2209 ข้อความ
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำมะนาวฆ่าเชื้อโควิดได้ตื่นเช้าขึ้นมา เอาน้ำเกลืออุ่นๆให้เค็มหน่อย น้ำเกลืออุ่นๆมาล้างคอ มาบ้วนปากสัก2-3นาที แล้วบ้วนทิ้ง ดื่มน้ำสมุนไพรที่เตรียมไว้น้ำมะนาวหรือน้ำขิงอุ่นๆดื่มลงไปสัก300cc เพื่อล้างลำคออีกที ถ้าไวรัสโควิดยังอยู่ มันก็จะลงไปในกระเพาะอาหาร ในกระเพาะอาหารมันจะมีน้ำย่อย บวกกับน้ำมะนาวมีกรดฆ่าไวรัสนี้ได้ ทานวันละ 3 เวลา ก่อนอาหารstd48357• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเพียงแค่โทร 1111 ได้รับเงินเยียวยา 5,000 ทันทีจากกรณีที่มีข้อความข่าวชวนเชื่อ แนะนำเทคนิคหากไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท เพียงแค่โทร 1111 จะได้รับเงินทันที นั้น ธนาคารกรุงไทยได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยใช้ระบบ AI คัดกรองอย่างละเอียด ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน. com เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะ ตามด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก วันเดือนปีเกิด พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน โดยสถานะการลงทะเบียนมี 3 แบบ ได้แก่ ได้รับสิทธิ์รอการโอนเงิน อยู่ในกระบวนการคัดกรอง ข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากธนาคารกรุงไทย ได้ที่ เฟซบุ๊ก Krungthai Care หากต้องตรวจสอบสิทธิ์ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน. com เลือกเมนูตรวจสอบสถานะFang Orawan• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกม.ใหม่ เมื่อประชาชน ถูกฉ้อโกง ทางออนไลน์ สามารถโทรอายัดเงินธนาคารเจ้าของบัญชีได้ทันทีกม.ใหม่ เมื่อประชาชน ถูกฉ้อโกง ทางออนไลน์ สามารถโทรอายัดเงินธนาคารเจ้าของบัญชีได้ทันที และธนาคารต้องอายัดต่อทุกทอด จากนั้น ให้ท่านเดินทางไป สถานีตำรวจที่สะดวก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้มีการสอบสวน และมีหมายอายัดเงินกับทางธนาคารต่อไป ภายใน 72 ชม. ธนาคารทั้งสิ้น 15 แห่ง ได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคาร เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโทรแจ้งเหตุ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน บรรเทาความเสียหายให้เร็วที่สุด ดังนี้ ธ. กสิกรไทย 0-2888-8888 กด 001 ธ. กรุงไทย 0-2111-1111 กด 108 ธ.กรุงศรีอยุธยา 1572 กด 5 ธ. กรุงเทพ 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3 ธ. ไทยพาณิชย์ 0-2777-7575 ธ. ทหารไทยธนชาต 1428 กด 03 ธ. ออมสิน 1115 กด 6 ธ. ซีไอเอ็มบีไทย 0-2626-7777 กด 00 ธ. ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย 0-2697-5454 ธ. ยูโอบี 0-2344-9555 ธ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 0-2359-0000 กด 8 ธ. อาคารสงเคราะห์ 0-2645-9000 กด 33 ธ. ซิตี๋แบงก์ 0-2344-9555 ธ. เกียรตินาคินภัทร 0-2165-5555 กด 6 ธ. เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 0-2555-0555 เซฟเก็บไว้นะครับ หรือแชร์ต่อให้เพื่อน หากเกิดเหตุไม่คาดคิดทางการเงินจะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย>ใครครองโลก🌎< -ไบเดน -ปูติน ได้โต้เถียงกัน เกี่ยวกับใคร….!!! เป็นผู้ดูแลโลก 🌎 -สหรัฐอเมริกา -รัสเซีย หรือ -จีน โดยปราศจาก ข้อสรุปใดๆ จึงหันไปถาม…… "นเรนทรา โมดี" นายกรัฐมนตรีอินเดียว่า…… >ใคร….เป็น ผู้ดูแลโลก🌎 โมดีตอบว่า *ทั้งหมดที่ผมรู้คือ:* 1. >กูเกิล< ซีอีโอ เป็น ชาวอินเดีย 2. ซีอีโอของ บริษัทไมโครซอฟท์ เป็นชาวอินเดีย 3. ซีอีโอ ของอะโดบีเป็น ชาวอินเดีย 4. ซีอีโอ IBM เป็นชาวอินเดีย 5. ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWITTER เป็น ชาวอินเดีย 6. ซีอีโอของ เน็ตแอพเป็น ชาวอินเดีย 7. ซีอีโอ มาสเตอร์การ์ด เป็น ชาวอินเดีย 8. ซีอีโอดีบีเอส เป็นชาวอินเดีย 9. ซีอีโอ โนวาร์ติสเป็นชาวอินเดีย 10. ซีอีโอของ Diageo เป็น ชาวอินเดีย 11. ซีอีโอแซนดิสก์เป็นชาวอินเดีย 12. ซีอีโอฮาร์แมนเป็นชาวอินเดีย 13. ซีอีโอไมครอนเป็นชาวอินเดีย 14.ซีอีโอของ บริษัทพาโล อัลโต เน็ตเวิร์คส์ เป็น ชาวอินเดีย 15. ซีอีโอของ Reckitt Benckiser เป็นชาวอินเดีย 16. ซีอีโอ IBM เป็นชาวอินเดีย 17. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษเป็น ชาวอินเดีย 18.นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษจะเป็น ชาวอินเดีย 19.นายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายของไอร์แลนด์เป็น ชาวอินเดีย.... 20.รองประธานาธิบดีอเมริกันเป็น ชาวอินเดีย …..แล้วใคร…. ครองโลก 🌎ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนพ.ชาตรี ดวงเนตร แนะนำเรื่องฉีดวัคซีนผมกับภริยาเพิ่งไปฉีด AstraZeneca เมื่อ 2 วันก่อนนี้เองเช่นเดียวกัน ผมแนะนำให้พวกเราไปฉีดอย่างยิ่งครับ ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. โอกาสติดโรคน้อยลง 2. เมื่อติดแล้วโอกาสตายเกือบเป็นศูนย์ 3. ตัดวงจรการแพร่โรคลง ประเทศเราค้องการคนที่มีภูมิคุ้มกันประมาณ 60% (Herd Immunity) 4. พวกเราชอบเที่ยว ต้องมี Vaccine Passport จึงจะเที่ยวได้ใน New Normal ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 5. โดยสรุป ความเห็นส่วนตัวของผมเราผู้สูงอายุควรฉีด AstraZeneca เพราะวิธีการผลิตและ effect ระยะยาวก็เป็นที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ (คล้ายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พวกเราฉีดกันทุกปี) ส่วนตัวอื่นเช่น Pfizer & Moderna (messenger RNA) วงการแพทย์ไม่รู้ ผลข้างเคียงระยะยาวเลยเพราะเป็นวัคซีนที่ผลิตมาวิธีใหม่ 6. โดยส่วนตัวผมทาน Baby Aspirin วันละ 1 เม็ดหนึ่งอาทิตย์ก่อนฉีด และ 2 อาทิตย์หลังฉีดเพื่อป้องกัน Blood clots จากการฉีดวัคซีน เป็นความเห็นส่วนตัวครับและขอให้เพื่อนทุกท่านปลอดภัยนะครับ นพ.ชาตรี ดวงเนตรโควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโปรดแชร์สิ่งนี้กับเพื่อนที่ อายุ 60 ปีขึ้นไป ---------------~~~-------------- การหลงลืมโดยศาสตราจารย์ Bruno Dor แห่งสถาบันโรคความจำและ โรคอัลไซเมอร์ชั่วคราว (IMMA) ที่ La Pitié-Salpêtrière - โรงพยาบาลปารีส: "ถ้าใครรู้ตัวว่ามีปัญหาความจำของเขา เขาก็ไม่น่าจะมีสมองเสื่อม" มันมักเกิดขึ้นในคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป พวกเขามักบ่นว่าไม่มีความทรงจำ แท้จริงแล้วนี่คือ "Anosognosia" หรือการหลงลืมชั่วคราว ครึ่งหนึ่งของคนอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีอาการบางอย่างที่เกิดขึ้นเนื่องจากอายุ มากกว่าเพราะโรค.... กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือ: - ลืมชื่อของบุคคล - ไปที่ห้องในบ้าน แล้วนึกไม่ออกว่าทำไมเราถึงไปที่นั่น - ชื่อภาพยนตร์หรือนักแสดง - เสียเวลาค้นหาที่เราทิ้งแว่นตาหรือกุญแจไว้ ... ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ เนื่องจากอายุ - ด้านล่างนี้จะเป็นการทดสอบทางระบบประสาทเล็กน้อย: ใช้สายตาของคุณเท่านั้น! 1- ค้นหา C ในตารางด้านล่าง! OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOCOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO 2- หากคุณพบ C แล้ว จากนั้นหา เลข6 ในตารางด้านล่าง 99999999999999999999999999999999999999999999999 99999999999999999999999999999999999999999999999 99999999999999999999999999999999999999999999999 69999999999999999999999999999999999999999999999 99999999999999999999999999999999999999999999999 99999999999999999999999999999999999999999999999 3- จากนี้หา N ในตารางมันอาจยากขึ้น้ล็กน้อย! MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMNMM MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMM MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMM MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMM MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMM หากคุณผ่านการทดสอบทั้งสามนี้โดยไม่มีปัญหา: - คุณสามารถยกเลิกการนัดพบกับนักประสาทวิทยาประจำปีได้ - สมองของคุณยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์! - คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์กับอัลไซเมอร์ แชร์สิ่งนี้กับเพื่อนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปสุขภาพมีมไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยค่าพีเอช (pH)คือความเป็นกรดด่างที่มีอยู่ในกระแสเลือด ค่าพีเอชของไวรัสโคโรนามีค่า 5.5 ถึง 8.5 สิ่งที่เราต้องทำเพื่อเอาชนะไวรัสโคโรนาต้องกินอาหารที่มีค่าพีเอช มากกว่า พีเอช ในไวรัสโคโรนา ส่วนอาหารที่มีค่าพีเอช สูงกว่าโคโรนาไวรัสที่น่าสนใจคือ: * มะนาว - 9.9pH ** * อะโวคาโด - 15.6pH * * กระเทียม - 13.2pH * * มะม่วง - 8.7pH * * Tangerine(ส้มเขียวหวาน)- 8.5pH * * สับปะรด - 12.7pH * * Dandelion(ดอกแดนดิไลออน) - 22.7pH * * ส้ม - 9.2pH * ดังนั้นถ้ากินอาหารเหล่านี้จะทำให้เราเอาชนะไวรัสโคโรนาได้ คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณมี coronavirus(ไวรัสโคโรนา) 1. * มีอาการคันที่คอ * 2. * คอแห้ง * 3. * อาการไอแห้ง * 4. อุณหภูมิสูง 5. หายใจถี่ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ต้องรีบใช้น้ำอุ่นกับมะนาวและดื่ม อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้กับตัวคุณเองเท่านั้น ส่งต่อให้ทุกคนในครอบครัวและเพื่อนของคุณ คนที่คุณรัก😘อย. เพิกถอนไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"อธิบดีปศุสัตว์" แจงข่าว หมูไก่เป็นเอดส์ไม่จริงวนกลับมาอีก ข่าวลวงโลก “หมูไก่เป็นเอดส์” อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยันไม่เป็นความจริง คาดอาจมี ขบวนการจ้องทำลายเศรษฐกิจของประเทศ มั่นใจไทยเฝ้าระวังเข้มงวด อย่าตื่นตระหนก พร้อมเตือนคนแชร์ระวังโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ จากกรณีข้อความเท็จหมู-ไก่เป็นเอดส์ เรื่องที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ปี 2551 และปีนี้วนกลับมาแชร์กันอีกในโลกโซเชียล หลายฝ่ายออกโรงเตือน ขอให้หยุดโพสต์หยุดแชร์ข้อมูลมั่ว เพราะผิด พ.ร.บ.คอมพ์ มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายสัตวแพทย์ (น.สพ.) สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะไลน์กลุ่มต่างๆ มีการนำข้อความเท็จเรื่องหมูไก่เป็นเอดส์ วนกลับมาแชร์กันอีกครั้ง ว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงการแต่งขึ้นส่งต่อกันตั้งแต่ปี 2551 คาดว่าข้อความเท็จนี้น่าจะฝังอยู่ในระบบอินเตอร์เน็ต หรืออาจมีขบวนการจ้องทำลายเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีเจตนาทำร้ายเกษตรกรไทย นอกจากนี้ ยังมีผู้ประสงค์ร้ายนำคลิปวิดีโอ ภาพการทำลายหมูที่เป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตามมาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ส่งไปพร้อมกับข้อความเท็จข้างต้น การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากลและกระทบกับผู้บริโภคในวงกว้าง จากกรณีข้อความเท็จหมู-ไก่เป็นเอดส์ เรื่องที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ปี 2551 และปีนี้วนกลับมาแชร์กันอีกในโลกโซเชียล หลายฝ่ายออกโรงเตือน ขอให้หยุดโพสต์หยุดแชร์ข้อมูลมั่ว เพราะผิด พ.ร.บ.คอมพ์ มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์มีมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสัตว์ ทั้งหมูและสัตว์ปีกอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆร่วมกันบูรณาการในการป้องกันโรค ASF อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสกัดกั้นไม่ให้โรคนี้เข้ามาสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรและเศรษฐกิจของประเทศได้ จึงขอให้เกษตรกรและประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก และไม่ควรแชร์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงดังกล่าวอีกต่อไป อนึ่ง ผู้ที่ส่งต่อข้อมูลเท็จดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งที่ผ่านมามีกรณีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในประเด็นนี้ มาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ คดีอาญากรุงเทพใต้เป็นโจทก์ และบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะโจทก์ร่วมยื่นฟ้องนายโสภณ สุดสวาสดิ์ เป็นจำเลยฐานความผิดหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีส่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อความเท็จ อ้างว่ามีหมู ไก่ ป่วยเป็นโรคเอดส์ ขอให้คนหยุดกินหมู-ไก่ ประมาณ 6 เดือน ซึ่งข้อความดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในสังคม คดีดังกล่าว ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ตามความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 จำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ปรับ 50,000 บาท พิเคราะห์รายงานการพินิจและสืบเสาะแล้ว จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน และหลังเกิดเหตุจำเลยลงประกาศหนังสือพิมพ์ขอขมาโจทก์ร่วม เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ให้ทำกิจกรรมหรือทำงานสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมงข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47987• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย🔴 ในที่สุดก็ประกาศข่าวร้าย: สหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการ: อาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่มีสารพิษร้ายแรงได้ระเบิดในที่สุด 🔴 การระบาดของเนื้องอกในวงกว้างเกี่ยวข้องกับอาหารดัดแปลงพันธุกรรม กระจายข่าวด่วนและแจ้งให้ญาติและเพื่อนของคุณ (ของคุณ) ทราบ! อย่าลืมใส่ใจ! 🔴ทุกคนต้องดูให้ดีเมื่อไปซุปเปอร์มาร์เก็ต: 🔴บาร์โค้ดที่ขึ้นต้นด้วย "8" เป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรม! ⭕ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ขอแค่ดัดแปลงพันธุกรรม อย่าซื้อหรือกิน! ไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะสนับสนุนว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมนั้นไม่เป็นอันตรายอย่างไร เราก็ต้องจำไว้ว่า: 1. คนอเมริกันไม่กินมัน 2. ห้ามโดยเด็ดขาดโดยสหภาพยุโรป; 3. ห้ามใช้ระบบอาหารพิเศษของจีนโดยเด็ดขาด 4. ห้ามเด็ดขาดในงาน World Expo; 5. ห้ามโดยเด็ดขาดในเอเชียนเกมส์ 6. ชาวแอฟริกันจะไม่นำเข้ายีนดัดแปลงพันธุกรรมแม้ว่าพวกเขาจะอดอาหารจนตายก็ตาม 7. ห้ามอย่างเคร่งครัดในมหาวิทยาลัยโลก 8. รัสเซียยืนยันว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมทำให้สัตว์สูญพันธุ์มาสามชั่วอายุคน 9.โรคที่ทำให้คนไทยเจ็บป่วยแล้วเสียชีวิตสูงสุดในปัจจุบันคือโรคมะเร็ง อันเกิดจากได้รับสารพิษจากการกินอาหาร 🔴 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปลอม (มีพิษ) เหล่านี้: 🔴 1.มะเขือเทศเนื้อแดงมียีนพิษแมงป่อง! 🔴 2. ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอย่างแท้จริง! 🔴 3. มันเทศสีม่วงยังเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกด้วย! ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา "ข้าวโพดหวาน" ที่เรากินกันอย่างมีความสุขมานานกลายมาเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้เลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมา คนธรรมดาๆ หลายคนไม่มีความรู้เรื่องนี้ และยังชอบซื้อข้าวโพดหวานมารับประทานอีกด้วย คนหนุ่มสาว คนที่ยังไม่แต่งงาน และคนที่ยังไม่คลอดบุตร ไม่ควรกิน! แน่นอนว่าหลังจากทราบข่าวนี้แล้วทุกคนเพื่อตนเองและครอบครัว อย่าลืม: อย่ากินอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกต่อไป 🔴โปรดจำไว้ว่า: ผลไม้นอกฤดูกาลทุกชนิดไม่สามารถรับประทานได้! ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน กรุณาส่งต่อให้เพื่อนของคุณผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทม จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เครื่องละ 4 แสน เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทยพบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อแพงจริงภายใน ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ - Wachirabenchathat รวมกัน 2 ที่เกือบ 10 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่ศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 11 รายการ ดังนี้ 1.อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง 759,000 บาท 2.จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีผนักพิง 1 เครื่อง 483,000 บาท 3.จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง เครื่องละ 451,000 บาท 4.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง 466,000 บาท 5.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อขาด้านหน้าและขาด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท 6.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อห้วงไหล่ อก และหลังแขน 1 เครื่อง 483,000 บาท 7.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 652,000 บาท 8.ชุดดัมเบลพร้อมชั้นวาง 1 เครื่อง 276,000 บาท 9.อุปกรณ์บาร์โหนฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 302,490 บาท 10.เก้าอี้ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง 1 เครื่อง 103,000 บาท 11.เก้าอี้ฝึกตัมเบลดัมเบลแบบปรับระดับได้ 1 เครื่อง 96,000 บาท และอีกที่คือ ศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท 11 รายการ ราคาสูงผิดปกติเช่นกัน รายการเครื่องออกกำลังกายต่างๆที่ กทม.จัดซื้อ เมื่อเทียบกับราคาตลาดแล้ว ราคาช่างแตกต่างกันสูงมาก เช่น เก้าอี้ฝึกดัมเบลแบบปรับระดับได้ ราคาตลาดเกรดดี ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ กทม.จัดซื้อ 96,000 บาท งานนี้ส่วนต่างเพียบ.. เมื่อลองขุดลึกๆลงไปอีกพบว่า เฉพาะ ปี 2567 กทม. จัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย กว่า 9 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 77.73 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่อแพงเกินจริงเหล่านี้ ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปอย่างสิ้นเปลือง ต้องตรวจแบบเข้มๆอย่างเร่งด่วน #สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต สมาชิกสามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ . พบเห็นการทุจริตฯ สะกิด STRONG เข้าร่วมกลุ่มโอเพนแชท ได้ที่.. STRONGภาคตะวันออก https://bit.ly/2V4hjmF STRONGภาคอีสาน https://bit.ly/36boBvd STRONGภาคเหนือ https://bit.ly/3nVHYOE STRONGภาคกลาง https://bit.ly/3fIvoQe STRONGภาคใต้ https://bit.ly/2JdysYD STRONGภาคตะวันตก https://bit.ly/33ipUGz STRONG ประเทศไทย https://bit.ly/39gB9TX . สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป․ป․ท․ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคเหนือ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันออก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันตก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคกลาง ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคอีสาน สำนักข่าวอิศรา ต้องแฉ จิตอาสาต้านโกง @แฟนตัวยงข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเสียชีวิตกะทันหัน* Su Aiguo อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองเฉิงเต๋อ ประเทศจีน ดื่มน้ำเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เมษายน และสำลักน้ำเข้าปอด*เสียชีวิตกะทันหัน* Su Aiguo อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองเฉิงเต๋อ ประเทศจีน ดื่มน้ำเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เมษายน และสำลักน้ำเข้าปอด นำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตและเสียชีวิตเมื่อเวลา 15.00 น. การเสียชีวิตกะทันหันของ Su Aiguo บอกเราว่าเพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมงาน ญาติ และเพื่อนในวัยนี้ต้องใส่ใจกับสองสิ่งไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม! หนึ่ง คือการหลีกเลี่ยงการล้มและอีกประการหนึ่ง คือการป้องกันการสำลัก อายุมากกว่า 60 ปี เริ่มฝึกฝนตัวเอง: เมื่อดื่มน้ำให้หยุดกิจกรรมอื่น ๆ ทั้งหมดและเน้นที่การดื่มน้ำเท่านั้น ผู้สูงอายุสำลักง่ายเนื่องจากความเสื่อมของกล้ามเนื้อกลืนในลำคอและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่เพียงพอ ผู้สูงอายุที่บ้านโปรดทราบ: 1. ใช้หลอดดื่มและเอาหัวลงเวลากลืน 2.โปรดดื่มซุปข้นแทนซุป ซุปใสไหลเร็ว และหายใจติดขัดได้ง่ายเมื่อหายใจไม่คล่อง 3. โปรดอย่าดื่มของเหลวที่มีอาหารแข็งอยู่ในปาก และอย่าดื่มขณะเคี้ยว หากอมน้ำไว้ในปากนานเกินไป หากไม่ระวัง น้ำจะไหลเข้าทางเดินหายใจและทำให้หายใจไม่ออกได้ 4. อย่าพูดหรือหันศีรษะเมื่อมีอาหารหรือน้ำเข้าปาก โปรดพัฒนานิสัยใหม่ในการดื่มน้ำ . คนชราไม่มีกำลังกายและความแข็งแกร่งมากกว่าคนหนุ่มสาว หากของเหลวหรืออาหารไหลเข้าสู่ทางเดินหายใจ หากคุณไอ ใบหน้าของคุณจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและคอของคุณจะหนาขึ้น ความดันโลหิตของคุณจะสูงขึ้น และบางครั้งอาจถึงแก่ชีวิตได้หากคุณสำลัก! ดังคำกล่าวที่ว่า> ชายชรากลัว 2 สิ่ง: 1. กลัว "สำลัก" 2. กลัว "ล้ม" ต้องดูแลและอย่าประมาท! เมื่อเราอายุมากขึ้น: ..เราต้องดื่มน้ำอย่างช้าๆ ตั้งใจ และระมัดระวัง ..เราต้องใส่รองเท้าที่พื้นไม่ลื่น ไม่สึก... พื้นรองเท้าต้องหยาบ...ไม่หลุดง่าย ...ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนักวิชาการแนะ ทำบุญอย่าปล่อย ปลาดุก ลงในแม่น้ำลำคลอง จริงหรือดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน้ำจืด เตือนว่าทำบุญอย่าปล่อย "ปลาดุก" ชี้ปลาดุกส่วนใหญ่ เป็นปลาดุกบิ๊กอุย กินพืชและสัตว์น้ำ กินปลาเล็กไม่เลือก ตั้งสมมติฐานชี้ภาพ กระทบระบบนิเวศ ปัจจุบันมีผู้นิยมนำปลาดุกบิ๊กอุย ไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อทำบุญ แต่การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่นั้นๆ โดยปลาดุก กินอาหารวันละ 5% ของน้ำหนักตัว โดยกินทั้งพืชและสัตว์ ปริมาณที่เท่าๆ กัน ซึ่งปลาดุกที่ปล่อยจะมีน้ำหนักประมาณ 3 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม และจะถูกนำไปปล่อยลงแหล่งน้ำที่สมบูรณ์มีอาหารให้กิน ยกตัวอย่าง หากต้องการปล่อยปลาดุก 1,000 กิโลกรัม คิดเป็นปลาดุกประมาณ 3,000 ตัว ปลาดุก 1,000 กิโลกรัม จะกินอาหารวันละ 50 กิโลกรัม ในอาหาร 50 กิโลกรัมนี้เป็นสัตว์ครึ่งหนึ่ง ดังนั้น คิดเป็นสัตว์น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม หรือ 25,000 กรัม ปลาดุกตัวขนาดนี้ สัตว์น้ำท้องถิ่นอย่าง ลูกปลาบู่ ลูกปลาตะโกก ลูกปลาตะเพียน ปลาซิว กุ้งฝอย และหอยขม ที่กินได้พอดีๆ คำ จะตัวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็จะหนักไม่เกิน 5 กรัม ดังนั้น ปลาดุก 3,000 ตัว ที่ปล่อยไปนี้ ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดี ก็ต้องกินสัตว์น้ำอื่นๆ ไปวันละ 5,000 ตัว หรือปีละ 1,800,000 ชีวิตanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยงคลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยง ข่าว 27 มิถุนายน 2565 เวลา 8:07 น. โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย …สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้ สธ. ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนไปมากน้อยเพียงใด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะมีโอกาสติดเชื้อได้ ป่วยได้ และเป็น Long COVID ได้ ความเสี่ยงในการติดเชื้อ แพร่เชื้อ จนป่วยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จะยิ่งมากเป็นเงาตามตัว หากประเทศนั้นๆ เปิดเสรีการใช้ชีวิต โดยคนในสังคมไม่ได้ระมัดระวังป้องกันตัวอย่างดีพอ เช่น ไม่ใส่หน้ากากระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เฮฮาปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง ฯลฯ ก็จะพบว่าการระบาดในระลอกหลังก็จะทำให้ติดเชื้อ และป่วยมากขึ้นกว่าเดิมได้ แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนครอบคลุมสูงก็ตาม >> ขอนำสิ่งที่ตนเองปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันเวลาต้องไปงานที่มีคนจำนวนมาก มาแชร์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม 1. ประเมินดูว่างานนี้จำเป็นต้องไปหรือไม่? 2. หากต้องไป หรืออยากไปมาก ก็วางแผนให้ดีว่าจะทำอะไรบ้าง โดยดูรายละเอียดของงานที่จะไป หากเป็นไปได้ก็เลือกงานที่มีคนน้อย และมีมาตรการรักษาความสะอาดและตรวจคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน 3. จัดเวลาเผื่อ โดยกินอาหารมื้อนั้นให้เรียบร้อยที่บ้าน หรือที่ร้านโปร่งโล่งใกล้สถานที่ที่จัดงาน เพื่อจะได้เลี่ยงการ (เปิดหน้ากาก) กินดื่มที่ไม่จำเป็นระหว่างเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก 4. ในงาน พบปะผู้คน - พูดคุยทักทายได้ โดยใส่หน้ากากเสมอ! - พยายามเลี่ยงการสัมผัสตัวคนอื่น - หากสัมผัสกันจับมือกันกอดกัน ก็ใส่หน้ากากและล้างมือทุกครั้ง ! 5. หากเป็นงานสัมมนายาวนานเป็นวัน - ครอบคลุมการกินดื่มหลายมื้อ หากนำอาหารมาแยกกินได้ก็จะดี - แต่หากกินดื่มรวมกัน ก็กินดื่มโดยใช้เวลาสั้นๆ - ระหว่างกินดื่มจะไม่พูดคุย หากจะพูดคุยก็ ใส่หน้ากากก่อนเสมอ - ล้างมือด้วยเจล หรือสเปรย์แอลกอฮอล์.ทุกครั้งหลังจับอุปกรณ์หรือภาชนะต่างๆ ของสาธารณะ 6. หลังกลับจากงาน คอยสังเกตอาการของตนเองว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และติดตามข่าวคราวจากกลุ่มผู้ไปร่วมงานด้วยว่ามีปัญหาการเจ็บป่วยไม่สบายหลังจากไปร่วมงานหรือไม่ จะได้จัดการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ COVID-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก ติดเชื้อไม่จบ แค่ชิลๆ แล้วหาย แต่..ป่วยได้ ตายได้ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ที่สำคัญคือ เรื่องภาวะผิดปกติระยะ..ยาว อย่าง Long COVID การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด. ความใส่ใจด้านสุขภาพ การป้องกันตัวเอง จะเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของเราและคนใกล้ชิด เพื่อจะได้ปลอดภัยไปด้วยกัน . . ****ต้องเน้นย้ำว่าพฤติกรรมการป้องกันตัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์ระบาดช่วงนี้เพิ่มขึ้นมากหากสังเกตคนรอบตัวที่ติดเชื้อ โดยจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รายงานเข้าสู่ระบบ . . “ การใส่หน้ากาก ” เสมอเวลาตะลอนนอกบ้าน เป็นหัวใจสำคัญที่จะลดความเสี่ยง ย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นมากโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยCyber warfare สรุปสถานการณ์โดยรวมของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่ (#สงครามที่ไม่มีควันปืน) วันที่ 30 มกราคม 2025 เวลา 23:30 น. ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าของจีน ทั่วประเทศกำลังเฉลิมฉลองด้วยความสุขสงบ ในช่วงเวลานี้ กลุ่มเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายของ #DeepSeek ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของจีน ถูก #โจมตีทางไซเบอร์อย่างรุนแรง ทันทีที่ถูกโจมตี สัญญาณเตือนภัยจากศูนย์ตอบสนองความปลอดภัยของ 360 จีนและ Huawei ของจีนได้ถูกส่งสัญญาณไปเตือนเครือข่ายของ #กองทัพไซเบอร์จีน และ #กลุ่มแฮ็กเกอร์แดงจีน อย่างไม่หยุด การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นตอนตี 3 ด้วยความถี่สูงสุดถึง 800,000 ครั้งต่อวินาที นี่ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ทั่วไป และผู้โจมตีก็ไม่ใช่แฮ็กเกอร์ทั่วไป ในการตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กลุ่มเครือข่าย DeepSeek และระบบความปลอดภัยเครือข่ายของจีนได้ตอบสนองทันที กำลังป้องกันเครือข่ายต่าง ๆ ได้รวบรวมอย่างรวดเร็ว เมื่อการโจมตีถึงจุดสูงสุดในนาทีที่ 37 ผู้บริหารระดับสูงของ 360 ได้รวมกลุ่มแฮ็กเกอร์แดงเพื่อต่อสู้ในเวลากลางคืน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ Huawei Cloud ได้เปิดตัวระบบล้างข้อมูลทราฟฟิก และได้ติดตั้งชิปที่พัฒนาขึ้นใหม่ในเซิร์ฟเวอร์ จากนั้น 360 ได้เปิดตัวระบบป้องกัน #Tianqiong เพื่อสกัดกั้น ผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายได้ถอดรหัสซอร์สโค้ดของการโจมตี กำลังต่างๆ รวมใจกันต่อสู้อย่างดุเดือดในเวลาอันจำกัด เมื่อการโจมตีดำเนินไปถึงชั่วโมงที่ 24 ระบบป้องกันไม่สามารถทนต่อการโจมตีที่รุนแรงได้และล้มเหลว 3 ครั้ง วิศวกรได้ใช้วิธีแยกทางกายภาพเพื่อยึดเวลา 30 วินาทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลาย ในช่วงเวลานี้ โปรแกรมเมอร์ D และ C ทำงานติดต่อกันหลายสิบชั่วโมง จนร่างกายอ่อนเพลียและมีไข้สูง แต่มือซ้ายยังคงได้รับสารน้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ ในขณะที่มือขวายังคงพิมพ์คีย์บอร์ด ทีมชิปของ Huawei ไม่ได้หลับตาเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาชิปป้องกันเครือข่ายที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญเครือข่าย 32 คนจาก 7 บริษัทในห้องปฏิบัติการคลาวด์ได้ต่อสู้ที่แนวหน้า โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดโดยไม่สนใจอาหารและการนอน อุปกรณ์ DOS "Taishan Cloud" ถูกส่งถึงเขต Xixi ในหางโจวในเวลากลางคืนเพื่อตอบสนองความต้องการป้องกัน วิศวกรเร้าเตอร์ "New H3C" ได้ออกแบบโมเดลป้องกันหลายชั้น เซิร์ฟเวอร์เกม "NetEase Leihuo" ถูกเปลี่ยนเป็นโหนดแคชข้อมูลชั่วคราว "DingTalk" เปิดช่องทางการสื่อสารฉุกเฉิน "Cainiao Network" ได้บริจาคอัลกอริธึมการจัดส่งโลจิสติกส์ "Alibaba Cloud" ได้จัดสรรทรัพยากรการคำนวณตามความต้องการ ระบบจดจำอัจฉริยะของ "Dahua" สามารถจับผู้ใช้ที่มีประสิทธิภาพได้ 0.00017% ผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายจีนทุกคนที่เข้าร่วมการต่อต้านต่างจดจ่ออยู่ที่หน้าจอ เพื่อติดตามและค้นหาข้อมูลโค้ด เสียงคีย์บอร์ดดังขึ้นไม่หยุดทั้งวันทั้งคืน ในตอนตี 3 ของวันถัดมา 360 ได้ล็อกคุณลักษณะของแหล่งที่มาของการโจมตี ผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายของ Huawei ได้เริ่มติดตามที่อยู่ IP ของแฮ็กเกอร์ จากหางโจวของจีนไปยังสหรัฐอเมริกา จากเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาไปยังแคลิฟอร์เนีย จากแคลิฟอร์เนียไปยังนิวยอร์ก และจากนิวยอร์กไปยังวอชิงตัน ในที่สุดก็ล็อกไปยังกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ในอาคารหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในวอชิงตัน การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ครั้งนี้ถูกวางแผนและดำเนินการโดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจน เป้าหมายของพวกเขาคือการทำลายระบบเครือข่ายของจีนในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีน ทำลายเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวหน้าของ DeepSeek ของจีน และก่อกวนช่วงเวลาที่มีความสุขและสงบสุขของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีน หลังจากล็อกเป้าหมายแล้ว การตอบโต้ทางเครือข่ายที่ข้ามเวลาและดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้น แฮ็กเกอร์แดงของจีนมีความเชี่ยวชาญและแม่นยำในการควบคุม พวกเขาได้ทำลายระบบป้องกันเครือข่ายของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในทันที ทำให้กลุ่มเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาพังทลายและเข้าสู่ภาวะหยุดชะงักทั่วทั้งเครือข่าย และยังทำลายฐานสนับสนุนหลังบ้านของสหรัฐอเมริกา ทำให้ระบบเครือข่ายของสหรัฐอเมริกาวุ่นวาย หลังจาก 93 ชั่วโมง สงครามที่ไม่มีควันปืนนี้สิ้นสุดลงด้วยการลดลงอย่างรวดเร็วของทราฟฟิกการโจมตีของสหรัฐอเมริกาเหลือ 2.8% ซึ่งบ่งชี้ว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่สหรัฐอเมริกาเริ่มต้นขึ้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และได้รับความเสียหายอย่างหนัก จีนประสบความสำเร็จในการปกป้องฐานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ วันนี้กลุ่มแฮ็กเกอร์แดงของจีนประกาศว่าในอีกสองวันข้างหน้าพวกเขาจะเริ่มต้นการตอบโต้ทางเครือข่ายอย่างเต็มรูปแบบต่อระบบเครือข่ายของสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบแทนการกระทำของสหรัฐอเมริกาด้วยวิธีการเดียวกัน และสอนบทเรียนที่รุนแรงให้กับการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเจตนาร้ายของสหรัฐอเมริกา ในการตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาต่อจีน กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซียที่มีทักษะสูงได้เสนอความช่วยเหลือทันทีที่จีนต้องการ วันนี้พวกเขาได้ประณามการโจมตีทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกาว่าไม่สามารถยอมรับได้ และประกาศว่าจะเข้าร่วมการตอบโต้ทางเครือข่ายต่อสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาได้เริ่มต้นการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ครั้งนี้ด้วยเหตุผลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หลังจากทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจ เขายังคงดำเนินนโยบายกดดันต่อจีนและทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านโดรน หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของจีนต่อไป สงครามยังคงต้องดำเนินต่อไป แต่เป็น #สงครามที่ไม่มีควันปืน ต้องติดตามอย่ากระพริบตาเป็นอันขาด !!!ข่าวการเมืองมีม เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็คตัวเองว่ามี 4 อาการที่เป็นสัญญานเตือนของร่างกาย ว่า มีโอกาสตายได้ ภายใน 1~ 10 ปีนี้แล้วแต่อาการมาก-น้อย - นักวิทยาศาสตร์ เผยก่อนเสียชีวิต ภายในเวลาไม่เกิน 10 ปี ร่างกาย จะส่ง 4 สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า - เรื่องนี้ ศึกษา มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal วารสารการแพทย์อังกฤษ ที่ทำงานวิจัยในกลุ่มข้าราชการที่สูงอายุมากกว่า 65 ปี ถึง 6,000 คน (แรกเริ่ม ศึกษามาจากข้าราชการอายุ 35 ปี มากกว่า 10,000 คน จนภายหลัง ผ่านมา 35 ปี เหลือ 6,000 คน) ได้ผลว่า ประมาณ 1 -10 ปีก่อนเสียชีวิต ร่างกายจะส่งคำเตือนหลายอย่าง การจับสัญญาณเหล่านี้อย่างทันท่วงที และ แก้ไข 4 ตัวชี้วัดดังกล่าวได้ ก็สามารถชะลอความชราและ มีอายุที่ยืนยาวออกไปได้ - โดยนักวิทยาศาสตร์ได้พบ 4 ตัวชี้วัด ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการมีอายุยืนยาว หรือ อายุสั้นลง ได้แก่ - 1. ความเร็วในการเดิน - นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักรติดตามผู้คนจำนวนมาก เป็นเวลา 7 ปี และพบว่า (โดยไม่คำนึงถึงดัชนีมวลกาย) คนที่เดินเร็วขึ้นก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เดินช้า คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนยาวกว่าโดยเฉลี่ย 15-20 ปี - เนื่องจาก “การเดินเร็ว” จะตรงตามข้อกำหนดพื้นฐานในการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและปอด การเดินต้องใช้การประสานงานของกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบประสาท ฯลฯ - คนปกติ ควรรักษาความเร็วในการเดินไว้ที่ 0.9 เมตร/วินาที หากความเร็วต่ำกว่า 0.6 เมตร/วินาที แสดงว่ากล้ามเนื้อลีบอย่างรุนแรง หากสังเกตเห็นว่าความเร็วในการเดินลดลงมากเกินไป โอกาสเสียชีวิตภายใน 1 ~10 ปีข้างหน้า มีสูง ต้องรีบแก้ไขด้วยการฝึกเดินให้เร็วขึ้น อาจฝึกเดินช้า/สลับเดินเร็ว รอบละ 2-3 นาที เพียง 10 รอบ ก็เดินได้ 20~30 นาที ต่อวัน สัปดาห์ลั 5 วัน ก็เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุแล้ว - 2. ความสามารถในการนั่งและยืน - ความสามารถในการนั่งและยืน สามารถช่วยทดสอบความยืดหยุ่นของเอ็นแขนขาส่วนล่าง และสุขภาพของข้อเข่าได้ ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของเอ็นที่ดี และ ข้อต่อที่แข็งแรง จะมีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวมากกว่า 10 ปี - เพื่อทดสอบความสามารถในการลุก/นั่ง สามารถเลือกเก้าอี้ที่ไม่มีที่วางแขน นั่งบนเก้าอี้โดยวางเท้าบนพื้น ใช้ 2 มือกอดอก จากนั้นลองยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วนั่ง ภายในเวลา 30 วินาที โดยไม่ใช้มือช่วยเหลือ ~ ผู้ชาย ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 14 ครั้ง ~ ผู้หญิง ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 12 ครั้ง ถ้าลุกนั่งได้น้อยกว่า จำนวนดังกล่าว แสดงว่า กล้ามเนื้อสะโพก และ ขา อ่อนแรง ข้อเข่าไม่ดี มีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 1~10 ปี ถ้าต้องการมีอายุยืนยาวมากกว่า 10 ปี ต้องพยายามลุก/นั่ง ให้ได้มากกว่า อัตราดังกล่าวข้างต้น (ข้าพเจ้า อายุ 78 ปี ทดสอบลุกนั่ง ได้ 26 ครั้ง ภายใน 30 วินาที แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะ สังขารเริ่มเสื่อมถอยลงไปค่อนข้างมาก) - 3. แรงบีบมือที่ดี - ในทางการแพทย์ ความแข็งแรงของแรงบีบที่มือ ยังเป็นการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวมของบุคคลอีกด้วย สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของหัวใจได้ในระดับหนึ่ง โดยคนที่มีหัวใจทำงานปกติก็มีความแข็งแรงของแรงบีบมือที่ดีเช่นกัน - โดยปกติแล้ว ความแข็งแรงของแรงบีบมือจะวัดด้วยเครื่องวัดแรงบีบมือ (Hand Grip Dynamometer) จากข้อมูลของนักวิจัย ความแข็งแรงของแรงบีบในผู้สูงอายุคือ สำหรับผู้หญิง ต้องได้ผลวัดอย่างน้อย 18.5 กก. และ สำหรับผู้ชายคือ 28.5 กก. ถ้าไม่มีเครื่องวัด ก็พยายามฝึกให้มีแรงบีบมือมากๆไว้ก่อน เริ่มจากฝึก กำแบ บ่อยๆ จากนั้น ฝึกออกแรงกำบีบสิ่งของให้แน่น แล้วปล่อย กำบีบแล้วปล่อย ความแข็งแรงกล้ามเนื้อของแรงบีบที่มือก็จะสูงมากขึ้น โอกาสอายุยืนเกิน 10 ปี ก็จะมีมากขึ้น - 4. กิจวัตรประจำวันต้องทำได้ด้วยตัวเอง ได้แก่ : การแต่งตัว นุ่งกางเกง ไม่ลืมรูดซิป ไม่ลืมร้อยหูกางเกง/เข็มขัด เข้าห้องน้ำไม่ลืมกดราด ทำอาหาร ไปตลาด ก้มใส่ถุงเท้า/รองเท้าและ ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่นั่งยองๆแล้วลุกขึ้นได้ไม่หน้ามืด หากทำได้ด้วยตัวเอง…โอกาสมีอายุเกิน 10 ปี จะมีมากขึ้น หากพบว่า การทำสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องยาก แสดงว่ามวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ลดลงไปมาก โอกาสเสียชีวิตภายใน 1~10 ปี มีสูง Cr. หมอเฉพาะทางบาทเดียว https://youtu.be/R1ehX4adCog? ให้รีบแก้ไขด่วนด้วยการ 1.ออกกำลังกายให้เหงื่อออก 2.หยุดนํ้าตาลอุตสาหกรรม 3.หยุดอาหารเสริม เพราะอาจทำร้ายร่างกายมากกว่าจะเป็นประโยชน์(ให้แพทย์สั่งดีกว่า) 4.เลิกนอนดึก(ต้องหลับก่อน 23:00 น.)สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้าน Paracetamol Common Household Poisonous Medicine คนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ พาราเซตามอล และเข้าใจว่า เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก จนกลายเป็นความเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล ปัญหาที่คนไทยไม่รู้ก็คือ ยาพาราเซตามอล มีไว้แค่บรรเทาอาการ ไม่ได้ช่วยให้โรคหาย และยังเป็นยาที่มีอันตราย แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และไตได้อย่างรุนแรง ขนาดสูงสุดของ ยาพาราเซตามอล ที่เคยเป็นที่ยอมรับ คือไม่เกิน 2000- 3000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับ พาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 4-6 เม็ด เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อน คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินพาราเซตามอลครั้งละสองเม็ด และความที่เป็นยาออกฤทธิ์สั้น จำเป็นต้องกินกันบ่อย ๆ ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่คนไข้จะได้รับยาในขนาดที่เป็นพิษได้สูง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการรับประทานยาพาราเซตามอล ในขนาดที่เข้าใจว่าปลอดภัย แต่ลงเอยด้วยการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ในขนาด 500 มก และให้ขายเพียงขนาด 325 มก เท่านั้น ยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC) ในประเทศไทย แนค (NAC) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากเป็นยาที่แทบจะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม ผู้เขียน จึงขอแนะนำให้คนทุกคน เลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น ถ้ามีไข้ควรเลือกวิธีเช็ดตัวลดไข้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย เวลาที่คนไข้ที่มีไข้ และมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไม่ได้คิดว่า ตับอักเสบนั้น อาจเป็นผลจากยาพาราเซตามอล ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก คนไข้เหล่านี้จะมีไข้สูงตลอดวัน หลังจากการกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า ในคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิต ผู้เขียนเคยได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง ที่มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนซัยม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งไปว่าเด็กคงไม่รอดชีวิต หลังจากที่ผู้เขียนไปดูในตอนดึก ก็ได้สั่งการรักษาด้วยการใช้ แนค (NAC) ขนาดสูงหยดทางหลอดเลือด วันรุ่งขึ้น ระดับเอนซัยม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา ไม่เพียงแต่ ยาพาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย ผู้เขียนมีคนไข้ทีมาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย มีอยู่รายหนึ่งที่กินพาราเซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวดไม่เมื่อย ทำงานได้ดี เลยเข้าใจผิดว่าเป็นยาชูกำลัง กินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ผู้เขียนเคยได้รักษาคนไข้ตั้งครรภ์ 26 สัปดาห์ ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ไม่มีปัสสาวะมา 3 วัน ซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีปัญหาปวดน่องอย่างรุนแรง จึงไปคลินิก ได้ยาฉีดแก้ปวด วันละเข็มติดต่อกันสามวัน หลังจากนั้น ปัสสาวะลดลงจนกระทั่งไม่มีปัสสาวะออก ผู้เขียนจึงได้ให้ NAC ขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือด และตามด้วยการล้างไต ภายหลังการล้างไตได้ 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยก็เริ่มมีปัสสาวะออกมาเรื่อย ๆ จำนวนมาก และการทำงานของไตก็กลับสู่สภาพปกติ และคลอดบุตรเป็นปกติในสองเดือนถัดมา ขอย้ำว่า พาราเซตามอล ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็มีอันตราย หรือคิดว่า ทุกครั้งที่เป็นไข้ จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอล แนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะการกินยาพาราเซตามอลพร่ำเพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค อาจส่งผลให้เราหายไปจากโลกแทนได้ครับ ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไตผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัฐบาลญี่ปุ่นให้ประชาชนทิ้งไมโครเวฟ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับและจำคุกรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะทิ้งเตาอบไมโครเวฟทั้งหมดในประเทศภายในสิ้นปีนี้และประชาชนและองค์กรที่ไม่สามารถตอบสนองต่อคำขอทั้งหมดจะถูกปรับและถูกจำคุก ญี่ปุ่นสั่งห้ามใช้เตาไมโครเวฟเนื่องจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮิโรชิมาพวกเขาพบว่าคลื่นวิทยุทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาการใช้เตาไมโครเวฟเป็นอันตรายยิ่งกว่าสหรัฐอเมริกาในฮิโรชิมาและกันยายน 1945 ระเบิดปรมาณูหล่นจากนางาซากิ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่าอาหารที่อุ่นในเตาไมโครเวฟนั้นมีรังสีที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นโรงงานไมโครเวฟขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในญี่ปุ่นกำลังจะปิด เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์: ในปี 2021 การผลิตเตาอบไมโครเวฟกำลังจะหยุดลง จีนยังวางแผนที่จะห้ามเทคโนโลยีนี้ในปี 2566 การประชุมเกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็งถูกจัดขึ้นที่ศูนย์บำบัดโรคมะเร็งของ Kashira ที่ประชุมสรุปว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้: น้ำมันสำเร็จรูป 2. นมจากสัตว์ (แนะนำนมถั่วเหลือง) 3. อาหารแปรรูปก้อน (เครื่องเทศซุปไก่เช่นแม็กกี้และชอบ) 4. โซดา (32 น้ำตาลต่อลิตร) 5. น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 6. อาหารร้อนไมโครเวฟ 7. การทำแมมโมแกรมไม่ได้เกิดขึ้นก่อนที่ทารกจะคลอดยกเว้น echocardiography 8. ชุดชั้นในชุดชั้นในแน่นมาก 9. แอลกอฮอล์ 10. ละลายอาหารแช่แข็งและทำให้เย็นลง 11. ดื่มน้ำขวดพลาสติกจากตู้เย็น 12. ยาคุมกำเนิด มันเปลี่ยนระบบฮอร์โมนเพศหญิงและทำให้เกิดโรคมะเร็ง 13. ยาดับกลิ่นพิเศษที่ใช้หลังการโกนหนวดนั้นเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ง่าย 14. น้ำตาลทรายขาวทุกชนิด (เซลล์มะเร็งมีแนวโน้มที่จะเติบโตภายใต้การบำรุงของน้ำตาล) ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลให้ได้มากที่สุด ที่ประชุมแนะนำว่าควรเพิ่มอาหารประจำวัน: 1. ผัก 2. ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล 3. โปรตีนจากผัก (ถั่วแทนเนื้อสัตว์) 4. ดื่มน้ำสองแก้วที่มีอุณหภูมิของร่างกายเท่ากันในขณะท้องว่างก่อนแปรงฟัน 5. อาหารควรอุ่น แต่ไม่สูงเกินไป 6. น้ำว่านหางจระเข้ + ขิง + ผักชีฝรั่ง + ขึ้นฉ่าย + myristin เราแนะนำให้ผสมในขณะท้องว่าง 7. ดื่มน้ำแครอททุกวัน 8. มะเขือเทศกระเทียมหัวหอมและเนื้อสัตว์ บันทึก : วิทยาลัยแพทย์อเมริกันค้นพบสาเหตุของโรคมะเร็ง 1. อย่าดื่มชากาแฟหรือเครื่องดื่มร้อน ๆ ในถ้วยพลาสติก 2. อย่ากินอาหารร้อนที่ห่อด้วยกระดาษหรือถุงพลาสติก (เช่นมันฝรั่งทอด) 3. อย่ากินอาหารในกล่องพลาสติกหรืออาหารไมโครเวฟ เราควรให้ความสนใจกับประเด็นต่อไปนี้: เมื่อพลาสติกสัมผัสกับอุณหภูมิสูงสารเคมีที่ผลิตอาจทำให้เกิดมะเร็ง 52 ชนิด ดังนั้นคุณต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมทุกชนิดเช่นโคล่า, เป๊ปซี่, AV, แฟนต้าและน้ำผลไม้เข้มข้นอื่น ๆ 4 กินสับปะรดสด ๆ แต่อย่าดื่มน้ำสับปะรดผสมกับโคล่าเครื่องดื่มผสมนี้ถึงแก่ชีวิต 5 ใช้หูซ้ายเพื่อรับโทรศัพท์และใช้ชุดหูฟังในปริมาณที่พอเหมาะ 6 อย่าทานยาด้วยน้ำเย็น 7. อย่ากินอาหารที่ย่อยไม่ได้หลังจาก 7 โมงเช้า 8. ดื่มน้ำให้มากขึ้นในตอนเช้าและดื่มน้ำน้อยลงในเวลากลางคืน 9. อย่าอยู่ในตำแหน่งแนวนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร (นอน / นอนหลับ) 10. เมื่อโทรศัพท์ของคุณใกล้จะหมดอย่าหยิบโทรศัพท์ของคุณเพราะรังสีของโทรศัพท์นั้นแข็งแกร่งกว่าทีวีเต็ม 1,000 เท่า แบ่งปันบทความนี้กับคนที่คุณรัก (วรว.อ่านและเริ่มส่ง 13.35น. 18กุมภาพันธ์ 2564)มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ สำหรับคนรักสุขภาพ!!! เทรนด์ยอดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้นอกจากการออกกำลังกายแล้วนั้นคือ “แช่เท้าด้วยเกลือ” ที่ใครก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องเสียเงินเข้าสปาเลย แถมได้ประโยชน์มากมายเกิดคาด!! “เท้า” เป็นอวัยวะที่เราใช้งานหนักมาก เพราะไหนจะต้องแบกรับน้ำหนักเราที่มีหลายสิบโลแล้ว เรายังต้องอาศัยเท้าในการเดินหรือทำกิจกรรมอีกมากมายในแต่ละวัน แน่นอนว่าต้องมความเหมื่อยล้าบ้าง โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบสวมใส่รองเท้าที่มีส้นสูงๆ วันนี้เราจึงขอหยิบยกวิธีการดูแลสุขภาพเท้ามาฝาก นั้นคือ การแช่เท้าด้วยเกลือ ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แถมไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อไปทำสปารเท้า การแช่เท้าในน้ำเกลือกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนไทยกำลังพูดถึง และให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ว่าแต่ทำแล้วจะช่วยอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไรนั้นไปชมกันเลย!!! ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยเกลือ 1. ช่วยดึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายออก 2. ช่วยดึงพลังงานลบที่เกิดจากอารมณ์ออก 3. ช่วยดึงประจุพลังงานลบ ซึ่งเป็นพลังงานไม่ดี ออกจากร่างกาย 4. หลังจากที่ดึงพลังงานลบออกจากร่างกายแล้วเราก็ใช้วิธีการรักษาได้ตามปกติ ทั้งนี้วิธีการนี้จะเป็นการช่วยดึงพลังงานลบออกจากร่างกาย ก่อนการรักษา ทำให้รักษาได้ง่ายขึ้น 5. เมื่อแช่เท้าด้วยเกลือ บ่อยๆ ร่างกายจึงไม่มีพลังงานลบที่ก่อโรคหลงเหลืออยู่อีก และนี่เองจึงทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น วิธีการแช่เท้าด้วยเกลือ 1. นำกะละมังขนาดที่สามารถวางเท้าแช่ได้-ใส่น้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่มจะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาก็ได้ 2. ใส่เกลือทะเล (ที่เป็นเกลือแบบเม็ด) ลงไปประมาณ 1 กำมือ 3. เอาเท้าเหยียบเกลือที่ยังไม่ละลาย 4. ทำจิตใจให้สงบ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ นั่งอยู่ประมาณ 15-20 นาที 5. หลังจากนั้นให้ล้างเท้าด้วยน้ำเปล่า การแช่เท้าด้วยเกลือนั้นคนปกติ สามารถทำได้ทำอาทิตย์ละครั้ง ส่วนคนป่วย ทำได้ทุกวันก่อนนอน หากผู้ใดที่ธาตุในร่างกายไม่สมดุล มีอาการหนาว สั่น ให้ใช้น้ำอุ่นในการแช่เท้า สำหรับคนที่ร้อนก็ให้ใช้น้ำเย็นแช่ค่ะ การแช่เท้าเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามหลักทฤษฎีการแพทย์ทางเลือกสาขา Reflexology โดยมีความเชื่อกันว่าเท้า มีจุดสัมผัส ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้นวิธีกรการผ่อนคลาย ด้วยการแช่เท้าลงในน้ำร้อน จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นจุดสัมผัสเหล่านี้ด้วยพลังงานความร้อน ทางด้างผลงานการวิจัยของ นายแพทย์ วิลเลียม วินเทอร์วิตซ์ จากประเทศออสเตรีย มีความคิดเห็นว่า ประสาทรับสัมผัสที่ผิวหนังจะมีวงจรประสาทเชื่อมต่อกัน กับกล้ามเนื้อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย และเมื่อความร้อน มาสัมผัสกับผิวหนัง มันก็จะส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะที่อยู่ห่างไกลได้ ทั้งนี้การแช่เท้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหรือไม่ก็ตาม ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างดังนี้! 1. ลดอาการปวดบวมที่เท้าแล้ว 2. ลดอาการปวดท้อง 3. กระตุ้นความต้านทานของร่างกาย 4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น 5. ป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว 6. ลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ 7. ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง 8. ลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ 9. ทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน เป็นต้น ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เบ็ดเตล็ดไอเดีย ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรายงานอาฟเตอร์ช็อก เหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568 เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศเมียนมาร์ อาฟเตอร์ช็อก ครั้งที่ 1 เวลา 13.32 น. ขนาด 7.1 ครั้งที่ 2 เวลา 13.45 น. ขนาด 5.5 ครั้งที่ 3 เวลา 14.24 น. ขนาด 4.0 ครั้งที่ 4 เวลา 14.37 น. ขนาด 5.2 ครั้งที่ 5 เวลา 14.42 น. ขนาด 3.9 ครั้งที่ 6 เวลา 14.57 น. ขนาด 4.7 ครั้งที่ 7 เวลา 15.21 น. ขนาด 4.0 ครั้งที่ 8 เวลา 15.45 น. ขนาด 3.7 ครั้งที่ 9 เวลา 15.52 น. ขนาด 3.8 และยังสามารถเกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นได้อีก ขอให้ทุกท่านติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด #กรมอุตุนิยมวิทยา #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #แผ่นดินไหวไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่เพจธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ผ่านเพจชื่อ mymo savingเพจ "mymo saving" มีการประกาศการปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,080 บาท/เดือน จากการสัมภาษณ์ คุณสุรีรัตน์ ไชยศิลา ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อดังกล่าวว่า ธนาคารออมสินเคยมีโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเน้นสนับสนุนด้านการเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่โครงการดังกล่าวได้สิ้นสุดลงและวงเงินเต็มเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันธนาคารไม่มีการให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางอื่นๆ นอกจากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เป็นทางการของธนาคารเท่านั้น ธนาคารยืนยันว่าไม่มีการปล่อยสินเชื่อผ่านเพจดังกล่าว และโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo ได้ยุติลงแล้วหลังจากช่วงโควิด-19 อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้คำแนะนำในการป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ไว้ดังนี้ 1. ธนาคารออมสินไม่มีการส่งข้อความหรือส่งลิงก์การกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันใดๆ 2. หากได้รับข้อความหรือพบเพจที่น่าสงสัย อย่าคลิกลิงก์และไม่แอดไลน์สมัครใช้บริการ ไม่กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและไม่แชร์ต่อเด็ดขาด 3. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1115 หรือ ธนาคารสาขาใกล้บ้าน 4. ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เชื่อถือได้ของธนาคารเพื่อป้องกันการถูกหลอก 5. ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน แหล่งข้อมูล (https://www.gsb.or.th/services/ธนาคารออมสิน-ขอแจ้งเตือ/)ภาคอีสานการเงินแอคปลอมmintsiri02• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยราชตฤณมัยสมาคมฯพลิกโฉม“หนองจอก” ผุดสนามม้าแห่งใหม่ 3,000ไร่ ดันราคาที่ดินพุ่ง 4 เท่า จากไร่ละ 9 แสนขยับเป็น 3-4 ล้านบาทต่อไร่ .ราชตฤณมัยสมาคมฯอยู่ระหว่างรวบรวมที่ดินซึ่งอยู่บริเวณเขตหนองจอก ย่านมิตรไมตรี ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งว่าง และ บริเวณถัดจากสถานีตำรวจนครบาลราชกระบังเขตลาดลาดกระบัง จำนวน2000ไร่ . พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พื้นที่สีม่วง(ที่ดินประเภทอุตสาหกรรม) สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ขึ้นตึกสูงได้ โดยราคาที่ดินที่กำหนดไว้9แสนบาทต่อไร่ แต่เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไป ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นเป็นไร่ละ3-4ล้านบาทหรือประมาณ4เท่า และมีแนวโน้มจะขยับขึ้นขึ้นอีกคาดว่าอีก2เดือนข้างหนาจะทราบชัดเจน ว่าแบบและแปลงที่ดินเป็นแบบใดและอยู่บริเวณไหน ความคืบหน้า สำหรับโครงการจะเป็น สปอร์ตคลับ สูง 789 ชั้นประกอบด้วย โรงแรม5ดาว ศูนย์การค้า มีสนามเลี้ยงม้า และสนามม้า สวนสาธารณะ ถอดแบบสนามม้านางเลิ้ง . "จะพัฒนา เน้นนวัตกรรม คล้ายสนามรังนกที่จีน และ การแสดง สนามเลี้ยงม้า แข่งม้าโรงแรม5ดาวห้าง กสิโนถูกกฎหมาย เน้นวัสดุรักษ์โลก . 📌อ่านข่าวเพิ่มเติมในคอมเมนต์ไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ยาลดน้ำหนัก" อันตรายอย่างไรและเหมาะกับใคร?อ.พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ยาลดน้ำหนัก” นั้นมีอยู่จริงและถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถือเป็นยาที่ “มีผลข้างเคียงอันตราย” รวมถึงต้องเลือกคนไข้ที่จะใช้ยาเหล่านี้ให้ถูกต้องด้วย สารที่เรามักพบในยาลดน้ำหนักและมีอันตรายได้แก่ 1. “ไซบูทรามีน” 2. “ยาในกลุ่มแอมเฟตามีน” 3. “ยาระบาย บิสซาโคดิลและยาขับปัสสาวะ ฟูโรซีไมด์” โดยทั่วไปแล้วยาลดน้ำหนักมีไว้ใช้สำหรับคนที่เป็น “โรคอ้วน”หรือคนที่ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วไม่เห็นผลลดความอ้วนstd48395• 2 ปีที่แล้ว
- 24 คนสงสัยอย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มะเร็งยาสมุนไพรstd46699• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย#คนที่ใช้แก้สต้องอ่าน พลาดนิดเดียว ตาย 3 ศพ หมดบ้าน (!)(อย่า) อันตรายถึงชีวิต (ล้ม) (ชี้) #คนที่ใช้แก้สต้องอ่าน พลาดนิดเดียว ตาย 3 ศพ หมดบ้าน (!) สามีภรรยาคู่หนึ่งกลับเข้าบ้านประมาณเที่ยงคืน หลังอาหารเย็นที่ร้านอาหาร @กลิ่นแก้สในบ้าน!! สามีรีบไปที่ห้องครัวเพื่อหากลิ่นที่แรงกว่าเดิม *จิตใต้สำนึกบอกให้เขาเปิดไฟ แล้วห้องครัวก็ระเบิด!! สามีเสียชีวิตทันที!! ส่วนภรรยาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 90% ของแผล ไหม้!! พบเฟอร์นิเจอร์ของพวกเขา ตกอยู่ห่างจากบ้าน 100 เมตร ซึ่งหมายความว่า การระเบิดของแก๊ส มีพลังมากกว่าระเบิด!! *บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ จากเหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้ คือ.. *👉เมื่อได้กลิ่นแก๊ส (no)ห้ามเปิดไฟ! แต่ให้เปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน อย่างเงียบๆ ช้าๆ (=)เพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟ 👉 ถอดเรกกูเลเตอร์ บนถังแก๊ส และ(no)อย่าเปิดไฟ! จนกว่ากลิ่นแก๊สจะหมดลง นอกจากนี้ (no)อย่าเปิดตู้เย็น! เพราะจะทำให้เกิดการระเบิด และ(no)ไม่ควรเปิดพัดลมดูดอากาศ เพราะมีประจุไฟฟ้า เพียงแค่เปิดประตูและหน้าต่างก็พอ (อย่า)อย่ากดโทรศัพท์มือถือเด็ดขาด ถ้า ทำได้ เปิดประตูออกมาด้านนอก ปิดโทรศัพท์ก่อน ป้องกันคนโทรเข้า (@)คุณไม่ควรอ่านข่าวนี้คนเดียว (@)แชร์ให้มากที่สุด* ขอขอบคุณ.. อธิบดีกรมป้องกันพลเรือนผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัย(อย่า) อันตรายถึงชีวิต (ล้ม) (ชี้) #คนที่ใช้แก้สต้องอ่าน พลาดนิดเดียว ตาย 3 ศพ หมดบ้าน (!) สามีภรรยาคู่หนึ่งกลับเข้าบ้านประมาณเที่ยงคืน หลังอาหารเย็นที่ร้านอาหาร @กลิ่นแก้สในบ้าน!! สามีรีบไปที่ห้องครัวเพื่อหากลิ่นที่แรงกว่าเดิม *จิตใต้สำนึกบอกให้เขาเปิดไฟ แล้วห้องครัวก็ระเบิด!! สามีเสียชีวิตทันที!! ส่วนภรรยาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 90% ของแผล ไหม้!! พบเฟอร์นิเจอร์ของพวกเขา ตกอยู่ห่างจากบ้าน 100 เมตร ซึ่งหมายความว่า การระเบิดของแก๊ส มีพลังมากกว่าระเบิด!! *บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ จากเหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้ คือ.. *👉เมื่อได้กลิ่นแก๊ส (no)ห้ามเปิดไฟ! แต่ให้เปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน อย่างเงียบๆ ช้าๆ (=)เพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟ *👉 ถอดเรกกูเลเตอร์ บนถังแก๊ส และ(no)อย่าเปิดไฟ! จนกว่ากลิ่นแก๊สจะหมดลง* นอกจากนี้ (no)อย่าเปิดตู้เย็น! เพราะจะทำให้เกิดการระเบิด และ(no)ไม่ควรเปิดพัดลมดูดอากาศ เพราะมีประจุไฟฟ้า เพียงแค่เปิดประตูและหน้าต่างก็พอ (อย่า)อย่ากดโทรศัพท์มือถือเด็ดขาด ถ้า ทำได้ เปิดประตูออกมาด้านนอก ปิดโทรศัพท์ก่อน ป้องกันคนโทรเข้า (@)คุณไม่ควรอ่านข่าวนี้คนเดียว (@)แชร์ให้มากที่สุด* ขอขอบคุณ.. อธิบดีกรมป้องกันพลเรือนผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ