หนุ่มไทยในออสเตรเลีย โพสต์เล่าติด ‘โควิด-19’ เป็นครั้งแรก เชื่อสายพันธุ์ใหม่ ตาอักเสบ เหตุกำลังระบาด
“บันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturus
ไม่ได้มีการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ (ตรวจเอทีเค) แต่คาดว่าโดนตัวนี้เพราะกำลังระบาดในออสเตรเลีย และสายพันธุ์นี้จะทำลาย soft tissue บริเวณใกล้เคียงที่ติดเชื้อ เช่น ตา และโพรงจมูก
วัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มแทบไม่ช่วยอะไร หรือช่วยไม่ได้เลย อาการหนักเหมือนคนที่ติดแรกๆ สมัยยังไม่มีวัคซีน
วันแรกรู้สึกแปลกๆ ในลำคอ แต่ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบ
วันที่ 2 รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เลยตรวจอีกที ผลบวกแล้ว เลยรีบกักตัวเองทันที และจากนั้นไข้ขึ้นสูงตลอด ระยะเวลา 3 วัน โดยยาพาราสามารถลดไข้ได้เพียงไม่เกิน 2 ชม. ไข้จะกลับมาสูงปี้ดใหม่ ต้องนอนทนอยู่แบบนั้น โดยไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่สามารถให้ใครเข้ามาช่วยเช็ดตัวลดไข้ได้ ต้องบอกว่า เป็นช่วงที่เหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา
โดยตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมา อาการไอแบบมีเสมหะสีเขียวข้น ขากออกมาเป็นก้อนๆ มีน้ำมูกสีเขียวข้นสั่งออกมาได้จำนวนมากทุกเช้า ถ้าเทียบปริมาณ ก็เหมือนได้เต็มถ้วยน้ำจิ้มขนาดพอเหมาะหรือประมาณ 1 กอบมือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นชา ชาแบบรู้สึกว่ามันชา
วันที่ 4 เริ่มมีอาการเคืองตา จากนั้นตาทั้ง 2 ข้างก็อักเสบรุนแรงแทบมองอะไรไม่เห็น เหมือนมองผ่านผ้าม่านบางๆ สีขาว
วันที่ 6 เริ่มมีเลือดสดออกมากับน้ำมูกเขียว บางทีไอแรง มีเลือดพุ่งออกมาจากจมูกจำนวนมาก คาดว่าเป็นเลือดกำเดา แต่เข้าใจว่าน่าจะมีอาการไซนัสอักเสบ เพราะเลือดนึกจะไหลออกมาก็ไหลซะงั้น แต่แค่ซึมๆ ออกมา ไม่น่าใช้เลือดกำเดา
หลังจากผ่านอาทิตย์แรกไป ยังคงมีไข้ต่ำๆ เวลากลางคืน เลือดยังออกจากจมูกเป็นบางครั้ง ยังไอมีเสมหะพร้อมน้ำมูกเขียวปนเลือดจำนวนมาก ตายังคงแดงแต่อาการดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะหยอดตาตลอดเริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นหลังผ่านไป 13 วัน”
หมายเหตุ :ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวให้เผยแพร่ภาพ ขณะนี้หายเป็นปกติแล้วครับ
“บันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturus
ไม่ได้มีการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ (ตรวจเอทีเค) แต่คาดว่าโดนตัวนี้เพราะกำลังระบาดในออสเตรเลีย และสายพันธุ์นี้จะทำลาย soft tissue บริเวณใกล้เคียงที่ติดเชื้อ เช่น ตา และโพรงจมูก
วัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มแทบไม่ช่วยอะไร หรือช่วยไม่ได้เลย อาการหนักเหมือนคนที่ติดแรกๆ สมัยยังไม่มีวัคซีน
วันแรกรู้สึกแปลกๆ ในลำคอ แต่ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบ
วันที่ 2 รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เลยตรวจอีกที ผลบวกแล้ว เลยรีบกักตัวเองทันที และจากนั้นไข้ขึ้นสูงตลอด ระยะเวลา 3 วัน โดยยาพาราสามารถลดไข้ได้เพียงไม่เกิน 2 ชม. ไข้จะกลับมาสูงปี้ดใหม่ ต้องนอนทนอยู่แบบนั้น โดยไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่สามารถให้ใครเข้ามาช่วยเช็ดตัวลดไข้ได้ ต้องบอกว่า เป็นช่วงที่เหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา
โดยตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมา อาการไอแบบมีเสมหะสีเขียวข้น ขากออกมาเป็นก้อนๆ มีน้ำมูกสีเขียวข้นสั่งออกมาได้จำนวนมากทุกเช้า ถ้าเทียบปริมาณ ก็เหมือนได้เต็มถ้วยน้ำจิ้มขนาดพอเหมาะหรือประมาณ 1 กอบมือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นชา ชาแบบรู้สึกว่ามันชา
วันที่ 4 เริ่มมีอาการเคืองตา จากนั้นตาทั้ง 2 ข้างก็อักเสบรุนแรงแทบมองอะไรไม่เห็น เหมือนมองผ่านผ้าม่านบางๆ สีขาว
วันที่ 6 เริ่มมีเลือดสดออกมากับน้ำมูกเขียว บางทีไอแรง มีเลือดพุ่งออกมาจากจมูกจำนวนมาก คาดว่าเป็นเลือดกำเดา แต่เข้าใจว่าน่าจะมีอาการไซนัสอักเสบ เพราะเลือดนึกจะไหลออกมาก็ไหลซะงั้น แต่แค่ซึมๆ ออกมา ไม่น่าใช้เลือดกำเดา
หลังจากผ่านอาทิตย์แรกไป ยังคงมีไข้ต่ำๆ เวลากลางคืน เลือดยังออกจากจมูกเป็นบางครั้ง ยังไอมีเสมหะพร้อมน้ำมูกเขียวปนเลือดจำนวนมาก ตายังคงแดงแต่อาการดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะหยอดตาตลอดเริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นหลังผ่านไป 13 วัน”
หมายเหตุ :ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวให้เผยแพร่ภาพ ขณะนี้หายเป็นปกติแล้วครับ