1543 ข้อความ
- 1 คนสงสัยบริษัท อิลลูมินาติ รีเสิร์ช จำกัด (star) ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ (star) งานสัมภาษณ์ผู้ที่เป็นเจ้าของรถไฟฟ้า ยี่ห้อดังต่อไปนี้ BYD ATTO3, Neta V หรือ ORA GOOD CAT (red arrow right) ลักษณะเป็นการสัมภาษณ์ที่บ้าน ใช้เวลา 2 ชม. วันที่ 31 สิงหาคม 2566 (ช่วงบ่าย) มีค่าตอบแทนให้ 2,000 บาท (จ่ายเงินหลังจบการสัมภาษณ์ 3 วัน) (red arrow right) คุณสมบัติ 1. คุณจะต้องเป็นเจ้าของรถไฟฟ้ายี่ห้อ BYD ATTO3, Neta V หรือ ORA GOOD CAT 2. มีการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน มีการติดตั้งแท่นชาร์จที่บ้านของท่าน 3. ซื้อรถมาไม่เกิน 1 ปี คือ ไม่เกินสิงหาคม 2565 4. อาศัยอยู่บ้านที่สะดวกให้ทีมงานเข้าไปสัมภาษณ์ประมาณ 6-7 คน 5. ที่บ้านของท่านมีอินเตอร์เน็ต WiFi เพื่อการเชื่อมต่อถ่ายทอด zoom 6. เป็นผู้ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถ EV ได้เป็นอย่างดี 7. อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (red arrow right) สมัครได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://forms.gle/c1e1oZLmyKpkRmfQ7 หากคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จะมีทีมงานติดต่อกลับไปนะคะ ขอบคุณค่ะ (hands put together)(moon pleading)ไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยปตท. เปิดให้ลงทุนหุ้น ในราคาเพียง 1,000 บาทmobile-menu Logo ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand searchiconmobile จำนวนผู้เข้าชม 15,631,725 ข่าวปลอม การเงิน-หุ้น ข่าวปลอม อย่าแชร์! ปตท. เปิดให้ลงทุนหุ้น ในราคาเพียง 1,000 บาท 5 กรกฎาคม 2022 | 13:30 Facebook Twitter Link Youtube ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวประเด็นเรื่องปตท. เปิดให้ลงทุนหุ้น ในราคาเพียง 1,000 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการโพสต์ข้อความระบุว่าปตท. เปิดให้ลงทุนหุ้น ในราคาเพียง 1,000 บาท ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวและชี้แจงว่า เพจดังกล่าวเป็นการแอบอ้าง เนื่องจากทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ไม่ได้มีการเปิดลงทุนหุ้น ในราคาเพียง 1,000 บาทแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของ SET เป็นการแอบอ้างใช้โลโก้ไปใช้ให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใดstd48374• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสรุปประเด็น "คิมการัม" LE SSERAFIM ถูกกล่าวหาบูลลี่เพื่อน บานปลายจนค่ายยกเลิกสัญญาประเด็นนี้ทางค่ายแจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ คู่กรณี "คิมการัม" ถ่ายภาพเพื่อนในห้องแต่งตัวขณะสวมชั้นในและโพสต์ออนไลน์โดยไม่ขออนุญาต ทาง "คิมการัม" และพวกจึงเข้าไปต่อว่า แต่กลายเป็นว่าเมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวน "คิมการัม"และพวกกลายเป็นผิดอยู่ฝ่ายเดียว และเวลานั้นที่ทางผู้ปกครอง "คิมการัม" ไม่อุทธรณ์คำตัดสินเพราะไม่รู้และคิดว่าทางคณะกรรมการตัดสินในแนวทางที่ดีที่สุดให้กับลูกสาวแล้ว จากตรงนี้ ชาวเน็ตยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเนื่องจากสังกัดของศิลปินยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (20 ก.ค. 65) ทาง HYBE และ Source Music ต้นสังกัดของเกิร์ลกรุ๊ป LE SSERAFIM ได้มีการเปิดเผยแถลงการณ์ ถึงการยุติสัญญาและออกจากการเป็นสมาชิกวง LE SSERAFIM ของ "คิมการัม" และในอนาคต LE SSERAFIM จะยังคงทำกิจกรรมต่อไปในฐานะศิลปินกลุ่มที่มีสมาชิก 5 คน (แชวอน, ซากุระ, ยุนจิน, คาซึฮะและอึนแช) สรุปประเด็น คิมการัม LE SSERAFIM ถูกกล่าวหาบูลลี่เพื่อน บานปลายจนค่ายยกเลิกสัญญาเสียดสีstd47911• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“คิมการัม” Le sserefim บูลลี่เพื่อนสมัยเรียน จนค่ายยกเลิกสัญญาคิมการัม ได้ถูกชาวเน็ตนิรนามอ้างตัวว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียน กล่าวหาบูลลี่เธอ โดยในตอนแรกชาวเน็ตคิดว่าเธอแค่กล่าวออกมาลอย ๆ ไม่มีหลักฐาน จึงมีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ในขณะนั้นค่ายต้นสังกัดได้เทคแอคชั่นโอยการออกมาปฏิเสธ แต่แล้วต่อมาก็มีการปล่อยเอกสารที่ยืนยันว่าคิมการัมเคยถูกตัดสินว่าบูลลี่เพื่อนในโรงเรียน ซึ่งเป็นความผิดระดับฐาน 5 แต่หลังจากนั้นค่ายก็ออกมาปฏิเสธอีกเช่นเดิม เนื่องจากการตัดสินโทษในครั้งนั้น เกิดจากการที่กลุ่มของคู่กรณีถ่ายภาพเพื่อนขณะแต่งตัวแล้วสวมชุดชั้นใน ทางคิมการัมและพวกจึงไปต่อว่า แต่พอมีการสืบสวน กลุ่มการัมกลับมีความผิดอยู่ฝ่ายเดียว ผู้ปกครองของเธอก็ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ เพราะคิดว่าทางโรงเรียนตัดสินสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ถึงอย่างนั้นคนก็ยังไม่เชื่อ หลังจากนั้นทางค่ายก็ได้เปิดเผยแถลงการณ์การยุติสัญญาและการออกจากวง LE SSERAFIM ของคิมการัมเสียดสีstd48911• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย*** จุดจบของรถกระบะแคป *** หลังวันที่ 5 กันยายน 2565 กฎหมายมีผลบังคับใช้ ให้เบาะที่2 ต้องคาดเข็มขัด ฝ่าฝืนปรับ 2000 กรรมจึงมาตกอยุ่ที่กระบะแคป ที่ไม่มีเข็มขัด และออกแบบมาเพื่อการใส่ของ ไม่ได้มีไว้นั่ง แต่คนไทยนั่งมาจะร้อยปีแล้ว ทั้งนั่งท้ายกระบะ นั่งแคป คนชนบทที่ซื้อรถแคปมาก็หวังจะได้ซื้อรถราคาถูกกว่า 4 ประตู ใช้งานได้เอนกประสงค์ หวังว่าจะได้เป็นที่หลบร้อน หลบฝน ต้นทุนชีวิตคนเรามันต่างกัน กฎหมายกำลังบีบบังคับ ลอยแพ ผู้ใช้รถแคปอยู่หรือไม่? คนกลุ่มนี้จ่ายเงินหลักล้านเพื่อซื้อรถที่ผิดกฎหมายมาใช้กระนั้นหรือ? ข้อบังคับที่ทำให้คนล้านกว่าคน ทั่วประเทศเดือดร้อน? มันเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือไม่? ต่อไปใครจะซื้อรถกระบะแคป ข้อบังคับนี้เป็นการแก้ปัญหาหรือเพิ่มปัญหากันแน่? ขอบคุณที่มาบทความด้วยครับไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 2 คนสงสัยกู้เงินผ่าน LINE BK อนุมัติทันที ไม่ต้องมีเอกสาร จริงหรือเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีคนแห่ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก สำหรับการกู้ยืมเงิ นผ่านทาง Line bk ของแอปกสิกร โดยไม่ต้องยื่นเอกส ารอนุมัตภายใน 3-5 นาที ซึ่งต้องบอกเลยว่าบริการนี้คนแห่สมัครกันเพียบ เพราะอนุมัติผ่านกันเกือบทุกคน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้กู้และผ่านจริง โดยได้ระบุข้อความว่า สวัสดีค่ะ อาทิตย์ที่แล้วมีสหายท่านนึงโพสต์ถามเกี่ยวกับกู้เงิ น LINE BKไว้ วันนี้เราเลยจะมามาอัพเดทเรื่องนี้ วันนี้เรากู้ผ่านแล้วนะคะหลังจากอาทิตย์ที่แล้วเรากู้ไ ม่ผ่าน(เฟลมสกค่ะตอนนั้น) เราได้วงเงิ นหมื่นเก้ากว่าๆ แต่เราเอาหมื่นห้า รู้ผลเร็วมากค่ะไม่ถึง5นาที และตอนแรกก็ไ ม่คิดว่าจะผ่านค่ะ เพราะตอนนี้เราไ ม่ได้ทำงานประจำ กลับมาอยู่ตจวขายของเล็กๆน้อยๆ และอาจติดบูโรจากรถมอไซค์เมื่อเกือบ 10ปีที่แล้ว วันนี้ดีใจมากค่ะมีเงินมาต่อยอดทำร้าน เรื่องจริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ข่าวนักวิ่งถูกวางยาเมื่อวันก่อน ผลออกมาคือยาสำหรับใช้ทำให้สัตว์สลบ ตำรวจยกระดับการป้องกันเหตุให้มีสายตรวจประจำจุดทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบมีการวางยาในขวดน้ำดื่มนักวิ่งได้หรือไม่ ปรากฎว่า ผลการนำตัวอย่างน้ำจากผู้เสียหายมาตรวจในห้องปฏิบัติการ พบสาร "ไซลาซีน" เป็นยาสลบที่สัตวแพทย์ใช้กับสัตว์ เช่น วัว ควาย ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี และดูดซึมได้เร็วทางกระเพาะอาหาร ส่วนการใช้เข็มเจาะขวดน้ำแทนการเปิดขวดนั้น เมื่อลองทดสอบพบว่า ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีก็สามารถเจาะเข็มเข้าไปได้naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องโม้ๆ เกี่ยวกับการแพทย์และวิทยาศาสตร์ว่าด้วยกัญชากัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันมายาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะเป็นต้นเหตุของเรื่องหลอกลวง ตำนานเล่าขานที่ปั่นกันขึ้นมา และข่าวปลอมมากมาย ทั้งหมดล้วนแต่ส่งผลกระทบในด้านใดด้านหนึ่งต่อการรับรู้ของสาธารณชนต่อการใช้กัญชาและสถานะของมัน ต่อไปนี้คือ "เรื่องโม้ๆ" ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ของกัญชา ที่แพร่หลายในต่างประเทศ (และอาจกระทบต่อทัศนะของคนไทยเราด้วย) 1. เรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัทมอนซานโตตัดแต่งพันธุกรรมกัญชา มีเรื่องหลอกลวงแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในปี 2015 โดยอ้างว่าบริษัท Monsanto กำลังสร้างกัญชาดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อจัดหากัญชามากพอป้อนให้กับอุตสาหกรรมกัญชา (1) เรื่องหลอกลวงนี้สร้างขึ้นโดยเว็บไซต์ข่าวปลอมเสียดสี World News Daily Report เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2015 ซึ่ง Monsanto ตอบโต้ด้วยการ "การปฏิเสธแบบหัวชนฝา" ผ่านเว็บ "Myths About Monsanto" ที่คอยแก้ข่าวปลอมและเรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัท ซึ่งมักจะถูกโจมตีว่าทำการตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อสนองตอบอุตสาหกรรมเกษตร แม้ว่ามันจะเป็นข่าวปลอม แต่สร้างความตื่นตูมให้กับวงการกัญชาอย่างมาก เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับกัญชา High Times รายงานว่า "นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานเพื่อสร้างแผนที่โครงสร้าง DNA ที่สมบูรณ์ของต้นกัญชา เพื่อป้องกันบริษัทเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรรายใหญ่ เช่น Monsanto จากการได้รับสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับสายพันธุ์เฉพาะ" (2) สะท้อนว่า แม้จะเป็นข่าวปลอม แต่ "ชื่อเสียง" ของบริษัท Monsanto ทำให้เกิดความกังวลว่ากัญชาอาจถูกรวบหัวรวบหางโดยอุตสาหกรรมเกษตร เพื่อผูกขาดสายพันธุ์และผูกขาดการผลิต เพราะมันกำลังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเงินมหาศาล 2. เรื่องหลอกลวงเกี่ยวกับการทดลองกัญชาของนาซา การทดลองกัญชาของนาซาเป็นเรื่องหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2559-2561 โดยอ้างถึงบันทึกการจ่ายเงิน 18,000 ดอลลาร์ของนาซาแก่อาสาสมัครเพื่อทำการทดลองนอนบนเตียงและให้กัญชาสูบระหว่างการทดลองเป็นเวลา 3 เดือน (หรือ 70 วัน) โดยได้เงิน 18,000 ดอลลาร์ (3) แต่นาซายืนยันว่าได้ทำการทดลองการนอนบนเตียงจริง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกัญชา แต่เรื่องหลอกลวงนี้อาจมีที่มามาจากข่าวจริงในปี 2557 โดยคอลัมนิสต์ของสำนักข่าว VICE ชื่อ แอนดรูว์ อิวานิชกิ (Andrew Iwanicki) ซึ่งเขาได้บันทึกประสบการณ์ของเขาในฐานะผู้เข้าร่วมการทดลองการนอนของนาซา เรื่องปลอมนี้ดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยอะไร และสื่อที่แก้ข่าสค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับมันในฐานเรื่องตลกขบขันหรือข่าวสัพเพเหระเสียมากกว่า 3. ดาวเคราะห์แห่งกัญชา Planet X637Z-43 อีกครั้งที่นาซาเข้ามาเกี่ยวข้องกับข่าวปลอมเรื่องกัญชา คราวนี้ยิ่งหลุดโลกกันไปใหญ่ Planet X637Z-43 เป็นการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2558 โดยอ้างว่าเป็นเอกสารการค้นพบโดยนาซาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ปกคลุมไปด้วยกัญชา สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ 715 ดวงที่ค้นพบโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ในปี 2557 เรื่องราวเกิดขึ้นจากเว็บไซต์ข่าวปลอม NewsWatch28 เนื้อหาของข่าวปลอมอ้างว่ามีการค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่พบอุกกาบาตที่มีร่องรอยของ THC หรือ Tetrahydrocannabinol (สารสำคัญในกัญชา) ถูกพบในทะเลทรายเนวาดาในปี 2553 เว็บไซต์ notallowedto.com รายงานเป็นตุป็นตะว่า “การค้นพบ THC บนเศษอุกกาบาตจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์ หากสารเคมีที่เปลี่ยนการทำงานของสมองและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ อารมณ์ หรือจิตสำนึกของมนุษย์ มีที่มาจากอวกาศแล้วจะมีบทบาทอย่างไร มีผลกระทบทางดาราศาสตร์ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือไม่ หรือกับชีวิตบนโลกโดยรวม การค้นพบนี้ทำให้เรามีคำถามมากกว่าคำตอบ" (4) แน่นอนว่า คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือมันไม่ต้องตอบ เพราะมันคือเรื่องโม้ขึ้นมา 4. กรณี Marlboro M เรื่องนี้เกิดจากบทความที่อ้างว่า Philip Morris USA เจ้าของบริษัทยาสูบ Marlboro กำลังเปิดตัวบุหรี่กัญชาแนวใหม่ที่เรียกว่า Marlboro M ในรัฐโคโลราโดและรัฐวอชิงตัน แม้ว่าบทความนี้จะเป็นเรื่องปลอม แต่บทความนี้มีพื้นฐานข้อเท็จจริงบางประการ เนื่องจากบริษัทยาสูบนี้ได้แสดงความสนใจในกัญชามาตั้งแต่ปี 1970 (5) ในขณะที่บทความได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบทความปลอม แต่คำกล่าวอ้างของบทความได้รับความเชื่ออย่างกว้างขวางเนื่องจาก มันเป็นความจริงที่บริษัทยาสูบต่างๆ ซึ่งรวมถึง Philip Morris สนใจกัญชาในฐานะผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดและอาจลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชา ความสนใจนี้มีมานานก่อนที่กฎหมายระบุให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติดในหสรัฐอเมริกา (และที่อื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากกฎหมายสิ่งเสพติดของอเมริกัน) จะมีผลบังคับใช้อย่างรวดเร็ว หลังการทำให้กัญชาไม่เป็นอาชญากรรม/ถูกฎหมายแล้ว มีรายงานว่า บริษัทยาสูบบางแห่งได้เริ่มลงทุนในการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงการเข้าร่วมกับบริษัทการลงทุนเมล็ดพันธุ์กัญชา แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่ได้ไปไกลถึงขั้นแนะนำบุหรี่กัญชาเข้าสู่ตลาดก็ตาม (6)ยาสมุนไพรstd48466• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเรื่องโม้ๆ เกี่ยวกับการแพทย์และวิทยาศาสตร์ว่าด้วยกัญชากัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันมายาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะเป็นต้นเหตุของเรื่องหลอกลวง ตำนานเล่าขานที่ปั่นกันขึ้นมา และข่าวปลอมมากมาย ทั้งหมดล้วนแต่ส่งผลกระทบในด้านใดด้านหนึ่งต่อการรับรู้ของสาธารณชนต่อการใช้กัญชาและสถานะของมัน ต่อไปนี้คือ "เรื่องโม้ๆ" ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ของกัญชา ที่แพร่หลายในต่างประเทศ (และอาจกระทบต่อทัศนะของคนไทยเราด้วย) 1. เรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัทมอนซานโตตัดแต่งพันธุกรรมกัญชา มีเรื่องหลอกลวงแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในปี 2015 โดยอ้างว่าบริษัท Monsanto กำลังสร้างกัญชาดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อจัดหากัญชามากพอป้อนให้กับอุตสาหกรรมกัญชา (1) เรื่องหลอกลวงนี้สร้างขึ้นโดยเว็บไซต์ข่าวปลอมเสียดสี World News Daily Report เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2015 ซึ่ง Monsanto ตอบโต้ด้วยการ "การปฏิเสธแบบหัวชนฝา" ผ่านเว็บ "Myths About Monsanto" ที่คอยแก้ข่าวปลอมและเรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัท ซึ่งมักจะถูกโจมตีว่าทำการตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อสนองตอบอุตสาหกรรมเกษตร แม้ว่ามันจะเป็นข่าวปลอม แต่สร้างความตื่นตูมให้กับวงการกัญชาอย่างมาก เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับกัญชา High Times รายงานว่า "นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานเพื่อสร้างแผนที่โครงสร้าง DNA ที่สมบูรณ์ของต้นกัญชา เพื่อป้องกันบริษัทเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรรายใหญ่ เช่น Monsanto จากการได้รับสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับสายพันธุ์เฉพาะ" (2) สะท้อนว่า แม้จะเป็นข่าวปลอม แต่ "ชื่อเสียง" ของบริษัท Monsanto ทำให้เกิดความกังวลว่ากัญชาอาจถูกรวบหัวรวบหางโดยอุตสาหกรรมเกษตร เพื่อผูกขาดสายพันธุ์และผูกขาดการผลิต เพราะมันกำลังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเงินมหาศาล 2. เรื่องหลอกลวงเกี่ยวกับการทดลองกัญชาของนาซา การทดลองกัญชาของนาซาเป็นเรื่องหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2559-2561 โดยอ้างถึงบันทึกการจ่ายเงิน 18,000 ดอลลาร์ของนาซาแก่อาสาสมัครเพื่อทำการทดลองนอนบนเตียงและให้กัญชาสูบระหว่างการทดลองเป็นเวลา 3 เดือน (หรือ 70 วัน) โดยได้เงิน 18,000 ดอลลาร์ (3) แต่นาซายืนยันว่าได้ทำการทดลองการนอนบนเตียงจริง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกัญชา แต่เรื่องหลอกลวงนี้อาจมีที่มามาจากข่าวจริงในปี 2557 โดยคอลัมนิสต์ของสำนักข่าว VICE ชื่อ แอนดรูว์ อิวานิชกิ (Andrew Iwanicki) ซึ่งเขาได้บันทึกประสบการณ์ของเขาในฐานะผู้เข้าร่วมการทดลองการนอนของนาซา เรื่องปลอมนี้ดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยอะไร และสื่อที่แก้ข่าสค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับมันในฐานเรื่องตลกขบขันหรือข่าวสัพเพเหระเสียมากกว่า 3. ดาวเคราะห์แห่งกัญชา Planet X637Z-43 อีกครั้งที่นาซาเข้ามาเกี่ยวข้องกับข่าวปลอมเรื่องกัญชา คราวนี้ยิ่งหลุดโลกกันไปใหญ่ Planet X637Z-43 เป็นการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2558 โดยอ้างว่าเป็นเอกสารการค้นพบโดยนาซาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ปกคลุมไปด้วยกัญชา สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ 715 ดวงที่ค้นพบโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ในปี 2557 เรื่องราวเกิดขึ้นจากเว็บไซต์ข่าวปลอม NewsWatch28 เนื้อหาของข่าวปลอมอ้างว่ามีการค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่พบอุกกาบาตที่มีร่องรอยของ THC หรือ Tetrahydrocannabinol (สารสำคัญในกัญชา) ถูกพบในทะเลทรายเนวาดาในปี 2553 เว็บไซต์ notallowedto.com รายงานเป็นตุป็นตะว่า “การค้นพบ THC บนเศษอุกกาบาตจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์ หากสารเคมีที่เปลี่ยนการทำงานของสมองและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ อารมณ์ หรือจิตสำนึกของมนุษย์ มีที่มาจากอวกาศแล้วจะมีบทบาทอย่างไร มีผลกระทบทางดาราศาสตร์ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือไม่ หรือกับชีวิตบนโลกโดยรวม การค้นพบนี้ทำให้เรามีคำถามมากกว่าคำตอบ" (4) แน่นอนว่า คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือมันไม่ต้องตอบ เพราะมันคือเรื่องโม้ขึ้นมา 4. กรณี Marlboro M เรื่องนี้เกิดจากบทความที่อ้างว่า Philip Morris USA เจ้าของบริษัทยาสูบ Marlboro กำลังเปิดตัวบุหรี่กัญชาแนวใหม่ที่เรียกว่า Marlboro M ในรัฐโคโลราโดและรัฐวอชิงตัน แม้ว่าบทความนี้จะเป็นเรื่องปลอม แต่บทความนี้มีพื้นฐานข้อเท็จจริงบางประการ เนื่องจากบริษัทยาสูบนี้ได้แสดงความสนใจในกัญชามาตั้งแต่ปี 1970 (5) ในขณะที่บทความได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบทความปลอม แต่คำกล่าวอ้างของบทความได้รับความเชื่ออย่างกว้างขวางเนื่องจาก มันเป็นความจริงที่บริษัทยาสูบต่างๆ ซึ่งรวมถึง Philip Morris สนใจกัญชาในฐานะผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดและอาจลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชา ความสนใจนี้มีมานานก่อนที่กฎหมายระบุให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติดในหสรัฐอเมริกา (และที่อื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากกฎหมายสิ่งเสพติดของอเมริกัน) จะมีผลบังคับใช้อย่างรวดเร็ว หลังการทำให้กัญชาไม่เป็นอาชญากรรม/ถูกฎหมายแล้ว มีรายงานว่า บริษัทยาสูบบางแห่งได้เริ่มลงทุนในการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงการเข้าร่วมกับบริษัทการลงทุนเมล็ดพันธุ์กัญชา แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่ได้ไปไกลถึงขั้นแนะนำบุหรี่กัญชาเข้าสู่ตลาดก็ตาม (6)std46777• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยDr. กัป บอกว่า ไม่มีใคร?? ตายเพราะมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่า : 1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด >> ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณ >> เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน #มะเร็งจะแพ้ การวิจัย โดยวิทยาลัย maryland ของยาบอกว่า #มันดีกว่าการรักษาด้วยคีโม 3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าวอินทรีย์ 3 ช้อน เช้าและกลางคืน >> มะเร็งจะหายไป คุณสามารถเลือก 1 ใน 2 การรักษานี้ หลังจาก หลีกเลี่ยงน้ำตาล ความไม่รู้ ไม่ใช่ข้ออ้าง ; ฉันได้แชร์ข้อมูลนี้ มานานกว่า 5 ปี บางทีตอนนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่มันยังช้ากว่าไม่เคยให้ทุกคนรอบตัวคุณรู้ " ดร. guruprasad reddy b v รัฐการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยมอสโก ประเทศรัสเซีย อ้อนวอนทุกคน ที่ได้รับข้อมูลนี้ เพื่อส่งต่อ ให้กับอีก 10 คน >> แน่นอน!! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับการบันทึกไว้ ^^ 🙋ฉันได้ทำส่วนของฉัน แล้วหวังว่า คุณจะสามารถช่วยได้ โดยการทำส่วนของคุณ ขอบคุณ 🙏 1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่า!! เพิ่มน้ำตาล >> น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ 2. หั่นเป็นแพ 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้ว 30 นาที แล้วดื่ม 3. มันสำปะหลังสด แต่ต้องต้มด้วย เปิดหม้อวิตามิน b17 อยู่บนมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้ 🌿>> บ่อยครั้ง มื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ : มะเร็งกระเพาะอาหาร 🌿>> อย่า!! ดื่มชา ในช่วงประจำเดือน 🌿>> ลดการดื่มนมถั่วเหลือง ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในนมถั่วเหลือง 👉>> ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง 👉>> ดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว 💥>> งด!! อาหาร 3 ชั่วโมง ก่อนนอน 💥>> หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ ‼️>> อย่า!! กินขนมปัง ในขณะที่มันร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง ‼️>> ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ?? ที่อยู่ข้างๆคุณ ในขณะที่คุณหลับ 🙋>> ดื่มน้ำเปล่า 10 แก้ว ทุกวัน : ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ 🙋>> ดื่มน้ำเพิ่ม ระหว่างวัน ลดตอนกลางคืน 🔥>> อย่า!! ดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และกระเพาะอาหารได้ 🔥>> กินอาหารที่เลี่ยนเล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะใช้เวลา 5-7 ชั่วโมง ในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ✨>> หลัง 5 โมงเย็น กินให้น้อยลง ✨>> อาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข : กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, พีช 😭>> นอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ .. พยายามพักผ่อน เพราะจะทำให้เราเด็กลง 🥰#น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาลสามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น 📌 #น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง >> แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 3 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน .. anti-oxsidan #รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง #น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้นซึ่งมันไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง #น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้ การทดสอบทางคลินิก ได้พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาว(ร้อน) จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลต่อเซลล์ที่ดี ต่อไป .. กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง การป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ไม่ว่า คุณจะยุ่งแค่ไหน?? โปรดหาเวลาอ่านสิ่งนี้ แล้วบอกให้คนอื่นกระจายความรัก❤️ให้กับคนอื่นๆด้วย * ความสวยงาม ของการแบ่งปัน * Cr.อ่านเจอแล้วนำมาฝาก #ขอบคุณเจ้าของบทความไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสอท.ทลายรัง ทําของปลอมเครื่องสําอาง ขาย “ว่อนเน็ต”ตำรวจ บช.สอท.ร่วมกับ อย.ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางเถื่อนที่ จ.สงขลา พร้อมของกลางลอตใหญ่ อ้างสรรพคุณ “เปลี่ยนผิวดำตามกรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวสดใสภายใน 7 วัน” ขายว่อนทางออนไลน์ ขณะที่ อย.เตือนชาวบ้านอย่าซื้อมาใช้ เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบ ตำรวจบุกทลายเครื่องสำอางเถื่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบผลิต และจำหน่ายเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ สารเคมี และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบพบการโฆษณาเกินจริงของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “ดีเอ็น ออร่า ไวท์ บอดี้ โลชั่น” เลขที่ ใบรับจดแจ้ง 11-1-6300052215 ทางสื่อออนไลน์และอีมาร์เกตเพลสเป็นจำนวนมากด้วยข้อความ เช่น “เปลี่ยนผิวดํากรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวใสใน 7 วัน” เป็นข้อความที่แสดงสรรพคุณเกินขอบข่ายความเป็นเครื่องสำอาง และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ตรวจสอบพบว่า เครื่องสำอางดังกล่าวยกเลิกเลขที่ใบรับจดแจ้งแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 พล.ต.ท.กรไชยกล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนทราบแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ยี่ห้อดังกล่าว นำหมายค้นเข้าบ้านพักใน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา อยู่กลางสวนยางพาราใช้เป็นสถานที่ลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมจำนวนหลายยี่ห้อ เช่น ยี่ห้อดีเอ็น (DN) ยี่ห้อใหม่ (MAI) ยี่ห้อเคที (KT) ตรวจยึดของกลางผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 460 ชิ้น ยาคีโตโคนาโซล 240 กล่อง บรรจุภัณฑ์เปล่ากว่า 10,000 ชิ้น เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ครีมรอบรรจุ และฉลากสติกเกอร์ รวมมูลค่าของกลางกว่า 300,000 บาท และนําตัวอย่างของกลางส่งตรวจหาสารต้องห้ามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ฝากความห่วงใยถึงประชาชน ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนที่จะทําการสั่งซื้อจากสื่อออนไลน์ กรณีเป็นสินค้า อุปโภค บริโภค ควรตรวจดูเลขที่จดแจ้ง เลข อย. หรือฉลากสินค้าว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เว็บไซต์ ผู้จำหน่ายมีความน่าเชื่อถือเพียงใด และแจ้งเตือนกลุ่มผู้ขายสินค้าไม่ซื่อสัตย์ สินค้าไม่ปลอดภัยในการใช้ หรือโฆษณาชวนเชื่อสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่อออนไลน์ อาจเข้าข่ายการกระทําผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 100,000 บาท ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม กล่าวว่า ครีมเถื่อนที่ยึดในครั้งนี้ ขายตามร้านค้า ออนไลน์ ตลาดนัดรถขายเร่หรือตามแพลตฟอร์ม มักโฆษณาอวดอ้างเกินความเป็นจริงว่าสามารถรักษาสิว รอยแผลเป็นฝ้า และกระ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสเห็นผลใน 7 วัน ที่ผ่านมา อย.เคยตรวจพบสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางประเภทนี้ เช่น สารปรอทไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ สเตียรอยด์ หากใช้เป็นเวลานานอาจทําให้ผิวหน้าดำผิวบางลง แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบ หากพบการลักลอบผลิตนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย.1556ความสวยความงามอย. เพิกถอนภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46631• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia)โรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia) คือ การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ โครงกระดูก และ ความแข็งแรงเป็นผลมาจากการแก่ตัว หรือ การเป็นผู้สูงอายุที่ขี้เกียจเดิน ผู้สูงอายุทุกท่าน ระวัง “ซาร์โคเพเนีย” จะมาเยือนท่าน:- 1. พยายามยืน/เดิน ให้มากขึ้น นั่ง/นอน เท่าที่จำเป็น! 2. หลังอายุ 60 ~ 70 ปี ยากที่จะลดน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถ้าไม่ออกกำลังกาย และพึ่งพา การกินให้น้อยลงเพื่อลดน้ำหนัก! กล้ามเนื้อทั้งหมดอาจหายไป มันอันตรายมากนะ! 3. การเดิน การขี่จักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่ดี และไม่เจ็บเข่า 4. ถ้าผู้สูงอายุป่วย และเข้าโรงพยาบาล การนอนเพียง 1 สัปดาห์ ผู้สูงอายุ จะเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างน้อย 5% ! 5. ปกติผู้สูงอายุ จำนวนมาก ที่ไม่ทำอะไรด้วยตนเอง ที่จ้างผู้ช่วยคอยดูแล คอยพยุง จะยิ่งสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเร็วขึ้น ! 6. ตราบใดที่ผู้สูงอายุ พยายามเดิน หรือเคลื่อนไหวด้วยตัวเองบ่อยๆ กล้ามเนื้อทั้งหมดของร่างกายจะเกี่ยวข้อง! รวมไปถึงการกลืนอาหาร ก็จักดีขึ้น 7. โรคซาร์โคเพเนีย นั้น ความจริง น่ากลัวมากกว่าโรคกระดูกพรุน ! เพราะ โรคซาร์โคเพเนียไม่เพียงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย 8. ผู้สูงอายุ ที่ไม่ค่อยเดิน หรือ ขาเคลื่อนไหวน้อย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง ดังนั้น อย่างน้อย ฝึกนั่งสควอต (ยืน/นั่ง ยอง วันละ 20-30 ครั้ง) หรือ ยืนขึ้นทันที เมื่อก้นของคุณ สัมผัสที่นั่งบนเก้าอี้ วันละ 20-30 ครั้งก็ยังดี ดังนั้น วันนี้ คุณต้องใส่ใจกับ ซาร์โคเพเนีย!แล้วนะ ขึ้น & ลงบันได ... การเดิน ในทุกวัน สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้! เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น…สำหรับทุกคนเมื่อเป็นผู้สูงวัย... ▪️การศึกษา จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์กพบว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ของการไม่เดิน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา สามารถ ลดประสิทธิภาพของขาลงได้ถึง 1 ใน 3 ซึ่งเท่ากับอายุเพิ่มขึ้น 20 - 30 ปี !! งั้นเดินไปเถอะ ▪️เมื่อใด กล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแอลง เราจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัวในภายหลัง ▪️ดังนั้น การเดินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ▪️ 50% ของกระดูก & 50% ของกล้ามเนื้อ อยู่ในสองขาของเรา ▪️ข้อต่อ & กระดูกที่ใหญ่ที่สุด & แข็งแรงที่สุด ก็อยู่ที่ขาของเรา ดังนั้น พยายามเดินให้ได้ ในทุกวันMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยภัยใกล้ตัว! สองแม่ค้าถูกไฟรั่วช็อตหมดสติเกือบดับ โชคดีดึงปลั๊กไฟทัน รอดปฏิหาริย์จากกรณี ผู้ใช้ ติ๊กต๊อก ชื่อ foremost02 ได้โพสต์คลิปเตือนอุทาหรณ์ ระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์เรื่องไฟดูด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก” โดยเป็นเหตุการณ์ ลักษณะ 2 แม่ค้า ร้านก๋วยเตี๋ยวริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามกับสถานีปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ นาเกลือใต้ ขาเข้าพัทยา หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กำลังทำความสะอาดพื้น และ ล้างข้าวของ โดยจะเห็นว่าพื้นที่ทางเดินในบริเวณนั้นมีน้ำขังอยู่ จากนั้น จู่ๆ 1 ใน 2 แม่ค้าเกิดล้มหงายท้องล้มลงแล้วหมดสติทันที อย่างไม่สาเหตุ จนแม่ค้าอีกคนจะวิ่งเข้าไปช่วย แล้วเกิดล้มลงหมดสติไปอีกคน ก่อนที่จะมีเสียงผู้หญิงร้องตะโกนให้ “ถอดปลั๊กๆ” โดยคลิปดังกล่าว กลายเป็นคลิปไวรัล มีผู้แชร์เตือนเป็นอุทาหรณ์จำนวนมากstd47885• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขับยาวไม่ต้องหยุด เทศกาลวันสงกรานต์ปีนี้ 💦 #ขึ้นทางด่วนฟรี📣 #ขับยาวไม่ต้องหยุด เทศกาลวันสงกรานต์ปีนี้ 💦 #ขึ้นทางด่วนฟรี ขึ้นมอเตอร์เวย์ฟรี ทั้งหมด 5 เส้นทางพิเศษ ช่วง 12-18 เม.ย. 65 ใครมีแผลนกลับบ้าน หรือเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ไม่ต้องหยุดรถจ่ายเงินในเสียเวลา วิ่งไปเลยยาวๆ เล้ยย 😁 1⃣ ทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก ฟรี 7 วัน (12-18 เม.ย. 65 ) 2⃣ ทางพิเศษศรีรัช อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร ฟรี 3 วัน (13-15 เม.ย. 65 ) 3⃣ มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 (กรุงเทพมหานคร - พัทยา) ฟรี 7 วัน (12-18 เม.ย. 65 ) 4⃣ มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน - บางพลี และตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน) ฟรี 7 วัน (12-18 เม.ย. 65 ) 5⃣ มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ สำหรับขาออกฟรี 4 วัน (11-14 เม.ย. 65 ) และขาเข้าฟรี 4 วัน (15-18 เม.ย. 65 )Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคำแนะนำของ พญ.อิสรีย์ ประดิษฐ์กุลมาตรวจสุขภาพ เจอหมอ (พญ อิสรีย์ ประดิษฐ์กุล) ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมาในชีวิต อธิบายละเอียดทุกตัวเลขครึ่งขั่วโมง และได้ความรู้ใหม่คือ 1. ห้ามออกกำลังกายด้วยการขึ้นลงบันไดเด็ดขาด ทำให้เข่าพัง 2. ห้ามเล่นฮูลาฮูป เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อน 3. ถ้าออกกำลังด้วยการเดินสายพาน ห้ามใข้โหมดขึ้นเขา 4. ควรให้ร่างกายสัมผัสแดดอ่อนๆ ทุกวัน 5. คนอายุ 50+ ต้องออกกำลังแบบ cardio และ ยกเวท (ดัมเบล ห้ามบาร์เบล) เบาๆ เพื่อออกกำลังหลังให้แข็งแรง 6. ใครที่เป็นไขมันพอกตับต้องออกกำลังเท่านั้น ไขมันถึงจะหลุด 7. ลด LDL ด้วยการลดอาหารทอด มัน ทะเล อาหารแปรรูป(ไส้กรอก) 8. กะทิกินได้เป็น HDL (หมอคำนวณให้เห็นว่า ถ้า HDL สูงพอจะไป cover LDL ได้) 9. ส่องกล้องหามะเร็งลำไส้ไม่จำเป็นถ้าตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทุกปี และถ้าไม่มีอาการท้องผูกปวดท้องต่อเนื่องลดความอ้วนยาสมุนไพรความสวยความงามภาคตะวันออกMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอย. ยกเลิกเลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลีน เอฟเอส-ทรี Lyn FS-Three (Dietary supplement product by pim)สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลีน เอฟเอส-ทรี Lyn FS-Three (Dietary supplement product by pim) ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ลีน เอฟเอส-ทรี (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารปลอม ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท ฟู้ด ซายน์ ซัพพลาย เซอร์วิส จำกัด (จ.ปทุมธานี) (ใบอนุญาตที่ 13-1-05459) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 99/29 หมู่ 2 ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 13-1-05459-5-0017 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 222/2561 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อนัตตา คอร์ไดเซพ ถูก อย. ยกเลิกเลขสารบบอาหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อนัตตา คอร์ไดเซพ เนื่องจากอาหารปลอม ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อนัตตา คอร์ไดเซพ ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท หมอนพพร กรุ๊ป จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-1 -01454) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 9/413 ซอยลาดปลาเค้า 78 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10220 กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารปลอม เลขสถานที่/เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-1-01454-5-0036 คำสั่งยกเลิกเลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 212/2562 ลงวันที่ 18 เมษายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเจตมูลเพลิงแดง ถูก อย. ยกเลิกเลขสารบบอาหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เจตมูลเพลิงแดง บริษัทโพธิ์ประดิษฐ์ สมุนไพร จำกัด (กรุงเทพมหานคร) เนื่องจากอาหารไม่บริสุทธิ์ ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: เจตมูลเพลิงแดง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัทโพธิ์ประดิษฐ์ สมุนไพร จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-1-13660) ที่ตั้งสถานประกอบการ: เลขที่ 11-13 ถนนวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: เนื่องจากอาหารไม่บริสุทธิ์ เลขสถานที่/เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-1-13660-5-0140 คำสั่งยกเลิกเลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 557/2561 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเจตมูลเพลิงแดง (ผง) ถูก อย. ยกเลิกเลขสารบบอาหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เจตมูลเพลิงแดง (ผง) บริษัทโพธิ์ ประดิษฐ์สมุนไพร จำกัด (กรุงเทพมหานคร) เนื่องจากอาหารไม่บริสุทธิ์ ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: เจตมูลเพลิงแดง (ผง) ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัทโพธิ์ ประดิษฐ์สมุนไพร จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-1-13660) ที่ตั้งสถานประกอบการ: เลขที่ 11-13 ถนนวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: เนื่องจากอาหารไม่บริสุทธิ์ เลขสถานที่/เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-1-13660-5-0139 คำสั่งยกเลิกเลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 557/2561 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเมล็ดเฮมพ์ อินทรีย์ ถูก อย. ยกเลิกเลขสารบบอาหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เมล็ดเฮมพ์ อินทรีย์ เนื่องจากอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามที่ได้แจ้งไว้ต่อผู้อนุญาต (อย.) ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: เมล็ดเฮมพ์ อินทรีย์ ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท แนชเชอรัล แอนด์ พรีเมี่ยม ฟู๊ด จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-1-10758) ที่ตั้งสถานประกอบการ: เลขที่ 194 ถนนคุ้มเกล้า แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารไม่บริสุทธิ์ เลขสถานที่/เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-1-10758-5-0044 คำสั่งยกเลิกเลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 403/2561 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ?ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ? การย้อมสีผมในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมเพื่อเปลี่ยนลุคและสไตล์ หรือการซ่อนผมขาว ได้รับการยอมรับในทุกช่วงวัย การย้อมสีผมบ่อยๆจะทำให้เราได้รับสารเคมีอย่างต่อเนื่อง แต่สารเคมีเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่หากการได้รับสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ (ข้อมูลจาก Harvard Medical School) ยาย้อมผมตามท้องตลาดมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทสีชั่วคราว ถ้าสระผมแล้วสีก็จะค่อยๆหายไป 2. ประเภทสีกึ่งถาวร หรือเรียกว่าสีโกรกผม สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% ถ้าสระผม 5-6 ครั้ง ก็จะค่อยๆหลุดออกไป 3. ประเภทสีย้อมถาวร หรือเรียกว่าสีย้อมผม สามารถปกปิดผมได้ สระแล้วสีไม่หลุดลอก แต่วิธีนี้งานวิจัยระบุว่าจะทำให้โครโมโซมร่างกายเสียหาย ถ้าย้อมบ่อยๆเซลล์อาจจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ส่วนผสมในน้ำยาย้อมผมที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้ 1. สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ : ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และระคายเคือง 2. สารฟีนิลินไดอะมีน หรือสีย้อมผมชนิดถาวร : อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้ 3. แอมโมเนีย : สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย รากผมอ่อนแอ 4. สารซิลเวอร์ไนเตรต : ทำให้เกิดการระคายได้ 5. สารเลดอะซีเตด : หากสะสมในร่างกายจะทำลายสมอง ประสาทสัมผัส และจัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง (ข้อมูลจาก Herbplus+) เราจึงควรมีหลักการในการเลือกน้ำยาย้อมสีผม ดังนี้ 1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีวันหมดอายุ วิธีใช้ ส่วนผสม และเลขที่จดแจ้งระบุไว้ชัดเจน 2. เลือกน้ำยาที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย 3. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง 4. เช็กความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรมีมากกว่า 6% เพราะจะทำให้ผมแห้ง ผมกระด้าง และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้ 5. ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Herbplus+ และ Wongnai) นอกจากนี้ คนที่ย้อมสีผมอยู่แล้ว ไม่ควรย้อมเกิน 9 ครั้งต่อปี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสาราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ยังไม่เคยย้อมผมไม่ควรย้อมสีผม โดยเฉพาะคนที่ผมบางหรือผมน้อยอยู่แล้ว เพราะการย้อมผมทำให้รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงได้ง่าย หากสะสมในร่างกาย อาจทำร้ายสมอง ประสาทสัมผัส ที่สำคัญยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน และ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า น้ำยาย้อมสีผมยังเป็นอันตรายต่อช่างทำผม เพราะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีมากกว่าผู้ที่ย้อมผม เนื่องจากต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มาจากน้ำยาต่างๆเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยต่างๆ พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่ายาย้อมสีผมเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นเวลาที่ย้อมสีผมควรอยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี มีการสวมถุงมือ และใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีทุกครั้ง (สาธิตา แสวงลาภ, ฤดีรัตน์ มหาบุญปี ติ, อัจฉรา นราศรี, 2562) (ข้อมูลจาก Herbplus+,สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข) เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามสุขภาพมะเร็งapinya25460• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยม.มหิดล เปิดสอนภาษาให้ฟรี จริงไหม#TravelNews : อัปสกิลเตรียมเที่ยว ! คอร์สสอน 3 ภาษาเพื่อการท่องเที่ยว เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา เรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ . การเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศถึงแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่ยังคงมีประชาชนในพื้นที่บางกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับเราได้ ดังนั้น หากเรามีความรู้พื้นฐานในภาษาของประเทศนั้นๆ อาจจะทำให้การท่องเที่ยวของเราสนุก และสื่อสารกับผู้คนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย . วันนี้ TravelNews มาชี้พิกัดคอร์สเรียนภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียนของเรา ได้แก่ เวียดนาม เมียนมาร์ และกัมพูชา เรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จัดสอนโดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล . 🇻🇳 ภาษาเวียดนามเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/173 . 🇲🇲 ภาษาเมียนมาเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/172 . 🇰🇭 ภาษากัมพูชาเพื่อการท่องเที่ยว #ทางไปเรียน https://vcourse.ai/courses/213 . . #อัปสกิลเตรียมเที่ยว #ข่าว #News #ท่องเที่ยว #TravelMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเข้าวัด ฟังธรรม นั่งสมาธิ รักษาโรคซึมเศร้าได้จริงหรือไม่ภาวะซึมเศร้าเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่ซับซ้อนและมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป การเข้าใจความแตกต่างระหว่างภาวะซึมเศร้ากับความเครียดทั่วไปจึงเป็นสิ่งสำคัญ ภาวะเครียดที่เกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การอกหัก อาจทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าและเบื่อหน่ายได้ชั่วคราว แต่โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ทุเลาลงเมื่อเวลาผ่านไป และสามารถจัดการได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ การพูดคุยกับผู้อื่น หรือการฝึกสติ อย่างไรก็ตาม ภาวะซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตเวชที่มีเกณฑ์การวินิจฉัยที่ชัดเจน โดยผู้ป่วยจะต้องมีอาการอย่างน้อย 5 อาการจาก 9 อาการหลัก เช่น อารมณ์เศร้า เบื่อหน่าย การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการนอนหลับ ความรู้สึกผิดหวังกับตนเอง และความคิดอยากทำร้ายตนเอง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ภาวะซึมเศร้าสามารถแบ่งและการประเมินระดับความรุนแรงของอาการ การประเมินอาการซึมเศร้าจะช่วยให้ทราบว่าอาการของแต่ละบุคคลรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว อาการซึมเศร้าจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับน้อย: ผู้ป่วยจะมีอาการบางส่วนที่ตรงตามเกณฑ์การวินิจฉัย แต่ยังสามารถทำงานและดำเนินชีวิตประจำวันได้ ระดับปานกลาง: ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้น ทำให้การทำงานและการเข้าสังคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ระดับรุนแรง: ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากที่สุด อาจมีอาการหลงผิด ประสาทหลอน และมีความคิดทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น การรักษาเศร้าเล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรง ซึ่งแต่ละระดับจะมีความรุนแรงของอาการและผลกระทบต่อชีวิตประจำวันแตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่มีอาการซึมเศร้าระดับเบาถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการฝึกสติอาจช่วยบรรเทาอาการได้ เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการฝึกการรับรู้ถึงความรู้สึกในปัจจุบัน ในพาร์ทของ การให้คำปรึกษาและการทำจิตบำบัดนั้น มีหลากหลายแนวทางที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือ การให้คำปรึกษาที่อิงหลักการใช้สติ (Mindfulness-based therapy) ซึ่งเป็นการนำหลักการของการฝึกสติและสมาธิมาประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือคนไข้ อย่างไรก็ตาม การให้คำปรึกษาที่เน้นใช้สติบำบัดนี้เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกที่หลากหลายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากอาการซึมเศร้ามีความรุนแรงมากขึ้น การใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์และการเข้ารับการบำบัดทางจิตวิทยาเป็นสิ่งจำเป็น โดยการรักษาภาวะซึมเศร้าขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วิธีการรักษาที่พบบ่อย ได้แก่ การใช้ยา: ยาต้านเศร้าช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคซึมเศร้า การทำจิตบำบัด: ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจและจัดการกับความคิดและอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: เช่น การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต การให้คำปรึกษา: การพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไข สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาภาวะซึมเศร้า ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการประเมินระดับความรุนแรงของอาการ เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ ปัจจุบันมีเครื่องมือประเมินอาการซึมเศร้าออนไลน์มากมายที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ผู้ที่สงสัยว่าตนเองอาจมีอาการซึมเศร้าสามารถทำแบบประเมินเหล่านี้เบื้องต้นได้ และหากผลออกมามีปัญหาสามารถติดต่อเครือข่ายสำหรับนักศึกษา มมส สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่เครือข่ายสุขภาพจิตมมสเบอร์ 0850104544 หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ซึ่งมีบริการตลอด 24 ชั่วโมงโดยนักจิตวิทยา แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรจะพบจิตแพทย์ ที่คลีนิคสุขภาพจิต โรงพยาบาลสุทธาเวช ภาวะซึมเศร้าเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและต่อเนื่อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมามีชีวิตที่ปกติสุขได้อีกครั้ง การสังเกตอาการของตนเองและการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อมีอาการที่น่าสงสัย เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคซึมเศร้าสุขภาพ65011215023• 10 เดือนที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเมาค้างมาทางนี้ 10 วิธีแก้แฮงค์เมาค้างเกิดขึ้นเพราะ เราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป หลังจากนั้นร่างกายก็จะแสดงปฏิกิริยาต่อต้านแอลกอฮอล์ขึ้นมา ซึ่งมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ตามสภาพร่างกาย หรือการเตรียมตัวของแต่ละคน อาการ ได้แก่ อาการขาดน้ำ ปวดหัว หงุดหงิด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย บางคนนอนไม่หลับ ลิ้นขาดรสสัมผัส ขมปากขมคอ มีไข้ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลตามมา 10 วิธีแก้เมาค้าง กาแฟดำ เอสเพรสโซ่สักช็อต หรืออเมริกาโน่ร้อนสักแก้ว ช่วยแก้แฮงค์ให้ดีขึ้นได้มาก คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นคุณให้ฟื้นจากอาการมึนหัว และขับปัสสาวะ ทำให้แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ไข่ต้ม ขนมปัง กับน้ำส้มคั้น ตื่นมารองท้องด้วยไข่ต้ม ที่มีโปรตีนช่วยการดักจับสารพิษ ขนมปัง ตัวช่วยดูดซับสารพิษ และป้องกันการอาเจียน ตามด้วยน้ำส้มคั้นสักแก้ว เพราะวิตามินซีในน้ำส้ม จะช่วยลดการเวียนหัว แก้แฮงค์ และชดเชยภาวะขาดน้ำหลังการดื่มหนักได้อีกด้วย น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น หรือน้ำผึ้ง ก็ช่วยแก้อาการเมาค้างได้เช่นกัน และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป แถมยังช่วยลดปริมาณสารตกค้างในตับได้อีกด้วย เครื่องดื่มวิตามิน ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี และวิตามินซี จะเป็นตัวช่วยอย่างดี หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายยาทั่วไป เพราะวิตามินดังกล่าวสามารถช่วยลดอาการเมาค้างได้มาก และควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปหลังจากการดื่มหนัก น้ำเกลือแร่ เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำไปมาก เพราะแอลกอฮอล์ สายปาร์ตี้ควรมีน้ำเกลือแร่ ชนิดละลายน้ำไว้เป็นตัวช่วยฟื้นฟูอาการขาดน้ำด้วย และควรติดตัวไว้จิบทั้งวันเพื่อแก้แฮงค์ และเติมน้ำให้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น น้ำขิง เครื่องดื่มสมุนไพร ก็ช่วยแก้แฮงค์ได้เป็นอย่างดี น้ำขิงจะช่วยฟื้นฟูร่างกาย ระบบหายใจ และป้องกันอาการปวดหัวที่จะมาได้ในระดับหนึ่ง และยังเป็นตัวช่วยขับแอลกอฮอล์ออกมาทางระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี กล้วยหอม โพเทสเซียมในกล้วยหอม จะช่วยป้องกันการขาดน้ำ และเคลือบกระเพาะไปในตัว ทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้น้อย และขับออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น ใบโหระพา ลองนำมาขยี้ หรือบด ผสมน้ำร้อน หรือชาร้อนทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม วิธีนี้ช่วยแก้แฮงค์ และลดอาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี นมช็อกโกแลต ช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้อย่างดี แถมไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างแรงเมื่อตื่นขึ้นมาอีกด้วย ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อขับแอลกอฮอล์ เช่น วิ่ง วิดพื้น ให้ร่างกายได้เหงื่อ จะเป็นการขับแอลกกอฮอล์ออกมาจากร่างกาย ช่วบแก้แฮงค์ และทำให้ร่างกายรู้สึกกระปี่กระเปร่าขึ้น แต่ละวิธีมีมShoyo Zx• 2 ปีที่แล้ว
- 6 คนสงสัยเมาค้างมาทางนี้ 10 วิธีแก้แฮงค์เมาค้างเกิดขึ้นเพราะ เราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป หลังจากนั้นร่างกายก็จะแสดงปฏิกิริยาต่อต้านแอลกอฮอล์ขึ้นมา ซึ่งมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ตามสภาพร่างกาย หรือการเตรียมตัวของแต่ละคน อาการ ได้แก่ อาการขาดน้ำ ปวดหัว หงุดหงิด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย บางคนนอนไม่หลับ ลิ้นขาดรสสัมผัส ขมปากขมคอ มีไข้ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลตามมา 10 วิธีแก้เมาค้าง กาแฟดำ เอสเพรสโซ่สักช็อต หรืออเมริกาโน่ร้อนสักแก้ว ช่วยแก้แฮงค์ให้ดีขึ้นได้มาก คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นคุณให้ฟื้นจากอาการมึนหัว และขับปัสสาวะ ทำให้แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ไข่ต้ม ขนมปัง กับน้ำส้มคั้น ตื่นมารองท้องด้วยไข่ต้ม ที่มีโปรตีนช่วยการดักจับสารพิษ ขนมปัง ตัวช่วยดูดซับสารพิษ และป้องกันการอาเจียน ตามด้วยน้ำส้มคั้นสักแก้ว เพราะวิตามินซีในน้ำส้ม จะช่วยลดการเวียนหัว แก้แฮงค์ และชดเชยภาวะขาดน้ำหลังการดื่มหนักได้อีกด้วย น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น หรือน้ำผึ้ง ก็ช่วยแก้อาการเมาค้างได้เช่นกัน และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป แถมยังช่วยลดปริมาณสารตกค้างในตับได้อีกด้วย เครื่องดื่มวิตามิน ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี และวิตามินซี จะเป็นตัวช่วยอย่างดี หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายยาทั่วไป เพราะวิตามินดังกล่าวสามารถช่วยลดอาการเมาค้างได้มาก และควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปหลังจากการดื่มหนัก น้ำเกลือแร่ เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำไปมาก เพราะแอลกอฮอล์ สายปาร์ตี้ควรมีน้ำเกลือแร่ ชนิดละลายน้ำไว้เป็นตัวช่วยฟื้นฟูอาการขาดน้ำด้วย และควรติดตัวไว้จิบทั้งวันเพื่อแก้แฮงค์ และเติมน้ำให้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น น้ำขิง เครื่องดื่มสมุนไพร ก็ช่วยแก้แฮงค์ได้เป็นอย่างดี น้ำขิงจะช่วยฟื้นฟูร่างกาย ระบบหายใจ และป้องกันอาการปวดหัวที่จะมาได้ในระดับหนึ่ง และยังเป็นตัวช่วยขับแอลกอฮอล์ออกมาทางระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี กล้วยหอม โพเทสเซียมในกล้วยหอม จะช่วยป้องกันการขาดน้ำ และเคลือบกระเพาะไปในตัว ทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้น้อย และขับออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น ใบโหระพา ลองนำมาขยี้ หรือบด ผสมน้ำร้อน หรือชาร้อนทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม วิธีนี้ช่วยแก้แฮงค์ และลดอาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี นมช็อกโกแลต ช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้อย่างดี แถมไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างแรงเมื่อตื่นขึ้นมาอีกด้วย ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อขับแอลกอฮอล์ เช่น วิ่ง วิดพื้น ให้ร่างกายได้เหงื่อ จะเป็นการขับแอลกกอฮอล์ออกมาจากร่างกาย ช่วบแก้แฮงค์ และทำให้ร่างกายรู้สึกกระปี่กระเปร่าขึ้นมีมNontawattahom• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ