2435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยอย.เตือนอย่าเชื่อเว็บหลอกขาย “น้ำยาหยอดตานาโน” จริงหรือคะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พบการตัดต่อคลิปวิดีโอของ ศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ลงในเว็บไซต์ https://rine.xvsgwq.com/ollajxvf จากการตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว พบมีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณน้ำยาหยอดตานาโนว่า สามารถฟื้นฟูสายตาให้เป็นปกติโดยไม่ต้องผ่าตัด จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยTheir strategy is to in the Thai Parliament then vote, and eventually take control in the Thailand politic. More donations from Saudi Arabia or other Muslim nations can easily put the greedy Thai politicians in their pockets. They will also marry non-Muslims to gain more Muslim populations. สิ้นแล้วประเทศไทย 3 (ตอนยึดไทยด้วยกฎหมาย) ณ พ.ศ.2550 เป็นต้นมา คนมุสสิมในไทยเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และมีการขยายประชากรไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ยิ่งเมื่อ 3 ปีให้หลังนี้ มีการนำเข้าชาวโรฮิงญา คนปากี และชาวอาหรับเข้าไทยไปซ่อนไว้ในภาคเหนือเต็มพื้นที่ไปหมด จากนั้นทางการก็จัดประชุมตำรวจทั่วภาคเหนือที่เชียงรายและเชียงใหม่ กำหนดวิธีปฏิบัติต่อคนมุสสิมต่างชาติที่เข้ามาทั้งหมด ขณะเดียวกันกรมการปกครอง ซึ่งตอนนี้คนมุสสิมเป็นอธิบดี ก็เร่งออกบัตรประชาชน ให้คนเหล่านั้นโดยด่วน โดยการสวมบัตรคนไทย ที่เขาไปหลอกเอาชื่อ ที่อยู่ ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนมาเตรียมไว้แล้วตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าจะมีเงินมาให้ฟรีๆคนละ 1 ล้านบาท ใครอยากได้ให้เอาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านมาจองไว้ พร้อมเงิน 300 - 500 บาท ต่อคน บัตรประชาชนของคนที่ถูกหลอกเหล่านี้แหละ ต่อไปจะถูกสวมชื่อเป็นของคนมุสสิมทั้งหมด ซึ่งทุกวันนี้ ก็เห็นกันเยอะขึ้น บัตรประชาชนหน้าเป็นแขก หนวดเครารุงรัง แต่ชื่อเป็นไทย มีแทบทุกจังหวัดแล้ว และเมื่อต้นปี 62 นี้ นายอำเภอที่ระนอง ึถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานสวมบัตรประชาชนให้โรฮิงญามาแล้วเป็นตัวอย่าง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ยังไม่มีใครร้องเรียน เพราะวิธีการแบบนี้ ปัจจุบันคนมุสสิมจึงอ้างว่า ขณะนี้คนมุสสิมในไทย ไม่ใช่ 3 % แล้วนะ แต่เกิน 10 % แล้ว เรื่องทั้งหลายเริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 2559 เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่าน พรบ.ให้พิธีฮัจย์ไปสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทำให้ต่อไปทุกอำเภอต้องมี กองกิจการฮัจย์ ประจำอยู่ทุกแห่ง คิดดูว่า ถ้าแต่ละอำเภอ ต้องมีคนมุสสิม ประจำอยู่แห่งละ 5 คนจะใช้งบประมาณอีกเท่าไร ซึ่งงานแต่เดิมมีแค่ส่งคนไปฮัจย์ แต่ต่อไปจะมีงานเพิ่มมาถึง 9 อย่าง เช่น จัดส่งนักศึกษามุสสิมเข้าเรียนฟรี ตามมหาวิทยาลัยของรัฐ และต่างประเทศ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน พรบ. บริหารองค์กรศาสนาอิสลๅม 2540 ก็ให้อำนาจคณะกรรมการอิสลๅม แห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดไหนมีมัสยิดครบ 3 แห่งแล้ว ให้ตั้งคณะกรรมการอิสลๅมเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าในจังหวัดนั้นๆเลย 9 - 30 คน ถ้ายังไม่มี ให้คณะกรรมการอิสลๅมกลางเป็นที่ปรึกษาแทนไปก่อน เพราะแบบนี้ไง จึงทำให้มีการเร่งสร้างมัสยิดทั่วประเทศ และมีชาวพุฑธออกมาต่อต้านกันใหญ่ คิดดูว่า ผู้ว่าคนเดียว แต่อิสลๅม 9-30 คน นั่งล้อมจะทำอะไรได้ นโยบายก็ต้องส่งเสริมอิสลๅมล้วนๆ งานนี้ แต่สิ่งเป็นรากแก้วให้อิสลๅมมั่นคงนั้น ไม่ใช่แค่กฎหมาย แต่เป็นยุทธศาสตร์ฮาลาล ซึ่งรัฐบาลประยุทธ์ได้อนุมัติเงินกว่า 7,900 ล้าน และก่อนหน้านี้ 2,900 ล้านให้หน่วยงานรัฐรณรงค์ และบังคับให้ทุกบริษัทที่ผลิตสินค้า ประเภทอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องอุปโภคทุกชนิด ต้องติดและเสียเงินค่าฮาลาล ให้กับคณะกรรมการอิสลๅมกลาง และอิสลๅมประจำจังหวัด ซึ่งเงินเหล่านี้ (ตอนนี้ยังผิดกฎหมายอยู่) เป็นเม็ดเงินมหาศาลในแต่ละปี โดยที่คนมุสสิมไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่สามารถเก็บเงินค่าฮาลาล ได้ทุกบริษัทในประเทศไทย และต่อไปมีแผนให้เกษตรกรทุกพื้นที่ต้องติดฮาลาล ในการทำนา ทำไร่ ทำสวน ทุกแห่งด้วย รวมไปถึงการขนส่งทุกชนิด ต้องเสียเงินค่าขนส่งฮาลาล ที่ได้ยินกันว่า โลจิสติกส์ฮาลาล โรงพยาบาลฮาลาล โรงแรมฮาลาล ประกันภัยฮาลาล สรุปว่า ทุกอย่างต้องเสียฮาลาลทั้งหมด เงินค่าฮาลาลเหล่านี้จะมากกว่า เงินภาษีที่รัฐเก็บได้ แต่ละปี และใช้กันเฉพาะให้กลุ่มคนมุสสิม คิดดูว่าถ้ายุทธศาสตร์นี้ได้ผลเต็มรูปแบบ คนมุสสิมจะเก็บเงินภาษีฮาลาลจากคนไทยทั้งประเทศได้มากกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี 35 = 70,000 ล้าน ยอมรับเฉพาะส่วนที่เก็บจากสินค้าส่งออก แต่ไม่พูดถึงที่เก็บจากสินค้าในไทย)(ขณะนี้คาดว่า ได้กว่า3 แสนล้านบาทต่อปี แต่เขายอมรับเพียง 70,000 ล้านบาทต่อปี (2,000 ล้าน US /ปี แล้วเงินเถื่อนๆ เหล่านี้จะซื้ออะไรได้บ้างในประเทศนี้ อย่าว่าแต่ซื้อข้าราชการเลย ซื้อประเทศไทยทั้งหมดก็ยังเหลือเฟือ เพราะเก็บได้ทุกปีไม่มีหมด และตอนนี้ก็กำลังกว้านซื้อกันขนานใหญ่ ในอีกยุทธศาสตร์หนึ่ง คือ การส่งนักศึกษามุสสิมเข้าเรียนฟรีในสถานศึกษาของรัฐทั้งใน และต่างประเทศ ด้วยงบประมาณของรัฐฟรี ไม่เฉพาะสาขาวิชาทั่วไป แม้แต่นายร้อยทหาร นายร้อยตำรวจ สาขาแพทย์ศาสตร์ ก็ให้สิทธิพิเศษแก่นักศึกษามุสสิมเข้าฟรีได้ ที่เห็นประจักษ์ที่สุด คือ คนที่เรียกตัวเองว่า หมอ แต่ไม่เคยได้รักษาคนเลย เช่น หมอ แมะno หมอแว ฯลฯ คนเหล่านี้ได้ช่องทางพิเศษแบบนี้ แต่ศักยภาพไม่มีจึงไม่กล้ารักษาใคร และ ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับให้เป็นหมอจริงๆ นโยบายนี้ เริ่มมาตั้งแต่สมัยเปรม ปี2513-14 เรียกว่า นโยบายช้างอารี จนถึงปัจจุบัน และมีหน่วยงานรัฐทั้งสิ้น 22 หน่วยงานในการดูแลตลอดจบการศึกษา หลังจบแล้วก็มีหน่วยงานส่งต่อจนเข้าทำงานในหน่วยงานรัฐได้สำเร็จ และกันหน่วยงานพิเศษรอไว้ให้คนมุสสิมเหล่านี้ด้วย ในกระทรวงหลักๆ ดังนั้น เราจึงเห็นว่าทุกสถานที่ราชการ มีคนมุสสิมคุมหัวไปแทรกอยู่ทุกแห่ง สิ่งที่แย่ที่สุด คือ เข้าไปแทรกอยู่ในสำนักงานพระพุฑธศาสนาทั้งส่วนกลาง และต่างจังหวัด หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยพุฑธโลก และที่แย่หนักเข้าไปอีก ปี 57 และ 59 นี้ รัฐบาลประยุทธ์ออกกฎกระทรวงให้สำนักพุฑธส่งข้อมูลภายในออกไปยังหน่วยราชการอื่น จึงไม่เหลืออะไรเป็นความลับของตัวเองเลย จากนั้นสภาปฏิรูปประเทศ(สปท) ออกมาระบุต้องรื้อถอนวัด 37,000 แห่งทั่วประเทศ เป็นต้นเหตุให้มีการเล่นงานพระสงฆ์กันขนานใหญ่อยู่ทุกวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายอิสลๅมอีกนับ 10 ฉบับ ที่จะทยอยบังคับใช้ทั่วประเทศ ถ้าสถานการณ์ เป็นไปอยู่แบบนี้ คนไทยทุกคนให้สำนึกเลยว่า พวกคุณเสียชาติเกิดจริงๆ ที่ไม่สามารถรักษามรดกที่บรรพบุรุษรักษาไว้ให้ อย่างน่าละอายใจยิ่ง : 18 พ.ค.62 คนส่งมา -----------ข่าวการเมืองภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#วิถีปัจจุบัน ของ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล บุคลิกภาพอย่างผมมันเข้ากันไม่ได้กับเศรษฐกิจฟองสบู่ ... มันเข้าไม่ได้กับระบบที่แข่งขันเอารัดเอาเปรียบ เพราะเราเชื่อเรื่องความสมถะสำรวม เชื่อเรื่องแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพราะฉะนั้น ... จึงเกิดสภาพที่เรารู้สึกถูกกดดันและถูกตามล่าตามล้าง รู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว คิดอะไรไม่เหมือนเพื่อนพ้องคนรอบข้าง ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหน เหมือนกับว่า เราไม่เคยพบกับการต้อนรับที่ดี เราเข้ากับเขาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ ... นำพาผมมาถึงจุดที่รู้สึกเหนื่อยล้าหมดแรงอย่างยิ่ง กระทั่งนำไปสู่ชีวิตส่วนตัวที่ล้มเหลว ::::::::::::::: หลัง ๒๕๔๐ ไม่นาน ... ผมกับภรรยาได้แยกทางเดินกัน แม้เราจะไม่ได้โกรธเกลียดกัน และเพียงเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่ครองมาเป็นเพื่อน แต่มันก็สั่นคลอนความรู้สึกนึกคิดของผมอย่างถึงราก ตอนนั้น ผมเริ่มเข้าสู่วัย ๕๐ กว่าแล้ว ... ผมต้องถามตัวเอง ว่าจะยืนต้านกระแสหลักในสังคมแบบที่ผ่านมา แล้วสะสมความเจ็บปวดขมขื่นต่อไป หรือ ควรเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมเสียใหม่ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ มีหนทางไหนบ้าง ที่เราไม่ต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้ ... ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องยอมเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เราไม่เห็นด้วย ในช่วงนี้ ... ผมได้ลงลึก สำรวจวิจารณ์ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย และในที่สุดก็ค้นพบว่า #มีอะไรบางอย่าง_ไม่ถูก_ในวิธีคิดของผมเอง ::::::::::::::: ประการที่หนึ่ง : ที่ผ่านมา ผมยึดถือในการต่อสู้ และมองโลกเป็นความขัดแย้ง มากเกินไป ที่ทางธรรมะเขาเรียกว่า ทวินิยม (Dualism) เห็นว่า ทุกอย่างดำรงอยู่เป็นคู่ มีดีมีชั่ว มีขาว มีดำ แล้วก็ ไปยืนเลือกข้างใดข้างหนึ่งอยู่ตลอดเวลา ต่อสู้กันมาก ก็เหนื่อยมาก ตัวผมเอง ทั้งถูกทำร้าย และทำร้ายผู้อื่น มาอย่างต่อเนื่อง ประการที่สอง : ผมเริ่มมองเห็นว่า อะไรหลายๆอย่างที่ผมยึดถือ เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเอง เป็นอัตวิสัย ที่โลกเขายังไม่พร้อมจะเห็นด้วย เราพยายามเอาตัวเองไปบังคับโลก เมื่อไม่ได้ดังใจ ก็ผิดหวังเศร้าโศก แล้วยังโดนเขาตอบโต้มาแรงๆ เพราะฉะนั้น `เหตุแห่งทุกข์´ จึงอยู่ในอัตตาของเราเอง ไม่ว่าจะเรียกมันว่า ... อุดมคติ หรือ อุดมการณ์ อะไรก็ตาม การวิจารณ์ตัวเองในลักษณะนี้ ได้พาผม ย้ายความคิดจากทางโลกมาสู่ทางธรรมมากขึ้น แบบรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ::::::::::::::: แต่ นั่นยังไม่มีผลเปลี่ยนแปลง เท่ากับประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นระยะนั้น ประสบการณ์ดังกล่าว มีพลังมากกว่าเหตุผลและความคิดใดๆ พูดให้ชัดขึ้นก็คือ ความเจ็บปวด กับชีวิตมาก ทำให้ผมใช้วิธี ตัดตัวเองออกจากอดีตและอนาคต #ทำให้ผมอยู่กับปัจจุบันขณะ ซึ่ง ถ้าพูดในภาษาธรรมเวลานี้ ผมรู้แล้วว่ามันคือ ... สมาธิ แต่ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าคืออะไร รู้แต่ว่าสบายใจ โปร่งโล่งไปหมด อยู่กับปัจจุบันขณะ มันทำให้เรา ปลดแอกตัวเรา ออกจากภาระทางจิต ที่เราแบกมาตลอดว่า เราเป็นใคร มาจากไหน เคยผ่านอะไรมาบ้าง ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เราปลดออกหมด เรียกว่า #ปลดแอกจากอัตตา ::::::::::::::: ในตอนแรก ... ผมทำสิ่งนี้ไป เพื่อหาทางดับทุกข์ด้วยตัวเอง โดยไม่มีทฤษฎีอะไรชี้นำ แต่ว่า ทำแล้ว รู้สึกว่ามันช่วยให้อยู่รอดในช่วงที่เราอาจจะอยู่ไม่รอด ... ก็เลยยึดไว้เป็นแนวทาง #พอไม่คิดว่าตัวเองเป็นใคร #ความรู้สึกทุกข์ร้อนมันหายไปมาก ข้อแรก ... ไม่เดือดร้อนว่า คนอื่นจะมองเราอย่างไร ข้อสอง ... ไม่มีความเห็นว่าโลกและชีวิต ควรจะเป็นอย่างไร เราไม่มีข้อเรียกร้อง ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น เช่นเดียวกับการที่เรา ไม่เอาอดีตมากลุ้ม และไม่เอาอนาคตมากังวล มันทำให้เรา ไม่มีสิ่งที่ผิดหวัง ไม่มีสิ่งที่เสียใจ ผมทำอย่างนี้อยู่พักใหญ่ ทีแรกก็เหมือนกับหลอกตัวเอง ด้วยการปิดกั้นความทุกข์โศก ไม่ให้มันเข้ามาในห้วงนึก แต่ พอทำไปมากขึ้น ปรากฏว่า มันเกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตขึ้นมา โดยไม่ได้คาดฝัน คือตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง ผมรู้สึกมีความสุขอย่างไม่มีเหตุมีผล ผมรู้สึกได้ว่า ความสุขมันมาจากข้างใน มันอยู่ในตัวผม เป็นความปลื้มปีติอะไรบางอย่าง ที่ไม่เกี่ยวกับโลกภายนอกเลย #เรื่องราวทุกข์โศกที่เคยมีมาดูเหมือนจะหายไปหมด ::::::::::::::: จากนั้น ความรู้สึกที่ผมมีต่อโลกรอบๆตัว ก็เปลี่ยนไปด้วย ผมเริ่มไปนับญาติกับต้นไม้ จิ้งจก นก หนู กระรอก ผมพูดกับพวกเขา เหมือนเป็นคนด้วยกัน ทำร้ายเขาแบบเดิมๆ ไม่ได้ กระทั่งมด ผมก็ไม่ฆ่า จิ้งจกตกไปในโถส้วม ก็คอยช่วย มดมาขึ้นชามอาหารที่ผมให้หมา ผมต้องเคาะออก ไม่เอาน้ำราดลงไป ทั้งหมดนี้ มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ มันรู้สึกขึ้นมาเองว่า ไม่อยากทำร้ายชีวิตใดๆ ผมแปลกใจมาก เพราะว่าเดิม เป็นคนที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาเยอะ เป็นคนที่ทำบาปมาเยอะมาก วันดีคืนดี พบตัวเอง มีจิตใจแบบนี้ มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ว่าเป็นไปได้อย่างไร ::::::::::::::: แล้วที่สำคัญก็คือ #ในความเบิกบานจากข้างในนี้ #ผมเลิกรู้สึกพ่ายแพ้ขมขื่นกับชีวิตโดยสิ้นเชิง ผมไม่รู้สึกว่า ตัวเองมีอะไรน่าสงสาร ไม่ทุกข์ร้อน ที่เคยแพ้สงครามปฏิวัติ หรือมีปัญหาส่วนตัวอะไรทั้งสิ้น เป็นครั้งแรก ... ที่ผมมองอดีตของตัวเองได้ทุกเรื่อง ด้วยความรู้สึกนิ่งเฉย สิ่งเหล่านี้ มันทำให้ผมค้นพบว่า ... ชีวิตทุกข์สุข ขึ้นอยู่กับมุมมองมากทีเดียว และบ่อยครั้ง เรามักเอาความคิดสารพัดไปปรุงแต่งมัน จนรกรุงรังไปหมด กระทั่ง หาแก่นแท้ไม่เจอ บางคน ยึดติดเงื่อนไขภายนอก โดยเฉพาะเงื่อนไขทางวัตถุและการชื่นชมของสังคม ก็หลับหูหลับตาหาแต่วัตถุและการยอมรับของคนอื่น บางคน อย่างผม ไม่ยึดถือวัตถุ มากเท่ากับยึดติดในอุดมคติต่างๆ ก็ทำให้เกิด อารมณ์ทางลบสูงมาก เราจะต้านทุกอย่าง ที่ไม่เป็นไปตามคิด ผูกตัวเองไว้กับตัวความคิด แล้วหลงความคิด จิตใจก็มีแต่ว้าวุ่น ฟุ้งซ่าน ทะเลาะเบาะแว้ง ทุกข์ร้อนอยู่ตลอดเวลา ::::::::::::::: ท้ายที่สุดแล้ว ... ผมคิดว่าชีวิตที่จะให้ความสงบแก่คุณได้ #คือชีวิตที่ไม่มีจุดหมายกดทับ #ไม่มีอุดมคติเป็นเครื่องร้อยรัด #แต่เป็นชีวิตที่มีมรรควิถี ผมเคยเขียนว่า ... แต่ละก้าวที่คุณก้าวไป มันสำคัญกว่าจุดหมาย คุณเป็นหนึ่งเดียวกับ ก้าวนั้นหรือเปล่า ถ้าคุณเป็นหนึ่งเดียวกับก้าวนั้น วันนี้ คุณพบตัวเองแล้ว แต่ละนาทีที่ผ่านไป ก็ครบถ้วนแล้ว แต่ ถ้าคุณขัดแย้งกับปัจจุบันขณะของคุณอยู่ตลอดเวลา ตัวทำอย่างหนึ่ง ใจอยากทำอีกอย่างหนึ่ง คุณจะมีแต่ความทุกข์ ... นั่นคือชีวิตของคนในโลกปัจจุบัน? #จากนิตยสารปาจารยสาร (ฉบับที่ 2 ปีที่ 31 ตุลาคม-พฤศจิกายน 2549 ) วิถีธรรมวิถีทาง ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล #ข้อมูลเพิ่มเติมจากWikipedia ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ด้านเรื่องสั้น สารคดี นวนิยาย กวีนิพนธ์ เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นนักเขียน "รางวัลศรีบูรพา" ในปี พ.ศ. 2546 เคยเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 โดยมีชื่อจัดตั้งว่า "สหายไท" ในช่วง พ.ศ. 2518 - พ.ศ. 2523 ขอคัดลอกมานำเสนอ เพื่อเป็นมุมมองสำหรับผู้ที่กำลังค้นหาคำตอบให้กับตนเอง ด้วยประสบการณ์ตรงจากนักต่อสู้ทางการเมือง ผู้ที่ถือว่ามีความปราดเปรื่องท่านหนึ่ง ว่าที่สุดแล้ว สิ่งที่ท่านได้ค้นพบและเป็นความจริงแท้ คืออะไร? ไพโรจน์ จีรบุณย์ สถาปนิก เพื่อสังคม 17 ตค 2563ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยhttps://vt.tiktok.com/ZSdpTvbUD/?k=1สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตร.เตือนภัยมิจฉาชีพปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ลวงว่าสามารถนำเงินกลับคืนมาได้วันที่ 27 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สอท.พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่าได้รับรายงานจากระบบศูนย์บริหารการแจ้งความออนไลน์ พบผู้เสียหายหลายรายแจ้งความออนไลน์ว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ การถูกหลอกลวงให้กู้เงิน การถูกหลอกลวงให้ลงทุน หรือการถูกหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายจึงได้ใช้คำว่า “ แจ้งความออนไลน์ ” เป็นคีย์เวิร์ด (Keyword) ในการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ค้นหา (Search Engine Site) ยอดนิยมต่างๆ เช่น Google.com, Bing.com เป็นต้นชุมพล ศรีสมบัติ• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยารักษาได้ทุกโรคขึ้นอยู่กับชนิดของโรค/อาการ/ชนิดของยา หากเป็นยารักษาโรคประจำตัว จำเป็นต้องกินต่อเนื่อง ห้ามหยุดยาเอง แต่ถ้าหากเป็นยารักษาตามอาการ สามารถหยุดกินยาสมุนไพรPunigx XT• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพิธา" บุกเซ็นทรัลเวิลด์ปลุกโอกาสทวงคืนความปกติชาติ ขอเป็นนายกฯของทุกคนสัญญาพรุ่งนี้จะสว่างไสวหัวหน้าก้าวไกล ปราศรัย หน้าลานเซ็นทรัลเวิร์ล ขอบคุณทุกคะแนนเสียง มอง เป็นโอกาสทองคืนความปกติให้ประเทศ ชื่นชม ส.ส. - ส.ว. ไม่โหวตสวนมติประชาชน ขอเป็นนายกฯ ของทุกคน สัญญา พรุ่งนี้จะสว่างไสวกว่าในวันนี้ที่มืดมิดข่าวการเมืองเลือกตั้งstd48855• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสูตรสมุนไพร "น้ำมันขับพยาธิ" ความเชื่อ แก้อาการสารพัดโรคตามที่มีข้อความในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องน้ำมันขับพยาธิ สูตรรากเหง้าชะพลู แก้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม บรรเทาอาการไอ หอบหืด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ พร้อมชี้แจงว่า น้ำมันขับพยาธิ สูตรรากเหง้าชะพลู ตามที่ปรากฏดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ แก้ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยให้ลูกน้อยเจริญอาหาร บรรเทาอาการไอ หอบหืด ช่วยให้หลับสนิท ช่วยขับพยาธิทุกชนิด ซึ่งจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใดstd47919• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกด##002# ลดค่าโทรศัพท์วิธีลดค่าโทรศัพท์กด ##002#Peemaiii• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลูกอมนมโตExtra Candy เป็น ลูกอมนมโต ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ณ ขณะนี้ โดยบรรยายสรรพคุณไว้ว่า รวมฮอร์โมนธรรมชาติ เพื่อบำรุงทรวงอก เป็นวิธีเพิ่มขนาดหน้าอก โดยกระตุ้นการสังเคราะห์ฮอร์โมน เอสโตรเจนของสตรี ที่มีอยู่ในวัยสาว ช่วยให้หน้าอกโต อวบอิ่ม ขยายขนาดทรวงอก เพิ่มความกระชับ ลดการหย่อนคล้อย ขยายฐานให้พอเหมาะกับ รูปร่าง ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆstd46461• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลูกอมนมโตเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ก็มีลูกอม ที่อมแล้วอกโต นมโต ของญี่ปุ่น ที่มีคนหัวใส นำเข้ามาขายแหกตาคนไทย อยู่พักใหญ่เลย โดยอ้างส่วนผสมทำมาจากกวาวเครือ มีสรรพคุณทำให้ นมโต อกใหญ่ ไม่อ้วน ไม่เป็นอันตราย เพราะมี อย.ญี่ปุ่น รับรองstd46420• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย‘งานออนไลน์รายได้ดี’ เรื่องน่าปวดหัวของ ‘ประกันสังคม’ ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างสร้าง ‘ข่าวลวง’ วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างจากมิจฉาชีพอยู่บ่อยครั้งจริงๆ ก่อนหน้านี้โคแฟค (ประเทศไทย) ได้เคยเขียนถึงไปแล้วในบทความ “4 ข่าวลวงวนซ้ำ‘มาตรการเยียวยาประชาชนโดยรัฐ’ในสถานการณ์โควิด-19” ว่าด้วย สปส. กับข่าวลวงที่วนมาเรื่อยๆ เรื่องแจกเงินช่วยเหลือประชาชนบ้าง ให้สินเชื่อกับผู้ประกันตนบ้าง แต่นอกจากนั้นยังมีเรื่องของ “การทำงานออนไลน์” ที่มีมิจฉาชีพไปตั้งเพจเฟซบุ๊กให้เหมือนเพจของ สปส. แล้วอ้างว่ารับคนทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ มีการแชร์ภาพโฆษณา “ประกันสังคม เปิดรับพนักงาน part-time คุณแม่อยู่บ้านอยากมีรายรับ ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทาง 400-1600 ต่อวัน *เพศหญิงพิจารณาพิเศษ” อีกทั้งยังอ้างชื่อหน่วยงาน “ศูนย์สารนิเทศ ฝ่ายข่าว สำนักงานประกันสังคม” ซึ่งก็สามารถฟันธงได้เลยว่า “อย่าหลงเชื่อ” เพราะย้อนไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ทาง สปส. ก็ได้ฝากผ่าน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาเตือนเรื่องนี้แล้วครั้งหนึ่ง โดยอ้างถึงภาพเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งระบุข้อความว่า “สำนักงานประกันสังคม สมัครฟรี เปิดรับพนักงาน รับงานอาชีพอิสระ ทำที่บ้านหรือนอกบ้านก็ได้ 350-1200 ต่อวัน เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด” รวมถึงระบุด้านใต้ภาพว่า “ศูนย์สารนิเทศ ฝ่ายข่าว สำนักงานประกันสังคม”std48313• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเหล้าช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจริงหรอ🙅🏼♂️ตามที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องดื่มเหล้าติดต่อกัน 7 วัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และหากดื่มขณะตั้งครรภ์ จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม อย่าแชร์! ดื่มเหล้าช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย | Hfocus.org https://www.hfocus.org/content/2022/09/25956 ตามที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องดื่มเหล้าติดต่อกัน 7 วัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และหากดื่มขณะตั้งครรภ์ จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็ อัพเดทข้อมูลลิงก์อีกครั้ง ชื่อนีโอ ไม่ใช่มีโอ ลีโอ โอรีโอ้ • 4 นาทีที่แล้วstd47905• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19ได้รู้หรือยัง non-medical mask เป็นหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ใช้กันเชื้อโรคไม่ได้ ส่วน medical mask เป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์ กันเชื้อโรคได้ประสิทธิภาพสูง ดังนั้น ถ้าจะใช้กับโควิด ในพื้นที่เสี่ยงหรือแออัด ก็ต้องใช้ medical mask ขึ้นไปเท่านั้น"สุขภาพโควิด 2019ผู้บริโภคเฝ้าระวัง• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแนะแนวทางสกัด “infodemic” ข่าวปลอม-ข้อมูลเท็จ ซ้ำเติมสถานการณ์ “โควิด-19” ระบาดหนักเชื่อมต่อโลกออนไลน์ ระดมความคิดเห็นและแนวทางรับมือ “โรคระบาดข้อมูลข่าวสาร - infodemic” ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไร ไม่ให้ตื่นตระหนก และตกเป็นเหยื่อข่าวลวงข้อมูลเท็จ เมื่อเร็วๆ นี้ ในการเสวนาออนไลน์เรื่อง เราควรรับมือโรคระบาดข้อมูลข่าวสาร (Infodemic) อย่างไรให้สมดุล จัดโดย ภาคประชาสังคม และกลุ่ม CoFact หรือ Collaborative Fact Checking แพลตฟอร์มใหม่ของภาคพลเมืองในการตรวจสอบข่าวลวงสุขภาพโควิด 2019ศุภาพิชญ์ จันทร์ภูญา• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้จากกระแสการแชร์ข้อมูลว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้นั้น รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ให้ความรู้ว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ที่มีคุณภาพการผลิตดี แผ่นกรองหลายชั้น และไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อนนั้น บุคคลธรรมดาก็สามารถนำมาใช้ใส่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้โควิด 2019std47715• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้จากกระแสการแชร์ข้อมูลว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19std47612• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้นั้น รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ให้ความรู้ว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ที่มีคุณภาพการผลิตดี แผ่นกรองหลายชั้น และไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อนนั้น บุคคลธรรมดาก็สามารถนำมาใช้ใส่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้Sanem Ntch• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์std46604• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้จากกระแสการแชร์ข้อมูลว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้std46344• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้std46448• 2 ปีที่แล้ว
- 15 คนสงสัยหน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้จากกระแสการแชร์ข้อมูลว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask หรือหน้ากากที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ ไม่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้นั้น รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ให้ความรู้ว่า หน้ากากอนามัยแบบ non-medical mask ที่มีคุณภาพการผลิตดี แผ่นกรองหลายชั้น และไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อนนั้น บุคคลธรรมดาก็สามารถนำมาใช้ใส่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้โควิด 2019std46756• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"นกแอร์" ไถลออกนอกรันเวย์ ผู้โดยสารโวยแผนอพยพเมื่อเวลา 20.03 น. วันที่ 30 ก.ค. 2565 เครื่องบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737-800 บรรทุกผู้โดยสาร 164 ท่าน พร้อมลูกเรือ 6 ท่าน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยถึงท่าอากาศแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อเวลา 21.06 น. แต่ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด บริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงนั้น เกิดมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ต่อมา เฟซบุ๊ก Nok Air ได้แถลงชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า นักบินสามารถจอดเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย และนำผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รวมทั้งได้ดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการรับกระเป๋าสัมภาระ และบริษัทฯ พร้อมจัดหาอาหารว่าง และเครื่องดื่มมาให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างพักรอ และจัดหาที่พักสำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบภาคเหนือ24phophiangliz• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารเสริมลดน้ำหนักSFACTORสามารถลดน้ำหนักโดยไม่ต้องออกกำลังกายได้จริงหรอค่ะ.สูตรนวัตกรรมใหม่เพื่อการลดน้ำหนัก ลด 15 กก.ใน 4 สัปดาห์โดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายลดความอ้วนผู้บริโภคเฝ้าระวังkulanit1363• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยาบดน้ำหนักโทษยาลดน้ำหนักสำหรับสาวๆแล้ว การมีหุ่นดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเลยใช่ไหมคะ แต่ก็มีสาวๆหลายคนเลือกใช้ทางลัดในการลดน้ำหนัก โดยการเลือกใช้ยาลดความอ้วนสำหรับ.. โทษของยาลดความอ้วน เป็นความเสี่ยงของคนที่กำลังคิดจะกินยาลดความอ้วน หรือได้กินยาลดความอ้วนไปแล้ว ในส่วนของการมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น มีไขมันส่วนเกิน หรือ “กำลังอ้วน” ถ้าไม่ลดความอ้วนตั้งแต่รู้ตัว ก็จะทำให้การลดน้ำหนักเพื่อลดความอ้วนเป็นเรื่องที่ยากขึ้น ความอ้วนเป็นโรคที่มีอาการเรื้อรังไม่สามารถหายได้ภายใน 3 วัน 7 วัน เหมือนไข้หวัด การกินยาลดความอ้วนก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี และยังมีโทษยาลดความอ้วนมากมาย นอกจากจะได้เป็นโรคอ้วนแล้ว… ยังจะได้รับโรคแทรกซ้อนที่มากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคต้อหิน โรคไขมันในเลือดสูง ล้วนแต่เป็นโรคที่อันตรายที่มาพร้อมกับความอ้วน วันนี้พรีมาแคร์เลยอยากเตือนสาวๆที่ ตัดสินใจใช้ยาลดความอ้วนมาฝากคะลดความอ้วนdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ