13121 ข้อความ
- 2 คนสงสัยกินไข่ต้มช่วยต้านเชื้อโควิดจริงมั้ยจากที่มีการแชร์ภาพไข่ต้ม พร้อมข้อความว่า “ถ้าอยากหายจากโรคโควิด 19 ให้ทานไข่ต้มคนละฟอง ก่อน 24.00 น. มื้อนี้กินไข่ต้มต้านโควิดหน่อย” ทางกรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าการรับประทานไข่ต้มจะช่วยต้าน COVID-19 ได้ ซึ่งปกติแล้วการรับประทานไข่ต้มวันละ 1-2 ฟอง เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สามารถทำได้ แต่การรับประทานไข่ต้มจำนวนมากนั้นอาจจะส่งเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีโควิด 2019Coyi• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกำมือ-แบมือ ลดความดันโลหิตสูงการกำมือและแบมือดังไม่มีผลทางการแพทย์ที่สามารถอธิบายหรือยืนยันได้ว่า สามารถลดความดันโลหิตได้std48385• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกล่องสุ่มได้จริงหรือไม่ลอตเตอรี่พลัส ฉลองต้อนรับ กลับมาขาย อีกครั้ง 2566 ลุ้นสุ่มเงินล้าน❗️ 🎁 กล่องสุ่ม 10 ใบ = 1000 บาท (การันตีเลขชุด 5 ใบ) รางวัลมีทุกกล่อง 2500 บาทขึ้นไปทุกกล่องครับ 📦1.เงิน1 ล้าน (10) รางวัล 📦2.รถฟอร์จูนเนอร์ 5 คัน 📦3.ทองคำ 3-10 บาท (100) รางวัล 📦4.iPhone 14 Pro max (150) รางวัล 📦5.มอเตอร์ไซค์ (150) รางวัล 📦6.เงินสด 1 แสน (200) รางวัล ✅(มีจำนวนจำกัดนะครับ) ช้าอดหมดนะครับ )📦 ช่องทางการซื้อลอตเตอรี่ ภาษาไทย - ลอตเตอรี่พลัส .com คลิกลิ้งสั่งชื้อ - https://lin.ee/rzAJc0k ไอดีสอบถามแอดมิน-@ksalakplusการเงินแอคปลอมstd48392• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเหี่ยวเหี่ยว เกิดจากแม่ไก่เป็นโรคหลอดลมอักเสบติดต่อstd48370• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันกรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่งภายใน 7 วัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่งภายใน 7 วัน ได้จริง เนื่องจากครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใดๆ ของร่างกายได้ วันนี้ (24 ธ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และหากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่สายด่วน อย. 1556 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เนื่องจากครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขความสวยความงามstd48378• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไวท์โรส พลาเซนต้าครีมทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า พบสารประกอบของปรอท ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบstd48380• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเครื่องบินนกแอร์กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ เมื่อเครื่องบินของสายการบิน "นกแอร์" Nok Air เกิดลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ระหว่างนักบินนำเครื่องลงจอดที่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แต่เมื่อทางสายการบินได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว กับมีผู้โดยสารออกมาอ้างว่าโดนปล่อยให้รอนาน แผนอพยพแย่มาก โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ขอไล่เรียงเหตุการณ์ ดังนี้ สรุปเหตุการณ์ระทึก เครื่องบิน "นกแอร์" ไถลออกนอกรันเวย์ ผู้โดยสารโวยแผนอพยพ เมื่อเวลา 20.03 น. วันที่ 30 ก.ค. 2565 เครื่องบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737-800 บรรทุกผู้โดยสาร 164 ท่าน พร้อมลูกเรือ 6 ท่าน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยถึงท่าอากาศแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อเวลา 21.06 น. แต่ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด บริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงนั้น เกิดมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ต่อมา เฟซบุ๊ก Nok Air ได้แถลงชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า นักบินสามารถจอดเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย และนำผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รวมทั้งได้ดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการรับกระเป๋าสัมภาระ และบริษัทฯ พร้อมจัดหาอาหารว่าง และเครื่องดื่มมาให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างพักรอ และจัดหาที่พักสำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบstd48373• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวเดตอีจุนโฮ-ลิมยุนอาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เจ้าหน้าที่จาก JYP Entertainment ต้นสังกัดของอี จุนโฮบอกกับสำนักข่าวนิวส์วันว่า “เราได้ยินเกี่ยวกับข่าวลือการออกเดทและกำลังรอยืนยันอยู่ในขณะนี้” พร้อมทั้งทาง SM Entertainment ต้นสังกัดของยุนอาก็กล่าวเช่นเดียวกันว่า “เรากำลังตรวจสอบ”std48391• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดความอ้วนสรุป การใช้ยาลดความอ้วนนั้นเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้เร็ว แต่ลองคิดดูสิว่าผลลัพท์ที่ได้ไม่คุ้มเลยกับสิ่งที่เราต้องเสียไป เสียทั้งเงิน เสียทั้งสุขภาพ หนักสุดก็ถึงขั้นเสียชีวิต เพราะฉะนั้นวิธีลดความอ้วนนอกเหนือจากการทานยาแล้วยังมีอีกหลายวิธี เช่น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร นอกจากเราจะได้รูปร่างที่ดีแล้ว ยังไม่เป็นการทำลายสุขภาพเราด้วยนะคะอย. เพิกถอนstd47882• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินชูรสผมร่วงจริงไหมสาเหตุของผมร่วงมีอะไรบ้าง โรคผมบางจากพันธุกรรมถ่ายทอดผ่านทางหลายยีนมากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ชายมีภาวะผมบาง ศีรษะล้าน ถ่ายทอดจากบิดา ฮอร์โมนเพศชาย จะทำให้เส้นผมเล็กลงเรื่อย ๆ และหลุดร่วงไปในที่สุด เริ่มจากแนวผมที่เถิกร์นไปหรือบางตรงกลางกระหม่อม ผมร่วงหลังคลอด ผมร่วงฉับพลันจากการเจ็บป่วย มีไข้สูงต่อเนื่อง เช่น ไข้เลือดออก การเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง ผู้ป่วยเอชไอวี โรคของต่อมไร้ท่อบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ ภาวะขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด เช่น สังกะสี ธาตุเหล็ก วิตามินบี 2 (riboflavin) ภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะการขาดโปรตีน ส่งผลให้ผมเส้นเล็ก หรือร่วงง่าย ความเครียดรุนแรง ภาวะหนังศีรษะอักเสบ หรือการแพ้สัมผัสอย่างรุนแรงบริเวณหนังศีรษะ เช่น แพ้ยาย้อมผมอย่างรุนแรง หลังจากได้รับยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยารักษาสิวกลุ่ม Isotretinoin ยาลดความดันกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ และยากลุ่ม Lithium การรับสารพิษ เช่น โลหหนักปริมาณต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน หรือปริมาณมากแบบฉับพลัน การถอน ดึง แกะ หรือเกาผมตนเอง บริเวณเดิมเป็นประจำอย่างยาวนาน อาจทำให้ผมบริเวณนั้นไม่ขึ้นอีกเลยผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47882• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเวย์ลดน้ำหนักได้จริงมั้ยการทานโปรตีนคุณภาพช่วยให้หุ่นดีขึ้นได้ เพราะโปรตีนช่วยให้อิ่มท้องได้นานกว่าการกินข้าว หรือแป้ง และไขมัน ที่สำคัญโปรตีนยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ เพราะฉะนั้นคนที่อยากให้น้ำหนักลด เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หุ่นดี ก็ควรเลือกรับประทานโปรตีนคุณภาพดีเท่านั้น ซึ่งหาได้จาก ไข่ขาว เนื้อปลา และอกไก่ โดยใช้การปรุงอาหารแบบต้ม ตุ๋น นึ่ง ย่าง แทนการทอดและผัดporpeang3408• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเมล็ดมะละกอรักษามะเร็งจริงมั้ยกรณีที่มีคลิปวิดีโอแนะนำข้อมูลสุขภาพโดยระบุว่าเคี้ยวเม็ดมะละกอสุกแล้วกลืนโดยไม่ต้องกินน้ำตาม วันละ 3 เม็ด รักษามะเร็งระยะสุดท้าย เห็นผลใน 1 เดือน ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าจากข้อมูลวิชาการ ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าการรับประทานเมล็ดมะละกอสุกช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในคนได้porpeang3408• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นมะเร็งจากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่า เม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl ; PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ] โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุก บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง หากกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง อีกทั้งไม่พบว่ามีสารสไตรีน และสารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งตามที่มีการแชร์ข้อมูลแต่อย่างใดหนูรัตนไม่ใช่กะเทย• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรัฐฯ เเจกเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ รายละ 1,130 บาทจากที่มีคลิปวิดีโอส่งต่อข้อมูลว่า เดือน ก.ค. 66 นี้ รัฐฯ แจกเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายละ 1,130 บาทนั้น ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข่าวสารที่เชื่อถือไม่ได้ และไม่ใช่ข้อมูลประกาศจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นข่าวสารที่เชื่อถือไม่ได้ และไม่ใช่ข้อมูลประกาศจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใดหนูรัตนไม่ใช่กะเทย• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหายใจให้ถูกวิธีช่วยให้ลดอาการข้อเท้าบวมจากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปให้ความรู้ว่า การหายใจโดยนั่งตัวตรงหรือยืนตรง และเริ่มหายใจออกก่อนโดยโน้มตัวไปข้างหน้า แล้วหายใจเข้าโน้มตัวกลับขึ้นมา ทำแบบนี้ไป 20 - 30 ครั้ง จะช่วยลดอาการข้อเท้าบวม ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการที่คลิปกล่าวถึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ หรือก็คือ วิธีการหายใจตามคลิปนั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทั้งทางทฤษฎี หรือทางรายงานการวิจัยกับการลดการบวมของข้อเท้า ทั้งจากการบวมน้ำ การอุดกั้นของหลอดเลือดดำที่ขา หรือจากการอักเสบของข้อเท้าแต่อย่างใด บทสรุปของเรื่องนี้คือ : วิธีการหายใจตามคลิปนั้นไม่มีความสัมพันธ์ทั้งทางทฤษฎีหรือทางรายงานการวิจัยกับการลดการบวมของข้อเท้า ทั้งจากการบวมน้ำ การอุดกั้นของหลอดเลือดดำที่ขา หรือจากการอักเสบของข้อเท้าแต่อย่างใดหนูรัตนไม่ใช่กะเทย• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสมุนไพรจีนเเผ่นเเปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมันจากที่มีผู้ให้คำแนะนำว่า ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แผ่นแปะลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน ตามที่ปรากฏดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวนี้ บทสรุปของเรื่องนี้คือ : แผ่นแปะลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมันดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใดยาสมุนไพรลดความอ้วนผู้บริโภคเฝ้าระวังหนูรัตนไม่ใช่กะเทย• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาการกรดไหลย้อน เกิดจากตับอ่อนเเอจากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปคำแนะนำสุขภาพว่า อาการกรดไหลย้อน เกิดจากตับอ่อนแอนั้น ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการที่คลิปกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ กล่าวคืออาการตับอ่อนแอที่คลิปกล่าวถึงไม่มีความสัมพันธ์ทางทฤษฎีหรือผลการศึกษาใดที่อธิบายความสัมพันธ์กันกับโรคกรดไหลย้อนหรืออาการกรดไหลย้อน บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการตับอ่อนแอที่คลิปกล่าวถึงไม่มีความสัมพันธ์ทางทฤษฎี หรือผลการศึกษาใดที่อธิบายความสัมพันธ์กันกับโรคกรดไหลย้อน หรืออาการกรดไหลย้อนหนูรัตนไม่ใช่กะเทย• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสะพานน้ำยาวที่สุดในประเทศไทย ยกน้ำข้ามถนน จ. สมุทรปราการ ช่วยป้องกันน้ำท่วมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800มะเร็งยาสมุนไพรstd46556• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์หน้าแรก Main navigation หน้าแรก ข่าว เฟคนิวส์ สุขภาพปฐมภูมิ โรคอุบัติใหม่ รายงาน Infographic ชุมชนสุขภาพ Search Sunday, 5 February 2023 สธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์ สธ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย 20 หน่วยงาน เดินหน้ารณรงค์ “วันมะเร็งโลก” ภายใต้แนวคิด ปี 2566 “Uniting our voices and taking action ชวนให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็ง หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง เนื่องในวันมะเร็งโลก หากวินิจฉัยเร็ว รักษาไว เพิ่มโอกาสรอดชีวิต มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งมะเร็งstd46556• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมันกรณีที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับประเด็นเรื่องยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีผู้ให้คำแนะนำว่า ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แผ่นแปะลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน ตามที่ปรากฏดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวนี้ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆลดความอ้วนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46206• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพบเรือลักลอบขนน้ำมันกลางทะเลระยองภาคตะวันออกPotter• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“บุหรี่ไฟฟ้า” อันตรายน้อยกว่า-ช่วยเลิก “บุหรี่มวน”ได้จริงหรือไม่ ?“บุหรี่ไฟฟ้า” ถือว่าได้รับความนิยมขึ้นกว่าในอดีตมากแต่แรกเริ่มเดิมที บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการโฆษณาสรรพคุณว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นทางเลือกของวัยรุ่นในปัจจุบันมะเร็งstd47859• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสเปรย์พ่นปากฟ้าทะลายโจร ตราวี เฟรช สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ผลิตภัณฑ์วี เฟรช เม้าท์ สเปรย์ โฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่า สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์วี เฟรช เม้าท์ สเปรย์ V FRESH MOUTH SPRAY ผลิตโดย บ. บิวตี้ คอสเมต จก. จดแจ้งไว้ว่าเป็นเครื่องสำอาง ประเภทสเปรย์ระงับกลิ่นปาก ใบรับจดแจ้งเลขที่ 65-1-6400022581 ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องสำอาง ใช้เพื่อระงับกลิ่นปาก ไม่มีผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ หากผู้บริโภคหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ เพื่อหวังผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอด อาจเสียโอกาสในการรักษา ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องโควิด 2019ยาสมุนไพรอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47859• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว