2433 ข้อความ
- 1 คนสงสัยส.ส.เขต 2 ชลบุรี ขาดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เนื่องจากไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นข่าวการเมืองเลือกตั้งภาคตะวันออกPotter• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยBTS สายสีลม สายสุขุมวิท และสายสีทอง เปิดถึงตี 2 วันที่ 1 ม.ค. 66BTS สายสีลม สายสุขุมวิท และสายสีทอง เปิดถึงตี 2 วันที่ 1 ม.ค. 66thanathun• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเล็บเหลืองเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด และโรคไทรอยด์จากกรณีมีบทความในสื่อออนไลน์ระบุว่า เรื่องเล็บเหลืองอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น กลุ่มอาการเล็บเหลือง การติดเชื้อราที่เล็บ การแพ้ยาทาเล็บ รวมถึงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด โรคไทรอยด์ และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างเหมาะสม ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เล็บสีเหลืองไม่ได้เป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด และโรคไทรอยด์ ซึ่งกลุ่มโรคเล็บเหลือง (Yellow nail syndrome) จะมีอาการเล็บเป็นสีเหลืองทุกเล็บ จะเป็นโรคที่พบร่วมกับทางเดินน้ำเหลืองที่มีการอุดตัน ทำให้เกิดแขนหรือขาบวม และมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดหรือการอักเสบของหลอดลม และไซนัสได้ เล็บที่มีสุขภาพดี คือเล็บที่มีสีออกชมพูจาง ๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ มีพื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรงและเล็บมีความหนาไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป ถ้าเล็บมีความแตกต่างไปจากนี้ถือว่าเป็นเล็บที่ไม่ปกติ จะเป็นสัญญาณบอกโรคได้ เช่น โรคเชื้อรา ที่นอกจากเล็บจะหนาขึ้นแล้ว อาจมีสีเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือขาวหรือน้ำตาลร่วมกับมีปลายเล็บร่อน โรคสะเก็ดเงินมักจะมีอาการเล็บหนามีสีเหลืองได้มักเป็นหลาย ๆ เล็บที่มีสีขาวครึ่งเล็บพบได้ในคนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง เล็บที่มีสีขาว 2 ใน 3 ของเล็บพบได้ในคนเป็นโรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคตับแข็งและโรคหัวใจวาย เล็บที่มีสีขาวเป็นแถบขวางอาจเป็นโรคโปรตีนในร่างกายต่ำ เป็นต้นpacharagunjitjueawong• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเปิดรับสมัครวีซ่าทำงานนิวซีเเลนด์ อายุ 20-55 ปี ถูกกฎหมาย ผ่านกระทรวงแรงงานกรณีที่มีโฆษณาประกาศว่า เปิดรับสมัครวีซ่าทำงานนิวซีเเลนด์ อายุ 20-55 ปี ถูกกฎหมาย ผ่านกระทรวงแรงงาน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีข้อมูลเผยแพร่เกี่ยวกับเปิดรับสมัครวีซ่าทำงานที่ประเทศนิวซีเเลนด์ อายุ 20-55 ปี เงินเดือนขั้นต่ำ 70,000-100,000 บาท ถูกกฎหมาย ผ่านกระทรวงแรงงาน ผ่านกรมการจัดหางาน ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และการโฆษณาจัดหางานเชิญชวนคนหางานไปทำงานทางสื่อโซเชียลมีเดียดังกล่าว ไม่มีรายละเอียดชื่อบริษัทจัดหางาน ตำแหน่งงาน และคุณสมบัติ ซึ่งไม่สามารถทำได้ เนื่องจากฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มีความผิดตามมาตรา 66 โดยการโฆษณาจัดหางานเพื่อพาคนไปทำงานต่างประเทศสามารถทำได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น website 2272 ดังนั้นขอให้ผู้สนใจทำงานต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทจัดหางานให้รอบคอบก่อน เพื่อป้องกันมิให้คนหางานหรือนายจ้าง/สถานประกอบการถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน โทร. 02 248 4792 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และการโฆษณาจัดหางานเชิญชวนคนหางานไปทำงานทางสื่อโซเชียลมีเดียดังกล่าว ไม่มีรายละเอียดชื่อบริษัทจัดหางาน ตำแหน่งงาน และคุณสมบัติ จึงผิดกฎหมาย หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานstd47697• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอน 2 ราย จริงหรือไม่?เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอน 2 รายภาคเหนือCofact_แสงเหนือ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประกาศด่วนๆ ใครที่ไปเที่ยวผับดังย่านพระราม 5 ช่วง 21-23สิงหาคมที่ผ่านมา สงสัยอาจติดเชื้อโควิด 19 ให้ไปคัดกรอง ด่วน!คัดกรองด่วน! ใครเที่ยวผับดังพระราม 5 ช่วง 21 และ 23 ส.ค. ได้ที่โรงพยาบาลบางกรวย 2โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย@กล่าวถึงคุณ ตามมาห้อง 2 ด้วยนะ รับอีกแค่ 200 คนเท่านั้น ✅ orll.cc/RGxDcแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมลือสนั่น!! เรื่องฝนเหลืองมาพร้อมเชื้อโรคจากจีน วันที่ 2-4 เมษาโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้นความสวยความงามstd48007• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยะลา คุมเข้มมาตรการ เคอร์ฟิว - ร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ปิด 2 ทุ่ม ลดเสี่ยงโควิด-19ยะลา คุมเข้มมาตรการ เคอร์ฟิว - ร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ปิด 2 ทุ่ม• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ลดเหลือ 2 %มาตรการลดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ลงเหลือ 2% มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค 2563 จนถึง 31 ธ.ค 2564naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจากหมอ โสภณ เมฆธน อดีตปลัด สธ และผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ Covid-19: ความหวังและความยากลำบาก Update ข่าวดีและข่าวร้าย หลังผ่านไป 18 วัน จากนี้ไปข้างหน้าเราต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งใด และมองย้อนหลังไปเราทำกันมาได้ขนาดไหน ผมทำกราฟมาอธิบายให้ครับ ประเมินสถานการณ์ตัวเลข ณ วันนี้: 1. ข่าวดีสำคัญ สงกรานต์ที่เงียบมาก ทำให้เราสามารถช่วยกันหนี %Increase ระดับ 40% ของ British Variant มาได้แล้ว วันนี้ตัวเลขมาอยู่ที่ 15.26% และเริ่มเข้าสู่ Negative Exponential Curve ของกราฟ %Increase เราซื้อเวลาสำเร็จระดับนึง 2. ข่าวร้าย การผ่านตัวเลขระดับ 13,000 ที่ %Increase ระดับ 15.26% ถือว่าร้ายแรงมาก แทบไม่เคยมีประเทศใดจบที่ต่ำกว่าแสนและไม่มีประเทศใดที่เจอแบบนี้ครั้งแรกแล้วระบบสาธารณสุขไม่ล่มอย่างหนัก EURO5 โดนแบบนี้ไปเมื่อ Wave#1 เอาตัวไม่รอดทั้งที่เป็น Variant ที่รุนแรงน้อยกว่านี้ ดังนั้นอย่าไปเดินตามและทำตาม EURO5 ครับ 3. ตัวเลข 13,000 ใหญ่กว่าทั้ง Wave#2 ของไทยเราที่ตัดแรงงานต่างด้าวออกไปแล้วซึ่งแค่ 9,300 เท่านั้น โดย Wave#3 นี้แทบไม่มีตัวเลขจากแรงงานต่างด้าวเลย 4. ความหวังสำคัญ ผมมีข้อมูลพอทำกราฟของ Best Case Scenario ได้แล้ว กราฟบอกเราว่า ถ้าช่วยกันสู้เต็มที่ ยังสามารถต่ำกว่าแสนได้ครับ กราฟตัวเลขจริงเปรี่ยบเทียบ 3 Wave: ข่าวร้าย: เส้นสีแดงของ Wave#3 เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า หนักหนาสาหัสกว่า Wave 1 และ 2 แบบเทียบกันไม่ได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทีมงานสาธารณสุขของเราจึงทำงานหนักมากตอนนี้ และทำไมศบค.จึงต้องวางมาตรการที่เข้มข้นมาก ถึงแม้จะไม่สามารถ Lockdown ได้เพราะแรงกดดันรอบทิศก็ตาม และทุกคนควรตระหนักอย่างยิ่งและทำตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดครับ จากข้อมูล 17 วัน ผม Fine Tune พารามิเตอร์ต่างๆของกราฟใหม่ และมองไปข้างหน้า 1 เดือนได้ตามนี้ครับ กราฟ Total Case ประเมินไปข้างหน้า 1 เดือนครึ่ง: ข่าวร้าย: 1. ถึงจะทำดีที่สุดเต็มที่ ปลายเดือนเม.ย.ก็น่าจะถึง 35,000 คือจากนี้ไปอีก 13 วันเตรียมรับอีกอย่างน้อย ประมาณ 20,000 ครับ 2. ตัวเลข Daily New Case จะยืนอยู่ระดับ 1,600 - 1,800 ไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ 3. ตัวเลข Daily New Case จะอยู่ระดับ >1,000 ไปจนสิ้นเดือนเม.ย. เดือนพ.ค.เราจึงจะเริ่มเห็นระดับที่ต่ำกว่าพันอย่างมีนัยะสำคัญ 4. วันที่ 18 พ.ค. เปิดเทอมตัวเลขจะอยู่แถวๆ 44,000 และมี Daily New Case ประมาณ 215 จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ 5. วันที่ 31 พ.ค. ตัวเลขจะอยู่แถวๆ 45,500 และมี Daily New Case ประมาณ 48 จะใกล้จบถ้าไม่มีใครการ์ดตกยืนระยะไม่อยู่เสียก่อน 6. นี่คือ Best Case Scenario 7. แทบไม่เคยมีใครวิ่งตามเส้น Best Case Scenario นี้ได้ ยกเว้น จีน ออสเตรเลีย เกาหลี และประเทศไทยเราเองใน Wave#1 และ Wave #2 ช่วงเดือนม.ค. ข่าวดี: 1. อย่างน้อยวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ยังอยู่แถวๆ 15,000 ซึ่งต่ำกว่า 40,000 ซึ่งเป็น Worst Case มาก 2. ถ้าช่วยกันจะสามารถจบได้ภายใน 2 เดือนโดยอยู่แถว 45,000 ครับ 3. เราเคยวิ่งตาม Curve แบบนี้สำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ถ้าร่วมมือกันทำเต็มที่ครับ กราฟ %Increase ข่าวดี: %Increase ลดลงมาอยู่ที่ 15.26% แล้ว และลู่เข้าสู่กราฟ Negative Exponential ที่มี Time Constant 9.1 มาแล้ว 5 วัน ซึ่งหมายถึงเรากำลังเริ่มตั้งหลักได้และสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีครับ จากนี้ไปต้องรักษา Momentum ให้ได้ และอย่าให้การเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟนี้เด็ดขาด ข่าวร้าย: ไม่มีสำหรับกราฟนี้ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด "อย่าทำแบบ EURO5 โดยเฉพาะอังกฤษ ห้ามเอาพวกเขามาเป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาดครับ" สาเหตุครับ 1. พวกเขาทุกประเทศตายมาแล้วเป็นแสน ประเทศไหนยังไม่ถึงแสน เดี๋ยวก็จะถึงครับ 2. อัตราการตายของ EURO 5 อยู่ที่ 1.9 - 3.0% มากว่าเรากว่า 10 เท่า 3.อังกฤษอยู่ใน Lockdown รวมกัน 2 ครั้งกว่า 7 เดือน มากกว่าไทยเราที่อยู่ใน Full Lockdown 1.5 เดือน Semi Lockdown ประมาณ 1.5 เดือนเท่านั้น 4. เศรษฐกิจก็แย่กว่าเรา UK Annual GDP fell by 9.9% in 2020, the largest yearly fall on record 5. มีคนตายคาบ้านเยอะมากเพราะโรงพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ การรักษาตัวอยู่บ้านคือทางสุดท้ายเพราะจนแต้มนะครับ ไม่ใช่ทางเลือกที่ใครต้องการเลย แม้แต่ญี่ปุ่นก็ตายคาบ้านไปหลายศพเช่นกันครับ 6. อังกฤษไม่มีตัวเลขอะไรที่ดีกว่าเราเลยนะครับ ยกเว้นอัตราการฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจทุกฝ่ายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า 1. ช่วยกันรักษาปกป้องระบบสาธารณสุขของเรา นี่คือ 1st Priority ครับ กำลังใจของทีมงานสาธารณสุขสำคัญมาก ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมีโอกาสติดเชื้อและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อย่าโกหก Timeline อย่าปล่อยปละละเลยจนติดเชื้อมากเกินไปจนล้นร.พ. 2. ภาคเอกชนใหญ่ต้องช่วยกันสร้างรพ.สนามและ Hospitel อย่าให้ต้องรักษาตัวอยู่บ้านกัน เพราะเมื่อนั้นอัตราการตายจะพุ่งสูงทันที อย่าให้ได้มีใครต้องเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ทันถึงมือหมอเลยนะครับ 3. ต้อง Work from Home กันอย่างจริงจังมากๆ ใครทำได้ต้องทำ คนทำไม่ได้มีเยอะครับ เขาจะเสี่ยงน้อยลง ต้องช่วยกันรักษา Momentum ของเราไปอีก 1 - 2 เดือน ให้สำเร็จครับ 4. ป้องกันการติดเชื้อในภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ครับ โดยเฉพาะชลบุรี ระยอง 5. อย่าให้เกิด Cluster ตลาดและแรงงานต่างด้าวขึ้นมาซ้ำเติม เพราะเราไม่มีทรัพยากรจะไปปิดกรณีแบบนั้นอีกแล้ว 6. โรงเรียนจะเปิดเทอม 18 พ.ค. ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จให้ได้ เด็กรุ่นนี้เรียนออนไลน์กันมานานมากจนแย่แล้ว มันไม่ดีกับพวกเขาเลย อย่าให้อบายมุขและความละเลยเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องอดไปโรงเรียนอีกเลยนะครับ 7. ยึดกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี กลับคืนมาให้ได้ และต้องรักษาหัวเมืองใหญ่ โคราช ขอนแก่น อุบล อุดร นครศรี สุราษฎร์ สงขลา เอาไว้ให้สำเร็จครับ 8. ดีเดย์วันที่ 1 มิ.ย. วัคซีนต้องปูพรมครับ ไม่งั้นโดน Wave#4 แน่ ภาคเอกชนต้องช่วยกันเสริมทัพแล้วล่ะครับ ภาครัฐอย่างเดียวเอาไม่อยู่แน่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนจากนี้ไปอีก 1 เดือนคือการมีวินัยและดูแลตัวเอง อย่าป่วยไข้ อย่าขับรถเร็วประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ ระบบสาธารณสุขของเราคือด่านหน้าที่ตอนนี้ข้าศึกบุกมาเต็มกำลังจนยากแก่การรับมือแล้ว ขอเพียงพวกเรามีวินัย ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ มีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือ อยู่บ้านให้มากๆเข้าไว้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบุคลากรด่านหน้าและประเทศชาติได้มากแล้วครับ ช่วยกันครับ เรายังมีความหวังอยู่เสมอครับโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--start4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ"จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ" กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนคนไทยดื่มน้ำอัดลมมาก จะส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันสึกกร่อนมากที่สุด และเสี่ยงเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนตามมาได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ดีที่สุด พร้อมแปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 เพื่อสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้แก่ ฟันสึกกร่อน ฟันผุ อ้วน กระดูกพรุน และกระดูกเปราะ เนื่องจากน้ำหวานชนิดอัดลมมีกรดคาร์บอนิกค่อนข้างมาก ซึ่งสารดังกล่าวจะกีดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูก และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะร่างกายจะหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง จนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งน้ำอัดลม 1 กระป๋อง (ขนาด 325 ซีซี) มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด หากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า น้ำอัดลมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้มากที่สุด เพราะนอกจากน้ำอัดลมจะมีกรดคาร์บอนิกแล้ว ยังมีส่วนประกอบคือน้ำตาลกับน้ำ หากไม่มีการทำความสะอาดช่องปากและฟันจะก่อให้เกิดฟันผุได้ จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กเล็กอายุ 5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 75.6 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.0 และกลุ่มอายุ 15 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 62.7 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก และพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อและสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพ รวมถึงมีผลกระทบต่อการเรียนด้วย ที่สำคัญ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันที่เริ่มต้นในวัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ในวัยสูงอายุ ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับร่างกายก็คือน้ำเปล่า เพราะในน้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีและควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีการเติมน้ำตาลอีกด้วย เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในแต่ละวันเกินจำเป็นจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ควรแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน ด้วยสูตร 2 2 2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนานอย่างน้อย 2 นาที แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาช่องปากสะอาดนานที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคฟันผุในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูล : ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดอีสานโคแฟค• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยร้อนตับแตกแต่ไม่อยากเปิดแอร์! คนญี่ปุ่นแชร์เคล็ดลับ "ทำความเย็น" ในห้องด้วยน้ำ 2 ขวด ทำง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน อากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนทำให้หลายๆ คนรู้สึกอึดอัดและเหนื่อยล้า และไม่ใช่ทุกครอบครัวจะสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน สำหรับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เช่าห้องขนาดเล็กซึ่งไม่มีเครื่องปรับอากาศ การอยู่ในห้องท่ามกลางอากาศร้อนก็ไม่ต่างจากฝันร้าย ดังนั้น เคล็ดลับป้องกันความร้อนที่แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก วิธีทำให้ห้องเย็นลงด้วยขวดน้ำ 2 ขวดนั้น ทั้งประหยัดเงิน เรียบง่าย และค่อนข้างมีประโยชน์โดยเฉพาะกับห้องขนาดเล็ก จึงมักได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตามข้อมูลจาก World Of Buzz ชาวญี่ปุ่นชื่อ "ฮิโรโคจิ คันโป" เจ้าของบัญชี Twitter@hirokoujiKanpo ได้แชร์วิธีที่ง่ายๆ แต่มีประโยชน์อย่างมาก ในการทำให้ห้องเย็นลงโดยไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ แต่ใช้เพียงขวดน้ำขนาด 500 มล. จำนวน 2 ขวดเท่านั้น ขั้นตอนที่ 1: เทน้ำลงในขวดทั้ง 2 ขวด ปริมาณน้ำเพียงประมาณ 3/4 ของขวด (ระวังอย่าเติมน้ำมากเกินไป) ขั้นตอนที่ 2: ใส่น้ำ 2 ขวด ไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น จนกว่าน้ำด้านในจะกลายเป็นน้ำแข็ง ขั้นตอนที่ 3: นำขวดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้ง 2 ขวดออกมา ใส่ไว้ในถังโลหะแล้วตั้งทิ้งไว้ในห้อง ฮิโรโคจิ คันโป บอกว่า เพียงทำเช่นนี้ห้องก็จะแห้งและเย็นขึ้น โดยเกิดจากกระบวนการลดความชื้น เมื่อความชื้นในอากาศควบแน่นเป็นหยดน้ำขนาดเล็ก เนื่องจากการสัมผัสกับพื้นผิวเย็นของขวดน้ำ นอกจากนี้ เขายังไม่ลืมย้ำเตือนว่าอย่าเติมขวดน้ำจนเต็มขวด เพราะเมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็งปริมาตรของมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับน้ำที่เทลงในขวดก่อนหน้า ซึ่งน้ำแข็งจะพองตัวและทำให้ขวดเสียหายได้ แม้ว่าเคล็ดลับดังกล่าวจะถูกแบ่งปันมาตั้งแต่ปี 2022 แต่เมื่อหน้าร้อนวนมาอีกครั้ง ชาวเน็ตหลายคนก็ยังคงทำตามคำแนะนำของเขา และบอกว่าการนำขวดพลาสติกกลับมาใช้ใหม่เช่นนี้ ทั้งมีประหยัด เรียบง่าย และมีประโยชน์ มันช่างคุ้มค่าแก่การลองทำตามดู และแน่นอนว่าหากต้องการให้ห้องเย็นลงมากกว่านี้อีก ก็สามารถเพิ่มจำนวนขวดน้ำได้!สภาพอากาศมีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประโยชน์ของสำลีที่วงการแพทย์ยังต้องตะลึง!! แค่เอา "สำลีชุบแอลกอฮอล์" มาวางบน "สะดือ" ? คุณจะหายจากอาการป่วย "โรคติดต่อ" ไปอย่างปลิดทิ้ง!!ในปัจจุบันในการรักษาอาการป่วยมีหลากหลายทางเลือกมากขึ้น ทั้งทาง "แพทย์แผนปัจจุบัน หรือ แพทย์แผนไทย "ซึ่งอยู่ที่คนป่วยจะเลือกรักษาตามความคิด แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้ผลเสมอไป แถมอาจจะเป็นหนักกว่าเดิมด้วย จึงทำให้ต้องตัดสินใจดีๆว่าควรเลือกรักษาที่ทำให้ชีวิตปลอดภัยดีกว่า เพราะบางทีอาการป่วยดราก็สามารถได้ด้วยตัวเองจากของใกล้ตัวที่เราอาจจะคาดไม่ถึง บางครั้งเราอาจจะเเค่ป่วยโรคหวัด ไอ อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน หรือแม้แต่ปวดท้องปกติ เราสามารถรักษาเองที่บ้านได้แบบง่ายๆ จาก "สำลี" ก้อนเล็กๆนี้เอง โดยขั้นตอนทำได้แบบง่ายๆ คือ "นำสำลีก้อนกลม 1 ก้อน ชุบให้ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์เข้มข้น 50% ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะที่เทใส่ในถ้วยไว้แล้ว จากนั้นก็นำสำลีมาอุดไว้ที่สะดือของคุณ" เมื่อได้ลองทำแล้วจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และความเจ็บปวดก็จะเริ่มหายไป วิธีนี้ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ยอดเยี่ยมในการรักษาอาการบาดเจ็บของ "กล้ามเนื้อและตะคริว" ถือเป็นการแก้ปัญหาอีกทางหนึ่งที่ดีกว่าการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนโบราณอีกด้วย และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ถ้าคุณเป็น "โรคไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัด" ขึ้นมา คุณจะต้อง "แช่สำลีก้อนกลมให้ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์แล้วบีบให้หมาด จากนั้นนำไปจุ่มไว้ในสะดือ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจไม่ให้สำลีหลุดออกมาก็ควรใช้สำลีที่ขนาดใหญ่พอดีกับสะดือ หรือไม่ก็ครอบด้วยถุงพลาสติกหรือผ้า" ส่วนสาวๆคนไหนมี "อาการปวดท้องประจำเดือนและปวดท้องปกติ" อย่างรวดเร็ว "ให้ใช้มือกดสำลีชุบแอลกอฮอล์ค้างไว้ ซึ่งทำได้โดยนอนหงายราบลงพื้น กดสำลีลงในสะดืออย่างเบามือ และหากทำเองไม่สะดวกก็สามารถร้องขอให้คนอื่นมาช่วยเหลือได้เช่นกัน " หลังจากนั้นในเวลาไม่นานจะรู้สึกดีขึ้น และอาการเจ็บปวดจะลดลงและแน่นอนว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น และอาการป่วย ไข้ ไอ ปวดท้องของคุณจะหายไปอย่างแน่นอนstd46255• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเปิดตัว ร้านอาหารกัญชา แห่งแรกในไทย ‘เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา’ . ‘กัญชารส’ ผุดร้านอาหารเอาใจสายเขียว จัดเต็มเมนูกัญชา ชูรสชาติด้วยสมุนไพรไทยโบราณ ในรูปแบบอาหารฟิวก์ชั่นกัญชาไทย จัดเต็ม 4 เมนูเด็ดมัดใจผู้นิยมสมุนไพร . 1.“รื่นเริง บันเทิงยำ” ...เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) 2.“กระเพราสุขใจ” กินมื้อไหนก็ไม่เบื่อ (ใส่กัญชา 1/2 ใบต่อจาน) 3.“ขนมปังคิกคัก” กินเสริมเวลาพัก แล้วจะรักทุกคำ (ใส่กัญชา 2 ใบต่อจาน) 4.“เล้งแซ่บซดเพลิน” ช่วยเจริญอาหาร (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน) . ทั้งนี้ร้านอาหารดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย โรงพยาบาลอภัยภูเบศ ถือเป็นหนึ่งในเมนูคนรุกสุขภาพรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบาย ‘ปลดล็อคกัญชา’ ซึ่งอนุมัติให้สามารถใช้ กิ่ง-ก้าน-ใบ ของต้นกัญชา โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยต้องได้รับการรับรองร่วมกับภาครัฐและสามารถยืนยันผลผลิตกัญชาจากสหกรณ์ชุมชนได้ ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ของผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจอาหารสีเขียว ในประเทศไทยซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อาหารอร่อยและรสชาติเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในโลก ใครสนใจเชิญไปชิมที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา อภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี 037-211-088 (ต่อ 3123) .ยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ธ.ก.ส. จัดโครงการสินเชื่อ 108 อาชีพ กู้ได้ 2 แสนบาท ทุกอาชีพ ไม่กำหนดรายได้ขั้นต่ำธ.ก.ส. จัดโครงการสินเชื่อ 108 อาชีพ กู้ได้ 2 แสนบาท ทุกอาชีพ ไม่กำหนดรายได้ขั้นต่ำnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ท่าบริหารร่างกายประกบมือยื่นสุดแขน ช่วยการไหลเวียนโลหิตการบริหารร่างกายที่ประกบมือกัน 2 ข้างแล้วยื่นสุดแขนนั้น สามารถช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตได้naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเพื่อนส่งมาครับ (microphone) พวกเราคะ ช่วงนี้ สยามแฟนตาซี ที่อยู่ใน เอเซียที้ค ถนนเจริญกรุง มี โปรโมชั่น ให้ดูการแสดงฟรี กี่คนก็ได้ เพื่อประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้คนไทยทุกคน พาทีมงาน ญาติมิตร หรือ คู่ค้าทางธุรกิจ ไปชมฟรี จะได้ช่วยกันโปรโมทเยอะ ๆ ไปดูมาแล้ว 2 รอบ ชอบมาก เพราะเป็นการแสดงไทย ๆ ที่สวยงาม อ่อนช้อย และ ขึงขัง ได้พาเพื่อนญี่ปุ่น ไปดู เขาก็ชอบกัน มาก มาก ติดต่อ คุณปาล์ม จนท.แผนกบัตร โทรจอง แล้วไปรับตั๋วหน้างานได้เลยโทร. 082-7933309 มีทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ 5 โมงเย็น กับ 1ทุ่ม (รอบละประมาณ1ชม.) ฟรีค่ะไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย1. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเจ้าของโพสต์ ในฐานะผู้บริโภค 2. มีการนำX ของนักการเมืองค่ายสีส้มคนหนึ่งที่โพสต์แสดงความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ของถั่วลิสงยี่ห้อ “โก๋แก่” ซึ่งที่ประชาชนสามารถทำได้ในฐานะผู้บริโภค 3. การใช้คำว่า (รูปหัวใจสีส้ม) โก๋แก่ เพราะโก๋แก่ (รูปหัวใจสีส้ม) ปชต. ที่นักการเมืองท่านหนึ่งโพสต์ใน 2. กับคำว่า เลิกกินโก๋แก่มา หลายปีแล้ว ที่เจ้าของโพสต์ระบุใน 1. เป็นการสื่อถึงการที่เจ้าของโพสต์เลิกกินถั่วโก๋แก่ เพราะสนับสนุนพรรคการเมืองสีส้ม ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ยังไม่เป็นเอกฉันท์จากสังคมข่าวการเมืองมีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลือ โรงเรียนอนุบาลอุบลฯ ยกเลิกสอบ จริงหรือ? 25-11-64เพจดังแพร่ข่าวลือ โรงเรียนอนุบาลอุบลฯ ยกเลิกสอบ จริงหรือ? 25-11-64 ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอุบลฯแจง ไม่มีการยกเลิกการสอบตามข่าว มีเพียงเลื่อนการสอบบางชั้นเรียน ยังไม่มีใครติดโควิดเพิ่ม จ่อฟ้องเพจดัง กุข่าวไม่จริง เพจโรงเรียนอนุบาลอุบลฯก็โพสต์ข้อความ 🛑🛑 แจ้งประกาศจากโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี ยังไม่มีนักเรียนติดโควิดเพิ่ม (มีจำนวน 1 ราย ตามเดิม ซึ่งได้ทำการคัดกรองและแยกกักตัวเรียบร้อยแล้ว) กรณีการสอบ ยังมีการสอบปกติเหมือนเดิม มีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง คือ นักเรียน ชั้น อ.2/9 อ.3/9 ป.2/10 ป.3/10 ซึ่งมีการดำเนินการคัดกรองและทำการเลื่อนสอบ แล้ว ส่วนสายชั้นอื่นที่ไม่มีกลุ่มเสี่ยง ดำเนินการสอบปกติ 📌 ณ เวลานี้ยังไม่มีนักเรียนโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานีติด กรุณาอย่าเชื่อข่าวลือ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงโควิด 2019ภาคอีสานสุชัย เจริญมุขยนันท• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใช้บัตร ATM ควรกดปุ่ม cancel 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการขโมยรหัส PINน้องที่ทำงานธนาคาร ส่งมาคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ในการถอนเงินจากตู้ ATM ขอให้เรากดปุ่ม ‘cancel’ 2 ครั้ง ก่อนสอดบัตร เผื่อว่า มีคนแอบตั้งค่าบนคีย์แพดเพื่อขโมยรหัส (Pin) ไว้ เครื่องมันจะยกเลิกการตั้งค่านั้นเสียก่อน โปรดทำแบบนี้ให้เป็นนิสัย ทุกครั้งที่คุณจะต้องใช้ตู้ ATM (ไม่ว่าจะะถอนเงิน, ฝากเงิน, ขอดูยอดเงิน หรือความต้องการอื่นใด ที่ต้องใช้บัตรกับตู้ ATM ต้องกดปุ่ม cancel 2 ครั้งก่อนเสมอให้เป็นนิสัย) ช่วยแชร์ให้ผู้อื่นทราบด้วย นะ ครับMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ สามารถชมภาพยนตร์ในโรงหนังได้ แต่ห้ามนำน้ำและป๊อปคอร์นเข้าไปกินในโรงสามารถนั่งติดกันได้มากสุดแค่ 2 คน จากนั้นเว้นระยะห่าง 3 ที่นั่ง เพื่อให้ได้ระยะห่างที่เหมาะสม 1-2 เมตร ส่วนที่นั่งแต่ละแถวไม่จำเป็นต้องเว้น แต่ให้จัดแบบสับหว่างกันไม่ให้นั่งตรงกัน ขณะผู้เข้าชมภาพยนตร์ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด ทั้งนี้ ระหว่างการชมภาพยนตร์ที่ต้องขอความร่วมมือคือห้ามรับประทานน้ำดื่มและป๊อปคอร์น เนื่องจากต้องถอดหน้ากากอนามัยและอาจสัมผัสใบหน้า ละอองฝอยน้ำลายอาจกระเด็นออกมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และหากมีการขายเครื่องดื่มและอาหาร โรงภาพยนตร์ต้องจัดพื้นที่ให้เหมือนกับร้านอาหารภายนอกที่มีฉากกั้นระหว่างการรับประทานโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำต้มกระเทียมรักษาโรคจากไวรัสโคโรนาได้จริงหรือ?มีกระแสในอินเทอร์เน็ตว่า การดื่มน้ำต้มกระเทียม ช่วยรักษาโรคโควิด-19 ได้ โดยมีภาพที่ถูกแชร์ต่อมีข้อความเกี่ยวกับการนำเอากระเทียมมาต้มน้ำดื่มรักษาไวรัสโคโรนา และบอกวิธีปรุงมาด้วยคือ ใช้กระเทียม 8 ลูก (8 หัว) แกะเปลือกออก ต้มกับน้ำ 7 แก้ว ต้มจนกระเทียมสุก ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 1-2 แก้ว ต่อครั้งยาสมุนไพรโควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวิธีการถูมือด้วยจุดอวี๋จี๋ทั้ง 2 ข้าง เป็นเวลา 3 นาที ทำให้สุขภาพดีไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ