2435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยขอเชิญร่วมลงชื่อคัดค้าน และเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท และร่วมร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจ ดำเนินการส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ข้าพเจ้า วิรังรอง ทัพพะรังสี ได้ทำการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วตามรายละเอียดด้านล่างนี้ หากท่านเห็นด้วยกับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว และต้องการเป็นผู้หนึ่งในการร่วมคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท โปรดสนับสนุนด้วยการร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มนี้ค่ะ https://forms.gle/4fuBV1WFaHWn2HUn9 ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมลงชื่อ ขออนุญาตรวบรวมชื่อของท่าน เพื่อส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ ขอบกราบขอบพระคุณคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่านที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” และขออนุญาตนำแถลงการณ์นำส่งเป็นเอกสารแนบยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมถึงเหตุและผลที่ควรยกเลิกนโยบายดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก ข้าพเจ้าไม่อาจทราบว่าที่กระทำไปนี้จะได้ผลอย่างไรหรือไม่ เพราะรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีนสิน ดูจะเดินหน้าไม่ฟังเสียงประชาชนเลย คิดว่าคงทำได้ตามกำลังเพียงเท่านี้ แต่ก็รู้สึกดีกว่าการที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย....... วิรังรอง ทัพพะรังสี ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ _________________________ ที่ ๐๔/ ๒๕๖๖ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง ร้องเรียนนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน ๑ ฉบับ ๒. แถลงการณ์ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงิน ดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท กราบเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนว่า รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน มีนโยบายแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้กับประชาชนทุกคนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปเพื่อกระตุ้นการบริโภค และได้มีผู้ที่มีความรู้ตลอดจนประชาชนจำนวนมาก ออกมาคัดค้านแสดงความไม่เห็นด้วย และขอให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันที่จะเดินหน้าต่อไป ล่าสุด เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน รวมทั้งอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ๒ ท่าน คือ นางธาริษา วัฒนเกส และนายวิรไท สันติประภพ ได้ร่วมกันลงชื่อในแถลงการณ์ เห็นพ้องต้องกันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะเป็นนโยายที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” โดยให้เหตุผลประกอบอย่างละเอียด (เอกสารแนบ ๒) ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ข้าพเจ้า นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง มีความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายที่จะสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรมในสังคมให้เกิดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเศรษฐีและมหาเศรษฐี ที่อายุเกิน ๑๖ ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือด้วยทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังห่วงใยว่า นโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง แต่เป็นการสร้างหนี้จำนวนสูงมากโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจจะส่งผลทำลายเสถียรภาพทางด้านการคลังของประเทศในระยะยาว โดยประชาชนทั้งประเทศจะต้องแบกรับความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับกรณีโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านกฎหมาย รัฐบาล โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงในวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๖ ว่าการจ่ายเงินดิจิทัล สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แม้รัฐบาลจะประกาศว่า “เงินดิจิทัล” ที่จะออกมาตามโครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” นั้น จะไม่ใช่การออก “คริปโตเคอร์เรนซี” ซึ่งจะไม่สามารถทำได้ เพราะจะผิดตาม พ.ร.บ.เงินตรา ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย “หนึ่งประเทศจะมีสองสกุลเงินไม่ได้” แต่จะออกมาในรูปแบบเหรียญ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภท “ยูทิลิตี้ โทเคน (Utility Token)” ซึ่งจะเป็น “โทเคน” เพื่อการอุปโภคบริโภค จึงไม่ได้เป็นการสร้างสกุลเงินใหม่ และไม่ใช่กรณีเดียวกับ Bitcoin Luna หรือ USDT แต่เป็นเหรียญ คูปอง หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภทยูทิลิตี้ โทเคน จะเป็นเหรียญ หรือจะเป็นคูปอง แต่เมื่อออกโดยรัฐบาล และประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าได้แทนเงินสดกับร้านค้าได้ทั้งหมด เช่น ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อ ห้างแม็คโคร รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าจะแตกต่างกับการใช้เงินตราตรงไหน เหตุใดจึงไม่แจกเป็นเงินสดเข้ากระเป๋าสตางค์ให้แก่ประชาชนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องยุ่งยาก ร้านค้าที่รับก็ไม่ต้องลำบากในการนำไปแลกคืนกับรัฐบาลเพื่อรับกลับมาเป็น “เงินบาท” ข้าพเจ้ามีความสงสัยว่า ลักษณะของเหรียญ หรือคูปอง ที่รัฐบาลจะนำออกมาใช้นี้ อาจเข้าข่ายเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง และเมื่อมีสภาพเป็นเงินตราก็จะเข้าบังคับพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑ เนื่องด้วย “.....ตามเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย “ยูทิลิตี้ โทเคน จะสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้า และการบริการต่างๆ แบบเฉพาะเจาะจง ภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ต้องไม่มีลักษณะเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง ในลักษณะของการใช้แทนเงิน (Means of Payment: MOP) เป็นการทั่วไป ดังนั้น จึงอาจจะต้องพิจารณาให้ดีว่า การใช้โทเคนดังกล่าวในการซื้อสินค้า และบริการกับร้านค้าทั่วประเทศ อาจจะเข้าข่ายเป็น “การชำระในลักษณะการเป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง” หรือ การใช้แทนเงิน ซึ่งจะผิดกฎเกณฑ์ของทางธนาคารแห่งประเทศไทย.....” ที่มาของข่าวและข้อมูล: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7856583 https://www.thairath.co.th/money/experts_pool/columnist/2721853 สุดท้าย แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่ตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน และไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินตามที่มีผู้กล่าวอ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีเงินสดที่จะแจกให้กับประชาชนได้ การแจกเงินก็ควรจะสามารถทำได้ตรงๆ เหมือนสมัยที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแจกประชาชนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยและใช้เป็นอยู่แล้ว แต่การที่รัฐบาลไม่แจกเป็นเงิน ทำให้เกิดเป็นเรื่องยุ่งยากที่ถกเถียงกันในสังคมทั้งด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและด้านกระบวนการปฏิบัติ ยังไม่รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการชำระเงินดิจิทัล สร้างแอปพลิเคชันในการชำระเงิน และสร้างบล็อกเชนใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนและระยะเวลาจำนวนมาก สังคมจึงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติในภาพรวม แต่อาจเป็นการหลบเลี่ยงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ และขัดต่อวินัยการเงินและการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยประเทศชาติ จึงได้ส่งหนังสือร้องเรียนนี้มากราบเรียนขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน วินิจฉัย หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ากระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร ต่อไป ขอแสดงความนับถือ นางวิรังรอง ทัพพะรังสีข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดความอ้วนปคบ.ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลการทลายเครือข่ายจำหน่ายยาลดน้ำหนักผสมไซบูทรามีนข้ามชาติ "มาเรีย คิม" ส่งขายทั้งในไทยและต่างประเทศ กระจายตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด จับผู้ต้องหาได้ 4 คน พร้อมของกลางกว่า 270 รายการ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาทstd46420• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌เช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌ เช็ครุ่นรถยนต์ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.checkairbag.com/ (หรือสแกนคิวอาร์โค้ด) อ่านเพิ่มเติม : https://www.js100.com/en/site/post_share/view/124248 #ถุงลมนิรภัย #ถุงลมนิรภัยระเบิด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน #JS100 ได้ที่ >> goo.gl/hoc9w8ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหลอกลวงแบบใหม่ เจอบ่ายนี้เอง เตือนตัวเองจำไว้บางประโยคห้ามพูดหลอกลวงแบบใหม่ เจอบ่ายนี้เอง เตือนตัวเองจำไว้บางประโยคห้ามพูด โชคดีโทรมาตอนขับรถเลยไม่สนทนาใดๆ เธอ: เป็นไงบ้างสบายดี มือถือเราหาย เปลี่ยนเบอร์ใหม่ (ไม่ทักชื่อเรา มือถือหายก็ใช้เบอร์เดิมได้นิ) เรา: ครับ เธอ: ทำอะไรอยู่ เรา: ขับรถครับ เธอ: จำเราได้ไม๊ เรา: จำไม่ได้ครับ เธอ: จำเสียงเราไม่ได้เหรอ เสียงเราไม่เหมือนคนอื่นนะ เรา: จำไม่ได้ครับ เธอ: ทำไมเสียงเราไม่คุ้นเหรอ เรา: ครับ เธอ: งั้นเราน้อยใจนะ งอนแล้ว เรา: ครับ เธอวางสายไปเลย ข้อคิด บางประโยค ห้ามพูด เช่น ตกลงครับ ใช่ครับ อนุมัติครับ ได้ครับ เห็นด้วยครับ โอนได้ครับ หรือพูดชื่อชื่อตัวเราเอง bio matrix problem เพราะหากถูกบันทึกเสีย เสียงจะถูกใช้ในการตอบตกลงธุรกรรมออนไลน์ มั่นใจว่าวันนี้โดนแล้ว หากคนนี้เป็นเพื่อนจริงคงไม่งอนและวาง สายไป หากเป็นเพื่อนแล้วงอน กรุณาอย่าโทรมาอีก เพราะไร้สาระ รู้ทันเทคโนโลยี 'ปลอมเสียง ปลอมแชท ปลอมคลิป' ที่เปลี่ยนเรื่องปลอมให้เหมือนจริงสุดๆ! https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/892211Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ RENOVIX โฆษณาเกินจริงเอกภพ จันทร วัย 32 ปี หนีออกจากงานแต่งงานหลังจากที่ได้เห็นบัตรประชาชนของเจ้าสาวตัวเอง หญิงสาวแสนสวยนั้นจริงๆ แล้วเธอมีอายุ 64 ปีแล้วความสวยความงามMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจุดจบประเทศไทยเพื่อนส่งมาจาก USA จุดจบประเทศไทย ...... เรื่องนี้"คนไทยทุกคน"ควรที่จะได้รู้ ..... ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..... สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค ซึ่งเป็นสถาบันที่ สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า "ประเทศไทย"จะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน ! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ "การค้าเสรี"จะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่า. สินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก ไม่ถึง10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ "วิกฤต"ที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย "รัฐบาลไทย"จะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจาก"ธนาคารไทย"กลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร (เช่น สัมปทาน พลังงาน ที่กำลังเป็นอยู่ขนะนี้ ) ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา "คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ " ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ (เช่น ภาคกลาง จ.สุพรรณ อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ฯ ) และธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น "เงินตรา"ของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ อย่างไร? (นี่คือโจทย์ ใหญ่ ที่ คสช.พลเอก ประยุทธ ต้องรีบแก้ปัญหาคนจนก่อนฯ) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็น"ความล้มเหลวของรัฐบาลไทย " การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณ"จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา " จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของ"ต่างชาติ"หมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง "การซื้อประเทศไทยคล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เรา "คนไทย "จะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ? ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองธุรกิจการเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โลตัสเหมือนกัน นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง? ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด ผมอธิบาย วิธี"สิ้นชาติ"แบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ์ ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน ขนม"ต่างชาติ" ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว ปล . ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ คิดว่า ช่วย กัน "ชาวไทย พิทักษ์ชาติไทย" ครับ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ "รักชาตินะครับข่าวการเมืองภาคใต้ภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยพรรคเป็นธรรม ในสมรภูมิวาทกรรม “แบ่งแยกดินแดน”ทันทีที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศหลังชนะการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ว่าได้ทาบทามพรรคเป็นธรรมเข้าร่วมรัฐบาล โซเชียลมีเดียก็เริ่มปรากฏข้อความโจมตีพรรคเป็นธรรมว่า “เป็นพวกแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งโคแฟคตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดจากการตีความนโยบายแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และการกระจายอำนาจของพรรคเป็นธรรม ขณะที่บางกลุ่มอาจจงใจใช้วาทกรรมนี้โจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ข้อกล่าวหานี้แพร่หลายในโซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่จำกัดอยู่แค่พรรคเป็นธรรมเท่านั้น แต่ยังพุ่งเป้าไปที่พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติด้วย กระทั่งกลายเป็นประเด็นที่ผู้สื่อข่าวหยิบยกไปถามในการแถลงข่าวลงนามข้อตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล (เอ็มโอยู) เมื่อ 22 พ.ค. 2566 โดยอ้างว่าเหตุที่ต้องถามจุดยืนในเรื่องนี้เพราะ “สัญญาณของการแบ่งแยกดินแดนค่อนข้างที่จะหนาหู…ประชาชนกังวลว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำให้ด้ามขวานทองหายไป” พรรคเป็นธรรมในชายแดนใต้ พรรคเป็นธรรมเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่มีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ อดีต ส.ส. กทม. พรรคไทยรักไทยและอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 พรรคเป็นธรรมชูนโยบายเรื่องการ “สร้างสันติภาพในปาตานี” โดยส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต 11 คนในกรุงเทพฯ นราธิวาส ยะลาและปัตตานี และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 9 คน ผลการเลือกตั้ง พรรคเป็นธรรมได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเข้าสภา 1 คน คือ นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคstd47964• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอิหร่าน รัสเซียผสานระบบธนาคารเพื่อต่อต้านการคว่ําบาตรตะวันตก หนังสือบันทึกรวมถึงธนาคารมากกว่า 100 แห่งในอีก 13 ประเทศ https://www.foxnews.com/world/iran-russia-integrate-banking-systems-bypass-western-sanctions ลาก่อน SWIFT ลาก่อนธนาคารกลาง ลาก่อน DOLLAR FIAT ที่รักไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหลอกให้ซื้อยาเอกภพ จันทรความสวยความงามHamiun Tosew• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย*SHOCKING NEWS :* Nobel Prize winner of 2018, Japanese physician, scientist and immunologist, Dr Tasuku Honjo, caused a sensation in the media by saying that the corona virus is not natural. If it is natural, it will not have affected the whole world like that. Because, depending on the nature, the temperature is different in different countries. If it were natural, it would only have affected countries with the same temperature . Instead, it spreads to a country like Switzerland, the same way it spreads to desert areas. whereas if it were natural, it would have spread in cold places, but would have died in hot places. I have done 40 years of research on animals and viruses. It is not natural. It is manufactured and the virus is completely artificial. I have been working for 4 years in Isreal . I know all the staff of this laboratory well. I called them all after the Corona accident but, all of their phones have been dead for 3 months. It is now understood that all of these laboratory technicians are under ground or been Executed . Based on all of my knowledge and research to date, I can say this with 100 % confidence that Corona is not natural. It did not come from bats. Isreal made it. If what I say today turns out to be false now or even after I die, the government can withdraw my Nobel Prize. But Isreal is lying and this truth will one day be revealed to all. https://en.m.wikipedia.org/wiki/Tasuku_Honjoโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือฆ่าโควิด-19 ได้ !ว่าการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือ น้ำสมุนไพร และน้ำมะนาว สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19std47719• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากพัสดุไปรษณีย์ไทยได้แจ้งขอให้ทุกท่านที่ได้รับจดหมาย หรือพัสดุไปรษณีย์ ให้ใส่ถุงไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเปิด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าบ้าน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วนั้น ไปรษณีย์ไทยแจ้งว่า ไม่เป็นความจริง และทางไปรษณีย์ไทยได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรค COVID-19 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงาน สถานที่ รวมถึง การดูแลความสะอาดไปรษณียภัณฑ์ทุกชิ้น พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อรถขนส่งไปรษณีย์ทุกคัน เป็นต้นSanem Ntch• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรรคก้าวไกลจะยกเลิกม.112พรรคการเมืองมีนโยบายหนุนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งคือการยกเลิกม.112 ที่เป็นกฎหมายคุ้มครองกษัตริย์ ราชินีและรัชทายาท จะล้มล้างการปกครองstd47881• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยวิกฤตการณ์ซีเซียม-137กรณีวัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137” สูญหายจากโรงไฟฟ้าใน จ.ปราจีนบุรี นอกจากจะสะท้อนปัญหาการจัดการวัตถุอันตรายของบริษัทเอกชน ปัญหาของหน่วยงานรัฐในการกำกับดูแลและการรับมือกับสาธารณภัยจากสารกัมมันตรังสีแล้ว ยังเผยให้เห็นอิทธิพลของข่าวเท็จ ข้อมูลคลาดเคลื่อน และการเชื่อมโยงแบบผิดๆ ที่สร้างผลกระทบรุนแรงไม่น้อยไปกว่าเหตุการณ์วัสดุกัมมันตรังสีสูญหายผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48011• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรีมายากาเเฟลดน้ำหนักโฆษณาเกินจริง เชิญชวนให้เป็นตัวเเทนโดยการบอกว่าใครเห็นก็ว้าว! ลงทุน6,000 3เดือนกำไร15ล้าน เเละได้กลอกลงผู้บริโภคให้ซื้อกาเเฟลดน้ำหนักstd48094• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยืนตากแดด ฆ่าโควิด-19 ได้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการนำมาแชร์ซ้ำก็คือ การยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งความร้อนจากแสงแดดนั้นมีความร้อนไม่ถึงระดับนี้แน่นอน ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดก็ไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้เช่นกันstd46771• 2 ปีที่แล้ว
- 22 คนสงสัยชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Test สามารถใช้ตรวจเองได้ !จากที่มีการนำชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Test มาขายออนไลน์ และระบุว่าประชาชนสามารถซื้อมาตรวจเองได้เลย จริง ๆ แล้ว กระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุญาตให้ขายชุดตรวจเร็วในช่องทางออนไลน์ เพราะชุดตรวจ Rapid Test เป็นการตรวจว่ามีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งต้องตรวจและแปลผลโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เพราะหากแปลผลผิด ก็จะทำให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่รู้ตัวแพร่เชื้อไปถึงผู้อื่นได้โควิด 2019dogney077• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยJUST IN - CDC จะจัด "การประชุมฉุกเฉิน" เกี่ยวกับรายงานการอักเสบของหัวใจที่หายาก แต่ "สูงเกินคาด" หลังจากการฉีด Pfizer ที่ใช้ mRNA และวัคซีน Moderna # COVID19 (CBS) https://www.cbsnews.com/news/covid-19-vaccine-myocarditis-heart-inflammation-cdc/ คุยแซ่บSHOWไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพิธา-ก้าวไกล” จิ๊กซอว์ตัวใหม่ Hybrid Warfare ของมะกันในอินโดแปซิฟิกสนธิ” ชี้ “พิธา-พรรคก้าวไกล” เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งของการทำ “สงครามพันทาง” หรือ Hybrid Warfare ของอเมริกาที่ต้องการคงอำนาจในเอเชียแปซิฟิก ทั้งพื้นฐานความคิดของแกนนำ-นโยบายแนวทางของพรรค เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับทูตสหรัฐฯ ในไทย ทั้งเรื่องยกเลิก ม.112 บังคับให้ไทยกดดันพม่า และดูเหมือนว่าความวุ่นวายถูกปูทางไว้แล้ว พร้อมเผยยุทธศาตร์ประเทศที่ควรเป็นคืออนุรักษ์นิยมที่ก้าวหน้า เห็นคุณค่าในรากฐานดั้งเดิม แต่ยอมรับพลวัตการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เข้ามาstd46307• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพิธา-ก้าวไกล” จิ๊กซอว์ตัวใหม่ Hybrid Warfare ของมะกันในอินโดแปซิฟิกMGR Online Thailand Web Stat MGR Online คุยทุกเรื่องกับสนธิ หน้าหลัก Online Section คุยทุกเรื่องกับสนธิ “พิธา-ก้าวไกล” จิ๊กซอว์ตัวใหม่ Hybrid Warfare ของมะกันในอินโดแปซิฟิก เผยแพร่: 13 พ.ค. 2566 18:10 ปรับปรุง: 13 พ.ค. 2566 18:10 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ 15,186 “สนธิ” ชี้ “พิธา-พรรคก้าวไกล” เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งของการทำ “สงครามพันทาง” หรือ Hybrid Warfare ของอเมริกาที่ต้องการคงอำนาจในเอเชียแปซิฟิก ทั้งพื้นฐานความคิดของแกนนำ-นโยบายแนวทางของพรรค เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับทูตสหรัฐฯ ในไทย ทั้งเรื่องยกเลิก ม.112 บังคับให้ไทยกดดันพม่า และดูเหมือนว่าความวุ่นวายถูกปูทางไว้แล้ว พร้อมเผยยุทธศาตร์ประเทศที่ควรเป็นคืออนุรักษ์นิยมที่ก้าวหน้า เห็นคุณค่าในรากฐานดั้งเดิม แต่ยอมรับพลวัตการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เข้ามาฒข่าวการเมืองstd48462• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเยอรมนี เริ่มแล้ว! ยกเลิกข้อจำกัดการเข้าประเทศทั้งหมด ไม่ต้องแสดงหลักฐานเกี่ยวกับโควิดอีกต่อไป#TravelNews : “เยอรมนี” เริ่มแล้ว! ยกเลิกข้อจำกัดการเข้าประเทศทั้งหมด ไม่ต้องแสดงหลักฐานเกี่ยวกับโควิดอีกต่อไป . เยอรมนี ประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ชั่วคราว มีผลให้นักเดินทางสามารถเดินทางเข้าเยอรมนีได้ทุกวัตถุประสงค์ (รวมทั้งไปท่องเที่ยว และเยี่ยมเยือน) และ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีน หลักฐานการพักฟื้น หรือหลักฐานการตรวจโควิดอีกต่อไป . โดยการยกเลิกมาตรการข้างต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา . ที่มาข่าว > https://www.auswaertiges-amt.de/en/coronavirus/2317268 . . #News #ข่าว #ท่องเที่ยว #Travel #เยอรมนี #Germanโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วนมาก*****ไชโยๆๆๆ เสียงประชาผู้มีใจใสบริสุทธิ์ ดังถึงฟ้าได้***** การค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยโคขวิดของทีมแพทย์ราชวิถีโดยใช้น้ำเลือดหรือพลาสม่าของผู้หายป่วย ไปฉีดให้กับผู้ป่วยใหม่แล้วหายในเวลารวดเร็ว และ เงียบหายไปนั้น บัดนี้"สภากาชาดไทย"ประกาศรับบริจาคพลาสม่าของผู้ที่หายป่วยโคขวิดเพื่อนำไปใช้รักษา ผู้ป่วยแล้วครับ ข้าน้อย ขอน้อมกราบด้วยศิระเกล้า !!!!!!! ช่วยกันแชร์ให้ถึงผู้ที่หายป่วยทุกรายด้วยครับ นพ .จักรพงษ์ ไพบูลย์ ใครเป็นโควิด 19 แต่หายแล้ว ยกมือขึ้น เลือดของท่านมีค่า ประดุจทองคำ สภากาชาดไทย ต้องการเลือดท่านไปทำยา ทำประโยชน์ ประเทศชาติมากมาย กรุณาติดต่อสภากาชาดไทย บริจาคโลหิตเลยนะครับ ใครรู้จักคนป่วยที่หายแล้ว บอกต่อด้วยนะครับ ติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สถานที่ติดต่อ: 1871 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์: โทรศัพท์ 0 2263 9600-99 โทรสาร: 0 2255 5558 อีเมล : blood@redcross.or.th เว็บไซต์ : http://www.blooddonationthai.com ข้อมูล จาก ศาสตราจารย์นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ โควิด-19 พลาสมาหรือน้ำเหลืองของผู้ที่หายจากโรค พลาสมาของผู้ป่วยที่หายจากโรค โควิด-19 จะมีประโยชน์อย่างมาก ในการใช้รักษาผู้ป่วย โควิด-19 ที่มีอาการมาก ภูมิต้านทาน ที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วย เปรียบเสมือนเป็น เซรุ่มใช้รักษาโรค ขณะนี้ทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีโครงการที่จะรับบริจาค พลาสมา จากผู้ที่หายจากโรค ผู้ที่หายจากโรคแล้ว ถ้ามาบริจาค พลาสมา จะถูกเก็บ ไว้ใช้เป็นยารักษาโรค โควิด-19 ผู้ที่จะมาบริจาคได้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้ออกจากโรงพยาบาลหายแล้วมีร่างกายแข็งแรง แล้วอย่างน้อย 14 วัน ตรวจไม่พบเชื้อ โควิด-19 ที่ป้ายจากคอและในเลือด มีอายุระหว่าง17 ถึง 60 ปีและมีน้ำหนักเกิน 50 กิโลกรัม ผมในฐานะเป็นที่ปรึกษาของศูนย์บริการโลหิต อยากให้ท่านได้เป็นฮีโร่ ในการทำประโยชน์ให้ต่อมวลมนุษย์ ในการช่วยชีวิตผู้ที่ป่วยหนัก โควิด-19 จึงอยากเชิญชวนผู้ที่หายจากโรคแล้วตามเงื่อนไขดังกล่าว มาบริจาคพลาสม่า โดยติดต่อได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ศาสตราจารย์นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ จากเฟส Yong Poovowan https://www.facebook.com/yong.poovorawan?__tn__=%2CdC-R-R&eid=ARBdGOavMQbxNij2w3BGBJnrmj2DF4mCCtcGCmGYZkt5pviUwazf3fnebWV6nON0g6lV6nnhN6Uajcq4&hc_ref=ARSKwwZSKhj3bw92dmaYd5StqONqO3oGnJdM03S3uZ1OTllcVtR3RDP1j09p9Lp-FB0&fref=nfโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ ความเชื่อที่บอกว่าการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยให้สิวหาย ?“จริงหรือไม่ ความเชื่อที่บอกว่าการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยให้สิวหาย ?” สิว เป็นหนึ่งในปัญหาผิวพรรณที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้หญิงวัยหนุ่มสาว หลายคนจึงมองหาทางออกในการรักษาสิวให้หายขาด หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงกันมาก คือ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งเชื่อกันว่านอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังสามารถช่วยลดปัญหาสิวได้อีกด้วย (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=62) • จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านขายยาเภสัชกรอิ่ม จ.มหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า “การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดสามารถใช้เพื่อรักษาสิวได้หรือไม่ ถ้าตอบโดยทั่วไปคือ จริง เพราะการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวมีส่วนช่วยในการควบคุมไม่ให้ฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) ที่ส่งผลทำให้เกิดการผลิตความมันบนผิวหนังมากขึ้น ยาเม็ดคุมกำเนิดจะทำให้ปริมาณของฮอร์โมนเพศชายลดลง ในส่วนของการติดเชื้อและการอุดตันของเซลล์ผิวอาจจะต้องมีการใช้ยาอย่างอื่นร่วมด้วย” ทั้งนี้ เภสัชกร ณภัทร ได้ให้ข้อแนะนำในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวเพิ่มเติมว่า “โดยตามหลักแล้วเราไม่ได้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวในการรักษาสิว ยาเม็ดคุมกำเนิดจะเหมาะกับคนที่ใช้ยาทามาสักระยะแล้วยังรู้สึกว่ายังไม่ได้ผลเท่าที่ควร แล้วเราค่อยนำยาเม็ดคุมกำเนิดไปเสริมเพื่อช่วยในการรักษาสิวได้” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567) • ดังนั้นการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดรักษาสิวควรที่จะเช็คตนเองก่อนว่ามีโรคประจำตัว หรือมีข้อห้ามในการรับประทานยาอะไรหรือไม่ เช่น ถ้าเป็นคนที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม หรือ โรคประจำตัวบางอย่างที่อาจจะไม่ได้ถึงกับเป็นข้อห้ามแต่ควรที่จะระมัดระวังมากขึ้น เช่น โรคความดันหรือโรคไขมันสูง ควรจะต้องตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดและปรึกษากับทางแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามล้อเลียนแอคปลอมAirada Netchinpukdee• 1 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://nanoderma.online/fortamin-extract?ldtag_cl=GMuM35D0STqY8z97RKOaIgAA#ยาสมุนไพรอย. เพิกถอนแอคปลอมJoke Air• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยInfodemic: การแพร่ระบาดของข้อมูลเท็จในวิกฤติ 'โควิด-19'Infodemic: การแพร่ระบาดของข้อมูลเท็จในวิกฤติโควิด-19 กับมาตรการจัดการข่าวลวงของแต่ละประเทศ ในขณะที่เชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือโรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดใน 180 ประเทศทั่วโลก รัฐบาลต้องประสบกับการแพร่กระจายของข่าวลวง (Fake news) และข่าวลือ (Rumor) ที่สร้างความตระหนก และความสับสน รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ปรากฏการณ์นี้เรียกกันว่า “การแพร่ระบาดของข้อมูล” หรือ “Infodemic” ซึ่งพบทั้งข้อมูลเท็จที่ปล่อยมาอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ (Misinformation) ได้แก่ ข่าวลือและข่าวเล่นตลกซึ่งผู้ปล่อยไม่มีเจตนาสร้างความเสียหาย และข่าวบิดเบือนที่ปล่อยอย่างตั้งใจ (Disinformation) เช่น ข้อมูลให้ร้าย โฆษณาชวนเชื่อ หรือข่าวลวงที่ตั้งใจก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นใน Facebook, Instagram, Youtube, Whatsapp ไปจนถึง Line ต่างพบว่าข้อมูลเท็จในหลายโพสต์มียอดเอ็นเกจเมนท์สูงกว่าข้อมูลถูกต้อง ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และภาครัฐเสียอีก Infodemic สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลและองค์กรนานาชาติต่างๆ รวมทั้งองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ซึ่งต้องรีบออกแก้ไขข้อมูลเท็จในหน้าเว็บ Myth Busters และยังส่งตัวแทนเข้าหารือกับบริษัทโซเชียลมีเดียและสื่อดิจิตัลต่างๆ รวมทั้ง Facebook, Pinterest และ Amazon เพื่อขอความร่วมมือในการลบข้อมูลเท็จหรือสินค้าปลอมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด-19 แม้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะรีบออกนโยบายจัดการกับข้อมูลเท็จในทันที แต่ก็ไม่สามารถเก็บล้างได้หมด ร้อนถึงรัฐบาลในแต่ละประเทศ ที่ต่างต้องออกมาตรการออกมาจัดการกับข้อมูลเท็จเพื่อมิให้สร้างความสับสนต่อสาธารณะ รวมทั้งกระทบต่อความเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลในการระงับการระบาดของโรคโควิด-19std47620• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ