1 คนสงสัย
จริงหรือ สามารถชมภาพยนตร์ในโรงหนังได้ แต่ห้ามนำน้ำและป๊อปคอร์นเข้าไปกินในโรง
สามารถนั่งติดกันได้มากสุดแค่ 2 คน จากนั้นเว้นระยะห่าง 3 ที่นั่ง เพื่อให้ได้ระยะห่างที่เหมาะสม 1-2 เมตร ส่วนที่นั่งแต่ละแถวไม่จำเป็นต้องเว้น แต่ให้จัดแบบสับหว่างกันไม่ให้นั่งตรงกัน ขณะผู้เข้าชมภาพยนตร์ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด
ทั้งนี้ ระหว่างการชมภาพยนตร์ที่ต้องขอความร่วมมือคือห้ามรับประทานน้ำดื่มและป๊อปคอร์น เนื่องจากต้องถอดหน้ากากอนามัยและอาจสัมผัสใบหน้า ละอองฝอยน้ำลายอาจกระเด็นออกมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และหากมีการขายเครื่องดื่มและอาหาร โรงภาพยนตร์ต้องจัดพื้นที่ให้เหมือนกับร้านอาหารภายนอกที่มีฉากกั้นระหว่างการรับประทาน
naydoitall
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น

โควิด 2019

Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการอนุญาตให้เปิดกิจการโรงภาพยนตร์ในการคลายล็อกมาตรการป้องกัน COVID-1

ที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/293084

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ทีวีประกาศระดับ 3 แล้ว... *^ปชส.ครับ.ด่วน ไวรัส H3N2 ถึงเชียงใหม่แล้ว ไวรัสตัวใหม่จากวูฮั่น ประเทศจีนทีมีความรุนแรงทำให้เสียชีวิตในเวลาอันสั้น มีผู้ที่เดินทางเข้ามายังสนามบินฯ ซึ่งถูกตรวจพบเชื้อที่สงสัยนี้..ได้ที่สนามบินเชียงใหม่ 3 ราย และได้ถูกนำตัวไปโรงพยาบาลแล้ว จึงขอช่วยกันระมัดระวังภัยจากโรคร้ายแรงนี้ อีกทั้งให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวนี้ด้วย..*ควรจัดเตรียมหน้ากากอนามัยพกพาติดตัวไปด้วย กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า: ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก มีวิธีป้องกันคือ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี ควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมากๆ เอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว นั่งรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ของทอดอาหารรสจัดงดรับประทานชั่วคราว กินวิตามินซีให้ครบถ้วน (โปรดแชร์ข้อความนี้ให้กับกลุ่มผู้ปกครองทั้งหลายด้วยครับ) ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด สะดวกก็ช่วยกันแชร์ครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    งดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น
    (red flag)#● งดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น ▪︎กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า: ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ▪︎วิธีป้องกันคือ ⊙ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ ⊙ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ ⊙ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี. สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี. ▪︎ ควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมากๆเอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ⊙ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว ⊙ งดใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ▪︎ ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ⊙ อาหารทอด รสจัด ควรงดรับประทานชั่วคราว ⊙ กินวิตามินซีให้ครบถ้วน ⊙ ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ● กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ดังนี้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ ● และ จังหวัดเฝ้าระวัง เวลาเดินทาง 8 จังหวัดคือ ▪︎กทม. ▪︎สมุทรปราการ ▪︎ชลบุรี ▪︎เชียงใหม่ ▪︎เชียงราย ▪︎ประจวบคีรีขันธ์ ▪︎กระบี่ ▪︎และ ภูเก็ต ● ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ,ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด สะดวกก็ช่วยกันแชร์ครับ ด้วยความปรารถนาดี จาก...Cr. Dr.Amrin
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 4 คนสงสัย
    ● งดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น ▪︎กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า: ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ▪︎วิธีป้องกันคือ ⊙ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ ⊙ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ ⊙ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี ▪︎ ควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมากๆเอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ⊙ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว ⊙ งดใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ▪︎ ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ⊙ อาหารทอด รสจัด ควรงดรับประทานชั่วคราว ⊙ กินวิตามินซีให้ครบถ้วน ⊙ ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ● กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ดังนี้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ ● และ จังหวัดเฝ้าระวัง เวลาเดินทาง 8 จังหวัดคือ ▪︎กทม. ▪︎สมุทรปราการ ▪︎ชลบุรี ▪︎เชียงใหม่ ▪︎เชียงราย ▪︎ประจวบคีรีขันธ์ ▪︎กระบี่ ▪︎และ ภูเก็ต ● ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด สะดวกก็ช่วยกันแชร์ครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วงโควิดระบาด อันตรายหรือไม่?
    ถึงแม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเรื่องการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก เนื่องจากไม่พบเชื้อโควิดในน้ำคร่ำ เลือดจากสายสะดือ และจากน้ำนมแม่ ในรายงานจากประเทศจีนจาก 33 รายมีพบเด็กทารกติดเชื้อโควิดอยู่ 3 รายมีอาการไม่รุนแรง ผู้เชี่ยวชาญคิดว่าน่าจะติดจากการปนเปื้อนสัมผัสหลังเกิดมากกว่า ส่วนการให้นมนั้นสามารถให้ได้ตามปกติ แต่ต้องป้องกันในเรื่องการแพร่กระจายของละอองฝอย สตรีมีครรภ์หรือแม่เด็กอ่อนต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อยู่บ้านควรใช้ภาชนะส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกและสะอาด ออกนอกบ้านต้องป้องกันตัวเป็นอย่างดีตามที่สื่อได้ประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา เช่น เลี่ยงที่แออัด เว้นระยะห่าง 2 เมตร ใส่หน้ากากอนามัยและ face shield เพื่อป้องกันเอามือจับใบหน้าของตัวเอง และต้องล้างมืออยู่เสมอ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวสารจากทีมแพทย์โรงพยาบาลแห่งชาติไต้หวัน(National Taiwan University Hospital-NTUH) ภายในปีนี้ท่านต้องรักษาระยะห่างจากคนอื่นไว้ อย่าพบปะหรือรับประทานอาหารกับบุคคลที่สัมผัสโควิด19 ท่านต้องมีความเข้าใจเรื่องการป้องกันตนเอง อย่าสะเพร่า (I) ขณะผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ตรวจพบว่า 1.โควิด19เป็นส่วนผสมของซารส์บวกเอดส์ (SARS บวก AIDS) แพทย์หลายคนถือว่า ผลการตรวจกรดนิวคลิอิคในผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลจะกลับไปเป็นบวก นี่ไม่ใช่การกลับไปป่วยซำ้แต่เพราะผู้ป่วยไม่ได้ฟื้นหายอย่างเต็มที่ นี่คือสิ่งที่ต้องทำกับลักษณะของโควิด19 2.ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของผู้ป่วยโควิด19ถูกทำลายแทบทั้งหมด ซารส์(SARS) คุกคามเพาะปอดเท่านั้นแต่ไม่ได้คุกคามภูมิคุ้มกันของร่างกาย เอดส์(AIDS)คุกคามเฉพาะภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในขณะที่การทำลายอวัยวะของโควิด19เหมือนกับการทำลายของซารส์และเอดส์รวมกัน 3.สาเหตุนำไปสู่การตายของผู้ป่วยซารส์คือ ปอดถูกทำลายอย่างเฉียบพลัน ส่วนสาเหตุนำไปสู่การตายของผูป่วยโควิด19 คือ “การล้มเหลวของหลายอวัยวะ” (II)ภายหลังผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ศาสตราจารย์ Peng Zhi Yong หัวหน้าแผนก Major Illness โรงพยาบาลZhong Nan มหาวิทยาลัยหวู่ฮั่น เป็นผู้นำทีมในการอภิปราย ดังต่อไปนี้ 1.ผลการตรวจเลือดทางห้องทดลองในผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พบว่า ดัชนีเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์(lymphocyte)ไม่ได้กลับคืนสู่ระดับปรกติ ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ 2.การตรวจกรดนิวคลิอิค(nucleic acid)ในผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้มีผลเป็นลบ แต่ระบบภูมิคุ้มกันเลวร้ายมาก ไม่ได้กลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม ภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงง่ายมากที่กรด นิวคลิอิคของผู้ป่วยจะกลับไปเป็นผลบวก 3.อาการนี้เหมือนกับอาการของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีที่ยังมีไวรัสอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาอันยาวนาน 4.เวลานี้มีความจำเป็นที่จะต้องค้นหาว่า ผู้ป่วยที่เก็บไวรัสโควิด19ไว้ในร่างกายนั้น สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้หรือไม่ (III) กลุ่มแพทย์ผู้นำด้านการหายของโควิด19 แถลงว่า 1.ก่อนหน้านี้แพทย์มุ่งเน้นด้านการรักษาเบื้องต้นแก่ผู้ป่ายโควิด19 เมื่อผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาล จึงจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของการวางกฏเกณฑ์แก่ผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ศาสตราจารย์ Peng Zhi Yong กล่าวว่า “ในปีหน้า เราจะค้นหาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลว่า ไวรัสที่ยังคงอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยเหล่านั้นสามารถติดต่อหรือมีผลต่อบุคคลรอบข้างหรือไม่” 2.ในกรณีนี้ สงครามพิชิตโควิด19ยังอีกนานกว่าจะจบ ดังนั้น คำแนะนำคือ : อย่างน้อยในปีหน้าถ้าออกนอกบ้านให้ใส่หน้ากาก พยายามหลีกเลี่ยงการพบปะรวมตัวกันหรือเข้าไปอยู่ในที่สาธารณะ ปก พนิดา ดามาพงศ์ ถอดความ 20 เมย.2563
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แอร์หรือเครื่องปรับอากาศเป็นตัวช่วยกระจายเชื้อโควิดหรือไม่
    มีรายงานจากประเทศจีนเรื่อง ในวันที่ 23 มกราคมมีผู้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งกลับจากอู่ฮั่น เป็นผู้ติดเชื้อแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งในร้านนั้นได้เปิดเครื่องปรับอากาศและไม่มีหน้าต่าง เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยจากร้านอาหารนี้ 10 คน เป็นคนที่นั่งโต๊ะเดียวกัน(มาด้วยกัน) และลุกค้ารายอื่นโต๊ะติดกันอีกสองโต๊ะ ระยะห่างของทั้งสามโต๊ะห่างกันเพียงแค่ 1 เมตร เวลารับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาเดียวกันแต่แสดงอาการป่วยห่างกันราวๆ 1 อาทิตย์ ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดนั่งรับประทานอาหารในทิศทางที่แอร์พุ่งมาในทิศทางเดียวกัน (ใน LINK มีรูปประกอบ) ทางจีนสันนิษฐานได้ว่าเชื้อโควิดแพร่กระจายโดยผ่านละอองฝอยออกมาและเครื่องปรับอากาศเป็นตัวนำพาให้เชื้อกระจายในทิศทางของ airflow ในขณะที่ลูกค้าในร้านอีก 73 คนที่รับประทานอาหารในชั้นนั้นๆและพนักงานเสิร์ฟในร้านทั้งหมดไม่ติดเชื้อโควิด และในเครื่องปรับอากาศเองก็ไม่มีเชื้อโควิดอยู่ในระบบไหลเวียนอากาศอยู่ในตัวเครื่อง วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการเว้นระยะห่าง และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false