ท่ามกลางการไม่มียา หรือวัคซีน เรามาใช้ไวตามิน C ซึ่งเป็นสารต้านไวรัส ในปริมาณสูงๆ จะไม่ดีกว่าหรือ
ไวตามิน C ต้านได้อย่างไร ?
ไวตามิน C เป็นสารเคมีที่พวกเราเรียกว่า Reducing agent หมายความว่า มันจะไปดีงเอาออกซิเจนออกจากโมเลกุลของไวรัส หรือยัดเยียดไฮโดรเจนให้กับไวรัส จนกระทั่ง คุณสมบัติการทำร้ายร่างกายของเราหมดไป
ปัญหาคือ ทำอย่างไรเราจะกำจัดไวรัสได้ดีที่สุด
คำตอบ คือ กินในปริมาณมากจนถ่ายอุจจาระเหลว
ปัญหาว่า กินไวตามิน C จะเข้าไปภายในเซลล์ โดยผ่านผนังเซลล์ ได้อย่างไร
เรื่องนี้เมื่อ 30 ปีนี้ มีการทดลองพบว่า ถ้ากินสารประเภท anthocyanin คือ สารสีม่วง ในมันเทศสีม่วง ในกระหล่ำปลีสีม่วง ในเปลือกชมพู่มะเหมี่ยว ไวตามิน C จะเข้าไปในเซลล์ได้ดี
ยื่งกว่านั้น ธาตุสังกะสี ซี่งมีลักษณะทั้งทางกายภาพและทางอะตอมคล้ายแมคนีเซี่ยม Mg มาก เป็น catalyst ที่ดียิ่งในกระบวนการสร้าง enzyme ต้านไวรัส และกระตุ้นเซลล์ผิว epithelial tissue ให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดี จึงทำให้หายใจสะดวก ไม่เป็นปอดบวม
สรุป สนใจ
1) ไวตามิน C ปริมาณมาก
2)กิรผักผลไม้เยอะๆ
3) กินสังกะสี
4) ถูกแดด
5) ออกกำลังกาย
6) กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่าไปยั่วยวนให้ไวรัสกระโดดใส่
จบ
ไวตามิน C ต้านได้อย่างไร ?
ไวตามิน C เป็นสารเคมีที่พวกเราเรียกว่า Reducing agent หมายความว่า มันจะไปดีงเอาออกซิเจนออกจากโมเลกุลของไวรัส หรือยัดเยียดไฮโดรเจนให้กับไวรัส จนกระทั่ง คุณสมบัติการทำร้ายร่างกายของเราหมดไป
ปัญหาคือ ทำอย่างไรเราจะกำจัดไวรัสได้ดีที่สุด
คำตอบ คือ กินในปริมาณมากจนถ่ายอุจจาระเหลว
ปัญหาว่า กินไวตามิน C จะเข้าไปภายในเซลล์ โดยผ่านผนังเซลล์ ได้อย่างไร
เรื่องนี้เมื่อ 30 ปีนี้ มีการทดลองพบว่า ถ้ากินสารประเภท anthocyanin คือ สารสีม่วง ในมันเทศสีม่วง ในกระหล่ำปลีสีม่วง ในเปลือกชมพู่มะเหมี่ยว ไวตามิน C จะเข้าไปในเซลล์ได้ดี
ยื่งกว่านั้น ธาตุสังกะสี ซี่งมีลักษณะทั้งทางกายภาพและทางอะตอมคล้ายแมคนีเซี่ยม Mg มาก เป็น catalyst ที่ดียิ่งในกระบวนการสร้าง enzyme ต้านไวรัส และกระตุ้นเซลล์ผิว epithelial tissue ให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดี จึงทำให้หายใจสะดวก ไม่เป็นปอดบวม
สรุป สนใจ
1) ไวตามิน C ปริมาณมาก
2)กิรผักผลไม้เยอะๆ
3) กินสังกะสี
4) ถูกแดด
5) ออกกำลังกาย
6) กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่าไปยั่วยวนให้ไวรัสกระโดดใส่
จบ