1 คนสงสัย
#วิถีปัจจุบัน
ของ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

บุคลิกภาพอย่างผมมันเข้ากันไม่ได้กับเศรษฐกิจฟองสบู่ ...
มันเข้าไม่ได้กับระบบที่แข่งขันเอารัดเอาเปรียบ

เพราะเราเชื่อเรื่องความสมถะสำรวม

เชื่อเรื่องแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

เพราะฉะนั้น ...
จึงเกิดสภาพที่เรารู้สึกถูกกดดันและถูกตามล่าตามล้าง
รู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว คิดอะไรไม่เหมือนเพื่อนพ้องคนรอบข้าง

ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหน
เหมือนกับว่า เราไม่เคยพบกับการต้อนรับที่ดี เราเข้ากับเขาไม่ได้

สิ่งเหล่านี้ ...
นำพาผมมาถึงจุดที่รู้สึกเหนื่อยล้าหมดแรงอย่างยิ่ง
กระทั่งนำไปสู่ชีวิตส่วนตัวที่ล้มเหลว

:::::::::::::::

หลัง ๒๕๔๐ ไม่นาน ...
ผมกับภรรยาได้แยกทางเดินกัน

แม้เราจะไม่ได้โกรธเกลียดกัน
และเพียงเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่ครองมาเป็นเพื่อน
แต่มันก็สั่นคลอนความรู้สึกนึกคิดของผมอย่างถึงราก

ตอนนั้น ผมเริ่มเข้าสู่วัย ๕๐ กว่าแล้ว ...
ผมต้องถามตัวเอง ว่าจะยืนต้านกระแสหลักในสังคมแบบที่ผ่านมา
แล้วสะสมความเจ็บปวดขมขื่นต่อไป
หรือ ควรเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมเสียใหม่ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้

มีหนทางไหนบ้าง
ที่เราไม่ต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้ ...
ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องยอมเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เราไม่เห็นด้วย

ในช่วงนี้ ...
ผมได้ลงลึก สำรวจวิจารณ์ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
และในที่สุดก็ค้นพบว่า
#มีอะไรบางอย่าง_ไม่ถูก_ในวิธีคิดของผมเอง

:::::::::::::::

ประการที่หนึ่ง :

ที่ผ่านมา
ผมยึดถือในการต่อสู้ และมองโลกเป็นความขัดแย้ง มากเกินไป
ที่ทางธรรมะเขาเรียกว่า ทวินิยม (Dualism)
เห็นว่า ทุกอย่างดำรงอยู่เป็นคู่ มีดีมีชั่ว มีขาว มีดำ
แล้วก็ ไปยืนเลือกข้างใดข้างหนึ่งอยู่ตลอดเวลา

ต่อสู้กันมาก ก็เหนื่อยมาก
ตัวผมเอง ทั้งถูกทำร้าย และทำร้ายผู้อื่น มาอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สอง :

ผมเริ่มมองเห็นว่า
อะไรหลายๆอย่างที่ผมยึดถือ
เป็นเรื่องที่ผมคิดไปเอง เป็นอัตวิสัย
ที่โลกเขายังไม่พร้อมจะเห็นด้วย

เราพยายามเอาตัวเองไปบังคับโลก
เมื่อไม่ได้ดังใจ ก็ผิดหวังเศร้าโศก
แล้วยังโดนเขาตอบโต้มาแรงๆ

เพราะฉะนั้น `เหตุแห่งทุกข์´
จึงอยู่ในอัตตาของเราเอง

ไม่ว่าจะเรียกมันว่า ...
อุดมคติ หรือ อุดมการณ์ อะไรก็ตาม

การวิจารณ์ตัวเองในลักษณะนี้
ได้พาผม ย้ายความคิดจากทางโลกมาสู่ทางธรรมมากขึ้น
แบบรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง

:::::::::::::::

แต่ นั่นยังไม่มีผลเปลี่ยนแปลง เท่ากับประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นระยะนั้น

ประสบการณ์ดังกล่าว มีพลังมากกว่าเหตุผลและความคิดใดๆ

พูดให้ชัดขึ้นก็คือ ความเจ็บปวด กับชีวิตมาก
ทำให้ผมใช้วิธี ตัดตัวเองออกจากอดีตและอนาคต
#ทำให้ผมอยู่กับปัจจุบันขณะ

ซึ่ง ถ้าพูดในภาษาธรรมเวลานี้
ผมรู้แล้วว่ามันคือ ... สมาธิ

แต่ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าคืออะไร
รู้แต่ว่าสบายใจ โปร่งโล่งไปหมด อยู่กับปัจจุบันขณะ

มันทำให้เรา ปลดแอกตัวเรา ออกจากภาระทางจิต
ที่เราแบกมาตลอดว่า
เราเป็นใคร มาจากไหน
เคยผ่านอะไรมาบ้าง ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

เราปลดออกหมด เรียกว่า
#ปลดแอกจากอัตตา

:::::::::::::::

ในตอนแรก ...
ผมทำสิ่งนี้ไป เพื่อหาทางดับทุกข์ด้วยตัวเอง โดยไม่มีทฤษฎีอะไรชี้นำ

แต่ว่า ทำแล้ว รู้สึกว่ามันช่วยให้อยู่รอดในช่วงที่เราอาจจะอยู่ไม่รอด ...
ก็เลยยึดไว้เป็นแนวทาง

#พอไม่คิดว่าตัวเองเป็นใคร
#ความรู้สึกทุกข์ร้อนมันหายไปมาก

ข้อแรก ...
ไม่เดือดร้อนว่า คนอื่นจะมองเราอย่างไร
ข้อสอง ...
ไม่มีความเห็นว่าโลกและชีวิต ควรจะเป็นอย่างไร

เราไม่มีข้อเรียกร้อง
ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น

เช่นเดียวกับการที่เรา ไม่เอาอดีตมากลุ้ม และไม่เอาอนาคตมากังวล
มันทำให้เรา ไม่มีสิ่งที่ผิดหวัง ไม่มีสิ่งที่เสียใจ

ผมทำอย่างนี้อยู่พักใหญ่
ทีแรกก็เหมือนกับหลอกตัวเอง ด้วยการปิดกั้นความทุกข์โศก ไม่ให้มันเข้ามาในห้วงนึก

แต่ พอทำไปมากขึ้น
ปรากฏว่า มันเกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตขึ้นมา โดยไม่ได้คาดฝัน

คือตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง ผมรู้สึกมีความสุขอย่างไม่มีเหตุมีผล
ผมรู้สึกได้ว่า ความสุขมันมาจากข้างใน มันอยู่ในตัวผม
เป็นความปลื้มปีติอะไรบางอย่าง ที่ไม่เกี่ยวกับโลกภายนอกเลย

#เรื่องราวทุกข์โศกที่เคยมีมาดูเหมือนจะหายไปหมด

:::::::::::::::

จากนั้น ความรู้สึกที่ผมมีต่อโลกรอบๆตัว ก็เปลี่ยนไปด้วย
ผมเริ่มไปนับญาติกับต้นไม้ จิ้งจก นก หนู กระรอก
ผมพูดกับพวกเขา เหมือนเป็นคนด้วยกัน
ทำร้ายเขาแบบเดิมๆ ไม่ได้

กระทั่งมด ผมก็ไม่ฆ่า
จิ้งจกตกไปในโถส้วม ก็คอยช่วย
มดมาขึ้นชามอาหารที่ผมให้หมา ผมต้องเคาะออก ไม่เอาน้ำราดลงไป

ทั้งหมดนี้ มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
มันรู้สึกขึ้นมาเองว่า ไม่อยากทำร้ายชีวิตใดๆ

ผมแปลกใจมาก
เพราะว่าเดิม เป็นคนที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาเยอะ เป็นคนที่ทำบาปมาเยอะมาก
วันดีคืนดี พบตัวเอง มีจิตใจแบบนี้
มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ว่าเป็นไปได้อย่างไร

:::::::::::::::

แล้วที่สำคัญก็คือ
#ในความเบิกบานจากข้างในนี้
#ผมเลิกรู้สึกพ่ายแพ้ขมขื่นกับชีวิตโดยสิ้นเชิง

ผมไม่รู้สึกว่า ตัวเองมีอะไรน่าสงสาร
ไม่ทุกข์ร้อน ที่เคยแพ้สงครามปฏิวัติ
หรือมีปัญหาส่วนตัวอะไรทั้งสิ้น

เป็นครั้งแรก ...
ที่ผมมองอดีตของตัวเองได้ทุกเรื่อง ด้วยความรู้สึกนิ่งเฉย

สิ่งเหล่านี้ มันทำให้ผมค้นพบว่า ...
ชีวิตทุกข์สุข ขึ้นอยู่กับมุมมองมากทีเดียว
และบ่อยครั้ง เรามักเอาความคิดสารพัดไปปรุงแต่งมัน จนรกรุงรังไปหมด
กระทั่ง หาแก่นแท้ไม่เจอ

บางคน ยึดติดเงื่อนไขภายนอก
โดยเฉพาะเงื่อนไขทางวัตถุและการชื่นชมของสังคม
ก็หลับหูหลับตาหาแต่วัตถุและการยอมรับของคนอื่น

บางคน อย่างผม ไม่ยึดถือวัตถุ มากเท่ากับยึดติดในอุดมคติต่างๆ
ก็ทำให้เกิด อารมณ์ทางลบสูงมาก

เราจะต้านทุกอย่าง ที่ไม่เป็นไปตามคิด
ผูกตัวเองไว้กับตัวความคิด แล้วหลงความคิด
จิตใจก็มีแต่ว้าวุ่น ฟุ้งซ่าน ทะเลาะเบาะแว้ง ทุกข์ร้อนอยู่ตลอดเวลา

:::::::::::::::

ท้ายที่สุดแล้ว ...
ผมคิดว่าชีวิตที่จะให้ความสงบแก่คุณได้

#คือชีวิตที่ไม่มีจุดหมายกดทับ
#ไม่มีอุดมคติเป็นเครื่องร้อยรัด
#แต่เป็นชีวิตที่มีมรรควิถี

ผมเคยเขียนว่า ...
แต่ละก้าวที่คุณก้าวไป มันสำคัญกว่าจุดหมาย
คุณเป็นหนึ่งเดียวกับ ก้าวนั้นหรือเปล่า

ถ้าคุณเป็นหนึ่งเดียวกับก้าวนั้น
วันนี้ คุณพบตัวเองแล้ว แต่ละนาทีที่ผ่านไป ก็ครบถ้วนแล้ว

แต่ ถ้าคุณขัดแย้งกับปัจจุบันขณะของคุณอยู่ตลอดเวลา
ตัวทำอย่างหนึ่ง ใจอยากทำอีกอย่างหนึ่ง
คุณจะมีแต่ความทุกข์ ...
นั่นคือชีวิตของคนในโลกปัจจุบัน?

#จากนิตยสารปาจารยสาร
(ฉบับที่ 2 ปีที่ 31 ตุลาคม-พฤศจิกายน 2549 )
วิถีธรรมวิถีทาง ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

#ข้อมูลเพิ่มเติมจากWikipedia
ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ด้านเรื่องสั้น สารคดี นวนิยาย กวีนิพนธ์
เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
เป็นนักเขียน "รางวัลศรีบูรพา" ในปี พ.ศ. 2546
เคยเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 โดยมีชื่อจัดตั้งว่า "สหายไท"
ในช่วง พ.ศ. 2518 - พ.ศ. 2523

ขอคัดลอกมานำเสนอ
เพื่อเป็นมุมมองสำหรับผู้ที่กำลังค้นหาคำตอบให้กับตนเอง
ด้วยประสบการณ์ตรงจากนักต่อสู้ทางการเมือง ผู้ที่ถือว่ามีความปราดเปรื่องท่านหนึ่ง
ว่าที่สุดแล้ว สิ่งที่ท่านได้ค้นพบและเป็นความจริงแท้ คืออะไร?

ไพโรจน์ จีรบุณย์
สถาปนิก เพื่อสังคม
17 ตค 2563
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ทานไฟเบอร์ก่อนไข่และชีส ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
    ตามที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องทานไฟเบอร์ก่อนไข่และชีส ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีมีคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับทานไฟเบอร์ก่อนทานไข่และชีส ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ทางสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ไฟเบอร์ หรือเส้นใยอาหาร (dietary fiber) คือ คาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลาย หรือดูดซึมได้ แบ่งได้ 2 ประเภทคือ ชนิดที่ละลายน้ำได้และชนิดที่ไม่ละลายน้ำ มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยลดการดูดซึมน้ำตาล และคอเลสเตอรอลที่ลำไส้ พบมากในผัก ผลไม้ ถั่ว ซีเรียล ธัญพืชเช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด
    chutikarn222549
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    “กฎแห่งกรรม” ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต.. > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน ๕ ~ ๖ คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป... > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง... > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก. เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้.. > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง.. > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น... > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที... แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา... > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น... > ระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน... > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... > ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ ... วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง > แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด... > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น... > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็ก ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... > แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้... > คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว... > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี... > ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง.เธอกำลังให้นม ลูก... > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข... > ทันทีที่ถูกยิง..ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..... > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้.. > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ... > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย... > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ... > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ... > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด... > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ.. > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว... > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้... > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน... > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต.. > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...... > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง... > ชื่อว่า... “ลิงทะโมน” > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก พงษ์เทพต้องเผชิญชตากรรมตามสนองคือ เป็นมะเร็งขั้นรุนแรงที่ตับ ไปผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ มีทรัพย์สินขายเกือบหมด ตอนนี้เหลือบ้านเพียงแห่งเดียวที่ปากช่องพออยู่อาศัย โรคร้ายปะทุยังไม่หายนอนรอวันดับก็น่าสงสาร เพื่อน ๆ วงคาราบาวก็ไปเยี่ยมพร้อมกัน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงครับ https://youtu.be/U2jGXwBDClk
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    โรงพยาบาลราชวิถี ศาสตราจารย์เฉิน หุ่ยเหริน เน้นย้ำว่า หากทุกคนที่ได้รับข้อความนี้ สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้สิบคน รับรองว่าจะมีชีวิตหนึ่งอย่างน้อยที่จะได้รับการช่วยชีวิต... ฉันได้ทำส่วนของฉันแล้ว หวังว่าคุณจะช่วยทำส่วนของคุณด้วย ขอบคุณ! 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถช่วยชีวิตคุณได้ตลอดไป 🍋 ถึงจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องดู แล้วบอกคนอื่น ส่งต่อความรักออกไป! 🍋 น้ำมะนาวร้อน - ฆ่าเซลล์มะเร็งเท่านั้น! 🍋 หั่นมะนาว 2-3 ชิ้นบางๆ ใส่ในแก้ว เติมน้ำร้อน มันจะกลายเป็น "น้ำด่าง" ดื่มทุกวัน จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถปล่อยสารต้านมะเร็งที่ขมขื่น ซึ่งเป็นความก้าวหน้าใหม่ในการรักษามะเร็งในวงการแพทย์ น้ำมะนาวแช่แข็งมีแค่วิตามินซี เหมือนกับมะเขือเทศที่ต้องปรุงสุกถึงจะมีไลโคปีน 🍋 น้ำมะนาวร้อนมีผลต่อซีสต์และเนื้องอก ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถรักษามะเร็งทุกประเภทได้ 🍋 การใช้สารสกัดจากมะนาวในการรักษา จะทำลายเซลล์มะเร็งเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ที่มีสุขภาพดี 🍋 นอกจากนี้... กรดมะนาวและฟลาโวนอยด์ในน้ำมะนาว สามารถปรับความดันโลหิต ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึก ปรับการไหลเวียนของเลือด ลดการเกิดลิ่มเลือด อ่านเสร็จแล้ว บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ส่งต่อความรักออกไป! ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีนะคะ 🙏🏻💖
    ไม่ระบุชื่อ
     •  5 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    Passport ที่ทรงอิทธิพลสุดในโลก ปี 2023 ㊗️ ลำดับที่ 1 ญี่ปุ่น
    ㊗️ Passport ที่ทรงอิทธิพลสุดในโลก ปี 2023 ㊗️ ลำดับที่ 1 ญี่ปุ่น🇯🇵 โดยยังคงความแข็งแกร่งแชมป์อย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีเลยค่ะ สามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ถึง 193 ประเทศเลยทีเดียว จากการจัดลำดับ Passport ( หนังสือเดินทางเดินทางทั่วโลก / จำนวนที่สามารถเข้าประเทศ หรือเดินทางเข้าประเทศไม่ต้องขอวีซ่า / Visa-Free / Visa on Arrival ㊗️ ลำดับ Passport ทรงพลังปี 2023 ① ญี่ปุ่น ✈︎ เข้าได้ 193 ประเทศ ② สิงคโปร์ , เกาหลีใต้ ✈︎ เข้าได้ 192 ประเทศ ③ เยอรมนี , สเปน ✈︎ เข้าได้ 190 ประเทศ ④ ฟินแลนด์ , อิตาลี และลักเซมเบิร์ก ✈︎ เข้าได้ 189 ประเทศ ⑤ ออสเตรีย , เดนมาร์ก ,เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ✈︎ เข้าได้ 188 ประเทศ สำหรับไทย🇹🇭 จากการจัดลำดับ ในส่วนของปีนี้ไทยตกไปอยู่ลำดับที่ 68 ( ในปี 2022 นั้นอยู่ลำดับที่ 65 ค่ะ ) ㊗️ ที่มา : Henley Passport Index https://www.henleyglobal.com/passport-index
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผลิตภัณฑ์ D.U.D
    ตามที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ D.U.D คืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20 ปี ใน 3 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีผลิตภัณฑ์ D.U.D ที่ใช้ข้อความโฆษณาแสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าสามารถคืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20 ปี ใน 3 เดือนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ D.U.D จดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง สำหรับบำรุงผิว มีเลขที่ใบจดแจ้ง 12-1-6300050347 และจากการตรวจสอบเว็บไซต์ขายผลิตภัณฑ์ D.U.D ได้ระบุสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถฟื้นฟู คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวหน้า ลบริ้วรอยทันตาเห็น ลดอายุลงไปจากเดิม 20 ปี ใน 3 เดือน และกล่าวอ้างว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์ดัง
    std47602
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เล่นเกมส์แล้วจะเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น จริงไหม ?
    ผมสังเกตเห็นเกมส์ส่วนมากจะมีภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ เลยสงสัยว่าถ้าเล่นเกมส์มากๆจะทำให้เราเก่งภาษาไปด้วยหรือเปล่าครับ ?
    ห๊ะ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ❤️งานวิจัยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมือถือ แทปเลต ⛳️ชายหญิง อายุ 25-40 ปี 🌵ค่าเสียเวลา 1200 บาท 🦄 เป็นคนทันสมัย สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ 🎉 สนใจส่งข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ อายุ อาชีพ มือถือ/แทปเลตที่ใช้ รูปถ่าย เบอร์โทรมาที่ ไอดี nangzin12 ได้เลยค่ะ🙇🏻‍♀️🙏🏻
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หน้าฝนนี้ ให้ระวังโรคทางผิวหนัง "โรคผื่นกุหลาบ" โรคผิวหนังที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส หากหญิงตั้งครรภ์แรกเริ่มติด อาจเสี่ยงแท้งได้ จริงหรือ
    โรคผื่นกุหลาบเป็นโรคผิวหนังมีอาการเฉียบพลัน ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด พบมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส ผื่นมีลักษณะเฉพาะ รูปร่างกลมหรือรี มีการกระจายเป็นแนวตามร่องบนผิว คล้ายกับลักษณะของต้นสน โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดในคนอายุน้อย โดยเฉพาะช่วงอายุ 10-35 ปี พบได้ในทุกเชื้อชาติ โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในอัตรา 2:1 ผื่นมักเกิดอยู่นานประมาณ 6-8 สัปดาห์แล้วหายได้เอง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจเป็นนานถึง 5 เดือนหรือมากกว่า การวินิจฉัยแยกกับผื่นผิวหนังอักเสบอื่นๆ มีรายงานว่า การเกิดผื่นกุหลาบในผู้ป่วยตั้งครรภ์ เป็นความเสี่ยงทำให้เกิดการแท้งได้ โดยเฉพาะช่วง 15 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️
    ⚠️ ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️ คำตอบ : โดนได้ครับ ถ้าบอกเลขบัญชี + เลขประชาชน + เลขโทรศัพท์มือถือ ให้เขาไป เขาจะไปเปิดบัญชี wallet หรือกระเป๋าเงิน ผูกกับบัญชีธนาคารเรา และโอนเงินออกไป เข้าบัญชี wallet ‼️ วิธีการคนร้าย 1. คนร้ายจะเข้ามาทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อของออนไลน์ และขอเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ในบัตรประชาชนของผู้เสียหาย 2. คนร้ายจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ขึ้นมาใหม่ และตั้งค่าบัญชี E-Wallet ให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารผู้เสียหาย 3. หลังจากนั้นผู้เสียหายจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในทำนองว่า "คุณต้องการที่จะให้บัญชีธนาคารของคุณเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่" ซึ่งการแจ้งเตือนมีข้อความค่อนข้างยาว ทำให้ผู้เสียหายหลายรายไม่อยากอ่าน และมองว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น 4. เมื่อผู้เสียหายกด "ยอมรับ" หรือ "ตกลง" บน Mobile Banking การเชื่อมระหว่างบัญชี Mobile Banking ของผู้เสียหาย กับบัญชี E-Wallet ของคนร้ายก็จะสมบูรณ์ ดังนั้น จึงทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผ่านช่องทาง Mobile Banking ไปยังบัญชี E-Wallet ของคนร้ายจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีนั่นเอง จึงขอเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง และพยายามอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร หากมีการแจ้งเตือนเข้ามาในโทรศัพท์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน อย่าลืมอ่านข้อความที่แจ้งมาอย่างละเอียด หากอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ยังไม่ต้องตอบตกลง เพราะไม่แน่ว่าการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้เงินในบัญชีถูกถอนออกจนหมดก็ได้ เครดิตข้อมูล และภาพ : เฟซบุ๊ก กองปราบปราม (กฎหมายตำรวจและพนักงานสอบสวน by ภูมิรพี ผลาภูมิ)✅
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ระวัง! ไฟไหม้บ้านโดยนึกไม่ถึง.... จุดสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังไม้เฟอร์นิเจอร์ จุดเดียวเป็นเวลานานๆ จนเกิดการลุกไหม้ ดีที่ลูกสาวเห็นได้ทันก่อน เพราะวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่งั้นเกิดโศกนาฏกรรมแน่ๆ.... (เกิดเหตุช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564) บุญรักษา พระคุ้มครองโดยแท้
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false