื่อมีสารประกอบโลหะ เมื่อใช้นาน ๆ จะสะสมในร่างกาย เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง รวมถึงข่าวปลอมที่ว่า การทำ Ice Bathing สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ก็ไม่จริง แม้ว่าจะมีวิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีใช้ความเย็น แต่เครื่องมือดังกล่าวต้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมคือต้องติดลบหลายองศา และใช้ความเย็นจัดเฉพาะที่ตัวก้อนมะเร็งด้วยเครื่องมือพิเศษโดยแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทาง การลงแช่ในน้ำแข็งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ จึงขอย้ำให้ตั้งสติก่อนแชร์ ส่วนฝั่งที่รับข่าวสารต้องหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนจะเชื่อ" นายแพทย์สกานต์ ย้ำ ด้าน ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสริมว่า ข่าวปลอมมีทั้งที่เป็นข้อมูลที่ผิด (misinformation) การบิดเบือนข้อมูล (disinformation) หรือมีข้อเท็จจริงบางส่วน กองทุนฯ เคยทำการวิจัยพบว่า ข้อมูลสุขภาพ 1200 ข่าว 900 ชิ้นเป็นข่าวปลอม เรื่องเกี่ยวกับโรคมะเร็งก็มีเยอะมาก ดังนั้น ต้องตั้งหลักแล้วคิด แล้วจะเลือกได้อย่างถูกทาง หากนึกถึงการแพร่ระบาดของโรคระบาด ข้อมูลเฟคนิวส์ก็รุนแรงพอ ๆ กัน จึงเรียกว่า Infodemic (ภาวะข้อมูลระบาด) ผู้รับสารต้องตั้งสติ อย่าใช้ความเคยชิน เมื่อเป็นโรคแล้วต้องสลัดความกลัว ตั้งหลัก ให้กำลังใจตัวเอง รับมือกับข้อมูลข่าวสารได้ ก็จะรับมือกับโรคได้ ขณะที่ น.ส.ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง อดีตผู้ป่วยมะเร็ง เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรื่องจริงกะเบลล์ เล่าถึงประสบการณ์การเป็นมะเร็งว่า ตอนที่เป็นมะเร็งก็สับสนข้อมูลความรู้ จะเจอกับหมอกูเกิลก่อนจะเป็นหมอจริง จึงเริ่มแชร์ประสบการณ์จริงว่า สิ่งไหนกินแล้วดีต่อร่างกาย มีผลอย่างไร หรือมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร นอกจากนี้ ยังได้รวมเครือข่ายจากหลายชมรมที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง เช่น ชมรมมะเร็งเต้านม และชมรมมะเร็งลำไส้ มารวมเป็นพลังถ่ายทอดประสบการณ์ตรง เช่น ตอนที่ให้ยาคีโม แล้วลดการรับประทานเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับได้ แต่บางกรณีก็ใช้ได้กับอีกคน ซึ่งต้องพิจารณาในแต่ละเรื่อง เพราะโรคมะเร็งไม่เหมือนโรคอื่น มันจะมีเวลาโกลเดนท์ไทม์ 2-3 เดือน จะสุขภาพดีเพื่อรับยาและการรักษาที่ถูกต้อง ถูกที่ถูกเวลา โอกาสหายขาดจะสูง ทั้งนี้ อย่าให้ความกลัวทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิต ลองสำรวจตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คิดเป็นความจริงหรือความกลัว อยากให้ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน แม้จะตัดสินใจพลาดก็เริ่มใหม่ได้ ส่วน น.ส.สุชาตา ช่วงศรี รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เสริมถึงประสบการณ์ตรงเรื่องโรคมะเร็งว่า ตอนนั้นปวดตรงหน้าอก รู้สึกว่าด้านข้างโตผิดปกติ ตอนแรกยังตัดสินใจไม่ตรวจ คิดว่า ลองลดความอ้วน คุมไขมัน แต่ยิ่งโตก็พบว่า ก้อนใหญ่ขึ้น ปวดมากโดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน จึงเข้ารับการตรวจวินิจฉัยพบก้อนเนื้อทั้ง 2 ข้าง แพทย์จึงให้คำแนะนำและเข้าสู่กระบวนการรักษา ขอย้ำว่า หากตรวจรักษาเร็วก็จะหายได้เร็ว สำหรับกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” ครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จำนวน 20 แห่ง อาทิ กรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค, มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, สมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์, โรงพยาบาลในเขต จ.ปทุมธานี และภาคเอกชน อาทิ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์, บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งภาคประชาสังคม คือ มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง จัดกิจกรรม 2 ส่วน ประกอบด้วย การให้บริการประชาชน ได้แก่ ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Sampling) และส่วนนิทรรศการความรู้ อาทิ นิทรรศการ “ANTI FAKE CANCER NEWS : หยุดแชร์ข่าวปลอม = ลงมือทำ, สาธิตการตรวจเต้านมด้วยตนเอง, การเย็บหมวกและเต้านมเทียมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง, ให้คำปรึกษาการตรวจสุขภาพ, HPV Vaccine, นิทรรศการสาธิตเมนูอาหาร และนิทรรศการ Thai Cancer Society เป็นต้นสุขภาพมะเร็งstd48333• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#มีความจำเป็นต้องอ่านเพื่อรู้เท่าทันไม่หลงเป็นเหยื่อทำลายประเทศชาติตัวเอง #สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เคยใช้ภาษีประชาชน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย # ซึ่งต้องชำระภาษีอากรเช่นเดียวกับบริษัททั่วไป มีข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดังต่อไปนี้ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) - ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ - ถือหุ้นร้อยละ 98.54 จำนวน 49,272,239 หุ้น (ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2551) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SET:SCC) - ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,200 ล้านบาท ราคาตลาดหุ้นละ 474 บาท สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ - ถือหุ้นร้อยละ 30 จำนวน 360 ล้านหุ้น บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ถือหุ้นร้อยละ 1.6 จำนวน 19.22 ล้านหุ้น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SET:SCB) - ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 33,944.38877 ล้านบาท ราคาตลาดหุ้นละ 144 บาท สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ - ถือหุ้นร้อยละ 21.3 จำนวน 722.941958 ล้านหุ้น บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ถือหุ้นร้อยละ 2.43 จำนวน 82.3678 ล้านหุ้น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (SET:DIF) - ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 58,080 ล้านบาท ราคาตลาดหุ้นละ 12.2 บาท บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ถือหุ้นร้อยละ 0.86 จำนวน 50 ล้านหุ้น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (SET:JMART) - ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 524.463106 ล้านบาท ราคาตลาดหุ้นละ 9 บาท บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ถือหุ้นร้อยละ 0.61 จำนวน 3.1827 ล้านหุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (SET:PTG) - ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,670 ล้านบาท ราคาตลาดหุ้นละ 16.3 บาท บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ถือหุ้นร้อยละ 0.5 จำนวน 8.3521 ล้านหุ้น และยังมีการลงทุนในบริษัทดังต่อไปนี้ -สยามพิวรรธน์ -ดอยคำ -บริษัท สยามสินธร จำกัด -บริษัท นวุติ จำกัด -บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด -บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด -เครือโรงแรมเคมปินสกี้ (จากประเทศเยอรมนี ซึ่งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) -บริษัท หินอ่อน จำกัด -บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด -บริษัท องค์การเภสัชกรรม - เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด -บริษัท ปตท.จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด -บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด -บริษัท นันทวัน จำกัด (ไทยโอบายาชิ) -บริษัท พรีมัส (ประเทศไทย) จำกัด -มหาวิทยาลัยเอเชียน บริษัทในเครือ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ดำเนินการจัดตั้งบริษัทในเครือขึ้น 2 แห่ง เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการสินทรัพย์ต่างๆ โดยชำระภาษีอากรเช่นเดียวกับบริษัททั่วไป ดังต่อไปนี้ บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด - ทำหน้าที่บริหารการลงทุนในหุ้นอื่นๆ บริษัท วังสินทรัพย์ จำกัด - ทำหน้าที่ดูแลการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ผลการดำเนินงาน ภายหลังการมีสถานะเป็นนิติบุคคลในปี พ.ศ. 2491 สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีการบริหารงานเช่นเดียวกับองค์กรทั่วไป จนกระทั่งเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ถือหุ้นอยู่ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงมีการปรับปรุงการบริหารงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และกิจการต่างๆ ที่ลงทุน เริ่มฟื้นตัวได้ในปี พ.ศ. 2546จึงทำให้สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีรายได้ในปีนั้นที่ประมาณ 3,800 ล้านบาท จากการแถลงข่าวประจำปี พ.ศ. 2548 ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานฯ แจ้งว่าในปี พ.ศ. 2547 สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีรายได้ประมาณ 5 พันล้านบาท โดยประมาณร้อยละ 90 เป็นรายได้จากเงินปันผลของหุ้นที่ลงทุนใน บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ.เทเวศประกันภัย ที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 8 หรือประมาณ 400 ล้านบาท เป็นรายได้จากค่าเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 👉 https://bit.ly/2CBG1oO Cr. Tharnn Noiplookไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ Bonnie HenryBonnie Henry รองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของดร. บอนนี่เฮนรี่ เกี่ยวกับ COVID - 19 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและรักษาระยะห่างทางกายภาพสองเมตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิวที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึกในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจงของ COVID-19 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วนแล้วไปอาบน้ำ ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกันทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกันไวรัสโควิด -19 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมดในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้าก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ด้วยน้ำส้มสายชูน้ำอ้อยและขิง! สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกันไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน อาจจะรบกวนการหายใจและระดับออกซิเจนของคุณลดลง จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือและแพร่เชื้อได้ง่ายหากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ จะดีกว่า ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อ ร่ายกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาดเป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวานและเครื่องดื่มเติมอากาศ จงฉลาด ใช้ชีวิต รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล อย่าวิตก จนเกินไป ชีวิตจะปลอดภัยโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกัญชาสามารถรักษา14โรคนี้ได้จริงหรอครับ1. รักษาภาวะเบื่ออาหาร กัญชาใช้เป็นสารกระตุ้นความอยากอาหาร จะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง 2. การป้องกันการคลื่นไส้ อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด 3. รักษาโรคลมชักที่รักษายากและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษาภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง 4. รักษาภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ที่ใช้วิธีการรักษาอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล 5. บรรเทาหอบหืด ยาแก้หอบหืดทุกตัวมีข้อเสียคือมีข้อจำกัด ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากกัญชาขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม6. การใช้กัญชาในการรักษาต้อหิน คือ การรักษาตาต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้ คนตาบอดในสหรัฐ คนอเมริกาเกือบล้านที่ป่วยด้วยต้อหินที่รักษาได้ด้วยกัญชา กัญชาทำให้ความดัน ภายในลูกนัยน์ตาลดลงได้ดีหลายชั่วโมงในคนปกติและในคนที่ความดันลูกนัยน์ตาสูงจากต้อหิน การให้กัญชาทางปากหรือทางหลอดเลือดดำให้ผลเหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับชนิดอนุพันธ์กัญชามากกว่า จะเกิดจากฤทธิ์กล่อมประสาทของกัญชา กัญชาไม่ได้รักษาโรคขาด แต่ช่วยยับยั้งการบอดไม่ให้เป็นมากขึ้น เมื่อยาทั่วไปไม่อาจช่วยได้ และการผ่าตัดเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป 7. ลดอาการปวด สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะ THC สามารถช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง และช่วยให้สามารถนอนหลับได้เพิ่มขึ้น และช่วยลดอาการปวดข้อ แต่สำหรับอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยมะเร็งนั้นยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกที่ชัดเจน 8. รักษาโรคพาร์กินสัน แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 9. รักษาโรคอัลไซเมอร์ แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 10. รักษาโรคปลอกประสาทอักเสบอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 11. นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ เปิดเผยถึงข้อมูลในตำราพระโอสถพระนารายณ์ และตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ พบตำรับยาไทยที่เข้ากัญชาอยู่หลายตำรับ เช่น - ตำรับศุขไสยาศน์ สรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทน/เสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด - ตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์ อัมพาต - ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องมาน ท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ ใช้ทาบริเวณท้อง - ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล 12. รักษาโรคริดสีดวงทวาร เมื่อทายาริดสีดวงและโรคผิวหนังเป็นประจำ พบว่าอาการอักเสบและอาการปวดลดลง หัวริดสีดวงที่โผล่ออกมานอกหรืออยู่รอบๆรูทวารฝ่อลง 13. รักษามะเร็ง สารสกัดจากกัญชาอาจยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดและยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งบางอย่างในหนูทดลองได้ หลังจากนั้น เมื่อมีการวิจัยเพิ่มขึ้น พบว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้จริง โดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดของก้อนมะเร็ง (Angiogenesis) และลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ (Metastasis) ในโรคมะเร็งหลายชนิด ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างโปรแกรมการตายของเซลล์มะเร็ง (Program cell death) ผ่านกระบวนการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของการรักษาโรคมะเร็งด้วยสารสกัดกัญชา จึงต้องมีการศึกษาวิจัยในรายละเอียดแต่ละประเด็นต่อไป 14. คลายความวิตกกังวล จากประวัติการใช้กัญชาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายในอดีตทำให้มีความเป็นไปได้ที่สารกลุ่มแคนนาบินอลน่าจะมีฤทธิ์คลายความวิตกกังวล แต่อย่างไรก็ตามพบว่ากลไกการออกฤทธิ์นั้นซับซ้อนและยังไม่มีการอธิบายที่ชัดเจน จากรายงานทางคลินิกพบว่าการใช้สาร Fatty acid amide hydrolase inhibitors (FAAH inhibitors) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Endocannabinoids มีความสามารถในการลดอาการวิตกกังวลได้ ปัจจุบันสารหลายชนิดในกลุ่มนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกยาสมุนไพรKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยตำลึง เคล็ดลับความสวยใบตำลึง Coccinia grandis เป็นผักริมรั้ว เลอค่า อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ รวมไปถึงการช่วยซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย โบราณนิยมใช้สมุนไพรแก้สิวและพอกหน้าเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส สำหรับสาวๆ ที่กำลังมีปัญหาสิวอักเสบ สิวหนอง สิวเสี้ยน ฝ้า กระ รอยด่างดำ และริ้วรอยต่างๆ เรามีเคล็ดลับบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึง ขาว สวย แบบง่ายๆ ด้วยใบตำลึง รับรองว่าประหยัดเงิน ปลอดภัย และสวยขึ้นอีกด้วยความสวยความงามstd47859• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"natthakrittasangchouy• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"ลดความอ้วนSirilawan Sukphithak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฮือฮา โพสต์รับสมัครทหารรับจ้างประเทศเพื่อนบ้าน ให้เดือนละ 5,0000 บาท หน่วยงานความมั่นคงเช็คแล้ว เป็น "เฟคนิวส์" ล่าสุดลบโพสต์แล้วความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งใช้พื้นที่ในโลกโซเชียล โพสต์ประกาศรับสมัครทหารรับจ้าง Free Burma Ranger (FBR) จนสร้างความสนใจให้กับหลายๆ โดยมีการแชร์โพสต์ออกไป โดยโพสต์ระบุว่า “FBR เปิดรับสมัครงาน โอกาสทั้งชายหญิงไทยที่มีความฝันอยากเป็นนักรบ เงินเดือนดี พักฟรีด้วย สนใจรีบสมัครเลยครับ” พร้อมแนบอินโฟกราฟฟิก มีข้อความ “รับสมัคร เงินเดือน 50,000+++ บาท นักรบประชาธิปไตย ทหารปลดประจำการ บุคคลกล้าหาญ คุณสมบัติ เพศชาย/หญิง อายุ 16-40 ปี ใจกล้า สุขภาพแข็งแรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ถ้าสามารถพูดภาษากะเหรี่ยง ภาษาอังกฤษ ภาษาพม่า หรือเป็นคริสต์ศาสนิกชน จะได้รับพิจารณาพิเศษ” พร้อมระบุสถานที่รับสมัครไว้จำนวน 2 จุด ที่ออฟฟิศพื้นที่ ต.วัดเกต เมืองเชียงใหม่ ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ (6 กันยายน 65) ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ ซอยโอสถาพันธ์ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบว่าออฟฟิศที่ระบุว่าเป็นสถานที่รับสมัครทหารรับจ้าง Free Burma Ranger เป็นที่ทำการของมูลนิธิฟรี เดอะ โอเพรส (Free the Oppressed Foundation) หรือ FTO ซึ่งสนับสนุนงานของ Free Burma Rangers (FBR) ที่เป็นองค์กรเพื่อมนุษยธรรมจากหลายเชื้อชาติ ที่ทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ ความหวัง และ ความรักแก่ผู้คนในเขตความขัดแย้งของพม่า อิรัก และซูดาน โดยทำงานร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่สนับสนุนประชาธิปไตยในท้องถิ่น และประสานงานกับทีมบรรเทาทุกข์อเนกประสงค์ที่เคลื่อนที่ การรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่สำคัญ ที่พักพิง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และเอกสารด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่std48388• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 1.) การถ่ายภาพเบื้องต้น | Basic Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL001+2017/about 2.) การถ่ายภาพด้วยเทคนิคสร้างสรรค์ | Creative Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL009+2019/about 3.) โมชั่นกราฟิกพื้นฐาน | Foundation of Motion Graphic https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL011+2019/about 4.) คอมพิวเตอร์เพื่อการพูดและการนำเสนอ | Computer for Speech and Presentations https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL003+2017/about 5.) หลักเศรษฐศาสตร์เกษตร | Principles of Agricultural Economics https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL005+2017/about 6.) การท่องเที่ยวโดยชุมชน | Community Based Tourism https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL014+2019/about 7.) สร้างสรรค์สื่อวีดิทัศน์ยุคใหม่ | Creative Video Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL002+2017/about 8.) การผลิตหนังสั้น | Short Film Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL010+2019/about 9.) การเลี้ยงสัตว์เบื้องต้น | Principle of Animal Husbandry https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL007+2017/about 10.) หลักและวิธีการส่งเสริมการเกษตร | Principles of Agricultural Extension https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL004+2017/about 11.) การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสู่ธุรกิจเงินล้าน | Algal Cultivation https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL012+2019/about 12.) การจัดการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสวยงาม | Pet Management https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL013+2019/about 13.) การปลูกพืชเบื้องต้น | Principle of Crop Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL006+2017/about . 📌 วิธีการสมัครเข้าเป็นสมาชิก https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1646232145708423 📌 ขั้นตอนเรียนออนไลน์กับ Thai MOOC https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1678665039131800 . #สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง #ThaiMOOCระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี24ชั่วโมง #คอร์สออนไลน์ #คอร์สฟรี #KMITL ———— ©️CMMU Library แหล่งรวมงานวิจัย บทความ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ ข่าวสารการศึกษาในแวดวงวิชาการ, คอร์สออนไลน์ อัปเดตทุกวัน . 📌 ติดตาม CMMU Library Website : http://library.cmmu.mahidol.ac.th Facebook : CMMU Library twitter : @cmmulib IG : cmmu.library Youtube : http://bit.ly/2OPiBfQMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Albumเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์ นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือ หรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ขอใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือ ข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆ ละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพและ ลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวร กู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเนท ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ-เพลง-เกมส์- app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIP มือถือช้า-อืด-เม็มเต็มMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยความจริงของ lineเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือหรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ของใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพ และลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวรกู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเน็ต ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ- เพลง-เกมส์ app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIPMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวดี..👩🌾👨🌾 พี่น้องเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ชาวสวน โปรดทราบ อภัยหนี้ จากระบบหนี้ หนี้ธาตุในระบบ (ไม่รวมหนี้นอกระบบ) ธนาคาร ธกส. เป็นธนาคารนำร่อง ยกหนี้ จะมีเอกสารแจ้งหนี้จากธนาคารรัฐบาล 1. ธนาคารธกส. 2. ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารออมสิน ถึงเกษตรกรโดยตรงแจ้งหนี้หนี้นั้นเป็น 0 ถ้ายังไม่มีหนังสือแจ้งหนี้จะมีหนังสือแจ้งหนี้ตามมาทุกคน เหมือนกันทั่วประเทศ เกษตรกรท่านใดที่ได้รับหนังสือแจ้งหนี้จากธนาคารต้นสังกัด นำเอกสารฉบับนั้นไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากความไม่เข้าใจที่รัฐบาลบัตรเขย่ง ปิดบังความจริง เจ้าหน้าที่ธนาคารจะอธิบายชี้แจงให้เข้าใจอย่างละเอียด เข้าใจง่ายๆเป็นกันเอง ☑️แล้วเจ้าหน้าที่จะมอบเอกสาร ที่เป็นหลักฐานค้ำประกันเงินกู้ คืนให้แก่ท่าน ☑️จากนั้นท่านจะหลุดพันจากการ เป็นหนี้ทาสทันที ไม่ต้องตกเป็นทาสหนี้อีกต่อไป 🙏👑 ด้วยบารมีจากล้นเกล้าพ่ออยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นำเงินส่วนพระองค์ นำมาจ่าย ยกหนี้ ล้างหนี้ให้กับท่าน 🙉ไม่มีหน้าม้า 🙈ไม่มีนายหน้า จะไม่มีตัวแทนจากธนาคารของรัฐฯไปยื่นเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกอบต. เจ้าพนักงานตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด 📢 กรุณาช่วยกันเป็นสื่อกระจายข่าว ถึงพี่นอนเกษตรกร ทุกสาขา ทุกอาชีพและรับทราบ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี https://youtu.be/-a3UaJZuFkMข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยช่วยแชร์เรื่องนี้ว่าให้ ระวังไว้บ้างก็ดีช่วยแชร์เรื่องนี้ว่าให้ ระวังไว้บ้างก็ดี การตั้งไลน์กลุ่ม ตั้ง4คนแต่มา5มา6 ……….พี่คนนึงตั้งกลุ่มแชทสี่คนพี่น้องไว้่สื่อสารกันระหว่างพี่น้อง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่มีการเชิญคนอื่น มาเมื่อเช้าวานพี่นึกยังไงไม่ทราบไปย้อนดูข้อความที่คุยกับพี่ชายเมื่อวันเสาร์และสังเกตุเห็นว่าอ่านโดย 5 ก็ตกใจเพราะที่ถูกต้องอ่านโดย3เท่านั้น จึงไล่ย้อนขึ้นไปอีกกลายเป็นอ่านโดย6ก็มีค่ะ เมื่อโทรถามพี่น้องให้ช่วยดูปรากฎว่าเหมือนๆกันหมด พอดีพี่ชายคนโตกำลังอยู่ในเซ็นทรัล จึงเดินไปถามร้านมือถือ เขาบอกว่่ามีคนมาถามเรื่องนี้ 2-3รายแล้ว ลักษณะโดนแฮ็กเพราะไปโหลดสติ๊กเกอร์ฟรีมาค่ะ ทำเพื่อสอดแนมกรณีมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือ เขาแนะนำให้รีบออกจากห้องแชท คือปิดตัวไปเลย ทิ้งไว้สัก24ชม.ค่อยเปิดใหม่และเตือนให้ระวังเวลาจะโหลดสติ๊กเกอร์ฟรีทั้งหลาย บอกด้วยว่าส่วนใหญ่จะแฮ็กพวกกรุ๊ปแชท เพราะยิ่งจำนวนคนในกรุ๊ปมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสรู้ตัวน้อยมาก **วิธีแก้ไข การ Hack (line) สำหรับ (line) ส่วนตัว -เข้าไปที่ more มุมขวาล่าง -แล้วเข้าที่ setting และ account -กด off ที่ allow login คนอื่นจะไม่สามารถ login account ส่วนตัวเราได้ *สำหรับกลุ่ม -เข้าไปในกลุ่ม -กดที่มุมบนขวามือ เลือก edit -กด off ที่ invite by link จะทำให้ไม่มีใครเข้ากลุ่มผ่าน link ได้ ไม่งั้นใครเอา link เราไปลงใน pantip ก็จะเข้ากลุ่มได้ไดยไม่ต้อง inviteผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle5 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใดเรียน ทุกท่าน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการสอบถามดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ) เข้ามาเป็นจำนวนมากถึงผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใด จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการ ใช้หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวด้วย ขอบคุณค่ะ ด้วยความเคารพ ศ. ภญ. ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยสรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช.สรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช. ซึ่งเป็นคนแรกๆ ของโลก ที่ค้นพบ แต่ช้าในเรื่องการโฆษณาเผยแพร่ สรุปผลของสารอาหารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียงลำดับตั้งแต่ทำลายสูงสุดลงไป ดังนี้ :- 1. มะนาว , มะกรูด , ส้มทุกชนิด กินป้องกัน (พระเอก) มีฤทธิ์ -9.5 2. ยา (Favipiravir-RTP) มีฤทธิ์ -8.8 3. ชาเขียว(ชาชง) กินป้องกัน มีฤทธิ์ -8.5 4.1 ข้าวไร้ซ์เบอรี่ , รำข้าวสีม่วง , มันม่วง , ข้าวโพดม่วง กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.9 4.2 (Masitinib) ยารักษาไขข้อ มีฤทธิ์ -7.9 5.1 กระชายขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 5.2 งาดำ กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 6. ฟ้าทะลายโจร (กินรักษาเมื่อติดเชื้อแล้ว) มีฤทธิ์ -7.3 7. ชาขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.0 8. องุ่น กินป้องกัน มีฤทธิ์ -6.9 9. ขมิ้นชัน กินป้องกัน (ฤทธิ์น้อยสุด) มีฤทธิ์ -6.1 ❤️ ค้นพบอาหารอาหารที่ยับยั้งโควิคตัวใหม่หลายตัว ที่เก่งกว่ากระชายขาว และบางตัวดีกว่าฟ้าทะลายโจร (ช่วยกันแชร์เพื่อคนไทยทั้งประเทศด้วยนะค่ะ) https://www.youtube.com/watch?v=-Fmg51FC9U0โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแจ๊ค หม่า เผยความลับ คนจีน 1,300 ล้านคนตกตะลึง เฉินหลง หลิวเต๋อหัว โจวซินเฉือ ฟังแล้วร้องให้ -หากชีวิตเรา ถือเงินทอง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความยากลำบาก -หากชีวิตเรา ถือบุตรธิดา เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า -หากชีวิตเรา ถือความรัก เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บปวด -หากชีวิตเรา ถือการแข่งขัน เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ -หากชีวิตเรา ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้าง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข -หากชีวิตเรา ถือความพอเพียง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความสุข -หากชีวิตเรา ถือบุญคุณ เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา -คุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้น @ “อย่าอวด”... 1. อย่าอวดอ้างเงินของคุณในโรงพยาบาล เพราะมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น 2. อย่าอวดอ้างงานที่คุณทำ เพราะเมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกมาก ที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ 3. อย่าอวดอ้างบ้านช่องของคุณ เพราะเมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลาย เป็นรังของคนอื่น 4. อย่าอวดอ้างรถของคุณ เพราะเมื่อคุณจากไป กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวดอ้างได้ คือ “สุขภาพที่ดีของคุณ”... ขอให้เพลิดเพลินกับชีวิต ที่มีสุขภาพดี... จงดูแลรักษาตัวเองให้ดี เนื่องจากอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้ และราคาสุดแพง ที่สำคัญคือ ไม่มีของให้. เมื่อดูจบขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 4 คนสงสัยคำแนะนำนี้ จริงหรือไม่ผมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ชิโนแวค ที่ประเทศจีนเแล้ว : ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ทางหมอจีนมีคำเตือนมากมาย ซึ่งได้ยินว่า ที่ประเทศไทย หมอไทยไม่ได้มีคำเตือนแบบนี้เลย. ผมจึงนำมาแบ่งปันครับ .. Review : . ก่อนฉีด - พักผ่อนหลับนอนให้เต็มที่ / กินข้าวให้อิ่มก่อนรับการฉีด .. หลังฉีด หมอสั่งดังนี้ . 1. ห้ามกินเหล้า+กาแฟขม-ป้องการวัคซีนหมดฤทธิ์ ในเวลา 3 วัน 2. ห้ามอาบน้ำหลังฉีด 24 ชม. ป้องกันการไม่สบาย เพราะร่างกายอ่อนแอลงหลังฉีด 3. ห้ามออกกำลังกายหนัก 3 วันและควรกินอาหารรสจืด .. วัคซีน ที่ต้องฉีด ๒ เข็ม ก็ต้องฉีดให้ครบในเวลากำหนด และเมื่อครบแล้ว ภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ สร้างขึ้น คนที่ฉีดแล้ว ก็ยังติดใหม่ได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง กับทั้ง ภูมิคุ้มกันจะอยู่แค่ ๖ เดือนเท่านั้น ... ดังนั้น ถ้าไม่เร่งฉีดให้ครบทุกคน จนกำจัดเชื้อโรคร้ายไปจนหมด เชื้อโรคที่หลงอยู่ ก็จะวนเวียนเวียน สร้างปัญหาได้ใหม่เช่นเดิม ต้องเร่งฉีดวัดซีน และบริหารจัดการให้ดี ... ที่สำคัญที่สุด คือ แม้จะฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แพทย์ก็ยังเตือนว่า ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพราะแม้จะฉีดแล้วก็ยังติดได้ แต่ความรุนแรงจะลดลง ดังนั้น ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเหมือนเดิม Cr. พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ฑูตตำรวจไทยวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ