ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ COVID-19 ระบาด ยอดผู้เสียชีวิตในกรุงเทพฯ ถึง 1,000 คน . ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง COVID-19 ระบาด! ยอดผู้เสียชีวิตในกรุงเทพฯ ถึง 1,000 คน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีการส่งต่อข้อความระบุ ธปท. ออกหนังสือค้ำประกันค่าแปลงสกุลเงินจากเงินยูโรเป็นเงินบาททางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ D.U.D คืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20 ปี ใน 3 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่างๆ ถึงประเด็นเรื่อง สธ.ประกาศฉุกเฉิน ระวัง 35 พื้นที่สีแดง เสี่ยงโควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

น้ำอุ่น น้ำร้อน น้ำชา น้ำมะนาว ฆ่าโควิดไม่ได้ เรากลั้วคอที่ปาก แต่เชื้อมันอยู่ในจมูก ถ้าอาการรุนแรงอยู่ที่ปอด การกลั้วคอไม่ช่วยจ้า มีบางประเทศแจกวิตามินดีให้จริงๆ เพราะวิตามินชนิดนี้ได้รับจากการออกแดด แต่ช่วงโควิดทำให้ไม่ได้ออกไปไหนกัน เก็บตัวในบ้าน เลยต้องแจกวิตามินดีเพื่อชดเชย ไม่ใช่เพื่อต้านโควิด อาบน้ำอุ่นก็ไม่กันโควิด เชื้อไวรัสส่วนใหญ่ตายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป ถ้าต้องอาบน้ำที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าไวรัสโคโรนา ผิวถูกลวกเป็นแผลพุพองก่อนที่เชื้อโรคจะตายอีกจ้า

น้ำอุ่น น้ำร้อน น้ำชา น้ำมะนาว ฆ่าโควิดไม่ได้ เรากลั้วคอที่ปาก แต่เชื้อมันอยู่ในจมูก ถ้าอาการรุนแรงอยู่ที่ปอด การกลั้วคอไม่ช่วยจ้า มีบางประเทศแจกวิตามินดีให้จริงๆ เพราะวิตามินชนิดนี้ได้รับจากการออกแดด แต่ช่วงโควิดทำให้ไม่ได้ออกไปไหนกัน เก็บตัวในบ้าน เลยต้องแจกวิตามินดีเพื่อชดเชย ไม่ใช่เพื่อต้านโควิด อาบน้ำอุ่นก็ไม่กันโควิด เชื้อไวรัสส่วนใหญ่ตายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป ถ้าต้องอาบน้ำที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าไวรัสโคโรนา ผิวถูกลวกเป็นแผลพุพองก่อนที่เชื้อโรคจะตายอีกจ้า

น้ำอุ่น น้ำร้อน น้ำชา น้ำมะนาว ฆ่าโควิดไม่ได้ เรากลั้วคอที่ปาก แต่เชื้อมันอยู่ในจมูก ถ้าอาการรุนแรงอยู่ที่ปอด การกลั้วคอไม่ช่วยจ้า มีบางประเทศแจกวิตามินดีจริง แต่สาเหตุคือโควิดคนกักตัวในบ้านไม่ได้เจอแดด วิตามินดีมาจากแสงแดด เข้าเลยแจกเพื่อไปชดเชยการต้องอยู่ในบ้าน ไม่ใช่เอาไปกันโควิด อาบน้ำอุ่นก็ไม่กันโควิด เชื้อไวรัสส่วนใหญ่ตายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป ถ้าต้องอาบน้ำที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าไวรัสโคโรนา ผิวถูกลวกเป็นแผลพุพองก่อนที่เชื้อโรคจะตายอีกจ้า

เชียงใหม่ - ด่วน! เชียงใหม่ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน รวดเดียว 4 ราย ทั้งหมดติดเชื้อเข้ามาจากนอกพื้นที่ เชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิงกรุงเทพฯ

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่า มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิม 7% เป็น 10% นั้น ทางกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ปัจจุบันยังคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ให้คงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีที่เข้าลักษณะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับรายการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2564 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน

Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย จำนวนผู้เข้าชม 5,499,818 ค้นหาข่าวปลอม แจ้งเบาะแสข่าว ข่าวประชาสัมพันธ์ วันที่ข่าว : ทั้งหมด หมวดหมู่ :ทั้งหมด ทั้งหมด ข่าวบิดเบือน เก็บภาษีนำเข้า สำหรับพัสดุจากต่างประเทศที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท วันที่ 4 เม.ย. 2564 15:45 น. FacebookTwitterLine ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกัประเด็นเรื่อง เก็บภาษีนำเข้า สำหรับพัสดุจากต่างประเทศที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทาง กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน กรณีการเผยแพร่ข้อมูลว่า กรมศุลกากร ได้เตรียมออกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าพัสดุนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท โดยเก็บทั้งภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % (VAT) ทางกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ด้วยเหตุที่มีพัสดุต่ำกว่า 1,500 บาท ที่ถูกนำเข้าจากต่างประเทศในปัจจุบัน จะได้รับยกเว้นการชำระค่าภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจ SME ที่ผลิตสินค้าภายในประเทศไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้าที่ผลิตจาก SME ในไทยจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่สินค้าที่สั่งนำเข้ามาทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ หากราคาไม่ถึงเกณฑ์ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด

ตามที่ได้มีการแชร์ข้อความพร้อมรูปในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง หลีกเลี่ยงรับประทานปูที่มีรู เพราะมีการฉีดสารฟอร์มาลีนเข้าไป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมอนามัย หน่วยงานสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากที่มีการแชร์ข้อความว่าห้ามรับประทานปู ที่มีรู เพราะว่ารูนั้นเอาไว้ฉีดสารฟอร์มาลีนเข้าไป ทางกรมอนามัย หน่วยงานสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ภาพนี้เป็นภาพเก่า ถูกแชร์ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งสื่อต่างประเทศได้ออกมาแจ้งว่า ภาพปูมีรูที่ท้องไม่ได้เกิดจากการฉีดฟอร์มาลีน แต่เป็นการฉีดน้ำทะเลเข้าไป เพื่อเพิ่มน้ำหนักและรักษาความสดของปู

จากกรณีชวนเชื่อระบุถึงผลิตภัณฑ์ยาแคปซูลกระชาย ช่วยบำรุงหัวใจ และมีฤทธิ์ต้านโควิด-19 ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามที่ปรากฏดังกล่าวเป็นยาแคปซูลกระชาย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสูตรตํารับแล้ว เห็นว่า ไม่ได้มีสรรพคุณ ช่วยบํารุงหัวใจ ให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หรือมีฤทธิ์ต้านโควิด-19 แต่อย่างใด โดยจากการสืบค้นข้อมูล วิชาการ ไม่พบปรากฏหลักฐานข้อมูลการวิจัยถึงประสิทธิผลและความปลอดภัยในการ ใช้เพื่อสรรพคุณดังกล่าว และจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาพบว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดังกล่าว ได้รับการขึ้นทะเบียนตํารับยาจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่ ได้รับอนุญาตในสรรพคุณ “บํารุงร่างกาย” เท่านั้น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวจึงมีการกล่าวอ้างสรรพคุณที่ไม่สอดคล้องตามที่รับอนุญาต จึงไม่แนะนําให้รับประทาน

จากกรณีผู้บริโภคให้ตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์ Greenherb ที่ใช้ข้อความโฆษณาแสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าสามารถลดน้ำหนักได้ 15 กก. ใน 4 สัปดาห์ โดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ต้องอดอาหาร และไม่ต้องออกกำลังกายนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Greenherb เลขสารบบอาหาร 10-1-07561-5-0036 แสดงข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จ และมีการใช้ข้อความโฆษณาแสดงคุณประโยชน์หรือสรรพคุณของอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ข้อความนี้สั้นเกินไป กรุณารายละเอียดเพิ่มเติ่ม เนื่องจากอาจเป็นข้อมูลเก่า

ชาติฟื้นตัว สัตว์ป่าได้ขยายพันธุ์ View icon 39 แชร์ วันนี้ (4 เม.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติประจำปี ระหว่างวันที่ 1 พ.ค. -31 ก.ค. ของทุกปี โดยเริ่มต้นปีนี้เป็นปีแรก เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งใน 3 อุทยานแห่งชาติยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่จะปิดการท่องเที่ยวตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ เนื่องจากแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ไม่ต่ำกว่าหลายแสนคนหรือเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาเพื่อสัมผัสกับความอากาศหนาวบนยอดดอยที่สูงที่สุด รวมทั้งชมความสวยงามของทะเลหมอก นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน แม้จะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นที่มีความยาวเพียง 3 กิโลเมตร แต่ที่นี้เป็นหนึ่งใน 3 ป่าเมฆที่มีอยู่ในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในป่าต้นน้ำที่ให้กำเนิดแม่น้ำปิง แม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือด้วย นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวหลังพบว่า การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติทำให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับความเสียหาย จึงต้องมีการประกาศปิดการท่องเที่ยวก่อนกำหนด เพื่อให้ธรรมชาติกลับมาฟื้นตัว สัตว์ป่าได้ออกมาหากิน และขยายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปรบกวนนี้ด้วย

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี โพสต์ระบุว่า ผู้เข้าร่วมประชุมและเข้าชมนิทรรศการ ณ ห้องประกายเพชร 2 โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า ในวันที่ 2 เมษายน 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 10.00 น. ให้ท่านเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันพุธที่ 7 เมษายน 2564 (ในเวลาราชการ) ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงนามในวิทยุสื่อสารด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 3 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ว่า จังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส (2 เม.ย.64 เวลา 20.00 น.) จึงได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาสมีผู้ต้องขังรวม 2,334 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 97 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สัมผัสเชื้อ 791 ราย จึงได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 214 ราย พบติดเชื้อ 112 ราย แยกเป็น เจ้าหน้าที่เรือนจำ 23 ราย นักโทษชาย 87 ราย นักโทษหญิง 1 ราย และพยาบาลเรือนจำ 1 ราย

MEA ออกมาชี้แจงแล้ว แต่ผมคิดว่า PEA ควรออกมาชี้แจงด้วยครับเพราะเนื้อหาที่แชร์ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นเสาไฟฟ้าของหน่วยงานใด รวมถึงอุบัติเหตุในลักษณะนี้ น่าจะเกิดขึ้นใน ตจว.บ่อยกว่า

เพราะการลงข้อมูลเท็จมีความผิดตามกฎหมายได้ ทางที่ดีอยู่ประเทศนี้ก็อย่าเล่น april fool's เลยจะดีที่สุด หรือหากจะเล่น ก็ * หลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้มีอำนาจ/ฝ่ายอำนาจนิยม * หลีกเลี่ยงการพาดพิงถึง บุคคลที่ฟ้องหมิ่นประมาทผู้อื่นอยู่เป็นประจำ หรือมีท่าทีข่มขู่จะฟ้อง * ทางที่ดีก็เขียนให้เป็นเรื่องแต่งเอาฮาไปเลย * ไม่ระบุชื่อคนที่ถูกพาดพิงโดยตรง หรือเปลี่ยนชื่อคนที่ถูกพาดพิงให้ดูขำขัน ไม่ตรงกับชื่อที่คนรู้จักหรือชื่อที่สื่อเรียก ให้อ่านแล้วรู้ได้ว่าล้อเลียน * ใช้แอคหลุม * อาจใช้เว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการล้อเลียนโดยเฉพาะ * สรุปคือเขียนให้ดูน่าเชื่อถือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพราะมี พ.ร.บ.คอม บังคับอยู่ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ในหลายๆเรื่อง ทางที่ดีอยู่ประเทศนี้ก็อย่าเล่น april fool's เลยจะดีที่สุด หรือหากจะเล่น ก็ * หลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้มีอำนาจ/ฝ่ายอำนาจนิยม * หลีกเลี่ยงการพาดพิงถึง บุคคลที่ฟ้องหมิ่นประมาทผู้อื่นอยู่เป็นประจำ หรือมีท่าทีข่มขู่จะฟ้องคนที่วิจารณ์หรือพาดพิงถึง * ทางที่ดีก็เขียนให้เป็นเรื่องแต่งเอาฮาไปเลย * เปลี่ยนชื่อคนที่ถูกพาดพิงด้วย ให้ดูขำขัน ไม่ตรงกับชื่อที่คนรู้จักหรือชื่อที่สื่อเรียกก็จะดี (ชื่อนั้นต้องไม่ตรงกับชื่อที่สื่อมวลชนเรียกด้วย) เพราะเมื่อเห็นชื่อก็จะรู้ได้ทันทีว่าล้อเลียน * ใช้แอคหลุม * อาจใช้เว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการล้อเลียนโดยเฉพาะ * สรุปคือเขียนให้ดูน่าเชื่อถือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพราะมี พ.ร.บ.คอม บังคับอยู่ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ในหลายๆเรื่อง ทางที่ดีอยู่ประเทศนี้ก็อย่าเล่น april fool's เลยจะดีที่สุด หรือหากจะเล่น ก็ * หลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงผู้มีอำนาจ/ฝ่ายอำนาจนิยม รวมถึงบุคคลที่มีการฟ้องหมิ่นประมาทผู้อื่นอยู่เป็นประจำ หรือมีท่าทีข่มขู่จะฟ้องคนที่วิจารณ์หรือพาดพิงถึง * ทางที่ดีก็เขียนให้เป็นเรื่องแต่งเอาฮาไปเลย * เปลี่ยนชื่อคนที่ถูกพาดพิงด้วย ให้ดูขำขัน ไม่ตรงกับชื่อที่คนรู้จักหรือชื่อที่สื่อเรียกก็จะดี (ชื่อนั้นต้องไม่ตรงกับชื่อที่สื่อมวลชนเรียกด้วย) * อาจใช้เว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการล้อเลียนโดยเฉพาะ * สรุปคือเขียนให้ดูน่าเชื่อถือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

มีการรายงานในสื่อกระแสหลักแล้วเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่นี้ อย่างไรก็ตามเป็นการลดความสะดวกลงไปมากๆเพราะต้องเช็กอินเองไม่สามารถทำแทนให้กัน(แล้วส่งภาพเข้าไลน์)ได้

* โฆษณาเกินจริง * ดูอ่อนเยาว์ลงเกินความเป็นจริง * บางเวอร์ชั่น ถึงกับแอบอ้างว่าสามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้ในวัย 64 ปี * บางเวอร์ชั่นมีการใช้ภาพ ที่ดูออกได้ว่าตัดต่อหรือแต่งภาพ ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือมากขึ้น * เนื้อหาในลักษณะนี้มีการนำเสนอมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แอบอ้างรูปของใครก็ไม่รู้ แอบอ้างชื่อที่ดูสมจริง(ไม่ทราบว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่) หลายครั้งที่มีการเปลี่ยนชื่อตัวบุคคล โดยเฉพาะพระเอก-นางเอก บางครั้งมีการเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ด้วย * หากบุคคลใดพบว่าชื่อตนเอง หรือรูปของตนเอง ถูกนำไปใช้ในบทความลักษณะนี้ ควรแจ้งความดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเป็นการแอบอ้าง รวมถึงเนื้อหาที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหากมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แม้อาจจะไม่สามารถเอาผิดได้ในเบื้องต้นเพราะเป็นเว็บไซต์ที่อยู่ต่างประเทศ แต่ขบวนการนี้ควรถูกเปิดโปง (ภาษาที่ใช้ก็ไม่ใช่ลักษณะของระบบแปลอัตโนมัติ เชื่อว่าเป็นคนที่รู้ภาษาไทยจริงเขียน จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนไทย หรือคนที่เคยเป็นคนไทย เข้าร่วมขบวนการ) * ไม่พบว่ามีการนำเสนอในสื่อกระแสหลัก เกี่ยวกับการทิ้งงานแต่งงานด้วยเหตุผลในลักษณะนี้ (อายุจริงมากกว่าอายุที่เห็นหลายสิบปี หรือ2เท่า) * ESET NOD32 ขึ้นเตือนว่าพบภัยคุกคาม หน้าเว็บนี้มีเนื้อหาที่อาจเป็นอันตราย ภัยคุกคาม: JS/Adware.Agent.AF แอพพลิเคชัน การเข้าถึงเว็บไซต์นี้ถูกปิดกั้น คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัย