2209 ข้อความ
- 1 คนสงสัยทายนิสัย การเขียนเลข 3 เขียนแบบหัวคมหรือหัวมนบอกนิสัยที่ซ่อนอยู่ได้ทายนิสัย การเขียนเลข 3 เขียนแบบหัวคมหรือหัวมนบอกนิสัยที่ซ่อนอยู่ได้ หัวคม คุณเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล มีหลักการ ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีความจริงจัง ช่างเลือก รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีความพิถีพิถันในการตัดสินใจ เรียกว่าเป็นคนที่มีความละเอียดมากๆ มีความระมัดระวังตัวเองในทุกๆ การกระทำ ไม่ว่าจะทำอะไร จะต้องผ่านการ คิด วิเคราะห์ และมีการกลั่นกรองมาแล้วเสมอ ชอบทำตามกฎระเบียบ ชอบความเรียบร้อย-สมบูรณ์แบบ สามารถเป็นที่ปรึกษาคนอื่นได้ดี เพราะว่าคุณเป็นคนที่ใช้เหตุผลนำ ไม่ใช่อารมณ์นำ หัวมน คุณเป็นคนที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นคนที่มีพลังงานสูง เป็นคนที่มีความแอคทีฟ เป็นคนที่สามารถจัดการทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ชอบคิดอะไรที่นอกกรอบ ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่คนอื่นวางไว้ เป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ ดูหนักแน่นและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นคุณยังเป็นคนที่ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น มักจะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกับคนอื่น โดดเด่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนที่ชอบสร้างสีสันและความสนุกให้กับคนรอบข้างให้มีรอยยิ้มได้เสมอnamnami• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยรักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติsumpakadeeraksa• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 1.) การถ่ายภาพเบื้องต้น | Basic Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL001+2017/about 2.) การถ่ายภาพด้วยเทคนิคสร้างสรรค์ | Creative Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL009+2019/about 3.) โมชั่นกราฟิกพื้นฐาน | Foundation of Motion Graphic https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL011+2019/about 4.) คอมพิวเตอร์เพื่อการพูดและการนำเสนอ | Computer for Speech and Presentations https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL003+2017/about 5.) หลักเศรษฐศาสตร์เกษตร | Principles of Agricultural Economics https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL005+2017/about 6.) การท่องเที่ยวโดยชุมชน | Community Based Tourism https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL014+2019/about 7.) สร้างสรรค์สื่อวีดิทัศน์ยุคใหม่ | Creative Video Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL002+2017/about 8.) การผลิตหนังสั้น | Short Film Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL010+2019/about 9.) การเลี้ยงสัตว์เบื้องต้น | Principle of Animal Husbandry https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL007+2017/about 10.) หลักและวิธีการส่งเสริมการเกษตร | Principles of Agricultural Extension https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL004+2017/about 11.) การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสู่ธุรกิจเงินล้าน | Algal Cultivation https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL012+2019/about 12.) การจัดการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสวยงาม | Pet Management https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL013+2019/about 13.) การปลูกพืชเบื้องต้น | Principle of Crop Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL006+2017/about . 📌 วิธีการสมัครเข้าเป็นสมาชิก https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1646232145708423 📌 ขั้นตอนเรียนออนไลน์กับ Thai MOOC https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1678665039131800 . #สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง #ThaiMOOCระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี24ชั่วโมง #คอร์สออนไลน์ #คอร์สฟรี #KMITL ———— ©️CMMU Library แหล่งรวมงานวิจัย บทความ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ ข่าวสารการศึกษาในแวดวงวิชาการ, คอร์สออนไลน์ อัปเดตทุกวัน . 📌 ติดตาม CMMU Library Website : http://library.cmmu.mahidol.ac.th Facebook : CMMU Library twitter : @cmmulib IG : cmmu.library Youtube : http://bit.ly/2OPiBfQMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Albumเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์ นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือ หรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ขอใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือ ข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆ ละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพและ ลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวร กู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเนท ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ-เพลง-เกมส์- app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIP มือถือช้า-อืด-เม็มเต็มMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยความจริงของ lineเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือหรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ของใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพ และลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวรกู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเน็ต ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ- เพลง-เกมส์ app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIPMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวดี..👩🌾👨🌾 พี่น้องเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ชาวสวน โปรดทราบ อภัยหนี้ จากระบบหนี้ หนี้ธาตุในระบบ (ไม่รวมหนี้นอกระบบ) ธนาคาร ธกส. เป็นธนาคารนำร่อง ยกหนี้ จะมีเอกสารแจ้งหนี้จากธนาคารรัฐบาล 1. ธนาคารธกส. 2. ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารออมสิน ถึงเกษตรกรโดยตรงแจ้งหนี้หนี้นั้นเป็น 0 ถ้ายังไม่มีหนังสือแจ้งหนี้จะมีหนังสือแจ้งหนี้ตามมาทุกคน เหมือนกันทั่วประเทศ เกษตรกรท่านใดที่ได้รับหนังสือแจ้งหนี้จากธนาคารต้นสังกัด นำเอกสารฉบับนั้นไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากความไม่เข้าใจที่รัฐบาลบัตรเขย่ง ปิดบังความจริง เจ้าหน้าที่ธนาคารจะอธิบายชี้แจงให้เข้าใจอย่างละเอียด เข้าใจง่ายๆเป็นกันเอง ☑️แล้วเจ้าหน้าที่จะมอบเอกสาร ที่เป็นหลักฐานค้ำประกันเงินกู้ คืนให้แก่ท่าน ☑️จากนั้นท่านจะหลุดพันจากการ เป็นหนี้ทาสทันที ไม่ต้องตกเป็นทาสหนี้อีกต่อไป 🙏👑 ด้วยบารมีจากล้นเกล้าพ่ออยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นำเงินส่วนพระองค์ นำมาจ่าย ยกหนี้ ล้างหนี้ให้กับท่าน 🙉ไม่มีหน้าม้า 🙈ไม่มีนายหน้า จะไม่มีตัวแทนจากธนาคารของรัฐฯไปยื่นเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกอบต. เจ้าพนักงานตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด 📢 กรุณาช่วยกันเป็นสื่อกระจายข่าว ถึงพี่นอนเกษตรกร ทุกสาขา ทุกอาชีพและรับทราบ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี https://youtu.be/-a3UaJZuFkMข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใดเรียน ทุกท่าน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการสอบถามดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ) เข้ามาเป็นจำนวนมากถึงผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใด จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการ ใช้หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวด้วย ขอบคุณค่ะ ด้วยความเคารพ ศ. ภญ. ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยสรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช.สรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช. ซึ่งเป็นคนแรกๆ ของโลก ที่ค้นพบ แต่ช้าในเรื่องการโฆษณาเผยแพร่ สรุปผลของสารอาหารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียงลำดับตั้งแต่ทำลายสูงสุดลงไป ดังนี้ :- 1. มะนาว , มะกรูด , ส้มทุกชนิด กินป้องกัน (พระเอก) มีฤทธิ์ -9.5 2. ยา (Favipiravir-RTP) มีฤทธิ์ -8.8 3. ชาเขียว(ชาชง) กินป้องกัน มีฤทธิ์ -8.5 4.1 ข้าวไร้ซ์เบอรี่ , รำข้าวสีม่วง , มันม่วง , ข้าวโพดม่วง กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.9 4.2 (Masitinib) ยารักษาไขข้อ มีฤทธิ์ -7.9 5.1 กระชายขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 5.2 งาดำ กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 6. ฟ้าทะลายโจร (กินรักษาเมื่อติดเชื้อแล้ว) มีฤทธิ์ -7.3 7. ชาขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.0 8. องุ่น กินป้องกัน มีฤทธิ์ -6.9 9. ขมิ้นชัน กินป้องกัน (ฤทธิ์น้อยสุด) มีฤทธิ์ -6.1 ❤️ ค้นพบอาหารอาหารที่ยับยั้งโควิคตัวใหม่หลายตัว ที่เก่งกว่ากระชายขาว และบางตัวดีกว่าฟ้าทะลายโจร (ช่วยกันแชร์เพื่อคนไทยทั้งประเทศด้วยนะค่ะ) https://www.youtube.com/watch?v=-Fmg51FC9U0โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยราชาแห่งผลไม้คืออะไร? ถ้าตอบ: ทุเรียน คำตอบ ไม่ถูกต้อง ครับ สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ PAPAYA ผลไม้เขตร้อนที่ดูต่ำต้อย ซึ่งมีให้บริการตลอดทั้งปีกลายเป็น ราชาแห่งผลไม้ มะละกอ ได้รับการคัดเลือกจาก WHO (องค์การอนามัยโลก) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันให้เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด เหตุผล ทำไม? นี่คือข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับมะละกอ คุณค่าทางโภชนาการของมะละกอมีดังนี้: 1. * แคลเซียม * เป็นสองเท่าของแอปเปิ้ล 2. * วิตามินซี * เป็น 13 เท่าของแอปเปิ้ล 7 เท่าของ กล้วย 7 เท่าของแตงโม 8 เท่าของเชอร์รี่ 1.3 เท่าของสับปะรด 3. * วิตามินเอ * เป็น 10 เท่าของผลไม้กีวี 18 เท่าของแอปเปิ้ล 1.5 เท่าของกล้วย 1.5 เท่าของแตงโม 15 เท่าของเชอร์รี่ และ 16 เท่าของสับปะรด 4. * วิตามินเค * เป็น 5 เท่าของกล้วย 2.5 เท่าของแตงโม และ 4 เท่าของสับปะรด 5. * แคโรทีนอยด์ * ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องดวงตา ได้แก่ ไลโคปีนเบต้าแคโรทีนลูทีนและซีแซนทีน มีมากกว่าผลไม้กีวี แอปเปิ้ล เชอร์รี่ และสับปะรดถึง 2,000 เท่า (กล้วยและฝรั่งไม่มีส่วนผสมดังกล่าว) แหล่งข้อมูลข้างต้นมาจากกระทรวงเกษตรของ สหรัฐอเมริกา (USDA) 2016 ไม่น่าเชื่อว่ามะละกอเป็นราชาแห่งผลไม้ สุดทึ่ง! “ ส้มตำจงเจริญ” มีที่ก็ปลูกมะละกอกันเถอะ เชื่อผม!ความสวยความงามไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแจ๊ค หม่า เผยความลับ คนจีน 1,300 ล้านคนตกตะลึง เฉินหลง หลิวเต๋อหัว โจวซินเฉือ ฟังแล้วร้องให้ -หากชีวิตเรา ถือเงินทอง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความยากลำบาก -หากชีวิตเรา ถือบุตรธิดา เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า -หากชีวิตเรา ถือความรัก เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บปวด -หากชีวิตเรา ถือการแข่งขัน เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ -หากชีวิตเรา ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้าง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข -หากชีวิตเรา ถือความพอเพียง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความสุข -หากชีวิตเรา ถือบุญคุณ เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา -คุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้น @ “อย่าอวด”... 1. อย่าอวดอ้างเงินของคุณในโรงพยาบาล เพราะมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น 2. อย่าอวดอ้างงานที่คุณทำ เพราะเมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกมาก ที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ 3. อย่าอวดอ้างบ้านช่องของคุณ เพราะเมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลาย เป็นรังของคนอื่น 4. อย่าอวดอ้างรถของคุณ เพราะเมื่อคุณจากไป กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวดอ้างได้ คือ “สุขภาพที่ดีของคุณ”... ขอให้เพลิดเพลินกับชีวิต ที่มีสุขภาพดี... จงดูแลรักษาตัวเองให้ดี เนื่องจากอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้ และราคาสุดแพง ที่สำคัญคือ ไม่มีของให้. เมื่อดูจบขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยลำปางพบบุคลากรทางการแพทย์ มีอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน กว่า 40 คน🔴 ลำปาง วุ่น! พบ บุคลากรทางการแพทย์ มีอาการข้างเคียง หลังฉีด “วัคซีนโควิด” จากซิโนแวค แล้วกว่า 40 ราย พบ 2 ราย ต้องแอดมิต ล่าสุดอาการดีขึ้น . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21 เม.ย.64) บุคลากรทางการแพทย์ ที่ รพ.ลำปาง เกิดอาการลิ้น ใบหน้า ปาก มือ มีอาการชา บางรายคลื่นไส้ อาเจียน โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ว่า คนที่ฉีดยาวัคซีนไป แล้วเกือบ 40 คน เข้าห้องฉุกเฉิน และยังมีภาพเครื่องวัดความดันโชว์ เลข ความดันพุ่งสูงถึง 182 อีกด้วย . โดยพบว่าต้องเข้ารับการแอดมิต ถึง 2 ราย เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ ตาลาย อาเจียน ชาหน้า พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง แพทย์จึงต้องเร่งทำการช่วยเหลือโดยใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 14.00 น. ทั้ง 2 คน จึงมีอาการดีขึ้น ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับผู้บังัคบบัญชาทราบตามลำดับและได้กำชับ ให้เฝ้าระวังผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนล็อตนี้ อย่างใกล้ชิดทุกราย . จากการตรวจสอบวัคซีนที่ฉีดพบว่า วัคซีนที่ฉีดคือวัคซีนจาก “ซิโนแวค” ล็อต No. J202103002, serial 81901420027937950764/10 ซึ่งเป็นล็อตถัดจากที่เกิดผลข้างเคียงกับบุคลากรทางแพทย์ที่ จ.ระยอง จำนวน 6 ราย ซึ่งมีอาการในลักษณะเดียวกัน เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง สสจ.ลำปาง แล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด . สำหรับจังหวัดลำปางได้รับวัคซีนซิโนแวค จำนวน 1,800 โดส ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และ สาธารณสุข จํานวน 400 คน และอาสาสมัครสาธารณสุข ประจําหมู่บ้าน จํานวน 500 คน เริ่มฉีดเข็มแรก ไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน และ เมื่อวานนี้เป็นการฉีดเข็มที่ 2 และพบอาการข้างเคียงโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิดระลอก 3* แคนาดา * ห้ามเที่ยวบินเข้าและออกและมีผู้เสียชีวิตรายวันเกิน 1,000 คน * ซาอุดีอาระเบีย * ถูกปิดกั้นและไม่มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออก * แทนซาเนีย * ถูกบล็อกอย่างสมบูรณ์ * บราซิล * ตกอยู่ในบทที่อันตรายที่สุดโดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,100 คนในวันนี้ * สเปน * ได้ประกาศว่าสามารถขยายภาวะฉุกเฉินได้ * สหราชอาณาจักร * ประกาศปิดตัวหนึ่งเดือน * ฝรั่งเศส * ถูกล็อก 2 สัปดาห์ * เยอรมนี * ปิดผนึกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ * อิตาลี * ติดตามอย่างใกล้ชิดในวันนี้ * ประเทศ / ภูมิภาคเหล่านี้ทั้งหมด * ได้รับการยืนยันแล้วว่า * โควิด 19 ระลอกที่สาม * ร้ายแรงกว่าคลื่นลูกแรก ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังและ * ใช้ความระมัดระวังทั้งหมด * เป็นผู้สื่อสารแจ้งเตือนระหว่างเพื่อนและครอบครัว * ช่วยทุกคนจากคลื่นลูกที่สาม * * อย่าตัดสินด้วยคลื่นลูกที่สองของการปิดล้อม * ไม่มีอะไรเกิดขึ้น * ... * ประวัติศาสตร์บอกเราว่าเช่นเดียวกับไข้หวัดสเปนในปี 1917-1919 คลื่นลูกที่ 3 นั้นอันตรายกว่าคลื่นลูกที่ 1 และ 2 มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน * * ปกป้องตัวเองและของคุณ ครอบครัว *. * รักษามาตรการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพสวมหน้ากากรักษาระยะห่างในสังคมล้างมือบ่อยๆ ฯลฯ ประวัติศาสตร์จะไม่โกหกให้เราไตร่ตรอง __________ * อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เองแชร์กับครอบครัวและเพื่อน ๆ * อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เองแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อนของคุณ *โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยสสจ.สมุทรสาครแจ้งข่าวมาดังนี้ เนื่องจากตอนนี้จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดรายแรก (ผลตรวจของจังหวัดเป็นpositive และผลคอนเฟิร์มจากศูนย์วิทย์เป็นpositive) โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการไข้ไอน้ำมูก มีเพียงอาการปวดเมื่อยตัวนิดหน่อย ไม่เคยไปต่างประเทศ ทำงานร่วมกับแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก แต่อาการสำคัญที่ทำให้แพทย์ตัดสินใจตรวจโควิดคือ จมูกไม่ได้รับกลิ่นมา4 วัน admit รพ.สมุทรสาคร วันที่7ธค63 เวลา ตี2.25 เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ทำงานขายกุ้งอยู่ในตลาดกุ้ง ทำให้มีผู้สัมผัสทั้งเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงจำนวนมาก ขอให้ทุก รพ.เตรียมความพร้อมเหมือนการระบาดรอบแรก โดยเฉพาะ 1. คลินิก ARI 2.ห้องพ่นยาแยกจากพื้นที่ ER 3.การตรวจผู้ป่วยทุกรายโดยมีแผงฉากพลาสติกกั้นระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ และแผงพลาสติกกั้นระหว่างผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ 4.การเว้นระยะห่าง การลงชื่อในสมุดหรือ สแกนไทยชนะ 5. แมสสำคัญมากและแอลกอฮอล์เจลหรือสเปรย์ในจุดสำคัญ 6.ห้องอาหารมีแผงพลาสติกกั้นที่โต๊ะคือญาติผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ควรกินอาหารแบบโซเชียลดิสแตนท์ ถ้าจะพูดคุยกันต้องใส่แมส 7.ซักประวัติการเดินทางและอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น 8.ซักประวัติทุกคนที่มาตรวจที่ รพ. เรื่องเคยไปตลาดกุ้ง ช่วงวันที่ 13-16 ธันวาคม หรือไม่ 9.ในกรณีที่มีผู้ไปขอตรวจโควิดที่ รพ.เอกชนทุกแห่ง รบกวนส่งชื่อที่อยู่เบอร์โทร มาที่ สสจ.ทางไลน์ส่วนตัวคุณอรุณศรี (กรณีคนไข้ยินดีจ่ายเงินเอง)โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย.เตรียมจะบุกวัดอีกรอบเพื่อจะกลบข่าวข้างล่างนี้ ...... ข่าวล่ามาเร็วและร้ายแรง มีการเร่งรัดจากเจ้าของสนช.อิสลาม 63 คน หรือ 27% ให้นำร่างกฎหมายศาลอิสลาม หรือศาลซารีอะห์ เข้าสภาสนช.โดยด่วน เพราะคนไทยส่วนใหญเริ่มรู้ตัวแล้วและทุกคนมัวไปสนใจกับข่าววัด จึงเตรียมเอาเข้าสภาเร็วๆนี้แน่ สาระสำคัญคือ การตั้งศาลอิสลาม ที่เคยเสนอมาเมื่อปี 2540 แล้วไม่ผ่าน จะมาเสนอใหม่ ถ้าผ่านได้คนไทยสิ้นอิสระภาพจริงๆ เพราะกฎหมายนี้จะใช้กับทุกคนในชาติ ทุกคนที่เกิดคดีความกับชาวมุสลิม จะต้องไปขึ้นศาลนี้ โดยมีผู้พิพากษาเป็นนักบวชอิสลาม ผลคือชาวมุสลิมทั่วโลกจะทะลักเข้ามาอยู่เมืองไทย เพราะทำอะไรผิดก็ขึ้นศาลศาสนาของเขา สรุป ยิ่งกว่าเสียกรุงอีกครับ เรียกว่าสิ้นชาติเลยต้องช่วยกันติดตามสอดส่อง สภา สนช.ของเราแล้วครับ นอกจากสมาชิกสนช.อิสลาม 63 คน แล้วเขาต้องการเสียงอีก 54 คน เป็น 117 เสียง ซึ่งเกินครึ่งของ 233 แล้ว ไม่ยาก เพราะเขามีทั้งเงินทั้งเครื่องแบบ ทั้ง ม.3 ม.4 ครบเครื่องยิ่งกว่าสมัยใดทั้งสิ้น ตื่นเถิดเพื่อนไทย ตอนนี้ศึกหลายด้านแล้วครับ ทั้งวัดทั้งสภา ตื่นๆๆ ติดตามข่าว ออกมาปกป้องอิสระภาพของคนไทยทั้งชาติกันได้แล้ว ================ ไม่รอส่งพรุ่งนี้แล้ว ส่งวันนี้เลย ช่วยกันแชร์ ช่วยกันส่งด่วน เผื่อจะถึงผู้นำประเทศ ให้คิดแก้ไขทันภาคใต้อันดามันไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยมีข้อมูลโรงแรมในกรุงเทพ ที่ประกาศขายแล้วนะครับ เพราะเหตุการณ์ Covid ในปัจจุบัน ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก คนตกงาน ไฮโซ กลายเป็นคนธรรมดา หลังโควิดจบจะอย่างไรกันครับ 1.) โรงแรมแอมบาสเดอร์ 4 ดาวอยู่สุขุมวิท11.ราคาขาย 8,800.ล้าน 2.).โรงแรม ภัทรา ราคาขาย 580 ล้าน 3.)โรงแรม ดีวารีดีว่า 4 ดาว ราคาขาย 385. ล้าน 4.)โรงแรมซีตรัส 4 ดาว อยูสุขุมวิท20 ราคาขาย 430.ล้าน 5.)โรงแรมบอสสูท 4 ดาว ราคาขาย 750.ล้าน 6.) โรงแรมไทปัน 4 ดาว ราคาขาย 1,500.ล้าน 7.) โรงแรมพัชราสูท 4 ดาว ราคาขาย 2,150.ล้าน 8.)โรงแรมมาร์เวล 4 ดาว อยู่สุขุมวิท22 ราคาขาย 2,500.ล้าน 9.)โรงแรม เพรสซิเด้นท์ พาร์ด 4 ดาว ราคาขาย 1,850. ล้าน อยู่สุขุมวิท24 10.) โรงแรม โนโวเต็ล กรุงเทพฯฟีนิก สีลม 4 ดาว ราคาขาย 1,950.ล้าน 11.) โรงแรมโกลด์เด้นท์ ทิวลิปโซเวอร์เรนท์ 4 ดาว ราคาขาย 3,400.ล้าน 12.)โรงแรมรามาการ์เด้น 4 ดาว อยู่ถนนวิภาวดี-รังสิต หลักสี่ ราคาขาย 8,800.ล้าน 13.) โรงแรมเดอะ ดิโพเรียม +ห้างฯ เดอะดิโพเรียม 5 ดาวอยูสุขุมวิท24 ราคาขาย 17,500.ล้าน 14.)โรงแรม แกรนด์สุขุมวิท 5 ดาว อยู่สุขุมวิท6 ราคาขาย 8,500.ล้าน 15.) โรงแรมมนเทียรริเวอร์ไซค์ 5 ดาว อยู่ถนนพระราม3 ราคาขาย 7,000.ล้าน 16.)โรงแรมมิลเลนเนี่ยม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 5 ดาว ราคาขาย 8,500.ล้าน 17.)โรงแรมมาริอ้อท เอ็กเซ็ก คูซีพ เซอร์วิส สาธร 5 ดาว ราคาขาย 3,500.ล้าน 18.)โรงแรม ฮาร์เบ้อร์วิวซิเด้นท์ 4-5 ดาว อยู่บนถนนห้าแยกคลองเตย ราคาขาย 4,800.ล้าน 19. โรงแรม แกรนไดมอน 3,800 ล. 20.โรงแรมเวสติน 10,717,030,000 ล. 21.โรงแรมฮิลตัน กทม.8,500 ล 22.โรงแรมพูลแมน สุขุวิท 9,000 ลโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย#กินเค็มระวังความดันขึ้น…#กินเค็มระวังความดันขึ้น… คำแนะนำทางการแพทย์ดังกล่าวนี้ ผมได้ยินมาตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์… จนเป็นอาจารย์ และในที่สุด จนเป็นความดันโลหิตสูง เสียเอง ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมมี ภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่า 2 ปี แล้วผมจะได้รับคำแนะนำให้เริ่มต้นรักษา ด้วยการปรับวิธีการใช้ชีวิต และหนึ่งคำแนะนำนั้นก็คือ หมอต้องลดปริมาณเกลือในอาหารลงเยอะๆเลยนะครับ… ถ้าไม่ดี เดี๋ยว start amodipine เลยนะ ผมก็พยายามควบคุมทุกอย่าง งดอาหาร ที่มีรสชาติเค็มที่ผมรัก แกงไตปลา สะตอผัดกะปิ และ ทานน้ำมากๆ…. แต่ที่ผมยังกินอยู่เหมือนเดิมก็คือ เข้าไปน้ำตาล แต่เหมือนดูจะไม่ดีขึ้นก็คือ ผมยังคงอ้วนลงพุง มีกรดยูริคสูง มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงของผมไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงจนกระทั่ง หรือ เพราะว่า เส้นเลือดของผมเริ่มแข็ง กรอบเหมือนเส้นเลือดคนแก่ ทั้งๆที่อายุยังไม่ถึง 50 จริงๆเนี่ยนะ… ในที่สุด เกิดภาวะวิกฤตบางอย่างกับตัวผม เนื่องจากความดันโลหิตที่สูงอย่างมาก…. ซึ่งผมเคยเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรบ้าง มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ผมคิดว่าผมจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อหลุดพ้นจากภาวะนี้ จากวิกฤตนั้น ผมจึงคิดทบทวนใหม่ว่า ผู้ร้ายตัวจริงที่สร้างปัญหาให้กับผมตอนนี้ มันต้องไม่ใช่ แค่ การกินเค็ม การกินกาแฟ หรือ เส้นเลือดผมแข็งกรอบตามวัยมากจนเกินไป…. ผมจึงจะเริ่มตั้งต้นจากคำว่า metabolic syndrome ซึ่งเป็นความผิดปกติทั้งหมดที่ผมมี ไม่ว่าจะเป็น อ้วนลงพุง ความดันสูง ไขมันในเลือด ยูริคสูง… หลังจากนั้นผมก็เริ่มรู้ว่า สิ่งที่ผมเป็น ว่าเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน หรือ insulin resistance… มาจากการบริโภค น้ำตาล น้ำหวาน คาร์โบไฮเดรตแปรรูป แบบไร้ระเบียบวินัยของตัวผม ตลอดระยะเวลานับ 10 ปีที่ผ่านมา จากการทบทวนความรู้ต่างๆทำให้ผมพบว่า ภาวะดื้ออินซูลินนั้น ส่งผลกระทบ ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ด้วยกลไกหลายอย่าง ได้แก่ 1) มีการเพิ่มการดูดกับโซเดียมที่หน่วยไตหลายตำแหน่ง 2) มีการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกผ่าน RAAS 3) มีการเพิ่มการหดตัวของกล้ามเนื้อในหลอดเลือด ผ่านกลไกของ การเพิ่มแคลเซียมเข้าเซลล์ รูปภาพที่ประกอบการโพสต์นี้ แสดงให้เห็นถึงผลของ ฮอร์โมนอินซูลิน ที่มีต่อการกระตุ้นให้ไต เกลือโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ผ่าน receptor ต่างๆในรูป ดังนั้นการรักษาภาวะ ดื้อต่ออินซูลิน หากประสบความสำเร็จในการักษา ก็จะส่งผลให้ความดันโลหิต กลับมาสู่สภาวะปกติได้ และมีรายงานการรักษา ในแนวทางนี้หลายรายงาน พบว่าสามารถช่วยให้ผู้ป่วย สามารถลดและหยุดยาลดความดันโลหิตได้ แล้วภาวะดื้อต่ออินซูลิน ผู้ต้องหาในคดี metabolic Syndrome เกิดจากอะไร… ถ้าได้ติดตามที่ผมเขียนมาตั้งแต่ต้น ก็จะตอบได้ทันทีว่า "เกิดจากการบริโภค น้ำหวาน น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตแปรรูปต่างๆ ในปริมาณที่มาก แล้วต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ" ดังนั้น ผู้ต้องหาตัวจริง ก็คงหนีไม่ น้ำตาลน้ำหวานและคาร์โบไฮเดรตแปรรูป ที่เรารับประทานอย่างมาก ไม่มีขีดจำกัด ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆนั่นเอง ถ้าผมเลือกรักษาตัวเองที่ปลายเหตุมันง่ายมากเลยครับ คือ รักษาตามกลไกล ข้อ 1) ทานยา HCTZ กลไกล ข้อ 2) ทานยา enalapril และ กลไกลข้อ 3) ทานยา amlodipine เลือกเอาเลย… ทานยาลดความดันแล้วนั่งดูความดันลด ปรับยา แต่ผู้ร้ายต้นเหตุไม่ถูกกำจัด… รอวันสร้างหายนะรอบใหม่ ทีหนักกว่าเดิมนั่นคือ เบาหวานชนิดที่2 และก็ต้องถามตนเองว่า แล้วผมต้องกินยาถึงเมื่อไหร่อีกด้วยครับ… ผมเลยตัดสินใจทดสอบ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ในครั้งนี้กับตัวผมเอง ด้วยการรักษาตนเอง ตามแนวทางของการ รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ และจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร… และผมต้องใช้ความอดทน และการปรับตัว อย่างสูงมาก เพราะเดิมพันนี้มันคือ ชีวิตของตนเอง ผ่านไป 1 เดือน ผมไม่เคยมีระดับความดัน 160/100 อีก ยังมี ตัวบน 130-140 บ้าง… และที่ระยะเวลาผ่านไป 3 เดือนความดันตัวบน (Systolic) ของผม ไม่เคยเกิน 120 ตัวล่างไม่เคยเกิน 80 อีกเลย แม้จะวัดในสภาวะหลังออกกำลังกายทันทีก็ตาม… ร่วมกับน้ำหนักตัวที่หายไปกว่า 13 กิโลกรัม (วิชาตัวเบามันเป็นแบบนี้นี่เอง) สรุปคือ ผู้ร้ายตัวการ ตัวสำคัญสำหรับโรคความดันโลหิตสูง นั่นก็คือ "ภาวะดื้อต่ออินซูลิน" อันเนื่องมาจาก การบริโภคน้ำตาล คาร์แปรรูปนั่นเอง เขียนแบบนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะ ไปกินเค็มหนักๆ อันนั้นก็ไม่ควรนะครับ แม้เขาไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริง แต่ถ้าเรากินแบบไม่คิด ผู้ร้ายตัวปลอมนี้เขาก็พร้อมจะพายเรือให้โจรนั่งนะครับ ผมหวังว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์ กับผู้ติดตามทุกท่าน ในการนำไปปรับใช้ อย่ารอให้ ชีวิตต้องเจอแบบที่ผมเจอ แล้วจะคิดจะเริ่มนะครับ #หมอจิรรุจน์ สำหรับท่านที่สนใจเนื้อหาเพิ่มเติม เราเข้าไปอ่านใน Reference ที่แนบไว้ได้นะครับ ที่มาภาพ: Insulin resistance and hypertension: new insights, Kidney International Vol.87 2015 ที่มาข้อมูล Obesity-related hypertension: pathogenesis, cardiovascular risk, and treatment. A position paper of The Obesity Society and the American Society of Hypertension. J Clin Hypertens (Greenwich). 2013; 15: 14 Insulin resistance, obesity, hypertension, and renal sodium transport. Int J Hypertens [online]. 2011; 2011: 391762Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำตาล” เป็นพิษอย่างเลวร้ายสําหรับมนุษย์ ..และมันถูกกฎหมาย🐥#“น้ำตาล” เป็นพิษอย่างเลวร้ายสําหรับมนุษย์ ..และมันถูกกฎหมาย..!!🍎 น้ำตาลไม่เคยถูกแบน เพราะมันเป็นธุรกิจที่ร่วมมือกับอุตสาหกรรม น้ำตาล คือ ความหิวโหยของเซลล์มะเร็ง ▫️แนวคิดใหม่ของการรักษา คือ..การงดเว้นน้ำตาล เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อ และ ค่อยๆ ตาย..!! น้ำตาลเป็นอาหารของเซลล์มะเร็งทั้งหลาย 📚 ดร. Raymond Francis เขียนหนังสือที่น่าทึ่ง จำนวนสามเล่ม: (1) 🌿 ไม่เคยป่วย (2) 🌿 อย่ากลัวมะเร็ง (3) 🌿 อย่าอ้วนอีก ▫️ดร.เรย์มอนด์ เขียนหนังสือเหล่านี้ หลังจากมีประสบการณ์กับมะเร็ง ที่แพทย์หมดหวังกับเขาเมื่อตอนอายุ 45 ปี วันนี้เขาอายุ 75 แล้ว และ.. ไม่เคยเจ็บป่วยเลยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นเป็นหวัดเพียงครั้งเดียว ▫️กุญแจสําคัญที่ Dr. Raymond พูดในหนังสือสามเล่มของเขาคือ : #“อยู่ห่างจากน้ำตาลตลอดไป” นอกจากการออกกําลังกายที่ดีแล้ว เราต้องควบคุมอาหารที่ร่างกายต้องการ ▫️หมอบอกว่า: 🌿น้ำตาลเป็นสาเหตุของ ไข้หวัด ทั้งปวง 🌿การกินน้ำตาลหนึ่งช้อน จะลดภูมิคุ้มกันของร่างกายลง 50% 🌿การดื่มโคคาโคล่าหนึ่งกระป๋อง ลดภูมิคุ้มกันลง 10% เป็นเวลา 10 ชั่วโมง 🌿น้ำตาลทําให้เกิดโรค อัลไซเมอร์ 🌿นำ้ตาลเป็นอาหารของ เซลล์มะเร็ง 🌿น้ำตาลเป็นสาเหตุของ โรคหัวใจทั้งหมด 🌿น้ำตาลเป็นสาเหตุของ ความอ้วน บวมฉุ 🌿น้ำตาลเป็นสาเหตุของ การกักเก็บไขมัน 🌿ทุกโรคที่เกิดกับมนุษย์ มีน้ำตาลเป็นพระเอก ▫️หมอบอกว่า: พ่อแม่ ไม่ยอมให้ลูก สูบบุหรี่ หรือ ดื่มสุรา แต่ซื้อขนมหวานที่อันตรายกว่ามาให้บริโภค 🔸ข้อมูลที่เป็นประโยชน์: 🌿โยเกิร์ต เป็นแหล่งแคลเซียมสูงสุด เนื่องจากมีแคลเซียม 450 มก. ต่อแก้ว ดังนั้น จงกินโยเกิร์ตเป็นอาหารทุกวัน❤ 🌿มิ้นท์ สะระแหน่ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและบำรุงหัวใจ ให้ทานเป็นประจํา ช่วยผ่อนคลายแก๊ส ทําให้ตับแข็งแรง แก้ไอ บำรุงประสาท และลดความโกรธ ช่วยอาการนอนไม่หลับและขับปัสสาวะ และช่วยย่อยอาหารได้ดี 🌿น้ำอัดลม เป็นสาเหตุ โรคกระดูกพรุน หัวใจและไต โรคอ้วน เบาหวาน ฟันผุ 🌿เครื่องดื่มชูกําลังเป็นอันตรายต่อเด็ก ทําให้หัวใจเต้นเร็ว ตะคริว ลิ่มเลือดอุดตัน 🌿ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถปกป้องคุณจากมะเร็งได้ 🌿แซลมอน แอปเปิ้ล องุ่น เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ผักโขม เป็นอาหารที่ช่วยเซลล์ประสาท และเสริมสร้างความจํา 🌿ความผิดพลาดที่พบบ่อย คือการบอกว่า ดื่มน้ำระหว่างอาหารทําให้ย่อยอาหารยาก จริงๆ แล้วน้ำ ไม่ทําให้ท้องอืด แต่ ช่วยในการย่อยอาหารด้วย 🌿คุณควรดื่มน้ําสักแก้วเมื่อตื่นนอน เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำตอนหลับ และช่วยชะล้างสารพิษในร่างกาย 🌿เดินวันละ 20 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ ปกป้องคุณจาก โรคหัวใจ เบาหวาน โรคซึมเศร้า ความดัน คอเลสเตอรอล 🌿กระเทียม ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง เพราะมันสามารถเสริมระบบภูมิคุ้มกัน 🌿ขิงทานร้อนๆ ตอนบ่าย ช่วยผลาญไขมัน และขับสารพิษออกจากร่างกาย Cr: Florentin Patriotasevenมะเร็งยาสมุนไพรลดความอ้วนผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--last3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยการกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง)ส่งมาโดย อ.ภิรมย์ หมอจุฬา การกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) เก็บมาฝาก แค่ให้รู้และเฝ้าระวัง ไม่ต้องตื่นกลัว คอยติดตามข่าวกันต่อไปแค่นั้น เมื่อวานและวันนี้ ห้องไลน์หมอ ผมคุยกันเรื่องนี้เยอะ มีทั้งคำเตือนจาก อจ.แพทย์ไทย และรายงานจากต่างประเทศ สรุปคร่าวๆ ได้ว่า ตอนนี้เชื้อโควิดแรงขึ้น หลายๆ คน (รวมทั้งผมเอง) ก็พยายามหาวัคซีนที่จะช่วยกระตุ้นภูมิให้สูงมากๆ ขึ้นเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานสูง สู้กับโรคได้แบบไม่ต้องกังวล แต่ภูมิต้านทานอย่างพวก IgG หรือ แอนติบอดี้ ที่สร้างขึ้นมาในร่างกายเรานั้น มันสร้างมาจากการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte ถ้าได้รับการกระตุ้นมากจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ นอกจากนี้ยังอาจต้องระวังโรค Autoimmune หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือ โรค SLE หรือโรคพุ่มพวงที่เรารู้จักกันดี) ดังนั้น การจะกระตุ้นให้ขึ้นมากน้อย ตอนนี้คงต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยงด้วย จากเคยคิดที่จะกระตุ้นกันแบบไม่ยั้ง เอาภูมิต้านทานแบบเกราะเหล็กหนาๆ อาจจะต้องเพลาๆ ลง เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงต่อโรคว่าคุ้มมั้ย และจักต้องติดตามรายงานศึกษาจากทั่วโลกตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ซึ่งแน่นอนว่าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ข้อมูลข้างล่างนี้ คือที่หมอๆคุยปรึกษากัน โดยส่วนตัว ก็เคยคิดอยากกระตุ้นให้สูงมากเผื่อเหนียวไว้ แต่พอนักวิชาการท้วง ก็คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เอาเท่าที่จำเป็นก่อน โดยความเห็นส่วนตัว ที่เราใช้กันตอนนี้… SV + AZ 2SV + AZ 2SV + mRNA 2AZ 2mRNA AZ + mRNA เหล่านี้ผมว่าภูมิคุ้มกันสูงพอและใกล้เคียงมาตรฐาน แต่ที่เกรงก็คือ ผู้ที่จะกระตุ้นให้ภูมิสูงไปกว่านี้ เช่น 2AZ + mRNA 2SV + AZ + mRNA AZ + mRNA + mRNA หรือ mRNA 3 เข็ม --------------------------- งานวิจัยของเยอรมันบ่งชี้ว่า AZ + mRNA ผลข้างเคียงหลังเข็ม 2 พอๆ กับ mRNA + mRNA และกระตุ้นเม็ดเลือดขาวชนิด B-cell (IgG) ที่ต่อสู้กับ Covid-19 ได้สูงมาก แต่ใครฉีด AZ + AZ ไปแล้วหมอไม่แนะนำให้ซ้ำ mRNA ในปีนี้อีก เพราะถ้า IgG ขึ้น สูงมากๆ อาจเสี่ยงต่อโรค B-cell Lymphoma --------------------------- ตามที่มีข่าวว่า ถ้าหาก ภูมิคุ้มกันมีระดับสูงมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงเรื่อง Lymphoma แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเรื่อง Lymphoma โดยทฤษฏี เห็นด้วยว่าไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป อย่างน้อยๆ คือรอ 6 เดือนหลังเข็ม 2 เพราะสิ่งที่หวั่นเกรง คือ autoimmune disease VACCINE เป็นเหมือน antigen ชนิดหนึ่ง กระตุ้น innate และ adaptive หากมีการกระตุ้นบ่อยๆ T cell จะคุยกับ B cell บ่อยๆ เราเรียกว่า T-B cell crosstalk เพื่อให้สร้าง antibody เยอะๆ ความผิดพลาดเกิดได้หลายตำแหน่ง 1. ยิ่งคุยกันมาก ยิ่งพลาดได้ ทำให้สร้าง b cell clone ผิดปกติได้ โดยทฤษฏีจึงอาจเกิด lymphoma ได้ 2. ยิ่งสร้าง antibody มาก ยิ่งอาจมี antibody ที่จับกับ self antigen อาจเกิด autoimmune disease แต่ทั้งหมดคือทฤษฏี ต้องรอ real world data หลังฉีดไปอีก 2-3 ปี ว่า โรคเหล่านี้จะปรากฏเยอะขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดหรือไม่ ดังนั้น ให้ยึดทางสายกลางไว้ก่อน หากได้ AZ + AZ หรือ mRNA + mRNA หรือ Mix & Match สลับกัน ก็ยังไม่ต้อง booster ให้รอข้อมูลจากอเมริกา อังกฤษ ตอนที่เค้า boost เข็มสาม ซึ่งน่าจะเป็นปีหน้าวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 ภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca 1 เข็ม ยง ภู่วรวรรณ ทางศูนย์ได้ศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ในคนไทย หลังเข็มแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือน จำนวน 61 คน เป็นการรายงานเบื้องต้น ภูมิต้านทานที่ตรวจพบ มีการตอบสนอง ตรวจวัดภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 96.7 เมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจวัดภูมิต้านทานในผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ เป็นระยะเวลา 4- 8 สัปดาห์ตรวจพบได้ร้อยละ 92.4 ดังแสดงในรูป ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ มีค่าตัวกลางเรขาคณิตเท่ากับ 40.61 u/ml เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ มีค่าเท่ากับ 60.86 u/ml ดังแสดงในรูป พบว่าระดับภูมิต้านทานที่พบเพศหญิงจะให้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าเพศชาย อายุที่น้อยกว่า 60 ปีจะมีระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะนี้กำลังรอวิเคราะห์ข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้นกว่านี้ และจะมีการตรวจเลือดหาภูมิต้านทานก่อนฉีดเข็มที่ 2 อีก 1 ครั้ง และหลังเข็ม 2 แล้ว 1 เดือนภูมิต้านทานน่าจะมีระดับสูงมาก และอยู่นาน จากข้อมูลดังกล่าวพอสรุปได้ว่าแม้จะฉีดวัคซีน AstraZeneca เพียงเข็มเดียว ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ก็เป็นที่น่าพอใจ มีอยู่ 1 ราย ที่ฉีดวัคซีน Sinovac เข็มแรกแล้วเกิดอาการแพ้ เลยฉีดเข็มที่ 2 ใน 3 อาทิตย์ต่อมา ด้วยวัคซีน AstraZeneca และตรวจเลือดเมื่อ 1 เดือนหลังฉีดวัคซีน AZ พบระดับภูมิต้านทานสูงมากสูงถึง 241 u/ml อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาการฉีดวัคซีนเปลี่ยนชนิดกัน ในกรณี ที่เกิดเหตุการฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน ขอความกรุณาติดต่อผมขอตรวจภูมิต้านทานด้วย เพื่อเก็บเป็นข้อมูลและรวมถึงอาการข้างเคียงที่อยากทราบมาก และการเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง การปูพรมฉีดเข็มเดียวไปก่อนให้ได้ประชากรมากที่สุด ด้วยวัคซีน AstraZeneca จะได้ประโยชน์สูงสุดแล้วตามด้วยกระตุ้นอีก 10 ถึง 12 สัปดาห์ต่อมา หรือนานกว่านั้น หมายความว่าในช่วง 3 เดือนแรก น่าจะปูพรมการฉีดวัคซีนไปเลย ถ้าฉีดได้เดือนละ 10 ล้านคน ก็สามารถปูพรมไปได้ถึง 30 ล้านคนทีเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ตามกระตุ้นรวมทั้งฉีดรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ก็จะได้เป้าหมายอย่างรวดเร็ว และถ้ามีวัคซีนชนิดอื่นมาเสริมด้วยแล้ว จะทำให้การให้วัคซีนกับประชาชนหมู่มากประสบผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น #หมอยงโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้นลดความอ้วนมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยน้ำอุ่น มีประสิทธิภาพแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100 % จริงหรือลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยแผ่นแปะจมูกแก้นอนกรน ใช้ได้จริงหรือ ?ในเเอปขายของออนไลน์ มีการขายของประเภทเเผ่นแปะจมูก เเก้นอนกรน เเต่ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเรื่องการใช้แผ่นแปะแก้อาการนอนกรน และอาการคัดจมูก เพราะกลไกแผ่นแปะจมูกอาจจะยังไม่ได้แก้ปัญหาทางจมูกให้กับผู้ป่วยได้อย่างชัดเจนมากนัก แพทย์จึงยังไม่แนะนำให้นำมาใช้แก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว การใช้แผ่นแปะจมูกคาดหวังผลได้หรือไม่ ส่วนมากผู้ใช้มักหวังผลแก้ปัญหาในบริเวณจมูก แต่หากสาเหตุการนอนกรนของผู้ป่วยอยู่ในส่วนอื่น ๆ เช่น เพดานอ่อน โคนลิ้น กล่องเสียง ก็อาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาอาการนอนกรนได้ ส่วนในแง่ของการรักษาอาการคัดจมูก ก็ยังไม่มีคำแนะนำการใช้แผ่นแปะมาแก้ปัญหาอาการคัดจมูกได้ กลไกการออกฤทธิ์ยังไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นหากผู้ป่วยมีปัญหาทางเดินหายใจอุดกั้นในระดับของจมูกก็อยากให้ประเมินการรักษาให้ถูกต้องเหมาะสมจะดีกว่า แผ่นแปะแก้นอนกรนอันตรายหรือไม่ ? ระวังอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนังบริเวณแปะแผ่นยาผู้บริโภคเฝ้าระวังMumimumi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอชายแดนทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ต่างเดินทางหลั่งไหลเพื่อไปชมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ หลังพบมีลักษณะพิเศษมีน้ำหยดลงมาจากต้นไม้ตลอดทั้งวันทั้งคืนแม้ไม่มีฝนตกstd46420• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยHigo อาหารเสริมเพิ่มความสูง ที่แม่พลอยไว้ใจเสริม ความแข็งแรงกระดูก ให้ลูกน้อย ❤️"สูง" ทันใจ ❤️ 🌟Higo 🌟ครบ ❗️จบ ❗️ในเม็ดเดียว‼️chokun1880vee• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจุดจบประเทศไทยเพื่อนส่งมาจาก USA จุดจบประเทศไทย ...... เรื่องนี้"คนไทยทุกคน"ควรที่จะได้รู้ ..... ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..... สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค ซึ่งเป็นสถาบันที่ สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า "ประเทศไทย"จะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน ! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ "การค้าเสรี"จะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่า. สินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก ไม่ถึง10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ "วิกฤต"ที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย "รัฐบาลไทย"จะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจาก"ธนาคารไทย"กลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร (เช่น สัมปทาน พลังงาน ที่กำลังเป็นอยู่ขนะนี้ ) ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา "คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ " ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ (เช่น ภาคกลาง จ.สุพรรณ อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ฯ ) และธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น "เงินตรา"ของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ อย่างไร? (นี่คือโจทย์ ใหญ่ ที่ คสช.พลเอก ประยุทธ ต้องรีบแก้ปัญหาคนจนก่อนฯ) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็น"ความล้มเหลวของรัฐบาลไทย " การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณ"จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา " จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของ"ต่างชาติ"หมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง "การซื้อประเทศไทยคล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เรา "คนไทย "จะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ? ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองธุรกิจการเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โลตัสเหมือนกัน นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง? ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด ผมอธิบาย วิธี"สิ้นชาติ"แบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ์ ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน ขนม"ต่างชาติ" ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว ปล . ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ คิดว่า ช่วย กัน "ชาวไทย พิทักษ์ชาติไทย" ครับ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ "รักชาตินะครับข่าวการเมืองภาคใต้ภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ