1549 ข้อความ
- 12 คนสงสัยลักษณะข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งในอเมริกาShi S และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยเพื่อประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ Cureus เดือนมกราคม 2019 เค้าวิเคราะห์โดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลโดยใช้ Google trends ตั้งแต่ปี 2011-2018 ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทีเดียว 1. มีการค้นหาเรื่องกัญชารักษามะเร็งมากกว่าการค้นหาวิธีรักษามะเร็งแบบมาตรฐานถึง 10 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่เปิดเสรีกัญชาหรือปลดล็อคกฎหมาย 2. ในบรรดาข่าวที่เผยแพร่เกี่ยวกับวิธีการรักษามะเร็งแบบทางเลือกนั้น มีกัญชาถึงราวหนึ่งในสี่ 3. ข่าวลวงตัวท็อปเรื่องกัญชารักษามะเร็งนั้นทำให้คนหลงเชื่อมาอ่าน คลิกหรือแชร์ รวมกว่า 4 ล้านครั้ง ในขณะที่ความพยายามแก้ข่าวลวงด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องนั้น คนกลับตอบสนองเพียง 36,000 ครั้งเท่านั้น 4. องค์กรวิชาการหรือหน่วยงานด้านมะเร็งมีอัตราการเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ประชาชนและผู้ป่วยน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ฯลฯ 5. หากเทียบตัวต่อตัว ระหว่างข้อมูลที่เผยแพร่จากหน่วยงานวิชาการที่เชื่อถือได้ กับข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง พบว่าอัตราการ retweet ต่างกันราวฟ้ากับเหว กล่าวคือ ข่าวลวงมีอัตราการ retweet เยอะกว่าข่าวจริงถึง 100 เท่า (527 vs 5.6 retweets) ในขณะที่อัตราการดู คลิก แชร์ ในเฟซบุ๊คนั้น ข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งก็เอาชนะข่าวจริงไปถึง 4,500 เท่า (452,050 vs 98 engagements) งานวิจัยนี้น่าสนใจ และน่าจะสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมข่าวลวงทั้งหลาย จึงสามารถทำให้หลายต่อหลายคนเชื่องมงายเรื่องกัญชารักษามะเร็งได้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ทำไงดี? ดูแลลูกหลานและคนในครอบครัวให้ดี พยายามใช้สติและปัญญาในการเสพข่าว เลี่ยงแหล่งข่าวที่เล่นกับกิเลสและความกลัว พยายามช่วยกันทำให้คนใกล้ชิดรู้เท่าทันเท่าที่สามารถจะทำได้โควิด 2019std48079• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรัฐไฟเขียว ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 วันพระใหญ่ เริ่ม 10 พ.ค. 68ไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยฉีดวัคซีนเอชพีวี 9 สายพันธุ์ ให้เด็กหญิง ป.5 ฟรี เริ่มเดือน ธ.ค. 67ไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธนาคารกรุงไทย เตรียมคิดค่าโอนเงินต่างธนาคาร รายการละ 5 บาทไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ สารเคมีในน้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีสารให้ความหอม 5 ชนิด ที่ก่อให้เกิดอันตรายที่มาพร้อมความหอมได้naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาการ ตาแดง อาจบ่งบอกว่าติดเชื้อโควิด 19 จริงหรือ??มีข้อมูลใหม่กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สามารถเพาะเชื้อได้ในดวงตานานหลายสัปดาห์ หลังพบผู้ป่วยหญิง วัย 65 ปี ที่กลับจากการท่องเที่ยว เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อ 23 มกราคม 63 เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลด้วยอาการตาแดง ติดเชื้อที่ดวงตา ไอแห้ง เจ็บคอ คัดจมูก ไม่มีอาการไข้ แต่ผ่านไป 3 วันหลัง ดวงตาของเธอยังแดง ทีมแพทย์ตรวจหาเชื้อจากของเหลวของดวงตา และพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุให้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาของเหลวจากดวงตาได้ 21 วัน ไม่ปรากฏเชื้อไวรัส แต่ 5 วันต่อมา เชื้อไวรัสกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยงคลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยง ข่าว 27 มิถุนายน 2565 เวลา 8:07 น. โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย …สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้ สธ. ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนไปมากน้อยเพียงใด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะมีโอกาสติดเชื้อได้ ป่วยได้ และเป็น Long COVID ได้ ความเสี่ยงในการติดเชื้อ แพร่เชื้อ จนป่วยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จะยิ่งมากเป็นเงาตามตัว หากประเทศนั้นๆ เปิดเสรีการใช้ชีวิต โดยคนในสังคมไม่ได้ระมัดระวังป้องกันตัวอย่างดีพอ เช่น ไม่ใส่หน้ากากระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เฮฮาปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง ฯลฯ ก็จะพบว่าการระบาดในระลอกหลังก็จะทำให้ติดเชื้อ และป่วยมากขึ้นกว่าเดิมได้ แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนครอบคลุมสูงก็ตาม >> ขอนำสิ่งที่ตนเองปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันเวลาต้องไปงานที่มีคนจำนวนมาก มาแชร์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม 1. ประเมินดูว่างานนี้จำเป็นต้องไปหรือไม่? 2. หากต้องไป หรืออยากไปมาก ก็วางแผนให้ดีว่าจะทำอะไรบ้าง โดยดูรายละเอียดของงานที่จะไป หากเป็นไปได้ก็เลือกงานที่มีคนน้อย และมีมาตรการรักษาความสะอาดและตรวจคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน 3. จัดเวลาเผื่อ โดยกินอาหารมื้อนั้นให้เรียบร้อยที่บ้าน หรือที่ร้านโปร่งโล่งใกล้สถานที่ที่จัดงาน เพื่อจะได้เลี่ยงการ (เปิดหน้ากาก) กินดื่มที่ไม่จำเป็นระหว่างเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก 4. ในงาน พบปะผู้คน - พูดคุยทักทายได้ โดยใส่หน้ากากเสมอ! - พยายามเลี่ยงการสัมผัสตัวคนอื่น - หากสัมผัสกันจับมือกันกอดกัน ก็ใส่หน้ากากและล้างมือทุกครั้ง ! 5. หากเป็นงานสัมมนายาวนานเป็นวัน - ครอบคลุมการกินดื่มหลายมื้อ หากนำอาหารมาแยกกินได้ก็จะดี - แต่หากกินดื่มรวมกัน ก็กินดื่มโดยใช้เวลาสั้นๆ - ระหว่างกินดื่มจะไม่พูดคุย หากจะพูดคุยก็ ใส่หน้ากากก่อนเสมอ - ล้างมือด้วยเจล หรือสเปรย์แอลกอฮอล์.ทุกครั้งหลังจับอุปกรณ์หรือภาชนะต่างๆ ของสาธารณะ 6. หลังกลับจากงาน คอยสังเกตอาการของตนเองว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และติดตามข่าวคราวจากกลุ่มผู้ไปร่วมงานด้วยว่ามีปัญหาการเจ็บป่วยไม่สบายหลังจากไปร่วมงานหรือไม่ จะได้จัดการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ COVID-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก ติดเชื้อไม่จบ แค่ชิลๆ แล้วหาย แต่..ป่วยได้ ตายได้ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ที่สำคัญคือ เรื่องภาวะผิดปกติระยะ..ยาว อย่าง Long COVID การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด. ความใส่ใจด้านสุขภาพ การป้องกันตัวเอง จะเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของเราและคนใกล้ชิด เพื่อจะได้ปลอดภัยไปด้วยกัน . . ****ต้องเน้นย้ำว่าพฤติกรรมการป้องกันตัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์ระบาดช่วงนี้เพิ่มขึ้นมากหากสังเกตคนรอบตัวที่ติดเชื้อ โดยจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รายงานเข้าสู่ระบบ . . “ การใส่หน้ากาก ” เสมอเวลาตะลอนนอกบ้าน เป็นหัวใจสำคัญที่จะลดความเสี่ยง ย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นมากโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งstd47626• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมอได้ผ่าศพคนอายุ 90-103 ปีที่ตายธรรมชาติ พบว่าแต่ละคนล้วนมีเซลล์มะเร็งอยู่ บางคนมีหลายแห่งด้วย แต่ทำไมพวกเขาจึงไม่มีอาการ เขาเชื่อว่ามันสงบอยู่ในระยะฟักตัว หรือจำศีล ถ้ามีสิ่งที่มีปลุกหรือกระตุ้นให้ตื่นจึงจะเจริญเติบโต วงการแพทย์ปัจจุบันกำลังพยายามหาวิธีทำให้เซลล์มะเร็งสงบอยู่ได้ตลอดไป เชื่อว่าอาหารที่ทำให้เซลล์มะเร็งสงบได้แก่ 1. ขมิ้น (สารที่เชื่อว่าต้านมะเร็งคือ curcumin) 2. พริก (capsaicin) 3. ขิง (curcumin) 4. ชาเขียว (catechin) 5. ถั่วเหลือง (isoflavones) 6. มะเขือเทศ (lycopene) 7. องุ่น (resveratrol)y 8. กระเทียม (sulfides) 9. อาหารเกาหลี (indole) 10. กะหล่ำปลี (sulfide) 10 อันดับอาหารที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฟื้นคือ 1. แฮมเบอร์เกอร์ ของทอด, โค้ก (Hamburger Fries + Cola) 2. ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น + ชาไข่มุก (Pork ribs rice + Zhen milk) 3. เกี๊ยวซ่า + นมถั่วเหลือง (Pot Sticker + Soy Milk) 4. สปาร์เก็ตตี้อิตาเลียน + ซุปเมอแรงค์ ((Grilled Italian noodles) + meringue soup) 5. ไก่ทอดเกาหลีกับเบียร์ (Korean fried chicken + beer) 6. ข้าวผัด + ซุปกงเหมา (Fried rice + Gongmao soup) 7. ราเมง + ครีมแข็ง (Ramen + Frost Cream) 8. ข้าวหน้าหมูตุ๋น + ซุปลูกชิ้นปลา (Braised Pork Rice + Fish Ball Soup) 9. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น + กะหล่ำปลีดอง (Braised beef noodles + sauerkraut) 10. หมูทอด + โอเด้ง (Fried meat round + Oden boiled) ส่วนอาหารที่ต้านพิษ ได้แก่ 1. มันหวาน (Sweet potato) 2. ถั่วเขียว (Mung beans) 3. ข้าวโอ๊ต (Oats) 4. เม็ดบัว (Huanren) 5. เซียวหมี่ (Xiaomi) 6. ข้าวกล้อง (Brown rice) 7. ถั่วแดง (Red Beans) 8. แครอท (Carrots) 9. แยม (Yam) 10. หญ้าเจ้าชู้ (Burdock) 11. หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) 12. หัวหอม (Onions) 13. รากบัว (Lotus root) 14. หัวไชเท้า (White radish) 15. โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia halodendron) 16. ใบของมันหวาน (Sweet potato leaves) 17. ใบหัวไชเท้า (Radish leaves) 18. ชวานชี (Chuanqi) 19. โยเกิร์ต (Yogurt) 20. น้ำส้มสายชู (Vinegart) "You are what You eat" คุณจะเป็นอะไรก็ตามที่คุณกินเข้าไป Dunno who wrote but I do ไม่รู้ใครเขียนแต่ผมทำตาม...ฮา ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้... ถ้าสำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐ ยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมาย กับคนป่วยเหล่านี้... อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร ? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ.- 1.อาการมึนหัว 2.อาการบ้านหมุน 3.อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4.อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน 5.อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา 6.มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1.พักผ่อนน้อย 2.ดื่มน้ำน้อย 3.นอนดึก 4.ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5.ชอบทานอาหารมันๆ 6.ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7.ขาดการออกกำลังกาย 8.ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล 9.นั่งนาน 10.ยืนนาน 11.ทำงานหนัก 12.ชอบดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรม ที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟู สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา.. นาน.. ไม่ต่ำกว่า 5 ปี คนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลา ไม่เกิด 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค... เอาละครับ คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆ คงช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงได้ ห่างไกลความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (อนุญาตให้แชร์ข้อมูลได้ครับ) เพื่อเป็นวิทยาทาน...โควิด 2019วัคซีนโควิดยาสมุนไพรมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักทั่วไทย 5 วันติด และอาจจะเกิดน้ำท่วมสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 5 วันที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย✨พิกัดตู้กดทุเรียน✨✨พิกัดตู้กดทุเรียน✨ 1. BTS ช่องนนทรี 2. MRT ลาดพร้าว 3. MRT พหลโยธิน 4. MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 5. Big C ราชดำริ 6. Lotus’s รามอินทรา 7. Makro สาทร 8. Central พระรามเก้า 9. Central อีสต์วิลล์Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยถูกลอตเตอรี่ ต้องขึ้นรางวัลที่กองสลากเท่านั้น และเสียภาษี 5% ด้วยจริงหรือมีการเผยแพร่ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ถูกลอตเตอรี่ ต้องขึ้นรางวัลที่กองสลากเท่านั้น และเสียภาษี 5% จริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเตือน April Fool's Day วันโกหกโลก 1 เมษานี้ ใครโพสท์โกหกหลอกลวง บิดเบือนข้อมูลหรือโพสท์ข่าวปลอมเกี่ยวกับ #โควิด19 มีโทษหนักจำคุก 5 ปีและปรับ 1 แสนบาทโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเตือน!! "ยาชุด" ซุกร้านชำ อันตรายผสมเอ็นเสด ทำ "ไตวาย" ไม่รู้ตัว พบระบาดถึงเมืองกรุงอันตราย! "ยาชุด" ซุกซ่อนร้านชำต่างจังหวัด แพร่ระบาดถึง กทม. มียาเอ็นเสดประกอบหลายตัว ส่งผล "ไตวาย" จากการใช้ยา บางคนใช้ไม่รู้ตัวว่าป่วยยิ่งซ้ำเติม จี้รัฐ สธ. อย. เอาผิด กวาดล้างโฆษณายาชุด เผย 8 ปัจจัยเสี่ยงทำไตเสื่อใจากยาเอ็นเสด เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่สถาบันวิจัยสังคม อาคารวิศิษฐ์-ประจวบเหมาะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานแถลงข่าว “ดูแลไตอย่างไรให้มีสุขภาพดี: เมื่อต้องใช้ยา” ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการ กพย. กล่าวว่า ปัจจุบันไทยติด 1 ใน 5 ประเทศของโลกที่มีอัตราการเกิดโรคไต ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่า ผู้ป่วยไตเรื้อรังมี 11.6 ล้านคน โดยมากกว่า 1 แสนคนต้องล้างไต สาเหตุมาจากกินเค็มและการใช้ยา ซึ่งหลายชนิดก่อปัญหาโรคไตได้ ทั้งยาชุด ยาแก้ปวด ยาสมุนไพรบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะยาชุดยังคงเป็นปัญหา มีอันตราย เพราะไม่มีชื่อทางยาใดๆ มีส่วนประกอบ ทั้งสเตียรอยด์ กลุ่มยาเอ็นเสด พาราเซตามอล ยากล่อมประสาท ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ เมทีลีนบลู ซึ่งถอนทะเบียนแล้วแต่ยังมีคนเจอ ไซบูทรามีน วิตามิน นอกจากนี้ ยังมียากษัยเส้นบำรุงไต แต่องค์ประกอบพบกลุ่มเอ็นเสด มีผลทำให้ไตวายได้ง่าย "ยาเอ็นเสด เป็นยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ มีทั้งหมด 29 ชื่อสามัญทางยา รวม 1,163 ทะเบียนตำรับยา มียาฉีด 8 ชื่อสามัญทางยา รวม 49 ทะเบียนตำรับยา มีคำเตือนเยอะมาก ทั้งห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ ผู้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร คนเป็นโรคตับ โรคไต อย่างรุนแรง หลายคนไม่รู้ อย่างชาวบ้านใช้กันมาก โดยไม่รู้จักชื่อยา ใช้โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคไต ที่สำคัญไม่มีเครื่องมือตรวจว่า กินยาเอ็นเสดไปแล้ว ซึ่งยาชุดหลังๆ เลี่ยงสเตียรอยด์ หันมาใช้เอ็นเสดแทน และใช้หลายเม็ด ดังนั้น มาตรการควบคุม ควรมีการสแกนในชุมชน ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” ผศ.ภญ.นิยดา กล่าวstd48402• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยธนาคารกสิกรไทยจะขอปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อพัฒนาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้ดียิ่งขึ้น ในช่วงเวลา 01:00 น. - 06:00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566ธนาคารกสิกรไทยจะขอปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อพัฒนาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้ดียิ่งขึ้น ในช่วงเวลา 01:00 น. - 06:00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเตรียมปรับขึ้นค่าไฟช่วงปีใหม่ 2565เตรียมปรับขึ้นค่าไฟ จากต้นทุนผลิตที่สูงขึ้น ปัจจัยลบเข้าหน้าหนาวและวิกฤตพลังงานในจีน คาดสูงขึ้น ประมาณ 5-10 สตางค์/หน่วย คาดว่าราคาจะปรับขึ้นช่วงปีใหม่Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยวิธีประหยัดแบบประยุทธ5 วิธีประหยัดแบบลุงตู่ 1. อยู่บ้านหลวง ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ค่าเช่าก็ไม่ต้องจ่าย ประหยัด!!!! 2. น้ำไฟ ก็ใช้ของหลวง อยู่มา 30ปี เปิดแอร์ทั้งวันก็ได้ ไม่เคยต้องจ่ายซักบาท ประหยัด!!!!! 3. คนงานที่บ้าน ก็ใช้แรงงานทหารเกณฑ์ฟรี จะกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ ไปซื้อกับข้าว ไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง ประหยัด!!!! 4. ใช้รถหลวง มีคนขับให้พร้อม น้ำมันแพงแค่ไหนก็ไม่สะเทือน เพราะไม่ได้จ่าย ไปต่างจังหวัดก็บินเฟิร์สคลาสแสนสบายไม่ต้องจ่ายซักบาท ประหยัด!!!!! 5. กินข้าวฟรีที่สภา มื้อละ 861 บาท สภาจะล่มก็ไม่เป็น ยังไงก็มีข้าวกินฟรี ประหยัด!!!!!! แค่นี้เองวิธีประหยัดแบบประยุทธ ถ้าทำได้แบบนี้ น้ำมันจะแพง ค่าแรงจะขึ้น ก็ไม่เดือดร้อน ขอให้ทุกคนเข้าใจเสียดสีMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย6 ประโยชน์ของหอยนางรม 1.กระตุ้นระบบสืบพันธุ์ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 2.ลดระดับไขมันในเลือด 3.ลดระดับความดันโลหิต 4.รักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน 5.รักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี 6.บำรุงสายตาสุขภาพยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรงงานกิ่งแก้วที่ไฟไหม้ มีถังสารเคมีใต้ดินอีก 5 แสนลิตร ที่กำลังปะทุ จริงหรือไม่โรงงานกิ่งแก้วที่ไฟไหม้ มีถังสารเคมีใต้ดินอีก 5 แสนลิตร ที่กำลังปะทุ จริงหรือไม่Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโครงการ “เราชนะ” สามารถเริ่มชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ จริงหรือผู้โดยสารที่มีการลงทะเบียนในโครงการ “เราชนะ” จะสามารถเริ่มชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าสายสีทอง ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปได้ จริง หรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ งดกินข้าวนอกบ้าน หลัง 1ทุ่ม ห้ามนั่งตามร้านอาหารทุกประเภทกรุงเทพฯ ประกาศ ให้ร้านอาหารรับลูกค้าเฉพาะบริการกลับบ้าน ไม่อณุญาติให้ทานอาหารที่ร้าน หลัง 19.00 น. เริ่ม 6 โมงเช้า 5 มกราคาคม 2564โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เพิ่มวันพัก-ค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ จริงหรือปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการท่องเที่ยว เราเที่ยวด้วยกัน โดยให้เพิ่มวันพักจากเดิม 5 วัน เป็น 10 วัน และช่วยเหลือค่าตั๋วเครื่องบินจากเดิมไม่เกินคนละ 1,000 บาท เป็นคนละไม่เกิน 2,000 บาทโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครม.อนุมัติเยียวยาเกษตรกร 15,000 บาท -ขยายสิทธิ์"เราไม่ทิ้งกัน" เป็น16ล้านคน จริงหรือคะครม.อนุมัติ "เยียวยาเกษตรกร" 1.5 หมื่นบาท 10 ล้านราย พร้อมขยายสิทธิ์รับเงิน 5 พันบาท"เราไม่ทิ้งกัน" จาก 14 ล้านคน เป็น 16 ล้านคนโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประจวบคีรีขันธ์ ประกาศ ผู้เดินทางมาจาก 5 จังหวัดสีแดง เข้าพื้นที่ต้องกักตัวที่บ้าน 15 วัน จริงหรือไม่ประจวบคีรีขันธ์ ประกาศ ผู้เดินทางมาจาก 5 จังหวัดสีแดง เข้าพื้นที่ ต้องกักตัวที่บ้าน 15 วัน จริงหรือไม่โควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย. เตือน ผลิตภัณฑ์ Efferin โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงกับข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Efferin (เอฟเฟอร์ริน) ทางสื่อออนไลน์ โดยระบุสรรพคุณ “กระตุ้นการเผาผลาญได้อย่างดีเยี่ยม...ส่งเสริมการกำจัดไขมันขั้นสุด...กระตุ้นเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล... ช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยสลายและใช้งานไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินจากกระแสเลือด ทำให้เนื้อเยื่อไขมันลดลง... มีประสิทธิภาพในการต้านภาวะซึมเศร้า… ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น” เป็นต้น ทั้งยังมีการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์หญิงชื่อดังชาวไทยถูกไล่ออกจากประเทศชั้นนำ เนื่องจากปฏิเสธที่จะขายผลิตภัณฑ์เผาผลาญไขมันสูตรพิเศษให้แก่บริษัทยาในประเทศนั้น จึงได้กลับประเทศไทยและร่วมกับผู้ทรงอิทธิพลผลิตผลิตภัณฑ์เอฟเฟอร์รินขายเฉพาะในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นข้อมูลลวง โดยผลิตภัณฑ์ Efferin ขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอฟเฟอร์ริน / Efferin Dietary Supplement Product เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0272 โฆษณาดังกล่าวแสดงข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จ และแสดงคุณประโยชน์หรือสรรพคุณของอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลเพื่อประเมินประสิทธิผลตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด อีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค นอกจากนี้ยังพบมีการแอบอ้างชื่อบุคลากรทางการแพทย์ในตำแหน่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพต่อมไร้ท่อเป็นผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานและนักโภชนาการเป็นผู้รับรองผลิตภัณฑ์แต่แท้จริงแล้วนั้น ไม่มีตำแหน่งดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง และภาพหญิง-ชายที่อ้างว่าเป็นผู้คิดค้นและรับรองผลิตภัณฑ์นั้น เป็นภาพหญิง-ชายที่เผยแพร่ทั่วไปอยู่บนอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ฉะนั้นผู้บริโภคโปรดระมัดระวังอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือสร้างเรื่องราวดึงดูดความสนใจที่เป็นไปไม่ได้ หากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวควรปรับพฤติกรรมการบริโภค ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่ควรหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาโอ้อวดเกินจริงทางสื่อออนไลน์ เพราะอาจมีสารที่เป็นอันตราย มีผลข้างเคียงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต / จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือ Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศลดความอ้วนอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47993• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ