เช็คตัวเองว่ามี 4 อาการที่เป็นสัญญานเตือนของร่างกาย ว่า มีโอกาสตายได้ ภายใน 1~ 10 ปีนี้แล้วแต่อาการมาก-น้อย
- นักวิทยาศาสตร์ เผยก่อนเสียชีวิต ภายในเวลาไม่เกิน 10 ปี ร่างกาย จะส่ง 4 สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า
- เรื่องนี้ ศึกษา มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal วารสารการแพทย์อังกฤษ ที่ทำงานวิจัยในกลุ่มข้าราชการที่สูงอายุมากกว่า 65 ปี ถึง 6,000 คน (แรกเริ่ม ศึกษามาจากข้าราชการอายุ 35 ปี มากกว่า 10,000 คน จนภายหลัง ผ่านมา 35 ปี เหลือ 6,000 คน) ได้ผลว่า ประมาณ 1 -10 ปีก่อนเสียชีวิต ร่างกายจะส่งคำเตือนหลายอย่าง การจับสัญญาณเหล่านี้อย่างทันท่วงที และ แก้ไข 4 ตัวชี้วัดดังกล่าวได้ ก็สามารถชะลอความชราและ มีอายุที่ยืนยาวออกไปได้
- โดยนักวิทยาศาสตร์ได้พบ 4 ตัวชี้วัด ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการมีอายุยืนยาว หรือ อายุสั้นลง ได้แก่
- 1. ความเร็วในการเดิน
- นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักรติดตามผู้คนจำนวนมาก เป็นเวลา 7 ปี และพบว่า (โดยไม่คำนึงถึงดัชนีมวลกาย) คนที่เดินเร็วขึ้นก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เดินช้า คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนยาวกว่าโดยเฉลี่ย 15-20 ปี
- เนื่องจาก “การเดินเร็ว” จะตรงตามข้อกำหนดพื้นฐานในการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและปอด การเดินต้องใช้การประสานงานของกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบประสาท ฯลฯ
- คนปกติ ควรรักษาความเร็วในการเดินไว้ที่ 0.9 เมตร/วินาที หากความเร็วต่ำกว่า 0.6 เมตร/วินาที แสดงว่ากล้ามเนื้อลีบอย่างรุนแรง หากสังเกตเห็นว่าความเร็วในการเดินลดลงมากเกินไป โอกาสเสียชีวิตภายใน 1 ~10 ปีข้างหน้า มีสูง
ต้องรีบแก้ไขด้วยการฝึกเดินให้เร็วขึ้น อาจฝึกเดินช้า/สลับเดินเร็ว รอบละ 2-3 นาที เพียง 10 รอบ ก็เดินได้ 20~30 นาที ต่อวัน สัปดาห์ลั 5 วัน ก็เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุแล้ว
- 2. ความสามารถในการนั่งและยืน
- ความสามารถในการนั่งและยืน สามารถช่วยทดสอบความยืดหยุ่นของเอ็นแขนขาส่วนล่าง และสุขภาพของข้อเข่าได้ ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของเอ็นที่ดี และ ข้อต่อที่แข็งแรง จะมีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวมากกว่า 10 ปี
- เพื่อทดสอบความสามารถในการลุก/นั่ง สามารถเลือกเก้าอี้ที่ไม่มีที่วางแขน นั่งบนเก้าอี้โดยวางเท้าบนพื้น ใช้ 2 มือกอดอก จากนั้นลองยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วนั่ง ภายในเวลา 30 วินาที โดยไม่ใช้มือช่วยเหลือ
~ ผู้ชาย ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 14 ครั้ง
~ ผู้หญิง ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 12 ครั้ง
ถ้าลุกนั่งได้น้อยกว่า จำนวนดังกล่าว แสดงว่า กล้ามเนื้อสะโพก และ ขา อ่อนแรง ข้อเข่าไม่ดี มีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 1~10 ปี ถ้าต้องการมีอายุยืนยาวมากกว่า 10 ปี ต้องพยายามลุก/นั่ง ให้ได้มากกว่า อัตราดังกล่าวข้างต้น (ข้าพเจ้า อายุ 78 ปี ทดสอบลุกนั่ง ได้ 26 ครั้ง ภายใน 30 วินาที แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะ สังขารเริ่มเสื่อมถอยลงไปค่อนข้างมาก)
- 3. แรงบีบมือที่ดี
- ในทางการแพทย์ ความแข็งแรงของแรงบีบที่มือ ยังเป็นการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวมของบุคคลอีกด้วย สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของหัวใจได้ในระดับหนึ่ง โดยคนที่มีหัวใจทำงานปกติก็มีความแข็งแรงของแรงบีบมือที่ดีเช่นกัน
- โดยปกติแล้ว ความแข็งแรงของแรงบีบมือจะวัดด้วยเครื่องวัดแรงบีบมือ (Hand Grip Dynamometer) จากข้อมูลของนักวิจัย ความแข็งแรงของแรงบีบในผู้สูงอายุคือ สำหรับผู้หญิง ต้องได้ผลวัดอย่างน้อย 18.5 กก. และ สำหรับผู้ชายคือ 28.5 กก. ถ้าไม่มีเครื่องวัด ก็พยายามฝึกให้มีแรงบีบมือมากๆไว้ก่อน เริ่มจากฝึก กำแบ บ่อยๆ จากนั้น ฝึกออกแรงกำบีบสิ่งของให้แน่น แล้วปล่อย กำบีบแล้วปล่อย ความแข็งแรงกล้ามเนื้อของแรงบีบที่มือก็จะสูงมากขึ้น โอกาสอายุยืนเกิน 10 ปี ก็จะมีมากขึ้น
- 4. กิจวัตรประจำวันต้องทำได้ด้วยตัวเอง ได้แก่ : การแต่งตัว นุ่งกางเกง ไม่ลืมรูดซิป ไม่ลืมร้อยหูกางเกง/เข็มขัด เข้าห้องน้ำไม่ลืมกดราด ทำอาหาร ไปตลาด ก้มใส่ถุงเท้า/รองเท้าและ ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่นั่งยองๆแล้วลุกขึ้นได้ไม่หน้ามืด หากทำได้ด้วยตัวเอง…โอกาสมีอายุเกิน 10 ปี จะมีมากขึ้น
หากพบว่า การทำสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องยาก แสดงว่ามวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ลดลงไปมาก โอกาสเสียชีวิตภายใน 1~10 ปี มีสูง
Cr. หมอเฉพาะทางบาทเดียว
https://youtu.be/R1ehX4adCog?
ให้รีบแก้ไขด่วนด้วยการ
1.ออกกำลังกายให้เหงื่อออก
2.หยุดนํ้าตาลอุตสาหกรรม
3.หยุดอาหารเสริม เพราะอาจทำร้ายร่างกายมากกว่าจะเป็นประโยชน์(ให้แพทย์สั่งดีกว่า)
4.เลิกนอนดึก(ต้องหลับก่อน 23:00 น.)
- นักวิทยาศาสตร์ เผยก่อนเสียชีวิต ภายในเวลาไม่เกิน 10 ปี ร่างกาย จะส่ง 4 สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า
- เรื่องนี้ ศึกษา มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal วารสารการแพทย์อังกฤษ ที่ทำงานวิจัยในกลุ่มข้าราชการที่สูงอายุมากกว่า 65 ปี ถึง 6,000 คน (แรกเริ่ม ศึกษามาจากข้าราชการอายุ 35 ปี มากกว่า 10,000 คน จนภายหลัง ผ่านมา 35 ปี เหลือ 6,000 คน) ได้ผลว่า ประมาณ 1 -10 ปีก่อนเสียชีวิต ร่างกายจะส่งคำเตือนหลายอย่าง การจับสัญญาณเหล่านี้อย่างทันท่วงที และ แก้ไข 4 ตัวชี้วัดดังกล่าวได้ ก็สามารถชะลอความชราและ มีอายุที่ยืนยาวออกไปได้
- โดยนักวิทยาศาสตร์ได้พบ 4 ตัวชี้วัด ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการมีอายุยืนยาว หรือ อายุสั้นลง ได้แก่
- 1. ความเร็วในการเดิน
- นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักรติดตามผู้คนจำนวนมาก เป็นเวลา 7 ปี และพบว่า (โดยไม่คำนึงถึงดัชนีมวลกาย) คนที่เดินเร็วขึ้นก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เดินช้า คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนยาวกว่าโดยเฉลี่ย 15-20 ปี
- เนื่องจาก “การเดินเร็ว” จะตรงตามข้อกำหนดพื้นฐานในการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและปอด การเดินต้องใช้การประสานงานของกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบประสาท ฯลฯ
- คนปกติ ควรรักษาความเร็วในการเดินไว้ที่ 0.9 เมตร/วินาที หากความเร็วต่ำกว่า 0.6 เมตร/วินาที แสดงว่ากล้ามเนื้อลีบอย่างรุนแรง หากสังเกตเห็นว่าความเร็วในการเดินลดลงมากเกินไป โอกาสเสียชีวิตภายใน 1 ~10 ปีข้างหน้า มีสูง
ต้องรีบแก้ไขด้วยการฝึกเดินให้เร็วขึ้น อาจฝึกเดินช้า/สลับเดินเร็ว รอบละ 2-3 นาที เพียง 10 รอบ ก็เดินได้ 20~30 นาที ต่อวัน สัปดาห์ลั 5 วัน ก็เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุแล้ว
- 2. ความสามารถในการนั่งและยืน
- ความสามารถในการนั่งและยืน สามารถช่วยทดสอบความยืดหยุ่นของเอ็นแขนขาส่วนล่าง และสุขภาพของข้อเข่าได้ ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของเอ็นที่ดี และ ข้อต่อที่แข็งแรง จะมีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวมากกว่า 10 ปี
- เพื่อทดสอบความสามารถในการลุก/นั่ง สามารถเลือกเก้าอี้ที่ไม่มีที่วางแขน นั่งบนเก้าอี้โดยวางเท้าบนพื้น ใช้ 2 มือกอดอก จากนั้นลองยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วนั่ง ภายในเวลา 30 วินาที โดยไม่ใช้มือช่วยเหลือ
~ ผู้ชาย ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 14 ครั้ง
~ ผู้หญิง ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 12 ครั้ง
ถ้าลุกนั่งได้น้อยกว่า จำนวนดังกล่าว แสดงว่า กล้ามเนื้อสะโพก และ ขา อ่อนแรง ข้อเข่าไม่ดี มีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 1~10 ปี ถ้าต้องการมีอายุยืนยาวมากกว่า 10 ปี ต้องพยายามลุก/นั่ง ให้ได้มากกว่า อัตราดังกล่าวข้างต้น (ข้าพเจ้า อายุ 78 ปี ทดสอบลุกนั่ง ได้ 26 ครั้ง ภายใน 30 วินาที แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะ สังขารเริ่มเสื่อมถอยลงไปค่อนข้างมาก)
- 3. แรงบีบมือที่ดี
- ในทางการแพทย์ ความแข็งแรงของแรงบีบที่มือ ยังเป็นการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวมของบุคคลอีกด้วย สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของหัวใจได้ในระดับหนึ่ง โดยคนที่มีหัวใจทำงานปกติก็มีความแข็งแรงของแรงบีบมือที่ดีเช่นกัน
- โดยปกติแล้ว ความแข็งแรงของแรงบีบมือจะวัดด้วยเครื่องวัดแรงบีบมือ (Hand Grip Dynamometer) จากข้อมูลของนักวิจัย ความแข็งแรงของแรงบีบในผู้สูงอายุคือ สำหรับผู้หญิง ต้องได้ผลวัดอย่างน้อย 18.5 กก. และ สำหรับผู้ชายคือ 28.5 กก. ถ้าไม่มีเครื่องวัด ก็พยายามฝึกให้มีแรงบีบมือมากๆไว้ก่อน เริ่มจากฝึก กำแบ บ่อยๆ จากนั้น ฝึกออกแรงกำบีบสิ่งของให้แน่น แล้วปล่อย กำบีบแล้วปล่อย ความแข็งแรงกล้ามเนื้อของแรงบีบที่มือก็จะสูงมากขึ้น โอกาสอายุยืนเกิน 10 ปี ก็จะมีมากขึ้น
- 4. กิจวัตรประจำวันต้องทำได้ด้วยตัวเอง ได้แก่ : การแต่งตัว นุ่งกางเกง ไม่ลืมรูดซิป ไม่ลืมร้อยหูกางเกง/เข็มขัด เข้าห้องน้ำไม่ลืมกดราด ทำอาหาร ไปตลาด ก้มใส่ถุงเท้า/รองเท้าและ ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่นั่งยองๆแล้วลุกขึ้นได้ไม่หน้ามืด หากทำได้ด้วยตัวเอง…โอกาสมีอายุเกิน 10 ปี จะมีมากขึ้น
หากพบว่า การทำสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องยาก แสดงว่ามวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ลดลงไปมาก โอกาสเสียชีวิตภายใน 1~10 ปี มีสูง
Cr. หมอเฉพาะทางบาทเดียว
https://youtu.be/R1ehX4adCog?
ให้รีบแก้ไขด่วนด้วยการ
1.ออกกำลังกายให้เหงื่อออก
2.หยุดนํ้าตาลอุตสาหกรรม
3.หยุดอาหารเสริม เพราะอาจทำร้ายร่างกายมากกว่าจะเป็นประโยชน์(ให้แพทย์สั่งดีกว่า)
4.เลิกนอนดึก(ต้องหลับก่อน 23:00 น.)
เรียนรู้จากข่าว : 4 อาการ สัญญานเตือนของร่างกายที่พยากรณ์การเสียชีวิตล่วงหน้า 10 ปี
https://youtu.be/R1ehX4adCog?เรียนรู้จากข่าว : 4 อาการ สัญญานเตือนของร่างกายที่พยากรณ์การเสียชีวิตล่วงหน้า 10 ปี