อ.พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ยาลดน้ำหนัก” นั้นมีอยู่จริงและถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถือเป็นยาที่ “มีผลข้างเคียงอันตราย” รวมถึงต้องเลือกคนไข้ที่จะใช้ยาเหล่านี้ให้ถูกต้องด้วย
สารที่เรามักพบในยาลดน้ำหนักและมีอันตรายได้แก่
1. “ไซบูทรามีน”
2. “ยาในกลุ่มแอมเฟตามีน”
3. “ยาระบาย บิสซาโคดิลและยาขับปัสสาวะ ฟูโรซีไมด์”
โดยทั่วไปแล้วยาลดน้ำหนักมีไว้ใช้สำหรับคนที่เป็น “โรคอ้วน”หรือคนที่ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วไม่เห็นผล
สารที่เรามักพบในยาลดน้ำหนักและมีอันตรายได้แก่
1. “ไซบูทรามีน”
2. “ยาในกลุ่มแอมเฟตามีน”
3. “ยาระบาย บิสซาโคดิลและยาขับปัสสาวะ ฟูโรซีไมด์”
โดยทั่วไปแล้วยาลดน้ำหนักมีไว้ใช้สำหรับคนที่เป็น “โรคอ้วน”หรือคนที่ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วไม่เห็นผล
"ยาลดน้ำหนัก" อันตรายอย่างไรและเหมาะกับใคร?
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88/อ.พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ยาลดน้ำหนัก” นั้นมีอยู่จริงและถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่