2434 ข้อความ
- 1 คนสงสัยฎีกาออกมาแล้ว จอดรถตามห้างสรรพสินค้าฎีกาออกมาแล้ว จอดรถตามห้างสรรพสินค้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีบัตรจอดรถก็ตาม ถ้ากลัวรถหาย มีข้อแนะนำดังนี้ 1.เมื่อขับรถเข้าจอดในห้างใดหรือเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทใด ไม่ว่าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด เราควรจะถ่ายภาพรถให้เห็นป้ายทะเบียนและให้เห็นสภาพสถานที่จอดให้ชัดเจนว่าเป็นที่ใดด้วยโทรศัพท์มือถือ 2.ถ้ารถหายในห้างอย่าเพิ่งโวยวาย ถ้ายังไม่มีใบเสร็จในการซื้อสินค้าให้รีบเข้าซื้อสินค้าในสรรพสินค้าพื่อให้ได้ใบเสร็จว่าเราได้เข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าในห้าง 3.จากนั้นแจ้งห้างว่ารถหายกับแจ้งความกับตำรวจถ่ายสำเนาใบเสร็จให้ไปแต่เราเก็บใบเสร็จตัวจริงไว้ ถ้าห้างฯไม่จ่ายจะได้ใช้ใบเสร็จกับภาพถ่ายรถในโทรศัพท์มือถือเป็นพยานหลักฐานในการฟ้องร้องทางศาล ซึ่งต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันรถหาย ถ้าเกิน 1 ปี คดีจะขาดอายุความ 4.ชนะคดีแน่นอน เพราะมีฎีกาที่7471/2556 รองรับแล้ว #รถหายในห้างสรรพสินค้าผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคำแนะนำของ พญ.อิสรีย์ ประดิษฐ์กุลมาตรวจสุขภาพ เจอหมอ (พญ อิสรีย์ ประดิษฐ์กุล) ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมาในชีวิต อธิบายละเอียดทุกตัวเลขครึ่งขั่วโมง และได้ความรู้ใหม่คือ 1. ห้ามออกกำลังกายด้วยการขึ้นลงบันไดเด็ดขาด ทำให้เข่าพัง 2. ห้ามเล่นฮูลาฮูป เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อน 3. ถ้าออกกำลังด้วยการเดินสายพาน ห้ามใข้โหมดขึ้นเขา 4. ควรให้ร่างกายสัมผัสแดดอ่อนๆ ทุกวัน 5. คนอายุ 50+ ต้องออกกำลังแบบ cardio และ ยกเวท (ดัมเบล ห้ามบาร์เบล) เบาๆ เพื่อออกกำลังหลังให้แข็งแรง 6. ใครที่เป็นไขมันพอกตับต้องออกกำลังเท่านั้น ไขมันถึงจะหลุด 7. ลด LDL ด้วยการลดอาหารทอด มัน ทะเล อาหารแปรรูป(ไส้กรอก) 8. กะทิกินได้เป็น HDL (หมอคำนวณให้เห็นว่า ถ้า HDL สูงพอจะไป cover LDL ได้) 9. ส่องกล้องหามะเร็งลำไส้ไม่จำเป็นถ้าตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทุกปี และถ้าไม่มีอาการท้องผูกปวดท้องต่อเนื่องลดความอ้วนยาสมุนไพรความสวยความงามภาคตะวันออกMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย#ขอเชิญชวนทำบุญ ถวายกุศลแด่ครูอาจารย์ทั้งทางโลกทางธรรมกันนะครับ# บุญซ่อมแซมและปิดทองพระประธานอุโบสถวัดโตนด หลวงพ่อสำเร็จ พระประธานประจำอุโบสถวัดโตนด ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งได้สร้างมาในสมัยอยุธยา ได้เกิดรอยร้าวตั้งแต่ สถานการณ์น้ำท่วมในปี พ.ศ.2554 ทำให้เกิดความชื้น ปูนกะเทาะ เกิดรอยร้าว จากองค์พระประธาน ในการนี้ทางคณะกรรมการวัดโตนด มีความเห็นตรงกันว่า วัดจะต้องรีบบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธาน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะต่อไป อานิสงส์ในการบูรณะพระประธาน 1. ช่วยยกชีวิตตกต่ำ ให้รุ่งเรืองขึ้น 2. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกเว้นการจองเวร 3. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย สามารถร่วมบุญได้ที่ ชื่อบัญชี บูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธานและอุโบสถ วัดโตนด ธนาคารออมสิน สาขาบางกรวย เลขที่บัญชี 020350809461 สอบถามได้ที่ เจ้าอาวาสวัดโตนด 0823330444 Cr.#วัดโตนด บางกรวย นนทบุรีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกินเร็วกินรีบๆ ทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ จริงหรือมีคนเคยบอกว่า การรับประทานอาหารแบบเร็วๆรีบๆ ทำให้อ้วนได้ การกินเร็วเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะที่เรียกว่า “Metabolic Syndrome” คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารของร่างกายผิดปกติ มีสาเหตุมาจากการดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) และความอ้วน มักพบในผู้ที่มีไขมันหน้าท้องมาก หรือที่เรียกว่า อ้วนลงพุง (Central Obesity) Metabolic Syndrome ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันสูง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ เกิดหัวใจขาดเลือด จากการศึกษาพบว่าคนที่กินเร็วมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนที่กินปกติถึง 2.5 เท่า จริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขณะนี้ ประเทศไทยกำลังทดลองผลิตวัคซีนโควิดที่ผลิตจากใบยาสูบ จริงหรือศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย โดยนักวิจัยไทย บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม สามารถพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำจากใบยาพืช โดยการใส่รหัสพันธุกรรมที่กำหนดการสร้างโปรตีนของไวรัสและภายใน 1 สัปดาห์ พืชจะสร้างโปรตีนที่ต้องการ ทั้งนี้ลักษณะโครงสร้างและลำดับของโปรตีนไม่ได้ผิดเพี้ยนไป เมื่อเทียบกับการสร้างวัคซีนด้วยกลวิธีอื่นๆ “วัคซีนใบยาผ่านการทดสอบในหนูและในที่สุดในลิง ด้วยการฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และลิงมีความปลอดภัยไม่ปรากฏมีผลข้างเคียง ผลเลือดในลิง ค่าเอนไซม์ตับปกติ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวปกติ ทำให้ลิงมีระดับภูมิคุ้มกันสูงมาก ที่เรียกว่า Neutralizing antibody ซึ่งสามารถยับยั้งไวรัสได้ ทั้งนี้ทำการตรวจสอบด้วยการวัดระดับจากการตรวจทาง Elisa surrogate isotype independent virus neutralizing antibody และจากการทดสอบในการยับยั้งไวรัสจริงในเซลล์โควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการแอบดูโทรศัพท์ของแฟนหรือของผู้อื่น เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พรบ.คอม จริงหรือคะเพจ "สายตรงกฎหมาย" โดย ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ได้แชร์ข้อมูลกฎหมายน่ารู้ เกี่ยวกับกรณีการลักลอบ-แอบดูข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่แฟน สามี หรือภรรยา ก็ตามนั้นถือเป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยทนายรัชพล ระบุข้อความว่า การแอบดูโทรศัพท์ของแฟนหรือของผู้อื่น กฎหมายไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นความผิด แต่มันจะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พรบ.คอม เพราะโทรศัพท์สมัยนี้มันดันเป็นสมาทโฟนซะเกือบหมดแล้ว ดังนั้น พรบ.คอม มันจึงเข้ามาคุ้มครองการแอบเข้าไปดูข้อมูลโทรศัพท์เหล่านี้ด้วย กรณีที่มีการล็อครหัสไว้ พฤติกรรมการเข้ารหัสโทรศัพท์ของแฟนหรือของคนอื่น อาจเข้าข่ายเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง จริงหรือคะผู้บริโภคเฝ้าระวังanonymous• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย'กลุ่มเปราะบาง' ที่ลงทะเบียนหลัง 31 พ.ค. หมดสิทธิ์รับเงินเยียวยา 3,000 บาท จริงหรือคะกลุ่มเปราะบาง จำนวนรวมทั้งสิ้น 6,781,881 ราย ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (อายุ 0-6 ขวบ) จำนวน 1,394,756 ราย 2) ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 ราย 3) คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย รองปลัด พม. ได้ย้ำถึงการรับสิทธิ์ว่า จะต้องเป็น "1 คน 1 สิทธิ์" คือ จะต้องไม่ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือได้รับเงินประกันสังคมจากกระทรวงแรงงานมาก่อน จึงจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 3 พันบาทจาก พม. โดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม อาจมีบางท่านที่จะ "ไม่ได้รับเงิน" เพราะเพิ่งลงทะเบียนของการรับเบี้ยยังชีพทั้งสามกลุ่ม ภายหลังจากวันที่ 31 พ.ค. 63 จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย. ยกเลิกเลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลีน เอฟเอส-ทรี Lyn FS-Three (Dietary supplement product by pim)สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลีน เอฟเอส-ทรี Lyn FS-Three (Dietary supplement product by pim) ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ลีน เอฟเอส-ทรี (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารปลอม ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท ฟู้ด ซายน์ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด (จ.ปทุมธานี) (ใบอนุญาตที่ 13-1-05459) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 99/29 หมู่ 2 ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 13-1-05459-5-0017 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 222/2561 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี สำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยง จริงหรือเนื่องจากว่าอาการ ไข้หวัดใหญ่ มีลักษณะอาการคล้ายโควิดมาก ทางกรมควบคุมโรคจะมีการฉีดวัคซีนฟรีให้กลุ่มเสี่ยงดังนี้ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และสำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โรคอ้วน (น้ำหนัก>100 กิโลกรัม หรือ BMI >35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และผู้มีโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยฟ้าคำรามความเชื่อ กับความจริง ดูจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างความรู้สึกกับข้อเท็จจริงที่ควรจะเป็น ในส่วนของวงการออกกำลังกาย ก็มีความเชื่อเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่ความจริงเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องค้นคว้า ทั้งนี้ ถือว่าโชคดีที่เราไม่ต้องเสียเวลาไปหาเอง พอดีไปอ่านเจอมาจากเพจเฟซบุ๊ก MICE & Communication ซึ่งอ้างอิงมาจาก samitivejhospitals ได้มีการนำเสนอเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ เลยอยากนำมาแชร์ต่อให้ได้ทราบกัน โดยมีทั้งหมด 7 ความเชื่อ แต่ด้วยข้อจำกัดของเนื้อที่เรียงหน้าชน วันนี้เลยขอนำ 4 ข้อแรกมาให้ได้รับรู้กันก่อน และคิวต่อไปจะนำอีก 3 ข้อที่เหลือ มาบอกกล่าวกัน จริงหรือเท็จกับ 7 ความเชื่อ ก่อนและหลังการออกกำลังกาย ความเชื่อ 1 : ห้ามดื่มน้ำก่อนออกกำลังกายเพราะจะทำให้จุก ความจริง การดื่มน้ำมากๆก่อนออกกำลังกายทันทีอาจทำให้จุกแน่นได้ เนื่องจากน้ำยังไม่สามารถไปถึงทางเดินอาหารส่วนล่าง อย่างไรก็ตาม ควรดื่มน้ำประมาณ 200-300 cc ก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที โดยเฉพาะหากต้องเสียเหงื่อมากระหว่างออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายหลังตื่นนอน เพราะร่างกายขาดน้ำเป็นเวลานานจากการนอนหลับ รวมถึงควรจิบน้ำทีละน้อยๆ แต่จิบบ่อยๆในขณะออกกำลังกาย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ ความเชื่อ 2 : ออกกำลังกายขณะท้องว่าง ช่วยเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้น ความจริงการออกกำลังกายขณะท้องว่างจะทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลง ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารมื้อเล็กๆที่ย่อยได้ง่ายก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เช่น กล้วยหอมครึ่งผล ลูกเกด หรือแครกเกอร์ชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารเตรียมพร้อมให้มีพลังงานในการออกกำลังกาย สำหรับการเผาผลาญไขมันได้ดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบและระยะเวลาในการออกกำลังกาย หากต้องการเผาผลาญไขมันจะต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิกนาน 30 นาทีขึ้นไป ซึ่งร่างกายจะดึงพลังงานทั้งจากไขมันและโปรตีนจากกล้ามเนื้อออกมาใช้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้สูญเสียกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย จึงควรสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วย ความเชื่อ 3 : เหงื่อออกมาก ยิ่งเผาผลาญแคลอรีมาก ความจริง เหงื่อออกมากขณะออกกำลังกายเกิดจากการขับน้ำเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนการเผาผลาญแคลอรีขึ้นอยู่กับกิจกรรมและระยะเวลาของการออกกำลังกาย จะเห็นได้ว่าทั้งสองอย่างนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน การที่เหงื่อออกมากกลับทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นตะคริว หรือหากขาดน้ำมากเกินไปอาจทำให้หน้ามืดเป็นลม หรือเกิดโรคลมแดด (Heat stroke) ซึ่งเป็นอันตราย อย่างมาก ดังนั้นหากมีเหงื่อออกมากขณะออกกำลังกายควรจิบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งความสวยความงามลดความอ้วนstd48917• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยล่าสุดมีผลการวิจัยออกมาว่า วาซาบิไม่ได้เป็นแค่เครื่องปรุงรสชาติจัดจ้านอีกต่อไป เพราะมันสามารถช่วยป้องกัน “ภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป”ได้อีกด้วย ปัญหาใหญ่ทางสุขภาพที่ผู้สูงอายุหลายคนต้องเผชิญก็คือสมองเสื่อม โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุมากกว่า 60 ปี เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู้วัยสูงอายุ เซลล์สมองจะค่อยเสื่อมลง แล้วก็ทยอยตายไปในที่สุด และ ไม่มีเซลล์สมองเกิดใหม่มาทดแทน ทำให้สมองส่วนหน้าที่ดูแลเรื่องความทรงจำเริ่มเสียหาย จนเกิดปัญหาด้านความจำและนำไปสู่โรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อม ไปจนถึงสูญเสียความสามารถในการประกอบอาชีพ การเข้าสังคม การปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ในกรณีที่รุนแรงบางคนอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร ที่ผ่านมาการป้องกันภาวะสมองเสื่อมมีหลายวิธีด้วยกัน โดยหนึ่งในวิธีที่อาจจะได้ผลดีก็คือ การกินวาซาบิเป็นประจำ ล่าสุดมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients พบว่าวาซาบิสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป มีความจำที่ดีขึ้นได้ . ข้อมูลจาก Sciencealert อธิบายว่า ในวาซาบิมีสารเคมีสำคัญที่ชื่อว่า 6-MSITC, 6 methylsulfinyl hexyl isothiocyanate (6 เมทิลซัลฟินิล เฮกซิล ไอโซไทโอไซยาเนต) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เชื่อมโยงกับสารต้านอนุมูลอิสระกับฤทธิ์ต้านการอักเสบ ทำให้สามารถชะลอความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเซลล์ต่างๆ ของร่างกายได้ ทีมวิจัยทำการทดลองกับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งหมด 72 คนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะได้รับประทานวาซาบิแบบเม็ดวันละหนึ่งครั้ง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะได้รับประทานยาหลอก (เช่น ยาเม็ดน้ำตาล เพื่อใช้ในการทดลองทางการแพทย์) จากผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่รับประทานวาซาบิแบบเม็ด แสดงให้เห็นว่ามีความทรงจำที่ดีขึ้น เช่น การนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต และความทรงจำในการทำงาน รวมถึงสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก แม้ว่าผลการวิจัยจะชี้ให้เห็นว่า สารสำคัญ 6-MSITC ในวาซาบิจะส่งผลดีต่อการรับรู้ด้านความทรงจำของผู้สูงอายุทั่วไปได้จริง แต่ก็ยังไม่ได้ทดลองกับผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม แต่ทีมวิจัยก็เชื่อว่า สารต้านอนุมูลอิสระกับฤทธิ์ต้านการอักเสบในวาซาบินั้น มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพการรับรู้ในผู้สูงอายุ . อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1098035?anm= . #วาซาบิ #ภาวะสมองเสื่อม #ผู้สูงอายุ #สารต้านอนุมูลอิสระ #ฤทธิ์ต้านการอักเสบ #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจHealthยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 6 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ?ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ? การย้อมสีผมในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมเพื่อเปลี่ยนลุคและสไตล์ หรือการซ่อนผมขาว ได้รับการยอมรับในทุกช่วงวัย การย้อมสีผมบ่อยๆจะทำให้เราได้รับสารเคมีอย่างต่อเนื่อง แต่สารเคมีเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่หากการได้รับสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ (ข้อมูลจาก Harvard Medical School) ยาย้อมผมตามท้องตลาดมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทสีชั่วคราว ถ้าสระผมแล้วสีก็จะค่อยๆหายไป 2. ประเภทสีกึ่งถาวร หรือเรียกว่าสีโกรกผม สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% ถ้าสระผม 5-6 ครั้ง ก็จะค่อยๆหลุดออกไป 3. ประเภทสีย้อมถาวร หรือเรียกว่าสีย้อมผม สามารถปกปิดผมได้ สระแล้วสีไม่หลุดลอก แต่วิธีนี้งานวิจัยระบุว่าจะทำให้โครโมโซมร่างกายเสียหาย ถ้าย้อมบ่อยๆเซลล์อาจจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ส่วนผสมในน้ำยาย้อมผมที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้ 1. สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ : ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และระคายเคือง 2. สารฟีนิลินไดอะมีน หรือสีย้อมผมชนิดถาวร : อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้ 3. แอมโมเนีย : สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย รากผมอ่อนแอ 4. สารซิลเวอร์ไนเตรต : ทำให้เกิดการระคายได้ 5. สารเลดอะซีเตด : หากสะสมในร่างกายจะทำลายสมอง ประสาทสัมผัส และจัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง (ข้อมูลจาก Herbplus+) เราจึงควรมีหลักการในการเลือกน้ำยาย้อมสีผม ดังนี้ 1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีวันหมดอายุ วิธีใช้ ส่วนผสม และเลขที่จดแจ้งระบุไว้ชัดเจน 2. เลือกน้ำยาที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย 3. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง 4. เช็กความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรมีมากกว่า 6% เพราะจะทำให้ผมแห้ง ผมกระด้าง และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้ 5. ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Herbplus+ และ Wongnai) นอกจากนี้ คนที่ย้อมสีผมอยู่แล้ว ไม่ควรย้อมเกิน 9 ครั้งต่อปี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสาราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ยังไม่เคยย้อมผมไม่ควรย้อมสีผม โดยเฉพาะคนที่ผมบางหรือผมน้อยอยู่แล้ว เพราะการย้อมผมทำให้รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงได้ง่าย หากสะสมในร่างกาย อาจทำร้ายสมอง ประสาทสัมผัส ที่สำคัญยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน และ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า น้ำยาย้อมสีผมยังเป็นอันตรายต่อช่างทำผม เพราะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีมากกว่าผู้ที่ย้อมผม เนื่องจากต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มาจากน้ำยาต่างๆเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยต่างๆ พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่ายาย้อมสีผมเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นเวลาที่ย้อมสีผมควรอยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี มีการสวมถุงมือ และใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีทุกครั้ง (สาธิตา แสวงลาภ, ฤดีรัตน์ มหาบุญปี ติ, อัจฉรา นราศรี, 2562) (ข้อมูลจาก Herbplus+,สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข) เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามสุขภาพมะเร็งapinya25460• 10 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ .....ความเห็นของหมอสันต์ ที่ให้คำแนะนำ ในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ .....ความเห็นของหมอสันต์ ที่ให้คำแนะนำ ในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวว่า 1. เกิดเป็นผู้ชายหากอายุมาก (เกิน 75 ปี) และอยู่สุขสบายดี ไม่ต้องไปตรวจ PSA 2. หากเผลอตรวจ PSA ไปแล้ว พบว่า ได้ค่าสูงแต่อยู่สุขสบายดี ยังฉี่ออก และอั้นฉี่ได้ ก็ไม่ต้องไป ตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก 3. หากเผลอไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากไป และยืนยันว่า เป็นมะเร็งแล้ว โดยที่ยังอยู่สบายดีฉี่ออกอยู่ ก็ไม่ควรไปตรวจการแพร่กระจาย (bone scan, MRI) 4. หากเผลอไปตรวจการแพร่กระจายแล้วไม่ว่า ผลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องเดินหน้ารักษามะเร็ง ด้วยผ่าตัดฉายแสง หรือฮอร์โมนบำบัด หรือเคมีบำบัด คำแนะนำข้อ 1 และ 2 นั้น เป็นไปตามคำแนะนำล่าสุดของ คณะกรรมการป้องกันโรคของรัฐบาลสหรัฐฯ (USPSTF) ว่า เกิดเป็นชาย ที่อยู่มาได้ถึง อายุ 75 ปีแล้ว อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน โดยการเที่ยวตรวจ PSA เพราะผลที่ได้ออกมา จะนำไปสู่การตรวจ และการรักษาที่ไม่จำเป็นต่างๆ นานา โดยที่เมื่อเทียบกับ คนที่อยู่นิ่งๆ อยู่เปล่าๆ โดยไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว อัตราตายจากมะเร็งต่อมลูกหมาก โหลงโจ้งแล้วก็ ไม่แตกต่างกัน ส่วนคำแนะนำ ข้อที่ 3 และ 4 นั้น เป็นผลจากการใช้ดุลพินิจเทียบประโยชน์ และความเสี่ยงของการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ในคนแก่อายุ 84 ปี กล่าวคือ ในการจะรักษา ด้วยวิธีการรุนแรง รุกล้ำทั้งหลาย วงการแพทย์ มุ่งประโยชน์ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ในสองอย่างคือ (1) ความยืนยาวของชีวิต (2) คุณภาพชีวิต หากทำไปแล้ว ไม่ได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ การรักษานั้น เรียกว่าเป็นการรักษา ไร้ประโยชน์ (futile treatment) ซึ่งตามหลักจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ แพทย์ ไม่พึง ให้การรักษาที่ไร้ประโยชน์แก่คนไข้ ข้อมูลการแพทย์ปัจจุบัน พิสูจน์ ไม่ได้ว่า การรักษา มะเร็งต่อมลูกหมาก ที่แพทย์ทำไปสารพัดนั้น จะยืดอายุคนป่วยให้ยืนยาวออกไปได้จริง หรือเปล่า แปลไทย ให้เป็นจีน ก็คือ รักษา ไม่รักษา ก็แปะเอี้ย คือ ตายในเวลาเท่าๆ กัน เพราะทุกวันนี้ วงการแพทย์ยังไม่ทราบเลยว่า โรคมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ (natural course) มันจะเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่รู้เลยว่า ปล่อยโรคไว้ จะเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า การเข้าไปรักษา ผ่าตัด คีโม ฉายแสง จะดีกว่าโรคปล่อยไว้ จริงแมะ ดังนั้นมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ จะใช้หลักคิดแบบมะเร็งที่อื่น ที่ว่า ตรวจวินิจฉัยได้เร็ว รักษาได้เร็ว อัตราการหายสูงนั้น ใช้ไม่ได้ งานวิจัยเรื่องนี้ที่ดีที่สุดชื่อ PIVOT study ซึ่งเอาคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรก มา 695 คน จับฉลาก แบ่งเป็นสองพวก พวกแรกผ่าตัดรักษาไปตามสูตร พวกที่สองทิ้งไว้ ไม่ทำอะไรเลย แล้วตามดูไป 10 ปี พบว่า พวกที่ทำผ่าตัด เกิดมะเร็ง ขยายตัว และแพร่กระจายน้อยกว่าพวกไม่ทำ อย่างมีนัยสำคัญ แต่อัตราการรอดชีวิต (length of life) ของทั้งสองพวก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการรักษา กลับพบว่า ไม่ต่างกันเลย ส่วนเรื่องประโยชน์ ในด้านคุณภาพชีวิตนั้น คุณพ่อของคุณ ตอนนี้ ฉี่ได้ อั้นได้ นี่เรียกว่า มีคุณภาพชีวิตที่สุดยอดแล้ว การรักษา มีแต่จะทำให้คุณภาพชีวิตที่ดี ๆ อยู่นี้ แย่ลง ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล ยังไม่นับถึงที่จะโดน พิษของรังสี และของยาอีก เมื่อความยืนยาวของชีวิต ก็ไม่ได้ คุณภาพชีวิต ก็มีแต่จะขาดทุน แล้วจะรักษา ไปทำพรือ ละครับ คำแนะนำของผม อาจไม่เหมือนกับของหมอคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา คำแนะนำของผม เกิดจากการชั่งน้ำหนักหลักฐานวิทยาศาสตร์จากมุมมอง แบบองค์รวมของแพทย์ประจำครอบครัว ย่อมแตกต่างจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา ที่มองมา จากมุมของการมุ่งรักษาโรคนั้น ให้สุดๆ กันไปเลย รู้ดี รู้ชั่ว กันไปข้างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง การแพทย์แผนปัจจุบันนี้ มี สองด้าน ด้านสว่าง ก็คือ การมุ่งเอาวิทยาศาสตร์ มาช่วยรักษาคนป่วย ให้หาย อีกด้านหนึ่ง ซึ่งผม ขอเรียกว่า เป็นด้านมืดของการแพทย์แผนปัจจุบัน ก็คือ การที่ธุรกรรมทั้งหมด มีธรรมชาติ เป็นการเสนอขายสินค้า ผม หมายถึงว่า ทั้ง การวินิจฉัย ก็ดี การตรวจ ก็ดี และการรักษา ก็ดี คือ สินค้า ที่ บริษัทยา บริษัทเครื่องมือ โรงพยาบาล ซึ่งเรา เรียกรวมๆ ว่า medical industry เป็นผู้ขาย คุณจะต้องเรียนรู้ ที่จะใช้ประโยชน์จากด้านสว่าง แต่หลีกเลี่ยง การพลัดหลง เข้าไปสู่ด้านมืด นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์สุขภาพMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ให้ความเห็นนี้ จริงหรือไม่ถามความเห็นของหมอสันต์ ผมแนะนำในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวว่า 1.. เกิดเป็นผู้ชายหากอายุมาก (เกิน 75 ปี) และอยู่สุขสบายดี ไม่ต้องไปตรวจ PSA 2.. หากเผลอตรวจ PSA ไปแล้วพบว่าได้ค่าสูงแต่อยู่สุขสบายดียังฉี่ออกและอั้นฉี่ได้ ก็ไม่ต้องไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก 3.. หากเผลอไปตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากไปและยืนยันว่าเป็นมะเร็งแล้ว โดยที่ยังอยู่สบายดีฉี่ออกอยู่ก็ไม่ควรไปตรวจการแพร่กระจาย (bone scan, MRI) 4. หากเผลอไปตรวจการแพร่กระจายแล้วไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องเดินหน้ารักษามะเร็งด้วยผ่าตัดฉายแสงหรือฮอร์โมนบำบัดหรือเคมีบำบัด คำแนะนำข้อ 1 และ 2 นั้นเป็นไปตามคำแนะนำล่าสุดของคณะกรรมการป้องกันโรคของรัฐบาลสหรัฐฯ (USPSTF) ว่าเกิดเป็นชายที่อยู่มาได้ถึงอายุ 75 ปีแล้ว อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยการเที่ยวตรวจ PSA เพราะผลที่ได้ออกมาจะนำไปสู่การตรวจและการรักษาที่ไม่จำเป็นต่างๆนาๆ โดยที่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่นิ่งๆอยู่เปล่าๆโดยไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว อัตราตายจากมะเร็งต่อมลูกหมากโหลงโจ้งแล้วก็ไม่แตกต่างกัน ส่วนคำแนะนำข้อที่ 3 และ 4 นั้นเป็นผลจากการใช้ดุลพินิจเทียบประโยชน์และความเสี่ยงของการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากในคนแก่อายุ 84 ปี กล่าวคือในการจะรักษาด้วยวิธีการรุนแรงรุกล้ำทั้งหลาย วงการแพทย์มุ่งประโยชน์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งในสองอย่างคือ (1) ความยืนยาวของชีวิต (2) คุณภาพชีวิต หากทำไปแล้วไม่ได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ การรักษานั้นเรียกว่าเป็นการรักษาไร้ประโยชน์ (futile treatment) ซึ่งตามหลักจริยธรรมวิชาชีพแพทย์ แพทย์ไม่พึงให้การรักษาที่ไร้ประโยชน์แก่คนไข้ ข้อมูลการแพทย์ปัจจุบันพิสูจน์ไม่ได้ว่าการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่แพทย์ทำไปสาระพัดนั้นจะยืดอายุคนป่วยให้ยืนยาวออกไปได้จริงหรือเปล่า แปลไทยให้เป็นจีนก็คือรักษาไม่รักษาก็แปะเอี้ย คือตายในเวลาเท่าๆกัน เพราะทุกวันนี้วงการแพทย์ยังไม่ทราบเลยว่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนี้ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ (natural course) มันจะเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่รู้เลยว่าปล่อยโรคไว้จะเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการเข้าไปรักษาผ่าตัดคีโมฉายแสงจะดีกว่าโรคปล่อยไว้ จริงแมะ ดังนั้นมะเร็งต่อมลูกหมากนี้จะใช้หลักคิดแบบมะเร็งที่อื่นที่ว่าตรวจวินิจฉัยได้เร็ว รักษาได้เร็ว อัตราการหายสูงนั้น ใช้ไม่ได้ งานวิจัยเรื่องนี้ที่ดีที่สุดชื่อ PIVOT study ซึ่งเอาคนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรกมา 695 คน จับฉลากแบ่งเป็นสองพวก พวกแรกผ่าตัดรักษาไปตามสูตร พวกที่สองทิ้งไว้ไม่ทำอะไรเลย แล้วตามดูไป 10 ปี พบว่าพวกที่ทำผ่าตัดเกิดมะเร็งขยายตัวและแพร่กระจายน้อยกว่าพวกไม่ทำอย่างมีนัยสำคัญ แต่อัตราการรอดชีวิต (length of life) ของทั้งสองพวก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการรักษา กลับพบว่าไม่ต่างกันเลย ส่วนเรื่องประโยชน์ในด้านคุณภาพชีวิตนั้น คุณพ่อของคุณตอนนี้ฉี่ได้อั้นได้นี่เรียกว่ามีคุณภาพชีวิตที่สุดยอดแล้ว การรักษามีแต่จะทำให้คุณภาพชีวิตที่ดีๆอยู่นี้แย่ลง ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาล ยังไม่นับว่าจะโดนพิษของรังสีและของยาอีก เมื่อความยืนยาวของชีวิตก็ไม่ได้ คุณภาพชีวิตก็มีแต่จะขาดทุน แล้วจะรักษาไปทำพรือละครับ คำแนะนำของผมอาจไม่เหมือนกับของหมอคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา คำแนะนำของผมเกิดจากการชั่งน้ำหนักหลักฐานวิทยาศาสตร์จากมุมมองแบบองค์รวมของแพทย์ประจำครอบครัว ย่อมแตกต่างจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาที่มองมาจากมุมของการมุ่งรักษาโรคนั้นให้สุดๆกันไปเลยรู้ดีรู้ชั่วกันไปข้างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง การแพทย์แผนปัจจุบันนี้มันมีสองด้าน ด้านสว่างก็คือการมุ่งเอาวิทยาศาสตร์มาช่วยรักษาคนเจ็บไข้ให้หาย อีกด้านหนึ่งซึ่งผมขอเรียกว่าเป็นด้านมืดของการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือการที่ธุรกรรมทั้งหมดมีธรรมชาติเป็นการเสนอขายสินค้า ผมหมายถึงว่าทั้งการวินิจฉัยก็ดี การตรวจก็ดี และการรักษาก็ดี คือสินค้า โดยที่บริษัทยา บริษัทเครื่องมือ โรงพยาบาล ซึ่งเราเรียกรวมๆว่า medical industry เป็นผู้ขาย คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากด้านสว่าง แต่หลีกเลี่ยงการพลัดหลงเข้าไปสู่ด้านมืด นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด 19 ได้🛎 กระทรวงสาธารณสุขยืนยันฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด-19 ได้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้ว ฟ้าทะลายโจรมีสาร "แอนโดร กราโฟไลด์" ต้านโควิด-19 ไม่ให้เข้าเซลล์ และต้านการแตกตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายได้ หารับประทานเพื่อป้องกันกันได้เลยวันนี้ .. .. ✅วิธีเลือกซื้อยาฟ้าทะลายโจร 🔺ยาฟ้าทะลายโจรมี 2ชนิด คือ แบบสกัดและแบบบดผง 🔺ดูบนฉลากว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่น้อยกว่า 20มก. ถ้าไม่มีระบุแปลว่าเป็นแบบบดผง 🔺ฟ้าทะลายโจรแบบบดผง จะมีสารแอนโดนกราโฟไลด์ประมาณ 4-5 มก. (เทียบกับแบบสกัดที่มีถึง 20 มก. และยังสกัดสาร AP3 มีผลข้างเคียงทำให้แขนขาอ่อนแรงออกไปแล้ว) 🔺สามารถกินเป็น immune booster สร้างภูมิต้านทานเชื้อให้กับร่างกายได้ 🛎คำแนะนำการใช้ยาแคปซูลสกัดฟ้าทะลายโจรแบรนด์การบูร เพื่อป้องกันการติดเชื้อในภารกิจประจำวันช่วงการแพร่ระบาดรอบ 3 นี้ ให้รับประทานเป็น Immune Booster วันละ 3 แคปซูล ตอนเช้าก่อนออกนอกบ้าน เพื่อรักษาปริมาณความเข้มข้น 60 มก. ของสารแอนโดรกราโฟไลด์ไว้ในกระแสโลหิตให้ได้ประมาณ 10-12 ชม. ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจประจำวัน ซึ่งจะไม่เกิดผลข้างเคียงเพราะสกัดเอาสาร AP3 ที่หากทานต่อเนื่องจะทำให้แขนขาอ่อนแรงออกไปแล้ว เราสามารถใช้การทานเป็น Imune booster ต่อเนื่องเช่นนี้ได้ โดยหยุดรับประทานเฉพาะวันที่พักผ่อนอยู่กับบ้านเท่านั้น 🔺สำหรับเด็กอายุ 7-12 ขวบ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กก. ให้รับประทาน 2 แคปซูล/วัน 🔺สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน 🛎 คำแนะนำสำหรับกรณีสัมผัสผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เองแล้ว ให้รับประทานวันละ 3/3/3 แคปซูล มื้อเช้า กลางวัน เย็น รวมเป็น 9 แคปซูลต่อวัน ทานต่อเนื่อง 5 วัน 45 แคปซูล ระหว่างรอผลตรวจหรือทานเมื่อทราบผลตรวจแล้วว่าติดโควิด-19 และต้องกักตัวเอง ด้วยเหตุสถานพยาบาลเต็ม รพ.ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ในกรณีที่เป็นผู้ที่รอผลตรวจ แล้วผลตรวจรอบแรกออกเป็น negative ก็ให้กินต่อจนครบ 5 วันตามโดสรักษาที่แนะนำเพื่อรอการตรวจรอบสอง เพราะบางท่านไปตรวจพบเชื้อตอนรอบสอง หากเราใช้โดสรักษาของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ตามนี้ แล้วติดเชื้อ เราก็สามารถหายเป็นปกติได้หากร่างกายแข็งแรง เพราะสารแอนโดรกราโฟไลด์เข้มข้นในแคปซูลสกัดฟ้าทะลายโจรนี้สามารถจะเพิ่มภูมิต้านทานเชื้อให้กับให้ร่างกายได้ สำหรับเด็กอายุ 7-12 ขวบ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กก. โดสรักษาให้รับประทานครึ่งหนึ่งของโดสสำหรับผู้ใหญ่ คือที่ 5 แคปซูล/วัน แบ่งเป็น 3 เวลาก่อนอาหาร คือ 2/2/1 แคปซูล .. https://youtu.be/QtmUGfkGfp8โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรอง ผบ.ตร.นำกำลังบุกบ้านผู้จำหน่ายยาดีท็อกซ์ลดความอ้วนอันตรายย่านบางแก้ว หลังพบมีผู้เสียชีวิต 4 รายพล.ต.อ.วีระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย นพ.รังสรรค์ วงษ์บุญหนัก หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดสมุทรปราการ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 46/124 หมู่ 17 หมู่บ้านกฤตยา ซ.6 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังสืบทราบมาว่าที่บ้านหลังดังกล่าวลักลอบจำหน่ายยาดีท็อกซ์และยาลดความอ้วนที่มีส่วนผสมของสารต้องห้าม เป็นอันตรายต่อร่างกาย และทำให้ผู้ที่ทานยาทั้งสองชนิดนี้เสียชีวิตไปแล้ว 4 รายภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมตัวนายจิรายุส คงวัฒนานุกูล อายุ 45 ปี เจ้าบ้านหลังดังกล่าว พร้อมยึดของกลางยาดีท็อกซ์และยาลดความอ้วนที่มาในรูปอาหารเสริม ยี่ห้อลีน (LYN) อยู่ในกระเป๋าเดินทางมี 2 ชนิดคือแบบดีท็อกซ์กล่องสีดำ และแบบบล็อกแอนด์เบิร์น กล่องสีขาว จำนวน 153 กล่อง ที่มีการซื้อขายกันทางโซเชียลอย่างแพร่หลาย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้สุ่มตรวจตัวอย่างยาดีท็อกซ์และยาลดความอ้วนยี่ห้อดังกล่าวแล้วพบว่า สารบิซาโคดิล (Bisacodyl) และไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกายและมีการประกาศห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2522 เพราะมีอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้สั่งซื้อยาชนิดนี้ไปรับประทาน เพื่อหวังลดความอ้วน ผ่านไป 1 เดือนผู้ที่ซื้อยาชนิดนี้ไปทานเสียชีวิตแล้วถึง 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายมีอาการเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน จากการสอบสวนนายจิรายุส เจ้าบ้านหลังดังกล่าว ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนมีรูปร่างอ้วน แต่หลังจากที่สั่งซื้อยาชนิดนี้มาทานได้ไม่นาน น้ำหนักลดลง รูปร่างดีขึ้นจนเห็นได้ชัด และมีคนมาสอบถามจำนวนมาก ตนจึงได้หันมาสั่งซื้อยายี่ห้อดังกล่าวมาจากตัวแทนจำหน่ายรายอื่นมาในช่วงก่อนสงกรานต์ จำนวน 500 กล่อง และมาจัดจำหน่ายเองผ่านระบบออนไลน์ และมีลูกค้าสั่งซื้อไปแล้วประมาณ 350 กล่องในช่วงสงกรานต์ โดยไม่รู้ว่าอาหารเสริมตัวดังกล่าว เป็นยาอันตรายต่อผู้บริโภค ขณะที่ นพ.รังสรรค์ วงษ์บุญหนัก หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า นอกจากยาที่พบจะมีสารต้องห้ามเจือปน ซึ่งผิดกฎหมาย แล้วการโฆษณาที่บรรจุภัณฑ์ ก็ยังเป็นความผิด เพราะพบว่าอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนำส่ง อย.เพื่อทำการตรวจหาสารปนเปื้อนอย่างละเอียด และยังไม่มีการแจ้งข้อหาแก่นายจิรายุส แต่อย่างใด แต่หากผลการตรวจสอบออกมาแล้วพบว่า อาหารเสริมล็อตนี้มีสารปนเปื้อนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับนายจิรายุสอีกครั้งลดความอ้วนThanyaphon Phuangket• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย7 Health Benefits of Sunlight1. Improves your sleep Your body creates a hormone called melatonin that is critical to helping you sleep. Because your body starts producing it when it’s dark, you usually start to feel sleepy two hours after the sun sets, which is one of the reasons our bodies naturally stay up later in the summer. Research indicates that an hour of natural light in the morning will help you sleep better. Sunshine regulates your circadian rhythm by telling your body when to increase and decrease your melatonin levels. So, the more daylight exposure you can get, the better your body will produce melatonin when it’s time to go to sleep. Related: 5 Tips for Preventing Skin Cancer 2. Reduces stress Melatonin also lowers stress reactivity and being outside will help your body naturally regulate melatonin, which can help reduce your stress level. Additionally, because you're often doing something active when you’re outside (walking, playing, etc.), that extra exercise also helps to lower stress. 3. Maintains strong bones One of the best (and easiest) ways to get vitamin D is by being outside. Our bodies produce vitamin D when exposed to sunlight—about 15 minutes in the sun a day is adequate if you’re fair skinned. And since Vitamin D helps your body maintain calcium and prevents brittle, thin, or misshapen bones, soaking in sun may be just what the doctor ordered. 4. Helps keep the weight off Getting outside for 30 minutes sometime between 8 a.m. and noon has been linked to weight loss. There, of course, could be other factors to this, but it seems there's a connection between sunlight in the early morning and weight loss. 5. Strengthens your immune system Vitamin D is also critical for your immune system, and with consistent exposure to sunlight, you can help strengthen it. A healthy immune system can help reduce the risk of illness, infections, some cancers, and mortality after surgery. 6. Fights off depression It’s not just in your head; there’s a scientific reason being in the sunshine improves your mood. Sunshine boosts your body’s level of serotonin, which is a chemical that improves your mood and helps you stay calm and focused. Increased exposure to natural light may help ease the symptoms of seasonal affective disorder--a change in mood that typically occurs in the fall and winter months when there are fewer hours of daylight. 7. Can give you a longer life A study that followed 30,000 Swedish women revealed that those who spent more time in the sun lived six months to two years longer than those with less sun exposure. More research needs to be done in this area, but it’s something scientists are continuing to study. Related: 5 Effective Ways to Soothe Sunburns At Home Of course, a little sunshine can go a long way (and too much is harmful for our skin). Depending on the shade of your skin, scientists estimate your body can produce vitamin D in about 5 to 30 minutes in the sun. If you're wearing sunscreen, you may not produce as much vitamin D. If you're outside for some much-needed vitamin D, don't expose bare skin longer than 5 to 30 minutes.JonLingAndLang• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใครเคยทิ้ง "เม็ดขนุน" ระวังจะเสียดาย เพราะเจ้าเม็ดเล็กๆ นี้ สรรพคุณใหญ่กว่าที่คิด! แค่ต้มกินหรือนำมาคั่ว ก็กลายเป็นสมุนไพรดีๆ ประจำบ้านได้แล้ว วันนี้รวมมาให้ 20 สรรพคุณของเม็ดขนุนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน 1. บำรุงไตให้แข็งแรง 2. ช่วยขับปัสสาวะ 3. ลดความดันโลหิต 4. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด 5. ลดไขมันในเลือด 6. บำรุงหัวใจ 7. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร 8. แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ 9. ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น 10. ป้องกันโรคริดสีดวง 11. บำรุงกระดูกและฟัน (มีแคลเซียมสูง) 12. ลดอาการอ่อนเพลีย บำรุงกำลัง 13. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ 14. ลดการอักเสบในร่างกาย 15. บำรุงผิวพรรณให้สดใส 16. ชะลอวัย 17. ป้องกันการเกิดนิ่วในไต 18. บำรุงเลือด 19. ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะ 20. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย วิธีกินง่ายๆ แค่ต้มเม็ดขนุนให้สุก (อย่าลืมลอกเปลือกออกก่อนกิน) หรือจะเอาไปคั่วให้หอม ก็กินเพลิน อร่อย แถมได้ประโยชน์อีกด้วย! #สมุนไพรในครัว #เม็ดขนุนไม่ใช่ของเหลือสุขภาพยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขออนุญาตนะคะ. ฝากบอกข่าวดีสำหรับข้าราชการบำนาญ. ผู้สูงอายุ/สว. /(ผู้มีอายุ. 60 ปีขึ้นไปนะคะ) ท่านมีสิทธิ์ลงทะเบียนรับเงินแจกฟรีจากทางรัฐคนละ. 10,000. บาททุกคนนะคะ. ยกเว้น. บุคคลดังต่อไปนี้นะคะ. 1. ข้าราชการบำนาญที่มีเงินเดือนบำนาญและรายได้อื่นมากกว่าปีละ. 800,000บาท.จะไม่ผ่าน 2. ข้าราชการบำนาญที่มีเงินฝากธนาคารอยู่มากกว่า. 500,000. บาทนะคะ. จะไม่ผ่าน และข้ออื่นๆๆศึกษาดูนะคะ. มีส่วนน้อยนะคะที่จะไม่ผ่าน. สองข้อข้างบนนี้นะคะ. ข้าราชการบำนาญส่วนมากจะผ่านนะคะ. ท่านมีสิทธิ์ลงทะเบียนรับเงินหมื่นนะคะ. ห่วงใยท่านที่เข้าใจผิดว่า. ข้าราชการบำนาญไม่มีสิทธิ์ลงทะเบียน. ท่านมีสิทธิ์ทุกคนนะคะรอลงทะเบียนรอบต่อไปนะคะ. รอบเก็บตกสว. ค่ะ. ด้วยรักและห่วงใยเพื่อนพี่น้องข้าราชการบำนาญทุกท่านนะคะ. ขอให้พี่น้องร่ำรวย. เฮงเฮงๆๆทุกท่านค่ะข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้วmeter: mostly-false--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรถไฟฟ้า ถ้าไม่รวย อย่าซื้อนะ จงคิดดู ให้ดีๆ ไม่ไหลตามกระแส 1 เวลาซ่อม แพงกว่ารถน้ำมัน มากนัก เข้าศูนย์อย่างเดียว ราคา 3 แสน 5 แสน จะยังเปลี่ยน ซ่อม ขับต่อไหม 2 ล้านห้า ล้านสอง ซื้อมา ขายต่อไม่ได้ หมายความว่า ล้านห้า ล้านสอง นี่คือ ทิ้งไปเลยนะ ถ้าไม่สู้เรื่องค่าซ่อม หลักแสน หลายๆแสน 3 คุยกับศูนย์ซ่อม ได้ไหม ไม่เหมือนรถน้ำมัน มีอู่ข้างนอก นะ แล้ว อะไหล่เปลี่ยนเป็น ตัวๆ ได้นะ แต่ไฟฟ้าคือ ยกทั้งหมด แพงจัด 4 ทุกอย่างต้องอัพเดท ซอฟแวร์ อะไรเนี่ยะ จ่ายเงินทั้งนั้น พอถึงจุดหนึ่งก็ อัพเดทไม่ได้ จะทำไงต่อ 5 ตอนนี้คนเห่อกัน น้ำมันแพง แต่ถ้ารวย ไม่เป็นไรหรอก เพราะรถไฟฟ้า คนจน เขาไม่ซื้อหรอก การขายต่อเป็นมือ๒ จึง ไม่ค่อยมี เต๊นท์รถก็ไม่เอาด้วย นานๆไป จะเป็นสุสาน นะ ............... รถน้ำมัน จะจ่ายเป็นเงิน สองพัน ห้าพัน แปดพัน สองหมื่น สามหมื่น รถไฟฟ้าเวลาจ่ายที 200,000 300,000- 500,000 เงินก้อนเลย ไหว ไหมล่ะ ....... ต้องคิดเยอะๆ นะครับ แต่ถ้ารวยแล้ว ซื้อได้ผู้บริโภคเฝ้าระวังมีม เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยขณะนี้มีการหลอกลวงทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่เรียกว่า SIM SWAP FRAUD มันทำงานอย่างไร? 1. การหลอกลวงแบบใหม่ที่เรียกว่า SIM SWAP เริ่มต้นดังนี้... เครือข่ายโทรศัพท์ของคุณจะว่างเปล่า / ไม่มีสัญญาณ / Zero Bar และหลังจากนั้นไม่นาน คุณจะได้รับสาย 2. ผู้โทรจะแจ้งให้คุณทราบว่าเขากำลังโทรจากบริษัทโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยขึ้นอยู่กับเครือข่ายของคุณและแจ้งว่ามีปัญหาในเครือข่ายมือถือของคุณ 3. เขา / เธอจะแนะนำให้คุณกด 1 บนโทรศัพท์ของคุณเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายอีกครั้ง *โปรด*...ในขั้นตอนนี้ ไม่ต้องกดอะไร แค่วางสาย หรือ วางสาย หากคุณกด 1 เครือข่ายจะปรากฏขึ้นทันทีและในชั่วพริบตา * โทรศัพท์ของคุณจะว่างเปล่าอีกครั้ง (Zero Bar) และด้วยการกระทำนั้นโทรศัพท์ของคุณจะถูกแฮ็กแล้ว * ในไม่กี่วินาที พวกเขาจะทำให้บัญชีธนาคารของคุณว่างเปล่า และคุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใด ๆ.. เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะปรากฏราวกับว่าสายของคุณถูกตัดการเชื่อมต่อโดยไม่มีเครือข่าย ในขณะที่ซิมของคุณถูก เปลี่ยน อันตรายที่นี่คือคุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมใดๆ ระวังกันให้มาก โปรดแชร์เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากได้รู้ กลลวง! นี้ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! หัวไชเท้าผสมน้ำผึ้งรักษาโรคริดสีดวงทวารตามที่มีข้อความข่าวสารถูกเผยแพร่เกี่ยวกับผู้บริหาร ก.ล.ต. เป็นสมาชิกทีมผู้ดูแลโทเคนดิจิทัลนั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีโฆษณาเรื่องผู้บริหาร ก.ล.ต. เป็นสมาชิกทีมผู้ดูแลโทเคนดิจิทัล ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ด้วยมีการเผยแพร่ภาพผู้บริหาร ก.ล.ต. พร้อมด้วยโลโก้ สำนักงาน ก.ล.ต. และอ้างว่า เป็นสมาชิกทีมผู้ดูแลโทเคนดิจิทัลนั้นไม่ได้มาจากหน่วยงานแต่อย่างใด ทั้งนี้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับจุดสังเกตที่ต้องระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 6 ข้อดังนี้ 1. เสนอผลตอบแทนสูงเกินจริง เร่งรัดให้ตัดสินใจลงทุน 2. คำโฆษณาชักชวนว่า ไม่มีความรู้ก็ลงทุนได้ 3. อ้างสัญลักษณ์ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสมาคมที่เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ 4. แอบอ้างรูปดารา คนดัง หรือผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ 5. ชื่อผู้รับโอนใช้ชื่อบัญชีส่วนตัว 6. ปลอมแปลงใบอนุญาต/อ้างชื่อ/ตั้งชื่อให้ใกล้เคียงบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd47606• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยหนุ่มพลเมืองดีโร่แจ้งตำรวจ หลังให้เบาะแสพ่อค้ายาบ้า ผ่านไปแค่วันเดียว พ่อค้ายาโผล่ถึงตัว อ้างกูมีนาย ระวังตัวให้ดี สุดท้ายผ่านไป 2 เดือน ถูกขับรถยนต์ไล่ชนจนได้รับบาดเจ็บ28 ธ.ค.62) นายประภัทร อายุ 44 ปี ชาวบ้านตำบลซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อนุชา พูลยอด รองสารวัตรสอบสวน สภ.บึงสามพัน หลังถูกนายเอ (นามสมมติ) อายุราว 30 ปีเศษ ใช้รถยนต์ นิสสัน สีขาว ไล่ชนผู้เสียหาย เหตุเกิดบนถนน 4 แยกตอกลาว ซอยเทศบาลที่ 7 หมู่ที่ 7 ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จนได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ราว 2 เดือน นายประภัทร พบเห็น นายเอ ขายยาบ้าให้กับคนงานในโรงงานขายน้ำแข็ง ในพื้นที่อำเภอบึงสามพัน จึงแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บึงสามพัน ทราบ ซึ่งหลังแจ้งข้อมูลกับทางตำรวจได้เพียง 1 วัน นายเอ ก็เดินมามาหานายประพัทร พร้อมกับพูดว่ากูเด็กมีนาย มึงระวังตัวให้ดี จากนั้นตนเองก็ต้องระวังตัวมาตลอดเพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย หลังจากทำตัวเป็นพลเมืองดีแต่กลับต้องมาระวังตัวแจstd49567• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#ค่าจัดการศพ#ค่าจัดการศพ ราชกิจจาฯ ประกาศให้ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ตาย ทายาท ได้ 30000บาท จาก พม.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสียชีวิตทุกสาเหตุ ได้ทุกคนที่เป็นคนไทย คนกรุงเทพ รับที่สำนักงานเขต คนต่างจังหวัดรับที่ว่าการอำเภอ ภายใน 6 เดือน ให้ทายาทนำหลักฐานของผู้ตาย คือ 1. ใบมรณบัตร ผู้ตาย 2. ทะเบียนบ้าน ผู้ตาย 3. บัตร ปชช. ผู้ตาย 4. บัตร ปชช. ผู้รับ 5. ทะเบียนบ้าน ผู้รับ ไปยื่นเรื่องขอรับเงินดังกล่าวในเวลาราชการ ช่วยกระจายข่าวไป ให้ชาวบ้านทั่วไปได้ทราบด้วยครับผู้บริโภคเฝ้าระวังabdazaaq1• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเข้าเว็บไชต์ ค้นหาแปลงที่ดิน( https://Landsmaps.dol.go.th/) เพื่อเชคข้อมูลที่ดิน อันนี้จริงไหมท่านที่มีที่ดิน บ้าน หรือ อาคารพาณิชย์ แต่ซื้อไว้นานแล้ว ไม่ได้ไปดู จนลืมไปว่า มันอยู่ที่ใดแน่ หากอยากรู้ว่า ที่ดินแปลงนั้น ว่า อยู่ตรงไหน สามารถนำเลขที่โฉนด อำเภอ จังหวัด มากรอกใส่ เพื่อตรวจดูตำแหน่งที่ดินจากโฉนดที่ดิน ได้ง่ายๆ บนเว็บไชต์ของกรมที่ดิน ซึ่งตอนนี้ทางกรมที่ดินก็ได้อัปเดตหน้าตาของเว็บไซต์ใหม่ สวยงาม ใช้งานง่ายมากขึ้น โดย 1. เข้าเว็บไชต์ ค้นหาแปลงที่ดิน( https://Landsmaps.dol.go.th/) 2. กดเลือกและกรอกข้อมูลจังหวัด อำเภอ และ เลขที่ โฉนดของที่ดินที่สนใจ ด้านซ้ายบนของเว็บ 3. กด"ค้นหา" ก็เป็นอันเรียบร้อย สิ่งที่เราดูได้จากระบบ เกี่ยวกับแปลงที่ดิน ตำแหน่งของที่ดิน รูปร่างแปลงที่ดิน (เส้นสีแดง) ขนาดแปลงของที่ดิน (ไร่, งาน, ตารางวา) ราคาประเมินจากกรมธนารักษ์ (บางแปลงอาจไม่ขึ้นราคาประเมิน สามารถตรวจสอบราคาประเมินที่กรมธนารักษ์อีกครั้ง)Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ