1435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยไม่น่าเชื่อถือ! ป.ป.ช.ตีตกข้อเสนอขอกันตัวพยาน 'ผู้ถูกกล่าวหารายสำคัญ' คดีแอร์บัส 10 ลำหลังจากที่ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ ได้แจ้งขอความประสงค์ขอให้ ป.ป.ช.กันตัวเองเป็นพยาน โดยแจ้งว่ามีข้อมูลสำคัญ แต่กลับไม่มีและให้การไม่เหมือนกันกับตอนเป็นพยาน ขัดกับพยานปากอื่น กรรมการ ป.ป.ช.เลยไม่เชื่อถือ ตีตกข้อเสนอขอกันตัวเป็นพยานดังกล่าวไป สำหรับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวไปแล้วว่า ในช่วงเดือน ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ สถิรชวาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.คมนาคม ,นายทนง พิทยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย และนายกนก อภิรดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัสแบบ A340-500 และแบบ A340-600 จำนวน 10 ลำ ในช่วงปี 2546-2547 ทำให้ บมจ.การบินไทย ได้รับความเสียหายชลิษา ล่องวัด• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรับประทานเฉพาะไข่ต้ม 7 วัน ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ไข่ต้มเมนูที่หลายคนนิยมนำมาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ด้วยความเชื่อว่าไข่ต้มมีโปรตีนที่สูง ช่วยให้อิ่มนาน และมีแคลอรี่ต่ำ แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริงหรือ? จากการสัมภาษณ์ อ.ดร. ธาริณี นิลกำแหง อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ประจำหลักสูตรวิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การรับประทานไข่ต้ม ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากไข่ต้มมีโปรตีนสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ควบคุมความอยากอาหาร และยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ มีแคลอรี่ที่ต่ำเมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ ทำให้สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักเพิ่ม ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.rattinan.com/ ) นอกจากนั้นไข่ต้มยังมีประโยชน์ในเรื่อง ช่วยเร่งการเผาผลาญ โปรตีนจากไข่ต้มสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก สะดวกและง่ายต่อการเตรียม ไข่ต้มเป็นอาหารที่เตรียมง่าย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ทำให้สามารถควบคุมการบริโภคอาหารและหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น การบริโภคที่หลากหลาย ไข่ต้มสามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น สลัดไข่ต้ม แซนด์วิชไข่ หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบในซุป ทำให้ไม่น่าเบื่อและสามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.jenniferoomthailand.com ) แต่ร่างกายของคนเรานั้นต้องการแคลอรี่ใน 1 วัน ประมาณ 1800 - 2000 ต่อวันซึ่งไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การกินไข่ต้มทุกวันวันละ 1-2 ฟอง จึงเป็นการเพิ่มพลังงานและสารอาหารให้ร่างกายได้อย่างเหมาะสม แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องเพราะจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบการย่อยและการดูดซึม ส่วนบุคคลที่เป็นโรคไตไม่ควรทำเพราะจะทำให้ไตเกิดการทำงานหนักขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยควรควบคู่กับการควบคุมแคลอรีจากอาหารอื่นๆ รวมถึงการออกกำลังกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.homefittools.com/news/boiled-eggs-low-fat.html ) ดังนั้น การกินไข่ต้มเป็นส่วนหนึ่งของอาหารมื้อเพื่อสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน ไม่ใช่ทางลัดในการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนและปลอดภัย ควรเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่เน้นความสมดุลของสารอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวสุขภาพภาคอีสานsuthinantanle20192545• 9 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยGT200 ตรวจระเบิดลวงโลก ย้อนอดีต ไทยเสียค่าโง่พันล้านผลิต “เครื่องตรวจจับสสารระยะไกล” หรือ GT200 ออกมาวางขาย โดยบริษัทอวดอ้างว่าเครื่องนี้ใช้ระบบแม่เหล็กขั้นสูง สามารถตรวจจับได้เลยว่าระเบิดอยู่ตรงไหน แม้จะยืนอยู่ในระยะที่ไกลมากๆ ก็ตามที โดยไม่ใช่แค่ระเบิดเท่านั้น แต่บริษัทเคลมว่า ยาเสพติด, ยาสูบ, งาช้าง, กระสุนปืน ของผิดกฎหมายใดๆ ก็สามารถใช้ GT200 ตรวจสอบได้หมด 2) วิธีการใช้นั้นง่ายมาก เมื่อคุณจ่ายเงินซื้อมาแล้ว จะได้ตัวเครื่อง GT200 สีดำทำจากพลาสติก บนตัวเครื่องที่จะมีช่องเล็กๆ ให้เสียบ “เซ็นเซอร์การ์ด” เข้าไปได้ ถ้าหากคุณอยากค้นหาระเบิด ก็เอาเซ็นเซอร์การ์ดชื่อ “ตรวจระเบิด” เสียบเข้าไป แล้ว GT200 จะแปลงร่างกลายเป็นเครื่องตรวจหาระเบิด หรือถ้าเอาเซ็นเซอร์การ์ดที่เขียนว่า “ยาเสพติด” เสียบเข้าไป เครื่อง GT200 ก็จะแปลงร่างกลายเป็นเครื่องตรวจยาเสพติดแทน จากนั้นถ้าเดินๆ อยู่ แล้วเสาอากาศแบบหนวดกุ้งที่อยู่บนเครื่อง GT200 ชี้ไปทางไหน ก็มีแนวโน้มว่า เป้าหมาย (ระเบิด – ยาเสพติด) จะอยู่ตรงจุดนั้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น GT200 ยังมีนวัตกรรมขั้นสูง คือไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น บริษัทผู้ผลิตอ้างว่า ตัวเครื่องสามารถดึงพลังงานไฟฟ้าสถิตจากตัวผู้ถืออุปกรณ์ ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องชาร์จไฟstd48866• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขนลุกอีกครั้ง! “เดอะซิมป์สันส์” กับคำทำนายถึง “เรือดำน้ำไททัน”ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์ของฝั่งต่างประเทศอย่างหนักอีกครั้ง สำหรับการ์ตูนตัวเหลืองชื่อดัง “เดอะ ซิมป์สันส์ (The Simpsons)” ที่ถูกขนานนามว่า “เดอะซิมป์สันส์ ญาณทิพย์” การ์ตูนผู้มาก่อนกาล ทำนายอนาคต ซึ่งครั้งนี้เนื้อเรื่องของการ์ตูนดังกล่าว มีความคล้ายคลึงกับ โศกนาฏกรรมการสูญหายของ “เรือดำน้ำไททัน” ที่ดำดิ่งลงไปยังก้นมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อสำรวจซากเรือไททานิค ก่อนที่จะขาดการติดต่อ กระทั่งหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ออกมาแถลงข่าวยืนยันว่า ผู้ที่อยู่บนยานไททันทั้ง 5 คนเสียชีวิตแล้ว โดยพบซากชิ้นส่วนยานไททัน ซึ่งคาดว่าเกิดการระเบิดเนื่องจากแรงดันน้ำมหาศาลใต้มหาสมุทร! กลายเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียทางทะเลที่สะเทือนใจคนทั้งโลกอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์!std48396• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/tctcXGpKJUo?si=LZ9unKtRV9h4KN31สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันสิ้นโลกnasaเตรียมรับมือเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “@อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” ออกโพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “NASA เตรียมการรับมือพายุสุริยะ 2025 อย่างไรบ้าง” เช้านี้ให้สัมภาษณ์โฟนอินรายการข่าว เกี่ยวกับกระแสความกังวลเรื่องที่บอกว่า นาซากำลังจับตา “พายุสุริยะ” ว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยจะถึงจุดสูงสุดในปี ค.ศ. 2025 และคาดว่ามีโอกาสเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ที่จะทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตล่มยาวนานเป็นเดือนๆstd48324• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิธีทำให้หน้าขาว ภายใน 3 วัน ด้วยเคล็ดลับบูสต์ผิวกระจ่างใสแบบเร่งด่วนวิธีทำให้หน้าขาว ภายใน 3 วัน สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส อยากกู้คืนความสวยให้ใบหน้าไว ๆ เรามีวิธีทำให้หน้าขาว เร็วที่สุด มาบอกต่อstd48428• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนทำให้คนเป็นหมันการมีลูกเพื่อสืบทอดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในหลายๆ ครอบครัว ข่าวลือนี้ได้สร้างความเครียด กังวลใจและมีแนวโน้มว่าในกลุ่ม สามี-ภรรยาหลายคู่จะปฏิเสธการรับวัคซีน เพราะเชื่อว่าวัคซีนวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์วัคซีนโควิดstd48135• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยของการประกาศ "บุก-ถอย" ของทหารรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากองทหารรับจ้างแวกเนอร์ องค์กรทหารรับจ้างรัสเซีย ประกาศผ่านข้อความเสียงทางเทเลแกรมว่า ได้ตกลงที่จะ "หยุด" การเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารรับจ้างที่กำลังรุกคืบเข้าสู่เมืองหลวงของรัสเซีย ภายหลังการประกาศเคลื่อนพลเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ เขาประกาศเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 23 มิ.ย.ว่า กองกำลังแวกเนอร์ทั้ง 25,000 คน พร้อมสู้รบจนตัวตายหากต้องสู้รบกับกองกำลังทหารของกองทัพรัสเซีย สื่อของทางการรัสเซียระบุว่า นายพริโกซิน จะถอยกลับไปที่เบลารุส ขณะที่ข้อหาต่าง ๆ ของนายพริโกซินและกำลังทหารรับจ้างจะถูกยกเลิก แถลงการณ์จากนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่าหมายจับของนายพริโกซิน จะถูกถอนออกไป และจะยุติข้อหาทางอาญาต่อนายพริโกซินและกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมด นอกจากนี้ ทหารแวกเนอร์คนใดที่ต้องการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมรัสเซียนั้นยังสามารถทำได้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐของรัสเซีย (เอฟเอสบี) ประกาศการสอบสวนทางอาญากับ เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ ฐาน “ก่อกบฏติดอาวุธ” หลังนายพริโกซินประกาศกร้าวว่าจะ “ทำทุกวิถีทาง เพื่อโค่นล้มผู้ครองอำนาจสูงสุดทางทหารในกรุงมอสโก” โดยหนึ่งในวิถีทางของเขาคือการเข้ายึดเมืองทางตอนใต้ของรัสเซียstd48442• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมฝาหายใน7วันความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48033• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกลโกงบนออนไลน์หลอกลวงเข้าเว็บไซต์ใส่ข้อมูลละแฮ็คเอาบัญชีธนาคารstd47712• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาอีกแล้ว ดื่มรักษาโรค ระวัง...จะเงิบร้องอี๋!bangkok สภาพอากาศวันนี้ ฤทธิ์มรสุมทำไทยมีฝนเพิ่ม ตกหนัก 3 ภาคตอนบน “ประเสริฐ” ยัน เพื่อไทยไม่แตกแถว ชี้ 28 มิ.ย. ดีลจบ เคาะชื่อประธานสภาฯ ผวา สาวหนองเสือโคตรดุ กัดป้าเนื้อหลุดคาปาก น้องหมากระโจนเข้าช่วย กบฏ ‘วากเนอร์กรุ๊ป’ จบแล้ว ปฏิบัติการ ‘กอบกู้ชื่อเสียงปูติน’ เพิ่งเริ่ม วิดีโอ เสียง “แผ่นดินไหว” ดังสนั่น ชาวพิษณุโลก-พิจิตร ระทึกกลางดึก เสียง “แผ่นดินไหว” ดังสนั่น ชาวพิษณุโลก-พิจิตร ระทึกกลางดึก “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!” คำที่หลายคนมักพูดติดปาก เพื่อห้ามใครที่คิดจะลองดี แต่...เดี๋ยวนี้โลกหมุนเวียนเปลี่ยนไปแล้ว คำพูดที่เคยติดปาก ก็อาจเปลี่ยนไปเป็น “ไม่เชื่อ...ต้องพิสูจน์” ที่เชียงราย วานนี้ (18 พ.ค.) มีรายงานว่า พบน้ำผุดจากดินอย่างต่อเนื่องขึ้นกลางลานบ้านหลังหนึ่งใน จ.เชียงราย โดยเจ้าของบ้านดังกล่าวบอกว่า น้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำใส ไม่มีกลิ่น หรือสี เมื่อลองขุดดินให้ลึกลงไป กลับไม่พบสิ่งใด มีเพียงน้ำใสๆ ที่ยังคงไหลออกมาจากตาน้ำอย่างต่อเนื่อง เพียง 20 นาที ก็ทำให้น้ำเต็มบ่อขนาดเล็กที่ขุดลงไป แล้วก็ไหลออกมาจนเจิ่งนองทั่วบริเวณลานบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องทำทางระบายน้ำชั่วคราว ทั้งนี้มีชาวบ้านบางกลุ่มที่มีความเชื่อว่าน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินคือ น้ำทิพย์ จะสามารถรักษาโรคได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุได้พยายามขอตักน้ำดังกล่าวเพื่อนำไปดื่มกินกัน!?std46276• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเพื่อไทยขั้วใหม่ ภูมิใจไทยตัวแปร !?มาถึงตอนนี้ก็ต้องมองข้ามช็อตกันแล้วว่า ปิดฉากพรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล ที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้เลย สิ่งที่ต้องพิจารณากันถึงความเป็นไปได้ ก็คือ เริ่มจาก พรรคเพื่อไทยจะได้เก้าอี้ประธานสภาผู้แทน โดยมีชื่อของ นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นเต็งหนึ่ง จากนั้นก็เป็นการ “จับขั้ว” ตั้งรัฐบาลใหม่ มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีภูมิใจไทยและ พลังประชารัฐเข้าร่วม สูตรนี้ภูมิใจไทยเป็น “ตัวแปร” ส่วนใครจะเป็นนายกฯ ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน หรือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ค่อยมาว่ากันstd47872• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสไปด์เดอร์เเมนโดนเเมงมุมกัดเเล้วพ้นใยได้จริงหรอสไปด์เดอร์เเมนโดนเเมงมุมกัดเเล้วพันใยได้มีมstd47886• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสมควรหรือไม่ หากรัฐจ่ายค่าเดินทางให้คนไทยไปเลือกตั้ง 2 หมื่นล้านบาทหนึ่งในประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภาหารือกันเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา คือ ผลการศึกษาแก้ปัญหาการซื้อเสียงเลือกตั้ง ด้วยการเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีค่าพาหนะสำหรับประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งเบื้องตั้นคนละ 500 บาทข่าวการเมืองเลือกตั้งstd46348• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเครื่องสำอางเถื่อนการอำนวยการของ พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชียงราย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.เชียงราย นำโดย พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.จว.เชียงราย พ.ต.ต.ณัฐนนท์ เปียแก้ว สว.กก.สส.บก.ตม.5 พ.ต.ท.อนุพันธ์ กันถารัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.ทวี เชยบาน สว.สส.ภ.จว.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจค้นโกดังพื้นที่ ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามจับบุคคลตามหมายจับstd47663• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทักษะที่ดีในการตั้งคำถามทักษะการตั้งคำถาม ทักษะที่ผู้นำหรือผู้บริหารมองข้ามไป คือ การตั้งคำถาม John Hage ผู้บริหารและที่ปรึกษาใน Silicon Valley มากว่า 40 ปี เขียนบทความใน Havard Business Review กล่าวว่าภาวะผู้นำที่ดีนั้นก็คือการตั้งคำถามที่ดี เพราะปกติแล้วทุกคนจะมองหาคำตอบจากผู้นำ แต่สิ่งนี้กลับบั่นทอนความไว้วางใจได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่อะไรหลาย ๆ อย่างไม่ชัดเจนแน่นอน และผู้นำต้องพยายามตอบคำถามเหล่านั้น ผู้นำที่ดีควรตั้งคำถามที่ทรงพลังและสร้างแรงบันดาลใจที่สื่อว่าพวกเขาไม่มีคำตอบและกำลังขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเพื่อค้นหาคำตอบ ผู้นำที่ John คุยด้วยมักจะรู้สึกประหม่าเมื่อต้องใช้วิธีการนี้ เพราะมันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่รู้ในสิ่งที่กำลังทำอยู่อย่างนั้นเหรอ ในทางตรงกันข้าม งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการแสดงจุดอ่อนและขอความช่วยเหลือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงผู้อื่นว่าคุณไว้วางใจคนเหล่านั้น และคุณมักจะได้รับความไว้วางใจกลับมาเช่นกัน จริง ๆ แล้วถ้าคุณเรียนรู้ที่จะตั้งคำถามได้ดี มันสามารถช่วยให้คุณพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ช่วยสร้างความไว้วางใจ ช่วยสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ การคิดร่วมกันสามารถทำให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาที่ยาก ๆ ได้และยังช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ในองค์กรได้อีกด้วยstd48459• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปากกาลดควมาอ้วนฉีดเข้าทางผิวหนังหน้าท้อง คล้ายๆ ปากกาอินซูลิน โดยปกติแล้ว Liraglutide ออกแบบและทำมาเพื่อ การรักษาคนไข้เบาหวาน และโรคอ้วนจริงจังลดความอ้วนpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย🔥🔥ช่วยกันแชร์ ข่าวจริง‼️วิธีป้องกันติดโควิดและรักษาง่ายๆ ให้คนไทยรอดนะคะ ใช้ยาเคอร่า 1 แคปซูล ผสมน้ำดื่ม 1 ขวดเล็ก ดื่มได้ทั้งวันแทนน้ำเหมือนดื่มน้ำแร่ แต่ถ้าติดเชื้อหรือเสี่ยงสูงให้เพิ่มเป็น 2 เม็ดเลยค่ะ ดื่มง่าย ชุ่มคอ ไม่ขม ✅ช่วยลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ ยับยั้งไวรัส คออักเสบ ลิ้นเป็นขุม มีฝ้า เด็กคออักเสบ มีเม็ดในลำคอ เคอร่า มีงานวิจัย จากม.เกษตร ยับยั้งการขยายตัวไวรัส covid ถึง 1,500 เท่าของยา Lopinavir ที่ใช้ในคนไข้สีแดง งานวิจัยในผู้ป่วย 3000 คน หาย100% (รพ.ประชาธิปัตย์) ไม่ลุกลาม ไม่ลงปอด ไม่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ ไม่มีเสียชีวิต https://youtu.be/TWFL9g_P3pEโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหลังวันที่ 24 มีนาคม 65 แบงก์ 20 เก่าจะใช้ไม่ได้จริงหรือไม่หลังวันที่ 24 มีนาคม 65 แบงก์ 20 เก่าจะใช้ไม่ได้ภาคอีสานChalita khatawong• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://biggo.co.th/s/Kerra+%E0%B8%A2%E0%B8%B2/ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ หน้ากากผ้า ป้องกันไวรัสโควิด-19 ไม่ได้หน้ากากอนามัยผ้าป้องกันโควิด-19ได้จริงหรือไม่? คงเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนอยากได้คำตอบ เนื่องจากในสถานการณ์ตอนนี้ ที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขาดตลาด และคนหันมาใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าแทน จึงอาจเกิดความกังวลใจว่า หน้ากากอนามัยชนิดผ้า หรือ หน้ากากผ้า จะสามารถป้องกันโควิด-19ได้จริงไหม วันนี้ ALLWELL จะมาไขข้อข้องใจนี้ ให้กับทุกคนค่ะ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ว่าหน้ากากผ้าสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ และแนะนำให้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่ไม่ป่วย และมีความเสี่ยงของการติดเชื้อน้อยกว่าบุคลากรทางการแพทย์ แต่ทั้งนี้ผ้าที่นำมาเย็บเป็นหน้ากากผ้า จะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19ได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้ ป้องกันอนุภาคขนาดเล็กได้ ป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ สามารถนำไปซักทำความสะอาดได้หลายครั้งโควิด 2019pyu9• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหน้ากากผ้ากันโควิดได้จริงไหมอยากรู้โควิด 2019Kittitat Nct• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปล้นครั้งประวัติศาสตร์! ทะลวงทุกระบบ “ขโมยเพชร” มหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ขโมยเพชร” ที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมณีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัย ซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย แถมเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุม มีสัญญาณเตือนภัยแทบทุกระบบที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน เซนเซอร์จับความร้อนจากร่างกายมนุษย์ เซนเซอร์จับแสง มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับแบบแม่เหล็ก ซึ่งทันทีที่ประตูนิรภัยหนา 1 ฟุตเปิดในเวลาที่ไม่ควรเปิด สัญญาณเตือนภัยจะแจ้งเหตุทันที รวมทั้งมีเครื่องกีดขวางยานพาหนะยุคไฮเทค มีกลไกบังคับให้หุบหายลงใต้ดิน และโผล่กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของมันได้ทุกเวลา ที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับแจ้งการก่อเหตุ ผู้ก่อการ “ขโมยเพชร” ก่อนหน้าเกิดคดีโจรกรรมเพชร 2 ปี คือในปี 2001 เชื่อว่าแผนปฏิบัติการการโจรกรรมได้เริ่มขึ้นอย่างแนบเนียนโดยชายวัยกลางคนชาวตูริน ประเทศอิตาลี ชื่อ ลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล ซึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ที่ตั้งของไดมอนด์ เซ็นเตอร์ ฉากหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ นักธุรกิจค้าเพชร เข้ามาเช่าออฟฟิศและตู้เซฟที่ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เพื่อเปิดเป็นสำนักงานประกอบธุรกิจค้าเพชร ที่นี่นอกจากจะมีตู้เซฟให้เช่าแล้ว ยังมีห้องเพื่อใช้เป็นสำนักงานธุรกิจค้าอัญมณีของเหล่านักธุรกิจใช้เช่าอีกด้วย โนทาร์บาร์โทโลแฝงตัวเข้ามาเพื่อสำรวจเก็บรายละเอียดของสำนักงานนี้ เขาใช้เวลาเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งระบบความปลอดภัย กิจวัตรในแต่ละวันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนต่างๆ ของอาคาร และเส้นทาง โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ได้มา เขาใช้การจดจำ จากนั้นจะนำมาเขียนบันทึกในห้องทำงาน โนทาร์บาร์โทโลใช้เวลาร่วม 2 ปีแฝงตัวและเก็บข้อมูลในสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าโนทาร์บาร์โทโลคงไม่ปฏิบัติการเพียงลำพัง เขามีผู้ร่วมขบวนการอีกคือ เอลิโอ ดอโนริโอ ผู้เชี่ยวชาญสัญญาณเตือนภัย คนช่างคิดที่สามารถเอาชนะมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายระบบ เฟอร์ดนานโด ฟิน็อตโต อาชญากรมืออาชีพมากประสบการณ์ และ ปิเอโตร ทาวาโน เพื่อนเก่าแก่ที่โนทาร์บาร์โทโลไว้ใจ โนทาร์บาร์โทโลเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เขาเก็บข้อมูลมาให้ผู้ร่วมก่อการฟังอย่างละเอียด รวมทั้งร่วมวางแผนกันภายในร้านกาแฟนในตูรินเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต พวกเขาใช้เวลาเตรียมการรวม 27 เดือน นานกว่าระยะเวลาในหนังโจรกรรมแบบฮอลลีวูด ที่มักเล่าว่าสมาชิกแก๊งใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ปฏิบัติการ “ขโมยเพชร” ครั้งประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ไล่เลี่ยกับช่วงวันวาเลนไทน์ ช่วงวันหยุด ไดมอนด์ เซนเตอร์ แห่งนี้หยุดทำการ ไม่มีการเปิดห้องนิรภัยและตู้เซฟทุกกรณี หากเปิดนอกเวลาทำการเช่นนี้สัญญาณเตือนภัยจะทำงานทันที แต่โนทาร์บาร์โทโลกลับเลือกใช้เวลานี้ปฏิบัติการ เนื่องจากปลอดคนและมีเวลาให้ปฏิบัติการได้มาก การเจาะระบบป้องกัน (โดยคร่าว) ด้วยระบบป้องกันภัยที่ทันสมัยและแน่นหนามาก การเจาะเข้าไปในตู้เซฟจึงต้องผ่านระบบป้องกันหลายด่าน ทั้งการใส่รหัสผ่าน ล็อกกุญแจ เซนเซอร์สนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจจับความร้อน เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซนเซอร์แสง รายละเอียดมีข้อปลีกย่อยมากมาย ข้อมูลในที่นี้บอกเล่าอย่างคร่าวๆ โดยส่วนหนึ่งมาจากหลักฐานและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เชี่ยวชาญ โนทาร์บาร์โทโลและพวกจำเป็นต้องกำจัดอุปสรรคทีละด่าน ซึ่งผ่านการจำลองสถานการณ์ซักซ้อมมาอย่างดี พวกเขาเริ่มแผนการในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ทาวาโนทำหน้าที่เฝ้าติดตามฟังวิทยุสื่อสารของตำรวจ ทราบความเคลื่อนไหวของตำรวจจากวิทยุสื่อสาร เขาทำหน้าที่อยู่ที่ห้องพักของโนทาร์บาร์โทโล ส่วนโนทาร์บาร์โทโลกับพวกอีก 2 คน สวมถุงมือยาง ขับรถผ่านป้อมตำรวจ ประตูชั้นจอดรถเปิดขึ้น เขาหยุดรถชิดขอบทาง แต่ละคนพาดถุงบนไหล่ มุดผ่านใต้ขอบประตูม้วน พวกเขาใช้กุญแจดอกพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อไขกุญแจประตูทางเข้า เดินลงบันไดถึงหน้าห้องนิรภัย ดอโนริโอใช้แผ่นเหล็กรูปตัวทีประกบแท่งแม่เหล็กทั้งสองที่ติดอยู่บานประตูและขอบประตูด้วยเทปกาวสองหน้า แล้วดึงมันหลุดออกมาโดยแท่งแม่เหล็กไม่แยกจากกัน สัญญาณแจ้งเตือนจึงไม่ดังขึ้น ช่วยให้เปิดห้องนิรภัยกว้างระดับหนึ่ง และสามารถแทรกตัวเข้าไปได้โดยปลอดสัญญาณแจ้งเตือน ตำรวจเชื่อว่าดอโนริโอติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อใช้บันทึกการหมุนรหัสประตูห้องนิรภัย แต่ทฤษฎีของตำรวจมีผู้แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีอุปกรณ์บังรอบตัวหมุนรหัส ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเลข ข้อสันนิษฐานอื่นก็คือ โนทาร์บาร์โทโลอาจได้รหัสมาโดยวิธีอื่น หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจคือ ประตูห้องนิรภัยนี้ไม่เคลียร์รหัสให้เอง หากเปิดแล้วต้องหมุนเคลียร์รหัสเอง ทั้งนี้ผู้ดูแลอาจลืมหรือขี้เกียจเคลียร์รหัส (เก่า) ทำให้รหัสคาอยู่ที่เดิม เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้กุญแจเพียงดอกเดียวเปิดประตูนิรภัยได้ ภายหลังตำรวจสรุปว่าคนร้ายใช้ชะแลงยาว 2 ฟุต งัดประตูห้องเก็บของ เพราะกุญแจที่ทำมาใช้การไม่ได้ (เสียงน่าจะดังมาก แต่ไม่มีสัญญาณเตือนภัย เนื่องจากในพื้นที่ไม่ได้ใช้การตรวจจับเสียง เพราะมองว่า หากมีคนทำของตก สัญญาณย่อมดังขึ้นทุกครั้ง) แต่ในห้องเก็บของมีกุญแจประตูนิรภัย จึงสามารถเปิดห้องนิรภัยได้ ข้างในห้องมืดสนิท และมีเครื่องตรวจจับแสงทำงานอยู่ พวกเขาใช้เทปกาว 2-3 ชิ้นปิดเซนเซอร์แสง แล้วทำการเปิดไฟ ด่านต่อมาคือเซนเซอร์ตรวจจับความร้อน พวกเขาเอาชนะมันด้วยการใช้สเปรย์ตกแต่งทรงผมฉีดใส่เครื่องจนทำให้เครื่องรวนไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวพวกเขาใช้แผ่นโฟมวางทับตัวเซ็นเซอร์ไม่ให้มันทำงาน ด่านสุดท้ายคือเปิดประตูตู้เซฟ พวกเขาประกอบอุปกรณ์ดึงฝาตู้เซฟที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ซึ่งแยกชิ้นส่วนใส่กระเป๋ามา และนำมาประกอบกันตรงกลางห้องนิรภัย เมื่อประกอบเสร็จพวกเขาก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดตู้เซฟได้ หลังจากจัดการกับอุปสรรคแต่ละด่านเรียบร้อยแล้ว โนทาร์บาร์โทโลและพวกได้แบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งเปิดตู้เซฟให้เร็วที่สุด อีกสองคนทำหน้าที่แยกของมีค่า ทั้งเพชร นาฬิกา เครื่องประดับ และเงินสด แยกใส่ถุงอย่างละถุง โนทาร์บาร์โทโลเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาอะไรกลับไป และจะปล่อยสิ่งของอะไรไว้บ้างโดยประเมินจากมูลค่าของแต่ละชิ้น โดยรวมแล้วพวกเขาเปิดตู้เซฟได้ 109 ตู้ จาก 189 ตู้ เชื่อกันว่าทรัพย์สินที่กลุ่มนักโจรกรรมกวาดไปได้มีมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตัวเลขมูลค่าของทรัพย์สินที่หายไปยังเป็นที่ถกเถียง จากปากของกลุ่มผู้ก่อการอ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่พวกเขาฉกไปอยู่แค่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอ้างว่าการโจรกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่าเพื่อเคลมเงินประกัน) ขณะที่การออกจากสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องขนสมบัติที่หนักกลับไปพร้อมกับเครื่องมืออุปกรณ์ เดิมทีแล้ว “แก๊งตูริน” นี้จะเก็บทุกอย่างกลับไปเพื่อไม่ให้ตำรวจเก็บหลักฐาน แต่ครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งอุปกรณ์ โดยเช็ดถูให้สะอาดลบร่องรอยอื่นก่อน การหิ้วถุงเพชรขึ้นบันไดขณะออกจากสถานที่เกิดเหตุหลังจากคนดูต้นทางรายงานว่าปลอดโปร่งแล้วก็ต้องหิ้วถุงโดยก้าวอย่างระมัดระวังมากที่สุด ถุงเพชรอย่างเดียวก็หนักเข้าไปถึง 44 ปอนด์ (ราว 20 กิโลกรัม) ขณะที่แบกขึ้นไป คนร้ายอีกรายใช้กุญแจปลอมเข้าไปเปิดประตูห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย เอาเทปบันทึกภาพการก่อเหตุออกจากเครื่อง และใส่เทปเปล่าไปแทน เขายังมองหาเทปเก่าโดยเลือกช่วงเดือนที่ผ่านมาอีก 4 ม้วน เป็นเทปบันทึกภาพช่วงที่สมาชิกเข้ามาทำลายระบบเตือนภัยแม่เหล็กไปด้วย เมื่อคนดูต้นทางแจ้งว่าปลอดภัย พวกเขาก็ออกมาใส่ของที่ท้ายรถที่มาจอดเทียบชิดขอบทาง พวกเขานั่งเบียดกันในรถและขับหายไปตามถนน โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX /AFP) เรื่องเล็กในการ “ขโมยเพชร” ที่พลาดมหันต์ แม้พวกเขาจะทำการสำเร็จ แต่ปัญหาของพวกเขาคือการกำจัดขยะที่เป็นร่องรอยจากปฏิบัติการทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วนักโจรกรรมอัจฉริยะระดับโลกต้องถึงจุดจบ โดยมีหลักฐานคือ “ถุงขยะ” หลังจาก “ขโมยเพชร” แล้ว พวกคนร้ายขับรถซึ่งมีถุงขยะอันบรรจุอุปกรณ์และสิ่งของที่เหลือใช้จากปฏิบัติการเต็มรถไปตามไฮเวย์ด้วยความกระวนกระวาย จนเลือกทิ้งถุงขยะโดยเร็วที่สุดเมื่อออกจากเมือง เลี่ยงความเสี่ยงโดนตำรวจเรียกจอดหากละเมิดกฎจราจร การทิ้งขยะตามสถานที่ส่วนบุคคลหรือเอกชนก็เป็นเรื่องเสี่ยง เพราะเจ้าของกิจการในเบลเยียมจริงจังกับการใช้ถังขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลายแห่งล็อกฝาถัง หรือติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณถังขยะ ปั๊มน้ำมันบนไฮเวย์แทบทุกแห่งมีป้ายห้ามทิ้งสิ่งของส่วนตัว ขณะที่การเผาถุงก็ย่อมมีควันไฟที่เรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ไฮเวย์ ในถุงพวกนี้มีถุงขยะที่ยัดถุงจากร้านค้าซึ่งดันมีใบเสร็จ ซองเอกสาร และเอกสารอื่นจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ และเลือกทิ้งข้างทางหลวงตรงถนนทางเข้าป่าฟลอร์ดัมบอส แต่แล้วดันมีผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินละแวกนั้นที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมาพบถุงขยะ และคู่สามีภรรยาคือกลุ่มที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ (แม้แต่คำถามว่า ใครกันแน่ที่รู้ว่าถุงขยะเกี่ยวกับการโจรกรรมที่เป็นข่าวดังเวลานั้น และออกไอเดียให้โทรศัพท์หาตำรวจ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่า สรุปแล้วเป็นสามีคือออกุสต์ ฟาน ดัมป์ หรือภรรยาของเขากันแน่) ถุงที่ฟาน ดัมป์ พบคือหลักฐานสำคัญที่ทางการแกะรอยได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด ทำให้ผู้ก่อการทั้ง 4 คนถูกจับในที่สุด โดยเฉพาะใบเสร็จที่เมื่อตำรวจนำไปสอบถามกับแคชเชียร์ พนักงานจำได้ทันที และให้รูปพรรณกับตำรวจซึ่งเชื่อว่าเป็นดอโนริโอ และฟิน็อตโต ขณะที่ตำรวจเบลเยียมส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยให้ตำรวจสากล โนทาร์บาร์โทโลและพวกยังฉลองความสำเร็จ และกำลังเดินทางหลบหนี แต่เหลือสิ่งที่เขาต้องทำคือทำลายร่องรอยที่เหลือในแอนต์เวิร์ป อีกทั้งคืนรถเช่า และทำความสะอาดห้องพักซึ่งจากมาอย่างรีบร้อน และยังต้องรูดบัตรผ่านเข้า-ออกไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะตำรวจจะต้องตรวจสอบว่าผู้เช่ารายใดที่หายไปเลยหลังเกิดเหตุ เมื่อตำรวจตรวจสอบหลักฐานการเข้า-ออกของโนทาร์บาร์โทโล ก็พบว่าเขาอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากอาคารก่อนวันเกิดเหตุ จึงนำภาพวิดีโอหลายชั่วโมงมาดู แล้วพบว่า หนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนเข้า-ออกห้องนิรภัยทุกวันตลอดสัปดาห์ก่อนหน้าเกิดเหตุ ตำรวจเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่พาดพิงมาถึงเขา แม้ว่าในข่าวจะมีเรื่องพบถุงขยะแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่า เพื่อนร่วมงานฉีกใบจ้างงานติดตั้งกล้องที่ออฟฟิศของเขาแล้วโยนลงถังขยะในครัว ไม่รู้ว่าตำรวจค้นออฟฟิศและตู้เซฟของเขา การกลับที่เกิดเหตุย่อมเหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจ และความมั่นใจนั่นเองทำให้เขาโดนรวบตัว ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบูธด้านหน้าเห็นเขาก็คว้าโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่โดยพลัน ช่วงแรกเขายังคิดว่าตำรวจไม่มีหลักฐานพอ และยังเป็นเพียงพยาน แถมยังตีบทงง ไม่เข้าใจว่าควบคุมตัวผู้บริสุทธิ์อย่างเขาทำไม โนทาร์บาร์โทโลมีคำตอบให้ทุกคำถาม แต่ท้ายที่สุดก็จนกับหลักฐานหลายอย่าง ทั้งดีเอ็นเอบนแซนด์วิชไส้กรอกที่โนทาร์บาร์โทโลทำกินเอง แต่กินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งโยนทิ้งถังขยะในครัวขณะเตรียมขนของหนีไปอิตาลี และมันไปโผล่ในถังขยะใกล้ป่าฟลอร์ดัมบอส และยังพบดีเอ็นเอของผู้ร่วมก่อการอีกหลายจุดที่เชื่อมเข้ากับหลักฐานการโจรกรรม แม้ว่าคนร้ายจะถูกจับกุมได้ แต่เพชรที่ถูกปล้นก็ไม่ได้กลับคืนสู่เจ้าของ เพราะไม่มีคนร้ายคนไหนบอกถึงที่อยู่ของเพชรที่ปล้นมา ช่วงที่โนทาร์บาร์โทโลอยู่ในคุกยังให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารไวร์ด (Wired) ว่า การปล้นทั้งหมดเกิดจากแผนที่ผู้เช่าตู้เซฟซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรชาวยิวหวังใช้เรียกค่าประกันจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ โดยที่พวกเขาซึ่งมีผู้เช่าตู้เซฟร่วมแผนการด้วยประมาณ 50-60 ราย จะไม่เอาเพชรหรือของมีค่าใส่ไว้ในตู้เซฟ และวางแผนการปล้นโดยจำลองห้องนิรภัยขึ้นมา แล้วเข้าปล้น เขายังกล่าวต่ออีกว่าแผนการครั้งนี้โดนพ่อค้าเพชรชาวยิวหักหลัง แต่มีหลายคนวิเคราะห์ว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องโกหกของโนทาร์บาร์โทโล เพราะสิ่งที่เขาเล่าย้อนแย้งอย่างมาก อีกทั้งเรื่องที่มีผู้เช่าตู้เซฟวางแผนร่วมกันนั้น ผู้เช่าตู้เซฟเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้น การที่โนทาร์บาร์โทโลให้สัมภาษณ์เช่นนี้ก็เพื่อโยนความผิดให้กับผู้อื่นหรือปกปิดข้อมูลและร่องรอย โนทาร์บาร์โทโลยังต้องการให้นำเรื่องราวของเขาไปทำภาพยนตร์ เพราะเขาหวังส่วนแบ่งรายได้จากสิทธิ์ของข้อมูลเพื่อนำไปใช้อย่างสบายหลังออกจากคุก อีกทั้งเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกกฎหมาย และใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้โดยอ้างแหล่งที่มาของเงินจากส่วนแบ่งการนำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ (ทั้งที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีวันเผยเรื่องจริง) ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี และรับโทษติดคุก เขาก็ยังไม่ได้บอกที่ซ่อนอัญมณีและแผนการปล้น เขากับพวกอีก 3 คน ถูกปล่อยตัวก่อนกำหนด และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินคดีจนถึงที่สุดแล้ว คดีนี้จึงจบลง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับคดีให้ความเห็นเมื่อปี 2009 ว่า แม้แต่โนทาร์บาร์โทโลนำเพชรหรือทรัพย์สินที่ปล้นมาขายก็อาจไม่สามารถแจ้งจับได้อีก เพราะไม่สามารถฟ้องซ้ำคดีที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาด นอกเหนือจากมีหลักฐานใหม่ แต่สิ่งที่ทำได้เบื้องต้นคือแค่ยึดเป็นของกลางไว้ และอาจดำเนินคดีในอิตาลีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่กลุ่มเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปก็ไม่หวังกันแล้วว่าจะได้ของกลับคืน คนในแวดวงเพชรยังรู้สึกโกรธกับบทสรุป เมื่อพวกคนร้ายติดคุกไม่นาน ทรัพย์สินก็ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ ที่สำคัญบทสรุปของเรื่องนี้ยังออกมาว่าการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามคนร้ายและดำเนินคดี แลกมากับการจองจำผู้ก่อเหตุเพียงไม่กี่ปี และยังพิสูจน์อีกว่า ความเสี่ยง ความยากลำบาก การถูกจับและจองจำ อาจคุ้มค่ากับชีวิตหลังผ่านคดี เมื่อพวกที่ก่อการอาจใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างราบรื่นและสุขสบายจากสิ่งที่ได้จากการโจรกรรมมีม เสียดสีputilp148• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องนี้น่าสนใจมาก...หากประสบผลสำเร็จ คนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดคงจะสบายสักที...... --------‐--‐-----//------------------ มนุษย์จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น! ทำความรู้จัก “อนุภาคนาโน” ที่ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้ว และอาจทำให้ “โรคหัวใจ” กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์ ทุกวันนี้ เวลาได้ยินข่าวคนดังเสียชีวิต มักมีสาเหตุมาจาก “มะเร็ง” และพานคิดว่ามะเร็งน่าจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ปัจจุบันคือ “โรคหัวใจ” หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” มนุษย์ที่เสียชีวิตเพราะโรคกลุ่มนี้ในแต่ละปีมากถึง 30% และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แซงหน้ามะเร็ง 1.เราอาจสังเกตว่า “คนสมัยก่อน” มักจะไม่ได้ตายเพราะ “โรคมะเร็ง” หรือ “โรคหัวใจ” . เหตุที่ช่วงหลังมานี้ “โรคมะเร็ง” และ “โรคหัวใจ” ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามนุษย์ปัจจุบันอายุยืนขึ้น เราไม่ค่อยตายจากสงครามและโรคติดเชื้อต่างๆ แบบในอดีต พออยู่มาจนแก่ . เราจึงเผชิญหน้ากับโรคที่โดยทั่วไปใช้เวลาพัฒนาหลายสิบปีกว่าจะพัฒนาจนคร่าชีวิตผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคไต ฯลฯ 2.ก่อนหน้านี้ โรคที่ฆ่ามนุษย์เป็นอันดับ 1 คือ “มะเร็ง” เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำว่า “มะเร็ง” นั้นกินความกว้างมากๆ เพราะเกิดจากการที่เซลล์ของอวัยวะร่างกายกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย เรียกได้ว่าเกิดเนื้อร้ายส่วนไหนก็นับเป็นมะเร็งหมด พอแก่ตัวไป แนวโน้มที่เซลล์จะกลายพันธุ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น . ผลในทางสถิติคนก็เลยเป็นมะเร็งกันเยอะ และในอดีตเป็นโรคที่ “ไม่มีทางรักษา” . แต่ยุคหลังๆ เริ่มมีแนวทางการรักษาใหม่ๆ เริ่มมีเทคนิคการคัดกรองที่ดีขึ้น คนก็เลย “จัดการ” กับมะเร็งได้ดีกว่าก่อนมาก ส่งผลให้ “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่กลายเป็นภัยต่อชีวิตอันดับ 1 ของมนุษย์ 3.คำว่า “โรคหัวใจ” ในความหมายของโรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นคำที่กินความกว้างมากคือ กินความตั้งแต่ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตีบทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไปจนถึงภาวะผิดปกติทางกายภาพของหัวใจที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด . อย่างไรก็ดี สิ่งที่ใกล้ชิดกับโรคหัวใจที่สุดก็คือภาวะอย่าง ‘หลอดเลือดแข็งตัว’ (atherosclerosis) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด” ในระดับที่เรียกได้ว่า เป็นภาวะยอดฮิตที่คนจะป่วย และพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจในที่สุด . แม้ว่าคนจะนิยมเรียกกันแบบนี้ แต่สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดนั้นไม่ใช่ “ไขมัน” แต่คือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายขณะที่มันพยายามจะทำลายคอเลสเตอรอลที่หลุดเข้ามาในผนังหลอดเลือด . (ซึ่งคอเลสเตรอลไม่ใช่ไขมัน ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นพลังงานไม่ได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเรา “เบิร์น” ตอนออกกำลังกาย แล้วจะเอาคอเลสเตอรอลมาใช้ ร่างกายเราไม่ได้ทำงานอย่างนั้น) . พอซากเซลล์เม็ดเลือดขาวตายสะสมกันในผนังหลอดเลือดมากๆ หลอดเลือดก็จะหนาขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เราเลยเรียกภาวะนี้ว่า “หลอดเลือดแข็งตัว” 4.ถ้าที่ว่ามาฟังเข้าใจยากไป ก็คิดซะว่าหลอดเลือดเราเป็น “ท่อ” ก็ได้ . ภาวะที่ว่ามาคือภาวะ “ท่อตัน” และพอ “ท่อตัน” เลือดก็จะไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้านั่นเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหรือสมอง เราก็จะเสียชีวิต (ทั้งนี้เวลาเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้จะเรียก Heart Attack ส่วนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะเรียก Stroke สองภาวะนี้มีสาเหตุพื้นฐานคือ “ท่อตัน” นั่นเอง) . ดังนั้นปัญหาที่คร่าชีวิตมนุษย์แบบนับไม่ถ้วน ก็คือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท่อตัน” นี่เอง เพียงแต่ท่อที่ว่าคือเส้นเลือดแดงในร่างกายที่คอยส่งออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงอวัยวะ 5.คำถามต่อมาคือ แล้วภาวะ “ท่อตัน” นี่จัดการแค่ใส่ “น้ำยาล้างท่อ” ลงไปไม่ได้หรือ? . คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาจึงต้อง “ผ่าตัด” “ทำบอลลูน” และ “ทำบายพาส” กันให้วุ่นวาย . วิธีการรักษาปัจจุบันคือ ถ้า “ท่อตัน” ทำได้แต่ผ่าตัด (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ซึ่งก่อนผ่าตัด เราก็ต้องระบุให้ได้ว่า “ท่อ” ตรงส่วนไหนตัน โดยการ “ฉีดสี” และทำ MRI . ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า “แพงมาก” แม้ว่าประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศยุโรปหรือไทย คุณต้องผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด ถึงจะได้ทำการวินิจฉัยว่าคุณกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงส่วนไหนของร่างกาย เรียกว่าผู้ป่วยจะได้ทำเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น . ปัญหาคือทุกวันนี้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเรา “กำลังจะท่อตัน” ตรงไหน เพราะมันไม่มีทางจะมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเราด้วยการวินิจฉัยทั่วๆ ไป การไป “ตรวจสุขภาพประจำปี” ซึ่งตรวจด้วยวิธีทั่วไป ก็ไม่มีทางรู้ได้ 6.ปกติเราจะรู้ได้ว่า ตัวเรามีความเสี่ยงต่อโรคกลุ่มนี้ก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และวิธีการ “พยุงอาการ” ของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหลักๆ คือเขาจะให้กิน “ยาลดความดัน” กับ “ยาลดคอเลสเตอรอล” ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต . และผลหลักๆ คือการชะลอภาวะ “หลอดเลือดแข็งตัว” หรือลดความเสี่ยงของการที่คุณจะ “ท่อตัน” จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ จนพิการหรือถึงแก่ความตายในที่สุด . นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็เน้นว่าคือการ “ชะลอ” เท่านั้น ยังไม่ใช่การ “รักษา” และที่เป็นแบบนี้ เพราะระบบสาธารณสุขไม่ว่าที่ใดในโลก ยังไม่มีต้นทุนพอที่จะจับคนทุกคนมาฉีดสีและทำ MRI เพื่อหาว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงไหนของร่างกาย . ผลก็คือ วิธีชะลอดังกล่าวก็เลยให้กินยาไปเรื่อยๆ แทน เพราะนั่นสมเหตุสมผลในเชิงงบประมาณมากกว่า ถ้าต้องจัดการกับ “กลุ่มเสี่ยง” จำนวนมากหลักล้านคน 7.ประเด็นคือ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเป็นภาวะที่แทบทุกคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่แก่ตัวไปยังไงก็เป็น ไม่ว่าจะด้วยอาหาร ด้วยวิถีชีวิต และด้วยอายุที่ยืนขึ้น . เรียกได้ว่าถ้า “ท่อยังไม่ตัน” เมื่อแก่ตัวไป ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่ภาวะ “ท่อกำลังจะตัน” . ดังนั้น ถ้าจะว่ากันในแง่หนึ่งแล้ว นี่คือ “โรคของทุกคน” ที่ในทางเทคนิค ในปัจจุบันยังไม่มี “ยารักษา” ใดๆ ที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ คนกินทีเดียวแล้วหายได้ 8.แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในชื่อเรื่อง ต่อไปนี้โรคหัวใจอาจเป็นแค่อดีต . เพราะเมื่อต้นปี 2020 ในขณะที่ชาวโลกกำลังตื่นตระหนกกับโรคระบาดใหม่อย่างโควิด-19 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ คือพวกเขาค้นพบอนุภาคนาโนที่จะ “คืนชีพ” ให้พวกเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กินคอเลสเตอรอลแล้วตายในผนังหลอดเลือด ให้ฟื้นขึ้นมากินพวกคอเลสเตอรอลและซากเซลล์ที่ตายไปแล้วในผนังหลอดเลือด . ผลก็คือ สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดจน “แข็งตัว” ก็จะค่อยๆ ลดลงไป และผนังหลอดเลือดก็จะเป็นปกติในที่สุด . หรือพูดให้มันง่ายกว่านั้น “อนุภาคนาโน” ก็คือ “น้ำยาล้างท่อ” ของ “ภาวะท่อตัน” ในหลอดเลือดนั่นเอง . เรียกได้ว่ามีอนุภาคนี้คือจบเลย เราไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า “ท่อตัน” ตรงไหน ฉีดเข้าไปในเลือด อนุภาคนี้จะค่อยๆ จัดการท่อที่ตันเอง ไม่ต่างจากที่คุณเทน้ำยาล้างท่อตอนต่อตัน คุณไม่ต้องรู้หรอกว่ามันตันตรงส่วนไหน น้ำยาจัดการให้หมด . และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเซปต์ลอยๆ เพราะขณะนี้ อนุภาคนี้ทดลองในหนูสำเร็จแล้ว และก็ไม่แปลกเลยที่อีกไม่นานก็น่าจะได้ทดลองในมนุษย์แน่ๆ . ถ้าสำเร็จ ถึงตอนนั้น คนที่ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิตก็อาจไม่ต้องกินกันอีกแล้ว . และถ้ามากไปกว่านั้น นี่อาจเป็นการบอกลาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับคนแทบทั้งหมดในโลกก็เป็นได้ อ้างอิง: ScienceDaily. Nanoparticle chomps away plaques that cause heart attacks. https://bit.ly/3dzPx9V NHI. Plaque-eating nanoparticles may help prevent heart attacks. https://bit.ly/3iTUNX2 #Nanoparticle Cr.BrandThinkไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ