2209 ข้อความ
- 1 คนสงสัยท่านใดมีเรื่องเดือดร้อนต้องการจะปรึกษาปัญหากฎหมาย ต้องการจะจัดทำนิติกรรมสัญญา อยากให้พนักงานอัยการช่วยเหลือไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทกับคู่กรณีทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญาอันเป็นความผิดอันยอมความได้ ต้องการให้พนักงานอัยการช่วยเหลือดำเนินคดีคุ้มครองสิทธิทางศาลเช่น การขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก การขอตั้งเป็นผู้ปกครอง การขอรับบุตรบุญธรรม การขอให้เป็นคนสาบสูญ การขอให้เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การแก้ไขปัญหากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติและอื่นๆ จะขอความช่วยเหลือกรณีได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการในฐานะที่เป็นผู้บริโภค หรือเป็นผู้ยากจนเดือดร้อน ได้รับความเสียหายืไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการให้พนักงานอัยการจัดทนายความอาสาช่วยเหลือด้านคดีต่างๆให้ สามารถติดต่อพนักงาน อัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้ทั่วประเทศทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด 76 จังหวัด กับสาขาอีก 36 อำเภอ รวม 112 สำนักงานโดยในสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 นั้น ประชาชนไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปที่สำนักงานอัยการ แต่สามารถติดต่อพนักงานอัยการได้ทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละสำนักงาน แต่ละภาค ที่ท่านอยู่ในพื้นที่ ดังนี้ 1. โทรศัพท์ 2. ทาง Facebook 3. ทางอีเมล 4. ทาง LINE 5. ทาง FaceTime 6. ทางระบบการประชุม Cisco webex (รายละเอียดปรากฎตามช่องทางติดต่อในภาพข้างล่างนี้) “อัยการ สคช. ช่วยได้ ให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย”ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดตัว ร้านอาหารกัญชา แห่งแรกในไทย ‘เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา’ . ‘กัญชารส’ ผุดร้านอาหารเอาใจสายเขียว จัดเต็มเมนูกัญชา ชูรสชาติด้วยสมุนไพรไทยโบราณ ในรูปแบบอาหารฟิวก์ชั่นกัญชาไทย จัดเต็ม 4 เมนูเด็ดมัดใจผู้นิยมสมุนไพร . 1.“รื่นเริง บันเทิงยำ” ...เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) 2.“กระเพราสุขใจ” กินมื้อไหนก็ไม่เบื่อ (ใส่กัญชา 1/2 ใบต่อจาน) 3.“ขนมปังคิกคัก” กินเสริมเวลาพัก แล้วจะรักทุกคำ (ใส่กัญชา 2 ใบต่อจาน) 4.“เล้งแซ่บซดเพลิน” ช่วยเจริญอาหาร (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) . ทั้งนี้ร้านอาหารดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย โรงพยาบาลอภัยภูเบศ ถือเป็นหนึ่งในเมนูคนรุกสุขภาพรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบาย ‘ปลดล็อคกัญชา’ ซึ่งอนุมัติให้สามารถใช้ กิ่ง-ก้าน-ใบ ของต้นกัญชา โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยต้องได้รับการรับรองร่วมกับภาครัฐและสามารถยืนยันผลผลิตกัญชาจากสหกรณ์ชุมชนได้ ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ของผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจอาหารสีเขียว ในประเทศไทยซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อาหารอร่อยและรสชาติเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในโลก ใครสนใจเชิญไปชิมที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา อภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี 037-211-088 (ต่อ 3123) .ยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศบค. อนุมัติ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 กลุ่มเข้าไทยได้แล้ว จริงหรือศบค. อนุมัติหลักการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าประเทศทั้งระยะสั้นและยาว หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ย้ำเข้มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 1. นักกีฬาต่างชาติ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ (วันที่ 6-16 ต.ค. 2563) 2. นักบินและลูกเรือบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใน Repatriation Flight 3. ผู้ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non Immigrant) ประเภทต่างๆ เน้นเฉพาะนักธุรกิจที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเภทต่างๆ พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท 4. ผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Long Stay มีการตรวจลงตราประเภท Special Tourist Visa 5. ผู้ถือบัตร APEC Card โดยเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น 6. ผู้ที่ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยในระยะสั้นและระยะยาว ผู้ที่มีความต้องการที่จะพำนัก 60 วัน สามารถขอต่อได้อีก 30 วัน พร้อมแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 500,000 บาทโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมการแพทย์เตือน 'อุจจาระร่วงเฉียบพลัน' โรคที่ควรระวังในช่วงฤดูฝน จริงหรือกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับเหตุการณ์หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โดยนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนทำให้มีความชื้นในอากาศมากเชื้อโรคเจริญเติบโตและแพร่เชื้อได้ดีทำให้อาหารและน้ำดื่มมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคเพิ่มขึ้นทำให้เกิดโรคของระบบทางเดินอาหารได้ง่าย โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เกิดได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส อาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน คือ จะถ่ายอุจจาระเหลวกว่าปกติเกิน 3 ครั้งต่อวันหรือถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายมีมูกปนเลือด 1 ครั้งต่อวันอาจมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนสาเหตุเกิดจากการได้รับเชื้อผ่านการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้ออยู่ การรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอมอาจจะทำให้ได้รับเชื้อได้anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่ามกลางการไม่มียา หรือวัคซีน เรามาใช้ไวตามิน C ซึ่งเป็นสารต้านไวรัส ในปริมาณสูงๆ จะไม่ดีกว่าหรือ ไวตามิน C ต้านได้อย่างไร ? ไวตามิน C เป็นสารเคมีที่พวกเราเรียกว่า Reducing agent หมายความว่า มันจะไปดีงเอาออกซิเจนออกจากโมเลกุลของไวรัส หรือยัดเยียดไฮโดรเจนให้กับไวรัส จนกระทั่ง คุณสมบัติการทำร้ายร่างกายของเราหมดไป ปัญหาคือ ทำอย่างไรเราจะกำจัดไวรัสได้ดีที่สุด คำตอบ คือ กินในปริมาณมากจนถ่ายอุจจาระเหลว ปัญหาว่า กินไวตามิน C จะเข้าไปภายในเซลล์ โดยผ่านผนังเซลล์ ได้อย่างไร เรื่องนี้เมื่อ 30 ปีนี้ มีการทดลองพบว่า ถ้ากินสารประเภท anthocyanin คือ สารสีม่วง ในมันเทศสีม่วง ในกระหล่ำปลีสีม่วง ในเปลือกชมพู่มะเหมี่ยว ไวตามิน C จะเข้าไปในเซลล์ได้ดี ยื่งกว่านั้น ธาตุสังกะสี ซี่งมีลักษณะทั้งทางกายภาพและทางอะตอมคล้ายแมคนีเซี่ยม Mg มาก เป็น catalyst ที่ดียิ่งในกระบวนการสร้าง enzyme ต้านไวรัส และกระตุ้นเซลล์ผิว epithelial tissue ให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดี จึงทำให้หายใจสะดวก ไม่เป็นปอดบวม สรุป สนใจ 1) ไวตามิน C ปริมาณมาก 2)กิรผักผลไม้เยอะๆ 3) กินสังกะสี 4) ถูกแดด 5) ออกกำลังกาย 6) กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่าไปยั่วยวนให้ไวรัสกระโดดใส่ จบไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19: ผู้เชี่ยวชาญชี้ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ตอนนี้ จริงใช่ไหมโควิด-19: ผู้เชี่ยวชาญชี้ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ตอนนี้Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุดทึ่ง ใบมะยม ทำให้หน้าขาว รุจิ นวัตกรรมความงามตั้งแต่ยุคกรุงศรีสุดทึ่ง ใบมะยม นำมาสกัด เป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิวได้ ด้วยภูมิปัญญาคนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรี หลายคนคงสงสัยว่าสาวๆสมัย100 ปีที่แล้ว ใช้อะไรถึงได้หน้าขาวไร้สิว ซึ่งก็อาจมีสมุนไพรต่างๆ ที่เราพอทราบ ตั้งแต่ขมิ้นชันนำมาบด มะขามเปียก ตลอดจนแป้งดินสอพอง แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึง และแทบจะมีปลูกอยู่ทุกบ้านคือต้นมะยม คือนำใบมะยมมาบดให้เป็นน้ำแล้วนำมาพอกหน้า จะทำให้ผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งนักวิจัยหลายท่าน ยังเผยอีกว่า ใบมะยม มีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดอาการผิวอักเสบ โรคผิวหนังต่างๆ รวมถึงฝีหนอง ใบมะยมยังให้วิตามินซีสูง ช่วยในเรื่องขาวกระจ่างใส ไม่แปลกเลย ทำไมชาวบ้านสมัยก่อนถึงนิยมปลูกมะยมไว้กินกันทุกบ้าน อีกทั้งยังนำใบมะยม นำมาบดทำสมุนไพรเสริมความงามได้อีก ซึ่งนวัตกรรมนี้ รุจิ เซรั่ม (ruji serum) ไม่รอช้า นำสารสกัดจากใบมะยมครั้งแรกของเมืองไทย นำมาเป็นส่วนของการผสมผสาน ในเนื้อเซรั่ม เพื่อความกระจ่างใส อีกทั้งยังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกต่างชื่นชอบสมุนไพรไทยยกให้เป็นอันดับหนึ่งของนวัตกรรมความงาม ความลับที่แอบซ่อนมายาวนาน กับใบมะยม เมื่อนำมาสกัดทำให้พบว่า มีสารสำคัญที่ให้ผลต่อผิว ทั้งในส่วนของการเป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิว จากผลงานวิจัย นำไปสู่งานนวัตกรรมของเซรั่ม ที่ส่งไปประกวดไกลถึงโรมาเนีย ได้รางวัลเหรียญทองกลับมา พ่วงด้วยงานรางวัลนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ที่ให้ผลช่วยในเรื่องของผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” เพราะปัญหาผิวต้องแก้ที“ต้นเหตุ” Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” คือเซรั่มทีถูกคิดค้นมาเพื่ออุดทุกต้นเหตุความหมองคล้ำ เอา ชนะริ้วรอยก่อนวัยที่มากับวัย พร้อมเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ผิวจึงทนต่อมลภาวะ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นได้เช่น UV ในแสงแดด, แสงสีฟ้า จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ, อายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน, ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” มีสารสกัดหลักสําคัญดังนี้ 1. Glabridin 90% มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว อัพเกรดผิวให้ดู สว่างใส 2. Tetrahydrodiferuloylmethane = สารสกัดขมิ้น ทําหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ชะลอ การเกิดริ้วรอยก่อนวัย 3. Nonapeptide-1 = เปบไทด์ระดับเข้มข้น มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว สีผิวดูเรียบเนียน เสมอกัน 4. Ascorbyl Tetraisopalmitate = เกิดจากการรวมตัวของ vitamin C และ Isopalmitic Acid ซึมซาบสู่ใต้ชั้นผิวได้ดีและล้ำลึกกว่า 5. Azelaic Acid = กรดอะเซลาอิก ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ลดเชื้อแบคทีเรีย 6. Copper Tripeptide -1 = มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน ให้หลุมลึกตื้นขึ้น 7. Palmitoyl Tripeptide-1 = พาลมิโทอิล ไตรเปปไทด์-1 เพิ่มปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว ริ้ว รอยจางลง ไม่ทําให้ชั้นผิวบาง 8. Leuphasyl ( Pentapeptide -18) = มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดํา ให้ดูจางลง 9. Ceramide complex = ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย เติมความชุ่มชื้นให้ใต้ชั้นผิว 10. Troxerutin = สนญี่ปุ่น ต้านการอักเสบของผิว ดูแลปัญหาผิว Seb.Derm 11. rose water = ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย คลายเครียดให้ผิว ลดความอ่อนล้าของผิวstd47676• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้สุขภาพมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย#ความมหัศจรรย์ของ CANP เรากําลังเขียนปี 1914 ปีแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1 และเกษตรกรปลูก "กัญชา" สําหรับดอลลาร์อเมริกัน... เก็บสิ่งนี้ไว้ในใจและอ่านต่อไป..!! กัญชาอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่พืชเกษตร! นี่คือยาแก้พิษสําหรับน้ํามันและดอลลาร์! HEP ถูกแบนอย่างไร? 👉1. หนึ่งเฮกตาร์ของว่านผลิตออกซิเจนมากเท่ากับป่า 25 เฮกตาร์ 👉2. อีกครั้งกัญชา 1 เอเคอร์ สามารถออกกระดาษได้เท่ากับ 4 เอเคอร์ 👉3. ในขณะที่กัญชาสามารถเปลี่ยนเป็นกระดาษได้ 8 ครั้ง ไม้สามารถเปลี่ยนเป็นกระดาษได้ 3 ครั้ง 👉4. กัญชาโต 4 เดือน ต้นไม้อื่น 20-50 ปี 👉5. กัญชาเป็นนักจับรังสีที่แท้จริง 👉 6 กัญชาปลูกได้ทุกที่ในโลก และต้องใช้น้ําน้อยมาก นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันแมลงได้ คุณไม่จําเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลง 👉7. ถ้าสิ่งทอที่ทําจากกัญชาแพร่กระจาย อุตสาหกรรมยาฆ่าแมลงก็คงหายไปอย่างสิ้นเชิง 👉8 กางเกงยีนส์ตัวแรกทําจากกัญชา แม้แต่คําว่า CANVAS ก็เป็นชื่อของผลิตภัณฑ์ กัญชาเป็นพืชที่เหมาะสําหรับการทําเชือก, เชือก, กระเป๋า, รองเท้าและหมวก 👉9. ลดผลกระทบของยาเคมีบําบัดและรังสีในการรักษาโรคกัญชา เอดส์ และมะเร็ง ใช้แล้วอย่างน้อย 250 โรค เช่น โรคไขข้อ หัวใจ ลมชัก หอบหืด กระเพาะอาหาร นอนไม่หลับ จิตวิทยา และโรคไขสันหลัง 👉10 คุณค่าโปรตีนของเมล็ดกัญชาสูงมาก และกรดไขมันสองชนิดที่อยู่ในธรรมชาติไม่พบที่ไหน 👉11. ต้นทุนผลิตกัญชาถูกกว่าถั่วเหลือง 👉12. สัตว์ที่เลี้ยงด้วยกัญชาไม่จําเป็นต้องทดแทนฮอร์โมน 👉13 ผลิตภัณฑ์พลาสติกทุกชนิดสามารถทําจากกัญชาได้ และพลาสติกจากกัญชาสามารถคืนสู่ธรรมชาติได้ง่ายดาย 👉14. ถ้าตัวรถทําด้วยกัญชา จะแข็งแรงกว่าเหล็ก 10 เท่า 👉15. นอกจากนี้ยังสามารถใช้สําหรับฉนวนกันความร้อนของอาคารได้ ทนทาน ราคาถูก ยืดหยุ่น 👉สบู่และเครื่องสําอาง 16 ก้อนที่ทําด้วยกัญชาไม่ปนเปื้อนน้ํา ดังนั้นจึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ A 18 การผลิตถูกบังคับในศตวรรษอเมริกาและเกษตรกรที่ไม่ได้ผลิตถูกปิด แต่ตอนนี้มันเป็นอีกแบบหนึ่ง มาจากไหน? 👎-ว. R. Hurst เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสื่อในอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1900s พวกเขามีป่าและผลิตกระดาษ ถ้ากระดาษถูกทําจากกัญชา มันอาจจะไม่สูญเสียไปหลายล้าน 👎 Rockefeller เป็นผู้ชายที่รวยที่สุดในโลก มีบริษัทน้ํามัน เชื้อเพลิงชีวภาพ แน่นอนว่าน้ํามันกัญชา เป็นศัตรูตัวใหญ่ที่สุดของเขา 👎 -Mellen เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Dupont เขามีสิทธิบัตรสําหรับการผลิตพลาสติกที่ได้จากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม อุตสาหกรรมกัญชาคุกคามตลาดด้วย 👎 - เมลลลอนกลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประธานาธิบดีฮูเวอร์สหรัฐฯ ชื่อใหญ่ ๆ ที่เราพูดถึงได้ตัดสินใจในการประชุมของพวกเขาว่ากัญชาเป็นศัตรู และมันถูกนําออกมา ผ่านสื่อ กัญชา ถูกฉีดเข้าสมองประชาชน เป็นยาพิษ พร้อมกับกัญชา •ยากัญชาถูกถอนออกจากตลาดแทนที่จะใช้สารเคมีในวันนี้ •ป่าถูกตัดลงเพื่อผลิตกระดาษ •เพิ่มสารกําจัดศัตรูพืชและมึนเมาของมะเร็ง จากนั้นเราก็เติมเต็มโลกของเราด้วยขยะพลาสติก ขยะที่เป็นอันตราย... ทั้งหมดทั้งมวลที่ Elite Cabal ยัดเยียดให้กับชาวโลก ล้วนหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น..!! Cr: Mikhail Mikhailov #Ttango17Q 28 January 2Q23ยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบริษัทขายยากำจัดแมลงสาบ เจ๊งแน่เมื่อมีเด็กไทยหัวใสคิดค้นผลิตยาที่ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงสาบบริษัทขายยากำจัดแมลงสาบ เจ๊งแน่เมื่อมีเด็กไทยหัวใสคิดค้นผลิตยาที่ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงสาบ เก่งจิงๆเลยนะ สุดยอด! เด็ก ป. 6 อัจฉริยะ ค้นพบวิธีกำจัดแมลงสาบตายยกรัง เด็กนักเรียนประถมโรงเรียนสมเด็จประชานุเคราะห์ หัวใสคิดค้นสารกำจัดแมลงสาบ สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคร้ายสูตรตายรังได้สำเร็จ สามารถกำจัดแมลงสาบได้ดีโดยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แมลงสาบ เป็นสัตว์ที่มีนิสัยกัดแทะทำลายข้าวของ ขับถ่ายสิ่งสกปรก ส่งกลิ่นเหม็น และแพร่กระจายเชื้อโรคมาสู่คนได้อย่างมากมาย ได้แก่ โรคทางเดินอาหาร อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ ภูมิแพ้ และโรคหอบหืด สารกำจัดแมลงสาบที่นักเรียนโรงเรียนสมเด็จประชานุเคราะห์ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ค้นพบและสามารถกำจัดแมลงสาบให้กลับไปตายที่รังได้สำเร็จ มีส่วนประกอบที่ธรรมด๊า ธรรมดาที่สำคัญ คือ ปูนซีเมนต์ผง ผงแป้งข้าวจ้าว และผงโอวัลติน นำส่วนผสมผงทั้ง 3 ชนิดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปวางไว้ในที่ที่มีแมลงสาบซุกชุม พร้อมนำถาดน้ำไปวางไว้ใกล้ๆ แมลงสาบจะมากินสารกำจัดแมลงสาบและน้ำแล้วจะกลับไปตายที่รังของมัน ซึ่งเป็นวิธีการกำจัดแมลงสาบที่ไม่มีพิษตกค้าง และเป็นอันตรายต่อมนุษย์เหมือนกับ การกำจัดแมลงสาบโดยวิธีการใช้สารเคมีฉีดพ่น เด็กหญิงเจนจิรา โพนยงค์ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนสมเด็จประชานุเคราะห์ หนึ่งในผู้คิดค้นสารกำจัดแมลงสาบนี้ กล่าวว่า ส่วนประกอบธรรมดาของสารกำจัดแมลงสาบที่นำมาผสมกันจะมีคุณสมบัติและทำหน้าที่แตกต่างกันไป คือ 1.โอวัลตินจะเป็นสารที่ล่อให้แมลงสาบมากินสารกำจัดแมลงสาบ 2.แป้งข้าวจ้าวจะทำให้แมลงสาบคอแห้งหิวน้ำ ต้องหาน้ำกินเข้าไป 3.ส่วนปูนซีเมนต์สารตัวสำคัญเมื่อถูกน้ำจะแข็งตัว แล้วจะทำให้แมลงสาบจุกแน่นท้องและขี้จุกตูดตายไป ทุกคนทุกบ้านสามารถผลิตสารกำจัดแมลงสาบแบบง่ายๆนี้และนำไปใช้ได้เองอย่างปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง ให้เป็นอันตรายกับชีวิต ต้องขอชื่นชมเด็กไทย หัวใส มีสติปัญญา ไม่แพ้ประเทศใดในโลกใบนี้เหมือนกัน ต้องช่วยกันเผยแพร่สิ่งดีๆ นี้ให้รู้กันทั่วไป ......แชร์เลยMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพาราไม่ได้ปลอดภัยกับคนท้องอีกต่อไป! เพิ่มความเสี่ยงลูกเป็นสมาธิสั้น 200% ออทิสติก 300% ทำให้ IQ ต่ำลง !พาราไม่ได้ปลอดภัยกับคนท้องอีกต่อไป! เพิ่มความเสี่ยงลูกเป็นสมาธิสั้น 200% ออทิสติก 300% ทำให้ IQ ต่ำลง ! จากงานวิจัยในวรสาร Nature ล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเกือบ 100 คน พบว่าการกินยาพาราเพื่อลดปวดหรือลดไข้ช่วงตั้งครรภ์ สร้างปัญหาให้เด็กมหาศาล ยาพารา Paracetamol หรือ acetaminophen หรือ N-acetyl-p-aminophenol = APAP ทุกยี่ห้อ เวลาแม่กินไปจะผ่านรกและเข้าในสมองเด็กได้ และสมองของมนุษย์เราบอบบางและไวต่อสารเคมีหรือการบาดเจ็บ โดยเฉพาะในช่วงอยู่ในครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก ถ้าได้รับสารเคมีมาช่วงนี้จะมีผลให้พัฒนาช้าผิดปกติได้สูง เมื่อพาราเข้าไปในร่างกายเด็ก พาราจะไปยับยั้ง prostaglandins E2, cyclo-oxygenase2 ซึ่งทำให้ไปลดการพัฒนาของสมองส่วน cerebrum, สมองน้อย cerebellum จากการสำรวจแม่และเด็ก 220,000 คู่ พบว่าการกินพาราช่วงท้องเพิ่มโอกาสสมาธิสั้นอย่างน้อย 200% และออทิสติก 300% ทำให้ IQ ลดลง พูดได้ช้า สมองพิการและลด executive function ในเด็กอย่างชัดเจน ภาพสแกนสมองในคนพบว่าพาราทำให้การประสานงานในสมองด้านหน้าซ้ายและสมองด้านขวาตรงกลางลดลง เรามักคิดว่าพาราออกฤทธิ์ได้ไม่นานแค่ 4-6 ชั่วโมง แต่จริงๆแล้วยาที่สะสมในตัวเราและผลของยาอยู่ได้นานกว่าที่เคยคิด ในหนูทดลองที่กินยาพาราติดต่อกัน 5 วัน ก็ส่งผลต่อสมองแล้ว โดยเฉพาะในช่วงการท้องช่วงหลัง 3 เดือนสุดท้าย ยิ่งอันตรายมาก นอกจากเรื่องสมอง พารายับยั้งฮอร์โมนเพศชาย androgen, เพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง estrogen, รบกวนการสร้าง steroid, ทำให้เพิ่ม oxidative stress และรบกวนระบบ endocannabinoid, ลด stem cell และมีผลต่อภูมิคุ้มกันร่างกาย จากใจหมอที่รักษาเด็กออทิสติกสมาธิสั้น พัฒนาการช้าทุกวัน ความทุกข์ของครอบครัวมันหม่นหมองมากๆเลยครับ ถ้าจะกินพาราในคนท้อง ต้องกินเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น หรือไปใช้วิธีลดปวดอื่นๆดีกว่า เช่น นวด แผ่นร้อน แผ่นเย็น เลเซอร์ อัลตราซาวน์ คลื่นกระแทก TECAR ฯลฯ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอหรือผู้รักษานะครับ การฝังเข็มก็ได้ผลดี แต่ในบางตำแหน่งอาจทำให้แท้งได้ ต้องแจ้งคุณหมอฝังเข็มก่อนนะว่าเราตั้งครรภ์อยู่ และควรหลีกเลี่ยงจุดฝังเข็มไหนบ้าง หมออยากให้คนท้องทุกคนได้อ่าน หรือคนที่กำลังตั้งใจจะตั้งครรภ์ เพื่อนๆหมอ เภสัช พยาบาลและในสายสาธารณสุขทุกคน เพราะความรู้ที่เราเคยเรียนมาอาจเป็น iatrogenic ทำให้เด็กมีปัญหาได้ ลิงค์งานวิจัยอยู่ในเมนต์นะครับ สรุป "ห้าม" กินยาพาราพร่ำเพรื่อเด็ดขาด ไม่งั้นลูกจะไม่ฉลาดนะครับ #DrSomros #Autism #ADHDMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"natthakrittasangchouy• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"ลดความอ้วนSirilawan Sukphithak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินกระท่อมเเบบนี้เเล้วดีจริงเหรอกินกระท่อมเเบบนี้มันดีกว่าเเบบอื่นๆจริงเหรอstd47683• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฟ้าทะลายโจรรักษาไข้หัดแมวได้จริงไหมปัจจุบัน “แมว” เป็นที่นิยมในหมู่คนรักสัตว์ ทำให้จำนวนแมวที่เลี้ยงเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคไข้หัดแมวซึ่งเป็นสาเหตุการตายสูงในแมวทุกปี หลายคนจึงหันไปใช้ “ฟ้าทะลายโจร” เป็นสมุนไพรในการรักษาโรคนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันในการรักษาโรคไข้หัดแมว (แหล่งข้อมูล https://www.vetdiags.com/post/vetdiags-feline-parvovirus) จากการสัมภาษณ์ อาจารย์นายสัตวแพทย์ วัชระ วิปัสสา อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ให้ข้อมูลว่า “ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่าการใช้ฟ้าทะลายโจร มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไข้หัดแมวมากเพียงใด และยังไม่ทราบว่ามีพิษหรือข้อจำกัดอะไรบ้างที่จะไปใช้ในสัตว์ ด้วยข้อมูลที่เคยศึกษา การใช้ฟ้าทะลายโจรยังไม่เป็นที่ยอมรับและยังมีคำถามอยู่มากว่า ฟ้าทะลายโจรมีพิษอย่างไรต่อแมวที่เป็นไข้หัดมากเพียงใด จึงไม่แนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาหลักในการรักษาไข้หัด” ทั้งนี้ อาจารย์นายสัตวแพทย์ วัชระ วิปัสสา ได้ให้ข้อแนะนำเมื่อแมวติดไข้หัดแมวว่า “แผนการรักษาในปัจจุบันที่ดีที่สุดคือการรักษาแบบ supportive หรือการรักษาตามอาการ อาการของแมวจะดีขึ้นภายใน 2ถึง 3 วันและจากนั้นภูมิคุ้มกันในร่างกายแมวจะขจัดเชื้อออกไปเอง” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567) (แหล่งข้อมูล https://www.youtube.com/watch?v=c6qPM3n10do, https://www.thairath.co.th/news/society/1000267) ดังนั้น ฟ้าทะลายโจรจึงไม่สามารถรักษาโรคไข้หัดแมวได้ และการรักษาตามอาการเป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันสุขภาพยาสมุนไพรธิติวัฒน์ ทารมย์• 10 เดือนที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทายนิสัย การเขียนเลข 3 เขียนแบบหัวคมหรือหัวมนบอกนิสัยที่ซ่อนอยู่ได้ทายนิสัย การเขียนเลข 3 เขียนแบบหัวคมหรือหัวมนบอกนิสัยที่ซ่อนอยู่ได้ หัวคม คุณเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล มีหลักการ ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีความจริงจัง ช่างเลือก รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีความพิถีพิถันในการตัดสินใจ เรียกว่าเป็นคนที่มีความละเอียดมากๆ มีความระมัดระวังตัวเองในทุกๆ การกระทำ ไม่ว่าจะทำอะไร จะต้องผ่านการ คิด วิเคราะห์ และมีการกลั่นกรองมาแล้วเสมอ ชอบทำตามกฎระเบียบ ชอบความเรียบร้อย-สมบูรณ์แบบ สามารถเป็นที่ปรึกษาคนอื่นได้ดี เพราะว่าคุณเป็นคนที่ใช้เหตุผลนำ ไม่ใช่อารมณ์นำ หัวมน คุณเป็นคนที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นคนที่มีพลังงานสูง เป็นคนที่มีความแอคทีฟ เป็นคนที่สามารถจัดการทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ชอบคิดอะไรที่นอกกรอบ ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่คนอื่นวางไว้ เป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ ดูหนักแน่นและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นคุณยังเป็นคนที่ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น มักจะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกับคนอื่น โดดเด่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนที่ชอบสร้างสีสันและความสนุกให้กับคนรอบข้างให้มีรอยยิ้มได้เสมอnamnami• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยรักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติsumpakadeeraksa• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 1.) การถ่ายภาพเบื้องต้น | Basic Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL001+2017/about 2.) การถ่ายภาพด้วยเทคนิคสร้างสรรค์ | Creative Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL009+2019/about 3.) โมชั่นกราฟิกพื้นฐาน | Foundation of Motion Graphic https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL011+2019/about 4.) คอมพิวเตอร์เพื่อการพูดและการนำเสนอ | Computer for Speech and Presentations https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL003+2017/about 5.) หลักเศรษฐศาสตร์เกษตร | Principles of Agricultural Economics https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL005+2017/about 6.) การท่องเที่ยวโดยชุมชน | Community Based Tourism https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL014+2019/about 7.) สร้างสรรค์สื่อวีดิทัศน์ยุคใหม่ | Creative Video Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL002+2017/about 8.) การผลิตหนังสั้น | Short Film Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL010+2019/about 9.) การเลี้ยงสัตว์เบื้องต้น | Principle of Animal Husbandry https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL007+2017/about 10.) หลักและวิธีการส่งเสริมการเกษตร | Principles of Agricultural Extension https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL004+2017/about 11.) การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสู่ธุรกิจเงินล้าน | Algal Cultivation https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL012+2019/about 12.) การจัดการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสวยงาม | Pet Management https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL013+2019/about 13.) การปลูกพืชเบื้องต้น | Principle of Crop Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL006+2017/about . 📌 วิธีการสมัครเข้าเป็นสมาชิก https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1646232145708423 📌 ขั้นตอนเรียนออนไลน์กับ Thai MOOC https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1678665039131800 . #สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง #ThaiMOOCระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี24ชั่วโมง #คอร์สออนไลน์ #คอร์สฟรี #KMITL ———— ©️CMMU Library แหล่งรวมงานวิจัย บทความ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ ข่าวสารการศึกษาในแวดวงวิชาการ, คอร์สออนไลน์ อัปเดตทุกวัน . 📌 ติดตาม CMMU Library Website : http://library.cmmu.mahidol.ac.th Facebook : CMMU Library twitter : @cmmulib IG : cmmu.library Youtube : http://bit.ly/2OPiBfQMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Albumเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์ นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือ หรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ขอใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือ ข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆ ละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพและ ลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวร กู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเนท ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ-เพลง-เกมส์- app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIP มือถือช้า-อืด-เม็มเต็มMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยความจริงของ lineเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือหรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ของใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพ และลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวรกู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเน็ต ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ- เพลง-เกมส์ app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIPMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวดี..👩🌾👨🌾 พี่น้องเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ชาวสวน โปรดทราบ อภัยหนี้ จากระบบหนี้ หนี้ธาตุในระบบ (ไม่รวมหนี้นอกระบบ) ธนาคาร ธกส. เป็นธนาคารนำร่อง ยกหนี้ จะมีเอกสารแจ้งหนี้จากธนาคารรัฐบาล 1. ธนาคารธกส. 2. ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารออมสิน ถึงเกษตรกรโดยตรงแจ้งหนี้หนี้นั้นเป็น 0 ถ้ายังไม่มีหนังสือแจ้งหนี้จะมีหนังสือแจ้งหนี้ตามมาทุกคน เหมือนกันทั่วประเทศ เกษตรกรท่านใดที่ได้รับหนังสือแจ้งหนี้จากธนาคารต้นสังกัด นำเอกสารฉบับนั้นไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากความไม่เข้าใจที่รัฐบาลบัตรเขย่ง ปิดบังความจริง เจ้าหน้าที่ธนาคารจะอธิบายชี้แจงให้เข้าใจอย่างละเอียด เข้าใจง่ายๆเป็นกันเอง ☑️แล้วเจ้าหน้าที่จะมอบเอกสาร ที่เป็นหลักฐานค้ำประกันเงินกู้ คืนให้แก่ท่าน ☑️จากนั้นท่านจะหลุดพันจากการ เป็นหนี้ทาสทันที ไม่ต้องตกเป็นทาสหนี้อีกต่อไป 🙏👑 ด้วยบารมีจากล้นเกล้าพ่ออยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นำเงินส่วนพระองค์ นำมาจ่าย ยกหนี้ ล้างหนี้ให้กับท่าน 🙉ไม่มีหน้าม้า 🙈ไม่มีนายหน้า จะไม่มีตัวแทนจากธนาคารของรัฐฯไปยื่นเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกอบต. เจ้าพนักงานตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด 📢 กรุณาช่วยกันเป็นสื่อกระจายข่าว ถึงพี่นอนเกษตรกร ทุกสาขา ทุกอาชีพและรับทราบ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี https://youtu.be/-a3UaJZuFkMข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใดเรียน ทุกท่าน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการสอบถามดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ) เข้ามาเป็นจำนวนมากถึงผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใด จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการ ใช้หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวด้วย ขอบคุณค่ะ ด้วยความเคารพ ศ. ภญ. ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยสรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช.สรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช. ซึ่งเป็นคนแรกๆ ของโลก ที่ค้นพบ แต่ช้าในเรื่องการโฆษณาเผยแพร่ สรุปผลของสารอาหารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียงลำดับตั้งแต่ทำลายสูงสุดลงไป ดังนี้ :- 1. มะนาว , มะกรูด , ส้มทุกชนิด กินป้องกัน (พระเอก) มีฤทธิ์ -9.5 2. ยา (Favipiravir-RTP) มีฤทธิ์ -8.8 3. ชาเขียว(ชาชง) กินป้องกัน มีฤทธิ์ -8.5 4.1 ข้าวไร้ซ์เบอรี่ , รำข้าวสีม่วง , มันม่วง , ข้าวโพดม่วง กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.9 4.2 (Masitinib) ยารักษาไขข้อ มีฤทธิ์ -7.9 5.1 กระชายขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 5.2 งาดำ กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 6. ฟ้าทะลายโจร (กินรักษาเมื่อติดเชื้อแล้ว) มีฤทธิ์ -7.3 7. ชาขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.0 8. องุ่น กินป้องกัน มีฤทธิ์ -6.9 9. ขมิ้นชัน กินป้องกัน (ฤทธิ์น้อยสุด) มีฤทธิ์ -6.1 ❤️ ค้นพบอาหารอาหารที่ยับยั้งโควิคตัวใหม่หลายตัว ที่เก่งกว่ากระชายขาว และบางตัวดีกว่าฟ้าทะลายโจร (ช่วยกันแชร์เพื่อคนไทยทั้งประเทศด้วยนะค่ะ) https://www.youtube.com/watch?v=-Fmg51FC9U0โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยราชาแห่งผลไม้คืออะไร? ถ้าตอบ: ทุเรียน คำตอบ ไม่ถูกต้อง ครับ สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ PAPAYA ผลไม้เขตร้อนที่ดูต่ำต้อย ซึ่งมีให้บริการตลอดทั้งปีกลายเป็น ราชาแห่งผลไม้ มะละกอ ได้รับการคัดเลือกจาก WHO (องค์การอนามัยโลก) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันให้เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด เหตุผล ทำไม? นี่คือข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับมะละกอ คุณค่าทางโภชนาการของมะละกอมีดังนี้: 1. * แคลเซียม * เป็นสองเท่าของแอปเปิ้ล 2. * วิตามินซี * เป็น 13 เท่าของแอปเปิ้ล 7 เท่าของ กล้วย 7 เท่าของแตงโม 8 เท่าของเชอร์รี่ 1.3 เท่าของสับปะรด 3. * วิตามินเอ * เป็น 10 เท่าของผลไม้กีวี 18 เท่าของแอปเปิ้ล 1.5 เท่าของกล้วย 1.5 เท่าของแตงโม 15 เท่าของเชอร์รี่ และ 16 เท่าของสับปะรด 4. * วิตามินเค * เป็น 5 เท่าของกล้วย 2.5 เท่าของแตงโม และ 4 เท่าของสับปะรด 5. * แคโรทีนอยด์ * ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องดวงตา ได้แก่ ไลโคปีนเบต้าแคโรทีนลูทีนและซีแซนทีน มีมากกว่าผลไม้กีวี แอปเปิ้ล เชอร์รี่ และสับปะรดถึง 2,000 เท่า (กล้วยและฝรั่งไม่มีส่วนผสมดังกล่าว) แหล่งข้อมูลข้างต้นมาจากกระทรวงเกษตรของ สหรัฐอเมริกา (USDA) 2016 ไม่น่าเชื่อว่ามะละกอเป็นราชาแห่งผลไม้ สุดทึ่ง! “ ส้มตำจงเจริญ” มีที่ก็ปลูกมะละกอกันเถอะ เชื่อผม!ความสวยความงามไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแจ๊ค หม่า เผยความลับ คนจีน 1,300 ล้านคนตกตะลึง เฉินหลง หลิวเต๋อหัว โจวซินเฉือ ฟังแล้วร้องให้ -หากชีวิตเรา ถือเงินทอง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความยากลำบาก -หากชีวิตเรา ถือบุตรธิดา เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า -หากชีวิตเรา ถือความรัก เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บปวด -หากชีวิตเรา ถือการแข่งขัน เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ -หากชีวิตเรา ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้าง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข -หากชีวิตเรา ถือความพอเพียง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความสุข -หากชีวิตเรา ถือบุญคุณ เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา -คุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้น @ “อย่าอวด”... 1. อย่าอวดอ้างเงินของคุณในโรงพยาบาล เพราะมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น 2. อย่าอวดอ้างงานที่คุณทำ เพราะเมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกมาก ที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ 3. อย่าอวดอ้างบ้านช่องของคุณ เพราะเมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลาย เป็นรังของคนอื่น 4. อย่าอวดอ้างรถของคุณ เพราะเมื่อคุณจากไป กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวดอ้างได้ คือ “สุขภาพที่ดีของคุณ”... ขอให้เพลิดเพลินกับชีวิต ที่มีสุขภาพดี... จงดูแลรักษาตัวเองให้ดี เนื่องจากอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้ และราคาสุดแพง ที่สำคัญคือ ไม่มีของให้. เมื่อดูจบขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ