1003 ข้อความ
- 1 คนสงสัยข่าวลวงโรคมะเร็งนพ.จุมพล ยังมองทิศทางของข่าวปลอมมะเร็งในปี 2564 ว่า การจะมีสมุนไพรหรืออาหารเสริมใดๆขึ้นมาอ้างสรรพคุณรักษามะเร็งยังคงเหมือนเดิม แต่วิธีการจูงใจให้ผู้หลงเชื่อเสียเงินซื้อในปัจจุบันมีรูปแบบการโน้มน้าวที่เปลี่ยนไปจากอดีตที่ผ่านมามะเร็งstd48135• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกินไข่ต้มช่วยต้านเชื้อโควิดจริงมั้ยจากที่มีการแชร์ภาพไข่ต้ม พร้อมข้อความว่า “ถ้าอยากหายจากโรคโควิด 19 ให้ทานไข่ต้มคนละฟอง ก่อน 24.00 น. มื้อนี้กินไข่ต้มต้านโควิดหน่อย” ทางกรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าการรับประทานไข่ต้มจะช่วยต้าน COVID-19 ได้ ซึ่งปกติแล้วการรับประทานไข่ต้มวันละ 1-2 ฟอง เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สามารถทำได้ แต่การรับประทานไข่ต้มจำนวนมากนั้นอาจจะส่งเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีโควิด 2019Coyi• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรคมะเร็ง” ที่สุดแห่งข่าวปลอม การหลอกลวงที่เล่นกับความหวัง9 เดือนที่ผ่านมา กับการตรวจสอบข้อมูลข่าวปลอมที่ถูกนำมาแชร์บนโลกออนไลน์ของเว็บไซต์ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง” หรือ Anti Fake Cancer News (AFCN) ซึ่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานเชิงรุกบนโซเชียลมีเดีย ประสานกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม Anti Fake News Center (AFNC) ประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้รับการตอบรับจากสังคมเป็นอย่างมาก มีประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะในหลายๆประเด็นเมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งออกมาให้ความชัดเจน ก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวบ้านได้ในทันทีstd48064• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมื่อต่างฝ่ายต่างปล่อยข่าวปลอม แล้วเราต้องรู้ทันข่าวปลอมทางการเมืองอย่างไร? [ส่องสื่อ X COFACT EP.1]เมื่อต่างฝ่ายต่างปล่อยข่าวปลอม แล้วเราต้องรู้ทันข่าวปลอมทางการเมืองอย่างไร? [ส่องสื่อ X Cofact Ep.1] 25 มกราคม 2564 กฤตนัน ดิษฐบรรจง บทความชุดนี้ได้รับความร่วมมือในการร่วมผลิตระหว่างทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ส่องสื่อ , COFACT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบข่าวปลอมในประเทศไทย และมูลนิธิฟรีดริช เนามัน (Friedrich Naumann Foundation for Freedom) ประเทศไทยผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีstd48204• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสีฟันปลอมปคบ.ร่วม อย. ทลายโกดังเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอมหลากยี่ห้อ และยาสีฟันปลอมยี่ห้อดัง มูลค่าของกลางกว่า 14 ล้านบาท พบคนจีนทำหน้าที่แพ็กส่งขายNamatsaya Srisongkram• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่น่าเชื่อถือ! ป.ป.ช.ตีตกข้อเสนอขอกันตัวพยาน 'ผู้ถูกกล่าวหารายสำคัญ' คดีแอร์บัส 10 ลำหลังจากที่ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ ได้แจ้งขอความประสงค์ขอให้ ป.ป.ช.กันตัวเองเป็นพยาน โดยแจ้งว่ามีข้อมูลสำคัญ แต่กลับไม่มีและให้การไม่เหมือนกันกับตอนเป็นพยาน ขัดกับพยานปากอื่น กรรมการ ป.ป.ช.เลยไม่เชื่อถือ ตีตกข้อเสนอขอกันตัวเป็นพยานดังกล่าวไป สำหรับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวไปแล้วว่า ในช่วงเดือน ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ สถิรชวาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.คมนาคม ,นายทนง พิทยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย และนายกนก อภิรดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัสแบบ A340-500 และแบบ A340-600 จำนวน 10 ลำ ในช่วงปี 2546-2547 ทำให้ บมจ.การบินไทย ได้รับความเสียหายชลิษา ล่องวัด• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนายแพทย์ ไรอัน ทาน กล่าวว่า “ในเมืองไทยทำการรักษาโรคเบาหวานด้วยการใช้ยาที่ไม่ทันสมัย ดังนั้นจำนวนของผู้ป่วยโรคนี้จึงเพิ่มสูงขึ้นทุกปี”จากการใช้ยาหมอของไทยไม่สามารถรักษาโรคเบาหวานได้เลย ยาพวกนี้เก่าและหมดประสิทธิภาพในทางการรักษามาหลายปีแล้ว จริงอยู่ที่ยาเหล่านี้ช่วยลดปริมาณกลูโคสในเลือด แต่มันช่วยได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น หลังจากที่ฤทธิ์ในตัวยาหมดลง ระดับกลูโคสในเลือดก็กลับมาสูงเหมือนเดิม ยาแบบนี้ต้องกินตลอดและหยุดไม่ได้ แล้วตอนนี้ที่บ้านคุณทานยาแบบนี้กันอยู่ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าในสิงคโปร์วิธีการรักษาเบาหวานแบบนี้ไม่ได้ใช้มากว่า 20 ปีแล้ว ยาที่ใช้กันอยู่ตอนนี้ที่นี่ใช้น้อยมาก เฉพาะเวลาที่จำเป็นต้องลดระดับกลูโคส และยังบอกอีกว่าในประเทศไทยมียาเหมือนกันกับที่สิงคโปร์มียาใช้รักษาจากโรคเบาหวาน ชนิดที่2 โดยในเมืองไทยยานี้ชื่อว่า "Diaprin"ยาสมุนไพรลดความอ้วนBonusplay73• 5 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย""_____ ธุรกิจขายสินค้าโดยวิธีการสมัครสมาชิก และให้สมาชิกซื้อสินค้านั้น จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ จะดูจาก ""#รายได้"" ว่า ได้มาจากอะไร ซึ่งศาลฎีกาเองก็ดูจากรายได้เช่นกัน ว่า #รายได้ที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภท ประเภทที่ 1. #รายได้จากการสมัครสมาชิก ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก และมีแนวทางการประกอบกิจการไปที่การแนะนำให้หาสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ วิธีการแบบนี้ เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ #เพราะไม่ได้เน้นที่การขายสินค้าและรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า ประเภทที่ 2. #รายได้มาจากการสมัครสมาชิก และ #การบังคับซื้อสินค้า วิธีการนี้ดูเผินๆเหมือนจะเป็นการตั้งใจประกอบธุรกิจ แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่า ไม่ได้มีเจตนาประกอบธุรกิจจริงๆ #แต่เป็นการหลอกให้ซื้อสินค้าไปเยอะๆแต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ ฉะนั้น รายได้จริงๆของเจ้าของธุรกิจ จึงไม่ใช่ผลกำไรจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง [** รายได้ของธุรกิจ จะต้องได้จากการขายสินให้คนทั่วไป ไม่ใช่รายได้จากการบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวน มากๆ / เรียกว่า ""รายได้หรือกำไรเทียม"" ] วิธีการแบบนี้เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่เช่นกัน เพราะรายได้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เกิดจากการหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ประเภที่ 3. #รายได้มาจากการาขายสินค้าทั่วไป ธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นธุรกิจทั่วๆไป คือ นำสินออกขาย ถ้าขายได้ก็ได้กำไร ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุน โดยจะไม่มีรายได้จากค่าสมาชิก หรือรายได้จากการบังคับซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #ธุรกิจที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้ เข้าลักษณะที่ 2. คือ มีสินค้าจริง แต่จะให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #แต่สินค้าจะขายไม่ได้ หรือจะขายได้น้อย #และถ้าไปดูรายได้ของบริษัทแม่จริงๆ ก็จะพบว่ รายได้หรือกำไร #มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก ส่วนสมาชิกจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อรายได้หรือกำไรของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่คนทั่วไป แต่เกิดจากการซื้ของสมาชิกเอง ก็แสดงว่า #รายได้หรือกำไรของบริษัทนั้นมีขึ้นก่อนที่จะนำสินค้าออกขายให้แก่คนทั่วไปโดยสมาชิก ดู ไทมไลน์ ดังนี้ 1. ผลิตสินค้า 2.หาสมาชิก 3. ให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมาก [** รายได้ของบริษัท] 4. สมาชิกนำสินค้าที่ซื้อไปขาย จะเห็นว่า รายได้ของบริษัท #เกิดขึ้นก่อน ที่สมาชิกจะเอาสินค้าไปขาย และเป็นรายได้ที่มาจากสมาชิกเอง วิธีการที่จะหลอกสมาชิกให้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ซื้อสินค้าในจำนวนมากๆได้นั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ""#ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์"" ธุรกิจพวกนี้จะให้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาช่วยโปรโมทธุรกิจของตนเอง "" ........ #โดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าให้เยอะขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกนำสินค้าไปขายได้ง่ายขึ้น .........."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2901/2547 วินิจฉัยว่า "" ..... ถ้ารายได้หรือผลกำไร มาจากค่าสมัครสมาชิก และจะได้มากขึ้นเมื่อสามารถชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกได้ #อันแสดงว่ารายได้หรือผลกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าหรือบริการ แต่ขึ้นอยู่กับการชักชวนหรือการหาสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ #และเมื่อรายได้หรือผลกำไรเกิดจากค่าสมัครสมาชิกไม่ได้เกิดจากสินค้าหรือบริการโดยตรง จึงต้องตามความหมายของบทนิยามคำว่า "กู้ยืมเงิน" และ "ผลประโยชน์ตอบแทน" ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ม. 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ....." ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1172/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการและธุรกิจของจำเลย #แต่จำเลยกลับไม่มีกิจการใดๆเลยที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่จำเลยโฆษณา ดังนั้น การโฆษณาชักชวนของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวง อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ....."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 326/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน กับ บริษัท อ. แต่กลับพบว่า ในขณะที่จำเลยชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้น บริษัท อ. #ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่นั้น ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัท อ.นั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัท #แต่กลับปกปิดความจริงข้อนี้เอาไว้ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ....."" #คดีตามข่าว เส้นแบ่งว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือไม่ ให้ดูจากรายได้ของบริษัท ว่า รายได้หรือกำไรมาจากการที่สมาชิกขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ หรือเป็นรายได้หรือกำไรที่ได้มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิกเอง ถ้ารายได้ของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วๆไป แต่เกิดจากการบังคับหรือหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ แบบนี้ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง โดยศาลจะถือว่า ""#รู้อยู่แล้วว่าสินค้าไม่สามารถขายได้"" และการใช้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาโฆษณานั้น #ก็ด้วยวัตถุประสงค์ให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการขายหรือช่วยให้สมาชิกขายสินค้าได้แต่อย่างใด (1) รายได้บริษัท มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก (2) การใช้ดารามาโฆษณา เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น (3) บริษัทได้รายได้ไปก่อนที่สมาชิกจะนำสินค้าไปขาย (4) พยายามชักจูงใจให้สมาชิกซื้อสินค้ามากกว่าขายสินค้าทั่วไป (5) สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาไม่ใช่เกิดจากการใช้จริง (6) บริษัทเน้นรายได้ที่จะไดจากสมาชิกเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่า สมาชิกจะขายสินค้าได้หรือไม่ (7) สุดท้ายบริษัทเท่านั้นที่มีรายได้ ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะขายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อซื้อสินค้าไป ก่อน (8) สมาชิกสนใจธุรกิจ เพราะ การโฆษณาชวนเชื่อ #ไม่ได้สนใจ #เพราะสินค้าขายดี จะเห็นว่า ธุรกิจแบบนี้ มีลักษณะที่ดูยากว่าเป็นการฉ้อโกง เพราะเขามีตัวสินค้าอยู่จริง และสินค้าเขาอาจจะดีจริงก็ได้เช่นกัน #แต่ขอให้ดูรายได้ของบริษัทว่ามาจากอะไร เพราะศาลเองก็จะดูเช่นกันว่า ถ้ามีเจตนาจะขายสินค้าหรือบริการจริงๆ ก็จะต้องเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการ #และรายได้หลักก็ควรเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการแก่บุคคลทั่วไป ไม่ใช่รายได้หลักเกิดจากการให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ รายได้หลักเกิดการการซื้อสินค้าของสมาชิก #ก็ย่อมแสดงว่า บริษัททราบอยู่ก่อนแล้ว่าสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็ทำรายได้ไม่ถึงกับที่ตนเองโฆษณา #ซึ่งในที่สุดสมาชิกก็จะขาดทุนเพราะสินค้าขายไม่ได้ อันถือว่าผิดหลักการค้าขายทั่วไป ที่จะต้อนเน้นไปที่การขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ ไม่ใช่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกซื้อสินค้าเยอะๆ _____"" #คดีโลกคดีธรรมการเงินผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลงานวิจัยเกิดโรคมะเร็งของรัสเซีย ----- รัสเซียทำอะไรชอบเปิดเผยให้โลกรู้ทุกอย่างไม่เหมือนอเมริกาที่รู้อะไรเก็บเป็นความลับหมด แล้วมนุษย์บนโลกใบนี้จะเชื่อว่าระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดของมนุษยชาติ หรือถูกอเมริกาหลอกมาตลอดว่าระบอบเขาดีสุด หรือระบอบรัสเซีย-จีนดีสุดกันแน่ ในท้ายสุดมนุษย์รุ่นต่อๆไปจะอยู่กับระบอบไหนถึงจะมีชีวิตรอดยาวนาน ไม่ใช่ผลาญทรัพย์กรธรรมชาติโลกที่ว่ายุโรปและอเมริกาผลาญจนประเทศตัวเองไม่มีอะไรเหลือ แล้วไปปล้นคนอื่นกินเข้าประเทศตัวเอง คนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะอะไร ผลงานวิจัยฯ ของรัสเซีย อ้างว่าเหตุผลการเสียชีวิตมิได้เกิดจากมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่าของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง ให้รีบปฏิบัติ 1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณจำนวนมาก เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน เซลล์มะเร็งจะแพ้ การปฏิบัติดังกล่าวดีกว่าการรักษาด้วยคีโม 3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าว อินทรีย์ 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ หายไป ท่านสามารถเลือก 1 ใน 2 วิธีนี้ หลังจากหลีกเลี่ยงน้ำตาล ที่ผ่านมา ความไม่รู้ ไม่ใช่ความผิด ข้อมูลนี้เผยแพร่มานานกว่า 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่ที่สำคัญที่สุด มันยังช้ากว่าการที่คุณไม่เคยให้ข้อมูลนี้กับทุกคนรอบตัวคุณเพื่อได้รู้เห็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโก รัสเซีย ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลนี้ กรุณาส่งต่อบทความนี้ให้กับคน ที่ท่านรักอีก 1 คน ผมเชื่อว่าแน่นอน! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับประโยชน์ และจะบันทึกไว้ ส่วน ผมได้ทำในส่วนของผมแล้ว หวังว่าท่านจะสามารถช่วยเผยแพร่ โดยการทำส่วนของคุณ กล่าวคือ 1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่าผสมน้ำตาล น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ 2. หั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้วทิ้งไว้ 20- 30 นาที แล้วค่อยดื่ม 3. มันสำปะหลัง นำไปต้ม แต่ต้องต้มด้วย เปิดฝาหม้อวิตามิน B 17 อยู่ในมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้ บ่อยครั้ง การกินมื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ - มะเร็งกระเพาะอาหาร - ผู้หญิง อย่าดื่มชาในช่วงมีรอบเดือน และ การดื่มน้ำถั่วเหลือง นั้น ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในน้ำถั่วเหลือง ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว ไม่กินอาหารในช่วง 3 ชั่วโมง ก่อนนอน หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ อย่ากินขนมปัง ในขณะที่ร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่อยู่ข้างๆ ตัวคุณ ในขณะที่คุณหลับ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ ให้ดื่มน้ำต่อเนื่องระหว่างวัน ลดช่วงกลางคืน และ อย่าดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และมีปัญหาต่อกระเพาะอาหารได้ กินอาหารที่เลี่ยนได้เล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย หลัง 17:00 น.กินอาหารให้น้อยลง ประการสำคัญอาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข ได้แก่ กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, ลูกพีช อนึ่ง การนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้เราอ่อนกว่าวัย อย่าลืม น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 5 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน anti-oxsidan รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้ การทดสอบทางคลินิก พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาวร้อน จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ที่ดี กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถึงแม้ คุณจะยุ่งแค่ไหน เมื่ออ่านข้อความนี้ของผมแล้ว ช่วยถ่ายทอดให้ผู้อื่นด้วยครับ❤ การแบ่งปัน ถือเป็นวิทยาทาน ด้วยความปรารถนาดี ผศ.ดร.ศ.สำเร็จผล #มะเร็ง #โรคมะเร็ง #มะเร็งหายได้ไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยCovid-19: มนุษย์ 12 ประเภท ตามชนิดวัคซีนที่ฉีดจาก fb : Sunt Srianthumrong Covid-19: มนุษย์ 12 ประเภท ตามชนิดวัคซีนที่ฉีด และ Mind Set คุณคือแบบใดและ "คุณพร้อมแค่ไหนสำหรับ Open Battle" ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 2021 อีก 3 สัปดาห์ เปิดเมืองเต็มที่แน่นอนครับ อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว คนมันไม่เอาแล้ว ซึ่งสถานการณ์ที่จะเกิดตามมาคือ Open Battle ระหว่างคนไทยกับไวรัสสายพันธุ์ Delta ซึ่งน่าจะดุเดือดมากในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ใครดีใครอยู่ครับ คุณพร้อมแค่ไหน และคุณกำลังทิ้งโอกาสในการอยู่รอดในสงครามหรือไม่ มาดูกันครับ มนุษย์ 12 ประเภท ประเภทที่ 1: SV-Sinovac 2 เข็ม 1.1 ได้เข็ม 3 เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะ AZ หรือ Pfizer : คุณปลอดภัยแล้วครับ 1.2 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว กำลังรอเข็ม 3 AZ, Pfizer เดือนนี้ : ดูแลตัวเองครับ เมื่อได้เข็ม 3 แล้วก็รอดยาวครับ 1.3 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว กำลังรอ Moderna: อย่ารอครับ ไปรับ AZ เข็ม 3 ภายในเดือนนี้ให้ได้ ถ้ารอ เสี่ยงมากครับ 1.4 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว และยังไม่มีแผนจะรับเข็ม 3 : รีบจอง AZ เข็ม 3 ด่วนครับ ผ่านค่ายมือถือได้ทุกค่ายเลยครับ ประเภทที่ 2: SP-Sinopharm 2 เข็ม 2.1 - 2.4 เหมือนประเภทที่ 1.1 - 1.4 ทุกประการ ยกเว้นว่าคุณปลอดภัยกว่ากลุ่ม SV ครับ เพราะ SP มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า แม้จะเป็นวัคซีนเชื้อตายเหมือนกันก็ตาม 2.5 ได้ 2 เข็มมาแล้ว ยังไม่ครบ 3 เดือน และกำลังยืนขายของ ทำงานในร้านอาหาร หรือทำงานในโรงงานที่คนเยอะ : ใส่ Mask 2 ชั้นครับ และป้องกันตัวเองรอ AZ, Pfizer เข็ม 3 สิ่งที่คนพูดกันน้อยเกินไปคือ SP 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อ Delta ได้น้อยมาก แม้จะป้องกันป่วยหนักก็ตาม คุณจะเป็นผู้แพร่เชื้อชั้นดีของไวรัสครับ ผมคิดว่านโยบายฉีด SP 2 เข็มให้คนทำงานเพื่อเปิดเศรษฐกิจ เป็นนโยบายที่ไม่ดีเลย มัน Save ลูกจ้าง แต่ไม่ Save กิจการ และไม่ Save คนมาใช้บริการด้วยครับ ประเภทที่ 3: AZ 3.1 เพิ่งได้ AZ มา 1 เข็ม รอเข็ม 2 เดือน พ.ย. : กลุ่มนี้ในกทม.มีเยอะมาก ขอให้รอแบบ Save ตัวเอง ได้เข็ม 2 เมื่อไหร่ถึงจะปลอดภัยครับ 3.2 ได้ AZ มาแล้ว 2 เข็ม : ปลอดภัยแล้วครับ 3.3 ได้ AZ 1 เข็ม และ Pfizer เข็ม 2 : ปลอดภัยแล้วครับ ประเภทที่ 4: Pfizer 2 เข็ม 4.1 ได้ 2 เข็มมาแล้ว ยังไม่ครบ 6 เดือน : ยังปลอดภัยครับ แต่ควรมีแผน Pfizer เข็มที่ 3 เร็วๆนี้ 4.2 ได้ 2 เข็มมาแล้ว เกิน 6 เดือน : ไม่ปลอดภัยแล้วครับ ต้องฉีดเข็ม 3 โดยด่วน แล้วจะปลอดภัยมาก ประเภทที่ 5: Moderna 5.1 รอเข็มแรก และจะรอต่อไป : เปลี่ยนใจเถอะครับ ไม่ทัน Open Battle จริงๆครับ ขอให้รีบไปจอง SV + AZ ยกเว้นว่า คุณจะ WFH ต่อใน Safe House ได้อีก สัก 2 เดือนครับ แต่ผมว่าเสี่ยงมากๆเพราะคนรอบตัวคุณจะไม่มีใครทำ Social Distancing ละ 5.2 ไม่รอละ จะไปจอง SV + AZ: เยี่ยมครับ ขอให้ได้คิวภายในเดือนนี้นะครับ แล้วจะปลอดภัย ประเภทที่ 6: SV+AZ เท่าที่เราใช้สูตรนี้มาพักใหญ่ เชื่อได้ว่า คุณน่าจะปลอดภัยแล้วครับ และสูตรนี้ยังเป็น Lifeboat ให้กับคนที่รอ Moderna แล้วมันไม่มาด้วยครับ ประเภทที่ 7: อายุ 12 -18 และไม่เอาวัคซีนจีน ฉีด Pfizer 2 เข็มครับ แล้วไปโรงเรียนไปใช้ชีวิตได้เลย ปลอดภัยมากครับความเสี่ยงเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีครับ แต่ต่ำมาก และในอเมริการักษาหายทุกคนครับ ประเภทที่ 8: อายุ 12 -18 และไม่เอาวัคซีนอเมริกา อยู่บ้านยาวครับ ห้ามไปโรงเรียน ถ้าไปเมื่อไหร่ก็ ติด Covid แน่นอนครับ เพราะ Herd Immunity ไม่มีวันเกิดขึ้นเร็วๆนี้แน่นอน เตรียมรับผลระยะยาวจาก Long Covid ได้เลยครับ และ mRNA ของจีนจะยังไม่มาในเร็วๆนี้ แต่มีอีกทางเลือกครับ รอลุ้นว่าจะได้ฉีด Sinopharm เมื่อไหร่นะครับ แต่ต้องทราบไว้ว่า SP ประสิทธิภาพในการกันติดเชื้อต่ำ ไม่น่ารอดครับ แต่ลดความรุนแรงได้ ประเภทที่ 9: อายุ 12 -18 ปี และไม่เอาวัคซีน mRNA อยู่บ้านยาวครับ ห้ามไปโรงเรียน ถ้าไปเมื่อไหร่ก็ ติด Covid แน่นอนครับ รอลุ้นว่าจะได้ฉีด Sinopharm เมื่อไหร่ครับ ผมเสียดายแทนนักเรียนที่ผู้ปกครองปฏิเสธ mRNA มากๆครับ เสียโอกาสสุดๆ และอันตรายสุดๆ จะไม่รอดเอาใน Open Battle ประเภทที่ 10: อายุ 3-11 ปี เด็กประถม ป้องกันตัวเองเต็มที่ช่วง พ.ย. - ธ.ค. อย่าเพิ่งไปโรงเรียนครับ ยังไม่มีวัคซีนให้ครับในบ้านเรา เบื้องต้นรอลุ้น SP น่าจะมาก่อน จากนั้น Pfizer น่าะจะได้รับอนุมัติตามมา แต่อีกสักพักครับ ไม่ทัน Open Battle แน่นอน ยังยื่นเรื่องในอเมริกาอยู่ครับ สถานะตอนนี้ SP ใช้ได้ในจีนกับ UAE และ Pfizer ใช้ได้ในอเมริกา สำหรับช่วงอายุนี้ครับ ประเภทที่ 11: อายุ 6 เดือน - 3 ปี ป้องกันตัวเองเต็มที่ช่วงอีกยาวครับ คนรอบข้างต้องช่วยครับ ต้องรอเร็วสุดคือ Pfizer ที่กำลังจะยื่นเรื่องขอใช้ในอเมริกาเดือน พ.ย. นี้สำหรับเด็ก 6 เดือน ถึง 5 ขวบ ส่วนบ้านเราคงอีกพักใหญ่ ประเภทที่ 12: Anti Vaccine จะไม่ฉีดวัคซีนทุกประเภท ต้องทราบนะครับว่า Delta ติดต่อง่ายมาก แม้แต่ประเทศที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มทะลุ 95% แล้วก็ยังมีการระบาดเกิดขึ้น สิงคโปร์ 80% ก็ยังระบาดหนักมาก ถ้าแค่ 70% แบบเราที่จะถึงนี้ Open Battle แน่นอนครับ ระบาดหนักแน่นอน และคุณจะติดเชื้อ Delta อย่างแน่นอน และจะติดหลายรอบด้วย เพราะภูมิคุ้มกันอยู่ไม่ถึง 6 เดือน บางคนรอบแรกอาการน้อย รอบ 2 ตายก็มีครับ และสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกสูตร คือ ไม่มีอะไร 100% นะครับ การใส่ Mask และ Social Distancing จะยังสำคัญมากไปอีกอย่างน้อย 2 ปี .................. ย้ำนะครับ 1 พ.ย. 2021 D-Day เปิดเมือง และ D-Day Open Battle รัฐบาลไม่ถอยแน่นอน จังหวะนั้น ใครดีใครอยู่ครับ คุณจะสู้โดยมีอาวุธครบมือ ล้นมือ หรือจะไม่มีอาวุธสักชิ้น หรือจะหนีไปอยู่ถ้ำสัก 2 ปี ก็แล้วแต่ครับ ขอให้คิดให้ดี ศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วตัดสินใจให้ดี ในช่วง 3 สัปดาห์ที่มีค่ายิ่งนี้ ขอให้มีชีวิตรอดกันทุกคนครับ "อย่าได้ชื่อว่าต้องตายเพราะไปหลงเชื่อ Fake News" เลยครับ มันน่าเสียดายๆมากนะ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=6574290965944901&id=100000921874426Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เห็ดมีอันตรายจริงหรือคนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ? คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ? เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนโปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้ ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า วันนี้เรื่องราวที่จะมาเล่า. คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด ได้ป้องกันที่ตัวเรา ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง จากการได้คุยเปิดใจ กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ แต่ฟังจากหมอพูดว่า มะเร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงไหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน มีภรรยาที่น่ารัก แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง แล้วคุณมนัสไม้รู้หรือถึงได้เอามาขาย คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน เพื่อนบางคนถามผมว่า ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย จนมาวันนี้เหมือนกับว่า สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่ จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่ และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด แต่ละคนมีสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้ จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้ เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน เรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เพราะแบบนี้นี่เองหรือ โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทานผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ3 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยวันสิ้นโลกnasaเตรียมรับมือเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “@อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” ออกโพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “NASA เตรียมการรับมือพายุสุริยะ 2025 อย่างไรบ้าง” เช้านี้ให้สัมภาษณ์โฟนอินรายการข่าว เกี่ยวกับกระแสความกังวลเรื่องที่บอกว่า นาซากำลังจับตา “พายุสุริยะ” ว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยจะถึงจุดสูงสุดในปี ค.ศ. 2025 และคาดว่ามีโอกาสเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ที่จะทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตล่มยาวนานเป็นเดือนๆstd48324• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขู่ฟ้อง 50 ล้าน แม่นักเรียนเภสัช บริษัทกลูต้าพิสูจน์สินค้าไร้สารยาบ้านักธุรกิจสาวเจ้าของบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “กลูต้า BTO” ออกโรงชี้แจงยืนยันผลิต ภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมสารเสพติด หลังตกเป็นข่าวนักเรียนสาวสั่งซื้อไปกินแล้วตรวจร่างกายพบสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย ทำให้แพทย์ออกใบรับรอง ไปใช้เรียนต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ แม้ผลตรวจซ้ำจะไม่พบสารเสพติดแต่ข่าวที่ออกไปทำให้บริษัทเสียหายยับ ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ไปแล้วกว่า 50 ราย แจงแม่เด็ก โทร.มาพูดคุยว่าให้ต่างฝ่ายไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์กันก่อนแต่วันรุ่งขึ้นกลับไปออกข่าวใหญ่โตจนบริษัทเกือบเจ๊ง เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท แต่ยังให้โอกาสสองแม่ลูกมาเจรจากันก่อนความสวยความงามภาคอีสานผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมstd47656• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมฝาหายใน7วันความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48033• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยหักล้างข่าวลือเกี่ยวกับวัคซีนโควิดทั้งการฝังไมโครชิปและ “เปลี่ยนดีเอ็นเอ” ในคนความกังวลที่ว่า วัคซีนจะเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของคุณด้วยวิธีการบางอย่าง เป็นหนึ่งในข้ออ้างที่เราพบเห็นทางโซเชียลมีเดียมากที่สุด บีบีซี ได้สอบถามนักวิทยาศาสตร์อิสระ 3 คน เกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะไม่เปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของมนุษย์ วัคซีนที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่บางส่วน รวมถึงวัคซีนที่ได้รับการรับรองในสหราชอาณาจักร ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) ได้ใช้เศษชิ้นส่วนสารพันธุกรรมของไวรัส หรือที่เรียกว่า เมสเซนเจอร์ อาร์เอ็นเอ (messenger RNA—mRNA) "การฉีดอาร์เอ็นเอเข้าไปในคนไม่ได้ส่งผลอะไรต่อดีเอ็นเอของเซลล์มนุษย์" ศาสตราจารย์เจฟฟรีย์ อัลมอนด์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวstd48025• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกลโกงบนออนไลน์หลอกลวงเข้าเว็บไซต์ใส่ข้อมูลละแฮ็คเอาบัญชีธนาคารstd47712• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีการวางแผนในการฝังไมโครชิปลงในคน ไปจนถึงการดัดแปลงรหัสพันธุกรรมของมนุษย์มีข้อกล่าวหาว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นเพียงการปกปิดแผนการที่จะฝังไมโครชิปที่สามารถแกะรอยได้ในมนุษย์ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการนี้คือ บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์std47901• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสไปด์เดอร์เเมนโดนเเมงมุมกัดเเล้วพ้นใยได้จริงหรอสไปด์เดอร์เเมนโดนเเมงมุมกัดเเล้วพันใยได้มีมstd47886• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสเปร์ยนาโน แก้เข่าเสื่อมได้ไหมยาสเปร์ยนาโน แก้เข่าเสื่อมได้ไหมยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยหลังวันที่ 24 มีนาคม 65 แบงก์ 20 เก่าจะใช้ไม่ได้จริงหรือไม่หลังวันที่ 24 มีนาคม 65 แบงก์ 20 เก่าจะใช้ไม่ได้ภาคอีสานChalita khatawong• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสาวแชร์ประสบการณ์หลังฉีดซิโนแวค เข็ม 2 พบอาการไม่พึงประสงค์ เลือดออกในสมอง ข่าวนี้ จริงหรือไม่สาวแชร์ประสบการณ์หลังฉีดซิโนแวค เข็ม 2 พบอาการไม่พึงประสงค์ เลือดออกในสมองโควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยูเครน ประกาศชัยชนะสงครามในโลกโซเชียล แต่ยับเยินสงครามในโลกจริง วิธีการหนึ่งชาติตะวันตกที่ใช้ในการจัดระเบียบโลกคือ "ปั้นน้ำเป็นตัว" สร้างข่าวเท็จออกมา แล้วให้สื่อของตนเต้าข่าว แล้วกระจายไปยังประเทศบริวาร มีค่าจ้างให้สสื่อท้องถิ่นแต่ละประเทศ นำข่าวในทิศทางต้องการนั้นไปหลอกลวงประชาชนต่อ แต่ถ้าสื่อใดจะเสนอข่าวหลายมุมที่ชาติตะวันตกไม่ได้สั่งมา เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ สื่อนั้นก็จะถูกเล่นงานใต้ดินทันที กรณี สื่อใหญ่ตะวันตกและสื่อไทยประโคมข่าวลวงโลกว่า ประธานาธิบดีปูติน หวาดระแวงวางยาพิษ ไล่พ่อครัวและคนเกี่ยวข้องออกเกือบ 1,000 คน แต่พอไปดูต้นทางข่าวกลายเป็นเว็ปไซต์แทปลอยด์บล็อกเกอร์รัสเซีย ที่มีพฤติกรรมเต้าข่าวเป็นนิจเป็นที่เอือมระอาชาวรัสเซียมานาน และแทปลอยด์นี้เซิฟเวอร์อยู่นอกประเทศ เพราะรัสเซียมีโทษจำคุก 15 ปีสำหรับสื่อที่ปล่อยข่าวปลอม ดังนั้นบรรดาสื่อตะวันตกที่อยู่ในรัสเซีย จึงเผ่นกลับบ้านหมด กรณีสื่อใหญ่ตะวันตกและสื่อไทยประโคมข่าวลวงโลกว่า รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ถูกประธานาธิบดีปูตินดุ จนเข้าโรงพยาบาลหัวใจวายเสียชีวิต และมีนายพลรัสเซีย 6 - 7 รายถูกสังหารในสนามรบ แต่ทุกคนตามรายชื่อที่สื่อตะวันตกอ้างถึง ก็ออกมานั่งประชุมกินกาแฟกันตามปกติและแถลงข่าว ทางสื่อตะวันตกและสื่อไทยที่หน้าแตกก็จะเขินเงียบไปดื้อๆ ไม่แสดงความรับผิดชอบขออภัยใดๆ ทั้งที่ระบุชื่อพวกเขาว่าเสียชีวิต กรณีสื่อใหญ่ตะวันตกและสื่อไทยประโคมภาพและข่าวว่ากลาโหมยูเครน เผยแพร่คลิปยิงเครื่องบินรบ และเฮลิปคอปเตอร์กองทัพรัสเซียตกเป็นใบไม้ร่วงนั้น แท้จริงแล้วคือภาพจากเกมส์สงครามแอนิเมชั่นชื่อ Arma3 ที่เจ้าของผู้ผลิตเกมส์ออกมายืนยันทุกครั้งที่กลาโหมยูเครนเผยแพร่คลิป ว่าคือภาพจากเกมส์คอมพิวเตอร์ของเขา ไม่ใช่เหตุการณ์สงครามจริง กรณีสื่อใหญ่ตะวันตกและสื่อไทยประโคมภาพและข่าวครึกโครมว่ากองทัพยูเครน ใช้ระบบจรวดหลายลำกล้อง BM-21 Grad ยิงถล่มเรือคอร์เวต Project 22160 Vasily bykov ของ กองทัพรัสเซีย ขณะลอยลำใกล้ชายฝั่งจนจมไปที่ก้นทะเลนั้น ในความจริงเรือลำดังกล่าวเป็นเรือปลดระวางแต่นำมาใช้ขนยุทโธปกรณ์ทางทหาร ปัจจุบันก็ยังปกติดี และก็กำลังแล่นไปมาที่ฐานทัพเรือ Sevastopol ในแหลมไครเมีย กรณีสื่อใหญ่ตะวันตกและสื่อไทยประโคมภาพและข่าวว่ากองทัพรัสเซีย ยิงจรวดใส่บ้านเรือนประชาชนยูเครน ตกทะลุหลังคาและฝ้าเพดาน ลงไปปักในห้องครัว โดยไม่ระเบิด อุปกรณ์ทำอาหาร ขวดไม่แตกนั้น ความจริงภาพนี้เป็นเหตุการสงครามที่จอร์เจีย เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน กรณีที่ทำประจำคือสื่อตะวันตกและสื่อไทย ประโคมข่าวทุกวันว่า กองทัพรัสเซีย ปิดล้อมเมืองไม่ให้ประชาชนออกมา ทิ้งระเบิดโรงเรียน โรงพยาบาล โรงละคร มีเด็กเสียชีวิตดรามาทำนองนี้ ก็ล้วนลวงโลกทั้งสิ้น เพราะมีสื่อใหญ่ออสเตรเลีย ส่งนักข่าวไปทำข่าวภาคสนามในพื้นที่สื่อตะวันตกอ้าง ในยูเครน โดยได้ไปดูหน้างานจริงโรงเรียนเป้าหมายที่ไม่มีนักเรียนมาเรียน “พบว่าโรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างเป็นค่ายกองกำลัง Azov นีโอนาซีขนาดใหญ่..กองทัพยูเครนได้ใช้โรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารสาธารณะ ดัดแปลงเป็นค่ายทหารส่งผลให้โดนถล่มหมด ด้านนายเซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน และพรรคพวกก็ไม่ได้อยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน มากว่าเดือนแล้ว เนื่องจากเสื้อผ้าที่เขาใส่นอกอาคารเปิดโล่งเป็น "เสื้อยืดแขนสั้นตัวเดียว เป็นสถานที่ประเทศภูมิอากาศค่อนข้างอบอ้าว" ขัดกับความจริงในกรุงเคียฟ ที่มีสภาพอุณหภูมิหนาวเย็นมาก ชาวบ้านต้องใส่เสื้อกันหนาวหนา โดยผู้นำยูเครนไม่เคยปรากฎตัวทางสาธาณะต่อประชาชนยูเครนมานานกว่า 1 เดือนแล้ว แม้ว่าจะมีสื่อตะวันตกและสื่อไทย จะประโคมภาพเขาไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมา โดยในภาพมีคุณหมออินน่า เดรุสโซ เดินคู่มากับผู้นำยูเครนด้วย แต่เนื่องจากหมออินน่า ได้เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ระหว่างที่ไปช่วยทหารบาดเจ็บ และผู้นำยูเครน ก็เป็นคนมอบเหรียญกล้าหาญให้กับศพคุณหมอไปตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.65 แล้ว ดังนั้นคุณหมออินน่า เดรุสโซ จึงไม่อาจฟื้นคืนชีวิต กลับมาเดินกับผู้นำยูเครนในโรงพยาบาลในวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมาได้อีก ล่าสุดนายเซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน "ในโลกโซเชียล" ก็ตัดพ้อ NATO ว่า “ยูเครนไม่สามารถสู้ขีปนาวุธของรัสเซียด้วยปืนลูกซองและปืนกลได้”..สงสัยเขาจะลืมประกาศชัยชนะให้ยูเครน แต่เดี๋ยวสื่อตะวันตกและสื่อไทยคงประกาศให้เอง 😂😂 ที่มา : กลาโหมรัสเซีย , RT, ABC News, สื่อท้องถิ่นยูเครน #WorldUpdateไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยยารักษาโรคมะเร็งหายขาดยารักษาโรคมะเร็งให้ไม่มีเชื้อ หายขาดจากมะเร็ง เป็นยาช่วยทำให้คนมีเรี่ยวมีเเรง โดยไม่ใช้เคมีgreen.immek• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชัชชาติ สิทธิพันธุ์ : สำรวจงบ กทม. ไปไหน ท่ามกลางดราม่า “งบเหลือ 94 ล้าน”นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รับข้อมูลผ่านสาธารณะว่างบลงทุนของ กทม. เหลืออยู่เพียง 94 ล้านบาท ในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ถึงกระนั้นทั้งผู้ว่าฯ และปลัด กทม. ต่างยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะ กทม. มีเงืนสะสมนับหมื่นล้านบาท ปัญหางบประมาณของ กทม. ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังจากนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ออกมาเปิดประเด็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาเมื่อ 1 มิ.ย. โดยแจกแจงรายละเอียดของงบประเภทต่างๆ ก่อนสรุปว่า กทม. มีงบประมาณรายจ่ายเหลือเพียง 94 ล้านบาท "ด้วยเหตุนี้ ในปีงบประมาณ 2565 ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ คงไม่สามารถนำนโยบายที่ใช้หาเสียงมาทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้มาก" ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. เจ้าของนโยบาย 214 ข้อ กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เพราะเชื่อว่ามีเงินยังไม่ได้จ่ายเหลืออยู่ และยังมีเงินสะสมของ กทม. เป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งให้สภา กทม. อนุมัติได้ อีกทั้งนโยบาย 214 ข้อ ก็ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานว่าใช้เงินเยอะ หลายเรื่องเดินได้โดยไม่ต้องใช้เงินข่าวการเมืองTulakarn Loyhar• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขอเชิญร่วมลงชื่อคัดค้าน และเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท และร่วมร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจ ดำเนินการส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ข้าพเจ้า วิรังรอง ทัพพะรังสี ได้ทำการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วตามรายละเอียดด้านล่างนี้ หากท่านเห็นด้วยกับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว และต้องการเป็นผู้หนึ่งในการร่วมคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท โปรดสนับสนุนด้วยการร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มนี้ค่ะ https://forms.gle/4fuBV1WFaHWn2HUn9 ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมลงชื่อ ขออนุญาตรวบรวมชื่อของท่าน เพื่อส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ ขอบกราบขอบพระคุณคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่านที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” และขออนุญาตนำแถลงการณ์นำส่งเป็นเอกสารแนบยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมถึงเหตุและผลที่ควรยกเลิกนโยบายดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก ข้าพเจ้าไม่อาจทราบว่าที่กระทำไปนี้จะได้ผลอย่างไรหรือไม่ เพราะรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีนสิน ดูจะเดินหน้าไม่ฟังเสียงประชาชนเลย คิดว่าคงทำได้ตามกำลังเพียงเท่านี้ แต่ก็รู้สึกดีกว่าการที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย....... วิรังรอง ทัพพะรังสี ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ _________________________ ที่ ๐๔/ ๒๕๖๖ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง ร้องเรียนนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน ๑ ฉบับ ๒. แถลงการณ์ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงิน ดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท กราบเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนว่า รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน มีนโยบายแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้กับประชาชนทุกคนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปเพื่อกระตุ้นการบริโภค และได้มีผู้ที่มีความรู้ตลอดจนประชาชนจำนวนมาก ออกมาคัดค้านแสดงความไม่เห็นด้วย และขอให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันที่จะเดินหน้าต่อไป ล่าสุด เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน รวมทั้งอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ๒ ท่าน คือ นางธาริษา วัฒนเกส และนายวิรไท สันติประภพ ได้ร่วมกันลงชื่อในแถลงการณ์ เห็นพ้องต้องกันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะเป็นนโยายที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” โดยให้เหตุผลประกอบอย่างละเอียด (เอกสารแนบ ๒) ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ข้าพเจ้า นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง มีความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายที่จะสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรมในสังคมให้เกิดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเศรษฐีและมหาเศรษฐี ที่อายุเกิน ๑๖ ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือด้วยทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังห่วงใยว่า นโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง แต่เป็นการสร้างหนี้จำนวนสูงมากโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจจะส่งผลทำลายเสถียรภาพทางด้านการคลังของประเทศในระยะยาว โดยประชาชนทั้งประเทศจะต้องแบกรับความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับกรณีโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านกฎหมาย รัฐบาล โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงในวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๖ ว่าการจ่ายเงินดิจิทัล สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แม้รัฐบาลจะประกาศว่า “เงินดิจิทัล” ที่จะออกมาตามโครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” นั้น จะไม่ใช่การออก “คริปโตเคอร์เรนซี” ซึ่งจะไม่สามารถทำได้ เพราะจะผิดตาม พ.ร.บ.เงินตรา ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย “หนึ่งประเทศจะมีสองสกุลเงินไม่ได้” แต่จะออกมาในรูปแบบเหรียญ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภท “ยูทิลิตี้ โทเคน (Utility Token)” ซึ่งจะเป็น “โทเคน” เพื่อการอุปโภคบริโภค จึงไม่ได้เป็นการสร้างสกุลเงินใหม่ และไม่ใช่กรณีเดียวกับ Bitcoin Luna หรือ USDT แต่เป็นเหรียญ คูปอง หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภทยูทิลิตี้ โทเคน จะเป็นเหรียญ หรือจะเป็นคูปอง แต่เมื่อออกโดยรัฐบาล และประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าได้แทนเงินสดกับร้านค้าได้ทั้งหมด เช่น ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อ ห้างแม็คโคร รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าจะแตกต่างกับการใช้เงินตราตรงไหน เหตุใดจึงไม่แจกเป็นเงินสดเข้ากระเป๋าสตางค์ให้แก่ประชาชนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องยุ่งยาก ร้านค้าที่รับก็ไม่ต้องลำบากในการนำไปแลกคืนกับรัฐบาลเพื่อรับกลับมาเป็น “เงินบาท” ข้าพเจ้ามีความสงสัยว่า ลักษณะของเหรียญ หรือคูปอง ที่รัฐบาลจะนำออกมาใช้นี้ อาจเข้าข่ายเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง และเมื่อมีสภาพเป็นเงินตราก็จะเข้าบังคับพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑ เนื่องด้วย “.....ตามเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย “ยูทิลิตี้ โทเคน จะสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้า และการบริการต่างๆ แบบเฉพาะเจาะจง ภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ต้องไม่มีลักษณะเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง ในลักษณะของการใช้แทนเงิน (Means of Payment: MOP) เป็นการทั่วไป ดังนั้น จึงอาจจะต้องพิจารณาให้ดีว่า การใช้โทเคนดังกล่าวในการซื้อสินค้า และบริการกับร้านค้าทั่วประเทศ อาจจะเข้าข่ายเป็น “การชำระในลักษณะการเป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง” หรือ การใช้แทนเงิน ซึ่งจะผิดกฎเกณฑ์ของทางธนาคารแห่งประเทศไทย.....” ที่มาของข่าวและข้อมูล: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7856583 https://www.thairath.co.th/money/experts_pool/columnist/2721853 สุดท้าย แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่ตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน และไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินตามที่มีผู้กล่าวอ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีเงินสดที่จะแจกให้กับประชาชนได้ การแจกเงินก็ควรจะสามารถทำได้ตรงๆ เหมือนสมัยที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแจกประชาชนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยและใช้เป็นอยู่แล้ว แต่การที่รัฐบาลไม่แจกเป็นเงิน ทำให้เกิดเป็นเรื่องยุ่งยากที่ถกเถียงกันในสังคมทั้งด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและด้านกระบวนการปฏิบัติ ยังไม่รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการชำระเงินดิจิทัล สร้างแอปพลิเคชันในการชำระเงิน และสร้างบล็อกเชนใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนและระยะเวลาจำนวนมาก สังคมจึงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติในภาพรวม แต่อาจเป็นการหลบเลี่ยงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ และขัดต่อวินัยการเงินและการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยประเทศชาติ จึงได้ส่งหนังสือร้องเรียนนี้มากราบเรียนขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน วินิจฉัย หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ากระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร ต่อไป ขอแสดงความนับถือ นางวิรังรอง ทัพพะรังสีข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ