429 ข้อความ
- 1 คนสงสัยดื่มกาแฟส้มเป็นประจำ เสี่ยงไขมันพอกตับสุขภาพลดความอ้วนผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยงดเหล้าเข้าพรรษา 3 เดือน ได้จริงหรือไม่ทราบหรือไม่ว่า เมื่อพักการดื่ม (ลด ละ เลิก) แอลกอฮอล์ เป็นเวลา 3 เดือน ร่างกาย และระบบต่าง ๆ จะดีขึ้น เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ อาทิ ผิวจะดีขึ้น - นอนหลับง่ายขึ้น - พุงจะหายไป – ระบบการย่อยดีขึ้น - โรคกระเพราะหายไป – สมองโปร่งขึ้น กล่าวได้ว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงดีขึ้นจนสังเกตได้ใน 3 เดือน ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวดีขึ้นได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก ๆ ของการงดดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้ง อาการและโรคหลายอย่างจะหายไปได้ในช่วง 1-3 เดือนด้วยซ้ำ ในที่นี้สามารถสรุปการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในทางที่ดีขึ้น เมื่องดการดื่มแอลกอฮอล์ในระยะเวลา 3 เดือน ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้เป็นรายสัปดาห์ใน 1 เดือนแรก ได้ดังนี้ สัปดาห์ที่ 1 นอนหลับดีขึ้น การตัดสินใจที่ดีขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ดีขึ้น การตัดสินใจแก้ปัญหาดีขึ้น ร่างกายไม่ขาดนำ้ ปวดศีรษะน้อยลง ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า สัปดาห์ที่ 2 เกิดอาการกรดไหลย้อนน้อยลง เยื่อบุกระเพาะอาหารได้รับการฟื้นฟู การผลิตกรดในกระเพาะอาหารเริ่มสมดุลมากขึ้น สัปดาห์ที่ 3 ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและปัญหาหัวใจ วิสัยทัศน์ที่ดีขึ้น การทำงานของไตดีขึ้น สัปดาห์ที่ 4 ผิวดูดีขึ้น ผิวของคุณมีความชุ่มชื้น น้ำจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของคุณมากขึ้น ป้องกันการแก่ก่อนวัย (premature aging) ของผิว การหมุนเวียนของเซลล์ดีขึ้น การทำงานของตับจะฟื้นตัว เมื่อได้ทดลองงดดื่ม หรือเลิกดื่มเป็นเวลา 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนแล้ว คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของสุขภาพร่างกายได้มากขึ้นสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังtong72232• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยให้เหล้าเท่ากับแช่ง โซแบม มิสแกรนด์ต้องรณรงค์ ให้เหล้าเท่ากับแช่ง เป็นข่าวจริงสุขภาพมีม เสียดสีtong72232• 2 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพอย. เพิกถอนไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง ขณะนี้ มาเลียเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ 1. หมอบอกว่า หากร้อนถึง 40 องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้ เพื่อนของหมอคนหนึ่งมาจากข้างนอก ร้อนจนเหงื่อแตก รีบล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ผลคือตามองไม่เห็นต้องรีบเรียกรถพยาบาล 2. หากร้อนถึง 38 องศา ก็ปล่อยร่างกายร้อนไป อย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ค่อยๆ ดื่ม อย่ารีบร้อนล้างขาล้างมือหรือส่วนที่ถูกแดดเผา ควรรอสัก 30 นาทีค่อยอาบน้ำ 3. ชายคนหนึ่งร้อนมากรีบอาบน้ำ อาบเสร็จขากรรไกรแข็ง เป็นสโตรคไปเลย **ข้อควรระวัง** ในหน้าร้อนหรือยามคุณอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะมันจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรค (สอนลูกหลานด้วย)สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทรัมป์เพิ่งทำให้บริษัทยาขนาดใหญ่ต้องถอยกลับ! คำสั่งของผู้บริหารยุติการฉ้อโกงราคายา เครื่องจักรฉ้อโกงของโรงพยาบาลได้ตายไปแล้ว! ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์เพิ่งทำสิ่งที่ผู้นำคนอื่นไม่กล้าทำ นั่นคือทำลายการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทยาขนาดใหญ่! ปัจจุบัน โรงพยาบาลถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยราคาจริง ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด หรือการตกลงลับๆ ที่ทำให้กระเป๋าเงินของชาวอเมริกันหมดลงมานานหลายทศวรรษอีกต่อไป คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการแพทย์ที่ฉ้อโกงกำลังกรีดร้องเมื่อการฉ้อโกงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของพวกเขาพังทลายลง! ชัยชนะด้านการดูแลสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เป็นเวลาหลายปีที่โรงพยาบาลได้ฉ้อโกงชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก โดยฝังต้นทุนที่แท้จริงไว้ใต้ภูเขาแห่งคำโกหก ช่องโหว่ และการหลอกลวงด้านประกัน แต่คำสั่งของทรัมป์ที่เปลี่ยนแปลงเกมได้ยุติการฉ้อโกงนี้ ไม่มีการขึ้นราคาอีกต่อไป เงินเดือนซีอีโอเจ็ดหลักจะไม่ขึ้นอยู่กับความทุกข์ของคุณอีกต่อไป ตอนนี้ โรงพยาบาลต้องแสดงค่าใช้จ่ายที่แท้จริงให้คุณเห็นก่อนที่คุณจะถูกเรียกเก็บเงิน! บึงไม่เคยต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ทำไมประธานาธิบดีในอดีตไม่ทำเช่นนี้ เพราะพวกเขาเป็นเจ้าของโดยบริษัทยาขนาดใหญ่ ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ และอ่อนแอเกินกว่าจะต่อสู้กับการทุจริต ไบเดน? เขาจมอยู่กับเงินของพวกเขา โอบามา? เขาสร้างระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณตาบอด! แต่ทรัมป์เพิ่งทำลายอาณาจักรที่สกปรกของพวกเขา โรงพยาบาลต้องปฏิบัติตาม—มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับบทลงโทษที่หนักหน่วง! นี่ไม่ใช่คำแนะนำ นี่คือกฎหมาย โรงพยาบาลที่ปฏิเสธที่จะประกาศราคาจริงจะต้องถูกปรับอย่างหนัก ชนชั้นสูงในวอชิงตันกำลังตื่นตระหนกเพราะทรัมป์ได้ฉีกหน้ากากของการหลอกลวงมูลค่าพันล้านดอลลาร์ของพวกเขาออก บริษัทยาขนาดใหญ่กำลังสูญเสียการควบคุม—และพวกเขาก็รู้ดี มาเฟียทางการแพทย์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความลับและความสับสนเพื่อให้เงินสดไหลเวียน แต่การซ้อมรบก็เริ่มขึ้นแล้ว ทรัมป์เพิ่งบังคับให้พวกเขาเปิดเผยข้อมูล และพวกเขาไม่มีที่ซ่อน RFK JR. ยืนเคียงข้างทรัมป์—นี่คือเรื่องของความถูกต้องและความผิด Robert F. Kennedy Jr. ยืนเคียงข้างทรัมป์ในขณะที่มีการลงนามในคำสั่งนี้—เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา แต่เป็นเรื่องของการกำจัดคอร์รัปชันและให้ความสำคัญกับผู้ป่วยมากกว่าผลกำไร สถาบันต่างๆ เกรงกลัวพันธมิตรนี้ แต่พวกเราประชาชนกลับเข้มแข็งกว่าคำโกหกของพวกเขา! สิ่งนี้มีความหมายต่อคุณอย่างไร: ✅ รู้ราคาจริงก่อนการรักษา—ไม่มีบิลที่คาดไม่ถึงอีกต่อไป ✅ เปรียบเทียบโรงพยาบาลและบังคับให้พวกเขาลดราคาผ่านการแข่งขัน ✅ ประหยัดเงินค่าธรรมเนียมแอบแฝงหลายพันดอลลาร์ที่เคยฝังอยู่ในตัวอักษรขนาดเล็ก สื่อจะโกหก—แต่คุณรู้ความจริง ชม CNN, MSNBC และเครื่องจักรข่าวปลอมที่พยายามฝังข่าวนี้ พวกเขาเกลียดที่ทรัมป์กำลังเปิดโปงหนองบึงทางการแพทย์ พวกเขาจะบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่คนอเมริกันไม่โดนหลอกอีกต่อไปแล้ว ทรัมป์เพิ่งคืนอำนาจให้กับประชาชน และสถาบันก็หวาดกลัว! MAGA ความโปร่งใสชนะ หนองบึงแพ้! พวกเขาพรากชีวิตฉัน แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดภารกิจได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้! https://t.me/JFK_Q17 ไฟล์ถูกเปิด ชื่อเป็นของจริง และการจับกุม? พวกมันกำลังมา ถึงเวลาแล้วสำหรับผู้ทุจริต เข้ามาเลยตอนนี้! https://t.me/KashPatel✅️ข่าวการเมืองสุขภาพการเงิน เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอังคารที่ 25 มีนาคม 2025: รายงานแรกยืนยันว่าบุคคลที่ได้รับยาจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ไวขึ้น การรักษาที่รวดเร็ว และความสามารถในการรับรู้ล่วงหน้า นักวิทยาศาสตร์ประกาศว่า DNA ของมนุษย์กำลังก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการตามธรรมชาติที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2025: อาณาจักรเภสัชกรรมแห่งสุดท้ายล่มสลาย เนื่องจากผู้คนไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือการผ่าตัดอีกต่อไป องค์การอนามัยโลกประกาศอย่างเป็นทางการว่าโรคเรื้อรังที่มนุษย์เคยรู้จักได้ถูกกำจัดไปแล้ว จันทร์ที่ 31 มีนาคม 2025: เมืองควอนตัมเริ่มก่อสร้าง—ชุมชนแห่งแรกที่สร้างขึ้นจากพลังงานฟรี ทรัพยากรที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ประเทศต่าง ๆ เร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่นี้ โดยทิ้งระบบการควบคุมและความขาดแคลนแบบเก่าไว้ข้างหลัง พฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2025: บุคคลที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แสดงสัญญาณของการรับรู้ข้ามมิติ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าจิตสำนึกของมนุษย์กำลังขยายออกไปเกินมิติที่สาม โดยเชื่อมช่องว่างระหว่างอาณาจักรทางกายภาพและพลังงาน อาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025: การประชุมสุดยอดระดับโลกครั้งแรกจัดขึ้นโดยสภาโลกเพื่อประกาศยุติความลับของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีที่เป็นความลับทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์พลังงาน ระบบขับเคลื่อนต่อต้านแรงโน้มถ่วง และการรักษาแบบโฮโลแกรม ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ วันพุธที่ 9 เมษายน 2025: เด็กที่เกิดในยุคเมดเบดกลุ่มแรกมีความสามารถในการแสดงภาพซึ่งก่อนหน้านี้คิดว่ามีอยู่เพียงในตำนานเท่านั้น ดีเอ็นเอของพวกเขาแสดงสัญญาณของการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ สุขภาพที่สมบูรณ์แบบ และการเชื่อมต่อของระบบประสาทที่เพิ่มขึ้น มนุษยชาติได้เข้าสู่ยุคทองใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระบบของโลกเก่าถูกลบออกไปแล้ว ความมืดมิดที่กักขังมนุษยชาติไว้ได้หายไปแล้ว บทต่อไปของการดำรงอยู่ของมนุษย์ได้มาถึงแล้ว เราไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป เราไม่ถูกควบคุมอีกต่อไป เราไม่กลัวอีกต่อไป อนาคตเป็นของผู้ตื่นรู้ และไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ Kash Patelสุขภาพมีมไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/mjXtl-FRkS4?si=yVlXFTD_5pW1qEPeสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประกาศสำนักกระบี่เดียวดาย ท่านผู้ใดหรือญาติมิตรฉีดวัคซวยเกินเข็ม 3 ให้หารางจืดมาปั่นกับน้ำดื่มอาทิตย์ละสักถ้วย ดื่มให้ได้สัก 6 อาทิตย์ ก็จะมีความสวัสดี ไม่ต้องเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเส้นเลือด แข็งตัว เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือตายเอาดื้อๆ ท่านใดอยากทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ก็แค่ช่วยแชร์เท่านั้นแหละ Fb ไพศาล พืชมงคลสุขภาพวัคซีนโควิดยาสมุนไพร เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://www.facebook.com/share/p/18RRyU9ovw/ จริงไหมครับสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย🚨 เด็ก 3 ขวบ ติดเชื้อ "เอนเทอโรไวรัส" ในอากาศ เชื้อลงสู่หัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน จนเสียชีวิต 🚑สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว
- 2 คนสงสัย"ยาโซดามินต์ ไม่ได้ปลอดภัย 100% ... ควรให้แพทย์สั่งให้ตามความจำเป็น และไม่ควรซื้อมากินเล่นเองครับ" กระแสแนะนำให้คนไปหาซื้อยา "โซดามินท์ (soda mint)" มากินกัน กลับมาเผยแพร่อีกแล้วครับ (หลังจากช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ก็เคยมีกระแสโปรโมตไปรอบนึงแล้วว่า กินต้านโควิดได้) .. โดยอ้างว่าช่วยให้ร่างกายเป็นด่าง (อีกและ) ดีต่อสุขภาพ ใช้รักษาป้องกันโรคได้มากมาย เช่น ชะลอไตเสื่อม ขับกรดยูริก ละลายนิ่ว ฯลฯ !? ซึ่งก็พูดหลายๆ ครั้งแล้ว ว่าแนวคิดเรื่อง กินน้ำด่าง-กินอาหารด่าง ไปปรับให้เลือดมีความเป็นด่างนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำอะไร เพราะร่างกายมีการปรับสมดุลย์พีเอชความเป็นกรดด่าง ให้เป็นด่างอ่อนๆ โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว (ซึ่งอาศัยกลไกการหายใจ เป็นตัวควบคุมหลัก) ดังนั้น การพยายามกินด่างเข้าไปในร่างกายมากๆ จนร่างกายปรับสมดุลย์ ลดความเป็นด่างลงไม่ไหว กลับจะกลายเป็นอันตรายจากการที่ค่าเป็นด่างสูงเกินไป .. และโซดามินต์ ก็ควรเป็น "ยา" ที่กินเมื่อป่วย ตามแพทย์สั่งเท่านั้น ยา "โซดามินท์" จริงๆ ก็คือ โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate ก็ผงฟูที่เอาไว้ทำเบเกอรี่ ไว้ล้างผัก นั่นแหละ) ผสมกับ น้ำมันหอมระเหย เปปเปอร์มิ้นต์ (peppermint oil) มักจะผสมในอัตราส่วนโซเดียมไบคาร์บอเนต 300 มิลลิกรัม กับน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มิ้นต์ 0.003 มิลลิลิตร กินหลังอาหารวันละ 3 ครั้งหรือเมื่อมีอาการ ใช้เพื่อบรรเทาอาการจุกเสียด ลดอาการระคายเคือง เนื่องจากมีกรดมากในกระเพาะอาหาร อาจจะมีบางคนที่มีอาการข้างเคียงจากการกินยาโซดามินต์นี้ได้ เช่น ปวดหน่วง ๆ ที่ท้อง (ซึ่งไม่จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์) หรืออาจจะรุนแรง ได้แก่ บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก ลมพิษ หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก บวมน้ำ หายใจลำบาก ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ ก็ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ส่วนคนที่ห้ามใช้ยาโซดามินต์นี้ ได้แก่ คนที่เคยแพ้ยานี้ หรือแพ้ส่วนประกอบของยานี้ , เป็นโรคหัวใจ , เป็นโรคไต หรือ โรคตับ , เป็นโรคความดันเลือดสูง , มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ , มีภาวะเลือดเป็นด่างสูง , กำลังใช้ยาสเตอรอยด์ รวมถึงหญิงมีครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมลูก สำหรับประเด็นที่สังคมออนไลน์แชร์แนะนำให้กิน “โซดามินต์” เป็นประจำเพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายมีสุขภาพดีนั้น ทาง คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ช่อง 9 อสมท สำนักข่าวไทย ได้เคยไปตรวจสอบกับ รศ.ดร.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม สสส. ดังนี้ครับ ถาม : กินโซดามินต์ทุกวัน ทำให้สุขภาพดี อย่างที่แชร์กันนี้ จริงหรือไม่ ตอบ : การซื้อโซดามินต์กินเองนั้นไม่สมควร อาจจะกินมากเกินไป ทำให้ร่างกายเป็นด่างมากเกินไป อาจจะมีผลเสียในระยะยาว ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน ถาม : เขาบอกว่าโซดามินต์ช่วยปรับสมดุลย์ของเลือด ทำให้เลือดมีค่า pH 7.4 ตอบ : บางครั้ง การให้โซดามินต์จะทำให้เป็นด่างมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ คือโซดามินต์เป็นยาที่ปรับให้ร่างกายเป็นด่างในคนไข้ที่ร่างกายเป็นกรด การให้โซดามินต์ก็อาจจะทำให้ pH หรือระดับกรดด่างในร่างกายสมดุลย์ แต่ต้องให้หมอเป็นคนวินิจฉัยว่าคนไข้จำเป็นจะต้องกินโซดามินต์ไหม ซึ่งเช็กเลือดครั้งเดียว ก็รู้แล้วว่าปริมาณไบคาร์บอเนตหรือ pH ในเลือดนั้นเหมาะสมไหม ถ้าไม่เหมาะสม ก็จะให้โซดามินต์ในการปรับสมดุลย์ให้เหมาะสมกับสุขภาพ ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย แล้วก็ปรับยาให้เหมาะสม เพราะว่าโซดามินต์ในคนไข้แต่ละคน ให้ขนาดยาไม่เท่ากัน ถ้าให้มากไปก็มีผลเสีย ให้น้อยไปก็ไม่เพียงพอ ถาม : เขาบอกว่าโซดามินต์ช่วยลดกรดยูริกจากอาหารและน้ำตาลฟรุกโตส ลดความเสี่ยงเป็นเกาต์ ตอบ : คือคนที่กินฟรุกโตสเยอะ เช่น กินน้ำอัดลม น้ำหวาน โอกาสเป็นเกาต์ก็สูงขึ้น โอกาสที่กรดยูริกสูงก็จะมี แล้วก็อาจจะตกตะกอนในที่ต่างๆ รวมทั้งที่ไตด้วย ในกรณีแบบนี้ถ้าเกิดคนไข้ที่มีความเสี่ยง แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย แล้วก็เป็นคนจ่ายยาโซดามินต์ให้ในกรณีที่มีความจำเป็น แต่ถ้าเกิดคนปรกติไปซื้อโซดามินต์มาทาน อาจจะไม่ได้เป็นการป้องกัน แต่อาจจะมีผลเสียในระยะยาวด้วย ถาม : เขาบอกว่าโซดามินต์ช่วยชะลอไตเสื่อม ตอบ : ในกรณีที่มีความผิดปรกติของไต โดยเฉพาะโรคไตระยะต้น การรักษาด้วยยาโซดามินต์ มีผลวิจัยทางการแพทย์บอกว่าอาจจะช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้บ้าง แต่เป็นผลวิจัยระยะสั้น ยังไม่มีการติดตามในระยะยาวในผู้ป่วยที่เป็นโรคไต อย่างไรก็ดี แพทย์โรคไตมักจะให้โซดามินต์ในกรณีที่เลือดเป็นกรด และก็เป็นโรคไตระยะต้น หรือโรคไตระยะสุดท้าย ที่จำเป็นจะต้องปรับสมดุลย์ของกรดด่างในร่างกายให้เหมาะสม เน้นว่า โซดามินต์ไม่ได้รักษาโรคไต และก็คนปรกติ ถ้ากินโซดามินต์ ก็ไม่ได้ป้องกันโรคไต ถาม : เขายังบอกว่าลดความเป็นกรดของเลือดหลังออกกำลังกาย ตอบ : ออกกำลังกาย บางครั้งทำให้มีกรดบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วร่างกายก็จะสามารถกำจัดกรดนี้ออกได้ ทางไตหรือทางลมหายใจ ร่างกายมีกลไกในการควบคุมกรดด่างในร่างกายอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่มีโรคไต ไม่มีโรคทางปอด โรคหัวใจอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องทานโซดามินต์ ไม่มีประโยชน์อะไรมากขึ้น ถาม : จริงๆ แล้ว โซดามินต์นี่คืออะไร ตอบ : โซดามินต์ ชื่อทางเคมีคือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ไบคาร์บอเนตเป็นด่าง ซึ่งจะไปปรับกรดด่างหรือว่า pH ให้อยู่ในเกณฑ์พอเหมาะในสมดุลย์ของร่างกาย แต่ตัวโซเดียม เป็นตัวที่นำไบคาร์บอเนตนี้เข้าไปในร่างกาย ก็มีประโยชน์ในการทำอาหาร แต่ว่าต้องใส่ให้พอเหมาะ ใส่มากไปก็มีโทษ ถ้าเราทานโซเดียมมากเกินไป ก็จะไปทำให้เกิดอาการบวม ไปคั่งอยู่ที่ไต หรือที่หัวใจ ทำให้ความดันสูง เพราะฉะนั้น การทานโซดามินต์ ก็อาจจะต้องระมัดระวังด้วย โดยเฉพาะคนที่มีโรคหัวใจ โรคไต อยู่เดิม ก็จะทำให้เกิดการบวมมากขึ้น ไตทำงานหนักมากขึ้น ควรจะทานเท่าที่จำเป็นและก็ภายใต้การดูแลของแพทย์ 1 เม็ด มีตัวยาประมาณ 300 มิลลิกรัม ถ้าทาน 10 เม็ดต่อวัน (อย่างที่แชร์บอกกัน) ก็จะประมาณ 3000 มิลลิกรัม ทำให้ได้โซเดียมในปริมาณสูงพอควร ถาม : แล้วถ้าคนที่อยากปรับสมดุลร่างกายล่ะ ตอบ : การที่บอกว่าร่างกายเป็นกรดด่างเนี่ย จริงๆ แล้ว ธรรมชาติสร้างมาอยู่แล้วว่าเป็นหน้าที่ของปอด กับหน้าที่ของไต ในการที่จะปรับสมดุลของกรดด่างในร่างกายอยู่แล้ว แล้วร่างกายก็มีตัวบัฟเฟอร์ หรือตัวที่จะไปทำให้กรดด่างนั้นปรกติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่ทานโซดามินต์ หรือว่าการทานด่าง ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ ยกเว้นกรณีที่ระบบของร่างกายสูญเสีย ไม่ว่าจะมีโรคประจำตัว โรคหัวใจ โรคไต โรคปอดต่างๆ บางครั้งทำให้เลือดเป็นกรด ก็อาจจำเป็นต้องทานโซดามินต์เสริมเข้าไปเพื่อทดแทน แพทย์จะเป็นผู้ดูแล ถาม : ถ้ามีคนอยากจะกิน กินแล้วจะอันตรายไหม ตอบ : ถ้าเกิดทานโซดามินต์ ปริมาณมาก ก็จะมีโซเดียมโหลด ดังนั้น ในกรณีที่มีปัญหาเกลือเกิน มีอาการบวม มีโรคหัวใจ หรือโรคไต ไม่ควรซื้อยาทานเอง 📌 สรุป : ที่แชร์แนะนำให้กินโซดามินต์เป็นประจำเพื่อสุขภาพนั้น ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ เพราะโซดามินต์ มันไม่ใช่ยาที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ควรจะให้แพทย์เป็นผู้ดูแล และเป็นคนจ่ายยาเท่าที่จำเป็น ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/women/249893/ และ https://www.youtube.com/watch?v=pxaV0qhYg2sสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว
- 2 คนสงสัยสาวไต้หวันเสียชีวิตกระทันหัน ผลชันสูตรพลิกศพเป็น.. - - - คุณต้องดู! ล่าสุด, ในไต้หวัน จู่ๆ เด็กหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น วินิจฉัยว่าเธอเสียชีวิตจากพิษสารหนู สารหนูมาจากไหน? ศาสตราจารย์โรงเรียนแพทย์ได้รับเชิญให้ช่วยในการสืบสวน ศาสตราจารย์ตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในท้องของผู้ตายอย่างระมัดระวัง ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความลึกลับของการตายอย่างกะทันหันถูกเปิดเผย ศาสตราจารย์กล่าวว่า “ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย และเขาก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่ตายเพราะไม่รู้ “มันฆ่า” ทุกคนถึงกับงง ศาสตราจารย์กล่าวว่า: "สารหนูถูกผลิตขึ้นในช่องท้องของผู้ตาย" ผู้ตายได้กิน "วิตามินซี" ทุกวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาคือเธอกินกุ้งเยอะมากในมื้อเย็น ตัวกุ้งเองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นเธอสบายดีแม้ว่าเธอจะกินข้าวที่บ้านก็ตาม แต่ผู้ตายกิน "วิตามินซี" ไปพร้อมๆ กัน ปัญหาอยู่ตรงนี้! นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยค้นพบจากการทดลองแล้วว่า อาหารเปลือกนิ่ม เช่น กุ้ง มีสารประกอบสารหนูเพนตะโพแทสเซียมสารหนูจำนวนมากซึ่งมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ไม่มีผลเป็นพิษต่อร่างกาย แต่, หลังจากรับประทาน “วิตามินซี” แล้ว เนื่องจากผลกระทบทางเคมี สารหนูเพนทาโปแตสเซียมดั้งเดิมปลอดสารพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์ เรียกอีกอย่างว่าสารหนูเพนทอกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As05) เปลี่ยนเป็นสารหนูไตรโพแทสเซียมที่เป็นพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์) หรือที่เรียกว่าสารหนูไตรออกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As203) นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าสารหนู! สารหนูมีฤทธิ์เป็นพิษต่อโปรโตพลาสซึม สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยเป็นอัมพาตได้ ยับยั้งการทำงานของเมอร์แคปโตเมอร์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไขมันในตับ, เนื้อร้ายส่วนกลางของกลีบตับ, การอุดตันของหัวใจ, ตับ, ไตและลำไส้, เนื้อร้ายของเซลล์เยื่อบุผิว และการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเขาจึงถูกวางยาพิษและเสียชีวิต เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น; เพื่อเป็นการเตือนสติ ในขณะที่รับประทาน "วิตามินซี" ควรหลีกเลี่ยงกุ้ง ปัจจุบันเครื่องดื่มหลายชนิดมีวิตามินซี กุ้ง + วิตามินซี = พิษ ยาแก้หวัด + โค้ก = ยาพิษ ทุเรียน+โคล่า=พิษ ทุเรียน+ไวน์ก็เทียบเท่ากับพิษในกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนและหลังรับประทานทุเรียน รวมทั้งไก่โชชู เป็ดขิง และอาหารที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ อ่านแล้ว กรุณาอย่าขี้เหนียว แบ่งปันกับเพื่อนและญาติรอบตัวคุณ!สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอยากกินอะไรก็กินไปเลยนะครับ เพราะในที่สุดเราก็ต้องตายแน่นอน ลองอ่านข้อเท็จจริงต่อไปนี้ประกอบการพิจารณานะครับ ๑. คนที่คิดค้นเครื่องวิ่งออกกำลังกายกับที่ ตายไปเมื่ออายุได้ ๕๔ ปี ๒. ผู้คิดค้นกีฬายิมนาสติค ตายตอนอายุ ๕๗ ๓. แชมเปี้ยนโลกเพาะกาย ตายเมื่ออายุ ๔๑ ๔. มาราโดน่า นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก ตายเมื่ออายุ ๖๐ แต่ว่า ๕. คนคิดสูตรไก่ทอด KFC ตายเมื่ออายุ ๙๔ ๖. คนคิดสูตรผลิตขนม ชอคโกแลต ยี่ห้อ Nutella ตายเมื่ออายุ ๘๘ ๗. คนที่ผลิตบุหรี่ Winston ตายตอนอายุ ๑๐๒ ๘. คนที่คิดสกัดฝิ่นเป็นคนแรกของโลก ตายเมื่ออายุ ๑๑๖ จากเหตุแผ่นดินไหว ๙.คนเริ่มต้นคิดผลิตเหล้า Hennessy ตายเมื่ออายุ ๙๘ แล้วคุณหมอทั้งหลายมาบอกพวกเราได้ยังไงว่า การออกกำลังกายจะช่วยยืดอายุคนได้ ดูซิ... กระต่าย ทั้งวิ่งทั้งกระโดดออกกำลังกายตลอดชีวิต อยู่ได้แค่ 10 กว่าปี ส่วนเต่าคลานต้วมเตี้ยม วันๆเอาแต่จำศีล มีชีวิตแบบเชื่องช้า อายุอยู่ได้ 307 ปี ดังนั้น จงอย่าเครียดกับเรื่องอาหารการกินให้มากเกินไป อยากกินอะไร อยากดื่มอะไรก็ทำไป หาความสุขให้ตัวเองในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ดีกว่า เพราะถึงอย่างไรเราก็ต้องตายอย่างแน่นอนครับสุขภาพมีม เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการไม่รับประทานไขมันดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่?สำหรับคนที่กำลังเริ่มดูแลสุภาพน่าจะเคยได้ยินถึงการงดไขมัน งดการรับประทานของที่มีความมัน ซึ่งจะทำให้เราอ้วน ลดน้ำหนักยาก ไขมันอุดตัน จริงหรือไม่ถ้าเราไม่รับประทานไขมันเลยจะทำให้สุขภาพดีขึ้นสุขภาพลดความอ้วนPare Petchara• 4 เดือนที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพมีมไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยว่าด้วยเรื่องยา…ลองอ่านและพิจารณาดูนะ ว่าอะไรยังไง 🚩นาง Gwen Olsen คนวงใน ตัวแทนขายยา ที่ฝังตัวอยู่ในธุรกิจยามานาน 15 ปี ออกมาแฉ :- 📕บริษัทยักษ์ใหญ่ขายยา ไม่ได้สนใจที่จะ เสริมสุขภาพ หรือ เยียวยารักษา หรอกนะ 📕แต่พวกเขา อยู่ในธุรกิจ =เลี้ยงไข้= และ =บริหารอาการป่วย= ต่างหาก 📕พวกเขา ไม่รักษามะเร็ง ไม่รักษาอัลไซม์เมอร์ ไม่รักษาโรคหัวใจ หรือโรคใดๆ ทั้งสั้น 📕เพราะหากพวกเขาทำอย่างนั้น บริษัทก็เจ๊งกันพอดีนะสิ เพราะจะไม่เหลือคนป่วย มาคอยซื้อยาของพวกเขา ซึ่งแบบนั้นจะเป็นอันตรายต่อธุรกิจ 🚩ดิฉันไม่ใช่พวกนักทฤษฎีสมคบคิด เพราะมันมีหลักฐานโทนโท่ 📕ยกตัวอย่างเช่น พวกยาระงับประสาท มันมีไว้เพื่อ =เลี้ยงไข้= ให้ป่วยอย่างนั้นอยู่นานๆ ส่วนใหญ่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต มันเหมือนยาเสพติดที่คุณ =ถอนออก= ไม่ได้ 📕ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้คนจะต้องรู้ว่า ยาตัวไหน คือยาประเภทเลี้ยงไข้ ตัวอย่างเช่น 📕ยาลดคลอเรสเตอรอล ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันลดครอเรสเตอรอล =มากเกินไป= จนผู้ป่วย กลายเป็นโรคอื่นๆ เข้ามาแทน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของยานี้ 📕คน 44 ล้านคน ยังกินยากดประสาทอยู่ ซึ่งตอนนี้พิสูจน์ได้แล้วว่า มันใช้ไม่ได้ผล เพราะถึงกินไป ก็ไม่ต่างจากกินยาหลอก และแค่ไปออกกำลังกาย ก็ยังได้ผลดีกว่ากินยาถึง 2 เท่าด้วยเลย 📕แต่เดี๋ยวนี้ คุณจะไม่ได้ยินข่าวจริง ที่ดีต่อสุขภาพแบบนี้หรอกนะ ตราบใดที่ยักษ์ยา ยังเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ เป็นรายได้หลักให้กับช่องทีวี บริษัทพวกนี้ทำกำไร 5-6 เท่าเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ในอเมริกา พวกเขาจะไม่มีทางยอมสูญเสีย ผลกำไรงามๆ แบบนี้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน และจริงๆ แล้ว พวกเราก็เป็นแค่เหยื่อประเภท =โภคภัณฑ์มนุษย์= หรือ =แม่วัวทำเงิน= ตัวอ้วนๆ สำหรับพวกเขา 📕อย่างที่ดิฉันเอง ก็ถูกกระตุ้นให้ออกไปหลอกลวง เพื่อ =เพิ่มส่วนแบ่งตลาด= ให้กับบริษัท โดยไม่คิดไม่สน ว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยอย่างไรบ้าง โดยไม่รู้ว่าพวกเขา ปล่อยข่าวเท็จอะไรออกไปบ้าง โดยไม่รู้ว่างานวิจัย ถูกโกงอย่างไร ให้ออกมาดูดี ด้วยการปกปิดซุกซ่อน ผลข้างเคียงที่อันตรายอะไรบ้าง 📕ดิฉันอยู่ในวงการนี้มา 15 ปี และเป็นระดับตัวแม่ของตัวแม่นักขาย แต่ดิฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ และกำลังบอกคุณว่า อุตสาหกรรมนี้มัน เน่าเฟะ แค่ไหน และเราต้องเอาอำนาจของเราคืนกลับมา ช่วยกันทำให้บริษัทยาเหล่านี้ ต้องรับผิดชอบกับความผิดที่ได้กระทำ สำหรับยาห่วยแตกที่ขายๆ กันอยู่ของพวกเขา 📕เพราะอีกไม่นานเกินรอ ที่ชาวมะกันทุกคน จะได้เจอผลลัพท์อันเลวร้ายของหายนะนี้ เราต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง • อะไรคือโรค • อะไรคือความผิดปกติ • อะไรคืออาการ 📕นั่นเพราะถ้ามันไม่มีหลักฐานทางการแพทย์อย่าง ผลเลือด ผลสแกนสมอง ฯลฯ คุณก็ไม่มีเอกสารอะไรมาพิสูจน์ได้ ว่าเป็นโรค ซึ่งคุณอาจไม่ได้ติดโรค แต่คุณแค่มีความผิดปกติ ที่อาจถูกวินิจฉัยมาอย่างผิดๆ 📕และคุณต้องขวนขวายหาความรู้ จนเข้าใจว่า มันยังมี =ทางเลือก= อื่นอยู่นะ ซึ่งอาจรักษาได้ผลดีกว่าการใช้ยา เสียด้วยซ้ำ ต้องไปดูในมุมของโภชนาการ ของอาหารที่คุณกิน ไลฟ์สไตล์ของคุณ คุณได้ออกกำลังกายบ้างไหม ? คุณได้ดูแลตัวเองดีพอแล้วหรือยัง ? 📕นั่นก็เพราะ เมื่อคุณเริ่มกินยาขนานหนึ่งเข้าไป คุณก็จะกลายเป็น =ลูกค้าตลอดชีพ= ของบริษัทขายยา ... 💊สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็กสุขภาพเลือดได้จากเส้นผมสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://www.facebook.com/reel/1879676309231258 ไม่ทราบว่าอาหารมื้อเย็นทำให้เกิดโรค NCD จริงไหมครับ ?สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการล็อกดาวน์ไม่ช่วยลดฝุ่น PM 2.5สุขภาพสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรับประทานทำให้เป็นโรคเกาต์จริงหรือเห็นหลายคนบอกว่าการรับประทานไก่ส่งผลให้เราเป็นโรคเกาต์ได้ จนเราไม่กล้ารับประทานไก่เลย ตกลงเป็นเกาต์จริงหรือเปล่าคะสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังchanaphornphomngern• 5 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/tctcXGpKJUo?si=LZ9unKtRV9h4KN31สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำดื่มมีกลิ่นคลอรีน อาจเป็นสัญญาณของน้ำไม่สะอาดสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น