(1461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยจริงหรือ โรงพยาบาลจุฬาแจกไม้เท้าเลเซอร์พระราชทานให้ผู้ป่วยพาร์กิสันฟรี 500 อันไม้เท้าเลเซอร์พระราชทาน เพื่อช่วยแก้ไขอาการเดินติดในผู้ป่วยพาร์กินสันโดยอาศัย แสงเลเซอร์สีเขียวที่ปล่อยออกมาจากไม้เท้า เพื่อเป็นสัญญาณกระตุ้นทางสายตา (Visual cues) พร้อมจำหน่ายและแจกให้แก่ผู้ป่วยพาร์กินสันทั่วประเทศ หากประสงค์จะรับไม้เท้าเลเซอร์พระราชทาน ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าที่ website: www.chulapd.org และนำบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมใบรับรองแพทย์ว่าเป็นโรคหรือมีอาการตามเกณฑ์ดังกล่าว ติดต่อรับไม้เท้าเลเซอร์พระราชทานนี้ได้ที่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันฯ อาคาร สธ ชั้น 12 ในวันอังคาร พุธ ศุกร์ เวลา 13.00-15.30 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หมายเลขโทรศัพท์ 02-256-4000 ต่อ 70704 , 08 1107 9999naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครอบครัวข้าราชการติดโควิดเบิกค่าห้องสูงสุด 7,500 บาทต่อวันครอบครัวข้าราชการ'ติดโควิดเบิกค่าห้องสูงสุด 7,500 บาทต่อวัน กรมบัญชีกลางประกาศแนวฏิบัติ"การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีข้าราชการหรือบุคคลในครอบครัว"เสี่ยงหรือติดโควิด"การตรวจยืนยันการติดเชื้อ-การเบิกค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล-การเบิกค่าห้องพัก สูงสุดไม่เกิน7.5พันบาทต่อวัน" มีผลตั้งแต่ 16 ส.ค.64โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการสูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่มวลได้หรือไม่รู้หรือไม่ บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่มวน หลายคนเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีในการเลิกบุหรี่มวน แต่จากงานวิจัยและข้อมูลทางการแพทย์ พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่มวนได้จริง และยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกมากมาย ข้อมูลจาก https://www.hfocus.org/content/2023/09/28520 จากการสัมภาษณ์ เภสัชกรหญิง อริสา คำรินทร์ เภสัชกรหญิง ร้านยาในจังหวัดมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า การสูบบุรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยให้เลิกเลิกบุหรี่มวล แต่เป็นการทำให้เสพติดสารนิโคตินที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งนำไปสู่ โรคหัวใจ ถุงลมโป่งพอง และโรคในระบบทางเดินหายใจ พร้อมกับให้คำแนะนำว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางออกในการเลิกบุหรี่มวน 1.ไม่ช่วยเลิกบุหรี่: ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่มวนส่วนใหญ่จะติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน หรือสูบทั้งสองชนิดควบคู่กันไป 2.อันตรายต่อสุขภาพ: บุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปอด หัวใจ และระบบอื่นๆ ในร่างกาย ผลกระทบอื่นๆ: 1.ไม่ปลอดภัย: แม้จะไม่มีควันบุหรี่ แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายออกมา 2.เสพติด: นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเสพติดได้เช่นเดียวกับบุหรี่มวน 3.ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องความปลอดภัย: งานวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมเพียงพอที่จะยืนยันความปลอดภัยได้ “เลิกบุหรี่มวนดีกว่า แต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลิกบุหรี่ที่ปลอดภัยและได้ผล” เลิกบุหรี่ โทร 1600 หรือปรึกษาที่ร้านยามหาวิทยาลัยมหาสารคาม และร้านยาที่มีเภสัชกรใกล้บ้านสุขภาพWisit Kongkam• 1 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแผ่นดินไหวพิษณุโลกเกิดรอยเลื่อนขึ้น ทำให้มีการเกิดแผ่นดินไหวstd46719• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"เมล็ดมะละกอ" มีประโยชน์มากกว่าที่คิดป้องกันมะเร็ง เนื่องด้วยเมล็ดมะละกอ อุดมไปด้วยสารไอโซไทโอไซยาเนท (isothiocyanate) และ กรด Palmitic & Oleic ที่เชื่อกันว่า มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับอาการต่อมลูกหมาก ปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเม็ดเลือดขาวstd48456• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลุงวัย 59 ชาวแพร่ ซื้อสลากดิจิทัลตามเลขทะเบียนรถ เฮงถูกรางวัลที่ 1 ได้ 12 ล้านคุณลุงวัย 59 เจ้าของร้านอะไหล่ยนต์ที่ จ.แพร่ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล จากแอปฯ เป๋าตัง โดยเลือกเลขทะะเบียนรถคันโปรด 4872 ตามมา 3 ปี งวดนี้เฮงถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบรับทรัพย์ 12 ล้านบาท ทำเอาดีใจกันทั้งบ้านPanisara Rukngam• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttp://qmierr.fn2020.cn/sbk/tb.php?v=th1621259ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 2 คนสงสัยhttp://6f65z6i.fn2020.cn/sbk/tb.php?v=th1621169ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย่าบี้เห็บ เพราะจะทำให้แพร่ลูกเพิ่มทวีคูณอย่าบี้เห็บ เพราะจะทำให้ ไข่ซึ่งอยู่ในตัวเห็บ ออกมาฟักข้างนอก และแพร่ลูกเพิ่มทวีคูณ พร้อมมีการนำภาพประกอบเป็นรูปเห็บตัวอ้วนที่ภายในมีตัวอ่อนอยู่เต็ม รอที่จะออกมาสู่โลกภายนอกstd47884• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้าน Paracetamol Common Household Poisonous Medicine คนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ พาราเซตามอล และเข้าใจว่า เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก จนกลายเป็นความเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล ปัญหาที่คนไทยไม่รู้ก็คือ ยาพาราเซตามอล มีไว้แค่บรรเทาอาการ ไม่ได้ช่วยให้โรคหาย และยังเป็นยาที่มีอันตราย แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และไตได้อย่างรุนแรง ขนาดสูงสุดของ ยาพาราเซตามอล ที่เคยเป็นที่ยอมรับ คือไม่เกิน 2000- 3000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับ พาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 4-6 เม็ด เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อน คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินพาราเซตามอลครั้งละสองเม็ด และความที่เป็นยาออกฤทธิ์สั้น จำเป็นต้องกินกันบ่อย ๆ ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่คนไข้จะได้รับยาในขนาดที่เป็นพิษได้สูง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการรับประทานยาพาราเซตามอล ในขนาดที่เข้าใจว่าปลอดภัย แต่ลงเอยด้วยการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ในขนาด 500 มก และให้ขายเพียงขนาด 325 มก เท่านั้น ยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC) ในประเทศไทย แนค (NAC) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากเป็นยาที่แทบจะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม ผู้เขียน จึงขอแนะนำให้คนทุกคน เลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น ถ้ามีไข้ควรเลือกวิธีเช็ดตัวลดไข้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย เวลาที่คนไข้ที่มีไข้ และมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไม่ได้คิดว่า ตับอักเสบนั้น อาจเป็นผลจากยาพาราเซตามอล ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก คนไข้เหล่านี้จะมีไข้สูงตลอดวัน หลังจากการกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า ในคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิต ผู้เขียนเคยได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง ที่มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนซัยม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งไปว่าเด็กคงไม่รอดชีวิต หลังจากที่ผู้เขียนไปดูในตอนดึก ก็ได้สั่งการรักษาด้วยการใช้ แนค (NAC) ขนาดสูงหยดทางหลอดเลือด วันรุ่งขึ้น ระดับเอนซัยม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา ไม่เพียงแต่ ยาพาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย ผู้เขียนมีคนไข้ทีมาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย มีอยู่รายหนึ่งที่กินพาราเซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวดไม่เมื่อย ทำงานได้ดี เลยเข้าใจผิดว่าเป็นยาชูกำลัง กินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ผู้เขียนเคยได้รักษาคนไข้ตั้งครรภ์ 26 สัปดาห์ ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ไม่มีปัสสาวะมา 3 วัน ซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีปัญหาปวดน่องอย่างรุนแรง จึงไปคลินิก ได้ยาฉีดแก้ปวด วันละเข็มติดต่อกันสามวัน หลังจากนั้น ปัสสาวะลดลงจนกระทั่งไม่มีปัสสาวะออก ผู้เขียนจึงได้ให้ NAC ขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือด และตามด้วยการล้างไต ภายหลังการล้างไตได้ 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยก็เริ่มมีปัสสาวะออกมาเรื่อย ๆ จำนวนมาก และการทำงานของไตก็กลับสู่สภาพปกติ และคลอดบุตรเป็นปกติในสองเดือนถัดมา ขอย้ำว่า พาราเซตามอล ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็มีอันตราย หรือคิดว่า ทุกครั้งที่เป็นไข้ จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอล แนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะการกินยาพาราเซตามอลพร่ำเพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค อาจส่งผลให้เราหายไปจากโลกแทนได้ครับ ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไตผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย.. # Post นี้ ตัองขอร้องให้อ่านเพื่อ Safety ของทุกครอบครัวนะคะ.. เป็น warning จากบริษัทSHELLค่ะ เรื่อง: คำเตือนจากบริษัทน้ำมันเชลล์ -- ต้องอ่าน!. Shell Oil Report!... (MUST READ) กรุณาส่งนี้ข่าวสารให้ทุกคนใน ครอบครัวและ เพื่อนของคุณ โดยเฉพาะผู้ที่ มีเด็กในรถกับ พวกเขาในขณะ เติมน้ำมัน. หากมีเกิด ขึ้น,พวกเขาอาจ จะไม่สามารถที่ จะช่วยเด็กออก มาทันเวลา ต้องอ่าน, แม้ว่าคุณจะไม่มีรถ คำเตือน จากบริษัทน้ำ มันเชลล์ -- ต้องอ่าน! แจ้งเตือนความ ปลอดภัย! นี่ คือสาเหตุที่เราไม่อนุญาตให้พกโทรศัพท์มือถือใน · พื้นที่ปฏิบัติการ, · พื้นที่จัดการและจัดเก็บโพรพิลี นออกไซด์ · พื้นที่ถ่่ายโพรเพน,น้ำมันและ ดีเซล บริษัท น้ำมันเชลล์เพิ่งออกคำเตือนเมื่อเร็วๆนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น3ครั้ง ที่โทรศัพท์มือถือ (โทรศัพท์มือ ถือ)เกิดประกาย ไฟ ทำให้ไอน้ำมันลุกเป็นไฟระหว่างการดำเนินการเติมน้ำมัน ในกรณีแรก โทรศัพท์ ถูกวางไว้บน ฝากระโปรงหลัง ของรถในระหว่าง การเติมน้ำมัน พอดีมีคนโทร เข้ามาทำให้ เครื่อง โทรศัพท์ดัง และเกิดไฟลุกไหม้ตามมา ทำให้รถและ ปั๊มเติมน้ำมัน เบนซินติดไฟ ไหม้ยับเยิน ในกรณีที่สอง ในขณะที่เติม น้ำมันรถ เจ้าของรถรับสายโทรศัพท์ที่เข้ามา ทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา เผาไหม้ใบหน้าของเขาอย่างสาหัส! และในกรณีที่ สาม, มีคนถูกไฟไหม้ที่ต้นขาและขาหนีบ เนื่องจากขณะ ที่เขาเติม น้ำมันรถของเขา โทรศัพท์ซึ่ง อยู่ในกระเป๋า กางเกงของเขา ดังขึ้น และทำให้ไอน้ำมันติดไฟลุกพรึ๊บขึ้นมา คุณควรจะรู้ว่า โทรศัพท์มือ ถือสามารถจุด ติดเชื้อเพลิง หรือไอน้ำมัน ลุกไหม้ได้ โทรศัพท์มือถือ ที่สว่างขึ้น เมื่อเปิดหรือ ที่ดังขึ้น เมื่อมีสายเข้า มา จะปล่อยพลังงานเพียงพอที่จะให้เกิดประกายไฟสำหรับจุดไฟติด โทรศัพท์มือถือ ไม่ควรใช้ใน สถานีเติม น้ำมัน หรือในขณะเติมน้ำมันลงในเครื่องตัดหญ้า, เรือ ฯลฯ ไม่ควรใช้หรือ ควรปิดโทรศัพท์ มือถือ เมื่ออยุ่ใกล้วัสดุใดๆ ที่ปล่อยไอหรือ ฝุ่นที่สามารถ ลุกติดไฟหรือ ระเบิดขึ้นได้ (เช่นตัวทำ ละลาย, สารเคมี, แก๊ส, ฝุ่นจากธัญญะ พืช, ฯลฯ .. ) สรุป มีสี่กฎเพื่อ ความปลอดภัยในระหว่างการเติมน้ำมัน : 1) ดับเครื่องยนต์ 2) ไม่สูบบุหรี่ 3) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ของคุณ – ทิ้งมันไว้ภายในรถหรือปิดเครื่องเสีย 4) ถ้า ออกมายืนนอกรถ ในระหว่างการ เติมน้ำมัน อย่าเข้าไปในรถของคุณจนกว่าจะเติมน้ำมันเสร็จ บ๊อบ Renkes แห่งสถ าบันอุปกรณ์ปิโตรเลียมกำลังเตรียม ทำแคมเปญให้คน ตระหนัก ถึงการเกิดเพลิงไหม้ที่เป็นผลมาจาก'ไฟฟ้าสถิตย์'ที่ปั๊มน้ำมัน บริษัท ของเขาได้วิจัย 150 กรณีของการเกิดเพลิงไหม้เหล่านี้ ผลลัพธ์ ที่เขาได้ เป็นที่น่าแปลกใจมาก : 1) จาก 150 กรณี เกือบทั้งหมดเกิดกับพวกผู้หญิง 2) เกือบ ทุกกรณีเกิด ขึ้นเมื่อเจ้า ของรถกลับเข้า ไปในรถของพวก เขาในขณะที่หัว จ่ายน้ำมันยัง คงจ่ายน้ำมัน อยู่ . เมื่อ หัวจ่ายน้ำมัน หยุดจ่ายน้ำมัน พวกเขาก็ออกมาจากรถเพื่อไปดึงหัวจ่าย น้ำมันออก และไฟลุกติดขึ้น อันเป็นผลจากไฟฟ้าสถิตย์ 3) ส่วนใหญ่ใส่ รองเท้าที่ส้น รองเท้าทำด้วยยาง 4) ผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่กลับเข้าไปในรถของพวกเขาจนกว่าจะเติมน้ำมัน เสร็จสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่พวกเขาไม่ค่อยประสพไฟไหม้จากสาเหตประเภทนี้ 5) อย่าใช้ โทรศัพท์มือถือ ขณะเติมน้ำมัน 6) ไอที่ระเหยออก มา่จากน้ำมัน และหากมันไปสัมผัสไฟฟ้าสถิตย์ที่อยู่ใกล้ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ 7) มี 29 ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของรถกลับเข้าไปในรถและหัวจ่ายน้ำมัน ถูกแตะต้อง(แล้วอะไรคือ”ถูกแตะต้อง”? ถูกขยับ?)ในระหว่างการเติมน้ำมัน. รถที่ไฟไหม้มีหลากหลายยี่ห้อและรุ่น บางกรณีส่งผล ให้เกิดความ เสีย หายอย่างกว้าง ขวางกับรถ กับสถานีและกับตัวลูกค้า 8) เกิด17 เพลิงไหม้ · ก่อน · ระหว่างหรือ · ทันทีหลังจาก ฝา ถังน้ำมันถูก ถอดออกแต่ก่อน ที่จะเติมน้ำมันเริ่ม .. นาย Renkes เน้นว่า อย่ากลับ เข้ามาในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล ถ้า คุณจำเป็นต้อง เข้าไปในรถของ คุณในขณะที่ น้ำมันกำลังไหล อยู่, ก่อน ที่คุณจะดึงหัว ฉีดออก ต้องแน่ใจว่า ในตอนคุณออกจาก รถ คุณได้สัมผัสโลหะในขณะที่คุณปิดประตู วิธีนี้จะถ่ายประจุของไฟฟ้าสถิตย์ออกจากร่างกายของคุณก่อนที่คุณจะยกหัวจ่าย น้ำมันขึ้นมา ดัง ที่ผมกล่าวถึง ก่อนหน้านี้แล้วสถาบัน ปิโตรเลียมอุ ปกรณ์พร้อม กับหลาย ๆ บริษัทตอนนี้ กำลัง พยายามอย่างมาก ที่จะทำให้ประชาชน ตระหนักถึง อันตรายนี้ ฉัน ขอให้คุณกรุณา ส่งนี้ข้อมูลแก่ ทุกคนในครอบ ครัวและเพื่อนของ คุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่้งผู้ที่มีเด็กใน รถกับพวกเขา ใน ขณะที่เติม น้ำมันที่ปั๊ม หาก มีเกิดขึ้นกับ พวกเขา พวก เขาอาจจะไม่ สามารถที่จะ เอาเด็กออกมา ได้ทันเวลาไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ?ยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ? . ได้รับข่าวจากชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านสวาย ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยวิธีการสัมภาษณ์ให้เล่าเรื่องยาเขียวตราใบโพธิ์ สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด – 19 (ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564) . จึงทำการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากเว็บไซต์ https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/156 ยาเขียวซึ่งไม่พบว่าการรับประทานยาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ . จากการสัมภาษณ์นางสาวสุวรรณา ชะฏาทอง ชาวบ้านในหมู่บ้านสวาย ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปรากฏว่าไม่เคยเชื่อว่ายาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 )และจากการสัมภาษณ์นายอนุวรรตน์ แสงแพ็ง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษที่เป็นเยาวชนในหมู่บ้าน ปรากฏว่าเคยได้ยินข่าวนี้มานาน แต่ก็ไม่ได้เชื่อว่ายาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564) . ดังนั้นยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ? ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ เพราะว่า สรรพคุณที่แท้จริงของยาเขียวตราใบโพธิ์ คือ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ เป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อน ถอนพิษไข้หรืออกหัดอิสุกอิใส ไม่ได้มีสรรพคุณในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด . เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษยาสมุนไพรอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย เมื่อได้รับฟ้าทะลายโจร (Andrographolide) ตามขนาดที่กำหนด คือ 180 มิลลิกรัมต่อวัน คือมากกว่าขนาดที่ใช้ในการรักษาไข้หวัด 3 เท่า แต่ก็เป็นขนาดที่มีความปลอดภัย และใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ พบว่าช่วยให้อาการเกิดปอดอักเสบลดลงstd47668• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งเฉพาะส่วนบุลคลจากการเสวนาวิชาการ Chula the Impact ครั้งที่ 7 เรื่อง “ความก้าวหน้าวัคซีนรักษามะเร็งเฉพาะรายบุคคล นวัตกรรมแห่งความหวังของสังคมไทย” ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ห้อง 111 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำเสนอความคืบหน้าล่าสุดของนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งด้วยวัคซีน โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วางยุทธศาสตร์ในการเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมชั้นนำที่มุ่งสร้างสรรค์องค์ความรู้และผลผลิตจากงานวิจัย ตลอดจนสร้างบัณฑิตที่เป็นนวัตกร เป็นผู้นำสร้างสรรค์สังคมไทยในปัจจุบันและอนาคต จุฬาฯ มุ่งส่งเสริมให้ผลงานวิจัยจุฬาฯ เชื่อมโยงกับประชาชนคนไทยและประชาคมโลก เพื่อขับเคลื่อนให้จุฬาฯ เป็นมหาวิทยาลัยระดับชาติที่ก้าวสู่ความเป็นนานาชาติอย่างเต็มภาคภูมิ โครงการแพทย์จุฬาฯ พัฒนางานวิจัยภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง เป็นหนึ่งในโครงการวิจัยขนาดใหญ่ของจุฬาฯ เป็นความร่วมมือระหว่างหลายคณะ สถาบัน และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนศตวรรษที่ 2 ของจุฬาฯ ช่วยขับเคลื่อนให้งานวิจัยของจุฬาฯ ก้าวกระโดด หลุดพ้นจากกับดักงานวิจัยที่ตามหลังต่างประเทศ ที่สำคัญคือเป็นงานวิจัยที่นำไปใช้ได้ผลจริง เกิดผลกระทบต่อสังคมในเชิงบวก งานวิจัยนี้ได้รับความร่วมมือบริจาคจากประชาชนจำนวนมาก ช่วยลดปัญหาในเชิงสาธารณสุขและสังคมสูงวัยที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเป็นมะเร็งจำนวนมากมะเร็งKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย. ห้ามผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโฆษณาอ้างรักษามะเร็งนพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคมะเร็งในปัจจุบัน โดยระบุว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีstd48063• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย.ห้ามผลิตภัณฑ์เฉริมอาหารโฆษณารักษามะเร็งจากข้อมูลสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทยปี 2562 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่าโรคมะเร็งที่พบในผู้ชายไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่มะเร็งตับและท่อน้ำดี รองลงมาคือลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ,ปอด ,ต่อมลูกหมาก และช่องปาก ในขณะที่ผู้หญิงไทย 5 อันดับแรก คือ มะเร็งเต้านม ,ปากมดลูก ,ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ,มดลูก และสุดท้ายมะเร็งปอด ซึ่งมีค่ารักษาค่อนข้างจะสูง ทำให้มีผู้ประกอบการบางราย ใช้โอกาสนี้ทำการโฆษณาอวดอ้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารว่าสามารถรักษาโรคมะเร็ง โดยมักจะกล่าวอ้างสรรพคุณหรือนำรูปผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มาใช้ เพื่อให้ผู้ป่วยหลงเชื่อและซื้อมารับประทาน” นพ.พูนลาstd46698• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตะไคร้ ใบเตย รักษาโรคเก๊าท์ ปวดข้อได้จริงหรือ?มีหลายข้อความแพร่ในโลกออนไลน์ว่าดื่มน้ำ ตะไคร้ ใบเตยต้มนั้นจะแก้โรคปวดข้อ ปวดเก๊าท์ได้ พร้อมแจกสูตร อ้างว่าดื่มแล้วหายปวดเป็นปลิดทิ้งยาสมุนไพรanonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"ระวัง !! ขณะนี้โควิด&ไข้หว้ดใหญ่ กลับมารุนแรง" หากไม่จำเป็นจริงๆ >>ควรงดเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงและงดร่วมกิจกรรมที่ต้องเจอะเจอผู้คนจำนวนมาก กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า : โควิดและไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ■ วิธีป้องกันคือ ⊙ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ ⊙ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ ⊙ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี ดังนั้นควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมาก ๆ เอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ⊙ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว ⊙ งดใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ☆ ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ⊙ อาหารทอด รสจัด ควรงดรับประทานชั่วคราว ⊙ กินวิตามินซีให้ครบถ้วน ■ ศูนย์ควบคุมโรคระบาด แจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ● กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ดังนี้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ ● และประเทศไทย >> จังหวัดเฝ้าระวัง เวลาเดินทาง 8 จังหวัดคือ ▪︎กทม. ▪︎สมุทรปราการ ▪︎ชลบุรี ▪︎เชียงใหม่ ▪︎เชียงราย ▪︎ประจวบคีรีขันธ์ ▪︎กระบี่ ▪︎และ ภูเก็ต ● ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ☆ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด ต้องระวังตัวให้มากที่สุดโควิด 2019ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสิ้นเดือนนี้ คิงส์พาวเวอร์ ปิดทุกสาขา ไม่มีกำหนด ยกเว้นสนามบิน สำนักงานใหญ่ซอยรางน้ำ ในยามปกติ ขายได้วันละ 50 ล้านบาท ตอนนี้ทุกวันขายได้วันละ 200,000 บาท คิงส์พาวเวอร์เรียกเจ้าของรถบัส รถตู้ทุกแห่งมาคุยขอยกเลิกสัญญาไม่มีกำหนดนับแต่สิ้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป มีรถบัสตกงาน 1,400 คัน รถตู้ตกงาน 4,000 คัน ไม่นับ supplyer ทุกราย เวทีมวยลุมพินี ประกาศปิด ไม่มีกำหนด ส่งผลให้นักมวย พี่เลี้ยง พนักงานตกงานทันทีแบบไม่มีชดเชย ปกติลุมพินี จัดมวยสัปดาห์ละ 3 วัน 4 นัด คือ อังคาร ศุกร์ และเสาร์ เฉพาะเสาร์จัดสองรอบ จัดนัดละ 10 คู่ รวมนักมวยตกงาน สัปดาห์ละ 80 คนหรือเดือนละราว 320 คนไม่นับค่ายมวยขาดรายได้ พี่เลี้ยง เทรนเน่อร์โดนหมด ร้านขายเสื้อผ้าที่ศูนย์การค้าแพลทตินั่ม ประตูน้ำ ชั่นล่างเคยขายได้วันละ 3 ล้านบาท วันนี้ขายได้วันละไม่เกิน 2,000 บาท ขณะที่ค่าเช่าเขาลดให้จากเดือนละสองแสนบาท เหลือแสนบาท ขายทั้งเดือนยังไม่ได้ค่าเช่า ต้องวัดที่สายป่าน ประตูน้ำ ไม่มีคนเดินในวันนี้ ใบหยกสกาย ปกติขายอาหารกลางวันให้ทัวร์จีนและอินเดียวันละ 4,000 คน มื้อเย็นขาย 2,000 คน วันนี้ไม่มีสักคน รถบัสจากวันละ 500 คัน ไม่เหลือสักคัน จากเคยขายบุฟเฟ่ต์ให้คนทั่วไปแบบวอล์คอินแบบเสียไม่ได้หัวละ 1,800 บวกบวก วันนี้ลดเหลือ 650 บาท ไม่มีคนกล้าไปกิน หายนะหมดประเทศแล้วการเงินแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยก้าวไกล มีมติ ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ-พรรครวมไทยสร้างชาติวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลได้จัดประชุม ส.ส.ผ่านทางออนไลน์ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน และการกำหนดทิศทางการร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ได้ข้อสรุปว่า พรรคก้าวไกลยืนยันจะไม่ร่วมรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ 1.เป็นที่แน่ชัดว่าพรรคพลังประชารัฐมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และพรรครวมไทยสร้างชาติมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองเป็นหัวหอกหลักในการยึดอำนาจ ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซ้ำยังมีกระบวนการสืบทอดอำนาจตนเองผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยกลไกและองค์กรสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน 2.พรรคก้าวไกลมีจุดยืนชัดเจนต่อประเด็นการสืบทอดอำนาจ และประกาศตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ว่าจะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ และได้ประกาศย้ำต่อประชาชนในทุกรายการ ทุกเวทีหาเสียงเลือกตั้ง 3.ผลการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม เป็นการประกาศเจตจำนงของประชาชนที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจนชนะเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 เมื่อรวมกันได้ 8 พรรคการเมืองที่มีแนวทางยุติการสืบทอดอำนาจ ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรถึง 312 จาก 500 ที่นั่ง และมีคะแนนดิบสูงถึง 27 ล้านเสียง ไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้ว่าประชาชนต้องการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างรัฐบาล ดังนั้น เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม 4.แม้กลไก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. จะสกัดขัดขวาง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เรายืนยันว่าสิ่งสำคัญในวันนี้ ไม่ใช่พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือก้าวไกลเป็นรัฐบาล แต่คือการจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วย 8 พรรคตามมติประชาชน พรรคก้าวไกลจึงเปิดทางให้พรรคอันดับสองคือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าหาเสียงสนับสนุนตามที่ปรากฏเป็นข่าว 5.แม้การจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด จะมีความสำคัญต่อการเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชน แต่เราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนซึ่งสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง จะนำไปสู่วิกฤตศรัทธาของประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตย จนอาจยากต่อการเรียกกลับคืนข่าวการเมืองมีมstd46768• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยร่างกายอับเสบตัวร้อนเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ . ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการให้ข้อมูลโดยระบุว่า ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภทคือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง โดยพบโรคหลอดเลือดตีบตันมากกว่าเส้นเลือดแตกในสมอง . ซึ่งภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ โรคไต โรคภาวะอุดกั้นลมหายใจขณะนอน (OSA) เป็นต้น . อาการแสดงสำคัญที่ควรรู้ และควรสังเกตอย่างสม่ำเสมอ มีดังนี้ 1. ชา หรืออ่อนแรงที่หน้า แขน หรือขา ซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด 2. พูดลำบาก พูดไม่ได้หรือไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูดอย่างทันทีทันใด 3. มีปัญหาการมองเห็น ตามัว หรือเห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอย่างทันทีทันใด 4. มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ เดินไม่ได้ เดินลำบาก เดินเซ หรือสูญเสียการทรงตัวในการยืนและเดินอย่างทันทีทันใด 5. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างทันทีทันใดโดยไม่ทราบสาเหตุ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือ โทร. 02-306-9899 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการร่างกายอักเสบ ตัวร้อน ไม่ได้เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองดังที่ถูกกล่าวอ้างในข้างต้น แต่เป็นอาการเหล่านี้ได้แก่ หน้า แขน ขา ชาหรืออ่อนแรง , พูดลำบาก , ตามัว มีปัญหาด้านการมองเห็น , เวียนหัวจนเดินไม่ได้ และปวดศีรษะรุนแรง . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ร่างกายอักเสบ #ตัวร้อน #เส้นเลือดในสมองแตกSpark Forme• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยDHC Pueraria Mirifica เป็นวิตามินที่เพิ่มขนาด และกระชับทรวงอกไม่ให้หย่อนคล้อยตามกาลเวลาขนาดบรรจุ : สำหรับ 30 วัน (จำนวน 90 เม็ด) วิธีทาน : หลังอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น ครั้งละ 1 เม็ด (ทานวันละ 3 เม็ด) DHC Pueraria Mirifica เป็นวิตามินที่เพิ่มขนาด และกระชับทรวงอกไม่ให้หย่อนคล้อยตามกาลเวลา มีส่วนผสมของกวาวเครือ ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมน เอสโตรเจน หรือฮอร์โมนผู้หญิงปริมาณมาก เอสโตรเจน (Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการดูแลเรื่องความสวยงามของมนุษย์ ดูแล ผิว ผม ขน ระบบเลือด และ ยังเป็นตัวประสาน ทำให้ vitamin D รวมเข้ากับ calcium เพื่อสร้างกระดูก การขาด Estrogen จะทำให้ ระบบรอบเดือนผิดปกติ หรือ บางคนก็ปวดท้องเวลามีรอบเดือนผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึง รวมทั้งมีไรฝุ่นด้วย ไรฝุ่นทำให้ หน้าเป็นสิว ผื่น ภูมิแพ้ จาม คัดจมูก Estrogen เป็นตัวฆ่าไรฝุ่น ใครที่มี Estrogen สูง ไรฝุ่นจะตายหมด ส่วนประกอบที่สำคัญ : Puerira Mirifica extract (Puerarin 97%) 30mg Black Cohosh extract 12mg Fenugreek extract (4-Hydroxyisoleucine 40%) 12mg Vitamin C 12mg คำเตือน : ห้ามสตรีมีครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตรทาน ห้ามไม่ให้สตรีที่มีเนื้องอกทางมดลูก รังไข่ หรือหน้าอกทาน ไม่แนะนำให้ผู้ที่มีอาการปวดหน้าอกขั้นรุนแรง หรือเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจทาน ไม่แนะนำให้เด็ก/สาวอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตทาน เพราะมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศค่อนข้างรุนแรง อาจรบกวนระบบฮอร์โมนเพศได้ความสวยความงามstd47627• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอุทาหรณ์เตือนใจอุทาหรณ์เตือนใจ หมออุดมศิลป์ อายุ 83 วิ่งออกกำลังกายทุกวัน แข็งแรงมากกว่าคนวัยเดียวกัน ติดโควิดจากแม่บ้าน ไม่ไป รพ จนลงปอด ข่วยไม่ทันแล้ว อย่าลืมสวมหน้ากากเนื่องจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ COVID-Omicron BA 4.5 นั้นแตกต่าง อันตรายถึงชีวิต และตรวจไม่พบอย่างถูกต้อง:- อาการของไวรัส COVID-Omicron BA 4.5 มีดังนี้:- 1. ไม่มีไอ 2.ไม่มีไข้ จะมีอาการมากใน :- 3. ปวดข้อ 4. ปวดหัว 5. ปวดคอ 6. ปวดหลังส่วนบน 7. โรคปอดบวม 8. โดยทั่วไปจะไม่มีความอยากอาหาร แน่นอนว่า COVID-Omicron BA 4.5 นั้นรุนแรงกว่าตัวแปรเดลต้าถึง 5 เท่า และมีอัตราการตายสูงกว่าเดลต้า ต้องใช้เวลาไม่นานกว่าอาการจะรุนแรงถึงขั้นรุนแรง และบางครั้งก็ไม่มีอาการชัดเจน ให้ระวังมากขึ้น! ไวรัสสายพันธุ์นี้ไม่มีอยู่ในบริเวณโพรงจมูก และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปอด "หน้าต่าง" ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ป่วยหลายรายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ Covid Omicron BA 4.5 ถูกจำแนกเป็นไม่มีไข้และไม่เจ็บปวด แต่รังสีเอกซ์เรย์พบว่ามีปอดบวมที่หน้าอกเล็กน้อย การตรวจด้วยไม้กวาดทางจมูกโดยทั่วไปแล้วเป็นผลลบต่อเชื้อ COVID-Omicron BA 4.5 และกรณีการตรวจทางจมูกที่มีผลลบแบบเท็จก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าไวรัสสามารถแพร่กระจายในชุมชนและติดเชื้อในปอดโดยตรง นำไปสู่โรคปอดอักเสบจากไวรัส ซึ่งจะทำให้เกิดความเครียดทางเดินหายใจเฉียบพลัน สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไม Covid-Omicron BA 4.5 จึงรุนแรง เป็นพิษสูง และเป็นอันตรายถึงชีวิต โปรดทราบ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด รักษาระยะห่าง 1.5 เมตร แม้ในที่โล่ง สวมหน้ากาก 2 ชั้น หน้ากากที่เหมาะสม และล้างมือบ่อยๆ เมื่อทุกคนไม่มีอาการ (ไอหรือจาม) Covid Omicron BA 4.5 นี้ *"WAVE"* ร้ายกาจกว่าระลอกแรกของ Covid-19 ดังนั้น เราจึงต้องระมัดระวังให้มากและใช้ *มาตรการป้องกัน corona virus ขั้นสูงที่หลากหลาย* รักษาการสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวของคุณอย่างระมัดระวัง อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้คนเดียว แบ่งปันให้มากที่สุดกับญาติและเพื่อน โดยเฉพาะของคุณโควิด 2019Mrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: false4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยบันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturusหนุ่มไทยในออสเตรเลีย โพสต์เล่าติด ‘โควิด-19’ เป็นครั้งแรก เชื่อสายพันธุ์ใหม่ ตาอักเสบ เหตุกำลังระบาด “บันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturus ไม่ได้มีการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ (ตรวจเอทีเค) แต่คาดว่าโดนตัวนี้เพราะกำลังระบาดในออสเตรเลีย และสายพันธุ์นี้จะทำลาย soft tissue บริเวณใกล้เคียงที่ติดเชื้อ เช่น ตา และโพรงจมูก วัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มแทบไม่ช่วยอะไร หรือช่วยไม่ได้เลย อาการหนักเหมือนคนที่ติดแรกๆ สมัยยังไม่มีวัคซีน วันแรกรู้สึกแปลกๆ ในลำคอ แต่ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบ วันที่ 2 รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เลยตรวจอีกที ผลบวกแล้ว เลยรีบกักตัวเองทันที และจากนั้นไข้ขึ้นสูงตลอด ระยะเวลา 3 วัน โดยยาพาราสามารถลดไข้ได้เพียงไม่เกิน 2 ชม. ไข้จะกลับมาสูงปี้ดใหม่ ต้องนอนทนอยู่แบบนั้น โดยไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่สามารถให้ใครเข้ามาช่วยเช็ดตัวลดไข้ได้ ต้องบอกว่า เป็นช่วงที่เหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา โดยตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมา อาการไอแบบมีเสมหะสีเขียวข้น ขากออกมาเป็นก้อนๆ มีน้ำมูกสีเขียวข้นสั่งออกมาได้จำนวนมากทุกเช้า ถ้าเทียบปริมาณ ก็เหมือนได้เต็มถ้วยน้ำจิ้มขนาดพอเหมาะหรือประมาณ 1 กอบมือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นชา ชาแบบรู้สึกว่ามันชา วันที่ 4 เริ่มมีอาการเคืองตา จากนั้นตาทั้ง 2 ข้างก็อักเสบรุนแรงแทบมองอะไรไม่เห็น เหมือนมองผ่านผ้าม่านบางๆ สีขาว วันที่ 6 เริ่มมีเลือดสดออกมากับน้ำมูกเขียว บางทีไอแรง มีเลือดพุ่งออกมาจากจมูกจำนวนมาก คาดว่าเป็นเลือดกำเดา แต่เข้าใจว่าน่าจะมีอาการไซนัสอักเสบ เพราะเลือดนึกจะไหลออกมาก็ไหลซะงั้น แต่แค่ซึมๆ ออกมา ไม่น่าใช้เลือดกำเดา หลังจากผ่านอาทิตย์แรกไป ยังคงมีไข้ต่ำๆ เวลากลางคืน เลือดยังออกจากจมูกเป็นบางครั้ง ยังไอมีเสมหะพร้อมน้ำมูกเขียวปนเลือดจำนวนมาก ตายังคงแดงแต่อาการดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะหยอดตาตลอดเริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นหลังผ่านไป 13 วัน” หมายเหตุ :ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวให้เผยแพร่ภาพ ขณะนี้หายเป็นปกติแล้วครับโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบิ๊กตู่ ช่วยพลิกฟื้นบัตรทอง30บาท หลังจากขาดทุน อย่างหนักภายใต้เงื้อมมือ ทักษิณ ชินวัตร โครงการ30บาทเกิดจากความคิดของ คุณหมอ สงวน นิตยารัมภงค์ เลขาธิการหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข แล้วทักษิณ ชินวัตร เอาไปแอบอ้างว่าเป็นความคิดของตัวเอง แถมยังให้เงินทุนสนับสนุนน้อยมาก จนแทบเลิกล้มโครงการ ต้องชมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่เอาหมอเก่งอย่าง คุณหมอปิยสกล สกลสัตยาทร อดีตนายแพทย์ผู้ถวายการรักษาในหลวงรัชกาลที่๙ มาเป็นรมว.สาธารณสุข ทำให้โครงการนี้ยืนหยัดได้อีกครั้ง แถมเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพื่อประชาชนอีกมากมาย By.. Boonchuay Pataralerrtsiri 30บาทรักษาทุกโรคของทักษิณ ทำโรงพยาบาลรัฐ ขาดทุนหนักมากๆ แทบอยู่ไม่ได้เพราะรัฐบาลในระบอบทักษิณ ชินวัตรให้เงินอุดหนุนน้อยมาก คงจะจงใจ เพราะทักษิณไปกว้านซื้อ โรงพยาบาล เอกชนหลายแห่ง เพราะคนจะต้องแห่มาใช้บริการนี้แทน แถวบ้านมีคนหมดตัวเพราะต้องใช้เงินเป็นล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายในการฟอกไต จนต้องขายบ้าน 📌🌍แต่สมัยนี้ ทำเรื่องให้โรงพยาบาลรัฐฟอกไตให้ฟรีได้ ข้างบ้านได้ใช้บริการนี้ ผมเองก็ได้อานิสงค์จากรัฐบาลนี้ เป็นมะเร็งขั้นที่ 4 ลามจากลำไส้ใหญ่มาตับ ค่าบริการทุกอย่างฟรีหมด: ผ่าตัดเอามะเร็งลำไส้ออก นอนพักฟื้นใน รพ กว่าเดือน ได้รับสารอาหารเป็นถุงใหญ่ สิบกว่าถุง( ถามพยาบาลบอกว่าราคาถุงละ 1200บาท) คีโมบำบัด CT-scan เช็คผลหลายคร้้ง ยา และถุง+แป้นหน้าท้อง ตัดปลายลำไส้ใหญ่ออกและเย็บตายไว้ ทั้งหมดฟรีครับ(ใช้สิทธิ์บัตรทอง) ยกเว้นยามุ่งเป้าเสริมคีโม ถ้าต้องการใช้ ผมเห็นใจ โรงพยาบาลที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย เพราะบริการฟรีให้ผู้ป่วยเกือบทั้งหมด ถ้าผมไปรักษาที่รพเอกชนคงหมดเงินหลายล้านบาท จึงบริจาคช่วย 4หมื่นบาทแม้จะไม่ค่อยมี ใครมีกำลังทรัพย์ช่วยบริจาค โรงพยาบาลรัฐจะช่วยให้บริการฟรีต่อไปได้นานขึ้น ขอบคุณรัฐบาล คสช.ขอบคุณคุณหมอปิยสกล อีกครั้ง ที่ทำโครงการ30บาทนี้ให้ยั่งยืนเพื่อประชาชนตลอดไป แล้วขอย้ำอีกทีว่าคนคิดโครงการ30บาท คิอคุณหมอ สงวน นิตยารัมภงค์ ไม่ใช่ ดร.ทักษิณ ชินวัตรนะครับข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว4 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
