1543 ข้อความ
- 1 คนสงสัยนักวิทย์ค้นพบ การถือศิลอด กระตุ้นการเกิดสเตมเซลต่อสู้มะเร็งนักวิทย์ค้นพบ การถือศิลอด กระตุ้นการเกิดสเตมเซลต่อสู้มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอากาศร้อน ทำให้โควิดลดลงเนื่องจากเราเคยได้ยินกันมานักต่อนักแล้วว่า “ความร้อนสามารถฆ่าเชื้อโรคได้” ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารปรุงสุกร้อน ๆ การเอาช้อนส้อมจุ่มน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ก็ล้วนแล้วแต่แสดงให้เราเห็นว่าความร้อนมีบทบาทมากแค่ไหนในการฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ตามวัตถุต่าง ๆ แล้วถ้าหากกล่าวถึงเชื้อไวรัสหรือโรคร้ายล่ะ ความร้อนเหล่านี้จะสามารถกำจัดมันได้ไหม หรือที่หลาย ๆ คนอาจสงสัยกันว่า “ฤดูร้อนจะทำให้ไวรัส COVID-19 หายไปได้หรือไม่” คำตอบที่ท่านสงสัยอยู่ในบทความนี้แล้ว ฤดูร้อนทำให้ COVID-19 ลดลง จากข้อมูลของ WHO ได้ไขข้อข้องใจเอาไว้ว่าโดยปกติแล้วเชื้อโรคไวรัสตัวอื่น ยกตัวอย่างเช่นไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีอัตราการแพร่ระบาดลดน้อยลงจริงเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แต่หากนำไปเทียบกับ COVID-19 นั้นอาจมีส่วนช่วยในการลดอัตราการแพร่ระบาดได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากความชื้นในอากาศจะช่วยลดการลอยตัวฟุ้งกระจายของเชื้อโรคให้ตกลงสู่พื้นได้เร็วกว่าอากาศเย็น เป็นผลให้การแพร่เชื้อในอากาศลดลงนั่นเองโควิด 2019piradaparker• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแอคปลอมFake Social Media Account หรือแอคเคาท์ที่พยายามเลียนแบบ หรือสวมรอยเป็นแบรนด์ค่ะ จะมีวิธีจัดการอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้แบรนด์เกิดความเสียหายได้บ้างผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมStd48567• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสงกรานต์เป็นของเขรม???เป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ของไทย ซึ่งจะมีการเล่นสาดน้ำ แต่ทางเขมรมีการใช้คำว่า “สงกรานต์” ตามคำไทย แทนคำเดิม คือ “โจล-ชนัม-ทเม็ย” ซึ่งอันที่จริง ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีร่วมของคนในพื้นที่อุษาคเนย์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย แต่ถ้าถามถึงสงกรานต์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนนักท่องเที่ยวแห่แหนเดินทางมา ก็คงไม่พ้น Songkran Festival Day ของไทยอย่างแน่นอนภาคอีสานภาคตะวันออก มีม เสียดสีstd48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยช้างเป็นสัตว์กัมพูชา????กัมพูชาได้นำคลิปช้างป่ากินอ้อยในประเทศไทย ไปลงเว็บไซต์ต่างชาติ ก่อนโพสต์อวดความน่ารัก ซ้ำอธิบายว่าเป็นสัตว์กัมพูชา ทั้งที่มีป้ายภาษาไทยเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน” ปรากฏเด่นในคลิป.std48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเขรมเคลมว่าบัวขาวเป็นคนเขรมนักมวยไทยชื่อก้องโลก ก็ถูกเคลมว่าเป็นคนเขมร ก่อนที่บัวขาวจะออกมายันว่า ชาติพันธุ์ บัวขาว คือ คนไทย เชื้อสายกูย ไม่ใช่คนเขมร ตามที่เข้าใจกัน ชาวส่วย บางทีก็เรียก “กูย” พร้อมทวงค่าตัวไฟต์ล่าสุดที่ยังค้างอยู่ 2.2 ล้านบาท ที่ชกที่เขมรstd48037• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุดposttoday หน้าแรก รวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุด รวม 10 ข่าวปลอมโควิดที่มีคนหลงเชื่อมากที่สุด 08 ธันวาคม 2564 แชร์ แม้ว่า 'ข่าวปลอม' จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันกลับถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอย่างมาก และหลายคนเริ่มตระหนักถึงความน่ากลัวของข่าวปลอม ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดจนนำไปสู่การกระทำที่ส่งผลร้ายในภายหลัง โดยเฉพาะในช่วงที่ ไวรัสโควิด-19 เกิดการแพร่กระจายอย่างหนัก จนคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปมากมาย ข่าวปลอม บนโลกออนไลน์เองก็เกิดการระบาดอย่างหนักเช่นกัน เราจะไปไล่เรียงกันว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา 10 ข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งนำไปสู่การเข้าใจผิดในสังคมมากมายนั้น มีข่าวอะไรกันบ้าง 1. เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พบนักโทษติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1,300 คน เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 มีโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชนั้นมีผู้ติดเชื้อโควิดทั้งหมดถึง 1,300 ราย โดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาชี้แจงว่า รายงานดังกล่าวเป็นรายงานข้อมูลของวันที่ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 16:00 น. ซึ่งพบผู้ติดเชื้อจากการตรวจ PCR+ATK จริง แต่เป็นจำนวน 347 ราย ไม่ใช่ 1,300 ราย ไม่ตรงตามโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแต่อย่างใด 2. สหรัฐอเมริกาจะปล่อยเชื้อโควิดในประเทศไทย ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีอาการรุนแรงภายใน 2 ชม. และอยู่ได้ไม่เกิน 2-3 วัน ข้อมูลดังกล่าวถูกระบุว่า มีการแชร์ต่อกันในเฟซบุ๊กและในไลน์ จนสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ที่เข้าใจผิด ซึ่งทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำการตรวจสอบและพบว่าข้อความดังกล่าวไม่มีมูลความจริง 3. ยาฟ้าทะลายโจร สามารถกินก่อนติดเชื้อโควิด-19 ได้ แถมช่วยบำรุงรักษาตับ มีการแชร์ข้อมูลถึง ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรว่า สามารถรับประทานกันไว้ก่อนเพื่อป้องกันติดเชื้อโควิดได้โดยไม่ทำลายตับ แต่ช่วยบำรุงรักษาตับได้อีกด้วย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบและพบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเท็จ โดยไม่พบงานวิจัยที่เชื่อมโยงในประเด็นดังกล่าวเลย ในทางกลับกัน หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน กลับจะยิ่งส่งผลรบกวนกับการทำงานของตับ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อโควิด 2019ยาสมุนไพรพอเถอะบัง ตังผมหมด• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอันตรายที่คาดไม่ถึงของข่าวปลอมเรื่องมะเร็งวิทยา มะเร็งคือโรคที่ทำให้ชาวโลกเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากโรคหัวใจ ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งถึง 18 ล้านคน (จากตัวเลขปี 2562) (1) และมีอัตราการเสียชีวิตถึง 15.7% มะเร็งเป็นที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวมากที่สุดโรคหนึ่งและทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกว่าเมื่อเป็นมะเร็งแล้วเหมือนกับถูกพิพากษาประหารชีวิตให้ตายทั้งstd48061• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมื่อวงการวิทยาศาสตร์ผลิตข้อมูลผิดๆ จนทำให้เสียรังวัดเวลาที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 ตามแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ มักจะมีผู้ที่มาแสดงความเห็นว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริง หรือบอกว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือสื่อกุขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนกลัว ความเชื่อผิดๆ แบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนทั่วไป แต่ยังลามไปถึงระดับปัญญาชนstd48063• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาจีนเหลียนฮัวชงเหวินแคปซูลรักษาโควิด-19เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล” ประกอบด้วยตัวยามีทั้งหมด 13 ชนิด โดยมีพื้นฐานเป็นการใช้ยาฤทธิ์เย็นผสมรสเผ็ดและรสขม เพื่อช่วยในการระบายความร้อนและขับพิษออกจากร่างกาย โดยมี เหลียนเชี่ยว 连翘、จินอิ๋นฮวา 金银花 เป็นตัวยาหลักที่ใช้ในการลดไข้ซึ่งเกิดจากพิษร้อน และใช้ร่วมกับ จื้อหมาหวง 炙麻黄、เฉ่าขู่ซิ่งเหริน 炒苦杏仁、สือเกา 石膏 เป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนชี่ของปอด เพื่อเสริมการระบายความร้อนออกสู่ร่างกาย ส่วนยาตัวอื่นๆจะทำหน้าที่เป็นตัวเสริมกลไกดังกล่าวร่วมกับการระบายความชื้นออกจากร่างกายบางส่วนโควิด 2019ยาสมุนไพรstd46640• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพ.ร.บ.พืชกัญชากัญชง ถูกใส่ร้าย ทั้งที่“ช่วยชาวบ้าน” แต่กลับกล่าวหา “เอื้อนายทุน” วันนี้มีเสียงสอบถามกันมาอื้ออึง ว่าวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ชาวประชาจะสามารถปลูกพืชมหัศจรรย์กัญชากัญชง ได้เลยหรือไม่ อย่างไร แม้จะมีความพยายามอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ กันมากมาย ทั้งในงาน “ประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้” ไปตามเขตสุขภาพต่างๆ ซึ่งสร้างกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ แต่เพราะขบวนการออกข่าวเท็จ ออกบทความปลอม มาป่วนสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวไปบิดเบือนไปต่าง ๆ นา ดังเช่น ... นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ... ได้ออกมาโพสต์ผ่านเพจ ว่า นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย หลังวันที่ 9 มิถุนาฯ 65 ประชาชน ปลูกง่าย เพื่อใช้ในครัวเรือน ผ่านการจดแจ้ง การแจกกัญชา 1 ล้านต้น จะเป็นคำตอบ ไม่มีใครผูกขาดได้ ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจ สามารถทำได้ ไม่มีผูกขาด แต่มีระเบียบกฎเกณฑ์ ในการเข้าสู่ธุรกิจ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการประกอบธุรกิจ เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่การประมูลสัมปทานแบบผูกขาด เป็นโอกาสให้ประชาชน กับ รัฐ มีรายได้ จากกัญชา กัญชง เม็ดเงินหลายหมื่นล้านบาท เป็นรายได้ใหม่จากกัญชา กัญชง เปิดเวทีให้ประชาชน ได้มาแสดงผลิตภัณฑ์ ภูมิปัญญา และ จำหน่ายสินค้าจากกัญชา กัญชง ได้ ทั่วประเทศ ไม่มีใครผูกขาดได้ ทุกเวที มีแต่ประชาชนรายย่อย มานำเสนอสินค้า กฎหมาย ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐ ดำเนินการกับผู้ละเมิดกฎหมาย เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง รังแก กัญชา ไม่มีสัมปทาน เป็นการแข่งขันเสรี เป็นตลาดเสรี เพียงต้องทำตามกฎหมาย ต่างจาก เหล้า ที่รายใหญ่ 2-3 รายได้สิทธิจากการประมูล จากนั้น เจ้าหน้าที่ ไล่จับประชาชน ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด ไก่ย่างกัญชา ตัวละ 300 บาท ใครๆ ก็ทำขายได้ เมื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้กัญชาจากการปลูกที่ได้รับอนุญาต หรือ จดแจ้งกับเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนรายย่อยขาย(ไก่ย่างกัญชา )แบบนี้ ไม่ต้อง มี อย. แต่ถ้ารายใหญ่จะทำใส่ซอง ใส่กล่อง ติดชื่อสินค้า มีโฆษณา ต้องขอ อย. นี่คืออนาคตกัญชาไทย หลังวันที่ 9 มิถุนาฯ 65 ตามมาด้วย .... นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ .... ออกมายืนยันว่า กรมวิชาการเกษตร กำลังเพาะกัญชาจากเนื้อเยื่อ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน 1 ล้านต้น เหมือนอย่างที่เคยแจก ต้นกล้าฟ้าทลายโจร ให้กประชาชนในช่วงโรคระบาด เรื่องกฎหมายกัญชากัญชง กำลังเดินทางเข้าสู่สภา เพื่อความก้าวหน้าของ กิจการกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้ ก็พยายามช่วยๆ กัน อย่าไปเชื่อข่าวลวง ข่าวที่ไม่มีตัวตน คนพูดเลย จะยิ่งถ่วงความเจริญของวงการกัญชา กัญชง มากขึ้นไปอีก ************************ ติดตามรายละเอียด ได้ที่ : https://www.siampost.in/news/26817ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกกต. ชี้ข่าวเท็จ 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง-ไม่ดำเนินคดียุบพรรคอนาคตใหม่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจงข่าวเท็จ ยัน ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งจากการยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว ไม่เคยให้ข่าว 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดงข่าวการเมืองมีมKanpitcha Suksakan• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเอาผิดโฆษณา 'ถั่งเช่า' ดัง หลอกลวงสรรพคุณหวังโกยเงิน ดารา คนดังโดนด้วย ปรับสูงสุด 5 ล้านอย. -กสทช.เชือด โฆษณาถั่งเช่า เกินจริง หลอกลวงประชาชน ลงโทษแล้วกลับมาอีก เปลี่ยนพรีเซนเตอร์ ดารา คนดังโดนด้วย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่ากสทช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข จัดการปัญหาการโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ตั้งแต่ตั้งแต่กลางปี 2561 ได้ตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีอาจารย์ชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์ มีการใช้ตัวแสดงลักษณะคล้ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง นอนติดเตียง ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก แต่เมื่อรับประทานถั่งเช่าของอาจารย์ มีอาการดีขึ้น เดินได้ ลุกไปเข้าห้องน้ำเองได้ ใช้ยาแผนปัจจุบันน้อยลงความสวยความงามstd48077• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมเถื่อนตำรวจ บช.สอท.ร่วมกับ อย.ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางเถื่อนที่ จ.สงขลา พร้อมของกลางลอตใหญ่ อ้างสรรพคุณ “เปลี่ยนผิวดำตามกรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวสดใสภายใน 7 วัน” ขายว่อนทางออนไลน์ ขณะที่ อย.เตือนชาวบ้านอย่าซื้อมาใช้ เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบpeerawitjanpaitoon• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชาไข่มุก 2 แก้ว/สัปดาห์ เสี่ยงมะเร็งอันตรายที่ซ่อนในความหวานมากเกินกว่าที่คาดคิด พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และ อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกับบอกว่า รสหวานทำให้สดชื่น ดื่มติดต่อกันต่อเนื่องก็จะติด แต่ภัยความหวานส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แม้จะยังไม่มีรายงานว่า คนไทยบริโภคหวานแล้วเป็นมะเร็งเหมือนเช่นเด็กหญิงชาวจีน แต่ก็พบว่า หากบริโภคหวานต่อเนื่องทุกวันในปริมาณที่เกินกำหนด อาจส่งผลต่อสุขภาพ ได้ เช่น โรคอ้วน อ้วนลงพุง โรคเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เซลล์ในร่างกายอักเสบ และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคต “ปกติในร่ายกายของคนเรา ผู้ชายต้องการพลังงานอยู่ที่ 2,000 แคลลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง 1,800 แคลอรี่ต่อวัน หากต้องการบริโภคน้ำตาลหรือว่าของหวาน ควรบริโภคได้ไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด”มะเร็งstd48372• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินกระท่อมเเบบนี้เเล้วดีจริงเหรอกินกระท่อมเเบบนี้มันดีกว่าเเบบอื่นๆจริงเหรอstd47683• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใบแดง 10 ส.ส.ก้าวไกล ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่น ปัดละเว้นฟันอาญา อนค.ชี้สอบใกล้เสร็จกกต.ยันใบแดง 10 ส.ส.ก้าวไกล เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น ข่าวปลอม พร้อมแจงไม่มีละเว้นดำเนินคดีอาญา 16 ผู้บริหาร อนค.ปมกู้เงิน “ธนาธร” นานตั้งแต่ปี 64 ชี้ พงส.ดำเนินการใกล้เสร็จ เตือนไลก์แชร์ข่าวปลอมเจอ พ.ร.บ.คอมฯข่าวการเมืองเลือกตั้งstd46428• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสอท.ทลายรัง ทําของปลอมเครื่องสําอาง ขาย “ว่อนเน็ต”ตำรวจ บช.สอท.ร่วมกับ อย.ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางเถื่อนที่ จ.สงขลา พร้อมของกลางลอตใหญ่ อ้างสรรพคุณ “เปลี่ยนผิวดำตามกรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวสดใสภายใน 7 วัน” ขายว่อนทางออนไลน์ ขณะที่ อย.เตือนชาวบ้านอย่าซื้อมาใช้ เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบ ตำรวจบุกทลายเครื่องสำอางเถื่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบผลิต และจำหน่ายเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ สารเคมี และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบพบการโฆษณาเกินจริงของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “ดีเอ็น ออร่า ไวท์ บอดี้ โลชั่น” เลขที่ ใบรับจดแจ้ง 11-1-6300052215 ทางสื่อออนไลน์และอีมาร์เกตเพลสเป็นจำนวนมากด้วยข้อความ เช่น “เปลี่ยนผิวดํากรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวใสใน 7 วัน” เป็นข้อความที่แสดงสรรพคุณเกินขอบข่ายความเป็นเครื่องสำอาง และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ตรวจสอบพบว่า เครื่องสำอางดังกล่าวยกเลิกเลขที่ใบรับจดแจ้งแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 พล.ต.ท.กรไชยกล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนทราบแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ยี่ห้อดังกล่าว นำหมายค้นเข้าบ้านพักใน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา อยู่กลางสวนยางพาราใช้เป็นสถานที่ลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมจำนวนหลายยี่ห้อ เช่น ยี่ห้อดีเอ็น (DN) ยี่ห้อใหม่ (MAI) ยี่ห้อเคที (KT) ตรวจยึดของกลางผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 460 ชิ้น ยาคีโตโคนาโซล 240 กล่อง บรรจุภัณฑ์เปล่ากว่า 10,000 ชิ้น เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ครีมรอบรรจุ และฉลากสติกเกอร์ รวมมูลค่าของกลางกว่า 300,000 บาท และนําตัวอย่างของกลางส่งตรวจหาสารต้องห้ามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายiiipunykaaa• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“อาหารเสริม” กินเมื่อไร อย่างไร ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด“อาหารเสริม” กินเมื่อไร อย่างไร ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุดMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสำนักจุฬาราชมนตรีห้าม กัญชง กัญชา เป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตทางศาสนาอิสลาม จริงหรือประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี ไม่รับรองฮาลาล การใช้วัตถุดิบกัญชง กัญชา เมล็ดกัญชง กัญชา น้ำมันจากเมล็ดกัญชง กัญชา โปรตีนจากเมล็ดกัญชง กัญชา และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเมล็ดกัญชง กัญชา มาใช้ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ฮาลาล ไม่เป็นที่อนุญาตฮารอม (สิ่งต้องห้าม) ไม่สามารถรับรองให้เป็นผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้ยาสมุนไพรภาคใต้ชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทำไมต้องมี โควต้า เข้าเรียนมหาวิทยาลัยหลัก ๆ ของรัฐ สำหรับนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลาม 3 จว.ชายแดนใต้จากประเด็นโควต้าให้มุสลิมในประเทศไทย เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาล 9 แห่ง โดยไม่ต้องสอบเข้า สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า นักศึกษาที่นับถืออิสลามในจังหวัดชายแดนใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้โควต้าทุนเข้าศึกษาต่อใน ม.รัฐ ระยะที่ 10 ปี 62-66 แต่ต้องผ่านการสอบข้อเขียน หรือสอบสัมภาษณ์ตามกระบวนการปกติภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle5 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ที่ นาย ยุทธพงศ์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อ้างถึงเรื่องเรือดำน้ำที่กองทัพเรือเสนอกับรัฐตามที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียรส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อ้างถึงเรื่องการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่าเอกสารลงนามจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น ไม่ใช่สัญญา รัฐต่อรัฐ แต่เป็นเพียงเอกสารข้อตกลง และสัญญาที่ลงนามเป็นเพียงการจัดซื้อเรือ 1 ลำเท่านั้นPinjutha Ratchatamethawin• 5 ปีที่แล้ว4 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคถูกมัดมือชก ! จุดจบของไลฟ์สไตล์แสนสบายด้วยเงินอุปถัมภ์ [The End of Millennial Lifestyle Subsidy] ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมานะครับ ถ้าผมอยากนั่งรถไปสยาม ผมก็เอาโทรศัพท์ ออกมาเรียก Grab ราคา 120 บาทไม่เกินนี้ ผมได้ไปสยามละ แต่วันนี้ถ้าผมลองเรียก Grab ไปสยาม ราคามันไม่ใช่ 120 ละ แต่มันขึ้นไปถึง 220 บาท และ ไม่ใช่แค่ Grab นะครับ มีอีกหลายบริษัทที่ ถ้าคุณตื่นเช้ามาเรียก Lineman มาส่งอาหารเช้า ตอนสายๆ นั่ง Grab ไปทำงานที่ออฟฟิศ WeWork ตอนเที่ยงคุณเรียก Foodpanda มาส่งอาหารกลางวันให้คุณ ตอนบ่ายๆ เบื่อๆเข้าไปซื้อของใน Shopee แล้วก็ซื้อคริปโตต่อใน Bitkub เลิกงานเสร็จไปเล่น Jetts Fitness ตกเย็นนั่ง Gojek กลับบ้าน มานอนดู Netfilx จนหลับไป ชีวิตแสนสะดวกสบาย ราคาถูกของคุณ วันนี้ได้มาถึงจุดจบแล้ว เพราะเงินที่อุปถัมภ์ไลฟ์สไตล์ของเราทุกคน มันได้หมดลงแล้ว คุณแค่สงสัยไหมครับ ว่าทุกครั้งที่คุณสั่งอาหารผ่าน Grabfood ด้วยค่าส่ง 5 บาท ทำไมพี่มอเตอร์ไซค์ใจดีอุตส่าห์ ขับรถตากฝนมาส่งอาหารให้กับคุณ เพื่อเงินแค่ 3 บาทหลังหักค่าน้ำมันแล้ว ในความเป็นจริง แล้วมันมีผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยอุปการะไลฟ์สไตล์แสนสบายของคุณนี้อยู่ ซึ่งตอนนี้มันจบลงแล้ว ผมขอใช้บริษัท Grab เป็นตัวอย่างในการอธิบายละกันนะครับ มันมีบริษัทอีกมากมายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ผมคุ้นเคยกับ Grab อยู่สิงคโปร์ตามข่าวทุกวัน เป็นบริษัทที่ใหญ่ ทุกคนรู้จัก เป็น Startup เจ้าแรกๆที่โตจนใหญ่มาก และ เป็นบริษัทที่ผมไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำธุรกิจของเขาที่สุด Grab เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้บริการเป็นแอปเรียกแท็กซี่ในมาเลเซียและสิงคโปร์ ไม่มีอะไรพิเศษเลย ตัวแอป โมเดลธุรกิจก็ลอกมาจาก Uber แต่สิ่งที่ Grab มีมากกว่าเจ้าอื่นที่ทำให้เขาโตเร็วมากคือ เงิน... และมันต้องเป็นเงินจำนวนมากมหาศาล ที่จากทั้งเจ้าของ Anthony Tan (หนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดในมาเลเซีย) และ ผู้ร่วมลงทุนอย่างบริษัท SoftBank ของนาย Masayoshi Son (คนนี้สำคัญครับ เป็นนายทุนหลักและผู้เริ่มแนวคิด Blitzscaling) และอีกมากมายหลายนักลงทุน ปรัชญาการทำธุรกิจของ Grab และบริษัทเหล่านี้คือ Growth หรือการโตของผู้ใช้ รายได้สำคัญกว่า Profit หรือกำไร เราจะขาดทุนเท่าไรก็ได้ไม่สำคัญขอแค่เราโตเร็วแรง มี Market share เยอะๆ ทุกอย่างจะโอเคเอง ซึ่งปรัชญานี้เรียกว่า Blitzscaling (มาจากคำว่า Blitzekrieg ที่แปลว่า การโจมตีคู่ต่อสู้ที่รวดเร็วของกองทัพนาซี และ คำว่า scaling ที่แปลว่า การโตของธุรกิจ) คุณคิดดูนะครับถ้าผมอยากเปิดร้านขายข้าวมันไก่ในตลาด แล้วอยากเป็นร้านเบอร์ 1 ของตลาดภายใน 30 วัน ไม่เห็นจะยากเลย ผมก็ขายข้าวมันไก่กล่องละ 10 บาทตัดราคามันทั้งตลาด ซื้อเยอะแถมส่วนลดไปอีก และที่ Grab ทำแบบนี้ได้ก็เพราะว่า เงินจากนักลงทุนในบริษัทมันหนามากๆๆ ในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ อยู่ 0.5-1% เรียกได้ว่า ต้นทุนการกู้เงินถูกมากๆ นี่เป็นเหตุผลในกองทุนใหญ่ระดับโลก อย่าง Softbank จะเอาเงินไปฝากแบงค์หรือซื้อ Bond ทำไม เอาเงินมาเท่ให้กับ Start Up เหล่านี้ดีว่า เพื่อว่าสัก 1 ใน 100 บริษัทที่ลงทุนไปก็กลายเป็นมหาบริษัทใหญ่ในอนาคต Softbank นี่ละครับตัวดี ชอบลงทุนแบบมหาศาลในธุรกิจที่มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถมีกำไรได้ในอนาคต ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมแค่อยากจะบอกว่า ผมไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจแบบนี้มากๆ ครับ มันเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ Sustainable ไร้ความยังยืน ทำให้สังคมเสียความสมดุล บริษัทอย่าง Grab ทำให้ ผู้เล่นในอดีตอย่างแท็กซี่ตายลงไป ที่สิงคโปร์ ปัจจุบันเหลือคนขับ Taxi น้อยมาก เพราะโดน Grab ดึงไปหมด และเมื่อถึงตอนนี้ Grab ไม่เหลือคู่แข่งแล้ว ก็ขึ้นราคาฟันผู้บริโภค ให้ยับไปเลย และรัฐบาลก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ทำให้ความสมดุลในระบบมันเสียไป ในปีที่ผ่านมา บริษัท 9 เท่าของรายได้ คือขายของได้ 10 บาท แต่ ต้นทุน 100 บาท หุ้นบริษัทตกไปแล้ว 80% และไม่ได้มีแค่บริษัทเดี่ยวนะครับที่เจอปัญหาแบบนี้ Shopee Lazada Wework Foodpanda Netfilx เจอกันหมด Netflix ก็เป็นอีกบริษัทครับที่คิดราคาถูกเกินจริงๆ แชร์ password กันได้ทั้งโรงเรียน ทำให้อุสหกรรมหนัง ภาพยนต์ตายไป โรงหนังตาย แล้ว เดี๋ยวก็จะห้ามแชร์ password ขึ้นราคา เห็นไหมละครับว่าอะไรที่ถูกเกินไปมันไม่ได้ดี ทำสมดุจเสียให้ไปหมด ชีวิตราคาถูกที่แสนสะดวกสบายของคุณ จริงๆแล้วที่นักลงทุนผู้หิวโหยกำไรในอนาคตคอยอุปถัมภ์อยู่ หวังว่าคุณจะเสพติดความสะดวกสบายใช้บริการของเขาในวันที่ส่วนลด ราคาแสนถูกนั้นหายไป และในปีนี้นะครับเงินอุปถัมภ์จากนักลงทุกเหล่านั้น หมดลงแล้วดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ จะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.0% จะไม่มีนักลงทุนคนไหนมาลงทุนด้วยความบ้าคลั่งเหมือนในอดีต บริษัทอย่าง Grab ก็จะต้องปรับสภาพให้เริ่มมีกำไร ทุกบริษัทที่ลดแลกแจกแถมมาเป็นเวลาหลายปีจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติ จะมาทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว และคนที่จะลำบากที่สุดก็คือผู้บริโภคอย่างผมและคุณเนี่ยละครับ #TheWalkingBackpack บทความนี้ น่าสนใจ ผู้บริโภคติดกับดัก https://www.theatlantic.com/newsletters/archive/2022/06/uber-ride-share-prices-high-inflation/661250/?fbclid=IwAR3iHBu3mh5xRQoYn1ChOQDQRmO_SG-uRAWqUpYA7tba8Ll4TCBYkxISp-sผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ"จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ" กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนคนไทยดื่มน้ำอัดลมมาก จะส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันสึกกร่อนมากที่สุด และเสี่ยงเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนตามมาได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ดีที่สุด พร้อมแปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 เพื่อสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้แก่ ฟันสึกกร่อน ฟันผุ อ้วน กระดูกพรุน และกระดูกเปราะ เนื่องจากน้ำหวานชนิดอัดลมมีกรดคาร์บอนิกค่อนข้างมาก ซึ่งสารดังกล่าวจะกีดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูก และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะร่างกายจะหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง จนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งน้ำอัดลม 1 กระป๋อง (ขนาด 325 ซีซี) มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด หากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า น้ำอัดลมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้มากที่สุด เพราะนอกจากน้ำอัดลมจะมีกรดคาร์บอนิกแล้ว ยังมีส่วนประกอบคือน้ำตาลกับน้ำ หากไม่มีการทำความสะอาดช่องปากและฟันจะก่อให้เกิดฟันผุได้ จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กเล็กอายุ 5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 75.6 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.0 และกลุ่มอายุ 15 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 62.7 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก และพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อและสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพ รวมถึงมีผลกระทบต่อการเรียนด้วย ที่สำคัญ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันที่เริ่มต้นในวัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ในวัยสูงอายุ ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับร่างกายก็คือน้ำเปล่า เพราะในน้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีและควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีการเติมน้ำตาลอีกด้วย เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในแต่ละวันเกินจำเป็นจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ควรแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน ด้วยสูตร 2 2 2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนานอย่างน้อย 2 นาที แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาช่องปากสะอาดนานที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคฟันผุในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูล : ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุดช็อค! “ธนาคารโลก”ประจานเศรษฐกิจไทย กำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะ รัฐบาลโกงยอดคนอดตาย พุ่งเกินครึ่งของประชากร 27 พฤศจิกายน 2564 ราว 40 ล้านคน (57%) คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100% ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน รัฐบาลกู้มือเติบ 7 ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น ⚫️เจ๊งทั้งประเทศ ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานผลการประเมิน ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100% โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8 ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท ⚫️หนี้ท่วมทะลุเพดาน ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3% เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า 20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35% สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563 มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง ⚫️โกง-จน-เจ๊ง ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในโลก นำไปสู่ ‘ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน’ ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน ‘ผู้นำบ้าอำนาจ’ คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม (compromise) และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้ ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง (Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่ เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ เข้าแข่งขัน ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5% แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60% อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ