2209 ข้อความ
- 1 คนสงสัยเริ่มมีคุณหมอหลายท่านแสดงความเห็นว่า วัคซีนหลักปัจจุบันที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนจะมีความปลอดภัยมากกว่าวัคซีนไฟเซอร์ และ โมเดอนน่า ในระยะยาว ลองอ่านบทความของคุณหมอท่านหนึ่งครับ พวกบินไปฉีด Pfizer หรือ Moderna หรือกำลังจะไป ต้องอ่าน mRNA สามารถสร้าง PROTEIN เพี้ยนที่คุมไม่ได้นะครับ คนไทยโชคดีได้ SINOVAC ปลอดภัย และ ASTRAZENECA ปลอดภัยมาก สำหรับคนมีอายุและโรคประจำตัว ********** ...ความน่ากลัวของวัคซีนที่ใช้ mRNA - Pfizer & Moderna...ตั้งใจอ่านนิดหนึ่งจะเข้าใจครับ... mRNA vaccine ฉบับอ่านง่าย (for dummies) ที่มาของบทความนี้ก็คือ พอเขียนเรื่องประวัติศาสตร์ได้แล้ว ก็เลยอยากรู้ว่าจะเขียนแนวอื่นได้ไหม เผอิญท่านรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ Phichet Banyati เคยชวนว่าให้เขียนเรื่อง mRNA vaccine สิ เลยน่าจะลองดู จะเห็นว่าปัจจุบันวัคซีนโควิดมีการผลิตหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะใช้เชื้อตาย (Sinovac), ชิ้นส่วนของไวรัส (Aztra) แต่อันที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็น่าจะเป็น mRNA เทคนิค แล้วจริงๆ มันคืออะไรเหรอ ?!?! นักเรียนสายวิทย์คงทราบมาตั้งแต่สมัยเรียนชีววิทยา ม.ปลายแล้ว (ถ้าจำได้) ว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของร่างกายก็คือโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนทางกายวิภาคหรือสรีรวิทยาของร่างกายก็ต้องมีโปรตีนเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น คราวนี้โปรตีนสร้างจากอะไร มันก็มีสูตรของมัน คือ "DNA สร้าง RNA สร้าง โปรตีน" (ดูภาพด้านล่าง ) อันนี้คือแบบแผนที่แน่นอน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์ สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนะครับ สรุปก็คือโปรตีนที่เราต้องการจะถูกสร้างมาจาก RNA ต้นแบบ ซึ่งมี 3 ชนิด แต่ที่สำคัญมากก็คือ mRNA หลักการของ mRNA วัคซีนก็คือ ใส่ mRNA ที่สร้างโปรตีนของไวรัสโควิด (ซึ่งอันนี้เราสามารถรู้ได้อยู่แล้วจากการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัส เหมือนเราทำขนมแหละครับ mRNA คือสูตรขนม เราก็สร้างโปรตีนคือตัวขนมออกมาได้) เข้าไปในร่างกาย เมื่อเซลล์ของร่างกายรับ mRNA นี้เข้ามาก็จะสร้างโปรตีนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวไวรัสออกมา (คิดง่ายๆ mRNA คือสูตรขนม เซลล์ของร่างกายมีวัตถุดิบเช่นแป้ง น้ำตาล ฯลฯ อยู่แล้ว เมื่อเซลล์ของร่างกายมีสูตรขนมก็ใช้วัตถุดิบผลิตเป็นขนมขึ้นมา) แต่เท่านี้ยังไม่จบ เมื่อร่างกายสร้างไวรัสจำลองออกมาแล้ว ไวรัสจำลองเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้สร้างสารทางภูมิคุ้มกันออกมา (ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่ในร่างกายมาก่อน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมพวกนี้เกิดขึ้นมาร่างกายก็ย่อมสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้าน ซึ่งเป็นกลไกในการปกป้องร่างกายตามธรรมชาติ) และภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้ก็จะปกป้องเราเมื่อมีการติดเชื้อโควิดไวรัสจริงเข้ามา (ก็แน่ล่ะ เพราะอาศัยสูตรขนมเดียวกัน คือลอก mRNA มานิ) ฟังดูตามหลักการแล้วก็น่าจะดีเนอะ แต่คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า 1. ไม่เคยมีวัคซีนที่ผลิตโดยเทคนิคนี้ขึ้นมาก่อนในโลก ดังนั้นก็เหมือนขนมที่ไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน ใช้วัตถุดิบแปลกใหม่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้น เรากินแล้วจะมีปัญหาอะไรไหม ? 2. ปกติการสร้างโปรตีนของร่างกาย มันจะมีระบบควบคุมต่างๆเพื่อไม่ให้การสร้างโปรตีนผิดเพี้ยนไป (เหมือนคอยควบคุมไม่ให้ขนมผิดสูตร) แต่คราวนี้ mRNA ตัวนี้ไม่ใช่ของร่างกาย แต่เป็นของที่ฉีดเข้ามา (จาก Pfizer, Moderna คงคุ้นชื่อเนอะ) ระบบควบคุมคุณภาพเหล่านี้จะไปจับความผิดพลาดได้ไหม (เหมือนคุณมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสในคอม แต่ถ้าไวรัสแปลกๆเข้ามา มันอาจจะตามไม่ทันถ้าไม่อัพเดท หรือถ้าเปรียบเทียบกับทำขนม แทนที่จะหยิบน้ำตาลมาใส่ ดันไปหยิบเกลือโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเป็นเกล็ดขาวๆ เหมือนกันก็จะได้ขนมรสชาติแปลกประหลาดออกมา) 3. มันมีโรคทางระบบประสาทหลายโรค ที่ปัจจุบันยอมรับแล้วว่าเกิดจากโปรตีนที่ผิดเพี้ยนในร่างกาย (เรียกว่า misfolded protein) เช่น อัลไซเมอร์, พาร์คินสัน, ALS (ใครดูหนังเรื่อง the theory of everything หรือรู้จักอัจฉริยะฟิสิกส์ Stephen Hawking ก็โรคนั้นแหละครับที่เขาเป็น) ดังนั้นถ้าจากเหตุผลในข้อ 2 แล้วมีโปรตีนผิดเพี้ยนต่างๆเกิดขึ้นมาในอนาคต เราจะเป็นโรคเหล่านี้ไหม ? ก็ไม่มีใครบอกได้ เหตุผลที่เอาเทคนิคนี้มาใช้ผลิตวัคซีนโควิดเพราะว่าวิธีนี้สามารถสร้างวัคซีนขึ้นมาในปริมาณมากโดยใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับภาวะเร่งด่วนแบบที่เราเจอวิกฤตในปัจจุบัน แต่ด้วยเหตุผลทางด้านบนจึงมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนตั้งข้อกังขาและไม่สบายใจเกี่ยวกับ mRNA วัคซีนที่ใช้กันเยอะในเมืองนอกตอนนี้ อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่ทฤษฎีนะครับ คงต้องรอเก็บข้อมูลในอนาคตต่อไป เพิ่มเติม : ด้านล่างสำหรับเด็กสายวิทย์นะครับ ไม่ใช่สายวิทย์ผ่านไปได้เลย เพราะใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือยเยอะ ประเด็นที่น่ากังวลของ mRNA vaccine คือ 1. ไม่เคยมี mRNA vaccine ใช้มาก่อนเลยในโลกนี้ 2. จะเอาวัคซีนเข้าร่างกาย RNA ต้อง stable มาก และต้องให้เซลล์มัน uptake เข้าไป และสร้างไวรัสจำลองขึ้นมา ร่างกายถึงสร้าง immunity จะคุม stability ยังไงให้มั่นใจ 3. วิธีการใส่ mRNA เข้าไปในร่างกาย ถ้าจะให้เข้าเซลล์ได้มีประสิทธิภาพจริงก็ไม่สามารถฉีดไปแบบฉีดยาธรรมดา มันต้องใช้ Gene gun หรือ electroporation ซึ่งเขาก็ปรับปรุงโดยใช้ nanoparticle มาหุ้ม แล้วทำให้เข้าเซลล์ง่ายขึ้นโดยใช้การฉีดแบบวัคซีนธรรมดาได้ แต่ยังไม่รู้ว่า nanoparticle เหล่านี้จะมีผลข้างเคียงใดๆในระยะสั้นหรือระยะยาว ไหม {ตอนนี้ Moderna vaccine เจอบวมแดงที่แขนมากหลังฉีดหลายราย เป็นพวก hypersensitivity type 4 (หรืออาจจะ type 3 ในบางคนแบบ Arthus reaction) อาจถึงขนาดเป็นตุ่มน้ำพอง ไม่ทราบว่าจะจาก nanoparticle พวกนี้ไหม } 4. มีโอกาสที่ mRNA มันจะสร้างโปรตีนอื่นที่ผิดเพี้ยนขึ้นมา ถ้าดันเป็น misfolded protein คนไข้มีสิทธิ์เป็น Alzheimer's หรือโรค neurodegenerative disease อื่นๆได้ แค่ฉีดให้มันเข้าไปในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วเซลล์รับมันเข้าไปข้างใน และสร้างโปรตีนไวรัสจำลองออกมานี้ก็ยากแล้ว และยังไม่รู้เลยว่าพอมันอยู่ในเซลล์แล้วจะพลาดไปสร้างโปรตีนอะไรประหลาดๆออกมาไหม มันเหมือนเรารับ foreign genetic material อันนึงเข้าไปในร่างกายและไม่รู้จะควบคุมได้แค่ไหน... Pfizer ดันไปทะลึ่งยุ่งกับตัดเปลี่ยน DNA จะเป็นซอมบี้เต็มไปหมด Cr: นพ.พิเชษฐ์ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยCovid-19: Alert Code Red - We are under attack! เรากำลังโดน Wave#2 โจมตีแบบ Full-Scale ครับ เตือนภัยระดับสูงมากนะครับ เวลาได้หมดลงแล้ว มันชัดแล้วว่าเรากำลังโดนโจมตีแบบ Exponential จาก Wave#2 ซึ่งถ้าเราทุกคนยังไม่ทำอะไรที่เข้มงวดขึ้นกว่านี้อย่างมากถึงมากที่สุด อีกไม่เกิน 1 เดือน เราจะเผชิญกับหายนะทางเศรษฐกิจและสุขภาพ ในแบบที่ยากยิ่งแก่การจินตนาการครับ ต้องย้ำนะครับ ตั้งแต่จบ WW2 มา นี่คือสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดบนโลกนี้ และรวมถึงในประเทศนี้ด้วยครับ ก้าวข้ามเส้นอันตราย: เราได้ก้าวข้ามสถานการณ์ในระดับเดียวกับเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2020 ของ Wave#1 มาแล้ว ตอนนั้นผู้ติดเชื้อสะสม 599 โดยมี %Increase ระดับ 20% เราตัดสินใจ Lockdown เข้มงวดทั้นที และจบได้ภายใน 56 วัน ณ วันนี้ Wave#2 เฉพาะแค่ติดเชื้อในประเทศไม่รวมแรงงานต่างด้าว ก้าวข้ามเส้นนั้นมาแล้ว โดยแตะระดับ 603 คน ที่ %Increase สูงถึง 28.57% ซึ่งร้ายแรงมากและแสดงถึงการโจมตีแบบ Exponential ในรูปแบบของ Wave#2 แบบเดียวกับที่ Virus เข้าโจมตียุโรป ความล้มเหลวของ Soft Lockdown ในยุโรป และความพ่ายแพ้ของเยอรมนี: ยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนีเคยชนะ Wave#1 มาอย่างมั่นใจ เมื่อ Wave#2 มาถึงจึงใช้การต่อสู้ที่เบาลงโดยใช้แค่ Soft Lockdown สุดท้าย EURO5 เข้าสู่หลักล้านกันทั่วหน้า พร้อมกับผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน เยอรมนีถูกโจมตีแบบแทบไม่ทันตั้งตัว ตัวเลขวิ่งจาก 400,000 ไปเป็น 1,000,000 ภายในเวลาแค่ 35 วัน และผู้เสียชีวิตจาก 9,000 ของ Wave#1 กลายมาเป็น 31,000 เยอรมนีสูญเสีย 20,000 ชีวิตในเวลาแค่ 2 เดือน ทั้งๆที่เป็นประเทศที่เตรียมตัวมาพร้อมมากๆ ไทย กับ Soft Lockdown ที่ไม่เป็นผล: นับตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. ผ่านมาแล้ว 11 วัน เราทยอยทำ Soft Lockdown ทีและพื้นที่ และตัวเลข %Increase ก็ยังไม่ลดลงไปต่ำกว่า 30% อย่างมีนัยยะสำคัญ ผมคิดว่าตัวเลขได้บอกเราชัดเจนว่า "หมดเวลาแล้ว" แต่ต้องกราบเรียนทีมงานสาธารณสุขทุกท่านครับว่าไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต้องเสียใจกับ Soft Lockdown ที่ไม่ได้ผล เพราะมันไม่เคยได้ผลเลยเมื่อเผชิญหน้ากับ Wave#2 ไม่ว่าจะในยุโรป ญี่ปุ่น เมียนมาร์ หรือมาเลเซีย ทุกประเทศทำไปได้แค่จุดนึง ระบบสาธารณสุขล่ม ก็ต้องกลืนเลือดแล้ว Full-Scale Lockdown ครับ ผมว่าเราได้พยายามเต็มที่อย่างดีที่สุดแล้วครับ มองตัวเลขไปข้างหน้า ถ้า %Incrase ยังเป็น 30% และข่าวร้าย: ผมทำกราฟของ %Increase และ Total Case มาให้ดูนะครับ ของไทยที่ไม่รวมแรงงานต่างด้าวคือสีม่วง เส้นสีม่วงประคือเส้นพยากรณ์ถ้าเรายังไม่ทำอะไรที่ดีกว่านี้ สีเขียวคือไทยที่รวมแรงงานต่างด้าว และสีแดงคือเมียนมาร์ ส่วนสีเหลืองคือดานัง ซึ่งเราไม่ต้องมองแล้วครับเราไม่มีทางทำได้แล้ว ข่าวร้ายที่ 1: กราฟเราตอนนี้ แย่กว่า Wave#2 ของเมียนมาร์ครับ %Increase พอๆกัน แต่เราเปิดที่ตัวเลขสูงกว่ามาก และเมียนมาร์หลังจากนี้กราฟจะลดลงเพราะเขาทำ Hyper Lockdown ที่ย่างกุ้งครับ ข่าวร้ายที่ 2: เราเข้าสู่ Exponential ที่จุดพุ่งขึ้นชันแล้วครับ Golden Period ได้ผ่านไปแล้ว ข่าวร้ายที่ 3 ตัวเลขที่เราจะเห็น ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป: กรณี Wave#2 ไม่รวมแรงงานต่างด้าว 1 ม.ค. ตัวเลขระดับ 1,400 คน 8 ม.ค. ตัวเลขระดับ 10,000 คน 16 ม.ค. ตัวเลขระดับ 100,000 คน 31 ม.ค. ตัวเลขระดับ 1,000,000 คน ผมคิดว่า ไม่มีทางที่เราจะหยุดไวรัสตัวนี้ได้ด้วย Soft Lockdown ยุโรปลองมาแล้ว สุดท้ายก็ต้องไป Lockdown ที่ตัวเลขหลักล้าน เพราะสู้ไม่ไหวจริงๆ และเสียหายหนักมาก หลายคนอาจจะคิดว่าพอติดไปเยอะๆเดี๋ยวตัวเลขต่อวันมันจะอิ่มตัว ก็ลองกัน แล้วสุดท้ายมันก็ขึ้นไปได้เรื่อยๆเป็นวันละหมื่น หลายหมื่น เป็นแสน จนต้องยอมแพ้ เตรียมพร้อมครับ สำหรับการเจ็บแต่จบ: ผมคิดว่า รัฐบาลกำลังชั่งใจว่าจะ Lockdown ก่อนหรือหลังปีใหม่นะครับ ผมคิดว่าพวกเราทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้แน่นอน ทุกท่านที่เดินทางไปเที่ยวปีใหม่ ฉลองกันในที่ต่างๆ ผมแนะนำแบบนี้ครับ 1. ดื่มด่ำกับมันให้เต็มที่ อย่างมีสติ เพื่อเตรียมพลังใจสำหรับ Stay Home 2. หลังปีใหม่เดินทางไปที่ที่ท่านคิดว่าจะอยู่ที่นั่นอีก 3 เดือน 3. ทำธุระสำคัญ หาหมอ ตัดผม ซื้อของที่จะทำให้การอยู่บ้านมีความสุข 4. เมื่อจะออกจากโรงแรม จะออกจากร้านอาหาร ช่วยกันทิปให้มากๆ พนักงานเหล่านั้น พวกเขาจะลำบากไปอีกหลายเดือน เราจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาไปอีกนาน 5. Work From Home ทันทีหลังปีใหม่ มีคนจำนวนมากที่ยังไงก็ต้องเดินทางไปทำงาน การ WFH ของท่านจะช่วยลดความเสี่ยงของคนที่เขาไม่มีทางเลือก 6. ส่งกำลังใจให้ทีมงานสาธารณสุขของเรามากๆ พวกเขาคือด่านหน้า และศึกนี้หนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยตั้งแต่เราตั้งโรงเรียนแพทย์มาครับ ผมอยากจะย้ำอีกครั้งครับว่า แม้เราจะไม่มีทาง Save ปีใหม่ วันเด็ก และตรุษจีนได้แล้ว แต่ผมเชื่อว่า เรายัง Save สงกรานต์ปีหน้าได้อยู่ เรายังไม่สายเกินไปที่จะหยุด Virus ตัวนี้ครับ ช่วยกันครับ อยู่บ้าน WFH ดูแลกันและกัน ส่งกำลังใจผู้คนที่ต่อสู้ แล้วอีก 3 เดือนเราจะเตรียมออกมาฉลองปีใหม่ด้วยกันครับ "สงกรานต์" ปีใหม่ไทยของพวกเราครับ #Saveสงกรานต์โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยสุขภาพทางเลือกโรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อไป ได้บุญ 🚫 1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว -------------------------- 🚫 2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้ ------------------------- 🚫 3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ ____________________ 🚫 4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี) -------------------------- 🚫 5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน ------------------------------ 🚫 6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน -------------------------- 🚫 7. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง ------------------------- 🚫 8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ ------------------------ 🚫 9. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ --------------------- 🚫 10. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น. ------------------------- 🚫 11. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน กล้วยน้ำว้า หรือกระหล่ำปลีให้เยอะมาก ------------------------- 🚫 12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง -------------------------- 🚫 13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ ------------------------- 🚫 14. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียว ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และทูน่า --------------------------- 🚫 15. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก) ------------------------ 🚫 16. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้ ------------------------ 🚫 17. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อกโคลี หรือคะน้าวันละ 5 ขีด ------------------------ 🚫 18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี ------------------------- 🚫 19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว -------------------------- 🚫 20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชา ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย --------------------------- 🚫 21. ความดันสูง ต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากิน หรือผักคึ่นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น ------------------------- 🚫 22. เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก โรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อกันไป ได้บุญ... #สุขภาพทางเลือก.ยาสมุนไพรMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย🔴 ในที่สุดก็ประกาศข่าวร้าย: สหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการ: อาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่มีสารพิษร้ายแรงได้ระเบิดในที่สุด 🔴 การระบาดของเนื้องอกในวงกว้างเกี่ยวข้องกับอาหารดัดแปลงพันธุกรรม กระจายข่าวด่วนและแจ้งให้ญาติและเพื่อนของคุณ (ของคุณ) ทราบ! อย่าลืมใส่ใจ! 🔴ทุกคนต้องดูให้ดีเมื่อไปซุปเปอร์มาร์เก็ต: 🔴บาร์โค้ดที่ขึ้นต้นด้วย "8" เป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรม! ⭕ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ขอแค่ดัดแปลงพันธุกรรม อย่าซื้อหรือกิน! ไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะสนับสนุนว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมนั้นไม่เป็นอันตรายอย่างไร เราก็ต้องจำไว้ว่า: 1. คนอเมริกันไม่กินมัน 2. ห้ามโดยเด็ดขาดโดยสหภาพยุโรป; 3. ห้ามใช้ระบบอาหารพิเศษของจีนโดยเด็ดขาด 4. ห้ามเด็ดขาดในงาน World Expo; 5. ห้ามโดยเด็ดขาดในเอเชียนเกมส์ 6. ชาวแอฟริกันจะไม่นำเข้ายีนดัดแปลงพันธุกรรมแม้ว่าพวกเขาจะอดอาหารจนตายก็ตาม 7. ห้ามอย่างเคร่งครัดในมหาวิทยาลัยโลก 8. รัสเซียยืนยันว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมทำให้สัตว์สูญพันธุ์มาสามชั่วอายุคน 🔴 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปลอม (มีพิษ) เหล่านี้: 🔴 1.มะเขือเทศเนื้อแดงมียีนพิษแมงป่อง! 🔴 2. ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอย่างแท้จริง! 🔴 3. มันเทศสีม่วงยังเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกด้วย! ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา "ข้าวโพดหวาน" ที่เรากินกันอย่างมีความสุขมานานกลายมาเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้เลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมา คนธรรมดาๆ หลายคนไม่มีความรู้เรื่องนี้ และยังชอบซื้อข้าวโพดหวานมารับประทานอีกด้วย คนหนุ่มสาว คนที่ยังไม่แต่งงาน และคนที่ยังไม่คลอดบุตร ไม่ควรกิน! แน่นอนว่าหลังจากทราบข่าวนี้แล้วทุกคนเพื่อตนเองและครอบครัว อย่าลืม: อย่ากินอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกต่อไป 🔴โปรดจำไว้ว่า: ผลไม้นอกฤดูกาลทุกชนิดไม่สามารถรับประทานได้! ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน กรุณาส่งต่อให้เพื่อนของคุณสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และ 39 ในกรณีที่มีบุตร สามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนประกันสังคมได้ จริงหรือ?ผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และ 39 ในกรณีที่มีบุตร สามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนประกันสังคมได้ จริงหรือ? . ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และ 39 ในกรณีที่มีบุตร สามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนประกันสังคมได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง✅ . ผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และ 39 ในกรณีที่มีบุตรสามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนประกันสังคมได้ โดยแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้ 1. กรณีผู้ประกันตนชายมาตรา 33 มาตรา 39 สามารถยื่นเรื่องขอเบิกสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร จะต้องมีการส่งเงินสมทบมาไม่น้อยว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่คลอดบุตร จะได้รับเงินเหมาจ่าย ค่าคลอด จ่ายครั้งละ 15,000 บาท เบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 2. กรณีค่าตรวจและค่าฝากครรภ์ สามารถเบิกเท่าที่จ่ายจริงจำนวน 5 ครั้ง ไม่เกิน 1,500 บาท ดังนี้ - อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 40 สัปดาห์ เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท . ทั้งนี้ ผู้ประกันตนชายต้องแนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองกรณีอยู่กินฉันสามีภรรยาโดยเปิดเผย . 3. กรณีผู้ประกันตนชายที่จดทะเบียนสมรสกับภรรยาหรือจดทะเบียนรับรองบุตรหรือมีคำสั่งศาล ว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย และมีการจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 800 บาท ตั้งแต่แรกเกิดไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ . ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.sso.go.th/eform_news/ หรือโทร 1506 . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/ชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพยาบาลศิริราชส่งไลน์มาค่ะ ด่วน ด่วน ด่วน อจ. หมอประสิทธิ์ ออกประกาศ ให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้วพยาบาลศิริราชส่งไลน์มาค่ะ ด่วน ด่วน ด่วน อจ. หมอประสิทธิ์ ออกประกาศ ให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้ว อ่านแล้วส่งต่อ ออกไปกันมากๆหน่อย เหตุเกิดมีนบุรี น่าจะเป็นสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาด อาการไอเป็นเลือด แล้วเสียชีวิตเลย มีเพื่อนกี่คน มีกลุ่มไลน์กี่กลุ่มส่งไปให้หมดเลยนะคะ ช่วยกันเพื่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมโลก**️ ประกาศ ** ด่วนที่สุดและสำคัญมาก‼️‼️ คุณหมอที่โรงพยาบาลรามา แนะนำว่า 📌 ต่อไปนี้ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากซ้อนกัน 2 ชั้น ให้แนบสนิท ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยนะ และห้ามถอดออกเด็ดขาด อาจารย์บอกว่า ยอดคนที่ติดเชื้อแล้ว แต่ไม่ออกอาการ ไม่น่าเชื่อว่า…จะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ หมอบอกว่า “มันน่ากลัวแล้วล่ะทีนี้ เวลาเราเดินสวนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ออกอาการ สามารถเจอได้ทั่วไป ตามห้าง ตลาด ท้องถนน อาคารสำนักงาน รถโดยสาร โดยที่เราไม่ทันระวังตัว เพราะด้วยความไม่รู้หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นไรหรอก “คุณคิดผิด” จะบอกว่า ไม่จำเป็น อย่าไปพบปะกับใคร นอกบ้าน 📌📌 ห้ามคนนอกครอบครัว เข้ามาในบ้านเราเด็ดขาด อันนี้ขอเลย 📌📌ไม่ต้องนัดให้ใครมาหาที่บ้าน ระบบของโรงพยาบาล ที่ช่วยเหลือโควิด มันแน่นและแทบจะทะลักอยู่แล้ว ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ ตามคำแนะนำ จะเกิดความสูญเสียที่มหาศาล ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ‼️‼️ ต้องร่วมใจกันสถานการณ์ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม ### คำแนะนำในโรงพยาบาลกักกัน (เราสามารถนำไปใช้ที่บ้านได้) - ยาที่ดำเนินการในโรงพยาบาลกักกัน 1. วิตามินซี -1000 2. วิตามินอี (E) 3. เวลา 10.00-11.00 น. นั่งตากแดด 15-20 นาที 4. อาหารไข่วันละครั้ง 5. พักผ่อน / นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง 6. ทุกวันเราดื่มน้ำ 1.5 ลิตร 7. อาหารทุกมื้อต้องทานแบบร้อน (ไม่เย็น) นี่คือสิ่งที่เราทำในโรงพยาบาลเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โปรดทราบว่า ค่าความเป็นด่าง หรือค่า pH ของ COVID-19 อยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 8.5 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อกำจัดไวรัส คือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง และเป็นกรดมากกว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่น: สัปปะรด มะนาวเขียว มะนาวเหลือง ส้มโอ ส้ม มังคุด มะปราง คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. อาการไอแห้ง 4. อุณหภูมิร่างกายสูง 5. หายใจถี่ 6. การสูญเสียกลิ่น ก่อนที่ไวรัสจะติดเชื้อในปอด น้ำอุ่นผสมมะนาว สามารถกำจัดไวรัสได้ 🔺 อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เอง กรุณาส่งต่อไปยังครอบครัวและเพื่อนของคุณโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน ด่วน ด่วน อจ. หมอประสิทธิ์ ออกประกาศ ให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้วด่วน ด่วน ด่วน อจ. หมอประสิทธิ์ ออกประกาศ ให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้ว อ่านแล้วส่งต่อ ออกไปกันมากๆหน่อย เหตุเกิดมีนบุรี น่าจะเป็นสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาด อาการไอเป็นเลือด แล้วเสียชีวิตเลย มีเพื่อนกี่คน มีกลุ่มไลน์กี่กลุ่มส่งไปให้หมดเลยนะคะ ช่วยกันเพื่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมโลก**️ ประกาศ ** ด่วนที่สุดและสำคัญมาก‼️‼️ คุณหมอที่โรงพยาบาลรามา แนะนำว่า 📌 ต่อไปนี้ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากซ้อนกัน 2 ชั้น ให้แนบสนิท ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยนะ และห้ามถอดออกเด็ดขาด อาจารย์บอกว่า ยอดคนที่ติดเชื้อแล้ว แต่ไม่ออกอาการ ไม่น่าเชื่อว่า…จะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ หมอบอกว่า “มันน่ากลัวแล้วล่ะทีนี้ เวลาเราเดินสวนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ออกอาการ สามารถเจอได้ทั่วไป ตามห้าง ตลาด ท้องถนน อาคารสำนักงาน รถโดยสาร โดยที่เราไม่ทันระวังตัว เพราะด้วยความไม่รู้หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นไรหรอก “คุณคิดผิด” จะบอกว่า ไม่จำเป็น อย่าไปพบปะกับใคร นอกบ้าน 📌📌 ห้ามคนนอกครอบครัว เข้ามาในบ้านเราเด็ดขาด อันนี้ขอเลย 📌📌ไม่ต้องนัดให้ใครมาหาที่บ้าน ระบบของโรงพยาบาล ที่ช่วยเหลือโควิด มันแน่นและแทบจะทะลักอยู่แล้ว ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ ตามคำแนะนำ จะเกิดความสูญเสียที่มหาศาล ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ‼️‼️ ต้องร่วมใจกันสถานการณ์ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม ### คำแนะนำในโรงพยาบาลกักกัน (เราสามารถนำไปใช้ที่บ้านได้) - ยาที่ดำเนินการในโรงพยาบาลกักกัน 1. วิตามินซี -1000 2. วิตามินอี (E) 3. เวลา 10.00-11.00 น. นั่งตากแดด 15-20 นาที 4. อาหารไข่วันละครั้ง 5. พักผ่อน / นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง 6. ทุกวันเราดื่มน้ำ 1.5 ลิตร 7. อาหารทุกมื้อต้องทานแบบร้อน (ไม่เย็น) นี่คือสิ่งที่เราทำในโรงพยาบาลเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โปรดทราบว่า ค่าความเป็นด่าง หรือค่า pH ของ COVID-19 อยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 8.5 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อกำจัดไวรัส คือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง และเป็นกรดมากกว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่น: สัปปะรด มะนาวเขียว มะนาวเหลือง ส้มโอ ส้ม มังคุด มะปราง คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. อาการไอแห้ง 4. อุณหภูมิร่างกายสูง 5. หายใจถี่ 6. การสูญเสียกลิ่น ก่อนที่ไวรัสจะติดเชื้อในปอด น้ำอุ่นผสมมะนาว สามารถกำจัดไวรัสได้ 🔺 อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เอง กรุณาส่งต่อไปยังครอบครัวและเพื่อนของคุณโควิด 2019วัคซีนโควิดอย. เพิกถอนยาสมุนไพรMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน ด่วน ด่วน อจ.หมอประสิทธิ์ ออกประกาศ ให้ ปชช ล๊อคดาวน์ครอบครัว ระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้ว ฟังแล้วแชร์ออกกันมากๆหน่อย เหตุเกิดมีนบุรี น่าจะเป็นสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาด อาการไอเป็นเลือด แล้วเสียชีวิตเลย มีเพื่อนกี่คน มีกลุ่มไลน์กี่กลุ่มส่งไปให้หมดเลยนะคะ ช่วยกันเพื่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมโลก**️ ประกาศ ** ด่วนที่สุดและสำคัญมาก‼️‼️ คุณหมอที่ รพ.รามา แนะนำว่า 📌 ต่อไปนี้ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากซ้อนกัน 2 ชั้น แนบสนิท ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยนะ และห้ามถอดออกเด็ดขาด อาจารย์บอกว่า ยอดคนที่ติดเชื้อแล้ว แต่ไม่ออกอาการ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ หมอบอกว่า มันน่ากลัวแล้วล่ะทีนี้ เวลาเราเดินสวนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ออกอาการ สามารถเจอได้ทั่วไป ตามห้าง ตลาด ท้องถนน อาคารสำนักงาน รถโดยสารโดยที่เราไม่ทันระวังตัว เพราะด้วยความไม่รู้หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นไรหรอก คุณคิดผิด จะบอกว่า ไม่จำเป็น อย่าไปพบปะกับใคร นอกบ้าน 📌📌📌และห้ามคนนอกครอบครัว เข้ามาในบ้านเราเด็ดขาด อันนี้ขอเลย 📌📌ไม่ต้องนัดให้ใครมาหาที่บ้าน ระบบของ รพ.ที่ช่วยเหลือโควิดมันแน่นและแทบจะทะลักอยู่แล้ว ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือตามคำแนะนำ จะเกิดความสูญเสียที่มหาศาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ‼️‼️ ต้องร่วมใจกันสถานการณ์ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม ### คำแนะนำในโรงพยาบาลกักกัน (เราสามารถนำไปใช้ที่บ้านได้) - ยาที่ดำเนินการในโรงพยาบาลกักกัน 1. วิตามินซี -1000 2. วิตามินอี (E) 3. เวลา 10.00-11.00 น. นั่งตากแดด 15-20 นาที 4. อาหารไข่วันละครั้ง 5. เราพักผ่อน / นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง 6. ทุกวันเราดื่มน้ำ 1.5 ลิตร 7. อาหารทุกมื้อต้องทานแบบร้อน (ไม่เย็น) นี่คือสิ่งที่เราทำในโรงพยาบาลเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โปรดทราบว่า pH ของ COVID-19 อยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 8.5 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อกำจัดไวรัสคือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างและเป็นกรดมากกว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่น: สัปปะรด มะนาวเขียว มะนาวเหลือง ส้มโอ ส้ม มังคุด มะปราง คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. อาการไอแห้ง 4. อุณหภูมิร่างกายสูง 5. หายใจถี่ 6. การสูญเสียกลิ่น ก่อนที่ไวรัสจะติดเชื้อในปอดน้ำอุ่นผสมมะนาวสามารถกำจัดไวรัสได้ 🔺 อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ใช้เอง กรุณาส่งต่อไปยังครอบครัวและเพื่อนของคุณ.โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทีมหมอจากมหาลัยไต้หวัน เตือนมาว่า ภายในปีนี้อย่าเข้าใกล้ พบปะ หรือ ทานอาหารร่วมกับคนที่เป็นโควิดมาก่อน ///// (๑) จากผลการผ่าร่างกาย 1. covid-19 มันคือการรวมกันของ ซาร์กับเอดส์, หมอหลายคนบอกว่า คนถึงแม้จะรักษาหายจากโควิดแล้ว แต่มันจะมีผลเป็นบวกอยู่อีก นี่ไม่ใช่การกลับมาเป็นใหม่ แต่เป็นเพราะมันไม่สามารถรักษาหายขาดได้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโควิด 2. ภูมิต้านทานโดนทำลาย ทั้งนี้ซาร์จะทำร้ายแค่ปอด จะไม่กระทบกับภูมิต้านทาน.. ส่วนเอดส์จะทำลายภูมิต้านทาน.. ส่วนโควิด 19 นั้นทำลายอวัยวะของเราเหมือนกับ ซาร์+เอดส์ 3. การล้มเหลวของปอดอย่างเฉียบพลันเป็นผลทำให้ตายของซาร์ แต่ โควิด 19 ทำให้ตายเพราะการล้มเหลวของอวัยวะหลายๆอย่าง (๒) ศาตราจารย์ Peng Zhi Yong จากมหาลัยอู่ฮัน บอกผลจากการผ่าร่างกายว่า 1. คนที่หายจากโควิด ผลตรวจเลือดพบว่าระดับของดัชนี lymphocyte (ลิมโฟไชด์) จะไม่กลับมาเหมือนเดิม ระบบต้านทานของร่างกายจะไม่ค่อยเหมือนเดิม 2. แม้ผลตรวจของคนที่ให้กลับบ้านได้จะเป็นลบ แต่ภูมิต้านทานนั้นเสียหายไปแล้ว มันสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ง่ายมาก 3. ลักษณะคล้ายๆกับไวรัสตับอักเสบบี ที่จะมีเชื้อโรคไวรัสอยู่ในร่างกายได้อย่างยาวนาน 4. ทีนี้ก็ต้องมาดูกันว่าคนที่หายจากโควิดแล้วนั้นจะสามารถแพร่เชื้อต่อไปได้อีกไหม? (๓) หมอที่ทำและการรักษาเสนอว่า 1. ตอนนี้เราเน้นรักษาคนไข้ ที่ติดเชื้อ แต่คนที่รักษาหายแล้วนั้นอาจยังมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกาย ต้องดูต่อไปและศึกษา วิจัยว่าจะแพร่เชื้อได้อีกไหม? 2. หากเป็นอย่างนี้สงครามกับโควิดก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เลยแนะนำว่าภายในปีนี้ถึงปีหน้าออกไปข้างนอกก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยและอย่าไปที่คนรวมกลุ่มกันเยอะๆ รักษาระยะห่าง 2 เมตร ***** ผมเห็นด้วยกับบทความนี้นะ อย่าไปเสี่ยงมันไม่คุ้มเลย สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการสถาบันทิศทางไทยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวสารจากทีมแพทย์โรงพยาบาลแห่งชาติไต้หวัน(National Taiwan University Hospital-NTUH) ภายในปีนี้ท่านต้องรักษาระยะห่างจากคนอื่นไว้ อย่าพบปะหรือรับประทานอาหารกับบุคคลที่สัมผัสโควิด19 ท่านต้องมีความเข้าใจเรื่องการป้องกันตนเอง อย่าสะเพร่า (I) ขณะผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ตรวจพบว่า 1.โควิด19เป็นส่วนผสมของซารส์บวกเอดส์ (SARS บวก AIDS) แพทย์หลายคนถือว่า ผลการตรวจกรดนิวคลิอิคในผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลจะกลับไปเป็นบวก นี่ไม่ใช่การกลับไปป่วยซำ้แต่เพราะผู้ป่วยไม่ได้ฟื้นหายอย่างเต็มที่ นี่คือสิ่งที่ต้องทำกับลักษณะของโควิด19 2.ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของผู้ป่วยโควิด19ถูกทำลายแทบทั้งหมด ซารส์(SARS) คุกคามเพาะปอดเท่านั้นแต่ไม่ได้คุกคามภูมิคุ้มกันของร่างกาย เอดส์(AIDS)คุกคามเฉพาะภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในขณะที่การทำลายอวัยวะของโควิด19เหมือนกับการทำลายของซารส์และเอดส์รวมกัน 3.สาเหตุนำไปสู่การตายของผู้ป่วยซารส์คือ ปอดถูกทำลายอย่างเฉียบพลัน ส่วนสาเหตุนำไปสู่การตายของผูป่วยโควิด19 คือ “การล้มเหลวของหลายอวัยวะ” (II)ภายหลังผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ศาสตราจารย์ Peng Zhi Yong หัวหน้าแผนก Major Illness โรงพยาบาลZhong Nan มหาวิทยาลัยหวู่ฮั่น เป็นผู้นำทีมในการอภิปราย ดังต่อไปนี้ 1.ผลการตรวจเลือดทางห้องทดลองในผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พบว่า ดัชนีเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์(lymphocyte)ไม่ได้กลับคืนสู่ระดับปรกติ ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ 2.การตรวจกรดนิวคลิอิค(nucleic acid)ในผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้มีผลเป็นลบ แต่ระบบภูมิคุ้มกันเลวร้ายมาก ไม่ได้กลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม ภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงง่ายมากที่กรด นิวคลิอิคของผู้ป่วยจะกลับไปเป็นผลบวก 3.อาการนี้เหมือนกับอาการของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีที่ยังมีไวรัสอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาอันยาวนาน 4.เวลานี้มีความจำเป็นที่จะต้องค้นหาว่า ผู้ป่วยที่เก็บไวรัสโควิด19ไว้ในร่างกายนั้น สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้หรือไม่ (III) กลุ่มแพทย์ผู้นำด้านการหายของโควิด19 แถลงว่า 1.ก่อนหน้านี้แพทย์มุ่งเน้นด้านการรักษาเบื้องต้นแก่ผู้ป่ายโควิด19 เมื่อผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาล จึงจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของการวางกฏเกณฑ์แก่ผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ศาสตราจารย์ Peng Zhi Yong กล่าวว่า “ในปีหน้า เราจะค้นหาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลว่า ไวรัสที่ยังคงอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยเหล่านั้นสามารถติดต่อหรือมีผลต่อบุคคลรอบข้างหรือไม่” 2.ในกรณีนี้ สงครามพิชิตโควิด19ยังอีกนานกว่าจะจบ ดังนั้น คำแนะนำคือ : อย่างน้อยในปีหน้าถ้าออกนอกบ้านให้ใส่หน้ากาก พยายามหลีกเลี่ยงการพบปะรวมตัวกันหรือเข้าไปอยู่ในที่สาธารณะ ปก พนิดา ดามาพงศ์ ถอดความ 20 เมย.2563โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวดี! อินเดีย ชี้ "แอสตร้าเซนเนก้า" ป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ถึง 97%ข่าวดี! อินเดีย ชี้ "แอสตร้าเซนเนก้า" ป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ถึง 97% | TNN ช่อง16 | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/kyvRPJ?utm_source=lineshareโควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรับประทานเนื้อวัวเสี่ยงเป็นโรคแอนแทรกซ์จริงไหมโรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดเชื้อรุนแรงที่เกิดจากแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสามารถสร้างสปอร์ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและอยู่ได้นานหลายปี มักพบในสัตว์กินพืช เช่น วัว ควาย แพะ แกะ และสามารถแพร่มาสู่คนได้ผ่านการสัมผัสหรือการกินเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อน อาการของโรค 1.แอนแทรกซ์ผิวหนัง (Cutaneous anthrax): มีตุ่มแดงที่ผิวหนังแล้วกลายเป็นตุ่มพองมีน้ำใส ต่อมาจะกลายเป็นแผลมีสีดำ 2.แอนแทรกซ์ทางเดินหายใจ (Inhalational anthrax): มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอเล็กน้อย อาจมีอาการหายใจขัดและล้มเหลวอย่างรุนแรง 3.แอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร (Gastrointestinal anthrax): มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ไข้ ท้องเสีย การป้องกัน -หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ติดเชื้อ -ปรุงอาหารให้สุกก่อนบริโภค -ป้องกันการติดเชื้อด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ หากมีความเสี่ยงในการติดเชื้อผู้บริโภคเฝ้าระวังลิต้าร์ 'ร์• 23 วันที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย🔴ฝากบอกข่าวดี ข้าราชการบำนาญ. ✅✅✅✅✅✅✅ 💥ผู้สูงอายุ/สว. /(ผู้มี อายุ 60 ปีขึ้นไป) ท่าน มีสิทธิ์ลงทะเบียนรับ เงินแจกฟรีจากทางรัฐ คนละ10,000.-บาท ทุกคน 🔴ยกเว้น. บุคคล ดังต่อไปนี้.- (1) ข้าราชการบำนาญ ที่มีเงินเดือนบำนาญและ รายได้อื่นมากกว่าปีละ 800,000บาท.จะไม่ผ่าน (2) ข้าราชการบำนาญ ที่มีเงินฝากธนาคารอยู่ มากกว่า 500,000.-บาท 👆จะไม่ผ่านและข้ออื่นๆ ศึกษาดูนะคับ. ❌ มีส่วนน้อที่จะไม่ผ่าน. 2 ข้อข้างบนนี้. ✅ข้าราชการบำนาญ ส่วนมากจะผ่าน. 🔴 ท่านมีสิทธิ์ลงทะเบียน รับเงินหมื่นนะครับ. 👉:ห่วงใยท่านที่เข้าใจ ผิดว่า. ข้าราชการบำนาญ ไม่มีสิทธิ์ลงทะเบียน. ... ท่านมีสิทธิ์ทุกคน ... รอลงทะเบียนรอบต่อไป ... รอบเก็บตก สว. 💥ด้วยรักและห่วงใยเพื่อน พี่น้องข้าราชการบำนาญ ทุกท่านครับ. 👇👇 🔴ตกหล่นจากงวดนี้ ให้ลง 3 งวด คือ 👉 25 ก.พ.68 👉 25 มี.ค.68 และ 👉 23 เม.ย.68 ✅ 3งวด ศึกษา ตามข่าว. ทำไม่เป็น ให้ลูกหลาน ลงให้เด้อ!!!ข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย📣สูตรล้างพิษวัคซีนโควิด ที่ได้ผลดีมากๆคะ!!! น้ำมะพร้าวสด 1 ผล ต้มกับหัวหอมแดงบ้านทุบให้พอแตก 5 หัว ต้มให้พอได้กลิ่นได้รสชาติประมาณ10-15นาที แล้วดื่มทุกเช้าก่อนอาหาร ช่วงท้องว่างค่ะ โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้คะ **ฉีดแล้ว 1 เข็ม ให้ต้มดื่มทุกวันเป็นเวลา 30วัน **ฉีดแล้ว 2 เข็ม ให้ต้มดื่มทุกวันเป็นเวลา 60วัน ** ฉีดแล้ว 3 เข็ม ให้ต้มดื่มทุกวันเป็นเวลา 90 วัน ประมาณนี้ค่ะ… แพทย์แผนไทยบอกมาว่า ล้างพิษวัคซีนโควิดได้จริงๆค่ะ.. ล้างพิษได้แล้ว ต่อไป สามารถเข้ารักษาสุขภาพ ให้แข็งแรงได้ ด้วยเตียง Med-bed ในวันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมใหม่ในการดูแลรักษาสุขภาพ โดยไม่ใช้ยา มันจะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่บกพร่องและสร้างเซลล์ใหม่ทดแทน จะได้ผลดีมากและสามารถทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นด้วยคะ (ด้วยกัน)💖 ในกลุ่มรีเซ็ตโลกใหม่ เค้าเรียนรู้ และตื่นตัวเรื่องนี้กันมากๆคะ 🎤กรุณาแชร์ต่อเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนะค่ะ !!!วัคซีนโควิดยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปวดตอนอากาศเย็นๆค่ะ(ตอนเข้านอนก็ปวดค่ะ) เมื่อก่อนต้องกินยาแก้ปวดเม็ดสีเหลืองๆเม็ดใหญ่ๆจึงนอนได้ตอนนี้ลดยาลงแล้วต้มต้นกิ้งและยอด กัญชา กิน 3 เวลาพออยู่ได้ค่ะ ขอบคุณที่รัฐเขาให้ประชาชนอย่างเราปลูกได้บ้านละ 10 ต้น ดีกว่าไม่ให้ปลูกเลย ทำอะไรก็ผิดหมด(ที่ผิดเพราะยามาจากเมืองฝรั่งจะขายไม่ได้) ยากินป้านี้ซื้อที่ต้นทุนบริษัทยาค่ะเพื่อนเป็นเภสัชขาย(เชลล์)ที่บริษัทค่ะข้างกล่อง 1550 บาทค่ะ แต่เธอซื้อให้ราคา 350 บาทต่อกล่องกินได้ 1 เดือน จาก 350 กับขายที่ร้านขายยาเขาลดแล้ว 1250 บาทกำไรเท่าไหร่ค่ะ บวกลบคูณหารเองกว่าจะถึงคนกิน(ป่วย)มันเพิ่มขึ้นกี่บาทค่ะ(ยาสร้างไข่ข้อหรือบำรุงไขข้อค่ะ) จะให้หมอให้ผ่านได้อย่างไรค่ะเขาก็ขาดรายได้หลายๆสตังค์สินะคะยาสมุนไพร เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย📢เตือนภัย..มีบทเรียนสำคัญ..มาเล่าให้ฟัง..เป็นกรณีศึกษา 🛬ผมไปประชุมกับกลุ่มนักธุรกิจ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ.. หัวข้อคือ "การดูแลข้อมูลดิจิทัล" 💐ไปถึงเข้าห้องรอฟังการบรรยาย..ทางโรงแรมก็ขึ้นจอว่า 🍎ไวไฟชื่ออะไร 🍎 พาสเวิร์ดคืออะไร 🔍ดูเหมือนปกติ..สักพักก็เริ่มบรรยาย..พอบรรยายไปได้ครึ่งเรื่อง..ผู้บรรยายก็ขอหยุด 🔍ไปหยิบไอแพดในกระเป๋า.. แล้วพูดบนเวทีว่า.. 🔍ตอนนี้เขา..มีข้อมูลส่วนตัวของ 47 คนจาก 60 คน..ที่กำลังฟังเขาบรรยาย 🔍แล้วเขา ก็ยกตัวอย่าง สามคนว่า 💗มีกี่บัญชี 💗บ้านอยู่แถวไหน 💗เบอร์โทรศัพท์เลขท้ายคืออะไร 💞จึงเรียกเสียงฮือฮา..ได้พอสมควร.. เขาจึงบอกว่า 🔊..ไทยติด 1 ใน 3 ของเอเซีย..ที่มีความเสี่ยงเรื่อง 💥"cyber security" 💥เพราะคนไทยชอบ "ไวไฟฟรี" 📣..จึงขอนำมา.. เล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์..... 💥..Wifi free...มันเก็บ ข้อมูลของเราได้ 💥..แบบไม่เข้ารหัส.. 💖..ฉะนั้น..จึงแนะนำ.. ❤️💥💥"อย่าทำธุรกรรม ..การเงิน.. ผ่าน wifi free"... โดยเด็ดขาด...💥💥 📯📯..บอกต่อกัน📯📯 📯📯..ด้วยน่ะ..📯📯ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยศาลโลก สั่ง ให้ ทุกประเทศ หยุดฉีดวัคซีนสรุปตอนนี้ ศาลโลก สั่ง ให้ ทุกประเทศ หยุดฉีดวัคซีน เพราะ เขา เล็งเห็นอันตราย ที่ เกิด กับ มนุษย์ ที่ไดรับวัคซีนนี้..ถือ ว่า การบังคับ ออก กฏ ให้ ประชากร ต้อง ไปฉีด วัคซีน เป็น สิ่ง ผิด...เป็นการก่อ อาชญากรรม ต่อ มวลมนุษย์ชาตื ..เพราะวัคซีน ไม่สามารถ ป้องกันได้จริง..พิสํจน์ได้จาก การ ที่ ฉีด แล้ว 2-3 เข็ม ก็ ยัง ติดเชื้อ โควิด ได้อีก วัคซีนจึง ไม่ได้ช่วยป้องกัน .. แต่ ในวัคซีน มี สาร ที่ทำให้เกิด ความผิดปกติ กับ หลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันที่มีอยู่เดิมถูกเปลี่ยนไป และจะกลายเป็น ไร้ภูมิต้านทาน อย่างถาวร....ระบบสมอง ระบบกล้ามเนื้อ กระดูก และ อวัยวะภายใน ที่ เลือด ไปหล่อเลี้ยงทั้งหมด จะเกิด ปัญหาตามมา ในระยะ หลัง จากนี้..เปรียบ เหมือน มนุษย์ ชาติ ฉีด วัคซีน เข้าไปเพื่อจะ ฆ่าตัวตาย แบบ ผ่อนส่ง...ศาลโลกพิสูจน์ ความจริง แล้ว จึง สั่ง ให้ ปรเทศ ต่างๆหยุด การ ฉีดวัคซีน..ทันที...โควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยลงทะเบียนฉีดวัคซีนทุกคนนะครับ เมื่อลงแล้วเค้าจะแจ้งวันและเวลาที่ฉีด ไปให้ตรงเวลา วัดความดัน,ชีพจร,อุณหภูมิ,นน,ส่วนสูง มาจากบ้านถ้าทำได้ จะได้ไม่ต้องไปใช้ร่วมกับคนอื่นในรพ.นอนพักผ่อน ให้เพียงพอ ทานอาหารให้อิ่มทานน้ำให้เพียงพอ ทานยาประจำตัว ปกติ วันไปฉีดวัคซีน 1. ใส่ชุดเปิดหัวไหล่ง่าย 2. ใส่หน้ากาก 2 ชั้น ใส่ faceshield 3. เอาแอลกอฮอล์ ไว้พ่นมือบ่อยๆ 4. เอาปากกาไปเอง อย่าใช้ของ รพ. ถึงรพ ยื่นบัตรประชาชน ตรวจรายชื่อ ได้เอกสาร 2 แผ่น กรอกชื่อ ที่อยู่ เลขบัตร ปชช.ข้อมูลส่วนตัวที่วัดมาจากบ้านถ้าไม่มีปัญหาข้อห้าม ... รอเข้าฉีดยา เมื่อฉีดแล้ว นั่งสังเกตุอาการ 30 นาที ◇ถ้าผิดปกติ แจ้งแพทย์ทันที◇ * อยู่รพ.ห้ามคุยกัน ห้ามใกล้คนอื่น ** เมื่อครบเวลา30 นาที ก็ยื่นรับบัตรนัดฉีดเข็มที่ 2 กลับบ้าน ถอดเสื้อแช่ อาบน้ำ สระผม เป็นอันเสร็จพิธี (อย่าลืมวันนัด เข็ม ที่ 2 ครับ)วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยหน้าฝนระวังโรคระบาดในเด็ก 3 โรค จริงหรือในช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากโควิด-19 ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเฝ้าระวังให้น้องๆ หนูๆ แล้ว ยังมีโรคติดต่อยอดฮิต ที่ต้องคอยสังเกตใส่ใจเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนเป็นพิเศษ ดังนี้ด้วย 1.โรคมือ เท้า ปาก อาการเบื้องต้น : มีอาการจุดตุ่มแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม มีตุ่มหรือผื่นนูนสีแดงเล็ก ๆ ที่ฝ่าเท้าและมีไข้ วิธีป้องกัน : ล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดอยู่เสมอ 2.โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ อาการเบื้องต้น : มีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ไอ จาม หรือมีน้ำมูกไหล วิธีป้องกัน : ล้างมือด้วยสบู่ หรือใช้เจลล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ, สอนให้น้องๆ เช็ดน้ำมูก และปิดปากปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม 3.โรคตาแดง อาการเบื้องต้น : เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อยลักษณะสีขาว อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้นanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม ..ผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมเมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ส่งข้อมูลให้ cofact.org ตรวจสอบ ว่าผักกระสังดีจริงหรือไม่ โดยโคแฟคชี้แจงข้อมูลว่าผักกระสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามายาวนาน หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง สาวๆ สมัยโบราณใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส และยังนำมาสระผมทำให้ผมนุ่ม ป้องกันผมร่วง จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่า ผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น แต่ผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท Mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทาน นั่นเป็นสรรพคุณที่พอเชื่อถือได้จากหลักฐานทางวิชาการ ซึ่งทางโคแฟคเองไม่ยืนยันว่าผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมได้ ดังนั้น การแอบอ้างสรรพคุณของผักกระสังว่าช่วยรักษามะเร็งเต้านม ด้วยการใช้ผักกระสัง นำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแปะ หรือทาที่ใต้ราวนม จะช่วย รักษามะเร็งเต้านมได้นั้นจึงเป็น้อมูลเท็จ ข้อมูลเรื่องผักกระสังเคยมีการเผยแพร่กันมาก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2562 มีเว็บไซต์หนึ่งระบุประโยชน์และคุณค่าของผักกระสังแบบเกินจริงไว้ว่า ผักกระสัง ที่ขึ้นอยู่ตามข้างทางบางท่านอาจคิดว่าเป็นแค่วัชพืช ไม่มีประโยชน์หรือคุณค่าอะไร แต่รู้หรือไม่ ว่าผักกระสังนั้นมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลากหลาย สามารถรักษาโรคอะไรได้บ้าง รักษา “โรคลักปิดลักเปิด” ในตำรายาไทยระบุไว้ว่าใบของผักกะสังใช้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ในผักกะสังมีวิตามินซีและสารอาหารสูง ซึ่งการรักษานั้นใช้ทั้งการกินและการบดต้นแปะบริเวณที่เลือดออกตามไรฟัน รักษา “เริม ฝี มะเร็งเต้านม” หมอยาพื้นบ้านของไทยใช้ผักกะสังเป็นยาไม่มากนักส่วนใหญ่ใช้พอกฝีและสิวโดยใช้ต้นสดตำพอกฝี หรือใช้น้ำคั้นทาสิว ในต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ใช้ทั้งต้นสดบดประคบฝี หรือตุ่มหนอง และโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งจากการศึกษาสมัยใหม่พบว่าผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น “ผักกะสังรักษาเริมและมะเร็งเต้านม” ความรู้นี้ไม่ค่อยแพร่หลายนักแต่แมะ (มือลอ มะแซ) ที่บ้านกำปงบือแน ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลาบอกว่า ผักกะสังเป็นยารักษาเริม มะเร็งเต้านม และฝี ในการรักษาเริมนั้นจะนำต้นผักกะสังผสมกับขมิ้นและข้าวสาร (ฮูยงงูกุมาตอกูยิ) ตำให้ละเอียดแล้วพอกทิ้งไว้ 1 คืน และนำใบมาตำขยำแปะทาเม็ดที่เป็นใต้ราวนม แก้มะเร็งเต้านม ข้อมูลที่ว่าผักกะสังใช้รักษามะเร็งนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยและเป็นที่น่าทึ่งตรงที่ว่ามีรายงานการศึกษาพบว่า สารในผักกะสังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งด้วย นอกเหนือไปจากการแก้อักเสบและแก้ปวด “แก้อักเสบ ข้ออักเสบ เก๊าท์” หมอยาพื้นบ้านบางคนบอกว่ากินผักกะสังแก้ปวดข้อ ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์มีการกินผักกะสังสดๆ หรือนำมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ โดยนำผักกะสังต้นยาวสัก 20 เซนติเมตร ต้มกับน้ำ 2 แก้ว ให้เหลือประมาณ 1 แก้ว แบ่งรับประทานครั้งละ ครึ่งแก้ว เช้า-เย็น ปัจจุบันผักกะสังเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่ฟิลิปปินส์กำลังศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรวมทั้งโรคเก๊าท์จากการที่ผักกระสังสามารถลดปริมาณกรดยูริคในกระแสเลือด ประเด็นนี้อยู่ที่มีการแชร์และเชื่อกันมากว่า ผักกระสังสามารถรักษามะเร็งเต้านม ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเคยเปิดเผยกับ hfocus.org แล้วว่าพืชสมุนไพรต่างๆที่อ้างว่ารักษามะเร็งนั้น เป็นเพียงการทดลองในห้องปฏิบัติการ ยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือทางวิชาการว่าสมุนไพรชนิดใดสามารถรักษามะเร็งได้ อีกทั้งการรักษามะเร็งมีความละเอียดอ่อน นอกจากจะทราบว่าเป็นที่อวัยวะใดแล้ว ต้องเข้าสู่การประเมินระยะว่าอยู่ในระยะใดเพื่อทำการรักษาด้วยpgolfpaotung• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยด่วน‼ Mike Yeadon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Pfizer กล่าวว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 เขาขอเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดสารพิษร้ายแรงนี้ ให้ต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของมนุษย์และชีวิตของลูกหลานในอนาคต นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกกล่าวต่อไป....ถึงกระบวนการ/แผนการ ที่จะฆ่าคนส่วนใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทันทีที่ได้รับการฉีดเข็ม แรกประมาณ 0.8% ของผู้คนที่รับ จะเสียชีวิตภายใน 2 สัปดาห์. ผู้ที่ยังรอดชีวิต...มีจะอายุขัยโดยเฉลี่ย 2 ปี แต่จะลดลงเรื่อยๆเมื่อ ฉีดเสริม(เข็มต่อๆมา) หรือ ฉีด "บูสเตอร์ * ทุกครั้ง วัคซีนเสริม...อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของอวัยวะอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ... ด้วยความคุ้นเคยอย่างใกล้ชิดกับการทำงานและเป้าหมายของการวิจัยและพัฒนาของยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม..ไฟเซอร์เป็นเวลา 2 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ Yeadon กล่าวว่าเป้าหมายสุดท้ายของปัจจุบันของการฉีดวัคซีน..อาจเป็นเพียงเหตุการณ์การลดจำนวนประชากร..ซึ่งจะทำให้สงครามโลกทั้งหมดที่รวมกันดูเหมือนเป็นเพียงการสร้างมิกกี้เมาส์ 'หลายพันล้านคนได้รับผลร้ายไปแล้ว... ความตายและเจ็บปวดรวดร้าว ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผู้ที่ได้รับการฉีดแต่ละคนจะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน และ 3 ปีเป็นการประมาณที่เมตตาแล้วสำหรับระยะเวลาที่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ " https://www.lifesitenews.com/news/exclusive-former-pfizer-vp-your-government-is-lying-to-you-in-a-way-that-could-lead-to-your-deathโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสิท สปสช.ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ตรวจสอบสิทธิเกี่ยวกับ สปสช. ได้ทางไลน์ check-sith . ตามที่ได้มีการบอกต่อข้อมูลในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องตรวจสอบสิทธิเกี่ยวกับ สปสช. ได้ทางไลน์ check-sith ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลว่า ตอนนี้สามารถตรวจสอบสิทธิผู้ป่วยผ่านช่องทางไลน์ @check-sith ได้แล้ว เพียงแค่พิมพ์เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า สปสช. ไม่เคยมีการจัดทำการสื่อสารดังกล่าว เป็นการแอบอ้างหน่วยงานรัฐเพื่อหลอกดึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน โดย สปสช. ได้มีการประสานไปยัง บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ระงับการใช้งาน Line @check-sith แล้ว พร้อมกันนี้ทางสำนักกฎหมาย สปสช. ยังได้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างดังกล่าว . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือ โทรสายด่วน 1330 หรือเพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. พิมพ์ @nhso สอบถามข้อมูล . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไลน์ @check-sith ไม่ใช่ไลน์ของ สปสช. เป็นการแอบอ้างหน่วยงานรัฐเพื่อหลอกดึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวนโยบายรัฐ #สิทธิพิเศษ #สปสช #ตรวจสอบสิทธิแอคปลอมstd48130• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#FakeNews อีกแล้วครับ ยังคงมีการแชร์คลิปภาพการทุบศาลาวัดหลวงปู่ทวดในมาเลเซีย พร้อมเพิ่มเติมข้อความ "เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ใกล้บ้านของพวกเรา เมื่อรัฐบาลอิสลามมาเลเซีย สั่งรื้อทำลายขับไล่วัดพุทธและออกกฎหมายห้ามสร้างวัดสร้างโบสถ์หรือเข้ามาเผยแพร่ศาสนาพุทธในมาเลย์อีกต่อไป แล้วลองย้อนกลับมาดูที่รัฐบาลไทยทำกับพวกมุสลิมซิครับ แทบจะยกตูดดมแล้วทูลไว้บนหัวกันเลยทีเดียว" —————-//————-//—————- #ขอบคุณศูนย์ข่าวอิศรา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ชายแดนใต้ [ทำไมไม่ว่ากันตามความเป็นจริง จะปลุกปั่นกันเพื่ออะไร] #แต่ข้อเท็จจริงคือ แชร์ว่อนภาพทุบศาลาวัดหลวงปู่ทวดในมาเลย์...ที่แท้สร้างโดยไม่ขออนุญาต เขียนวันที่วันอาทิตย์ ที่ 31 มกราคม 2559 เวลา 11:00 น.เขียนโดยทีมข่าวอิศราหมวดหมู่เรื่องเด่น-ภาคใต้ | สกู๊ปข่าว | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศราTagsสถานที่ละสังขารหลวงปู่ทวด | วัดหลวงปู่ทวด 28 "ศูนย์ข่าวอิศรา" ตรวจสอบข้อมูลที่แชร์กันทางโซเชียลมีเดียว่า มีการทุบทำลายสถานที่ละสังขารของหลวงปู่ทวด ในประเทศมาเลเซีย ผู้แชร์ข้อมูลอ้างว่าเป็นการกระทำของชาวมุสลิมที่กระทำต่อสถานที่เคารพสักการะพระเกจิชื่อดังที่ชาวพุทธทั่วทั้งประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคใต้ และคนจีนนับถือพุทธในมาเลเซียนับถือศรัทธาอย่างมาก ข้อมูลและภาพถ่ายที่แชร์กันในโซเชียลมีเดีย รวมทั้งแอพพลิเคชั่นไลน์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ้างว่าเป็นสถานที่ละสังขารของ สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พระเกจิชื่อดังในตำนานของไทย และเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ถูกทำลายลงโดยคนมุสลิม โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตเมืองไทรบุรี ประเทศมาเลเซีย สำหรับเมืองไทรบุรี เดิมเคยเป็นหัวเมืองทางใต้ของไทย แต่ตกเป็นของอังกฤษตามสนธิสัญญาที่ทำกันเมื่อปี พ.ศ.2451 พร้อมๆ กับอีก 3 หัวเมือง รวมเป็น 4 หัวเมือง คือ ไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู และปะลิส ต่อมาคือหัวเมืองและรัฐทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ข้อมูลที่ส่งต่อๆ กัน อ้างว่า สถานที่ดังกล่าวนี้ ซึ่งตามภาพเหมือนเป็นศาลาการเปรียญ เพิ่งได้รับการบูรณะจากชาวพุทธเมืองไทยและชาวพุทธมาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ เรือตรี สำเริง โพธิ์ทองคำ อายุ 87 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดทำแปลนก่อสร้าง และนำเงินจำนวนมากไปบริจาคเพื่อบูรณะสถานที่ละสังขารของหลวงปู่ทวด ซึ่งปัจจุบันอยู่ริมแม่น้ำสุไหงบ๊ะห์ และสุไหงเกอร์นาริงค์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เคยเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงปู่ทวดกลับมายังแผ่นดินไทย และประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยตามภาพที่แชร์กัน ศาลาที่ว่านี้อยู่ในสภาพถูกทุบทำลาย อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคงไทย พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภาพศาลาถูกทำลายตามที่มีการโพสต์ทางโซเชียลมีเดีย อยู่ที่วัดหลวงปู่ทวด ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองเล่งกง อำเภอกริ๊ก รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เคยถูกบันทึกไว้ว่าเป็นสถานที่ที่หลวงปู่ทวดมรณภาพ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำสุไหงบ๊ะห์ และ สุไหงเกอร์นาริงค์ ตำบลเกอร์นาริงค์อำเภอกริ๊ก มีชื่อเรียกว่า "สมีมาตี" (Sami Mati) และมีการสร้างสถูปหลวงพ่อทวดไว้ที่ริมแม่น้ำเกอร์นาริงค์ สำหรับศาลาที่ถูกทำลาย เป็นศาลาที่สร้างขึ้นมาใหม่โดยชาวมาเลย์เชื้อสายจีนที่มีจิตศรัทธาสร้างถวายหลวงปู่ทวด เนื่องจากเชื่อว่าหลวงปู่ทวดนำโชคลาภมาให้ แต่การก่อสร้างไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่น จึงมีคำสั่งให้รื้อถอน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คำสั่งรื้อถอนศาสนาสถานแห่งนี้ ทำให้คนมาเลย์เชื้อสายจีนไม่พอใจ จึงเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งสอดรับพอดีกับกระแสความไม่พอใจของคนพุทธในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำลังมีกระแสคัดค้านจากคนมุสลิม จากแนวคิดก่อสร้างพุทธมณฑลปัตตานี ทำให้มีการแชร์ข้อมูลและภาพนี้ในพื้นที่เพื่อขยายประเด็นความไม่พอใจ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณ : ภาพทั้งหมดจากโซเชียลมีเดีย https://www.isranews.org/content-page/67-south-slide/44470-tempat.html?fbclid=IwAR1PuRP2Qb12o02KQuYKSpVCUgeFEy2caDFTPvbmAwQ-58QV_ZVKDa9184oภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอุทาหรณ์... กรณีศึกษา... ... น้ำแร่มีประโยชน์จริงหริอ พี่ชายผมเป็นหมอ รักสุขภาพมาก ดื่มน้ำแร่มาโดยตลอด โดยที่ไม่มีใครเคยอ่านข้างขวดว่าน้ำแร่ยี่ห้อนี้รุ่นนี้มีแร่อะไร ดื่มๆๆๆ เมื่อคืนวันขึ้นปีใหม่ ช๊อค ไม่มีชีพจร แต่ยังมีสติขับรถำปยัง รพ. ใกล้ๆ กลางดึกได้เอง ผลตรวจร่างกายโดยละเอียด ขาดแร่ธาตุหลายอย่างเลย เพราะ 1.แคลเซียมในน้ำแร่ทั่วไป ขัดขวางการดูดซึมแร่ชนิดอื่นที่ร่างกายก็ต้องการ 2.เลือดข้นเกินไป น้ำแร่ 1 ขวด เราได้รับ H2O จริงๆ น้อยลง ส่วนที่หายไปนั้นเป็นแร่ธาตุเข้มข้น ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกรองแร่ธาตุให้อยู่ในเกณฑ์ที่เซลล์ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ เข้มข้นเกินไปผนังเซลล์ก็ปริแตกครับ 3.ความดันสูงปรี๊ด จนกล้ามเนื้อหัวใจตอบสนองไม่ไหว หัวใจจึงเต้นผิดจังหวะ บางช่วงถึงกัยหยุดเต้น สรุปเซลล์ของคนเราต้องการแร่ธาตุในปริมาณปกติ ไม่ใช่แบบคอนเซนเตรทครับ แม้กระทั่งโปรตีนสกัดก็เช่นกัน เกินความจำเป็นของร่างกายครับ การรักษา... ให้น้ำ H2O ทางสายน้ำเกลือ บวกแร่ธาตุที่ขาด เพื่อปรับสมดุล พ่นโอโซน O3 เพื่อเข้าไปจับกับแคลเซียมส่วนเกิน ปรับความข้นของเลือด รอดตายมาได้ ออกจากห้อง icu มาพักฟื้นที่บ้านแล้ว นำประสบการณ์ตรงมาเล่าสู่กันฟังครับสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! สรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่mobile-menu Logo ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand searchiconmobile mobile-menu Logo ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand searchiconmobile จำนวนผู้เข้าชม 15,587,837 ข่าวปลอม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร ข่าวปลอม อย่าแชร์! สรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ 3 กรกฎาคม 2023 | 10:30 Facebook Twitter Link Youtube ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเรื่องสรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า สรรพสามิตเตรียมแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ ทางกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่แต่อย่างใด ซึ่งนโยบายการจัดเก็บภาษีนั้น กรมฯ จะมุ่งเน้นการจัดทำนโยบายสำหรับสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับ ESG/BCG โดยจะมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตให้ชัดเจน จากนั้นจึงจะกำหนดอัตราภาษี ทั้งนี้ หากสินค้า หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีผลกระทบต่อสังคม และมีธรรมาภิบาล จะถูกจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ หรืออาจจะไม่ถูกจัดเก็บภาษีเลย แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จะมีหลักการในการจัดเก็บภาษีให้สูงขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิตได้ดำเนินการศึกษาเพื่อพัฒนาปรับปรุงนโยบายภาษีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรลุเป้าหมายองค์กรดังกล่าวอันดามันAIแอคปลอมkwinunsukh9• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ