1549 ข้อความ
- 2 คนสงสัยอิสลาม วัคซีนฉีดวัคซีน• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเพื่อไทยยันต้องได้ปธ.สภา มอบ “ชลน่าน” ดีลก้าวไกลสูตรเดิม 14 บวกหนึ่งพิธา” ฟื้นหายโควิดนำ 150 ส.ส. ลูกพรรคเข้าสภาฯคึกคัก ออนทัวร์ขอบคุณน้ำใจชาวแม่กลอง ลั่นไม่หวั่นอุปสรรคขวากหนาม ทวง ส.ว.โหวตตามบรรทัดฐานปี 62 ยึดมติเสียงข้างมาก โอดรื้อ ม.112 เท่ากับล้มล้างการปกครองเกินจริงไปมาก “ก้าวไกล” เคาะ “ปดิพัทธ์” ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ “เพื่อไทย” ดับเครื่องชนยึดสูตร 14 บวกหนึ่งต้องได้ประธานสภาฯ “ชลน่าน” รับหน้าเสื่อหอบสูตรเดิมไปเจรจา “ชูศักดิ์” อ้างใช้คนของพรรคงานนิติบัญญัติจะสมบูรณ์ราบรื่นเรียบร้อย “ลุงป้อม” ยิ้มกริ่มข่าวนั่งนายกฯผ่าทางตัน ปัดบินไปอังกฤษพบ “ทักษิณ” ดีลพลิกขั้ว “ชัยวุฒิ” อวย หน.พปชร.คุณสมบัติเป๊ะ “เสรี” ฉีกทิ้งหลักการปี 62 อ้างคนละมาตรฐานและติดเงื่อนไขเสนอแก้ ม.112 ชงข้อมูลหุ้นไอทีวี-ที่ดินปราณบุรีมัดผิด “พิธา” ขู่เข้าชื่อ ม.82 ส่งศาล รธน.ตีความคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมความ พร้อมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก ในวันที่ 3 ก.ค. ก่อนนัดประชุมสภาฯ วันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อ เลือกประธานสภาฯ ล่าสุดพรรคเพื่อไทยยืนกรานให้ คณะตัวแทนไปเจรจากับพรรคก้าวไกล โดยยึดสูตร 14 บวกหนึ่ง พรรค พท.ยืนยันต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯstd4835• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาการและอาการแสดงของฝีดาษลิงอาการในระยะแรกของผู้ป่วยได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ มีไข้ อ่อนเพลียโดยอาจเป็นอาการคล้ายคลึงกับที่พบในผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่โรคที่มีอาการคล้ายคลึงกันได้แก่ อีสุกอีใส หัด และฝีดาษ แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมักมีต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยโดยจะพบที่ต่อมน้ำเหลืองหลังหู ใต้ขากรรไกร คอ หรือขาหนีบ โดยจะพบก่อนที่จะมีผื่นหลังมีไข้ได้ 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีผื่นที่มีลักษณะเฉพาะ มักขึ้นที่ใบหน้าก่อนบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า โดยมักพบที่ส่วนนอกของร่างกายมากกว่าตำแหน่งอื่นผู้ป่วยประมาณสามในสี่จะมีรอยโรคที่ฝ่ามือฝ่าเท้า สองในสามจะมีในปาก หนึ่งในสามจะมีที่อวัยวะเพศ และหนึ่งในห้าจะมีที่ตา รอยโรคในระยะแรกเริ่มจะเป็นผื่นจุดแบน (macule) จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นตุ่มนูน (papule) เป็นตุ่มน้ำใส (vesicle) เป็นตุ่มหนอง (pustule) ตามลำดับ ก่อนที่จะกลายเป็นสะเก็ดและหลุดลอกออกไปในที่สุดผู้ป่วยอาจมีรอยโรคได้ตั้งแต่มีเล็กน้อย 2-3 จุด ไปจนถึงมีมากหลายพันจุด ซึ่งหากมีมากๆ บางครั้งรอยโรคหลายๆ อันอาจรวมกันเป็นรอยโรคขนาดใหญ่ได้ ผื่นในตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามระยะที่ตรงกันและมีลักษณะเหมือนผื่นที่พบในโรคฝีดาษระยะที่มีผื่นมักเป็นอยู่ประมาณ 10 วันโดยผู้ป่วยอาจยังคงรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ 2-4 สัปดาห์[1] หลังจากหายแล้วบริเวณที่เคยเป็นผื่นจะมีรอยจางอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะกลายเป็นแผลเป็นสีเข้มpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการป้องกันโรคฝีดาษลิงการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคฝีดาษน่าจะสามารถลดโอกาสติดเชื้อที่นำไปสู่โรคฝีดาษลิงในมนุษย์ได้ เนื่องจากไวรัสสองชนิดนี้มีความใกล้เคียงกันมาก และยังสามารถป้องกันสัตว์ทดลองไม่ให้ติดเชื้อนี้แล้วมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตได้[13] ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีการทดลองต่อยอดเพื่อยืนยันสมมติฐานนี้ในมนุษย์ เนื่องจากเมื่อโรคฝีดาษถูกกำจัดหมดไปจากโลก การให้วัคซีนฝีดาษเป็นการทั่วไปก็ยุติลงตามไปด้วยpocky18b• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการรักษาโรคฝีดาษลิงในสหภาพยุโรปและสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้ยา tecovirimat ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสในกลุ่มพ็อกซ์ไวรัสหลายชนิด รวมไปถึงฝีดาษลิงด้วย[28] วารสาร BMJ Best Practice แนะนำให้ใช้ tecovirimat หรือ brincidofovir ซึ่งเป็นยารักษาโรคฝีดาษ เป็นยาลำดับแรกในการรักษาผู้ป่วยฝีดาษลิง ควบคู่ไปกับการรักษาประคับประคองต่างๆ ได้แก่ ยาลดไข้ การให้สารน้ำ และการให้ออกซิเจนตามความจำเป็น ยาต้านแบคทีเรียหรือยาต้านไวรัสอื่นอย่างอะไซโคลเวียร์อาจนำมาใช้ได้หากสงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนหรืออยู่ระหว่างการแยกจากการติดเชื้อไวรัสอีสุกอีใสpocky18b• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://nanoderma.online/fortamin-extract?ldtag_cl=GMuM35D0STqY8z97RKOaIgAA#ยาสมุนไพรอย. เพิกถอนแอคปลอมJoke Air• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักที่เป็นอันตรายยาลดน้ำหนักที่มีส่วนประสมจำพวก ไซบูทรามีน เฟนเทอรมีน ออริสเเตท ฟีนิล์ทาลีน เฟนฟลูรามีน ยาขับปัสสาวะ จะทำให้เกิดอันตรายได้Mxtinx260148• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจุดจบประเทศไทยเพื่อนส่งมาจาก USA จุดจบประเทศไทย ...... เรื่องนี้"คนไทยทุกคน"ควรที่จะได้รู้ ..... ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..... สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค ซึ่งเป็นสถาบันที่ สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า "ประเทศไทย"จะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน ! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ "การค้าเสรี"จะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่า. สินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก ไม่ถึง10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ "วิกฤต"ที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย "รัฐบาลไทย"จะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจาก"ธนาคารไทย"กลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร (เช่น สัมปทาน พลังงาน ที่กำลังเป็นอยู่ขนะนี้ ) ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา "คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ " ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ (เช่น ภาคกลาง จ.สุพรรณ อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ฯ ) และธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น "เงินตรา"ของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ อย่างไร? (นี่คือโจทย์ ใหญ่ ที่ คสช.พลเอก ประยุทธ ต้องรีบแก้ปัญหาคนจนก่อนฯ) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็น"ความล้มเหลวของรัฐบาลไทย " การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณ"จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา " จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของ"ต่างชาติ"หมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง "การซื้อประเทศไทยคล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เรา "คนไทย "จะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ? ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองธุรกิจการเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โลตัสเหมือนกัน นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง? ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด ผมอธิบาย วิธี"สิ้นชาติ"แบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ์ ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน ขนม"ต่างชาติ" ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว ปล . ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ คิดว่า ช่วย กัน "ชาวไทย พิทักษ์ชาติไทย" ครับ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ "รักชาตินะครับข่าวการเมืองภาคใต้ภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยFrom นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564 สรุปประสบการณ์ในการดูแลรักษาครอบครัวที่ติดโควิดทั้งบ้าน 10 คน แบบ home isolation ครอบครัวนี้สมาชิก 10 คน ประกอบด้วย อากงและอาม่า อายุ ประมาณ 70 ปี อากงและอาม่า มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน ลูกชายเป็นพี่ชายคนโต แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว มีลูกอ่อน 2 คน เป็นฝาแฝด อายุ 2 ขวบ ลูกสาวคนโตก็แต่งงานแล้ว มีลูก 2 คน เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว ทั้งหมด 10 ชีวิต อาศัยอยู่รวมกันอย่างค่อนข้างจะแออัดในห้องแถวย่านตลาดน้อย ครอบครัวนี้เกิดโชคร้าย ติดเชื้อโควิดโดยไม่รู้ตัวว่าติดได้อย่างไร ติดจากใคร โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ วันที่ 12/7/64 อากงเริ่มมีอาการไอ วันที่ 15/7/64 ลูกสาวคนโตเริ่มมีอาการไอ วันที่ 17/7/64 ลูกสะใภ้ กับอาม่า เริ่มมีไข้ ไอ วันที่ 18/7/64 หลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น เริ่มมีไข้ต่ำๆ, ลูกสาว อาการมากขึ้น เริ่มมีอาการเจ็บคอ ทั้งบ้านก็ยังไม่เฉลียวใจว่าติดเชื้อโควิดกันทั้งบ้านแล้ว วันที่ 19/7/64 ลูกสะใภ้ มีไข้สูง ไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน พยาบาลแนะนำให้แยกกักตัวเอง เพราะสงสัยจะเป็นโควิด ลูกชายและลูกสะใภ้แยกตัวไปนอนที่คอนโด วันที่ 21/7/64 ลูกสะใภ้รู้ผล และรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม, ลูกชายไปหาซื้อชุดตรวจมาได้ 4 ชุด ตรวจเสียไป 2 ชุด ผลตรวจ อาม่าเป็นบวก ลูกสาวเป็นลบ วันที่ 21/7/64 ผลการตรวจ rapid test ของอาม่าเป็นบวก ลูกชายพาอาม่าไปตรวจที่โรงพยาบาล แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าผลตรวจ rapid test เป็นบวก แต่โรงพยาบาลไม่ตรวจให้, ครอบครัวนี้เริ่มสติแตก พยายามดิ้นรนโทรติดต่อหาที่ตรวจแต่หาไม่ได้เลย มีที่พอจะรับตรวจ ก็อยู่ไกล และจำกัดจำนวนตรวจ ต้องไปวัดดวงรอว่าจะได้รับการตรวจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ครอบครัวนี้จะไปตรวจได้ เพราะทุกคนเริ่มป่วยและมีอาการแล้ว รวมทั้งเป็นคนแก่และเด็ก สุดท้ายมีเพื่อนของลูกชายช่วยนัดจองคิวตรวจอากงและอาม่าได้ 2 คน ได้คิวตรวจที่แลบเอกชนในวันที่ 23/7/64 วันที่ 21/7/64 ลูกชายไปต้องไปนอนค้างคืนที่โรงพยาบาลจุฬา เพื่อแย่งจองคิวตรวจที่จำกัดวันละ 50 คน วันที่ 22/7/64 ลูกชายได้รับการตรวจที่ รพ.จุฬา ผลเป็นบวก ได้รับการรักษาที่ รพ.จุฬา วันที่ 22/7/64 หลานอายุ 2 ขวบ 2 คนเริ่มมีไข้ ประมาณ37.5ให้ทานยาลดไข้ และเช็ดตัว ไข้ลง วันที่ 23/7/64 เด็ก 2 คนเริ่มมีไข้สูง 38.8 และ 38.6 เช็ดตัวไข้ไม่ลง นอนซึม วันที่ 24/7/64 เด็ก 2 คนอาการดีขึ้น ไข้ประมาณ 37.5 เริ่มทานขนมได้ วันที่ 25/7/64 ลูกสาว 2 คน และหลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น จองคิวตรวจได้ที่ หน่วยตรวจเชิงรุกของกทม.ที่เขตดุสิต และไปรับการตรวจแล้ว ได้รับการแจ้งว่าต้องรอผล 2 วัน จะแจ้งทาง sms ตั้งแต่วันที่ 21/7/64 ที่รู้ว่ามีคนในครอบครัวนี้ติดโควิด ครอบครัวนี้พยายามหาทางที่จะติดต่อแจ้งไปหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1330 1668 1669 สาธารณสุข แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ยอมรับแจ้ง โดยอ้างว่าเป็นกฎที่จะรับแจ้งขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อโควิดได้ ต้องมีผลการตรวจแบบ RT PCR เท่านั้น แม้ว่าครอบครัวนี้จะพยายามชี้แจงว่าเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะมีคนในครอบครัวติดเชื้อและรักษาตัวในรพ.สนามแล้ว และคนที่เหลือในครอบครัวหาที่ตรวจโควิดไม่ได้ ขนาดเอาผลการตรวจของภรรยาลูกชายคนโตและบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ยอมรับแจ้ง และไล่ให้ต้องไปตรวจด้วย RT PCR มาก่อนเท่านั้น เมื่อรู้ว่าติดโควิดทั้งครอบครัว ก็ดิ้นรนหาซื้อชุดตรวจ และหาซื้อยาฟ้าทะลายโจร กระชาย ทั้งยาไทยและยาจีน ทุกตัวที่โฆษณาว่ารักษาโควิดได้ มากินกันทั้งครอบครัว น้องผมที่เป็นลูกเขยของบ้านนี้ ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผมในคืนวันที่ 21/7 ผมได้โทรไปสอบถามอาการของคนในครอบครัวนี้พบว่า อาม่า และน้องสะใภ้ผม เริ่มมีอาการไอมากและหอบเหนื่อย พูดได้ไม่เยอะ พูดไปไอไป เชื้อน่าจะเริ่มลงปอดแล้ว ผมประเมินดูแล้วมั่นใจว่าหาเตียงในโรงพยาบาลไม่ได้แน่ๆ ครอบครัวนี้น่าจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิดสีเหลือง และมี 2 คนที่น่าจะกำลังเป็นสีแดง โอกาสที่จะรอดของครอบครัวนี้คือ รักษาตัวที่บ้าน ผมตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาไปในการติดต่อหาเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ การหายาฟาวิพิราเวียมาให้เร็วที่สุด คือทางรอดเดียวของครอบครัวนี้ เพื่อป้องกันไวรัสลงปอด และลดการแพร่เชื้อไวรัส แม้ว่าจะติดเชื้อกันทั้งบ้านแล้ว แต่การอยู่กันอย่างแออัด 10 คนในห้องแถวเล็กๆ จะมีไวรัสออกมากับลมหายใจตลอดเวลา และทุกคนก็หายใจเอาไวรัสของคนในครอบครัวอีก 9 คนตลอดเวลา น่าจะทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้นทุกคน วันที่ 22/7 ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาซื้อยาฟาวิพิราเวีย จากเพื่อนที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน แต่ไม่สามารถหาซื้อได้เลย ทุกโรงพยาบาลยืนยันว่าการจะจ่ายยา ต้องสั่งโดยหมอ infectious และต้องมีใบตรวจด้วย RT PCR ของแต่ละคนเท่านั้น ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาที่ตรวจ RT PCR และ RAT แต่ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับตรวจ ขนาดน้องชายผมเป็น FT โรงพยาบาลเอกชน บอกว่าเป็นญาติและนามสกุลเดียวกัน ก็ยังไม่รับตรวจ และไม่จ่ายยาฟาวิพิราเวียให้ ผมเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆศิริราช ต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจ และช่วยหายาฟาวิพิราเวีย ได้ 3 ชุด เมื่อได้ยามาแล้ว ผมให้อากง และอาม่า กับลูกสาวที่เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยหอบได้ทานยาก่อน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงและเริ่มมีอาการหนักแล้ว วันที่ 23/7 หลังจากได้ยาฟาวิพิราเวียไป 2 โดส อาม่าและลูกสาวที่อาการหนักที่สุด อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุยได้มากขึ้นไอน้อยลง และต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยหายาฟาวิพิราเวียร์ มาให้อีก 3 ชุด และส่ง pulse oximeter มาให้ วัดออกซิเจน อาม่าและลูกสาว ได้ประมาณ 94 ส่วนคนอื่นได้ 96 ยกเว้นเด็ก 2 ขวบ 2 คน วัดได้ 93 แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะนิ้วเด็กหรือเปล่าเลยวัดได้ต่ำกว่าความเป็นจริง แต่อาการเด็กก็เริ่มมีไข้สูงและเริ่มซึมแล้ว แนะนำให้ทานยาลดไข้พาราเซต และเช็ดตัวบ่อยๆ และวางแผนว่าถ้าวันที่ 24/7 อาการแย่ลง จะแบ่งยาฟาวิพิราเวียของลูกสาวคนที่ไม่มีอาการ มาให้เด็กทั้ง 2 คน แต่โชคดีที่ เมื่อวานนี้ไข้เริ่มลด และเด็กอาการดีขึ้น วันที่ 25/7 ทุกคนในครอบครัวอาการดีขึ้นแล้ว แต่จมูกยังไม่ได้กลิ่น วัดออกซิเจน ได้ 98 ทุกคน สรุป 1. ยาฟาวิพิราเวีย จำเป็นมากสำหรับการรักษาตัวเองที่บ้าน และต้องรีบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนัก 2. สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาทางไกลคือ การให้กำลังใจ เพราะคนไข้จะวิตกกังวลมาก กลัวตาย กลัวไปทุกเรื่อง ผมโทรไปถามอาการและชวนพูดคุยบ่อยมาก ทุก 2-3 ชั่วโมง 3. ควรจะต้องมียาลดไข้ ยาแก้ไอ และฟ้าทะลายโจร ติดบ้านไว้ 4. ตอนนี้โควิดมันแพร่กระจายไปทั่วแล้ว แม้แต่อยู่แต่ในบ้านยังติดโควิดได้ ครอบครัวนี้อากงอาม่าและลูกสาว 2 คนอยู่แต่ในบ้าน มีแต่ลูกชายและลูกสะใภ้ที่ทำงานนอกบ้าน แต่อากงติดเชื้อเป็นคนแรกเลย ยังไม่รู้ว่าติดได้อย่างไร ยิ่งทำให้สงสัยว่าน่าจะติดจาก airborne 5. ให้ทานน้ำเยอะๆ ผมสั่งให้กินน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร และทุกครั้งที่โทรไปจะกระตุ้นให้กินน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยเรื่อง hydration 6. ผมให้คนไข้ทุกคน วัดไข้ จับชีพจร และนับการหายใจทุก 1 ชั่วโมง บันทึกไว้ วัตถุประสงค์เพื่อให้คนไข้ได้รู้จักสังเกตุอาการตนเอง ต่อมาเมื่อมี pulse oximeter ผมก็เปลี่ยนมาให้ทุกคนบันทึก ออกซิเจนและชีพจร ของตนเอง ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อที่เราจะได้ให้คนไข้ได้รู้การเปลี่ยนแปลงของตนเอง และช่วยให้ผมที่เป็นหมอสามารถที่จะมาประเมินทบทวนอาการของคนไข้ย้อนหลังได้ 7. ในกรณีเลวร้ายสุดๆ คือยาฟาวิพิราเวียไม่ได้ผล และคนไข้เริ่มมีอาการปอดอักเสบชัดเจน ผมจะไม่พยายามไปหาออกซิเจนมาให้ เพราะรู้ว่าไม่ได้ผล มีแต่จะทำให้คนไข้ทรมานมากขึ้น เพราะคนไข้ที่ปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็น high flow oxygen แต่ผมจะทดลองให้การรักษา ด้วยวิธีการที่ยังไม่เคยมีใครทดลองมาก่อน แต่อาจจะได้ผลสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆมีญาติหรือคนในครอบครัวที่เริ่มมีปอดอักเสบและไม่สามารถหาเตียงในไอซียูได้ หลังไมค์มาคุยกันนะครับ ยินดีแชร์ให้ฟังครับ แล้วเพื่อนๆให้คนไข้ตัดสินใจเองว่าจะทดลองรักษาตัวตามสูตรของผมหรือไม่ 8. ตอนนี้การติดเชื้อแพร่ระบาดเข้าไปในครัวเรือนแล้ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อ 1 คน สมาชิกในครอบครัวจะติดเชื้อไปแล้วทุกคน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข ต้องยกเลิกกฎที่บังคับให้ต้องมีผลตรวจ RT PCR ทุกคนถึงจะรับลงทะเบียนเข้าระบบ ควรจะใช้แค่ผลการตรวจ rapid test และกระทรวงสาธารณสุข ต้องมีหน้าทีจัดหาชุดตรวจ ATK ส่งไปให้คนในครอบครัวผู้ป่วยทุกคน เพื่อที่จะรีบตรวจและคัดกรองผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่ผลักภาระให้ผู้ป่วยทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ต้องไปดิ้นรน หาที่จองคิวตรวจด้วยตัวเอง และก็เอาเชื้อไปแพร่ให้คนรอบข้าง แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 9. ครอบครัวนี้น่าจะเริ่มติดเชื้อวันที่ 12/7/64 จนกระทั่งวันนี้ (25/7/64) ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงการตรวจด้วย RT PCR และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 10. ช่วยกันเรียกร้องกดดันให้กระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกระเบียบคำสั่งที่การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อต้องมีผลการตรวจยืนยันด้วย RT PCR เท่านั้น ในสถานการณ์ปัจจุบันที่การระบาดอย่างหนัก ควรจะยืนยันด้วยผลการตรวจ ATK ก็น่าจะเพียงพอแล้ว และต้องเป็นหน้าที่ของสธ. สปสช. ที่ต้องจัดหาและจัดส่งชุดตรวจ ATK ไปให้ครอบครัวของผู้ติดเชื้อ เพื่อที่จะคัดกรองหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ 11. ถ้าคิดว่าโพสนี้เป็นประโยชน์ สามารถแชร์ต่อไปได้ครับ นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://nanoderma.online/fortamin-medicineยาสมุนไพรอย. เพิกถอนแอคปลอมJoke Air• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประยุทธ์กำลังจะเดินตามรอย”ฮุนเซน” ในกรณีให้ต่างชาติสามารถครอบครองที่ดินได้คนละ1ไร่ ยกตัวอย่างเมือง”กรุงพระสีหนุ” หรือ Sihanoukville เมืองพักตากอากาศที่ขึ้นชื่อและสวยที่สุดในประเทศกัมพูชา ในช่วงระยะเวลาต้นปี2014-กลางปี2014ขณะที่ผมยังเป็นสถานะผู้ขอลี้ภัย(Asylum seeker)ในประเทศกัมพูชานั้น ผมกับภรรยาก็ได้ไปหลบซ่อนตัวเองที่เมืองนี้แหละ เมื่อก่อนนั้น เป็นเมืองชายหาดสวยมากๆ โล่งสบายตา คนในท้องที่คนในพื้นที่ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เงินหมุนเวียนจากนักท่องเที่ยว ชาวบ้านละแวกนั้นก็มีรายได้ ลืมตาอ้าปากได้แบบที่อาศัยซึ่งกันและกัน แบบที่ยังไม่มีพวกนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ผ่านไปแค่ปีเดียว ช่วงปี2015-ปัจจุบัน ฮุนเซน เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแบบออกหน้าออกตา และที่เข้ามากระหน่ำจนชาวบ้านแถวนั้นต้องพินาศไปตามๆกันก็คือ กลุ่มทุนจีนที่มาลงทุน โดยหลักการก็คล้ายๆไทยนั่นแหละ1คน1ไร่ แต่พวกขนพรรคพวกมารวมกันซื้อคนละไร่แล้วซื้อติดๆกัน สร้างโรงแรมสร้างคาสิโน คือมองๆไปมันก็ดีนะเหมือนจะเติมเงินให้กับประเทศ แต่ไปๆมาๆชาวบ้านแถวนั้นโดนไล่ที่ ไม่มีที่อยู่ พวกปั่นราคาบ้านที่ดินจนแพง คนพื้นที่ไม่มีกำลังซื้อ หนำซ้ำมีการคอรับชั่นยัดให้เงินกับ จนท รัฐท้องถิ่นอีก จากนายทุนจีนที่มาลงทุน สู่มาเฟียจีนคุมเมือง เริ่มมีการส่งส่วยให้รัฐ โกยเงินกลับประเทศแบบไม่ให้กระเด็นถึงคนท้องที่สักแดงเดียว ชาวบ้านเริ่มทำมาหากินลำบากเพราะการผูกขาดจากนายทุน ฝ่ายรัฐก็ต้องอุ้มนายทุนเพราะต้องพึ่งกันและกันเพราะฝ่ายรัฐหวังแค่เงินภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างเท่านั้นเอง แถมเงินภาษีก็ไม่ได้แปลงมาเป็นสวัสดิการให้คนแถวนั้นด้วย ส่วน จนท ท้องถิ่นหรือผู้ว่าฯใต้โต๊ะรับเต็มๆ เนี่ย!!! ความระยำมันจะอยู่ตรงนี้ ลองเปรียบเทียบภาพแค่ช่วงไม่กี่ปีสิครับ แม่งเปลี่ยนไปมาก มากจนเกือบจะเป็นเวกัสแล้ว สุดท้ายที่เมืองสีหนุวิวล์ก็กำลังจะเป็น Ghost town กลุ่มทุนจีนที่ขาดทุนหลังจากโควิด ก็กระโดดหนี ทิ้งทั้งสิ่งปลูกสร้าง บ้างก็สร้างไม้เสร็จ บางที่ทิ้งขยะกองโตเอาไว้ยังงั้นเลย ผมไม่เชื่อว่ารัฐบาลประยุทธุ์จะมีวิธีป้องกันระยะยาว แค่เอาฉาบฉวยอวยนายทุนเท่านั้น ระยะยาว"บ้านเมืองพังแน่" ลองไปGoogleดูได้ครับ สีหนุวิววล์กัมพูชาเป็นกรณีศึกษาได้อย่างดีเลย กดดูที่ลิงค์ได้เลยครับ อนาคตเมืองไทยอาจจะเป็นแบบนี้แน่นอน>>>>https://waymagazine.org/sihanoukville/ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ?ยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ? . ได้รับข่าวจากชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านสวาย ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยวิธีการสัมภาษณ์ให้เล่าเรื่องยาเขียวตราใบโพธิ์ สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด – 19 (ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564) . จึงทำการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากเว็บไซต์ https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/156 ยาเขียวซึ่งไม่พบว่าการรับประทานยาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ . จากการสัมภาษณ์นางสาวสุวรรณา ชะฏาทอง ชาวบ้านในหมู่บ้านสวาย ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปรากฏว่าไม่เคยเชื่อว่ายาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 )และจากการสัมภาษณ์นายอนุวรรตน์ แสงแพ็ง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษที่เป็นเยาวชนในหมู่บ้าน ปรากฏว่าเคยได้ยินข่าวนี้มานาน แต่ก็ไม่ได้เชื่อว่ายาเขียวตราใบโพธิ์สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564) . ดังนั้นยาเขียวตราใบโพธิ์ ป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ? ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ เพราะว่า สรรพคุณที่แท้จริงของยาเขียวตราใบโพธิ์ คือ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ เป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อน ถอนพิษไข้หรืออกหัดอิสุกอิใส ไม่ได้มีสรรพคุณในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด . เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษยาสมุนไพรอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวงเสวนาชี้ปัญหาข่าวปลอมเรื่องของทุกฝ่าย แหล่งข่าว-ผู้รับสารต้องร่วมมือกัน2 เม.ย. 2565 โคแฟค (ประเทศไทย) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สำนักข่าว ThaiPBS FNF Thailand และภาคีเครือข่าย จัดเสวนา “บทบาทสื่อไทยในการสกัดข่าวปลอม: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” ที่ รร.เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสัปดาห์ค้นหาข้อเท็จจริง ในวาระวันตรวจสอบข่าวลวงโลก 2565 ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-2 เม.ย. 2565std47990• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปดิพัทธ์ สันติภาดา : ชีวิต 4 ปี ในสภาของแคนดิเดตประธานสภา จากก้าวไกลการเปิดชื่อแคนดิเดตประธานสภาของก้าวไกล จากโผที่มีการเปิดเผย 3 ชื่อก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในวันที่ ส.ส. 150 ของพรรค เข้ารายงานตัวปฏิบัติหน้าที่ต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปดิพัทธ์ หรือ "หมออ๋อง" อดีตสัตวแพทย์ ในวัย 42 ปี ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร สมัยที่ 2 ของ จ.พิษณุโลก เขต 1 หลังจากที่เขาเป็น ส.ส. สมัยแรกจากการได้คะแนนเสียงชนะผู้แทนคนเก่าของพื้นที่อย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ พิษณุโลก 3 สมัย ในวาระที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อของปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ บีบีซีไทยรวบรวมการทำหน้าที่ในสภาและชีวิตทางการเมืองจากการเป็น ส.ส. สมัยแรกของเขามาไว้ ณ ที่นี้เกีย มึน'น• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการเมือง“วิโรจน์” พร้อมประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกฯหอบข้อมูลส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกให้ “จเรหิน” พร้อมคาดหวังการค้าสำนวนกลั่นแกล้งผู้ประกอบการสุจริตจะหมดหรือทุเลาลง แฉผู้ประกอบการรถบรรทุกอีก 2 ใน 3 หรือประมาณ 1 ล้านคันที่ไม่ได้อยู่ในสหพันธ์ฯตกอยู่ในภาวะจำยอม เหตุธุรกิจแข่งขันกันสูงจำเป็นต้องบรรทุกเกิน เป็นที่มาของสติกเกอร์จ่ายส่วย ด้าน “จเรหิน” รับจะเร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นในกรอบ 15 วัน ขณะที่ตำรวจทางหลวงข่ายถูกเชือดจากพิษส่วย เป็นระดับหัวหน้าตู้ทางหลวงยันรอง ผกก. ส่วนเรื่องรถน้ำมันเถื่อน “โฆษกสรรพสามิต” เผยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว 13 มิ.ย.นี้รู้ผล บิ๊กคนไหนโทร.ขอให้ปล่อย “อัจฉริยะ” ปูดชื่อ “รองยุทธ” คนโทร.เคลียร์ข่าวการเมืองchanisara12032553• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“อนุทิน” ฉะแรง มีแต่ควายทุ่มซื้อ “งูเห่า” 100 ล้าน ปัดแข่งตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายการเมืองดาหน้าปฏิเสธ กระแสทุ่มหลักร้อยล้านซื้องูเห่า “ประเสริฐ” ขู่พวกที่คิดจะเป็นงูเห่าพึงระวังตัว ลั่นเพื่อไทยไม่มีฟรีโหวตเลือกประธานสภาฯ “เศรษฐา” ย้ำการแข่งขันจบไปแล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือตั้งรัฐบาลให้ได้ ก้าวไกลรอให้เพื่อไทยตกผลึกก่อน “ชัยธวัช” ชี้ผลโหวต ปธ.สภาฯ สะท้อนต่อการตัดสินใจ ส.ว.เลือกนายกฯ ว่าขั้ว 8 พรรคยังเหนียวแน่น “อนุทิน” แขวะมีแต่ควายเท่านั้นที่คิดจะซื้องูเห่า 100 ล้าน ยันไม่มีทางเกิด รบ.เสียงข้างน้อย “พิธา-ก.ก.” มีผวา ศาล รธน.จี้ อสส.แจงผลสอบคดีชูนโยบายแก้ ม.112 คืบหน้าถึงไหน “ลุงป้อม” กลับจากอังกฤษแล้ว เรียกติวเข้ม ส.ส.โหวต ปธ.สภาฯ-นายกฯ “พรเพชร” เชื่อ ส.ว.ไม่มีทางโหวตไปทางเดียวกัน ศาลนัดไต่สวนคดี “อุปกิต” ฟ้อง “โรม”Panisara Rukngam• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ เทคฮอร์โมนในปริมาณที่มากทำให้ใบหน้าสวยขึ้นในปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายที่มีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ การเทค ฮอร์โมนจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมาก แต่มีผู้คนไม่น้อยที่ไม่ทราบการเทคฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และอาจไปซื้อยา มาเทคฮอร์โมนเองจนเกิดอันตรายต่อร่างกาย ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ) จากการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิง ข้ามเพศเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย พร้อมกับให้ยากดฮอร์โมนเพศชายที่มีตามเพศสภาพให้ ลดลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการเทคฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น เช่น มี หน้าอก เสียงเล็กแหลมขึ้นหนวดเคราน้อยลง กล้ามเนื้อเล็กลง เป็นต้น (ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ) ข้อแนะนำในการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ • ร่างกายของคนข้ามเพศแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยาที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงต่างกัน ควรที่จะเข้ารับการปรึกษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มให้ฮอร์โมน • หาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนที่ถูกต้อง รวมทั้งอันตรายของการใช้ยาเกินขนาด • วัดระดับฮอร์โมน testosterone และ estradiol ทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่จะ ตามมา ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ) ดังนั้นการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ เป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย และกดฮอร์โมนเพศชาย ให้ลดลง ซึ่งนั่นจะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น แต่ไม่สามารถเปลี่นรูปลักษณ์ของใบหน้าได้ ปรับเปลี่ยนได้แค่สรีระร่างกายสุขภาพความสวยความงามChittakon Pawakho• 1 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแบงก์ชาติไม่มีโครงการให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือกรณีชำระหนี้ไม่ไหว “โดยให้กู้เงินและผ่อนจ่ายเดือนละ 416 บาทข่าวมั่ว ไม่มีนโยบายให้ประชาชนผ่อนชำระเงิน 416 บ./ด . อย่าหลงเชื่อ! แบงก์ชาติไม่มีโครงการให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือกรณีชำระหนี้ไม่ไหว “โดยให้กู้เงินและผ่อนจ่ายเดือนละ 416 บาท” ❌ แบงก์ชาติไม่ทำธุรกรรมทางการเงินกับประชาชน❌ อ่านรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบธุรกิจได้ที่เว็บไซต์แบงก์ชาติ 👉 https://bit.ly/3kC9gKU หรือติดต่อ Call center ของสถาบันการเงินทุกแห่งโดยตรง 👉 https://bit.ly/3k8IgDe . Fact Checker เครือข่ายมูลนิธิชุมชนขอนแก่นทศวรรษหน้าข่าวการเมืองอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้เชี่ยวชาญอังกฤษเตือนให้ระวัง "วินเทอร์ เวฟ" การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงฤดูหนาว จริงหรือคะด้านสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์อังกฤษ เตือนให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขรับมือการแพร่ระบาดระลอกสอง ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ในกรณีที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้เร็วขึ้น โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 กำลังเร่งขยายพันธุ์ในหลายประเทศก่อนเข้าสู่ "วินเทอร์ เวฟ" (winter wave) ฤดูหนาวปลายปีนี้ สภาพอากาศจะเย็นลงและยังเป็นช่วงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้การควบคุมโรคทำได้อย่างยากลำบาก แต่ความสูญเสียอาจบรรเทาลงหากมีมาตรการรับมือดีๆ จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพระเจ้าอัลเฟรอเป็นกษัตริย์องค์แรกของอังกฤษหรือไม่พระเจ้าอัลเฟรด มหาราชทรงขึ้นปกครองอังกฤษใน ค.ศ.871และขับไล่พวกแดนมาร์กออกไปในปี ค.ศ. 871และรวบรวมแผ่นดินอังกฤษให้เป็นปึกแผ่นจริงหรือไม่?Konpapha Thainukun• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยลองอ่านข้อเขียนของคนระดับ เอกอัครราชทูตไทย ซึ่งท่านเห็นเหตุที่เกิดขึ้น ผ่านประสพการณ์ต่าง ๆ มาทั่วโลก เหมือนกับเราเมื่อโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ความคิดความอ่าน จะแตกต่างจาก เมื่อตอนยังเด็ก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีมากขึ้น เพราะเราเห็นโลกมามากขึ้น และเป็นบทสรุปในใจเราได้ว่า อะไร เป็นอะไร เมื่อคนไทยต้องการ พรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องยินดีด้วย และ ปล่อยให้ระบบมันเดินไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบค่อยๆซึมเข้ามาคือการ ล่าอาณานิคมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา และ ประเทศตะวันตก วันนี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการล่มสลายของประเทศไทย ก้าวไกลได้อะไร --> ได้เงินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ถูกหรือผิด ชั่วหรือดี พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ Fund จากประเทศอเมริกา ผ่านองค์กร มูลนิธิลับ ๆ หลายแห่ง ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อเปิดช่องให้อเมริกาสามารถแทรกแซงทางการเมืองไทยได้ สังเกตได้จากกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการล้มล้างสถาบันฯ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมถึงการนำทูตสหรัฐและ ประเทศตะวันตกเข้ามา observe การประชุม สัมมนา หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ มันคือการล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยคำนึงถึง อเมริกาต้องการทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ของประเทศ และ การนำประเทศไทยตั้งฐานทัพ เพื่องัดอำนาจจากประเทศจีน ซึ่งทางอเมริกา พยายามจะเข้ามาตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแต่ทางทหารไทยไม่ยอม ได้แค่เข้ามาฝึกซ้อมรบ คนจนของอเมริกามากกว่า 43 ล้านคน เท่ากับประชากร 1 ประเทศ แต่เศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกก็อยู่ในอเมริกา มันยิ่งเป็นการบอกว่าทุนการเงินมันสร้างการกระจุกตัวไว้ที่คนจำนวนหนึ่ง นี่คือความเหลื่อมล้ำจากระบบเสรีนิยมและ ทุนนิยม (ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง) ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีทางเลี่ยง อเมริกาอยู่ได้ด้วยอาวุธ แต่ถ้าไม่มีสงครามก็ขายไม่ออก อวกาศก็เหมือนกัน หรือถ้าอเมริกาต้องการนำอาหารเป็นตัวจูงเศรษฐกิจตัวเอง พื้นที่การผลิตอาหารไม่พอฉะนั้นต้องขยายดินแดน อเมริกาต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่จะได้ขายอาวุธ และ คานอำนาจกับจีน ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้วในฟิลิปินส์ เกาหลีไต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีโอกาสเกิดสงครามกับจีนและรัสเซียตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตหากยังดำเนินแบบนี้ต่อไป คงได้เห็นสงคราม ไทย-จีน! ไทยก็เช่นเดียวกัน อยู่ในชัยภูมิที่ดี มีทางออกทะเล และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ต่างชาติยกย่องว่าเป็นครัวของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของอเมริกาและชาติตะวันตก แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ามาแทรกซึมประเทศไทยมี ความมั่นคงทางวิถึชีวิต และความภักดีใน สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คานอำนาจและเป็นเสาหลักของประเทศ จึงเป็นงานยากของอเมริกาที่ต้องลดบทบาทของสถาบันหลักเหล่านี้ให้อ่อนแอที่สุด จนถึงเป็นแค่สัญลักษณ์ เพื่อที่จะเข้ามายึดครองได้โดยง่าย (ไม่แปลกอะไรที่ ก้าวไกล ขอยกเลิก ม.112 มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย บอกว่าเสนอเป็นญัตติมาอภิปรายไม่ได้ เพราะญัตตินี้ ผิด รธน.) สิ่งที่ชาติตะวันตกและอเมริกาได้ทำมาอย่างต่อเนืองมากว่า 60 ปี คือการสร้าง soft power แบบซึมเข้ามาในรูปแบบ การศึกษาที่ทันสมัย ภาพยนตร์ การให้ทุนนักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมการล้างสมองให้คนของเราเสพติด คำว่าประชาธิปไตย ความทันสมัย ศิวิไลซ์ของเขา ของประเทศเสรีนิยม ทุนนิยม และ ผลักดันให้คนกลุ่มนี้กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ พร้อมจะเปลี่ยนประเทศโดยไม่สนใจรากเหง้าเดิม คนเหล่านี้จะมีแนวความคิดแบบชาติตะวันตกเต็มตัว พร้อมที่จะทำตามและอ้าแขนรับอำนาจตะวันตก โดยถึงขั้นมองว่าถ้าต้องเป็นประเทศอาณานิคมก็ไม่แปลกอะไร เพราะคงจะได้รับความรู้ความเจริญมา ในฐานะ"นักเรียนนอก" และวันนี้พวกเค้าทำสำเร็จแล้ว ก้าวแรกของการล่าอาณานิคมใหม่ เริ่มขึ้นโดยการต้องเริ่มกระบวนการลดกำลังทหาร และ ลดบทบาทสถาบันกษัตริย์ คนหนุ่มสาวของประเทศ มีแนวคิดแบบตะวันตกมากกว่าครึ่งประเทศถูกเสพติดด้วยข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลานาน เริ่มแสดงตัวตน แบบคนกระหายความสำเร็จ กระหายความเจริญ และ ศิวิไลย์ แบบชาติตะวันตก ดูได้จากการแสดงออกใน social media ที่พยายามแสดงถึงความ หรูหรา ฟุ่มเฟือย ชีวิตที่ดี กินหรู อยู่สบายใช้ของ brand ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ มีฐานะ การงานที่ดี และคิดว่า "กูโตมาได้้ หาเงินได้ ด้วยความสามารถตัวเอง พ่อแม่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ" ส่วนคนจนก็จะโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่ไม่ใช่ตัวเอง ความคิดแบบนี้กำลังจะพังประเทศตัวเอง เป็นความคิดแบบเห็นแก่ตัวแบบสุดขั้ว และการกอบโกยทรัพยากรเต็มที่ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าๆอีกหลายคน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดไป อาจจะยังไม่ได้เกิดในปี สองปีนี้ อาจจะค่อยๆซึมเข้ามาเป็น 5-10ปี ก็คงต้องคอยดูต่อไป ขอให้ประเทศไทยพ้นผองภัย ขอให้ฝ่ายค้านที่ยังเป็นคนเจ็นคุณภาพ รักบ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ได้ทัดทาน ไม่ให้คนชั่วคว่ำฟ้าพลิกดิน คบต่างชาติให้เข้ามากลืนชาติ นำพาสู่สงคราม ได้สำเร็จ เข้าทางไอ้กันมันแล้ว มันเริ่มให้ไอ้พวกนี้ออกมาก่อกวน แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้นเหมือน Hong-Kong Model จนเกิดกลียุคสงครามกลางเมือง จนทางการคุมไม่อยู่จนต้องใช้ความรุนแรง (เคยทราบไหม หยก เด็กหญิง อายุ 15 ปี มายืนกลางถนน อ่านหนังสือด่าในหลวง เพื่อให้ถูกจับ เมื่อตำรวจจับไป ไม่มีใครมายื่นประกัน เพื่อเอาเป็นข้อเรียกร้องว่า จับเด็ก 15 ขวบ ขัง ไม่ให้เรียนหนังสือ) แล้วมันก็จะฟ้องไปทาง UN จนไอ้กันขนทหารเข้ามาควบคุมประเทศ อันตรายมากที่จะเกิดวิกฤตแบบ Hong-Kong ตอนนี้ก็เตรียมย้อนอดีตไปสมัยช่วงสงครามเวียดนาม ที่ไทยเรายอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่อประจัญหน้ากับจีน ก่อนหน้านี้ US ก็ทำสำเร็จแล้วที่ ฟิลิปปินส์ ได้ลูกชายของอดีตปธน.มาร์คอส ขึ้นมา และทันทีก็หันไปซบอเมริกายอมให้ใช้ฐานทัพเพื่อเผชิญหน้ากับจีน และก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดที่การเลือกตั้งในไทยก็ได้พรรคที่มีแนวโน้มโปร US ขึ้นมาเพราะเขาได้วางแผนการในการใช้สื่อเกลี้ยกล่อมและ convince คนรุ่นใหม่จนประสบผลสำเร็จ ด้วย keywords คำว่า “ประชาธิปไตย” “ยกเลิก ม.112” “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ”นายทุนผูกขาด” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลฝ่ายขวาที่อนุรักษ์นิยมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะยุทธศาสตร์การเมืองยุคใหม่คือ ใครครองหรือครอบงำสื่อโซเชียลได้ ผู้นั้นครองโลก ! ก็ไม่ต่างจากสมัยยุคล่าอาณานิคม ที่มีคำพูดว่า ใครครองน่านน้ำคนนั้นครองโลก หรือที่เรียกกันว่า “การทูตเรือปืน” ( Gunship Diplomacy) สมัยนั้นเราต้องเสียดินแดนไแก็เพราะยุทธศาสตร์แบบนี้ พอยุคสงครามเย็นก็ใครครองอวกาศผู้นั้นครองโลก พอมายุคนี้ใครครอบครองสื่อโซเชียล หรือ สื่อออนไลน์ได้ ผู้นั้นก็ครอบงำโลกได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนี้เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า กลุ่มทุนสามานต์ต่างชาติที่เป็นนอมินีให้กับ US นั้นมีหุ้นใหญ่อยู่ใน FB Twitter และเดี๋ยวนี้ลงไปถึง Netflix / HBO เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังทุกเรื่องหากมีพากย์ไทยจะถูกสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปเท่าที่เขาจะสอดแทรกได้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในไทยให้ได้ ผมอยู่ที่ Film Board ได้รับรู้อะไรเยอะมากครับว่าพวกเขาทำกันยังไง ไม่เว้นแม้แต่ในบริษัทผลิตยาและวัคซีนมหาเทพ ก็มีกลุ่มทุนสามานย์ นอมินีของ US ถือหุ้นอยู่ คงจำกันได้ที่วัคซีนมหาเทพที่ถูกปั่นในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง นางงาม เซ็เล็บ แล้วก็ด่าจีนเรื่องวัคซีนน้ำเกลือ วัคซีนเซินเจิ้น ไม่เว้นแม้แต่การดูถูกวัคซีน AZ ที่ไทยเราผลิตได้ในประเทศก็กลายเป็นประเด็นกระทบถึงสถาบัน นั่นคือผลงานของการปั่นจากผู้ที่ครอบงำสื่อได้ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคงวางแผนลงไปทุกอณูของสื่อ ไม่เว้นแ้แต่การ์ตูนอานิเมะ เพจหมาแมว สัตว์เลี้ยง กีฬาสีเด็กประถม/มัธยมนยังมีเดินขบวนล้อการเมืองเลย ยังจำภาพเด็กมัธยม รร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดร ถือป้ายในงานกีฬาสีเขียนชื่อป้ายประเทศว่า Repuplic of Thailand ! เดิม US เคยเกือบทำสำเร็จใน Hong Kong แต่จีนไม่ยอมง่ายๆ จีนใช้ไม้แข็งเพราะเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ จึงคุม Hong Kong ได้ในที่สุด แต่ตอนนี้ US ประสบความสำเร็จแล้วที่ฟิลิปปินส์ และไทย ผมมองเห็นอนาคตว่าเราจะถูกผลักให้จำเป็นต้องเลือกข้าง US ซึ่งตรงนี้จะมีความน่ากลัวเพราะจีนเองก็คงไม่ยอม และไทยเราอาจกลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจในที่สุด ยิ่งตอนนี้เสถียรภาพทางการเงินของ US อยู่ในขั้นวิกฤต อาจผิดสัญญาชำะหนี้ต่างชาติได้ (ญี่ปุ่นและจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ทางเดียวที่อาจจะช่วย US ได้คือ คือการทำ Trade War Business ! พวกผมเคยผ่านและเคยได้เห็นสภาพตอนที่เราต้องยอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยถึง 7 แห่งในช่วงสงครามเวียดนามมาแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ ไม่เคยศึกษา อิทธิพลของสหรัฐฯที่ทิ้งไว้ก็คือวัฒนธรรมแบบแยงกี้ บาร์เบีย / เมียเช่า / อะโกโก้ โชว์ลามก นั่นคือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของไทย จากเดิมสังคมวัฒนธรรมไทย ที่ผู้หญิงขี้อายรักศักดิ์ศรี ก็กลายเป็นผู้หญิงไทยโดนหมิ่นเกียรติเยอะมากเวลาไปต่างประเทศ เราอาจกลายเป็น สมรภูมิแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค เราอาจกลายเป็นแบบยูโกสลาเวีย หรือ เนปาล ยูเครน โมเดล ต่อไปนี้คงคาดเดาลำบาก เพราะทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้าตามแนวทาง New World Order ของ US ไปทุกที พวกผมคงอยู่กันอีกไม่นาน ถึงตอนนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของคนที่ออกคะแนนเสียงในวันนี้ว่าคุณต้องเลือกหนทางเดินให้ประเทศไทยให้ได้ อย่าให้อายคนรุ่นเก่าที่เขายอมเสียสละปกป้องประเทศไทยมาได้นะครับ ________ Cr: Fuangrabil Narisroj (นริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา)Mrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลองอ่านข้อเขียนของคนระดับ เอกอัครราชทูตไทย ซึ่งท่านเห็นเหตุที่เกิดขึ้น ผ่านประสพการณ์ต่าง ๆ มาทั่วโลก เหมือนกับเราเมื่อโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ความคิดความอ่าน จะแตกต่างจาก เมื่อตอนยังเด็ก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีมากขึ้น เพราะเราเห็นโลกมามากขึ้น และเป็นบทสรุปในใจเราได้ว่า อะไร เป็นอะไร เมื่อคนไทยต้องการ พรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องยินดีด้วย และ ปล่อยให้ระบบมันเดินไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบค่อยๆซึมเข้ามาคือการ ล่าอาณานิคมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา และ ประเทศตะวันตก วันนี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการล่มสลายของประเทศไทย ก้าวไกลได้อะไร --> ได้เงินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ถูกหรือผิด ชั่วหรือดี พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ Fund จากประเทศอเมริกา ผ่านองค์กร มูลนิธิลับ ๆ หลายแห่ง ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อเปิดช่องให้อเมริกาสามารถแทรกแซงทางการเมืองไทยได้ สังเกตได้จากกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการล้มล้างสถาบันฯ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมถึงการนำทูตสหรัฐและ ประเทศตะวันตกเข้ามา observe การประชุม สัมมนา หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ มันคือการล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยคำนึงถึง อเมริกาต้องการทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ของประเทศ และ การนำประเทศไทยตั้งฐานทัพ เพื่องัดอำนาจจากประเทศจีน ซึ่งทางอเมริกา พยายามจะเข้ามาตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแต่ทางทหารไทยไม่ยอม ได้แค่เข้ามาฝึกซ้อมรบ คนจนของอเมริกามากกว่า 43 ล้านคน เท่ากับประชากร 1 ประเทศ แต่เศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกก็อยู่ในอเมริกา มันยิ่งเป็นการบอกว่าทุนการเงินมันสร้างการกระจุกตัวไว้ที่คนจำนวนหนึ่ง นี่คือความเหลื่อมล้ำจากระบบเสรีนิยมและ ทุนนิยม (ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง) ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีทางเลี่ยง อเมริกาอยู่ได้ด้วยอาวุธ แต่ถ้าไม่มีสงครามก็ขายไม่ออก อวกาศก็เหมือนกัน หรือถ้าอเมริกาต้องการนำอาหารเป็นตัวจูงเศรษฐกิจตัวเอง พื้นที่การผลิตอาหารไม่พอฉะนั้นต้องขยายดินแดน อเมริกาต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่จะได้ขายอาวุธ และ คานอำนาจกับจีน ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้วในฟิลิปินส์ เกาหลีไต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีโอกาสเกิดสงครามกับจีนและรัสเซียตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตหากยังดำเนินแบบนี้ต่อไป คงได้เห็นสงคราม ไทย-จีน! ไทยก็เช่นเดียวกัน อยู่ในชัยภูมิที่ดี มีทางออกทะเล และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ต่างชาติยกย่องว่าเป็นครัวของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของอเมริกาและชาติตะวันตก แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ามาแทรกซึมประเทศไทยมี ความมั่นคงทางวิถึชีวิต และความภักดีใน สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คานอำนาจและเป็นเสาหลักของประเทศ จึงเป็นงานยากของอเมริกาที่ต้องลดบทบาทของสถาบันหลักเหล่านี้ให้อ่อนแอที่สุด จนถึงเป็นแค่สัญลักษณ์ เพื่อที่จะเข้ามายึดครองได้โดยง่าย (ไม่แปลกอะไรที่ ก้าวไกล ขอยกเลิก ม.112 มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย บอกว่าเสนอเป็นญัตติมาอภิปรายไม่ได้ เพราะญัตตินี้ ผิด รธน.) สิ่งที่ชาติตะวันตกและอเมริกาได้ทำมาอย่างต่อเนืองมากว่า 60 ปี คือการสร้าง soft power แบบซึมเข้ามาในรูปแบบ การศึกษาที่ทันสมัย ภาพยนตร์ การให้ทุนนักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมการล้างสมองให้คนของเราเสพติด คำว่าประชาธิปไตย ความทันสมัย ศิวิไลซ์ของเขา ของประเทศเสรีนิยม ทุนนิยม และ ผลักดันให้คนกลุ่มนี้กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ พร้อมจะเปลี่ยนประเทศโดยไม่สนใจรากเหง้าเดิม คนเหล่านี้จะมีแนวความคิดแบบชาติตะวันตกเต็มตัว พร้อมที่จะทำตามและอ้าแขนรับอำนาจตะวันตก โดยถึงขั้นมองว่าถ้าต้องเป็นประเทศอาณานิคมก็ไม่แปลกอะไร เพราะคงจะได้รับความรู้ความเจริญมา ในฐานะ"นักเรียนนอก" และวันนี้พวกเค้าทำสำเร็จแล้ว ก้าวแรกของการล่าอาณานิคมใหม่ เริ่มขึ้นโดยการต้องเริ่มกระบวนการลดกำลังทหาร และ ลดบทบาทสถาบันกษัตริย์ คนหนุ่มสาวของประเทศ มีแนวคิดแบบตะวันตกมากกว่าครึ่งประเทศถูกเสพติดด้วยข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลานาน เริ่มแสดงตัวตน แบบคนกระหายความสำเร็จ กระหายความเจริญ และ ศิวิไลย์ แบบชาติตะวันตก ดูได้จากการแสดงออกใน social media ที่พยายามแสดงถึงความ หรูหรา ฟุ่มเฟือย ชีวิตที่ดี กินหรู อยู่สบายใช้ของ brand ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ มีฐานะ การงานที่ดี และคิดว่า "กูโตมาได้้ หาเงินได้ ด้วยความสามารถตัวเอง พ่อแม่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ" ส่วนคนจนก็จะโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่ไม่ใช่ตัวเอง ความคิดแบบนี้กำลังจะพังประเทศตัวเอง เป็นความคิดแบบเห็นแก่ตัวแบบสุดขั้ว และการกอบโกยทรัพยากรเต็มที่ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าๆอีกหลายคน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดไป อาจจะยังไม่ได้เกิดในปี สองปีนี้ อาจจะค่อยๆซึมเข้ามาเป็น 5-10ปี ก็คงต้องคอยดูต่อไป ขอให้ประเทศไทยพ้นผองภัย ขอให้ฝ่ายค้านที่ยังเป็นคนเจ็นคุณภาพ รักบ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ได้ทัดทาน ไม่ให้คนชั่วคว่ำฟ้าพลิกดิน คบต่างชาติให้เข้ามากลืนชาติ นำพาสู่สงคราม ได้สำเร็จ เข้าทางไอ้กันมันแล้ว มันเริ่มให้ไอ้พวกนี้ออกมาก่อกวน แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้นเหมือน Hong-Kong Model จนเกิดกลียุคสงครามกลางเมือง จนทางการคุมไม่อยู่จนต้องใช้ความรุนแรง (เคยทราบไหม หยก เด็กหญิง อายุ 15 ปี มายืนกลางถนน อ่านหนังสือด่าในหลวง เพื่อให้ถูกจับ เมื่อตำรวจจับไป ไม่มีใครมายื่นประกัน เพื่อเอาเป็นข้อเรียกร้องว่า จับเด็ก 15 ขวบ ขัง ไม่ให้เรียนหนังสือ) แล้วมันก็จะฟ้องไปทาง UN จนไอ้กันขนทหารเข้ามาควบคุมประเทศ อันตรายมากที่จะเกิดวิกฤตแบบ Hong-Kong ตอนนี้ก็เตรียมย้อนอดีตไปสมัยช่วงสงครามเวียดนาม ที่ไทยเรายอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่อประจัญหน้ากับจีน ก่อนหน้านี้ US ก็ทำสำเร็จแล้วที่ ฟิลิปปินส์ ได้ลูกชายของอดีตปธน.มาร์คอส ขึ้นมา และทันทีก็หันไปซบอเมริกายอมให้ใช้ฐานทัพเพื่อเผชิญหน้ากับจีน และก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดที่การเลือกตั้งในไทยก็ได้พรรคที่มีแนวโน้มโปร US ขึ้นมาเพราะเขาได้วางแผนการในการใช้สื่อเกลี้ยกล่อมและ convince คนรุ่นใหม่จนประสบผลสำเร็จ ด้วย keywords คำว่า “ประชาธิปไตย” “ยกเลิก ม.112” “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ”นายทุนผูกขาด” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลฝ่ายขวาที่อนุรักษ์นิยมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะยุทธศาสตร์การเมืองยุคใหม่คือ ใครครองหรือครอบงำสื่อโซเชียลได้ ผู้นั้นครองโลก ! ก็ไม่ต่างจากสมัยยุคล่าอาณานิคม ที่มีคำพูดว่า ใครครองน่านน้ำคนนั้นครองโลก หรือที่เรียกกันว่า “การทูตเรือปืน” ( Gunship Diplomacy) สมัยนั้นเราต้องเสียดินแดนไแก็เพราะยุทธศาสตร์แบบนี้ พอยุคสงครามเย็นก็ใครครองอวกาศผู้นั้นครองโลก พอมายุคนี้ใครครอบครองสื่อโซเชียล หรือ สื่อออนไลน์ได้ ผู้นั้นก็ครอบงำโลกได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนี้เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า กลุ่มทุนสามานต์ต่างชาติที่เป็นนอมินีให้กับ US นั้นมีหุ้นใหญ่อยู่ใน FB Twitter และเดี๋ยวนี้ลงไปถึง Netflix / HBO เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังทุกเรื่องหากมีพากย์ไทยจะถูกสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปเท่าที่เขาจะสอดแทรกได้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในไทยให้ได้ ผมอยู่ที่ Film Board ได้รับรู้อะไรเยอะมากครับว่าพวกเขาทำกันยังไง ไม่เว้นแม้แต่ในบริษัทผลิตยาและวัคซีนมหาเทพ ก็มีกลุ่มทุนสามานย์ นอมินีของ US ถือหุ้นอยู่ คงจำกันได้ที่วัคซีนมหาเทพที่ถูกปั่นในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง นางงาม เซ็เล็บ แล้วก็ด่าจีนเรื่องวัคซีนน้ำเกลือ วัคซีนเซินเจิ้น ไม่เว้นแม้แต่การดูถูกวัคซีน AZ ที่ไทยเราผลิตได้ในประเทศก็กลายเป็นประเด็นกระทบถึงสถาบัน นั่นคือผลงานของการปั่นจากผู้ที่ครอบงำสื่อได้ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคงวางแผนลงไปทุกอณูของสื่อ ไม่เว้นแ้แต่การ์ตูนอานิเมะ เพจหมาแมว สัตว์เลี้ยง กีฬาสีเด็กประถม/มัธยมนยังมีเดินขบวนล้อการเมืองเลย ยังจำภาพเด็กมัธยม รร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดร ถือป้ายในงานกีฬาสีเขียนชื่อป้ายประเทศว่า Repuplic of Thailand ! เดิม US เคยเกือบทำสำเร็จใน Hong Kong แต่จีนไม่ยอมง่ายๆ จีนใช้ไม้แข็งเพราะเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ จึงคุม Hong Kong ได้ในที่สุด แต่ตอนนี้ US ประสบความสำเร็จแล้วที่ฟิลิปปินส์ และไทย ผมมองเห็นอนาคตว่าเราจะถูกผลักให้จำเป็นต้องเลือกข้าง US ซึ่งตรงนี้จะมีความน่ากลัวเพราะจีนเองก็คงไม่ยอม และไทยเราอาจกลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจในที่สุด ยิ่งตอนนี้เสถียรภาพทางการเงินของ US อยู่ในขั้นวิกฤต อาจผิดสัญญาชำะหนี้ต่างชาติได้ (ญี่ปุ่นและจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ทางเดียวที่อาจจะช่วย US ได้คือ คือการทำ Trade War Business ! พวกผมเคยผ่านและเคยได้เห็นสภาพตอนที่เราต้องยอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยถึง 7 แห่งในช่วงสงครามเวียดนามมาแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ ไม่เคยศึกษา อิทธิพลของสหรัฐฯที่ทิ้งไว้ก็คือวัฒนธรรมแบบแยงกี้ บาร์เบีย / เมียเช่า / อะโกโก้ โชว์ลามก นั่นคือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของไทย จากเดิมสังคมวัฒนธรรมไทย ที่ผู้หญิงขี้อายรักษักดิ์ศรี ก็กลายเป็นผู้หญิงไทยโดนหมิ่นเกียรติเยอะมากเวลาไปต่างประเทศ เราอาจกลายเป็น สมรภูมิแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค เราอาจกลายเป็นแบบยูโกสลาเวีย หรือ เนปาล ยูเครน โมเดล ต่อไปนี้คงคาดเดาลำบาก เพราะทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้าตามแนวทาง New World Order ของ US ไปทุกที พวกผมคงอยู่กันอีกไม่นาน ถึงตอนนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของคนที่ออกคะแนนเสียงในวันนี้ว่าคุณต้องเลือกหนทางเดินให้ประเทศไทยให้ได้ อย่าให้อายคนรุ่นเก่าที่เขายอมเสียสละปกป้องประเทศไทยมาได้นะครับ ________ Cr: Fuangrabil Narisroj (นริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา)ข่าวการเมืองเลือกตั้ง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยรับประทานเฉพาะไข่ต้ม 7 วัน ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ไข่ต้มเมนูที่หลายคนนิยมนำมาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ด้วยความเชื่อว่าไข่ต้มมีโปรตีนที่สูง ช่วยให้อิ่มนาน และมีแคลอรี่ต่ำ แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริงหรือ? จากการสัมภาษณ์ อ.ดร. ธาริณี นิลกำแหง อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ประจำหลักสูตรวิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การรับประทานไข่ต้ม ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากไข่ต้มมีโปรตีนสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ควบคุมความอยากอาหาร และยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ มีแคลอรี่ที่ต่ำเมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ ทำให้สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักเพิ่ม ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.rattinan.com/ ) นอกจากนั้นไข่ต้มยังมีประโยชน์ในเรื่อง ช่วยเร่งการเผาผลาญ โปรตีนจากไข่ต้มสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก สะดวกและง่ายต่อการเตรียม ไข่ต้มเป็นอาหารที่เตรียมง่าย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ทำให้สามารถควบคุมการบริโภคอาหารและหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น การบริโภคที่หลากหลาย ไข่ต้มสามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น สลัดไข่ต้ม แซนด์วิชไข่ หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบในซุป ทำให้ไม่น่าเบื่อและสามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.jenniferoomthailand.com ) แต่ร่างกายของคนเรานั้นต้องการแคลอรี่ใน 1 วัน ประมาณ 1800 - 2000 ต่อวันซึ่งไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การกินไข่ต้มทุกวันวันละ 1-2 ฟอง จึงเป็นการเพิ่มพลังงานและสารอาหารให้ร่างกายได้อย่างเหมาะสม แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องเพราะจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบการย่อยและการดูดซึม ส่วนบุคคลที่เป็นโรคไตไม่ควรทำเพราะจะทำให้ไตเกิดการทำงานหนักขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยควรควบคู่กับการควบคุมแคลอรีจากอาหารอื่นๆ รวมถึงการออกกำลังกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.homefittools.com/news/boiled-eggs-low-fat.html ) ดังนั้น การกินไข่ต้มเป็นส่วนหนึ่งของอาหารมื้อเพื่อสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน ไม่ใช่ทางลัดในการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนและปลอดภัย ควรเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่เน้นความสมดุลของสารอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวสุขภาพภาคอีสานsuthinantanle20192545• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลเลือกตั้ง 2566 : กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้งสภา 500 คนคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครบ 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คนstd47914• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการเดทกันของ AI ของZeNa MAVE และ ซึง Superkindมีข่าวออกมาว่า ซีนา และ ซึง เดทกัน เนื่องจากคนจิ้นstd47926• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ