2209 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจริงหรือคะ เกษตรกรที่ไม่มีบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ก็สามารถลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ได้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์รับเงินจากมาตรการช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" เดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน รวม 15,000 บาท ที่ไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. แต่มีบัญชีของธนาคารอื่นสามารถลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ได้แล้วโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022! ระวังหยด "น้ำมันกัญชา" เอง เสี่ยงอันตรายข่าวลวงยังเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะข่าวลวงด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อร่างกาย รุนแรงได้ถึงชีวิต หากไม่รู้เท่าทัน! เมื่อวันที่ 23 ส.ค. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีโคแฟค (COFACT) ประเทศไทย จัดเวทีสัมมนาไฮบริด นักคิดดิจิทัล ครั้งที่ 23 จากมะนาวโซดา ถึงกัญชารักษา (ไม่) ทุกโรค บทเรียนการรับมืออินโฟเดอมิกของสังคมไทย ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 สสส. โดยเปิดเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022 Cofact Health Infodemics Trends 2022 โดย ChangeFusion เปิดเผยข่าวลวงที่พบได้ ดังนี้ 1.ข่าวลวงด้านสุขภาพยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นกระแสสังคม เช่น กัญชา วัคซีน 2.พื้นที่ข่าวลวงใน Social Media แบบเปิดสาธารณะมีแนวโน้มดีขึ้นบ้าง แต่มีแนวโน้มขยายและเพิ่มความลึกขึ้นในพื้นที่เทคโนโลยีแบบปิด เช่น กลุ่มเฉพาะที่ไม่เปิดสาธารณะและกลุ่มไลน์ ซึ่งยากต่อการเฝ้าระวังด้วยเครื่องมือ Social Listening 3.ผู้ริเริ่มเผยแพร่ข่าวลวงอาจแบ่งได้เป็นอย่างน้อย 5 กลุ่ม (BBC) แต่ละกลุ่มมีบทบาทแตกต่างไปในข่าวลวงแต่ละลักษณะ แบ่งเป็น Joker, Scammer, Politicians, Conspiracy theorist, Insider 4.ข่าวลวงที่ตอกย้ำอคติหรือความเชื่อ/การเมืองในสังคม มีผลมากทั้งในเชิงความเสี่ยงสุขภาพและความแตกแยกในสังคม เช่น เรื่องฝีดาษลิงกับรักร่วมเพศ วัคซีนกับประเด็นทางศาสนา 5.เนื้อหาของข่าวลวงมีความเป็นสากลมากขึ้น เชื่อมโยงข้ามประเทศมากขึ้น จากหลายเหตุปัจจัย และ 6.การแสวงหาความจริงร่วมมีความสำคัญต่อการสร้างภูมิทางสังคมร่วมกัน โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความซับซ้อน เช่น เรื่องข้าวหุงสุกแช่ตู้เย็นกับค่าน้ำตาลในเลือด นางญาณี รัชต์บริรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวว่า หากย้อนกลับไปปี 2563 เป็นช่วงที่โคแฟคและเครือข่ายภาคีก่อร่างสร้างตัว สอดรับกับสถานการณ์อินโฟเดอมิก การทะลักไหลบ่าของข้อมูลที่เป็นข่าวลวง จนผู้บริโภคไม่ทราบว่าข่าวไหนข่าวจริง เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงสำหรับสังคมไทย จากการสำรวจทั้งจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการสำรวจออนไลน์ของโคแฟค พบว่า สังคมไทยได้รับข่าวลวงมาตลอด ความสำคัญของการรับมือข่าวลือ จึงต้องเร่งพัฒนาคนในสังคมไทยให้เป็นพลเมืองดิจิทัลที่รู้เท่าทันสื่อ รู้จักที่จะรับมือและมีภูมิคุ้มกัน ตรวจสอบข้อมูลข่าวลือ คัดง้าง และสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง อีกทั้งไม่สื่อสารข้อมูลที่ยังไม่แน่ใจว่า เป็นข้อมูลที่ถูกหรือผิด ซึ่งจะมีเครื่องมือของโคแฟคที่จะมาช่วยตรวจสอบข้อมูล ควบคู่กับภารกิจของโคแฟคที่จะพัฒนา ทำความร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพสื่อ เพื่อยกระดับให้สื่อของประเทศไทยเป็นสื่อที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ สมกับเป็นประตูที่ตั้งรับข้อมูลในสังคม ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา โคแฟคทำความร่วมมือกับชุมชนต่าง ๆ สร้างชุมชนในการตรวจสอบข่าวลวง 7 พื้นที่ทุกภูมิภาค และทำความร่วมมือกับ 40 องค์กร มาร่วมปฏิญญาตรวจสอบ ป้องกันข่าวลวงในสังคมไทย และไปสู่ความร่วมมือในระดับนานาชาติ ขณะที่ นายสันติภาพ เพิ่มมงคลทรัพย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา แนวโน้มของข่าวปลอมนั้นมีคนเชื่อลดน้อยลง สิ่งสำคัญคือ การทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องข่าวปลอม สิ่งที่จะทำให้ข่าวปลอมหายไปหรือลดลงก็ต่อเมื่อได้รับความรู้ที่ถูกต้อง การแพร่กระจายจะสั้นลง แต่ปัจจุบันไม่ใช่แค่ข่าวปลอมที่ต้องกังวล ยังมีเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การซื้อขายออนไลน์ ที่ต้องระวังเช่นกัน ภกญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพิ่มเติมว่า ปัจจุบันข่าวปลอมที่พบมักจะครึ่งหนึ่งเป็นข่าวปลอม อีกครึ่งหนึ่งเป็นข้อเท็จจริง ในเรื่องสมุนไพรมีความซับซ้อนมากกว่ายาแผนปัจจุบัน ตัวสมุนไพรใช้น้อยเป็นอาหาร ใช้มากขึ้นก็เป็นยา บางครั้งการนำงานวิจัยไปจับทั้งหมดแล้วมาบอกว่าได้ไม่ได้ ก็ต้องมีการสื่อสารข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียด หากบอกว่าไม่ได้ เหมือนการผลักผู้ป่วยออกไปอยู่กับโฆษณาชวนเชื่อทันที เพราะผู้ป่วยอาจไปกินสิ่งที่โฆษณาแทน ซึ่งในบริบทของคนไทยนั้นไม่ค่อยเชื่อข้อมูล แต่เลือกเชื่อจากคนที่ให้ข้อมูลซึ่งตนเองเชื่อถือ ด้านนายเชลศ ธำรงฐิติกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ตำบลหนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เสริมว่า ผู้สูงวัยคือกลุ่มเป้าหมายที่ถูกหลอกลวงออนไลน์ โดยหลอกว่า ลูกหลานทำความผิดต้องเสียค่าปิดคดี หรือการส่งข้อมูลหลอกลวงผ่านไลน์ เช่น มะนาวโซดารักษามะเร็ง ซึ่งคนที่ส่งข้อมูลมักจะมีตำแหน่ง มาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ หรือการส่งข้อมูลมาทางเฟซบุ๊กและไลน์ ผู้สูงวัยบางคนก็จะนำมาเล่าต่อ ส่วนใหญ่มักจะถูกหลอกเรื่องเงิน เรื่องกฎหมาย ถ้าเด็กจะถูกหลอกเรื่องการลงทุน "ผู้สูงวัยที่มีปัญหานอนไม่หลับ ก็จะเชื่อข่าวลวงเรื่องของกัญชาว่า ให้ใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น แล้วจะนอนหลับดี ก็ไปหาจากลูกหลาน นำมาหยดเอง หยดไป 3 หยด จนต้องส่งโรงพยาบาล เพราะใช้เกินขนาด ขาดความรู้ สูตรที่บอกมาก็ไม่แน่นอน ร่างกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน หรือความเชื่อเรื่องน้ำใส่เกลือแช่เท้ารักษาเบาหวาน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อกันมา ข่าวต่าง ๆ สังคมชนบทจะนำมาพูดคุยกัน ก็จะเป็นการเริ่มต้นค้นหาความจริง ต้องสร้างเครื่องมือตรวจสอบข่าวลวงด้วยกัน ถ้าไม่รู้ก็ให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ลูกหลานช่วยกันค้นหาความจริง" นายเชลศ กล่าว นายสุชัย เจริญมุขยนันท Ubonconnect และเครือข่ายอีสานโคแฟค ยกตัวอย่างคุณแม่ทีมงานที่นำน้ำมันกัญชามาหยด จนต้องเข้าโรงพยาบาล กล่าวเสริมว่า คุณแม่ทีมงานนั้นไม่ได้เล่นไลน์ แต่เพื่อนแบ่งปันน้ำมันกัญชามาหยด จนต้องไปโรงพยาบาลเช่นกัน สิ่งสำคัญคือ ความเหลื่อมล้ำทางข้อมูลข่าวสาร อย่างคุณแม่คนนี้เชื่อว่า ข้อมูลที่ผ่านไลน์มา รัฐต้องกลั่นกรองแล้ว ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือ ความจริงไม่ได้มีหนึ่งเดียว มีความเห็นหลายด้าน หรือเรื่องข้าวหุงสุกแช่ตู้เย็นกับค่าน้ำตาลในเลือด จึงต้องพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้สังคมไทยเป็นสังคมละเอียดช้า รับข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ฟันธงเชื่อหรือไม่เชื่อเท่านั้น สังคมควรเป็นปัญญารวมหมู่ไม่ผูกขาดทางปัญญา กระจายอำนาจทางปัญญาไปสู่คนอื่น ๆยาสมุนไพรstd48013• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องเกี่ยวกับมือถือห้ามใช้ที่ไหนบ้าง โดย Dr.Ademola ............ @ อันตรายใกล้ตัว....อย่าประมาท @. ต้องบอกต่อเรื่องนี้ต้องช่วยกันแชร์. เพราะ นึกไม่ถึงจริงๆว่าที่ปั๊มน้ำมันเขา..ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ...แต่ในห้องครัว พบว่าแก๊สไวไฟ..ยิ่งกว่าน้ำมันอีก! ..ก็ต้องเชื่อ และทำตามด้วย @. รับสายก็ไม่ได้ เด็ดขาด...คุณเคยโทรศัพท์ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัวบ้างไหม. ตอบตนเองดู. และลองฟังเรื่องจริงนี้ @. ผู้เขียนเล่าเอง ดิฉันชื่อ..Dr.Ademola เมื่อ 3 วันก่อนสามีของดิฉันซึ่งเป็นหมอเหมือนกัน ได้เจอประสบการณ์เป็นเหตุการณ์ อันเศร้าสลด ของ คนไข้ 6 รายที่ถูกส่งมาที่ตึกอุบัติเหตุ เกี่ยวกับโดนไฟลวก ซึ่งพวกเขาได้ประสบมา ตอนกำลังโทรศัพท์ หรือรับโทรศัพท์ ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ซึ่งแม้แต่ไมโครเวฟ. หรือ induction stoves ก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน @บางคนทำอาหารทั้งๆที่โทรศัพท์ยังคาหูอยู่เลย! อันตรายสุดๆ!!...โปรดหยุดการใช้โทรศัพท์ มือถือในครัว...มันอันตราย..เหมือนกับโทรศัพท์ ในปั๊มน้ำมันจริงๆ .............. @ ย้ำอีกครั้ง....โปรดอย่าลืม 1. share เรื่องนี้ให้คนที่คุณรัก..และคนอื่นๆ รอบตัวคุณด้วย..ได้บุญและไม่เกิดความสูญเสีย 2.ถ้าจำเป็นรับสาย...เป็นเรื่องธุระด่วน จงเดินออกห่างจากแก๊ส อย่างน้อย สัก 10-12 ฟุตหรือ (2-5เมตร)ก่อน แล้วค่อยเปิด...โทรศัพท์ 3.จงจำไว้ว่า.. .."ความปลอดภัยของคุณ. เป็นความปลอดภัยของครอบครัว..และคนที่คุณรัก ของคุณเองเช่นกัน" .............. 4."ย้ำอีกครั้ง" ...อย่าโทร หรือ..รับโทรศัพท์ในครัว ขณะกำลังทำอาหาร "แก๊สจากถังแก๊ส....อันตรายสุดๆ ..ไม่ต่างจาก ปั๊มน้ำมัน ...ทั้งติดไฟไหม้....และระเบิดได้" .........ผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวดี! คน กทม. จากที่ หมอพร้อม ระบุให้ ผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี ต้องรอ วันที่ 19 กรกฎาคม จึงจะลงทะเบียน จองวัคซีนได้ คน กทม. ไม่ต้องรอ อีก 2 เดือนแล้วนะครับ ไปฉีด กัน เถอะ ****** กรุงเทพมหานคร ได้จัดให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของซิโนแวค (sinovac) ให้กับประชาชนอายุ 18-59 ปีที่สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 11 แห่ง ทั้งนี้ท่านที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถาม และขอรับบริการได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ( ตามรายชื่อโรงพยาบาลที่ทางกรุงเทพมหานคร กำหนดรายชื่อไว้ ดังนี้ ท่านที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดกับทางโรงพยาบาล ( ตามรายชื่อด้านล่างที่แจ้งนี้ ) เพื่อรับบัตรคิว เข้ารับบริการวัคซีนต้านโควิด -19 ค่ะ กำหนดรายชื่อไว้ ดังนี้ 1. โรงพยาบาลกลาง โทร 0-2220-8000 2. โรงพยาบาลตากสิน โทร 02-437-0123 3. โรงพยาบาลเจริญกรุง ประชารักษ์ โทร 02-289-7000 4. โรงพยาบาลลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โทร 0-2326-9995, 02-326-7711 5. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 0-2421-2222, 0-2444-0163 6. โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โทร 0-2988-4100-1 7. โรงพยาบาลคลองสามวา โทร 02-150-1300 8. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน โทร 02-405-0901-4 9. โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร โทร 021800201-3 10. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ซุตินธโร อุทิศ โทร 0-2429-3577-81 11. โรงพยาบาลสิรินธร โทร 02-328-6901-19 ประธาน อสส กทม.ขอแจ้งข่าว ให้ พี่น้อง อสส.กทม./และ อสม.ต่างจังหวัดทราบค่ะใครมีญาติที่มาพำนักย้ายทะเบียนราษฎร์ภูมิลำเนามาอยู่กรุงเทพฯก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วยค่ะแนะนำให้มาฉีควัคซีนวัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“มะเร็งลำไส้” มะเร็งอันดับ 3 ของไทย อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจก่อน รู้ก่อน ป้องกันได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย สำหรับประชาชนคนไทยทุกคนที่มีอายุ 50 – 70 ปี สามารถใช้สิทธิตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้จำนวน 1 ครั้งในทุกๆ 2 ปี ตรวจสอบสิทธิของตนเองได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง ฟังก์ชันกระเป๋าสุขภาพ เลือกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค หากตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง สิทธิบัตรทองจะครอบคลุมการดูแลรักษาทั้งหมด ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา ฮอร์โมน ข้อมูลเพิ่มเติม www.nhso.go.th/news/4407 สอบถามรายละเอียด สายด่วน สปสช. 1330มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเคสลวงโลกสื่อโซเชียลมีทั้งมุมดีๆและด้านที่แย่ๆ ปะปนกันไป...อยู่ที่ใครจะเลือกเสพให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ทั้งในแง่สาระความรู้ความบันเทิง หรือแม้แต่จิตอาสายังประโยชน์ ส่วนรวม!!โลกโซเชียลสามารถร้อยรัดความเป็นหนึ่งในด้านดี กระทั่งสร้างความแตกแยกให้เกิดในสังคม สุดแล้วแต่สำนึกความรับผิดชอบของแต่ละคนจะเลือกทางใด? สัก 3-4 วันก่อน มีเรื่องน่าคิดที่เกิดจากการสร้างกระแสในโลกโซเชียล นำพาไปสู่สิ่งที่คาดไม่ถึง ถึงขนาดหลอกลวงสังคมให้เกิดความไม่สบายใจแก่หลายฝ่ายมีมstd47990• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยาเพิ่มความสูงตัวช่วยเพิ่มความสูง #เน้นเพิ่มสูงบำรุงกระดูก -เพิ่มความสูง เพิ่มความแข็งแรง -แคลเซียมช่วยบำรุง ดูแลมวลกระดูก -ข้อต่อ ไขข้อ บำรุงให้กระดูกเเข็งแรง -ไม่ปวดเข่า ไม่ปวดข้อ - กระดูกแข็งแรง ส่วนสูงเพิ่มขึ้น 1 กระปุก 50 แคปซูล ปลอดภัย มีอย. 1310856550013 ‼️โปรเฉพาะ 88 ท่านแรกลดมากกว่า 50% จาก (ปกติราคา 590.-)‼️ 1 กระปุก ราคา 290.- ส่งฟรี 2 กระปุก ราคา 490.- ส่งฟรี 4 แถม 1 กระปุก ราคา 990.- ส่งฟรี 7 แถม 3 กระปุก ราคา 1,800.- ส่งฟรี #aikocalcium #calcium #แคลเซียมเร่งสูง #เพิ่มมวลกระดูก #อยากสูง #กระดูกเสื่อมstd48297• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง!ผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมอจุฬาฯ เตือน ดื่มน้ำเมา ลดประสิทธิภาพวัคซีนโควิด เสี่ยง เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ หมอจุฬาฯ เตือน ดื่มน้ำเมา ลดประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 เสี่ยง เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ ไม่กำจัดเชื้อโรค ติดเชื้อง่าย ปอดอักเสบรุนแรง ห่วงฉีดวัคซีนโควิดให้กลุ่มคนติดสุรา แนะ หยุดดื่ม 2-3 วันความสวยความงามมะเร็งลดความอ้วนยาสมุนไพรโควิด 2019วัคซีนโควิดอย. เพิกถอนภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยคนไม่ฉีดวัคซีนต่อไป จะทำอะไรจะกลายเป็นอุปสรรค กลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคม 1.ห้ามเข้าห้างฯ 2.ห้ามเข้าตลาด 3.ห้ามเข้าอาคารสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งชุมชน 4.ห้ามเข้าโรงแรม 5.ห้ามขับรถยนต์โดยสาร 6.ห้ามขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกประเภท 7.ห้ามขึ้นเครื่องบิน 8.ห้ามขึ้นรถโดยสาร 9.ห้ามเข้าวัด 10.ห้ามเข้าโรงเรียน 11.ห้ามเข้าปั้มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ร้านชา-กาแฟ 12.ห้ามเข้าโรงพยาบาล 13.ห้ามเข้าสนามไดร์กอล์ฟ และสนามกอล์ฟ ทุกสนาม ยกเว้นเข้าไปเพื่อฉีดวัคซีน ห้าม......ฯลฯ สรุป..ว่าจะกลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคมโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสรุป ประชุม บริษัท CPG การ์เม้นท์ -มีพนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว ประมาณ160คน น่าจะมีเพิ่มอีก ส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว(พม่า) -ยังไม่มีพื้นที่กักตัว -พนักงาน มีที่พักในซอย เพชรเกษม50/2,50/3,52 -พื้นที่เสี่ยง5ชุมชนและ โรงเรียนวัดจันทร์ฯ -เชื่อว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ตามโรงงานในเขตภาษีฯ -ขอ จนท.ตร.ช่วยตรวจสอบเพื่อไม่ให้ผู้ถูกกักตัวออกรอกพื้นที่ *พรุ่งนี้ 2 ก.พ.64 เวลา09.00น.จะมีรถตรวจเชื้อพระราชทาน มาตรวจเชื้อให้ ปช.ใน ซ.เพชรเกษม50/3 *วันพฤหัสบดี 4 ก.พ.64 เวลา 08.30 น.ที่วัดจันทร์ฯ รถตรวจเชื้อพระราชทาน มาตรวจเชื้อให้ ปช.ประมาณ500คนโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ เพื่อสุขภาพของคุณ ส่งต่อ WeChat นี้ให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุด!มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยระวัง โรคหอยคัน ระบาดไปทั่วพบมากในพื้นที่ จ. สงขลา จริงหรือนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา โพสต์เตือนผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ดำนาแล้วเกิดผื่นคันที่จะนะ กับภารกิจที่ต้องจับผู้ร้ายให้จงได้ ในเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีอุบัติการณ์พบคนไข้มีผื่นคันจำนวนมาก มีตุ่มแดงคันนูนอย่างน่ากลัว คันมากตามแขนขา พบว่ามีผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ 7 ตำบล คนไข้ทั้งหมดมีอาการผื่นคันหลังการดำนา โดยส่วนใหญ่คนไข้เริ่มคันหลังดำนาได้ 1-3 วันnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ จะมีการนำเอาสารสกัดฟ้าทะลายโจรมาวิจัยเพิ่มเติมใช้รักษาผู้ป่วยโควิดกรมการแพทย์แผนไทยฯ เดินหน้าวิจัยยาฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ทดลองในผู้ป่วย เริ่มทดลองจากขนาด 60 มก. วันละ 3 ครั้ง โดยผู้ติดเชื้อที่เข้าเกณฑ์การทดลองฟ้าทะลายโจร ต้องเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง มีอาการระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง คือ ไข้ ไอ ตัวร้อน ซึ่งปกติจะไม่ได้มีการให้ยาชนิดไหนอยู่แล้วยาสมุนไพรโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle5 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงดิจิทัล แจกฟรีเน็ตบ้าน แต่ฟรีเพียงแค่ 3 เดือน พร้อมติดตั้งให้ จริงหรือคะมีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง คนที่ยังไม่มี internet ใช้ที่บ้าน ทางกระทรวงดิจิทัลแจกฟรีเน็ตบ้านความเร็ว 100 เม็ก 3 เดือน พร้อมติดตั้งให้ แต่อีก 9 เดือนคิดค่าบริการในอัตรา 390 บาทต่อเดือน เพื่อสนับสนุนผู้ที่อาจจะต้องใน internet เพื่อทำงานอยู่บ้าน จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจากหมอ โสภณ เมฆธน อดีตปลัด สธ และผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ Covid-19: ความหวังและความยากลำบาก Update ข่าวดีและข่าวร้าย หลังผ่านไป 18 วัน จากนี้ไปข้างหน้าเราต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งใด และมองย้อนหลังไปเราทำกันมาได้ขนาดไหน ผมทำกราฟมาอธิบายให้ครับ ประเมินสถานการณ์ตัวเลข ณ วันนี้: 1. ข่าวดีสำคัญ สงกรานต์ที่เงียบมาก ทำให้เราสามารถช่วยกันหนี %Increase ระดับ 40% ของ British Variant มาได้แล้ว วันนี้ตัวเลขมาอยู่ที่ 15.26% และเริ่มเข้าสู่ Negative Exponential Curve ของกราฟ %Increase เราซื้อเวลาสำเร็จระดับนึง 2. ข่าวร้าย การผ่านตัวเลขระดับ 13,000 ที่ %Increase ระดับ 15.26% ถือว่าร้ายแรงมาก แทบไม่เคยมีประเทศใดจบที่ต่ำกว่าแสนและไม่มีประเทศใดที่เจอแบบนี้ครั้งแรกแล้วระบบสาธารณสุขไม่ล่มอย่างหนัก EURO5 โดนแบบนี้ไปเมื่อ Wave#1 เอาตัวไม่รอดทั้งที่เป็น Variant ที่รุนแรงน้อยกว่านี้ ดังนั้นอย่าไปเดินตามและทำตาม EURO5 ครับ 3. ตัวเลข 13,000 ใหญ่กว่าทั้ง Wave#2 ของไทยเราที่ตัดแรงงานต่างด้าวออกไปแล้วซึ่งแค่ 9,300 เท่านั้น โดย Wave#3 นี้แทบไม่มีตัวเลขจากแรงงานต่างด้าวเลย 4. ความหวังสำคัญ ผมมีข้อมูลพอทำกราฟของ Best Case Scenario ได้แล้ว กราฟบอกเราว่า ถ้าช่วยกันสู้เต็มที่ ยังสามารถต่ำกว่าแสนได้ครับ กราฟตัวเลขจริงเปรี่ยบเทียบ 3 Wave: ข่าวร้าย: เส้นสีแดงของ Wave#3 เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า หนักหนาสาหัสกว่า Wave 1 และ 2 แบบเทียบกันไม่ได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทีมงานสาธารณสุขของเราจึงทำงานหนักมากตอนนี้ และทำไมศบค.จึงต้องวางมาตรการที่เข้มข้นมาก ถึงแม้จะไม่สามารถ Lockdown ได้เพราะแรงกดดันรอบทิศก็ตาม และทุกคนควรตระหนักอย่างยิ่งและทำตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดครับ จากข้อมูล 17 วัน ผม Fine Tune พารามิเตอร์ต่างๆของกราฟใหม่ และมองไปข้างหน้า 1 เดือนได้ตามนี้ครับ กราฟ Total Case ประเมินไปข้างหน้า 1 เดือนครึ่ง: ข่าวร้าย: 1. ถึงจะทำดีที่สุดเต็มที่ ปลายเดือนเม.ย.ก็น่าจะถึง 35,000 คือจากนี้ไปอีก 13 วันเตรียมรับอีกอย่างน้อย ประมาณ 20,000 ครับ 2. ตัวเลข Daily New Case จะยืนอยู่ระดับ 1,600 - 1,800 ไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ 3. ตัวเลข Daily New Case จะอยู่ระดับ >1,000 ไปจนสิ้นเดือนเม.ย. เดือนพ.ค.เราจึงจะเริ่มเห็นระดับที่ต่ำกว่าพันอย่างมีนัยะสำคัญ 4. วันที่ 18 พ.ค. เปิดเทอมตัวเลขจะอยู่แถวๆ 44,000 และมี Daily New Case ประมาณ 215 จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ 5. วันที่ 31 พ.ค. ตัวเลขจะอยู่แถวๆ 45,500 และมี Daily New Case ประมาณ 48 จะใกล้จบถ้าไม่มีใครการ์ดตกยืนระยะไม่อยู่เสียก่อน 6. นี่คือ Best Case Scenario 7. แทบไม่เคยมีใครวิ่งตามเส้น Best Case Scenario นี้ได้ ยกเว้น จีน ออสเตรเลีย เกาหลี และประเทศไทยเราเองใน Wave#1 และ Wave #2 ช่วงเดือนม.ค. ข่าวดี: 1. อย่างน้อยวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ยังอยู่แถวๆ 15,000 ซึ่งต่ำกว่า 40,000 ซึ่งเป็น Worst Case มาก 2. ถ้าช่วยกันจะสามารถจบได้ภายใน 2 เดือนโดยอยู่แถว 45,000 ครับ 3. เราเคยวิ่งตาม Curve แบบนี้สำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ถ้าร่วมมือกันทำเต็มที่ครับ กราฟ %Increase ข่าวดี: %Increase ลดลงมาอยู่ที่ 15.26% แล้ว และลู่เข้าสู่กราฟ Negative Exponential ที่มี Time Constant 9.1 มาแล้ว 5 วัน ซึ่งหมายถึงเรากำลังเริ่มตั้งหลักได้และสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีครับ จากนี้ไปต้องรักษา Momentum ให้ได้ และอย่าให้การเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟนี้เด็ดขาด ข่าวร้าย: ไม่มีสำหรับกราฟนี้ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด "อย่าทำแบบ EURO5 โดยเฉพาะอังกฤษ ห้ามเอาพวกเขามาเป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาดครับ" สาเหตุครับ 1. พวกเขาทุกประเทศตายมาแล้วเป็นแสน ประเทศไหนยังไม่ถึงแสน เดี๋ยวก็จะถึงครับ 2. อัตราการตายของ EURO 5 อยู่ที่ 1.9 - 3.0% มากว่าเรากว่า 10 เท่า 3.อังกฤษอยู่ใน Lockdown รวมกัน 2 ครั้งกว่า 7 เดือน มากกว่าไทยเราที่อยู่ใน Full Lockdown 1.5 เดือน Semi Lockdown ประมาณ 1.5 เดือนเท่านั้น 4. เศรษฐกิจก็แย่กว่าเรา UK Annual GDP fell by 9.9% in 2020, the largest yearly fall on record 5. มีคนตายคาบ้านเยอะมากเพราะโรงพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ การรักษาตัวอยู่บ้านคือทางสุดท้ายเพราะจนแต้มนะครับ ไม่ใช่ทางเลือกที่ใครต้องการเลย แม้แต่ญี่ปุ่นก็ตายคาบ้านไปหลายศพเช่นกันครับ 6. อังกฤษไม่มีตัวเลขอะไรที่ดีกว่าเราเลยนะครับ ยกเว้นอัตราการฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจทุกฝ่ายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า 1. ช่วยกันรักษาปกป้องระบบสาธารณสุขของเรา นี่คือ 1st Priority ครับ กำลังใจของทีมงานสาธารณสุขสำคัญมาก ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมีโอกาสติดเชื้อและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อย่าโกหก Timeline อย่าปล่อยปละละเลยจนติดเชื้อมากเกินไปจนล้นร.พ. 2. ภาคเอกชนใหญ่ต้องช่วยกันสร้างรพ.สนามและ Hospitel อย่าให้ต้องรักษาตัวอยู่บ้านกัน เพราะเมื่อนั้นอัตราการตายจะพุ่งสูงทันที อย่าให้ได้มีใครต้องเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ทันถึงมือหมอเลยนะครับ 3. ต้อง Work from Home กันอย่างจริงจังมากๆ ใครทำได้ต้องทำ คนทำไม่ได้มีเยอะครับ เขาจะเสี่ยงน้อยลง ต้องช่วยกันรักษา Momentum ของเราไปอีก 1 - 2 เดือน ให้สำเร็จครับ 4. ป้องกันการติดเชื้อในภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ครับ โดยเฉพาะชลบุรี ระยอง 5. อย่าให้เกิด Cluster ตลาดและแรงงานต่างด้าวขึ้นมาซ้ำเติม เพราะเราไม่มีทรัพยากรจะไปปิดกรณีแบบนั้นอีกแล้ว 6. โรงเรียนจะเปิดเทอม 18 พ.ค. ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จให้ได้ เด็กรุ่นนี้เรียนออนไลน์กันมานานมากจนแย่แล้ว มันไม่ดีกับพวกเขาเลย อย่าให้อบายมุขและความละเลยเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องอดไปโรงเรียนอีกเลยนะครับ 7. ยึดกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี กลับคืนมาให้ได้ และต้องรักษาหัวเมืองใหญ่ โคราช ขอนแก่น อุบล อุดร นครศรี สุราษฎร์ สงขลา เอาไว้ให้สำเร็จครับ 8. ดีเดย์วันที่ 1 มิ.ย. วัคซีนต้องปูพรมครับ ไม่งั้นโดน Wave#4 แน่ ภาคเอกชนต้องช่วยกันเสริมทัพแล้วล่ะครับ ภาครัฐอย่างเดียวเอาไม่อยู่แน่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนจากนี้ไปอีก 1 เดือนคือการมีวินัยและดูแลตัวเอง อย่าป่วยไข้ อย่าขับรถเร็วประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ ระบบสาธารณสุขของเราคือด่านหน้าที่ตอนนี้ข้าศึกบุกมาเต็มกำลังจนยากแก่การรับมือแล้ว ขอเพียงพวกเรามีวินัย ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ มีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือ อยู่บ้านให้มากๆเข้าไว้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบุคลากรด่านหน้าและประเทศชาติได้มากแล้วครับ ช่วยกันครับ เรายังมีความหวังอยู่เสมอครับโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--start4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแพทย์ยัน! Cs-137 ถูกหลอม ไม่อันตรายเท่าที่คิด หวังสถานการณ์ไม่บานปลายผศ.ดร.กิติวัฒน์ คำวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ ยืนยัน Cs-137 ที่ถูกหลอมไม่อันตรายตามที่พูดกัน เหตุรังสีของแท่ง Cs-137 เหลือน้อย ห่วงแค่การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม หวังสถานการณ์ไม่บานปลาย ad จากกรณีมีการประกาศตามหาท่อขนาดใหญ่ที่มี “ซีเซียม-137” สารกัมมันตรังสีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากไม่ได้อยู่ในท่อ หรือถูกแกะออก ซึ่งหายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการเปิดเผยว่า ท่อสารซีเซียม-137 หายไปตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 แต่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเพิ่งทราบเรื่องและแจ้งให้หน่วยงานราชการทราบในวันที่ 10 มีนาคม 2566 จนนำไปสู่การประกาศตามหา ต่อมาผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีแถลงยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมในโรงงานพื้นที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นสั่งปิดพื้นที่-หยุดงานทันที เตรียมตรวจเลือดกลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kitawat Khamwan” หรือ ผศ.ดร.กิติวัฒน์ คำวัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์แท่งเหล็ก Cs-137 ที่ถูกหลอมจะอันตรายเพียงไหน หลังมีการแชร์ข้อความว่าสารอันตรายสามารถกระจายได้ถึง 1 พันกิโลเมตร โดยได้ระบุข้อความว่า “ขอให้คนในวงการรังสีได้มีโอกาสพูดบ้างนะครับ หากแท่งเหล็ก Cs-137 ที่หายไปถูกหลอมไปแล้วจะเป็นอย่างไร อันตรายมากน้อยแค่ใหน หลังจากที่มีการแถลงข่าวถึงสถานการณ์ Cs-137 ที่หายไป จนตอนนี้เริ่มพูดกันในวงกว้างและคนเริ่มกลัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ มีการแชร์ข้อมูลต่างๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก fake news ในโลกโซเชียล และจนถึงขั้นที่ว่าหากถูกหลอมไปแล้วจริงจะเกิดการฟุ้งกระจายไปในบรรยากาศปลิวไปไกลเป็นพันๆ กิโลฯ เป็นอันตรายต่อคนทั้งประเทศ จริงๆ แล้วก็คิดว่าคงไม่ขนาดนั้นนะครับ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการรังสี Napapong Pongnapang ก็ได้ออกมาพูดแล้วตามที่เห็นในสื่อต่างๆ ที่แชร์กันใน FB/tiktok หลายๆ ข่าวก็ดูจะเกินจริงไปหน่อย ทาง ปส.ก็ได้ทำการวัดรังสีรอบๆ พื้นที่ที่คาดว่าจะมีการปนเปื้อนรังสีก็วัดไม่ขึ้นครับ ในส่วนบริเวณพื้นผิวของถุงบิ๊กแบ็กเท่าที่ทราบคืออัตราปริมาณรังสีที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 3 ไมโครซีเวิร์ต/ชั่วโมง ซึ่งเมื่อยิ่งอยู่ห่างออกมาปริมาณรังสีจะยิ่งลดลงตามกฎกำลังสองผกผัน ส่วนเหตุการณ์โคบอลต์-60 ที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปี 2543 อันนั้นปริมาณรังสีสูงกว่าเหตุการณ์นี้เยอะมากๆๆ ประมาณ 10,000 เท่า เพราะเป็นที่ส่วนหัวที่ใช้สำหรับฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง ความแรงรังสีของ Cs-137 ที่เหลืออยู่ของแท่งนี้อยู่ที่ประมาณ 41 มิลลิคูรี เทียบเท่ากับปริมาณซีเซียม-137 0.00047185 กรัม โดยประมาณเท่านั้น ซึ่งแทบจะเทียบกันไม่ได้เลยกับ Cs-137 ปริมาณ 27 กก. จากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิล Cs-137 ถ้าถูกหลอมไปแล้วจริง คงจะต้องไปดูเรื่องของการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอันตรายแบบเฉียบพลันจากการรับปริมาณรังสีมากๆ ในครั้งเดียว หรือที่เรียกว่า “acute effect” ตามที่แชร์กันคงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ แต่อาจจะต้องติดตามดูผลระยะยาวเรื่องความเสี่ยงโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมไทรอยด์ของคนในพื้นที่ ซึ่งที่ต่างประเทศเมื่อเกิดเหตุลักษณะแบบนี้เขามีการติดตามดูผลระยะยาวไปถึง 20-30 ปีข้างหน้า เช่น เหตุการณ์อุบัติเหตุทางรังสี Cs-137 ที่เมืองโกยาเนีย ประเทศบราซิล ปี 1987 (บ้านเราก็น่าจะมีโมเดลนี้เช่นกันหรือเปล่า??) หากเกิดฟุ้งกระจายออกไปในชั้นบรรยากาศจริง ต้องเทียบปริมาณรังสีกับพื้นที่ชั้นบรรยากาศทั้งจังหวัด หรือรอบๆ แถวนั้นอย่างน้อยที่สุด ซึ่งความเข้มข้นของ Cs-137 ต่อตารางเมตรจะน้อยมาก ปริมาณรังสีอยู่ในระดับที่ต่ำมากจนเครื่องวัดรังสีอาจจะวัดไม่ขึ้น ไม่อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าร่างกายของคนเราเองก็มีความทนทานต่อรังสีในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกทีครับว่าระดับปริมาณรังสีเกินกว่าในชีวิตประจำวันหรือไม่ หากอ้างอิงตัวเลขจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency) ค่ารังสีส่วนเกินจากธรรมชาติที่คนทั่วไปควรได้รับไม่ควรจะเกิน 1 มิลลิซีเวิร์ต/ปี คนเราได้รับรังสีจากทางธรรมชาติทุกวัน เช่นรังสีคอสมิกจากนอกโลก รังสีเรดอนจากพื้นโลก อาคารที่พักอาศัย แม้แต่อาหารที่รับประทานเข้าไป ก็ยังมีโพแทสเซียม-40 ซึ่งเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต ธาตุนี้เป็นไอโซโทปรังสีที่ปลดปล่อยรังสีแกมมาและบีตา มีค่าครึ่งชีวิตยาวนานยิ่งกว่า Cs-137 และพบได้ในธรรมชาติ เช่น ในดินและพืช ซึ่งเราได้รับธาตุนี้จากการบริโภคอาหาร ซึ่งเราก็ยังสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ถ้าหากซีเซียม-137 ถูกหลอมและออกไปสู่สิ่งแวดล้อมจริงๆ คิดว่าคงไม่เกินค่าระดับรังสีพื้นหลัง เนื่องจากถูกเจือจาง (dilute) ไปในธรรมชาติจนอยู่ระดับที่ต่ำมาก ค่าเฉลี่ยระดับรังสีพื้นหลัง (background radiation) ทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 3 มิลลิซีเวิร์ต/ปี อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ถึงแม้ทาง ปส.ออกมายืนยันว่าไม่พบการปนเปื้อนของ Cs-137 ของคนในโรงงาน และค่าปริมาณรังสีที่วัดได้จากพื้นที่ชุมชนรอบๆ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย แทบจะไม่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สบายใจได้ 100% จึงควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่ประมาทแต่ก็ไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกจนเกินไป หวังว่าสถานการณ์จะไม่บานปลายเลวร้ายถึงขั้นประชาชนแห่กันไปซื้อพรัสเซียนบลู (Prussian blue) หรือไอโอดีนมากักตุนเพื่อเอาไว้กำจัดสารกัมมันตรังสี Cs-137 ออกจากร่างกายนะครับ เพราะ ณ ขณะนี้คงไม่มีความจำเป็นและรุนแรงถึงขนาดนั้น และขอร่วมเป็นกำลังใจให้คนในพื้นที่สามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีนะครับ ภาพตัวอย่างคือ Cs-137 ที่ใช้สำหรับการปรับเทียบเครื่องมือทางรังสี dose calibrator ในแผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวันครับ”std48462• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประกาศสำนักกระบี่เดียวดาย ท่านผู้ใดหรือญาติมิตรฉีดวัคซวยเกินเข็ม 3 ให้หารางจืดมาปั่นกับน้ำดื่มอาทิตย์ละสักถ้วย ดื่มให้ได้สัก 6 อาทิตย์ ก็จะมีความสวัสดี ไม่ต้องเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเส้นเลือด แข็งตัว เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือตายเอาดื้อๆ ท่านใดอยากทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ก็แค่ช่วยแชร์เท่านั้นแหละ Fb ไพศาล พืชมงคลสุขภาพวัคซีนโควิดยาสมุนไพร เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโลกใบนี้ มี193 ประเทศ มี10ประเทศ ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก พิจารณาจากค่าครองชีพ ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต ความสะดวกสบายในการคมนาคม อัธยาศัยไมตรีขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ เฟ้นหา 10 ประเทศ ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก https://youtu.be/WcnWHhvgr5Q 10.เดนมาร์ก 9. แคนาดา 8. ฟินแลนด์ 7. ญี่ปุ่น 6. เนเธอร์แลนด์ 5. ออสเตรเลีย 4. สิงคโปร์ 3. โปรตุเกส 2. นิวซีแลนด์ 1. ไทยแลนด์ (*)(two thumbs up) (*)ประเทศไทย ติดอันดับ1 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกข่าวการเมืองมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพายุเข้าไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่ ฝนตกหนักถึง 80%จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอพยากรณ์อากาศว่า พายุเข้าไทย 77 จังหวัด ฝนตกหนัก 80% ของพื้นที่ น้ำท่วมใหญ่ และลมแรงนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นข่าวปลอม เป็นข้อมูลที่มิได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีพายุเกิดขึ้นจริง กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันKaow Fang• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแจ้งข่าวล่าสุด ไทยเราอยู่ในคลื่นความร้อนเอเชียมหาโหด!นะครับแจ้งข่าวล่าสุด ไทยเราอยู่ในคลื่นความร้อนเอเชียมหาโหด!นะครับ ช่วงเดือนนี้และต่อไปอีก 3 สัปดาห์ ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ Monster Asian heatwave ความร้อนสูงสุดได้ถึง 50 องศา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทยมาก่อน เป็นเรื่องต้องระวังภัย 🔥🌍🌤️เคยได้ยินแต่ยุโรปโดนคลื่นความร้อน ตอนนี้เราจะโดนบ้างแล้ว เตรียมตัวให้ดีๆนะ ดื่มน้ำเยอะๆ เลี่ยงกิจกรรมกลางแดดสภาพอากาศMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยแสงสว่างจากจอ มือถือ ทำให้เด็กหญิง วัย 6 ขวบที่กำลังน่ารัก ต้องตาบอดทั้ง 2 ข้าง สูญเสียการมองเห็นไป ตลอดชีวิต เพราะผู้ปกครอง ปล่อยให้เด็กเล่นอยู่กับ มือถือวันละ 3-4 ชั่วโมง ติดต่อกันนาน ถ้าเห็นว่าคลิปนี้มี ประโยชน์ต่อเด็กๆ ช่วย แชร์ต่อๆกันไปด้วยครับผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคิด❓ก่อนคลิก📣คิด❓ก่อนคลิก 3 ทางรอด ป้องกันไม่ให้โดนดูดเงิน ล้วงข้อมูล จากแอปควบคุมมือถือ ที่ผู้เสียหายอาจเผลอคลิกลิงก์เปิดสิทธิให้มิจฉาชีพเข้ามาล้วงข้อมูล 📍มือถือเปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ของเรา ถ้าใครมาล้วงได้แล้ว เงินเราอาจหมดกระเป๋าไม่รู้ตัว แต่หากเผลอไผลคลิกลิงก์ หรือโดนหลอกไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านแอปและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการเงินทันที รวมถึงแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ และแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonlice.com โดยทันทีผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมทางหลวงชนบท จะเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลกรมทางหลวงชนบท จะเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่อยู่ในความดูแล จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ - สะพานพระราม 3 - สะพานพระราม 4 - สะพานพระราม 5 - สะพานพระราม 7 - สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ - สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า - สะพานพระพุทธยอดฟ้า - สะพานพระปกเกล้า - สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช - สะพานกรุงธน - สะพานกรุงเทพ - สะพานภูมิพล 1 - สะพานภูมิพล 2 โดยจะทำการเปิดไฟประดับ ระหว่างเวลา 19.00 น. - 22.00 น. และในคืนวันที่ 12 สิงหาคม 2565 จะทำการเปิดไฟระหว่างเวลา 19.00 น. - 24.00 น.Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยองค์การอนามัยโลกรายงานตอนนี้ไทยเป็นมะเร็งเบอร์ 1 ของเอเชียแล้วช็อค!!! ไทยได้เป็นอันดับที่ 1 แล้ว อัตราส่วน1 คนจาก 8 คน สาเหตุเกิดจาก 1. กินเนื้อสัตว์ย่าง 2. กินอาหารกะทิค้างคืน 3. กินกล้วยแขกปาท่องโก๋ขนมครก 4. กินผัดผักค้างคืน 5. ใช้กล่องโฟมใส่อาหาร สัมผัสสารก่อมะเร็งจากกล่องโฟม กรุณาส่งต่อเป็นธรรมทานมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ