1 คนสงสัย
แจ๊ค หม่า เผยความลับ
คนจีน 1,300 ล้านคนตกตะลึง​
เฉินหลง หลิวเต๋อหัว โจวซินเฉือ
ฟังแล้วร้องให้

-หากชีวิตเรา ถือเงินทอง
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความยากลำบาก

-หากชีวิตเรา ถือบุตรธิดา
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า

-หากชีวิตเรา ถือความรัก
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บปวด

-หากชีวิตเรา ถือการแข่งขัน
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ

-หากชีวิตเรา ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้าง
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข

-หากชีวิตเรา ถือความพอเพียง
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ความสุข

-หากชีวิตเรา ถือบุญคุณ
เป็นจุดมุ่งหมาย
ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา


-คุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด
คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่น​นั้น

@ “อย่าอวด”...

1. อย่าอวดอ้างเงินของคุณในโรงพยาบาล
เพราะมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น

2. อย่าอวดอ้างงานที่คุณทำ
เพราะเมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกมาก
ที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ

3. อย่าอวดอ้างบ้านช่องของคุณ
เพราะเมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลาย
เป็นรังของคนอื่น

4. อย่าอวดอ้างรถของคุณ
เพราะเมื่อคุณจากไป
กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว

มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวดอ้างได้
คือ “สุขภาพที่ดีของคุณ”...
ขอให้เพลิดเพลินกับชีวิต
ที่มีสุขภาพดี...
จงดูแลรักษาตัวเองให้ดี
เนื่องจากอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้
และราคาสุดแพง ที่สำคัญคือ
ไม่มีของให้.

เมื่อดูจบขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดี
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 ปีที่แล้ว
1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้⚠️️ ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

เหตุผล

เนื้อหานี้ มีการอ้างอิงถึงบุคคล ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงของแหล่งข้อมูล เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    วันนี้ "หนังสือ​พิมพ์​เดอะซัน" ของอังกฤษเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกของบิลเกตส์ จดหมาย​ฉบับ​นี้​ได้รับ​การ​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​อย่างมาก​ และถูกส่งต่อ​จากคนในวงกว้าง​ คนทั้งหลาย​ต่างกล่าวขาน​ชื่นชม​ว่า​บิลเกตส์​เป็น​ผู้​เปี่ยม​สติสัมปชัญญะ​อย่าง​แท้จริง​ ******************************************** ต่อไปนี้​คือ​ จดหมาย​เปิดผนึก​ของ​บิลเกตส์​: ฉัน​เชื่ออย่างสนิทใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วน​มีจุดประสงค์ทางจิตใจ​อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าเราจะคิดว่ามันดีหรือไม่ดีก็ตาม​ ใน​ขณะที่​ฉัน​ได้​นั่ง​คิด​อย่าง​มี​สติรอบคอบ​ ฉัน​จึงอยาก​จะ​ขอ​ร่วม​แบ่งปัน​เสียงสะท้อน​จากใจของ​ฉัน​ให้​กับ​ท่านทั้งหลาย​ ว่าแท้จริง​ไวรัสโคโรน่าได้ทำอะไ​ร​กับพวกเรา​ไปบ้าง​ 1)ไวรัส​นี้​ได้มาเตือน​บอก​เราทั้งหลาย​ ว่า​มนุษย์​ทุกคน​ล้วนเท่าเทียมกัน​ ไม่ว่า​วัฒนธรรม​ ศาสนา​ อาชีพ​ สภาพการณ์​เศรษฐกิจของ​เรา​จะ​ต่างกัน​อย่างไร​ หรือต่อให้​เป็น​คนที่มีชื่อเสียง​ที่สุด​คน​หนึ่ง​ก็​ตาม​ ในสายตา​ของ​ไวรัส​แล้ว​เราทุกคน​ล้วน​เสมอภาค​เท่ากัน​ เราทุกคน​ก็​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​คนอื่น​ด้วย​ความ​เสมอ​ภาค​เช่นกัน​ ถ้า​คุณ​ไม่​เชื่อ​ใน​สิ่ง​ที่​ฉัน​พูด​มา คุณ​ก็​ไปถามทอมแฮ็งค์ดู​ 2)ไวรัส​นี้​ได้มาเตือนเรา​ ว่า​ชะตากรรมของเราทุกคน​ล้วนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน​ สิ่งที่ส่งผลต่อคน ๆ หนึ่งก็สามารถ​ส่งผลต่ออีกคนเช่นเดียวกัน​ ไวรัสยังเตือนเรา พรมแดนเท็จที่เราสร้างไว้นั้นมัน​ไร้ค่าเสียจริง​ เพราะไวรัสไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางก็ข้ามระหว่าง​ประเทศ​ได้ 3)ไวรัส​เตือนสติ​เรา​ว่า​ สุขภาพ​ที่​ดี​มีค่าแค่ไหน แต่เรากลับ​ละเลย​สุขภาพ​นี้​ ไปกินอาหาร​ขยะ​ทั้งหลาย​ ดื่มน้ำที่ปนเปื้อน​สารเคมี​ต่างๆ​ ถ้า​เรา​ไม่​ดูแล​ตนเอง​ แน่นอน​ว่า​เรา​ต้อง​เจ็บ​ป่วย​ 4) ไวรัสเตือนเราว่า​ ชีวิตนั้นทุกข์​และ​แสน​สั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรทำคืออะไร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ป่วยแล้ว. จุดมุ่งหมายของชีวิตไม่ได้อยู่ที่การซื้อกระดาษชำระแบบม้วน 5)ไวรัสเตือนเราว่า สังคมของเราเห็น​วัตถุ​กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก​ เมื่อเราประสบ​กับ​ปัญหา​ความยากลำบาก เราเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า​ ความต้องการพื้นฐานของเราคือ​ อาหาร​ น้ำและยา มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่​ได้​มีมูลค่าอะไร​เลย 6)ไวรัสเตือนเราว่า​ ครอบครัวมีความสำคัญเพียงใด แต่เรากลับ​มองข้ามจุดนี้ไปแล้ว ไวรัสบังคับให้เรากลับไปบ้านของ​เรา​ ดังนั้น​ เราจึง​สามารถ​สร้างบ้านให้เป็นครอบครัว และสร้างสายสัมพันธ์ที่​เข้มแข็งในครอบครัว 7)ไวรัสเตือนเราว่า​ งานที่แท้จริงของเราไม่ใช่งานที่เรากำลังรับจ้าง​อยู่​นั้น​ แน่นอนว่าเราต้องทำงาน แต่ทว่า​ตามพระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างเรามา ไม่ใช่เพื่อให้เรามา​ทำงาน งานที่แท้จริงของเราทุกคน​ คือการดูแลซึ่งกันและกัน ปกป้องคุ้มครอง​ซึ่งกันและกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน 8)ไวรัสเตือนเราว่า เราอย่าได้สำคัญ​ตัวเอง​ยิ่งใหญ่​ หยิ่งผยอง​ ไวรัสยังเตือนเราด้วยว่า​ ไม่ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่​เพียง​ใด​ ไม่ว่าคนอื่นจะคิดว่าคุณยิ่งใหญ่​เพียง​ใด​ ไวรัสขนาดเล็กๆ​เพียงแค่​นิดเดียว​ ก็​สามารถทำให้โลกทั้งใบหยุดนิ่งได้ทันที​ 9)ไวรัสเตือนเราว่า อิสรภาพอยู่ในมือของเราเอง เราสามารถเลือกที่จะร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เลือกที่จะ​แบ่งปันให้​ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน หรือเราสามารถเลือกที่จะเห็นแก่ตัว​ กัก​ตุน​เสบียง​เพื่อ​ดูแลแค่​เฉพาะ​ตัวเอง​เท่านั้น มี​เพียง​ในยามยากลำบาก​ เราจึงสามารถ​มองเห็น​ใบหน้า​ที่​แท้จริง​ของ​คนๆหนึ่งได้ 10) ไวรัสเตือนเราว่า​ เราสามารถอดทน​ หรือตื่นตระหนกได้ เรายัง​สามารถ​เข้าใจได้ว่าสถานการณ์เช่น​นี้​ เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์มาแล้ว​ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป เราอาจ​ตื่นตระหนก คิดว่าวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว จนส่งผล​ทำร้ายตัวเรา​เอง 11)ไวรัสเตือนเราว่า การแพร่ระบาดของ​ไวรัส​เป็นทั้งจุดจบและจุดเริ่มต้น เวลานี้​เราสามารถไตร่ตรองและทำความเข้าใจได้แล้ว เรียนรู้รับเอาบทเรียน​จากความผิดพลาดนี้​ การแพร่ระบาดของ​ไวรัส​อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเวียนว่าย​ และอาจ​จะดำเนินเช่นนี้​ต่อไป จนกว่าเราได้รับ​บทเรียนทั้งหมด​ 12)ไวรัสเตือนเราว่าโลกของเรากำลังป่วย ไวรัสยังเตือนเราด้วยว่า เราต้องดูว่าผืน​ป่าหายไปเร็วแค่ไหน นอกจากนี้คุณต้องดูความเร็วที่กระดาษชำระม้วนหนึ่งหายไปจากชั้นวางว่า​เร็ว​แค่ไหน​ เราทุกคน​ต่าง​ป่วยกันหมดแล้ว​ เพราะครอบครัวของ​เราป่วย​(โลกคือครอบครัว​ของเรา) 13)ไวรัสเตือนเราว่า ความยากลำบากมักจะผ่านไปได้เสมอ แล้วจากนั้น​ทุกอย่าง​ก็จะง่ายขึ้น​มา​ ชีวิตเป็นวัฏจักรวนเวียน​ ตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในวัฏจักร​เท่านั้น​ เราไม่ต้องตกใจ โรคระบาดจะผ่านไปได้แน่นอน​ 14)หลายคนคิดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าเป็นหายนะ แต่ฉันคิดว่านี่จะ​เป็นการ "แก้ไขข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่​ที่สุด​"​
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false