1434 ข้อความ
- 1 คนสงสัยคีโม คือธุรกิจเลือดเย็น ของโรงพยาบาล แบบเจ้ามือหวย คนเล่นเสีย เจ้ามือรวย มะเร็งไม่ได้พรากใครไป คีโมต่างหากคีโม คือธุรกิจเลือดเย็น ของโรงพยาบาล แบบเจ้ามือหวย คนเล่นเสีย เจ้ามือรวย มะเร็งไม่ได้พรากใครไป คีโมต่างหาก โปรดอ่าน สำคัญมาก ดร. รุ่ง จาก รพ. จุฬา บทความนี้ น่าสนใจมาก Shafin de Zane presents: What is Cancer? นี่คือ สิ่งที่คุณไม่เคยคาดคิด มาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ (Cancer is Natural) มะเร็ง คือ ธรรมชาติ ของการปรับตัว ของเซลล์ อันเนื่องมาจาก การที่เลือดของเรา กลายเป็นพิษ เกินกว่าที่ เซลล์จะมีชีวิต ต่อไปได้ ถ้าหากเซลล์เหล่านั้น ไม่ปรับตัว เซลล์เหล่านั้น จะป่วย และตาย เซลล์เหล่านั้น จึงตอบสนอง อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการผ่าเหล่า เพราะเซลล์ ในร่างกายมนุษย์ มีความสามารถ ที่จะปรับตัว เพื่อรับมือกับ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัวของเซลล์ จึงเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เป็นที่น่าเสียดายว่า คุณหมอทั่วโลก บอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย -คีโม หรือ การทำลาย เซลล์มะเร็ง ด้วยรังสี แต่สิ่งที่คุณหมอ ไม่ได้บอกเราคือ ทำไมเซลล์มะเร็ง จึงผ่าเหล่าตั้งแต่แรก? อย่างไรก็ตาม - เมื่อสภาพแวดล้อม เปลี่ยนไป เซลล์อีกจำนวนมาก ก็จะผ่าเหล่า ต่อไปอีก -ไม่เร็วก็ช้า นั่นเป็นสาเหตุ ที่เราพบเห็น ผู้ป่วยมะเร็ง ถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุดลงไปใหม่อีก จากมุมมองของเซลล์ หากมันไม่ผ่าเหล่า มันจะต้องตาย การผ่าเหล่าของเซลล์ จึงเป็นธรรมชาติ มะเร็งแท้จริงแล้ว คือ วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ ที่พยายาม รอดตาย จากสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้น ลงเอยด้วยการ - ฆ่าร่างกาย แต่นั้น ไม่ใช่ประเด็นที่แท้จริง มะเร็ง คือ วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ ที่พยายาม จะรอดตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษอย่างสูง เราต้องพยายาม ทำความเข้าใจ ในประเด็นนี้ให้ชัดเจน การพยายามฆ่า เซลล์เหล่านั้น -โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อม เปรียบได้กับ การฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายาม เอาขยะออกไป เอาละ คุณจะลงมืออย่างฉับพลัน - เพื่อปรับปรุง สภาพแวดล้อม ของคุณ อย่างรวดเร็ว ได้อย่างไร มีวิธีการง่ายๆ ด้วยกัน 3 วิธี คือ : 👉วิธีที่ 1. หายใจลึกๆ - หายใจลึกๆ สิ่งแรกที่กระตุ้น ให้เซลล์ผ่าเหล่า และ กลายเป็นเซลล์มะเร็ง คือ การขาดออกซิเจน เซลล์มะเร็ง ปรับตัวเพื่อรอดชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ ยิ่งมีออกซิเจนต่ำเท่าไร เซลล์มะเร็ง ก็ยิ่งเติบโต ได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะนี่คือ วิวัฒนาการของเซลล์ ที่ปกติต้องการ จะรอดชีวิตอยู่ได้ ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับออกซิเจนต่ำ - วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ ซึ่งเป็นการ ออกกำลังง่ายๆ ที่ทำได้ทุกเช้า เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจน ให้กับเลือด -- เดิน 5 นาที แล้วหายใจแบบนี้ คือ - หายใจเข้า 4ครั้ง ติดกัน กลั้นหายใจ แล้วนับ 1 ถึง4 - หายใจออกช้าๆ 4 ครั้ง ติดกัน ทำอย่างนี้ครับ >>>> 1-2-3-4 <<<< ทำอีกครั้งครับ >>>> 1-2-3-4 <<<< ผมหายใจเข้าทางจมูก >>>> กลั้นใจ แล้วนับ 1-2-3-4 หายใจออกทางปาก <<<< หายใจเข้าไปในท้อง ไม่ใช่หายใจ เข้าไปในอก นี่คือวิธีการหายใจ ที่ถูกต้อง ถ้าหากไม่มีที่เดิน ให้เดิน ในห้องนอนของคุณ เพราะมันมีที่พอ สำหรับการออกกำลัง ของเราทุกวิธี 👉วิธีที่ 2 หยุดรับประทาน -กรด สิ่งที่สอง ที่มากระตุ้นเซลล์ ให้ผ่าเหล่า กลายเป็นเซลล์มะเร็ง คือ สภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด เพราะนั่นคือ การตอบสนอง ที่จะทำให้ เซลล์รอดชีวิตได้ ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เซลล์ที่ผ่าเหล่า จะตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นด่าง และเติบโต ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด คุณจะทำให้ร่างกายของคุณ เป็นด่างได้ ก็ด้วยการ รับประทานอาหาร ที่เป็นด่าง มากขึ้น - น้ำผัก น้ำผลไม้สด มีประสิทธิภาพ สูงมาก - งดน้ำตาล โคคา-โคล่า เปปซี่ และ น้ำอัดลมทุกชนิด กาแฟ เนื้อสัตว์ นม บุหรี่ และ แอลกอฮอล์ - รับประทานผักสดสีเขียว ผลไม้สด น้ำด่าง และ น้ำมะพร้าว หากคุณต้องการเห็น การเปลี่ยนแปลง ของสุขภาพ อย่างน่าอัศจรรย์ ในระยะเวลาอันสั้น ดื่มน้ำผักสดปั่น ทุกเช้า โดยไม่ต้อง รับประทานอะไรอีกเลย จนกว่าจะถึง มื้อเที่ยง -นำผักใบเขียว หลากชนิด มะเขือเทศ แตงกวา ปั่นกับน้ำสะอาด แล้วดื่ม คุณอาจจะคิดว่า มันไม่น่าดื่มเลย แต่มันไม่เลวร้าย และออกจะอร่อย ด้วยซ้ำไป เมื่อคุณคุ้นเคยกับมัน 👉วิธีที่ 3 ดูแลร่างกายของคุณ ความเครียด ทำให้ ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเครียด คือ ฆาตกรเบอร์หนึ่ง และเป็นต้นเหตุ ที่ก่อให้เกิดโรค -ทุกโรค ความเครียด เพิ่มกรด และ ส่งผลกระทบ ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ในร่างกาย มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่เราจะต้อง ทำจิตใจ ให้แข็งแรง เบิกบานอยู่เสมอ คุณจะทำเช่นนั้น ได้อย่างไร ? - ทำสมาธิ ดูหนังตลก ละเว้นจากการดู ข่าวร้าย และ เรื่องเลวร้าย อ่านหนังสือดีๆ ที่ทำให้เกิด แรงบันดาลใจ หาสัตว์มาเลี้ยง พบเพื่อนใหม่ๆ สัมพันธภาพใหม่ๆ ปลดความทุกข์ ความสลดใจเก่าๆ และสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว แชร์ข้อมูลนี้ ให้กับผู้อื่นต่อไป ให้มากที่สุด ที่คุณจะทำได้ ความเจ็บปวด และ ความเสียหาย ที่เกิดจากการ บำบัดด้วยคีโม เลยเถิดไปอย่าง เหนือคำบรรยาย ช่วยให้ผู้อื่น ตื่นจากฝันร้าย ที่เกิดจากโฆษณาชวนเชื่อ ของผู้ผลิตยา กันเสียที การป้องกัน และ รักษาตนเอง ให้หายจากมะเร็ง เป็นสิ่งที่ง่ายดาย เสียจนแทบจะเป็นเรื่องตลก อย่างเหลือเชื่อ ใช้ความคิด ให้ถูกต้อง จงเปลี่ยนน้ำในบ่อปลา เมื่อปลาป่วย เพราะการทำลายบ่อปลา ไม่ใช่ทางออก ที่ถูกต้อง มาช่วยกัน ทำให้โลกของเรา ในวันนี้- น่าอยู่ขึ้น ดร.ชนิสา อรรถจินดา Chanisa Arthachinda, Ph.D., ดร.รุ่ง รพ.จุฬา (*)(*)มะเร็ง เสียดสีMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย*** สมุนไพร 3 แม่ทัพต้านไวรัสโควิด-19 *** . เมื่อสาย ๆของวันนี้ ดิฉันได้คุยกับพี่ชายที่รัก คนทำงานด้วยกันที่มูลนิธิข้าวขวัญ . ประโยคแรกที่พี่ชายพูดกับดิฉันก็คือ "เอียด พี่กับเพื่อนพี่ คนไทยในอเมริกา ต้องขอบคุณเอียดมากนะ สูตรน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพ ที่เอียดบอกมา ช่วยคนไทยในอเมริกาได้มาก เพื่อนพี่อยู่ที่เท็กซัส กับแคลิฟอร์เนีย ศูนย์กลางการระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 เขากินน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพแล้วได้ผลดีมาก เพื่อนที่ป่วยติดไวรัสโควิด-19 ไปโรงพยาบาล หมอให้กลับมาอยู่บ้าน เขาป่วยหนัก ก่อนนี้พี่ส่งขมิ้นชันผง หอมแดง กระเทียมไปให้เขาทาง DHL เขาเอาต้มน้ำสมุนไพร 3 แม่ทัพกิน 4-5 วันเขาดีขึ้น ชุ่มคอ หายใจสะดวก เขาดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่กี่วันก็หายป่วย ตอนนี้หายสนิทแล้ว ส่วนอีกคน พี่ส่งขมิ้นชัน หอมแดง กระเทียม จากเมืองไทยไปให้เขาทาง DHL เพื่อนใช้กินป้องกัน ใช้กันทั้งครอบครัว แล้วเขาก็ใช้แมสก์ด้วยนะ เพื่อนๆคนไทยเราแข็งแรงดี เมื่อเช้าคุยวิดีโอคอลกัน เสียดายไม่ได้อัดเทปไว้ แต่ตอนนี้สูตรน้ำมัน 3 แม่ทัพที่เอียดให้มา กลุ่มเพื่อนคนไทยในเท็กซัส แคลิฟอร์เนีย ใช้กันมาก แล้วได้ผลดีจริงๆ หายป่วยจากไวรัสโควิด ได้จริงๆ ตอนแรกพี่ก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก พวกเรื่องต่างๆที่เทพบอกมา แต่ตอนนี้พี่เชื่อแล้ว เพราะเพื่อนๆใช้ได้จริง หายป่วยได้จริง ขอบคุณเอียดมากๆเลยนะ” . ดิฉันฟังพี่ชายพูดแล้วน้ำตาจะไหล ดิฉันมั่นใจ สูตรชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ต้องใช้ได้ผลแน่ เทพบอกมาเอง ถามท่านปุ๊บ ก็มีเสียงบอกมาเลย และดิฉันก็มอบสูตรนี้ให้ทีมพี่เดชา ไปเผยแพร่ต่อ บัดนี้ชาสมุนไพร 3 แม่ทัพสามารถช่วยชีวิตคนไทยที่เผชิญโรคระบาดไวรัสโควิดในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนียได้จริงๆ ข่าวที่รับทราบมาเมื่อเช้านี้ ทำให้ดิฉันไปค้นข้อมูลเก่าเรื่องชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ที่เคยเผยแพร่ไว้เมื่อปลายเดือน มีนาคม 2563 ในช่วงไวรัสโควิด19 ระบาดหนักครั้งก่อน เพื่อมาฝากเพื่อนๆและพี่น้องคนไทย ไว้ใช้ป้องกันตัวเอง รักษาอาการป่วยไข้ โดยมีเนื้อหารายละเอียดของสูตรยาสมุนไพร 3 แม่ทัพ ดังนี้ . . “ในขณะที่ครุ่นคิดพิจารณาหนทางที่จะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดให้ลดลง อาจารย์เดชา ศิริภัทร ได้รับข้อมูลว่าให้นำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด คือ ขมิ้นชัน หอมแดง กระเทียม มาปรุงเป็นยา เพื่อช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จากการค้นคว้าสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดพบว่า มีความเป็นไปได้สูงในการใช้บำรุงสุขภาพเพื่อต้านไวรัส จึงทดลองปรุงสมุนไพรตามสูตร แล้วรับประทานเองก่อนแจกจ่ายให้คนใกล้ชิดได้ทดลอง โดยหวังว่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสนี้ สำหรับสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้คือ ขมิ้นชัน เสมอด้วยแม่ทัพใหญ่ มีฤทธิ์ช่วยสร้างลิมโฟไซท์ ซึ่งเป็นเม็ดโลหิตขาวสำคัญในระบบน้ำเหลืองที่ต้านเชื้อไวรัส และช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง ช่วยรักษาอาการอักเสบของปอดไม่อันตรายต่อตับ เนื่องจากขมิ้นชันเป็นเครื่องเทศที่ถูกใช้เป็นอาหารของคนเอเชียมาหลายพันปี มีสารเคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ฤทธิ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ในการป้องกันการถูกทำลายจากปอดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดจากหลอดลม เนื้อปอดและหลอดเลือดปอด นอกจากนี้มีข้อมูลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคแกงที่มีขมันชันเป็นส่วนประกอบกับการทำงานของปอดในประชากรผู้สูงวัยชาวจีนจำนวน 2,478 คนอายุ 55 ปีขึ้นไป ผลการศึกษาพบว่า การบริโภคแกงที่มีขมิ้นชัน อย่างน้อยเดือนละครั้ง ทำให้สมรรถภาพปอดดีขี้น กระเทียม เสมอขุนพลหลักด้านขวา น้ำมันหอมระเหยในกระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อช่วยขยายทางเดินหายใจ และเพิ่มภูมิต้านทาน ส่วนหอมแดง เสมอขุนพลหลักด้านซ้าย ในการแก้อักเสบ รักษาหวัด และระบบทางเดินหายใจ เมื่อนำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้มารวมกัน จะช่วยหนุนเสริมพลังของแต่ละตัวให้แข็งแรงขึ้นมาก โดยมีสูตรการปรุง 2 สูตรคือ สูตรที่ 1 น้ำมัน 3 แม่ทัพต้านไวรัส 1.ขมิ้นชัน 2 ขีด 2.หอมแดง 2 ขีด 3.กระเทียม 2 ขีด 4.น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ลิตร วิธีทำ 1.หั่นวัตถุดิบเป็นชิ้นบางๆ 2.ทอดในน้ำมันมะพร้าวที่เตรียมไว้ในอุณหภูมิประมาณ120 องศาเซลเซียส จนน้ำในวัตถุดิบแห้ง 3.กรองด้วยผ้าขาวบาง 4.บรรจุแคปซูล ๆละ 15 หยด วิธีใช้ กินมื้อเช้า 2 แคปซูลและ มื้อเย็น 2 แคปซูล สูตรที่ 2 'ชาสมุนไพร' 3 แม่ทัพต้านไวรัส 1.ขมิ้นชัน ครึ่งขีด 2.หอมแดง ครึ่งขีด 3.กระเทียม ครึ่งขีด 4.น้ำ 1.5 ลิตร วิธิทำ 1. ต้มน้ำให้เดือด 2. ทุบวัตถุดิบสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดพอแตก ลงไปในหม้อ 3. หรี่ไฟให้อ่อนๆต้มไว้นานประมาณ 30 นาที วิธีใช้ กินวันละประมาณ 2 แก้วขณะน้ำยังร้อนๆ หรืออุ่นมาก จิบได้เรื่อยๆ หรือจะดื่มทีเดียวหมดก็ได้ (ถ้าดื่มมากกว่า 2 แก้วจะปัสสาวะมาก) รสชา 3 แม่ทัพจะหอมนุ่มนวล ถ้าไม่คุ้นลิ้น เติมน้ำผึ้งลงไป จะดื่มได้สดชื่นมาก ดื่มชาสมุนไพร 3 แม่ทัพ แล้ว เพียงไม่กี่นาที จะรู้สึกโล่งจมูก หายใจได้ลึกสุด และสบายท้อง ดีกับระบบลมในร่างกาย . "ดื่มชาและกินน้ำมัน 3 แม่ทัพสมุนไพรต้านไวรัสนี้แล้ว ขอให้อุทิศกุศลและภาวนาเมตตาธรรมให้กับไวรัสโควิด 19 และเจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วยนะ"ยาสมุนไพรโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยคีโม คือธุรกิจเลือดเย็นของโรงพยาบาลแบบเจ้ามือหวย คนเล่นเสีย เจ้ามือรวย มะเร็งไม่ได้พรากใครไป คีโมต่างหาก โปรดอ่าน สำคัญมาก (Doctor)ดร. รุ่ง จาก รพ. จุฬา บทความนี้ น่าสนใจมาก Shafin de Zane presents: What is Cancer? นี่คือ สิ่งที่คุณ ไม่เคยคาดคิด มาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ (Cancer is Natural) มะเร็ง คือ ธรรมชาติ ของการปรับตัว ของเซลล์ อันเนื่องมาจาก การที่เลือดของเรา กลายเป็นพิษ เกินกว่าที่ เซลล์จะมีชีวิต ต่อไปได้ ถ้าหาก เซลล์เหล่านั้น ไม่ปรับตัว เซลล์เหล่านั้น จะป่วย และตาย เซลล์เหล่านั้น จึงตอบสนอง อย่างเป็น ธรรมชาติ ด้วยการผ่าเหล่า เพราะเซลล์ ในร่างกายมนุษย์ มีความสามารถ ที่จะปรับตัว เพื่อรับมือกับ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว ของเซลล์ จึงเป็นสิ่ง ที่เป็นธรรมชาติ เป็นที่ น่าเสียดายว่า คุณหมอทั่วโลก บอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย-คีโม หรือ การทำลาย เซลล์มะเร็ง ด้วยรังสี แต่สิ่งที่คุณหมอ ไม่ได้บอกเราคือ ทำไมเซลล์มะเร็ง จึงผ่าเหล่า ตั้งแต่แรก? อย่างไรก็ตาม- เมื่อสภาพแวดล้อม เปลี่ยนไป เซลล์อีกจำนวนมาก ก็จะผ่าเหล่า- ต่อไปอีก-ไม่เร็วก็ช้า นั่นเป็นสาเหตุ ที่เราพบเห็น ผู้ป่วยมะเร็ง ถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุด ลงไปใหม่อีก จากมุมมอง ของเซลล์ หากมัน ไม่ผ่าเหล่า-มันจะต้องตาย การผ่าเหล่า ของเซลล์ จึงเป็นธรรมชาติ มะเร็งแท้จริงแล้ว คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายามรอดตาย จากสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้น ลงเอยด้วยการ- ฆ่าร่างกาย แต่นั้น ไม่ใช่ประเด็น ที่แท้จริง มะเร็ง คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายาม จะรอดตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษอย่างสูง เราต้องพยายาม ทำความเข้าใจ ในประเด็นนี้ ให้ชัดเจน การพยายามฆ่า เซลล์เหล่านั้น -โดย ไม่ได้เปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อม เปรียบได้กับ การฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายาม เอาขยะออกไป เอาละ คุณจะลงมือ อย่างฉับพลัน- เพื่อปรับปรุง สภาพแวดล้อม ของคุณ อย่างรวดเร็ว ได้อย่างไร มีวิธีการง่ายๆ ด้วยกัน 3 วิธีคือ: 👉วิธีที่ 1. หายใจลึกๆ - หายใจลึกๆ สิ่งแรกที่กระตุ้น ให้เซลล์ผ่าเหล่า และ กลายเป็น เซลล์มะเร็ง คือ การขาดออกซิเจน เซลล์มะเร็ง ปรับตัวเพื่อรอดชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ ยิ่งมีออกซิเจน ต่ำเท่าไร เซลล์มะเร็ง ก็ยิ่งเติบโต ได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะนี่คือ วิวัฒนาการ ของเซลล์ ที่ปกติต้องการ จะรอดชีวิต อยู่ได้ ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ - วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ ซึ่งเป็นการ ออกกำลังง่ายๆ ที่ทำได้ทุกเช้า เพื่อเพิ่ม ระดับออกซิเจน ให้กับเลือด -- เดิน 5 นาที แล้วหายใจแบบนี้ คือ - หายใจเข้า 4ครั้ง ติดกัน กลั้นหายใจแล้วนับ 1 ถึง4 - หายใจออกช้าๆ 4 ครั้ง ติดกัน ทำอย่างนี้ครับ >>>> 1-2-3-4 <<<< ทำอีกครั้งครับ >>>> 1-2-3-4 <<<< ผมหายใจเข้าทางจมูก >>>> กลั้นใจแล้วนับ 1-2-3-4 หายใจออกทางปาก <<<< หายใจ เข้าไปในท้อง ไม่ใช่หายใจ เข้าไปในอก นี่คือวิธีการหายใจ ที่ถูกต้อง ถ้าหากไม่มีที่เดิน ให้เดิน ในห้องนอน ของคุณ เพราะมันมีที่ พอสำหรับ การออกกำลัง ของเราทุกวิธี 👉วิธีที่ 2 หยุดรับประทาน -กรด สิ่งที่สอง ที่มากระตุ้นเซลล์ ให้ผ่าเหล่า กลายเป็น เซลล์มะเร็ง คือ สภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด เพราะนั่นคือ การตอบสนอง ที่จะทำให้ เซลล์รอดชีวิตได้ ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด เซลล์ที่ผ่าเหล่า จะตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นด่าง และเติบโต ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรด คุณจะทำ ให้ร่างกายของคุณ เป็นด่างได้ ก็ด้วยการ รับประทาน อาหารที่เป็นด่าง มากขึ้น - น้ำผัก น้ำผลไม้สด มีประสิทธิภาพ สูงมาก - งดน้ำตาล โคคา-โคล่า เปปซึ่ และ น้ำอัดลมทุกชนิด กาแฟ เนื้อสัตว์ นม บุหรี่ และ แอลกอฮอล์ - รับประทาน ผักสดสีเขียว ผลไม้สด น้ำด่าง และ น้ำมะพร้าว หากคุณ ต้องการเห็น การเปลี่ยนแปลง ของสุขภาพ อย่างน่าอัศจรรย์ ในระยะเวลาอันสั้น ดื่มน้ำผักสดปั่น ทุกเช้า โดยไม่ต้อง รับประทาน อะไรอีกเลย จนกว่าจะถึง มื้อเที่ยง -นำผักใบเขียว หลากชนิด มะเขือเทศ แตงกวา ปั่นกับน้ำสะอาด แล้วดื่ม คุณอาจจะคิดว่า มันไม่น่าดื่มเลย แต่มันไม่เลวร้าย และออกจะอร่อย ด้วยซ้ำไป เมื่อคุณ คุ้นเคยกับมัน 👉วิธีที่ 3 ดูแลร่างกายของคุณ ความเครียด ทำให้ ระบบภูมิคุ้มกัน อ่อนแอ ความเครียด คือ ฆาตกรเบอร์หนึ่ง และเป็นต้นเหตุ ที่ก่อให้เกิดโรค -ทุกโรค ความเครียด เพิ่มกรด และ ส่งผลกระทบ ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ในร่างกาย มันจึงเป็นสิ่ง ที่สำคัญมาก ที่เราจะต้อง ทำจิตใจ ให้แข็งแรง เบิกบานอยู่เสมอ คุณจะทำเช่นนั้น ได้อย่างไร ? - ทำสมาธิ ดูหนังตลก ละเว้นจากการดู ข่าวร้าย และ เรื่องเลวร้าย อ่านหนังสือดีๆ ที่ทำให้เกิด แรงบันดาลใจ หาสัตว์มาเลี้ยง พบเพื่อนใหม่ๆ สัมพันธภาพใหม่ๆ ปลดความทุกข์ ความสลดใจเก่าๆ และสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว (ประกาศ)แชร์ข้อมูลนี้ ให้กับผู้อื่นต่อไป ให้มากที่สุด ที่คุณจะทำได้ ความเจ็บปวด และ ความเสียหาย ที่เกิดจากการ บำบัดด้วยคีโม เลยเถิดไปอย่าง เหนือคำบรรยาย ช่วยให้ผู้อื่น ตื่นจากฝันร้าย ที่เกิดจาก โฆษณาชวนเชื่อ ของผู้ผลิตยา กันเสียที การป้องกัน และ รักษาตนเอง ให้หายจากมะเร็ง เป็นสิ่งที่ง่ายดาย เสียจนแทบ จะเป็นเรื่องตลก อย่างเหลือเชื่อ ใช้ความคิด ให้ถูกต้อง จงเปลี่ยนน้ำ ในบ่อปลา เมื่อปลาป่วย เพราะ การทำลายบ่อปลา ไม่ใช่ทางออก ที่ถูกต้อง มาช่วยกัน ทำให้โลกของเรา ในวันนี้- น่าอยู่ขึ้น (หมอ)ดร.ชนิสา อรรถจินดา Chanisa Arthachinda, Ph.D., ดร.รุ่ง รพ.จุฬา (*)(*)(*)(*)มะเร็ง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์สธ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย 20 หน่วยงาน เดินหน้ารณรงค์ “วันมะเร็งโลก” ภายใต้แนวคิด ปี 2566 “Uniting our voices and taking action ชวนให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็ง หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง เนื่องในวันมะเร็งโลก หากวินิจฉัยเร็ว รักษาไว เพิ่มโอกาสรอดชีวิต มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ด้านนายแพทย์ธงชัย เพิ่มเติมว่า การที่ประชาชนใช้โซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ทำให้พบว่า มีการแชร์ข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็งจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยที่หลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าวเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด ได้รับการรักษาที่เหมาะสมล่าช้า ขาดโอกาสที่จะหายขาด และอาจซ้ำเติมให้โรคมะเร็งที่เป็นอยู่รุนแรงมากขึ้น ที่ผ่านมา แม้จะมีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เพื่อตรวจสอบและให้ข้อมูลข้อเท็จจริง แต่การแชร์ข้อมูลเท็จด้านนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมและประชาชนในการสร้างความตระหนักและหยุดยั้งการแชร์ข้อมูลเท็จต่าง ๆสุขภาพมะเร็งsts46429• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุดทึ่ง ใบมะยม ทำให้หน้าขาว รุจิ นวัตกรรมความงามตั้งแต่ยุคกรุงศรีสุดทึ่ง ใบมะยม นำมาสกัด เป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิวได้ ด้วยภูมิปัญญาคนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรี หลายคนคงสงสัยว่าสาวๆสมัย100 ปีที่แล้ว ใช้อะไรถึงได้หน้าขาวไร้สิว ซึ่งก็อาจมีสมุนไพรต่างๆ ที่เราพอทราบ ตั้งแต่ขมิ้นชันนำมาบด มะขามเปียก ตลอดจนแป้งดินสอพอง แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึง และแทบจะมีปลูกอยู่ทุกบ้านคือต้นมะยม คือนำใบมะยมมาบดให้เป็นน้ำแล้วนำมาพอกหน้า จะทำให้ผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งนักวิจัยหลายท่าน ยังเผยอีกว่า ใบมะยม มีสารต้านเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดอาการผิวอักเสบ โรคผิวหนังต่างๆ รวมถึงฝีหนอง ใบมะยมยังให้วิตามินซีสูง ช่วยในเรื่องขาวกระจ่างใส ไม่แปลกเลย ทำไมชาวบ้านสมัยก่อนถึงนิยมปลูกมะยมไว้กินกันทุกบ้าน อีกทั้งยังนำใบมะยม นำมาบดทำสมุนไพรเสริมความงามได้อีก ซึ่งนวัตกรรมนี้ รุจิ เซรั่ม (ruji serum) ไม่รอช้า นำสารสกัดจากใบมะยมครั้งแรกของเมืองไทย นำมาเป็นส่วนของการผสมผสาน ในเนื้อเซรั่ม เพื่อความกระจ่างใส อีกทั้งยังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกต่างชื่นชอบสมุนไพรไทยยกให้เป็นอันดับหนึ่งของนวัตกรรมความงาม ความลับที่แอบซ่อนมายาวนาน กับใบมะยม เมื่อนำมาสกัดทำให้พบว่า มีสารสำคัญที่ให้ผลต่อผิว ทั้งในส่วนของการเป็นวิตามิน ทำให้ผิวหน้าสวยกระจ่างใส ไร้สิว จากผลงานวิจัย นำไปสู่งานนวัตกรรมของเซรั่ม ที่ส่งไปประกวดไกลถึงโรมาเนีย ได้รางวัลเหรียญทองกลับมา พ่วงด้วยงานรางวัลนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ที่ให้ผลช่วยในเรื่องของผิวหน้า ขาว กระจ่างใส ไร้สิว แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” เพราะปัญหาผิวต้องแก้ที“ต้นเหตุ” Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” คือเซรั่มทีถูกคิดค้นมาเพื่ออุดทุกต้นเหตุความหมองคล้ำ เอา ชนะริ้วรอยก่อนวัยที่มากับวัย พร้อมเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ผิวจึงทนต่อมลภาวะ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นได้เช่น UV ในแสงแดด, แสงสีฟ้า จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ, อายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน, ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ Ruji Serum “รุจิเซรั่ม” มีสารสกัดหลักสําคัญดังนี้ 1. Glabridin 90% มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว อัพเกรดผิวให้ดู สว่างใส 2. Tetrahydrodiferuloylmethane = สารสกัดขมิ้น ทําหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ชะลอ การเกิดริ้วรอยก่อนวัย 3. Nonapeptide-1 = เปบไทด์ระดับเข้มข้น มีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว สีผิวดูเรียบเนียน เสมอกัน 4. Ascorbyl Tetraisopalmitate = เกิดจากการรวมตัวของ vitamin C และ Isopalmitic Acid ซึมซาบสู่ใต้ชั้นผิวได้ดีและล้ำลึกกว่า 5. Azelaic Acid = กรดอะเซลาอิก ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ลดเชื้อแบคทีเรีย 6. Copper Tripeptide -1 = มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน ให้หลุมลึกตื้นขึ้น 7. Palmitoyl Tripeptide-1 = พาลมิโทอิล ไตรเปปไทด์-1 เพิ่มปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว ริ้ว รอยจางลง ไม่ทําให้ชั้นผิวบาง 8. Leuphasyl ( Pentapeptide -18) = มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดํา ให้ดูจางลง 9. Ceramide complex = ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย เติมความชุ่มชื้นให้ใต้ชั้นผิว 10. Troxerutin = สนญี่ปุ่น ต้านการอักเสบของผิว ดูแลปัญหาผิว Seb.Derm 11. rose water = ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย คลายเครียดให้ผิว ลดความอ่อนล้าของผิวstd47676• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทม จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เครื่องละ 4 แสน เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทยพบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อแพงจริงภายใน ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ - Wachirabenchathat รวมกัน 2 ที่เกือบ 10 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่ศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 11 รายการ ดังนี้ 1.อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง 759,000 บาท 2.จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีผนักพิง 1 เครื่อง 483,000 บาท 3.จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง เครื่องละ 451,000 บาท 4.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง 466,000 บาท 5.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อขาด้านหน้าและขาด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท 6.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อห้วงไหล่ อก และหลังแขน 1 เครื่อง 483,000 บาท 7.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 652,000 บาท 8.ชุดดัมเบลพร้อมชั้นวาง 1 เครื่อง 276,000 บาท 9.อุปกรณ์บาร์โหนฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 302,490 บาท 10.เก้าอี้ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง 1 เครื่อง 103,000 บาท 11.เก้าอี้ฝึกตัมเบลดัมเบลแบบปรับระดับได้ 1 เครื่อง 96,000 บาท และอีกที่คือ ศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท 11 รายการ ราคาสูงผิดปกติเช่นกัน รายการเครื่องออกกำลังกายต่างๆที่ กทม.จัดซื้อ เมื่อเทียบกับราคาตลาดแล้ว ราคาช่างแตกต่างกันสูงมาก เช่น เก้าอี้ฝึกดัมเบลแบบปรับระดับได้ ราคาตลาดเกรดดี ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ กทม.จัดซื้อ 96,000 บาท งานนี้ส่วนต่างเพียบ.. เมื่อลองขุดลึกๆลงไปอีกพบว่า เฉพาะ ปี 2567 กทม. จัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย กว่า 9 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 77.73 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่อแพงเกินจริงเหล่านี้ ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปอย่างสิ้นเปลือง ต้องตรวจแบบเข้มๆอย่างเร่งด่วน #สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต สมาชิกสามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ . พบเห็นการทุจริตฯ สะกิด STRONG เข้าร่วมกลุ่มโอเพนแชท ได้ที่.. STRONGภาคตะวันออก https://bit.ly/2V4hjmF STRONGภาคอีสาน https://bit.ly/36boBvd STRONGภาคเหนือ https://bit.ly/3nVHYOE STRONGภาคกลาง https://bit.ly/3fIvoQe STRONGภาคใต้ https://bit.ly/2JdysYD STRONGภาคตะวันตก https://bit.ly/33ipUGz STRONG ประเทศไทย https://bit.ly/39gB9TX . สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป․ป․ท․ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคเหนือ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันออก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันตก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคกลาง ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคอีสาน สำนักข่าวอิศรา ต้องแฉ จิตอาสาต้านโกง @แฟนตัวยงข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยคำแนะนำหมอสถาบันแผนไทยศีรษะอโศก(เฮ!!หมอสถาบันแผนไทยศีรษะอโศก..เริ่มปล่อยของแล้ว) เรื่อง.ยาต้านโควิด 19 ถามมาว่า... ดื่มน้ำขิงร้อนกับมะนาว ต้าน covid ได้จริงหรือ??? ตอบว่า..ได้จริงครับ เรามาเข้าใจธรรมชาติของ covid ก่อนครับ ตัวมันไม่ใช่เชื้อรุนแรง ไม่ใช่ ติดแล้วลงปอด กินปอดทันที คนเป็นก็ตายทันที คนที่ตายเพราะร่างกายอ่อนแอจริงๆ... และไม่ใส่ใจรักษาตนเองจริงๆครับ (รอตรวจ... รอหมอ... รอยา... รอวัคซีน... และรอจบชีวิต) ถ้าเราไม่รอ...และรีบลุกขึ้นรักษาตนเองก็รอดครับ ร่างกายคนเราเมื่อภูมิต้านทานลด... ร่างกายจะสร้างเมือกหรือน้ำมูก ในระบบทางเดินหายใจ เพื่อจับเชื้อโรคไว้ไม่ให้ลงปอด เชื้อมันจะต้องอาศัยเพาะตัวอยู่บริเวณลำคออย่างน้อย 4 วัน ร่างกายเราจึงพยายามสู้ด้วยการทำให้ไอหรือจาม เพื่อขับมันออกไป... 4 วันนี้คือช่วงเวลาทองของเราที่จะฆ่าโควิด... ทำลายมันก่อนที่จะแพร่เชื้อไปที่ปอด... ให้เรานำขิงมา 1 แง่ง ทุบใส่ในกาน้ำร้อน มะนาว 3 ลูก ผ่าครึ่ง ใส่ลงไปทั้งเปลือก กดน้ำร้อนดื่มต่างน้ำทั้งวัน... น้ำขิงร้อนจะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดและภูมิต้านทานมาที่ลำคออย่างต่อเนื่อง... เชื้อโควิคจะไม่สามารถขยายตัวและถูกทำลาย รสเปรี้ยวของมะนาว... ช่วยทำลายเสมหะที่เกาะอาศัย ของโควิค เมื่อ แนวทางเดินหายใจ แห้ง โควิคจะอยู่ไม่ได้และแพร่กระจายไม่ได้ มันจะถูกทำลายและหยุดการแพร่กระจายในที่สุด รสขมจากเปลือกมะนาว... กระตุ้นให้ตับเกิดการสร้างเลือดและภูมิต้านทาน... การดื่มน้ำร้อน ขิง ช่วยให้ภูมิต้านทานทำงานได้ดียิ่งขึ้น เข้าโจมตีเชื้อโควิดได้อย่างรวดเร็ว... ถ้าเรารักษาตัวเองได้เร็วเช่นนี้... เชื้อโควิดจะตายและหยุดการแพร่เชื้อทันทีครับ... การระบาดไปสู่คนรอบข้างและครอบครัวก็จะไม่เกิดขึ้น ถ้ามัวรอตรวจหรือไปหาหมอรอรักษาโรงพยาบาลอาจสายเกินไปครับ... ช่วยแชร์ความรู้นี้ต่อไปให้คนไทยทุกคนรักษาตนเองได้และป้องกันการระบาดได้ครับ (ด้วยรักและห่วงใย จากหมอแพทย์แผนไทยศีรษะอโศกครับ)ยาสมุนไพรโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อความด้านล่างนี้ส่งต่อกันทางไลน์มาหลายกลุ่ม ไม่มีที่มาที่ไป เข้าไปดู line และ fb ของโรงพยาบาลศิริราชแล้วก็ไม่พบเจอ ขอความกรุณาช่วยตรวจสอบให้ด้วยว่าจริงไหม ................ แจ้งข่าวจากรพ.ศิริราชครับ เรียนคณบดี ผู้บริหาร หัวหน้าภาคฯ อาจารย์ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน วันนี้ทีมผอ รองผอ ร่วมกับทีมวิศวกรรมศิริราช วิศวะมหิดล วิศวะเกษตร สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย บริษัท PAC บริษัท Meinhard บริษัท วและสหาย บริษัท KLA บริษัท power line บริษัทกรีไทย และบริษัท interpac ได้สำรวจอาคารในศิริราชทั้งวัน รวมถึงหอพัก 8 ไร่ ดำเนินการโดยวิศวะที่มีใบอนุญาตรับรองการตรวจสำรวจ และแบ่งทีมออกสำรวจทั้งหมด 8 ทีม ผลสำรวจอาคารทั้งหมดที่ได้สำรวจ เป็นดังนี้ 1. พบตำแหน่งจุดวิกฤตมาก (สีแดง) ได้แก่ ก. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์ชั้น 6 กับตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ข. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์(ห้องผ่าตัด)ชั้น 3 กับตึกเฉลิมพระเกียรติ ทั้งสองจุดมีความเสี่ยงสูงมากในการหลุดร่วงทั้งทางเชื่อมตกลงมาชั้น 1 (ทั้งสองทางเชื่อม) (ถ้าไปยืนดูจะเห็นว่าแกว่งอยู่ตลอดเวลา) ซึ่งจะทะลุลงหลังคามายังทางเดินชั้น 1 ระหว่างตึกทั้งสอง จึงต้องปิดตั้งแต่ทางเดิน **ห้ามผ่านเด็ดขาด** ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนการแก้ไข จะเริ่มเข้ามาจัดการรื้อหลังคา ตั้งนั่งร้าน ตัดทางเชื่อม โรยส่งลงชั้นล่าง ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1.5 เดือน (เริ่มพรุ่งนี้) ผลกระทบ 1.ปิดช่วงทางเดินระหว่างตึกสยามินทร์และตึกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ทางลงบันไดไปชั้น B1 ในด้านศิริราชมูลนิธิ จนถึงทางขึ้น ramp ฝั่งด้านตึกกายวิภาคฯ 2.บุคลากรจะต้องเดินผ่านขึ้นบันไดข้างตึกศิริราชมูลนิธิ ผ่านไปลงที่ ramp 3.การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรถนั่ง เปลนอน รถเข็นต่างๆ ขึ้นทาง ramp 4.จะรีบดำเนินการสร้าง ramp ชั่วคราวพาดบันไดและเชื่อมไปบริเวณสนามหญ้าหน้าศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายรถนั่ง เปลนอน ได้นำเรียนถึงความจำเป็นของการดำเนินการแผนนี้ต่อศิริราชมูลนิธิแล้ว ซึ่งจะมีแผนย้ายจุดรับบริจาคกลับมายังตึกมหิดลบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง 2. ตำแหน่งจุดวิกฤตปานกลาง (สีเหลือง) ได้แก่ ก.ทางเชื่อมระหว่างตึกพระศรี 100 ปีและตึกโกศล พบว่าโครงสร้างตึกแข็งแรง แต่พบว่ามีพื้นผิวแผ่นปูนตกลงมาที่ทางเดิน และจะมีโอกาสตกเพิ่มขึ้น การแก้ไข วันนี้เริ่มตั้งนั่งร้านขึ้นแก้ผิวฉาบ แต่ต้องระมัดระวังสายต่างๆที่เชื่อมโยง ใช้เวลาดำเนินการ 5 วัน ในระหว่างนี้จะปิดกันทางเดินตั้งแต่ทางออกตึกพระศรี (ข้างร้าน ณ ศิริราช) ที่ต้องเดินผ่าน ramp และซอกทางเดินระหว่างสองตึกนี้ เนื่องจากเศษปูนมีชิ้นใหญ่มาก ให้เดินผ่านทางหน้าร้าน S&P แทน ข.หอพัก 8 ไร่ จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารทั้งสองตึก (ตรวจทุกชั้นรวมที่จอดรถ) ไม่กระทบโครงสร้างใด ๆ เป็นเพียงรอยร้าวของผนังฉาบ แต่พบว่าด้านนอกของอาคาร A&B ด้านปลายทั้งสองฝั่งของทั้งสองตึก มีเศษปูนชิ้นใหญ่ที่สามารถร่วงหล่นลงมา ตึก A จะร่วงลงที่จอดรถด้านนอก ด้านสถานีรถไฟและอีกด้านเป็นด้านคนเดินเข้าตึก ตึก B เป็นด้านติดกับวัดและด้านที่เป็นที่จอดรถหน้าศูนย์ฟอกเลือด การแก้ไข จะต้องโรยตัวลงมากระเทาะพื้นผิวทั้ง 4 ฝั่ง ฉาบพื้นผิวใหม่ ผลกระทบ จะกั้นพื้นที่ช้้น 1 ห้ามจอดรถ ห้ามเดินผ่าน และเข้าแจ้งให้ทางวัดทราบ 3. จุดที่พบว่า ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างหลัก (สีเขียว) อาคารที่สำรวจมีความปลอดภัยในการใช้งาน ยืนยันไม่มีผลต่อโครงสร้าง ก.ตึกที่พบว่าเป็นการแตกร้าวของผนังฉาบหลายชั้น ได้แก่ ตึกนวมินทรฯ ตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ตึกศรีสวรินทราฯ ซึ่งจะดำเนินการเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมแซม แก้พื้นผิว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไล่ตามตึกที่แจ้ง ข.กระเบื้องห้องน้ำหอผู้ป่วยนวมินฯ 12 ที่กำลังจะหลุด 3 ห้อง และที่แขวนทีวี ได้ดำเนินแก้ไขวันนี้แล้ว ค.ฝ้าที่มีความเสี่ยงหลุดร่วงที่โถงตึกศรีสวรินฯ ชั้น 1 ได้ดำเนินการแก้ไขวันนี้แล้ว (วันนี้มีระดับคนงานจากภายนอกมาเตรียมพร้อมแก้ไขหน้างานเลยประมาณ 30 คน) ง.แผ่นผนังกระเบื้องหินหลังพระรูปปั้นสมเด็จย่า มีความเสี่ยงที่จะหลุดร่วงทั้งสองแผ่น จะรีบดำเนินการแก้ไขในวันพรุ่งนี้ จ.ทางเชื่อมระหว่างศูนย์โรคหัวใจและตึกนวมินฯ มีความแข็งแรงปกติ ในการสำรวจมีการลงนามรับรองในส่วนสีเขียวโดยวิศวกร จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้เกิดความมั่นใจ และโปรดประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานทราบถึงผลการสำรวจดังกล่าว ตลอดจนความจำเป็นในการปิดทางสัญจรทางช่่วง ขอบคุณมากครับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช สรุปว่าตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 1. ทางเข้าออกปัจจุบัน(ก่อน 1 เมษายน) ยังเหมือนเดิม ยกเว้นกรณีรถมาจากท่าน้ำวิ่งมาสี่แยกศิริราช ห้ามเลี้ยวขวาเข้าประตู 1 (ประตูตึกอุบัติเหตุ) 2. เพิ่มทางเข้าด้านตึกสลากสำหรับรถที่มาจากสะพานอรุณอัมรินทร์สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าประตู 4 ได้ไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรัฐบาลญี่ปุ่นให้ประชาชนทิ้งไมโครเวฟ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับและจำคุกรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะทิ้งเตาอบไมโครเวฟทั้งหมดในประเทศภายในสิ้นปีนี้และประชาชนและองค์กรที่ไม่สามารถตอบสนองต่อคำขอทั้งหมดจะถูกปรับและถูกจำคุก ญี่ปุ่นสั่งห้ามใช้เตาไมโครเวฟเนื่องจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮิโรชิมาพวกเขาพบว่าคลื่นวิทยุทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาการใช้เตาไมโครเวฟเป็นอันตรายยิ่งกว่าสหรัฐอเมริกาในฮิโรชิมาและกันยายน 1945 ระเบิดปรมาณูหล่นจากนางาซากิ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่าอาหารที่อุ่นในเตาไมโครเวฟนั้นมีรังสีที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นโรงงานไมโครเวฟขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในญี่ปุ่นกำลังจะปิด เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์: ในปี 2021 การผลิตเตาอบไมโครเวฟกำลังจะหยุดลง จีนยังวางแผนที่จะห้ามเทคโนโลยีนี้ในปี 2566 การประชุมเกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็งถูกจัดขึ้นที่ศูนย์บำบัดโรคมะเร็งของ Kashira ที่ประชุมสรุปว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้: น้ำมันสำเร็จรูป 2. นมจากสัตว์ (แนะนำนมถั่วเหลือง) 3. อาหารแปรรูปก้อน (เครื่องเทศซุปไก่เช่นแม็กกี้และชอบ) 4. โซดา (32 น้ำตาลต่อลิตร) 5. น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 6. อาหารร้อนไมโครเวฟ 7. การทำแมมโมแกรมไม่ได้เกิดขึ้นก่อนที่ทารกจะคลอดยกเว้น echocardiography 8. ชุดชั้นในชุดชั้นในแน่นมาก 9. แอลกอฮอล์ 10. ละลายอาหารแช่แข็งและทำให้เย็นลง 11. ดื่มน้ำขวดพลาสติกจากตู้เย็น 12. ยาคุมกำเนิด มันเปลี่ยนระบบฮอร์โมนเพศหญิงและทำให้เกิดโรคมะเร็ง 13. ยาดับกลิ่นพิเศษที่ใช้หลังการโกนหนวดนั้นเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ง่าย 14. น้ำตาลทรายขาวทุกชนิด (เซลล์มะเร็งมีแนวโน้มที่จะเติบโตภายใต้การบำรุงของน้ำตาล) ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลให้ได้มากที่สุด ที่ประชุมแนะนำว่าควรเพิ่มอาหารประจำวัน: 1. ผัก 2. ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล 3. โปรตีนจากผัก (ถั่วแทนเนื้อสัตว์) 4. ดื่มน้ำสองแก้วที่มีอุณหภูมิของร่างกายเท่ากันในขณะท้องว่างก่อนแปรงฟัน 5. อาหารควรอุ่น แต่ไม่สูงเกินไป 6. น้ำว่านหางจระเข้ + ขิง + ผักชีฝรั่ง + ขึ้นฉ่าย + myristin เราแนะนำให้ผสมในขณะท้องว่าง 7. ดื่มน้ำแครอททุกวัน 8. มะเขือเทศกระเทียมหัวหอมและเนื้อสัตว์ บันทึก : วิทยาลัยแพทย์อเมริกันค้นพบสาเหตุของโรคมะเร็ง 1. อย่าดื่มชากาแฟหรือเครื่องดื่มร้อน ๆ ในถ้วยพลาสติก 2. อย่ากินอาหารร้อนที่ห่อด้วยกระดาษหรือถุงพลาสติก (เช่นมันฝรั่งทอด) 3. อย่ากินอาหารในกล่องพลาสติกหรืออาหารไมโครเวฟ เราควรให้ความสนใจกับประเด็นต่อไปนี้: เมื่อพลาสติกสัมผัสกับอุณหภูมิสูงสารเคมีที่ผลิตอาจทำให้เกิดมะเร็ง 52 ชนิด ดังนั้นคุณต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมทุกชนิดเช่นโคล่า, เป๊ปซี่, AV, แฟนต้าและน้ำผลไม้เข้มข้นอื่น ๆ 4 กินสับปะรดสด ๆ แต่อย่าดื่มน้ำสับปะรดผสมกับโคล่าเครื่องดื่มผสมนี้ถึงแก่ชีวิต 5 ใช้หูซ้ายเพื่อรับโทรศัพท์และใช้ชุดหูฟังในปริมาณที่พอเหมาะ 6 อย่าทานยาด้วยน้ำเย็น 7. อย่ากินอาหารที่ย่อยไม่ได้หลังจาก 7 โมงเช้า 8. ดื่มน้ำให้มากขึ้นในตอนเช้าและดื่มน้ำน้อยลงในเวลากลางคืน 9. อย่าอยู่ในตำแหน่งแนวนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร (นอน / นอนหลับ) 10. เมื่อโทรศัพท์ของคุณใกล้จะหมดอย่าหยิบโทรศัพท์ของคุณเพราะรังสีของโทรศัพท์นั้นแข็งแกร่งกว่าทีวีเต็ม 1,000 เท่า แบ่งปันบทความนี้กับคนที่คุณรัก (วรว.อ่านและเริ่มส่ง 13.35น. 18กุมภาพันธ์ 2564)มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเหลือเชื่อ! แค่เอาเท้าไปแช่ลงในเกลือ ผลที่ได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ สำหรับคนรักสุขภาพ!!! เทรนด์ยอดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้นอกจากการออกกำลังกายแล้วนั้นคือ “แช่เท้าด้วยเกลือ” ที่ใครก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องเสียเงินเข้าสปาเลย แถมได้ประโยชน์มากมายเกิดคาด!! “เท้า” เป็นอวัยวะที่เราใช้งานหนักมาก เพราะไหนจะต้องแบกรับน้ำหนักเราที่มีหลายสิบโลแล้ว เรายังต้องอาศัยเท้าในการเดินหรือทำกิจกรรมอีกมากมายในแต่ละวัน แน่นอนว่าต้องมความเหมื่อยล้าบ้าง โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบสวมใส่รองเท้าที่มีส้นสูงๆ วันนี้เราจึงขอหยิบยกวิธีการดูแลสุขภาพเท้ามาฝาก นั้นคือ การแช่เท้าด้วยเกลือ ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แถมไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อไปทำสปารเท้า การแช่เท้าในน้ำเกลือกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนไทยกำลังพูดถึง และให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ว่าแต่ทำแล้วจะช่วยอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไรนั้นไปชมกันเลย!!! ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยเกลือ 1. ช่วยดึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายออก 2. ช่วยดึงพลังงานลบที่เกิดจากอารมณ์ออก 3. ช่วยดึงประจุพลังงานลบ ซึ่งเป็นพลังงานไม่ดี ออกจากร่างกาย 4. หลังจากที่ดึงพลังงานลบออกจากร่างกายแล้วเราก็ใช้วิธีการรักษาได้ตามปกติ ทั้งนี้วิธีการนี้จะเป็นการช่วยดึงพลังงานลบออกจากร่างกาย ก่อนการรักษา ทำให้รักษาได้ง่ายขึ้น 5. เมื่อแช่เท้าด้วยเกลือ บ่อยๆ ร่างกายจึงไม่มีพลังงานลบที่ก่อโรคหลงเหลืออยู่อีก และนี่เองจึงทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น วิธีการแช่เท้าด้วยเกลือ 1. นำกะละมังขนาดที่สามารถวางเท้าแช่ได้-ใส่น้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่มจะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาก็ได้ 2. ใส่เกลือทะเล (ที่เป็นเกลือแบบเม็ด) ลงไปประมาณ 1 กำมือ 3. เอาเท้าเหยียบเกลือที่ยังไม่ละลาย 4. ทำจิตใจให้สงบ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ นั่งอยู่ประมาณ 15-20 นาที 5. หลังจากนั้นให้ล้างเท้าด้วยน้ำเปล่า การแช่เท้าด้วยเกลือนั้นคนปกติ สามารถทำได้ทำอาทิตย์ละครั้ง ส่วนคนป่วย ทำได้ทุกวันก่อนนอน หากผู้ใดที่ธาตุในร่างกายไม่สมดุล มีอาการหนาว สั่น ให้ใช้น้ำอุ่นในการแช่เท้า สำหรับคนที่ร้อนก็ให้ใช้น้ำเย็นแช่ค่ะ การแช่เท้าเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามหลักทฤษฎีการแพทย์ทางเลือกสาขา Reflexology โดยมีความเชื่อกันว่าเท้า มีจุดสัมผัส ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้นวิธีกรการผ่อนคลาย ด้วยการแช่เท้าลงในน้ำร้อน จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นจุดสัมผัสเหล่านี้ด้วยพลังงานความร้อน ทางด้างผลงานการวิจัยของ นายแพทย์ วิลเลียม วินเทอร์วิตซ์ จากประเทศออสเตรีย มีความคิดเห็นว่า ประสาทรับสัมผัสที่ผิวหนังจะมีวงจรประสาทเชื่อมต่อกัน กับกล้ามเนื้อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย และเมื่อความร้อน มาสัมผัสกับผิวหนัง มันก็จะส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะที่อยู่ห่างไกลได้ ทั้งนี้การแช่เท้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหรือไม่ก็ตาม ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างดังนี้! 1. ลดอาการปวดบวมที่เท้าแล้ว 2. ลดอาการปวดท้อง 3. กระตุ้นความต้านทานของร่างกาย 4. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น 5. ป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว 6. ลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ 7. ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง 8. ลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ 9. ทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน เป็นต้น ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เบ็ดเตล็ดไอเดีย ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกัญชาสามารถรักษา14โรคนี้ได้จริงหรอครับ1. รักษาภาวะเบื่ออาหาร กัญชาใช้เป็นสารกระตุ้นความอยากอาหาร จะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง 2. การป้องกันการคลื่นไส้ อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด 3. รักษาโรคลมชักที่รักษายากและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษาภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง 4. รักษาภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ที่ใช้วิธีการรักษาอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล 5. บรรเทาหอบหืด ยาแก้หอบหืดทุกตัวมีข้อเสียคือมีข้อจำกัด ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากกัญชาขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม6. การใช้กัญชาในการรักษาต้อหิน คือ การรักษาตาต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้ คนตาบอดในสหรัฐ คนอเมริกาเกือบล้านที่ป่วยด้วยต้อหินที่รักษาได้ด้วยกัญชา กัญชาทำให้ความดัน ภายในลูกนัยน์ตาลดลงได้ดีหลายชั่วโมงในคนปกติและในคนที่ความดันลูกนัยน์ตาสูงจากต้อหิน การให้กัญชาทางปากหรือทางหลอดเลือดดำให้ผลเหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับชนิดอนุพันธ์กัญชามากกว่า จะเกิดจากฤทธิ์กล่อมประสาทของกัญชา กัญชาไม่ได้รักษาโรคขาด แต่ช่วยยับยั้งการบอดไม่ให้เป็นมากขึ้น เมื่อยาทั่วไปไม่อาจช่วยได้ และการผ่าตัดเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป 7. ลดอาการปวด สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะ THC สามารถช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง และช่วยให้สามารถนอนหลับได้เพิ่มขึ้น และช่วยลดอาการปวดข้อ แต่สำหรับอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยมะเร็งนั้นยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกที่ชัดเจน 8. รักษาโรคพาร์กินสัน แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 9. รักษาโรคอัลไซเมอร์ แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 10. รักษาโรคปลอกประสาทอักเสบอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 11. นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ เปิดเผยถึงข้อมูลในตำราพระโอสถพระนารายณ์ และตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ พบตำรับยาไทยที่เข้ากัญชาอยู่หลายตำรับ เช่น - ตำรับศุขไสยาศน์ สรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทน/เสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด - ตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์ อัมพาต - ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องมาน ท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ ใช้ทาบริเวณท้อง - ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล 12. รักษาโรคริดสีดวงทวาร เมื่อทายาริดสีดวงและโรคผิวหนังเป็นประจำ พบว่าอาการอักเสบและอาการปวดลดลง หัวริดสีดวงที่โผล่ออกมานอกหรืออยู่รอบๆรูทวารฝ่อลง 13. รักษามะเร็ง สารสกัดจากกัญชาอาจยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดและยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งบางอย่างในหนูทดลองได้ หลังจากนั้น เมื่อมีการวิจัยเพิ่มขึ้น พบว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้จริง โดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดของก้อนมะเร็ง (Angiogenesis) และลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ (Metastasis) ในโรคมะเร็งหลายชนิด ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างโปรแกรมการตายของเซลล์มะเร็ง (Program cell death) ผ่านกระบวนการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของการรักษาโรคมะเร็งด้วยสารสกัดกัญชา จึงต้องมีการศึกษาวิจัยในรายละเอียดแต่ละประเด็นต่อไป 14. คลายความวิตกกังวล จากประวัติการใช้กัญชาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายในอดีตทำให้มีความเป็นไปได้ที่สารกลุ่มแคนนาบินอลน่าจะมีฤทธิ์คลายความวิตกกังวล แต่อย่างไรก็ตามพบว่ากลไกการออกฤทธิ์นั้นซับซ้อนและยังไม่มีการอธิบายที่ชัดเจน จากรายงานทางคลินิกพบว่าการใช้สาร Fatty acid amide hydrolase inhibitors (FAAH inhibitors) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Endocannabinoids มีความสามารถในการลดอาการวิตกกังวลได้ ปัจจุบันสารหลายชนิดในกลุ่มนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกยาสมุนไพรKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยนิสิตจุฬาถูกลอยแพจากหอพัก ! “หรือหอพักมีไว้เพื่อเป็นที่ขูดรีดเอาเปรียบนิสิต ไม่ใช่มีไว้เพื่อสนับสนุนการศึกษา?” สิทธิทางการศึกษาของลูกหลานชนชั้นกลาง คนจน และคนในต่างจังหวัด ซึ่งมีโอกาสน้อยอยู่แล้วในระบบการศึกษาราคาแพง ยังต้องมาเผชิญกับค่าหอพักราคาแพงอีก จึงถูกกีดกันออกไปอย่างสิ้นเชิง หอพัก U-Center จุฬาฯ แจ้งให้นิสิตย้ายออกกะทันหัน . การจะหาห้องพักราคาดีใกล้มหา’ลัยใจกลางเมืองอย่างจุฬาลงกรณ์อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ประเด็นหอพักราคาถูกที่มีไม่เพียงพอสำหรับนิสิตก็เป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ . หอพักของจุฬาฯ มีไม่มาก มีหอพักในจุฬาฯ ที่รองรับนิสิตได้เพียง 3,320 คน (จากนิสิตปริญญาตรีอย่างน้อย 26,000 คน) และหอพักนอกจุฬา ได้แก่ หอพักเรือนวิรัชมิตร (CU I-House) และหอพักพวงชมพู (U-Center) ที่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับหอพักภายนอก . แต่เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา หอพักพวงชมพู หรือที่รู้จักกันในนาม ‘หอยู’ ประกาศกะทันหันให้นิสิตที่อยู่อาศัยเข้าพักได้ถึงแค่วันที่ 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น และให้ย้ายของออกจากหอพักภายในวันดังกล่าว . “เนื่องจากหอพักพวงชมพู (โครงการ U-Center 1,2) จะสิ้นสุดสัญญาเช่ากับสำนักงานทรัพย์สินจุฬาฯ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ดังนั้น นิสิตที่พักอยู่ในหอพักพวงชมพูสามารถพักได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เป็นวันสุดท้าย” . “บริษัทฯ จะทำการปิดอาคาร U-Center 1 และ U-Center 2 เพื่อปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหมด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป โดยบริษัท LPP จะเป็นผู้เข้ามาดำเนินการบริหารต่อ” คือข้อความที่ปรากฎบนประกาศ . นอกจากทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางไปเรียนแล้ว เหตุที่นิสิตส่วนใหญ่ชอบพักที่หอยู (U-Center) เพราะค่าเช่าหอราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับหอพักอื่นๆ หากแชร์ห้องกับรูมเมตจะตกอยู่ที่ประมาณ 1,800-4,200 บาท/เดือน (ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ) . ประกาศนี้จึงส่งผลให้นิสิตจำนวนมากต้องเสียสิทธิที่จะอาศัยในหอพักราคาถูกใกล้มหาวิทยาลัย และต้องรีบหาหอพักใหม่ภายในระยะเวลาเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น แถมช่วงนี้ยังเป็นช่วงสอบปลายภาคอีกด้วย . เค (นามสมมติ) นิสิตคณะอักษรศาสตร์ปี 2 บอกกับ The MATTER ว่า ทางนิสิตไม่มีใครรู้เรื่องการย้ายออกอย่างเป็นทางการเลย มีเพียงข่าวลือเท่านั้น ก่อนจะมาเป็นข่าวจริงที่แจ้งล่วงหน้าแค่เดือนกว่าๆ “เตรียมตัวไม่ทัน ยิ่งเป็นช่วงไฟนอลก็ทำให้ทุกอย่างยุ่งยากไปหมด” . “ตอนรู้ว่าต้องออกคือโกรธมาก ไม่เห็นหัวของนิสิตเลย เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตอะไรไม่รู้ที่มาขออยู่อาศัย ทั้งๆ ที่จ่ายเงินเพื่อพักด้วยซ้ำ” เค ระบุ . หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ทำไมไม่อยู่หออื่นของจุฬาแทน ต้องบอกก่อนว่าการอยู่หอพักในจุฬาฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านกระบวนการสัมภาษณ์และคัดกรอง เคเล่าว่าตนเคยสมัครหอในแล้ว แต่หอในไม่รับ ทางเลือกที่ดีที่สุดจึงเป็นหอยู (U-Center) เพราะราคาถูกและใกล้มหาวิทยาลัย . การต้องออกจากหอยู (U-Center) ทำให้นิสิตอย่างเคต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น เคเล่าว่า “ต้องไปอยู่ไกลขึ้น เสียค่าเดินทางซึ่งทำให้รายจ่ายในการใช้ชีวิตมากขึ้น จากที่ปกติก็สูงอยู่แล้ว” . “ค่าใช้จ่ายคงจะเพิ่มขึ้นมาก ปกติเวลาทานอาหารก็มักจะทานในมหา’ลัย หรือนั่งรถ ปอพ. (รถเมล์ฟรีของจุฬาฯ) จากหน้าหอไปกินข้าวที่คณะ แต่ถ้าย้ายไกลออกไป การจะทานข้าวที่คณะคงยากขึ้น ทำให้ต้องกินละแวกนั้น ซึ่งอาหารไม่ใช่ราคานักศึกษา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็น่าจะเพิ่มขึ้น” . “อยากให้จุฬาฯ ช่วยหาทางเลือกหอพักอื่นๆ และเยียวยาสภาพจิตใจของนิสิตที่ถูกกระทำแบบนี้ เช่น ช่วยหาหอให้นิสิตที่ยังไม่มีที่พัก หรือช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพราะพื้นฐานการเงินทางบ้านของแต่ละคนไม่เท่ากัน อยากให้สนับสนุนตรงนี้ด้วย ในเมื่อคุณเลือกที่จะทิ้งเด็กกว่า 500 กว่าคนเอง” เค กล่าว . "หอพักของนิสิตมีไว้เพื่อเอื้อต่อการศึกษาของนิสิต หรือเป็นสถานที่ขูดรีดและเอาเปรียบชีวิตของนิสิตโดยกลุ่มผู้บริหารของจุฬากันแน่” นิสิตปี 2 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งคำถาม . ทั้งนี้ The MATTER สอบถามข้อมูลผ่านไลน์ของ LPP บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่จะรับช่วงดูแลหอยู (U-Center) ได้ความว่า มีกำหนดปรับปรุงหอพักตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม โดยโครงสร้างห้องยังเหมือนเดิมแต่จะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และนิสิตที่เคยพักจะได้อยู่ลำดับต้นๆ ที่จะนำมาพิจารณาเข้าพักในอนาคต . เมื่อถามว่าราคาจะแพงขึ้นไหม ไลน์ของ LPP ตอบว่า ราคาหอพัก “มีปรับขึ้นนิดหน่อยค่ะ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” คำชี้แจงนี้จะได้รับการปฎิบัติหรือไม่ นิสิตยังคลางแคลงใจอยู่ เพราะข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์กรณีรื้อทุบตึกในย่านสามย่าน ผู้เช่าเดิมไม่มีโอกาสได้ย้ายกลับเข้าไปใหม่เลย หรือกรณีความพยายามยึดคืนวิทยาลัยอุเทนถวาย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่คลางแคลงใจของบรรดานิสิตทราถูกขับไล่ให้ย้ายออกจากหออย่างกระทันหัน . . . อ้างอิงจาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100083064352226 https://www.chula.ac.th/academics/life-at-cu/dormitory/ https://www.rcu.sa.chula.ac.th/rcu_web/index.php/aboutus http://www.sa.chula.ac.th/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B9-u-center/ https://twitter.com/eayostudio/status/1648637984869335041/photo/1 https://www.chula.ac.th/about/overview/facts-and-stats/#:~:text=%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C,%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%20%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%202%2C627%20%E0%B8%84%E0%B8%99 #หอยู #จุฬา #UCenter #TheMATTERผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรายงานอาฟเตอร์ช็อก เหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568 เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศเมียนมาร์ อาฟเตอร์ช็อก ครั้งที่ 1 เวลา 13.32 น. ขนาด 7.1 ครั้งที่ 2 เวลา 13.45 น. ขนาด 5.5 ครั้งที่ 3 เวลา 14.24 น. ขนาด 4.0 ครั้งที่ 4 เวลา 14.37 น. ขนาด 5.2 ครั้งที่ 5 เวลา 14.42 น. ขนาด 3.9 ครั้งที่ 6 เวลา 14.57 น. ขนาด 4.7 ครั้งที่ 7 เวลา 15.21 น. ขนาด 4.0 ครั้งที่ 8 เวลา 15.45 น. ขนาด 3.7 ครั้งที่ 9 เวลา 15.52 น. ขนาด 3.8 และยังสามารถเกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นได้อีก ขอให้ทุกท่านติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด #กรมอุตุนิยมวิทยา #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #แผ่นดินไหวไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่เพจธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ผ่านเพจชื่อ mymo savingเพจ "mymo saving" มีการประกาศการปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,080 บาท/เดือน จากการสัมภาษณ์ คุณสุรีรัตน์ ไชยศิลา ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อดังกล่าวว่า ธนาคารออมสินเคยมีโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเน้นสนับสนุนด้านการเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ แต่โครงการดังกล่าวได้สิ้นสุดลงและวงเงินเต็มเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันธนาคารไม่มีการให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางอื่นๆ นอกจากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เป็นทางการของธนาคารเท่านั้น ธนาคารยืนยันว่าไม่มีการปล่อยสินเชื่อผ่านเพจดังกล่าว และโครงการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน mymo ได้ยุติลงแล้วหลังจากช่วงโควิด-19 อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้คำแนะนำในการป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ไว้ดังนี้ 1. ธนาคารออมสินไม่มีการส่งข้อความหรือส่งลิงก์การกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันใดๆ 2. หากได้รับข้อความหรือพบเพจที่น่าสงสัย อย่าคลิกลิงก์และไม่แอดไลน์สมัครใช้บริการ ไม่กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและไม่แชร์ต่อเด็ดขาด 3. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1115 หรือ ธนาคารสาขาใกล้บ้าน 4. ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เชื่อถือได้ของธนาคารเพื่อป้องกันการถูกหลอก 5. ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน แหล่งข้อมูล (https://www.gsb.or.th/services/ธนาคารออมสิน-ขอแจ้งเตือ/)ภาคอีสานการเงินแอคปลอมmintsiri02• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรมต.หน้าตาเหมือนตัวดักแด้สงสัยว่า ผู้ว่าธปท.จบอะไรมาถึงพูดไม่รู้เรื่องก็มีผู้ตอบว่าท่านหลังจากชั้นมัธยมที่ประเทศฝรั่งเศสก็มาจบป.ตรีที่ Swathmore College ด้วยเกียรตินิยมสูงสุด และ ป.โท ป.เอก ที่ Yale ก็เลยสงสัยว่า Swathmore College คืออะไร ก็ทราบว่าเป็น Liberal Arts College เล็กๆมีนักศึกษาเพียง 1000 กว่าคน มีการสอนแค่ปริญญาตรี แต่เก่าแก่ก่อตั้งมาถึง 160 ปี จึงไม่นับเป็น University ตามคำจำกัดความของอเมริกา เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เข้ายากที่สุดในอเมริกา มีอัตราการตอบรับแค่ 7% ของผู้ที่ยื่นใบสมัคร และเมือขึ้นปีสามจะคัดเลือกนักศึกษาจำนวนหนึ่ง 4 5 คนเข้า Honour Program ซึ่งต้องไปค้นคว้าและส่งผลงานวิจัยสั้นๆทุกเทอม จนก่อนจะจบปีสี่ต้องส่งวิทยานิพนธ์ยาว และต้องผ่านการตรวจสอบปากเปล่าจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก และผลจะออกมาเป็นสามอันดับ คือ Highest Honour High Honour และ Honour ซึ่งท่านผู้ว่า ได้อันดับ Highest Honour หลังจากจบแล้วส่วนใหญ่จะไปเรียนต่อ ตามมหาวิทยาลัยระดับต้นๆของประเทศเช่น Harvard Princeton Yale etc. จะเห็นได้ว่าท่านผู้ว่า ทางวิชาการท่านอยู่เหนือพวกนักการเมืองที่อยู่ในคณะรัฐบาลทั้งหมด และประสบการณ์จากการทำงาน World Bank มาอีก 10 ปี เราควรจะเชื่อใคร***ข่าวการเมืองการเงิน เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภทกทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภท จริงหรือ? . ตามที่มีการประกาศเรื่อง กทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง ✅ . การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษฉลองรัช ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9-1 (ฉลองรัช) โดยมีส่วนลดจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภทที่ใช้เงินสดและรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน . อัตราค่าผ่านทางที่ปรับลด มีดังนี้ 1. รถ 4 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 40 บาท ปรับลดเหลือ 30 บาท 2. รถ 6-10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 60 บาท ปรับลดเหลือ 50 บาท 3. รถมากกว่า 10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 80 บาท ปรับลดเหลือ 70 บาท . ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.exat.co.th หรือ โทร. 02-283-3000 สายด่วนศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356 . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวจริง #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวนโยบายรัฐ #ค่าผ่านทาง #ทางด่วน #ลดค่าทางด่วนP Ing Nuttaput• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอดิศร” ซัด “ก้าวไกล” ไร้มารยาท ปมลักไก่เสนอชื่อ “ปดิพัทธ์” นั่งประธานสภาฯ“ . วันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล เสนอชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นการลักไก่ของพรรคก้าวไกล ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคใด แต่จู่ๆ มาเสนอชื่อนายปดิพัทธ์เป็นประธานสภาฯ ถือว่าออฟไซด์ ต้องถามว่ามีมารยาทและจิตสำนึกหรือไม่ เพราะยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ว่าตำแหน่งนี้จะเป็นของพรรคใด ยิ่งการเลื่อนวงเจรจาออกไปไม่มีกำหนด จะให้พรรค พท.เตรียมตัวอย่างไร จะไปเจรจากับใคร . นายอดิศร กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอการเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มให้พรรคก้าวไกลเป็น 15+1 แลกกับตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น อย่าไปยุ่งกับตำแหน่งฝ่ายบริหาร เพราะคุยกันลงตัวแล้ว ถ้าจะไปปรับอะไรอีก ต้องมาคุยกับ ส.ส.ก่อน เดี๋ยวจะมีปัญหาอีก ยังหวังว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ทั้ง 2 พรรคจะตกลงทำความเข้าใจกันได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องปล่อยฟรีโหวตเลือกประธานสภาฯ ในวันที่ 4 ก.ค.เราก็จะเสนอชื่อคนของเราเองเป็นประธานสภาฯ ไม่ต้องไปยืมมือพรรคใด แต่พรรค พท.จะเสนอชื่อใครนั้น ต้องรอให้ตกลงกันก่อนว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นของพรรคใด ยอมรับว่าเป็นห่วงเช่นกัน หากมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการเลือกประธานสภาฯ ระหว่างพรรค พท.กับพรรคก้าวไกล อาจมีปัญหาสะเทือนถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เป็นการตีหัวปลาสะเทือนหัวนาคPlang Chanya• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยHideo Kojima ขู่ฟ้องหลังมีคนปล่อยข่าวปลอมกรณีการสังหารชินโสะ อาเบะฮิเดโอะ โคจิมะ นักพัฒนาเกมระดับตำนานชาวญี่ปุ่น ขู่ฟ้องร้องโพสต์ข่าวปลอมที่ว่าตัวเขาเป็นมือปืนยิง ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นการเสียชีวิตอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนของอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโสะ อาเบะ โดยที่ตัวของนายอาเบะนับว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี จากการที่นายอาเบะถูกลอบสังหาร ได้มีการโพสต์ข่าวปลอมแล้วเชื่อมโยงไปว่า ฮิเดโอะ โคจิมะ ผู้สร้างเกมระดับตำนานชาวญี่ปุ่นที่ฝากผลงานชั้นยอดอย่าง Metal Gear Solid และ Death Stranding มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารครั้งนี้ไม่นานหลังจากนั้น แถลงการณ์ของโคจิมะ โปรดัคชันส์ เปิดเผยว่า พวกเราขอประณามต่อการแพร่กระจายของข่าวปลอมและการปล่อยข่าวลืออันเป็นเท็จการเชื่อมโยง ฮิเดโอะ โคจิมะ กับเหตุการณ์สังหารอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คาดว่ามีจุดเริ่มต้นจากเว็บไซต์ 4Chan ของญี่ปุ่น จากนั้นก็ถูกแชร์โดย Damien Rieu นักการเมืองชาวฝรั่งเศส ตามด้วยการรายงานที่ผิดพลาดของสำนักข่าวในกรีซและอิหร่าน ก่อนที่จะมีการออกมาแก้ข่าวที่ผิดพลาดในเวลาต่อมา เพื่อเป็นการตอบโต้เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โคจิมะ โปรดัคชันส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเกมของฮิเดโอะ โคจิมะ ทวีตเตือนว่า บริษัทกำลังพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ปล่อยข่าวเท็จstd48462• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคุณทอม เครือโสภณ ในรายการคุยกับสุทธิชัย หยุ่น ติดโควิดแล้ว👨 คุณทอม เครือโสภณ ในรายการคุยกับสุทธิชัย หยุ่น ติดโควิดแล้ว 💉 ทั้งๆ ที่ ฉีดวัคซีน 6 เข็มแล้ว ซีโนแวค 2 เข็ม และไฟเซอร์ 4 เข็ม 🔦 และตรวจ ATK แบบแยงจมูกหลายทีก็ไม่เป็น ทั้งที่สงสัยเพราะมีอาการเจ็บคอ และไอ และเพลีย เลยลองตรวจ ATK แบบน้ำลายถึงแสดงออกมา และไปตรวจซ้ำ RT Pcr ที่ รพ เสีย 3,000.- บาท (บอกว่าบางแห่งคิด 4,000.) จึงยืนยัน 🎯 สาเหตุไปคุยกับพี่ชายที่เพิ่งหายจากโควิด และพี่ชายบอกว่าหายแล้ว และตรวจ ATK ตั้ง 3 ครั้งแล้ว ไม่มีเขื้อแล้ว 👄 ไปคุยกันแล้วกล้บบ้าน วันสองวันก็เจ็บคอมากและไอเลย และเพลีย รีบตรวจตัวเองแยงจมูก ก็ไม่ show ว่าเป็น อย่างที่บอกข้างต้น 🎯 แสดงว่า ... 👇👇 1) คนที่บอกว่าหายจากโควิดแล้ว ก็ยังมีเชื้ออยู่และแพร่เชื้อได้ 2) การตรวจ ATK ก็ยังเชื่อไม่ได้ โดยเฉพาะตรวจแบบแยงจมูก 🎯👉 ดังนั้น คนที่เราคุยด้วยทั่วไปว่าตรงจ ATK แล้ว ผลเป็น negative ก็อาจมีเชื้ออยู่ในร่างกายได้ ที่เราจะติดจากเขาได้ 3) อย่าเขื่อการตรวจอุณหภูมิตามสถานที่ต่างๆ เพราะคุณทอมตอนที่ติดแล้ว (แต่ยังไม่รู้ตัว) ก็ไปศูนย์การค้า ผ่านการวัดไข้ก็เป็นปกติทุกประการโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ น้ำสับปะรดร้อนสามารถช่วยคุณได้ตลอดชีวิต น้ำสับปะรดร้อนสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้1 ให้ตัดชิ้นเนื้อสับปะรด 2-3 ชิ้น ลงในถ้วย ใส่น้ำร้อน มันจะเป็น "น้ำอัลคาไลน์" ดื่มทุกวัน มันดี สำหรับทุกคน 2 สับปะรด ร้อน ปล่อยสาร ต่อต้านมะเร็ง ซึ่งเป็น ความก้าวหน้า ล่าสุด ในการ รักษาโรคมะเร็ง ที่มี ประสิทธิภาพ ในการแพทย์ 3 ผลสับปะรด ร้อน มีผลต่อ การฆ่า ซีสต์ และเนื้องอก พิสูจน์แล้วว่า สามารถ ซ่อมแซมมะเร็ง ทุกชนิด 4 น้ำสับปะรด ร้อน สามารถฆ่าเชื้อโรค และสารพิษ ออกจากร่างกายได้ทั้งหมด เนื่องจากการแพ้ / แพ้ 5 ประเภทของยา ที่มีสารสกัด จากสับปะรด ทำลาย เฉพาะเซลล์ที่มีความรุนแรง เท่านั้น แต่จะไม่ส่งผล ต่อเซลล์ ที่มีสุขภาพดี ..................................... นอกจากนี้ กรดอะมิโนและสับปะรด โพลีฟีนอลในน้ำสับปะรด สามารถควบคุมความดัน โลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการอุดตัน ของหลอดเลือดภายใน ปรับการไหลเวียนโลหิต และลดการอุดตันในเลือดมะเร็งlovely_kanokwan25• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงไหม รัฐประกาศให้ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเป็นเขตโรคติดต่ออันตรายประเทศไทยมีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเกิดการติดต่อของโรคโควิด19ที่มากับผู้เดินทางซึ่งมาจากกลุ่มประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย หรือประเทศที่มีพรมแดนติดกับกลุ่มประเทศดังกล่าว ซึ่งมีสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด 19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ด้านวิชาการ จึงเห็นสมควรประกาศกำหนดให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 เป็นเขต ติดโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบด้วย 5 ประเทศ ดังนี้ 1.มาเลเซีย 2.ราชอาณาจักรกัมพูชา 3.สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 4.สาธารณรัฐอินโดนีเซีย 5.สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าโควิด 2019Supinya Klangnarong• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดตัว BKK HELP อำนวยความสะดวกผู้บริจาคสิ่งของ ให้ลงทะเบียนล่วงหน้า ลดความแออัดเสี่ยงโควิดกรุงเทพมหานครจัดทำระบบ BKK HELP สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มีความประสงค์จะแจกอาหารหรือสิ่งของด้วยตนเอง โดยมีวิธีการเข้าใช้ระบบดังนี้ 1. เข้าไปที่เว็บไซต์ http://bkkhelp.bangkok.go.th/ และเลือกจุดแจกสิ่งของ จาก 71 จุดที่จัดไว้ โดยแต่ละจุดจะมีรายละเอียดว่ามีผู้แจ้งความประสงค์ไว้แล้วในช่วงเวลาใดบ้าง และมีหมายเลขโทรศัพท์ผู้ประสานงานของแต่ละจุดในพื้นที่เพื่อให้ผู้บริจาคดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง 2. โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏในระบบ ชี้แจงรายละเอียด และทำการนัดหมายล่วงหน้า จากนั้นรอรับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ 3. อัปเดตจุดบริจาคลงเว็บไซต์ 4. นำสิ่งของหรืออาหารมาบริจาคแจกจ่าย โดยสำนักงานเขตในพื้นที่จะจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก อาทิ มีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีบริการแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ มีการจัดระเบียบเว้นระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing) โดยจัดพื้นที่นั่งรอ พื้นที่นั่งทาน และพื้นที่สำหรับทิ้งขยะ พร้อมแนะนำวิธีการแจกของอย่างถูกต้องปลอดภัยทั้งผู้แจกและผู้รับ ทั้งนี้ วิธีการแจกสิ่งของด้วยตนเองผ่านระบบ BKK HELP นั้น ทำให้ผู้แจกและผู้รับสามารถนัดหมายได้ล่วงหน้า แก้ปัญหาความแออัดในการรับสิ่งของหรืออาหาร สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างมีมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่มารับบริจาคได้ตามความประสงค์ของผู้บริจาคด้วย สำหรับจุดแจกสิ่งของ 71 จุด รายละเอียดตาม LINK ด้านล่างโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 3 คนสงสัย🎀มีข่าวดีมาบอก🎀 👉คนเวียตนามบอกว่าให้ช่วยแชร์วิธีให้รอดปลอดภัยจากโรค COVID19 ☎มีเศรษฐีเวียตนามครอบครัวหนึ่งเป็นเพื่อนกับเศรษฐีจีนอู่ฮั่น มีสมาชิก 70 คน รอดปลอดภัยจาก โรค COVID 19 ด้วยวิธีง่าย ๆ คือดื่มน้ำอุ่น หรือดื่มน้ำร้อนได้ยิ่งดี ไม่ปล่อยให้คอแห้ง (ทุก10นาที) เพราะเชื้อจะอยู่ในคอประมาณ 4 วัน เชื้อ COVID 19 แพ้น้ำร้อน ซึ่งจะพาเชื้อโรคลงกระเพาะ แล้วขับถ่ายออกไป ทำให้เชื้อไม่ไปที่ปอด 🎎ปรากฎว่า ขณะนี้กระติกน้ำร้อนในเวียตนามขาดตลาด 🚨น้ำร้อนจะเป็นน้ำขิง ตะไคร้ หรือชาก็ได้ 🎆ฟังแล้วน่าเป็นไปได้ คือให้มันลงกระเพาะไปครับโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการรักษาโควิด19ด้วยสมุนไพรรักษาโควิด 19 ด้วยสมุนไพรขมิ้นชัน กระชาย พริกไทย ทับทิมstd48458• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเทคนิคปรับการ "นอนหลับ" ช่วยให้ไม่เป็นโรคอ้วนHighlight : - การปรับพฤติกรรมการ "นอนหลับ" ให้ถูกวิธี จะช่วยทำให้ลำไส้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น สามารถป้องกันไม่ให้เป็นโรคอ้วนได้ เพราะลำไส้สามารถย่อยอาหารได้อย่างเต็มที่ จนไม่เหลืออาหารตกค้างในกระเพาะ ที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน - ไม่ควรดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน เพราะแสงจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะเข้าตา มีผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะลำไส้จะทำงานได้เฉื่อยลง - เวลาทองของลำไส้ คือ 24:00 น. เป็นช่วงเวลาที่ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นจึงควรนอนหลับให้สนิทในช่วงเวลา 24:00 น. Lady MIRROR เคยมั้ยคะที่ตื่นมาแล้วท้องป่อง เหมือนอาหารไม่ย่อย จนเอวหนาไขมันพอกพูน สุดท้ายโรคอ้วนจะตามตา นั่นเป็นเพราะระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรในช่วงเวลากลางคืน การนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่ ทำให้ไม่เกิดโรคอ้วนและยังส่งผลให้รู้สึกดีในช่วงเวลาตอนเช้าด้วย MIRROR อยากชวนสาวๆ ลองหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นมาฝากกันค่ะ โดยหลักสำคัญของการปฏิบัติตัวก็คือการไม่ต้องทำอะไรเลย ด้วยการที่เราไปเปิดสวิตช์ "ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก" ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของลำไส้ จะทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้นในระหว่างที่เรากำลังนอนหลับอยู่ แต่สิ่งที่ต้องทำคือ ทำให้นอนหลับได้อย่างมีความสุข ซึ่งมีเทคนิคนอนหลับช่วยระบบย่อยอาหารดังนี้น้องไข่จ้องคนสวยเองค่ะ• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ