2209 ข้อความ
- 2 คนสงสัยวิธีประหยัดแบบประยุทธ5 วิธีประหยัดแบบลุงตู่ 1. อยู่บ้านหลวง ซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ค่าเช่าก็ไม่ต้องจ่าย ประหยัด!!!! 2. น้ำไฟ ก็ใช้ของหลวง อยู่มา 30ปี เปิดแอร์ทั้งวันก็ได้ ไม่เคยต้องจ่ายซักบาท ประหยัด!!!!! 3. คนงานที่บ้าน ก็ใช้แรงงานทหารเกณฑ์ฟรี จะกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ ไปซื้อกับข้าว ไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง ประหยัด!!!! 4. ใช้รถหลวง มีคนขับให้พร้อม น้ำมันแพงแค่ไหนก็ไม่สะเทือน เพราะไม่ได้จ่าย ไปต่างจังหวัดก็บินเฟิร์สคลาสแสนสบายไม่ต้องจ่ายซักบาท ประหยัด!!!!! 5. กินข้าวฟรีที่สภา มื้อละ 861 บาท สภาจะล่มก็ไม่เป็น ยังไงก็มีข้าวกินฟรี ประหยัด!!!!!! แค่นี้เองวิธีประหยัดแบบประยุทธ ถ้าทำได้แบบนี้ น้ำมันจะแพง ค่าแรงจะขึ้น ก็ไม่เดือดร้อน ขอให้ทุกคนเข้าใจเสียดสีMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิธีสังเกต Link มิจฉาชีพจะบอกวิธีสังเกตลิงค์ของ เหล่ามิจฉาชีพในเบื้องต้น ให้เพื่อนๆ ดังนี้:- 1) จำง่ายๆ “ของฟรี ไม่มีในโลก” กรณีจะมีจริง ไม่ต้องส่งลิงค์มาให้คุณหรอก 2) ลิงค์ที่ส่งมา สังเกตนำหน้าด้วย http:// หมายถึงลิงค์ไม่ปลอดภัย ลิงค์ที่ปลอดภัยต้องเริ่มด้วย https:// สังเกตไหม มี s ต่อท้าย หมายถึงลิงค์ที่มีตัวมีตน/มาตรฐาน 3) ลิงค์ส่วนใหญ่ที่ปลอมกัน จะลงท้ายลิงค์ว่า .club ใครก็สร้างได้/ไม่มีตัวตน 4) ให้คุณจำไว้ว่า ยุคนี้คือ ยุคดิจิตอล โซเชี่ยลมีแต่การหลอกลวงเกิน 50% คุณอย่าตกเป็นเหยื่อโซเชี่ยลทุกรูปแบบ สอนลูกหลานด้วย และการที่คุณเป็นเหยื่อมิจฉาชีพคนเดียวไม่พอ คุณยังใจดีส่งลิงค์นี้ไปยังเพื่อนของคุณตามที่ลิงค์เค้าสั่งอีกด้วย ก่อนส่งลิงค์/แชร์ต่างๆ ควรนึกถึงคำเตือน และพิจารณาให้รอบครอบ ว่าเป็นลิงค์จริง ปลอดภัย จึงส่งต่อนะคะ ..ขอขอบคุณเจ้าของบทวิเคราะห์ด้วยค่ะ Cr.รศ.ดร.วงศ์จันทร์ความสวยความงามมะเร็งโควิด 2019วัคซีนโควิดภาคใต้Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยกู้เงินผ่าน LINE BK อนุมัติทันที ไม่ต้องมีเอกสาร จริงหรือเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีคนแห่ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก สำหรับการกู้ยืมเงิ นผ่านทาง Line bk ของแอปกสิกร โดยไม่ต้องยื่นเอกส ารอนุมัตภายใน 3-5 นาที ซึ่งต้องบอกเลยว่าบริการนี้คนแห่สมัครกันเพียบ เพราะอนุมัติผ่านกันเกือบทุกคน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้กู้และผ่านจริง โดยได้ระบุข้อความว่า สวัสดีค่ะ อาทิตย์ที่แล้วมีสหายท่านนึงโพสต์ถามเกี่ยวกับกู้เงิ น LINE BKไว้ วันนี้เราเลยจะมามาอัพเดทเรื่องนี้ วันนี้เรากู้ผ่านแล้วนะคะหลังจากอาทิตย์ที่แล้วเรากู้ไ ม่ผ่าน(เฟลมสกค่ะตอนนั้น) เราได้วงเงิ นหมื่นเก้ากว่าๆ แต่เราเอาหมื่นห้า รู้ผลเร็วมากค่ะไม่ถึง5นาที และตอนแรกก็ไ ม่คิดว่าจะผ่านค่ะ เพราะตอนนี้เราไ ม่ได้ทำงานประจำ กลับมาอยู่ตจวขายของเล็กๆน้อยๆ และอาจติดบูโรจากรถมอไซค์เมื่อเกือบ 10ปีที่แล้ว วันนี้ดีใจมากค่ะมีเงินมาต่อยอดทำร้าน เรื่องจริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 4 คนสงสัยหัวใจวายอย่างกะทันหันในโรงละครในสิงคโปร์ หมอและผู้ช่วยที่สิงคโปร์ ตบมือคนไข้และเธอหายดีหลังจาก 02 นาที วีดีโอนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับคนไข้หัวใจ ความสนใจและวิธีการจัดการกับโรคหัวใจที่เกิดขึ้นโดยปกติในทันที! คนมากมายที่หมดหนทางและตายระหว่างทางไปโรงพยาบาล! โปรดจำไว้: 1. การตบข้อศอกด้านในของแขนซ้ายในวิดีโอ มี 03 จุดอักเสบรอบแขนซ้าย ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและปอด การตบมือทั้งสองแขนนี้จะทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น รู้สึกอบอุ่นและไม่เหงื่อออก 3. คุณต้องรู้ไว้ว่าหัวใจวายถูกปิดกั้นโดยการไหลเวียนของเลือด ด้วยการกระแทกและตบแขน คุณสามารถเพิ่มอุณหภูมิได้,หลีกเลี่ยงการแปรปรวน และมันจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ไปโรงพยาบาลทันที 4. มันดีที่จะตบที่ส่วนนี้ (ด้านในของข้อศอกซ้าย)ทุกวัน เพราะมันสามารถป้องกันโรคหัวใจได้ และสามารถลดภาวะหัวใจวายได้ ถ้าคุณคิดว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์ บอกกับเพื่อนและครอบครัว เพราะคุณสามารถมีชีวิตอยู่! 👆ยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยคดี "เสี่ยรถเบนซ์ เมาแล้วขับ" ยังไม่จบคดีความ จริงหรือคะเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 63 นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ หรือ เสื่อรถเบนซ์ อายุ 56 ปี ที่เคยเมาขับรถชนตำรวจและภรรยาเสียชีวิต ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะออกมายอมรับชดใช้ความเสียหาย เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงธนบุรีมีคำสั่งยื่นอุทธรณ์คดี เพื่อไม่ให้รอลงอาญา โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะอัยการ ยื่นอุทธรณ์จริงเป็นไปตามหน้าที่ และศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ยืนตามศาลชั้นต้น คือ จำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญา โดยระหว่างนี้ตนต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา แต่ตนเองไม่ได้เปิดเผยข่าวสู่สาธารณชน จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ จะมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เช่น แจกคูปอง 3 พันบาท ให้คนไทย 10ล้านคน เที่ยวในประเทศไทยหลังคลายล็อคโควิดแหล่งข่าวจากททท.เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมนำมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศเสนอต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนำไปหารือกับกระทรวงการคลัง โดยพยายามเริ่มต้นมาตรการในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้หรือตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป มาตรการเตรียวไว้ เช่น รัฐเข้าไปช่วยจ่ายส่วนลดที่พักและโรงแรม 50% นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอช้อปช่วยชาติ ลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินกลางเดือนมิถุนายนนี้รูปแบบต่างๆ จะชัดเจนและนำเสนอไปยังครม. หลังจากนั้นนำเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง สศช.เพื่อขอใช้เงินจากพ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท เบื้องต้น กระทรวงเที่ยวฯ หารือสศช.กันวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท มาช่วยท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่เพียงพออาจจะขอเพิ่มเติมได้naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงสาธารณสุขชี้ การติดเชื้อโควิดผ่านสินค้าออนไลน์โอกาสน้อยมาก เพราะอากาศร้อนจัด จริงหรือคะอุณหภูมิห้องแบบประเทศไทย โอกาสที่เชื้อจะอยู่ได้นานระดับหลายวันคงไม่สูงมาก ซึ่งประเทศไทยร้อนจัด ขนาดอุณหภูมิ 20 องศา เชื้อยังอยู่ได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น ขณะที่อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเชื้อก็จะยิ่งมีชีวิตอยู่ได้สั้นลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นของที่มาถึงเรา หลังถูกจัดส่งมาแล้ว ก็ไม่ได้มีโอกาสติดเชื้อสูงมากโดยเฉพาะส่วนภายนอก โดยทางต่างประเทศได้ทำการวิจัย กล่องภายนอกซึ่งเชื้อจะอยู่กับของที่มีลักษณะเป็นรูพรุนเช่น กล่องกระดาษ เสื้อผ้า ได้สั้นกว่าพื้นผิวที่เป็นผิวเรียบเช่น สแตนเลท เพราะฉะนั้นภายนอกส่วนใหญ่ คาดเดาได้เลยว่า การจับแพ็กกล่องและจัดส่งมาระยะเวลาเกิน 24 ชม. โอกาสที่จะมีเชื้อภายนอกก็ไม่น่าจะสูงมาก ส่วนด้านในกล่องก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของด้านในเป็นอย่างไร แต่โดยทั่วไปหากอุณหภูมิสูงโอกาสที่จะมีเชื้ออยู่ด้านในก็ไม่น่าจะสูงมาก จริงหรือเปล่าคะโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำประชาชนในการทำความสะอาด ทำลายและฆ่าเชื้อโรค COVID-19เนื่องจากไวรัสโคโรนาสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน 2 ชั่วโมง - 9 วัน เพื่อป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อม จึงควรใช้สารที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อได้ใน ระยะเวลาสั้น องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำสาร 3 ชนิดที่ทำลายเชื้อไวรัสได้ภายในระยะเวลา 1 นาที ได้แก่ - สารประกอบโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% (เช่น น้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 1000 ppm) - ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์ 0.5% (5000 ppm) - และ แอลกอฮอล์ 62%-70% คำแนะนำฉบับนี้ จึงแนะนำวิธีการทำความสะอาด ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมสารทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ บริเวณพื้นผิว การจัดการภายหลังทำความสะอาด และข้อควรระวังโควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกกต. ชี้ข่าวเท็จ 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง-ไม่ดำเนินคดียุบพรรคอนาคตใหม่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจงข่าวเท็จ ยัน ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งจากการยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว ไม่เคยให้ข่าว 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง วันที่ 7 มิ.ย. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์ในทวิตเตอร์ ใช้ชื่อบัญชีว่า “Suphanat Aphinyan” ได้นำข้อความกล่าวหาว่า “กกต. ชุดนี้ห่วยแตกครับ เวลาผ่านมาเกิน 3 ปีแล้ว แต่คดีอาญาอันเนื่องมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่กลับเงียบสนิท กกต. ชุดนี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะความผิดที่นำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ พ่วงมาด้วยความผิดอาญาตาม ม.124, ม.125 และ ม.126 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง” นั้น กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ กล่าวคือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามความแจ้งแล้วนั้น กกต. ได้มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 16 คน โดยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน และ พงส. ได้รับคำร้องทุกข์ คดีอาญาที่ 403/2564 ดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่า พงส. สามารถดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นได้ ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้น กกต. จึงไม่ได้ละเว้นการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 16 คน และ กกต. ได้ดำเนินคดีอาญากับบุคคลทุกคนที่กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองใดๆ โดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ กกต. ยังชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์ในทวิตเตอร์ ใช้ชื่อบัญชีว่า “Democracy PheuthaiParty” และเฟซบุ๊กชื่อ “แหม่มโพธิ์ดำ.” ได้นำข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวว่า “สส.ก้าวไกล จะโดนใบแดงอีกเกือบ 10 คน เพราะว่า ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ ซึ่ง ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเลือกตั้งท้องถิ่นนั่นแหละ เช่น อบต. เทศบาล อบจ. สก. สข. ผู้ว่า กทม. แล้วไม่ได้ทำหนังสือแจ้งว่าทำไมไม่ไป อันนี้ก็เป็นคุณลักษณะต้องห้ามตาม รธน. อีก” โดยประชาชนได้นำข้อความดังกล่าว ไปโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ นั้น กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ กล่าวคือ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน กกต. หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่เคยให้ข้อมูล หรือเผยแพร่ข่าวสาร หรือแจ้งข่าว ไปยังสื่อมวลชนหรือช่องทางการสื่อสารใดๆ ว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล จะถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะเป็นผู้ได้รับใบแดง จำนวน 10 คน ตามที่สื่อต่างๆ ได้นำข้อความไปโพสต์แต่อย่างใด ทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้ กกต. ยังระบุคำเตือนด้วยว่า ผู้ใดแชร์ข่าวดังกล่าวด้วยวิธีการกดไลค์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต่อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.จิรพรรณ นิสภา• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุดช็อค! “ธนาคารโลก”ประจานเศรษฐกิจไทย กำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะ รัฐบาลโกงยอดคนอดตาย พุ่งเกินครึ่งของประชากร 27 พฤศจิกายน 2564 ราว 40 ล้านคน (57%) คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100% ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน รัฐบาลกู้มือเติบ 7 ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น ⚫️เจ๊งทั้งประเทศ ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานผลการประเมิน ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100% โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8 ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท ⚫️หนี้ท่วมทะลุเพดาน ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3% เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า 20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35% สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563 มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง ⚫️โกง-จน-เจ๊ง ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในโลก นำไปสู่ ‘ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน’ ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน ‘ผู้นำบ้าอำนาจ’ คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม (compromise) และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้ ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง (Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่ เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ เข้าแข่งขัน ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5% แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60% อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยระวัง 5 ข่าวลือป่วนวัคซีนโควิด-19 โคแฟคแนะเช็กก่อนแชร์แผนการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 กลับไม่ราบรื่นนัก เพราะเกิด “ข่าวลือข่าวลวง (Misinformation)” ในสังคมที่สร้างความตื่นตระหนก การเข้าใจแบบผิดๆ นำไปสู่ความไม่ไว้วางใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งภาคีโคแฟค ประเทศไทย (cofact.org) ได้เปิดเผย 5 ข่าวลือข่าวลวงที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงหรือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังถูกพูดถึงในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ 1.วัคซีนฝังไมโครชิป: เป็นประเด็นที่ถูกลือกันมากที่สุดในสังคมตะวันตก ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในช่วงแรกๆ โดยเชื่อว่าเป็นแผนการของพวกนายทุนด้านเทคโนโลยีที่ต้องการปูทางไปสู่การฝังไมโครชิปประชากรทั่วโลก เช่น ข่าวจาก BBC รายงานว่าผลการสำรวจของ ยูกอฟ (YouGov) บริษัทรับทำโพลชื่อดังของอังกฤษ ที่สอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 1,640 คน สรุปผลได้ว่า 28% เชื่อเรื่องแผนการฉีดวัคซีนเพื่อฝังไมโครชิป เป็นต้น ข่าวลือนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2563 เจ้าพ่อไอที บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ ออกมาพูดเปรยๆ ว่าในอนาคตจะมีการออกใบรับรองดิจิทัลสำหรับผู้ที่เคยป่วยจากไวรัสโควิดและได้รับการรักษาจนหายแล้วไปจนถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ข่าวลือเรื่องวัคซีนโควิดฝังไมโครชิปกลับมาพูดถึงอีกครั้งในช่วงปลายปี 2563 เมื่อสหรัฐฯ เตรียมการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยใช้วัคซีนที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ (Pfizer) ทำให้ทางไฟเซอร์ต้องชี้แจงส่วนผสมของวัคซีนซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ใช้ในวัคซีนหลายๆ ชนิดอยู่แล้ว และไม่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับไมโครชิป เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ก็ได้ออกมายืนยันว่า ไม่พบการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือไมโครชิปในวัคซีนโควิด-19 ในชนิดใดๆ ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ จากการตรวจสอบทางบีบีซี สรปได้ว่า ข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง 2.วัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์: ข่าวลือนี้ที่ถูกพูดถึงพร้อมสร้างความเป็นกังวลกันเป็นอย่างมากในสังคมไทยและต่างประเทศ โดยกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน จะส่งผลข้างเคียงทำให้ดีเอ็นเอของผู้ที่ได้รับวัคซีนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) จึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด คือ mRNA เช่น วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่นำรหัสพันธุกรรมส่วนเล็กๆ ของไวรัสมาใช้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน กับ Viral Vector เช่น วัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ใช้วิธีฝากสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ไปกับไวรัสชนิดอื่น แต่เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะเกิดการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 ด้วย และถึงแม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริง 3.วัคซีนทำให้คนเป็นหมัน: การมีลูกเพื่อสืบทอดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในหลายๆ ครอบครัว ข่าวลือนี้ได้สร้างความเครียด กังวลใจและมีแนวโน้มว่าในกลุ่ม สามี-ภรรยาหลายคู่จะปฏิเสธการรับวัคซีน เพราะเชื่อว่าวัคซีนวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย โดยหน่วยงานบริหารสินค้าด้านอายุรเวท (Therapeutic Goods Administration-TGA) ได้ระบุว่า ข่าวลือนี้อ้างถึงโปรตีนซินซิติน-1 (Syncytin-1) ที่ช่วยการพัฒนารก ซึ่งมีอยู่ในหนามแหลมของเชื้อโควิด-19 เหมือนกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าการได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือแม้แต่วัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์หรือการพัฒนาของรกแต่อย่างใด ข่าว "แนะท่านชายนำเชื้ออสุจิไปแช่แข็งก่อนรับวัคซีนโควิด” ได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริงด้วยเช่นกัน โดยศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย บมจ.อสมท ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูล #SureVac โดย Newtral.es 4.วัคซีนช่วยเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย: สาเหตุที่ประเด็นนี้ถูกพูดถึงเนื่องจากมีการอ้างถึงงานวิจัยชิ้นนึงว่า วัคซีนโควิด-19 จะช่วยเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชายให้ยาวขึ้น ทำให้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เมื่อต้นเดือน ม.ค. 64 ถึงกรณีมีการส่งต่อภาพที่อ้างว่าเป็นข่าวจากสำนักข่าว CNN สหรัฐอเมริกา ที่พาดหัวข่าวว่า แพทย์สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่อวัยวะเพศชาย เพราะจะทำให้วัคซีนกระจายไปทั่วร่างกายเร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมีการแชร์ไปถึงขนาดว่า ยังจะช่วยเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายให้ยาวขึ้นได้ถึง 3 นิ้ว โดยทั้ง 2 ข่าวได้กล่าวถึงอ้างงานวิจัย แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นข่าวปลอมทั้งหมด ตั้งแต่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ทำการศึกษาจากลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,500 คน นั่นไม่มีอยู่จริง หรืออ้างถึงวารสารวิชาการ The New England Journal of Merdecine นั้นก็ไม่มีอยู่จริง โดยวารสารที่มีจริงคือ The New England Journal of Medicine ซึ่งก็ไม่เคยตีพิมพ์บทความทำนองนี้แต่อย่างใด แม้กระทั่งสำนักข่าว CNN ก็ไม่เคยเสนอข่าวตามภาพที่นำมาอ้างกันด้วย เช่นเดียวกับตรวจสอบจากสำนักข่าว AFP และ อีกหลายสำนักสรุปตรงกันข่าวที่อ้าง CNN นี้เป็นข่าวลวง 5. วัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนา: ในบางศาสนานั้นมีข้อห้ามการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของสัตว์บางชนิด เช่น ศาสนาฮินดูห้ามบริโภคเนื้อวัว ศาสนาอิสลามห้ามบริโภคเนื้อหมู ทำให้เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวลือผิดๆ ว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทำจากส่วนประกอบของสัตว์ดังกล่าว ดังนั้นจึงนำไปสู่การปฏิเสธการรับวัคซีนจากบรรดาศาสนิกชน ที่ประเทศอังกฤษ ช่วงต้นปี 2564 ดร. ฮาร์พรีท สูท (Harpreet Sood) หัวหน้าหน่วยต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ยอมรับว่าทีมงานทำงานกันอย่างหนักและยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม และทาง Newsweek เองก็มีการตรวจสอบแล้วว่าเป็นข่าวลวง โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ และในส่วนของประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนกันไปแล้ว ความสับสนและข่าวปลอมเรื่องวัคซีนที่เกิดขึ้นและแพร่กระจายออกไปในวงกว้างดังกล่าวนี้ สุภิญญา ยอมรับว่าข้อมูลข่าวสารเรื่องวัคซีนไม่นิ่งและอลหม่านมากจึงทำให้คนกลัว ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ทั่วโลก มีทั้งมิติวิทยาศาสตร์และการเมืองปนกัน เรื่องวัคซีนยังเป็นนโยบายสาธารณะด้วย ดังนั้นภาครัฐต้องเร่งตอบคำถามจากสังคมให้ชัดเจน เช่น ทำไมเราได้รับฉีดวัคซีนช้า มีตัวเลือกอื่นหรือไม่ การบริหารจัดการโปร่งใสหรือเปล่า และ การเข้าถึงวัคซีนเป็นสิทธิ์ทั่วถึงเป็นธรรม รวมถึงการให้ข้อมูลที่สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่น ส่วนประชาชนควรแยกแยะว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือความคิดเห็นหรือความเชื่อ จะได้ไม่สับสนและมีความมั่นใจมากขึ้น ถ้าไม่แน่ใจอะไร ส่งมาให้สื่อมวลชน เช่น สำนักข่าว AFP ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สมาคมนักข่าวฯ และ โคแฟคเพื่อช่วยตรวจสอบได้เช่นกันstd46896• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย""_____ ธุรกิจขายสินค้าโดยวิธีการสมัครสมาชิก และให้สมาชิกซื้อสินค้านั้น จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ จะดูจาก ""#รายได้"" ว่า ได้มาจากอะไร ซึ่งศาลฎีกาเองก็ดูจากรายได้เช่นกัน ว่า #รายได้ที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภท ประเภทที่ 1. #รายได้จากการสมัครสมาชิก ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก และมีแนวทางการประกอบกิจการไปที่การแนะนำให้หาสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ วิธีการแบบนี้ เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ #เพราะไม่ได้เน้นที่การขายสินค้าและรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า ประเภทที่ 2. #รายได้มาจากการสมัครสมาชิก และ #การบังคับซื้อสินค้า วิธีการนี้ดูเผินๆเหมือนจะเป็นการตั้งใจประกอบธุรกิจ แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่า ไม่ได้มีเจตนาประกอบธุรกิจจริงๆ #แต่เป็นการหลอกให้ซื้อสินค้าไปเยอะๆแต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ ฉะนั้น รายได้จริงๆของเจ้าของธุรกิจ จึงไม่ใช่ผลกำไรจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง [** รายได้ของธุรกิจ จะต้องได้จากการขายสินให้คนทั่วไป ไม่ใช่รายได้จากการบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวน มากๆ / เรียกว่า ""รายได้หรือกำไรเทียม"" ] วิธีการแบบนี้เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่เช่นกัน เพราะรายได้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เกิดจากการหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ประเภที่ 3. #รายได้มาจากการาขายสินค้าทั่วไป ธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นธุรกิจทั่วๆไป คือ นำสินออกขาย ถ้าขายได้ก็ได้กำไร ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุน โดยจะไม่มีรายได้จากค่าสมาชิก หรือรายได้จากการบังคับซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #ธุรกิจที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้ เข้าลักษณะที่ 2. คือ มีสินค้าจริง แต่จะให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #แต่สินค้าจะขายไม่ได้ หรือจะขายได้น้อย #และถ้าไปดูรายได้ของบริษัทแม่จริงๆ ก็จะพบว่ รายได้หรือกำไร #มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก ส่วนสมาชิกจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อรายได้หรือกำไรของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่คนทั่วไป แต่เกิดจากการซื้ของสมาชิกเอง ก็แสดงว่า #รายได้หรือกำไรของบริษัทนั้นมีขึ้นก่อนที่จะนำสินค้าออกขายให้แก่คนทั่วไปโดยสมาชิก ดู ไทมไลน์ ดังนี้ 1. ผลิตสินค้า 2.หาสมาชิก 3. ให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมาก [** รายได้ของบริษัท] 4. สมาชิกนำสินค้าที่ซื้อไปขาย จะเห็นว่า รายได้ของบริษัท #เกิดขึ้นก่อน ที่สมาชิกจะเอาสินค้าไปขาย และเป็นรายได้ที่มาจากสมาชิกเอง วิธีการที่จะหลอกสมาชิกให้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ซื้อสินค้าในจำนวนมากๆได้นั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ""#ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์"" ธุรกิจพวกนี้จะให้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาช่วยโปรโมทธุรกิจของตนเอง "" ........ #โดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าให้เยอะขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกนำสินค้าไปขายได้ง่ายขึ้น .........."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2901/2547 วินิจฉัยว่า "" ..... ถ้ารายได้หรือผลกำไร มาจากค่าสมัครสมาชิก และจะได้มากขึ้นเมื่อสามารถชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกได้ #อันแสดงว่ารายได้หรือผลกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าหรือบริการ แต่ขึ้นอยู่กับการชักชวนหรือการหาสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ #และเมื่อรายได้หรือผลกำไรเกิดจากค่าสมัครสมาชิกไม่ได้เกิดจากสินค้าหรือบริการโดยตรง จึงต้องตามความหมายของบทนิยามคำว่า "กู้ยืมเงิน" และ "ผลประโยชน์ตอบแทน" ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ม. 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ....." ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1172/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการและธุรกิจของจำเลย #แต่จำเลยกลับไม่มีกิจการใดๆเลยที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่จำเลยโฆษณา ดังนั้น การโฆษณาชักชวนของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวง อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ....."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 326/2566 วินิจฉัยว่า "" ..... จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน กับ บริษัท อ. แต่กลับพบว่า ในขณะที่จำเลยชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้น บริษัท อ. #ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่นั้น ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัท อ.นั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัท #แต่กลับปกปิดความจริงข้อนี้เอาไว้ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ....."" #คดีตามข่าว เส้นแบ่งว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือไม่ ให้ดูจากรายได้ของบริษัท ว่า รายได้หรือกำไรมาจากการที่สมาชิกขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ หรือเป็นรายได้หรือกำไรที่ได้มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิกเอง ถ้ารายได้ของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วๆไป แต่เกิดจากการบังคับหรือหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ แบบนี้ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง โดยศาลจะถือว่า ""#รู้อยู่แล้วว่าสินค้าไม่สามารถขายได้"" และการใช้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาโฆษณานั้น #ก็ด้วยวัตถุประสงค์ให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการขายหรือช่วยให้สมาชิกขายสินค้าได้แต่อย่างใด (1) รายได้บริษัท มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก (2) การใช้ดารามาโฆษณา เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น (3) บริษัทได้รายได้ไปก่อนที่สมาชิกจะนำสินค้าไปขาย (4) พยายามชักจูงใจให้สมาชิกซื้อสินค้ามากกว่าขายสินค้าทั่วไป (5) สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาไม่ใช่เกิดจากการใช้จริง (6) บริษัทเน้นรายได้ที่จะไดจากสมาชิกเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่า สมาชิกจะขายสินค้าได้หรือไม่ (7) สุดท้ายบริษัทเท่านั้นที่มีรายได้ ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะขายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อซื้อสินค้าไป ก่อน (8) สมาชิกสนใจธุรกิจ เพราะ การโฆษณาชวนเชื่อ #ไม่ได้สนใจ #เพราะสินค้าขายดี จะเห็นว่า ธุรกิจแบบนี้ มีลักษณะที่ดูยากว่าเป็นการฉ้อโกง เพราะเขามีตัวสินค้าอยู่จริง และสินค้าเขาอาจจะดีจริงก็ได้เช่นกัน #แต่ขอให้ดูรายได้ของบริษัทว่ามาจากอะไร เพราะศาลเองก็จะดูเช่นกันว่า ถ้ามีเจตนาจะขายสินค้าหรือบริการจริงๆ ก็จะต้องเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการ #และรายได้หลักก็ควรเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการแก่บุคคลทั่วไป ไม่ใช่รายได้หลักเกิดจากการให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ รายได้หลักเกิดการการซื้อสินค้าของสมาชิก #ก็ย่อมแสดงว่า บริษัททราบอยู่ก่อนแล้ว่าสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็ทำรายได้ไม่ถึงกับที่ตนเองโฆษณา #ซึ่งในที่สุดสมาชิกก็จะขาดทุนเพราะสินค้าขายไม่ได้ อันถือว่าผิดหลักการค้าขายทั่วไป ที่จะต้อนเน้นไปที่การขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ ไม่ใช่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกซื้อสินค้าเยอะๆ _____"" #คดีโลกคดีธรรมการเงินผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปัญญาประดิษฐ์ : อันตรายแค่ไหน เมื่อเอไอเขียนข่าวปลอมเองได้OpenAI บริษัทค้นคว้าวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เปิดตัว ปัญญาประดิษฐ์ที่เขียนตัวอักษรเองได้ (the text generator) ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำไปสร้างข่าวปลอม หรือข้อความสแปม (ข่าวขยะ) ที่มีลักษณะรังแกเหยียดหยาม ในโซเชียลมีเดีย ก่อนหน้านี้บริษัทจัดว่าโปรแกรมนี้อันตรายเกินไปที่จะเปิดให้สาธารณะใช้ แต่ตอนนี้ได้เผยแพร่ระบบรุ่นใหม่ซึ่งทรงพลังมากกว่าเดิมออกมาแล้ว บีบีซีและผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ทดลองใช้ระบบที่ชื่อว่า GPT-2 นี้ดู ซึ่งเป็นระบบที่สร้างจากฐานข้อมูลจากหน้าเว็บถึง 8 ล้านแห่ง และสามารถสร้างข้อความใหม่ขึ้นโดยใช้ฐานจากข้อความเริ่มต้นที่คนป้อนไปให้ ระบบสามารถเขียนกลอนเชกสเปียร์ต่อจนจบบท และเขียนบทความเองได้ ทริสตัน กรีน เขียนบทความลงในเว็บไซต์ด้านเทคโนโลยี The Next Web ว่า เขารู้สึกกังวลกับระบบ GPT-2 เพราะ "มันเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีประเภทที่มนุษย์คิดร้ายจะใช้ในการชักจูงผู้คน และผมคิดว่ามันอันตรายกว่าปืนชนิดไหน ๆ เสียอีก" ปัญญาประดิษฐ์ช่วยตัดต่อภาพได้อย่างไร? เอไอก้าวล้ำไปอีกขั้น รู้จักทำงานเลียนแบบเซลล์สมองมนุษย์ได้เอง มนุษย์ต้องกลัวเอไอที่สร้างภาษาขึ้นใช้เองไหม ? บริษัทญี่ปุ่นปลดพนักงานออกทั้งแผนก แล้วใช้เอไอทำงานแทน บีบีซีทดลองใช้ระบบด้วยการใส่ประโยค 2-3 ประโยคจากข่าวจริงของบีบีซีที่ระบุว่า : "Sogou เว็บไซต์ค้นหาของจีนได้สร้างคนหน้าเหมือนจากปัญญาประดิษฐ์เพื่ออ่านนวนิยายยอดนิยมด้วยเสียงของผู้เขียน" และนี่คือผลลัพธ์ที่เอไอเขียนขึ้นมา : "นักวิจัยระบุว่า วิธีการอ่านนี้ไม่ใช่แค่สิ่งประดิษฐ์ของผู้ใช้ Amazon Kindle เท่านั้น ผู้ใช้อุปกรณ์ของ Android ยังเป็นกลุ่มตลาดที่สำคัญสำหรับการอ่านแบบปลอม ๆ อีกด้วย มีหลายทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายสิ่งนี้..." นี่คือข่าวจริงที่คุณสามารถลองอ่านเปรียบเทียบดูได้ โนเอล ชาร์คีย์ ศ.ด้านคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ ได้ทำการทดลองใช้ระบบนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่ประทับใจเท่าไรนัก "ถ้าซอฟต์แวร์ทำงานได้ดีเท่ากับที่ OpenAl อ้าง มันจะสามารถสร้างข่าวปลอมหรือข้อความปลอมที่ล่อให้คนคลิกได้ง่ายมาก แต่โชคดีที่ระบบ ณ ตอนนี้ ยังสร้างข้อความที่ฟังดูตลก และไม่เชื่อมโยงกันกับข้อความตั้งต้นที่ให้ไป" ชาร์คีย์ ใส่ข้อความตั้งต้นไปว่า ไก่งวงเกลียดเทศกาลคริสต์มาส (Turkeys hate Christmas) แต่ข้อความที่ได้กลับมาคือ "ตุรกีเป็นชาติเดียวในโลกที่ไม่ฉลองเทศกาลคริสต์มาส" (Turkey is the only nation in the world that doesn't celebrate Christmas) เดฟ คอพลิน ผู้ก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ The Envisioners ได้ลองทดลองระบบนี้เช่นกันโดยใส่คำตั้งต้นไปว่า "ชายคนหนึ่งเดินเข้าบาร์..." ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคือ "...และสั่งเบียร์ 2 แก้ว และเหล้าสก็อตช์ 2 แก้ว ตอนชายคนนั้นพยายามจะจ่ายเงิน มีชายสองคนมาเผชิญหน้าเขา คนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า "นี่เพื่อซีเรีย" แล้วชายคนนั้นก็ถูกทิ้งให้เลือดไหลและถูกแทงที่คอ" เขาบอกว่า ผลลัพธ์นี้เป็นบทเรียนว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์ใด ๆ ก็ตามจะเผยให้เห็นอคติที่พบในฐานข้อมูล คอพลิน บอกว่าเมื่อผ่านช่วงเริ่มต้นของการใช้ระบบลักษณะนี้ไปแล้ว สิ่งสำคัญที่คนในสังคมจะต้องมาถกเถียงกันคือ เราอยู่ในโลกลักษณะไหนที่นับวันข้อมูลที่สร้างโดยมนุษย์กับที่สร้างโดยระบบคอมพิวเตอร์ดูจะแยกออกจากกันยากมากขึ้น ในตอนแรก OpenAI เป็นบริษัทไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในลักษณะที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ในตอนแรก อีลอน มัสก์ ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนด้วย แต่เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทมาสักพักแล้วล้อเลียน เสียดสีแอคปลอมstd48359• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปัญหาคู่กับเมืองไทย จอดรถทิ้งไว้ร้อนมาก ขึ้นรถไปควรทำยังไงดีเพื่อให้เรารู้สึกเย็นไวสุด!? . สหพันธ์รถยนต์ของญี่ปุ่น (JAF) เค้าพิสูจน์มาให้แล้วว่า อะไรคือคำตอบของเรื่องนี้ โดยทดลองด้วยการใช้รถที่อุณหภูมิภายในรถ เริ่มต้นสูงถึง 55 องศา . 1.เปิดปิดประตูรถ 5 ครั้ง 🔅อุณหภูมิลดลงทันทีจาก 55 เหลือ 47.5 องศา แต่ก็ยังร้อนอยู่ . 2.เปิดแอร์รถแรงสุด กดปุ่มให้สามารถ ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาในรถ แล้วรอ 10 นาที (โดยไม่ต้องเปิดกระจก) 🔅อุณหภูมิค่อยๆ ลดลงไป ใช้เวลา 10 นาที จาก 55 ลงมาเหลือ 29.5 องศา . 3. เปิดแอร์รถแรงสุด กดปุ่มให้อากาศหมุนเวียนแค่ภายในรถ แล้วรอ 10 นาที (โดยไม่ต้องเปิดกระจก) 🔅 อุณหภูมิค่อยๆ ลดลงไป ใช้เวลา 10 นาที จาก 55 ลงมาเหลือ 27.5 องศา . . แต่ทั้ง 3 วิธีนี้ก็ยังไม่สุด อันแรกลดความร้อนได้ไม่มาก ส่วนวิธีที่ 2,3 ก็ต้องรอนานมากกว่า 10 นาที กว่าอุณหภูมิภายในตัวรถถึงจะเริ่มเย็น . . =================== ฉะนั้น ทาง JAF เค้าพิสูจน์ต่อ เพื่อค้นหาวิธีที่ตอบโจทย์มากที่สุด ได้คำตอบว่า หากต้องการลดอุณหภูมิภายในรถไวๆ แล้วได้ผลดี คือต้องอาศัย “เปิดแอร์รถ” + “ต้องแล่นรถออกไปด้วย” โดยจากการพิสูจน์พบว่า 🔅ให้ลดกระจกทุกบานลงให้สุด + 🔅เปิดแอร์แรงสุด + 🔅กดปุ่มปิดหมุนเวียนอากาศให้รถดึงอากาศจากภายนอกรถเข้ามาในรถด้วย จากนั้นให้แล่นรถออกไปเลย เพื่อไล่อากาศร้อนในรถออกไปทันที . เมื่อแล่นรถครบ 2 นาทีแล้ว 🔅ให้ปิดกระจกทุกบาน + 🔅กดปุ่มหมุนเวียนอากาศให้อากาศหมุนเวียนแค่ภายในรถ เพียงเท่านี้อากาศในรถก็จะเย็นทันที จากการทดลองนี้สามารถเปลี่ยนจาก รถอุณหภูมิสูงมาก 55 องศา กลายเป็น 28 องศา ภายใน 2 นาที!!! ชอบมากที่ญี่ปุ่นทดลองให้เห็นภาพเลย ดูแล้วอยากทดลองตามด้วย . แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ทุกวันนี้ใช้วิธีไหนกันอยู่บ้าง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ร้อนสาหัสแบบทุกวันนี้ Boom JapanSalaryman Cr: ANN News, JAFสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 20 บาท ลุ้นรางวัลเงินล้าน เช็กเงื่อนไขผู้ฝากที่นี่ธนาคารออมสิน ออกผลิตภัณฑ์การเงินเอาใจสายออมวัยเด็ก ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์สลากออมสินพิเศษ 1 ปี Youth Salak ลุ้นรับเงินรางวัลเดือนละ 9 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ระยะเวลารับฝาก ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป ผู้มีสิทธิเปิดบัญชี บุคคลธรรมดา อายุ 7 – 22 ปี (นับจากปี พ.ศ.) อายุ 1 ปี (สิทธิการถูกรางวัล 12 ครั้ง) หน่วยละ 20 บาท รายละเอียดดอกเบี้ย ฝากครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.06 บาทต่อหน่วย (ร้อยละ 0.30 ต่อปี) อัตราดอกเบี้ยกรณีผิดเงื่อนไขการฝาก ฝากไม่ครบ 3 เดือน หักส่วนลด 0.05 บาทต่อหน่วย ฝากครบ 3 เดือน ไม่ครบ 1 ปี ไม่ได้รับดอกเบี้ย วงเงินในการรับฝาก ฝากขั้นต่ำ 20 บาท (1 หน่วย) ไม่จำกัดวงเงินรับฝากต่อราย ระยะเวลาจ่ายดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดระยะเวลาฝาก โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากประเภท เผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน การออกรางวัล ทุกวันที่ 16 ของเดือน *หยุดจำหน่ายทุกวันที่ออกรางวัล* การรับเงินรางวัล โอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนในวันถัดจากวันที่ออกรางวัล เงื่อนไขหลัก ผู้ฝากต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน สำหรับรับโอนเงินต้นและดอกเบี้ยเมื่อสลากครบอายุ และเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝาก ไม่รับฝากบัญชีร่วม ไม่รับฝากบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์ สลากครบอายุ โอนเงินสลากครบอายุเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน เงินรางวัล รางวัล จำนวนครั้งที่ออกรางวัล เงินรางวัลละ รางวัลเพื่อการศึกษา 5 30,000 บาท ดอกเบี้ยครบอายุ ระยะเวลาฝาก ดอกเบี้ย (บาท/หน่วย) อัตราดอกเบี้ยต่อปี ถอนคืนได้รับ (บาท) ฝากครบ 1 ปี 0.06 0.30% 20.06 การออกรางวัล ธนาคารออมสินจะทำการออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ทุกวันที่ 16 ของเดือน โดยจะทำการถ่ายทอดสดทางสื่อออนไลน์ (Facebook Live : 9 MCOT) ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึงเวลา 11.10 น.namnami• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเทียบกันชัดๆ iPhone 15 Pro Max VS Pixel 8 Pro กล้องใครเด็ดกว่ากันในต่างประเทศตอนนี้ Google Pixel 8 Series เริ่มส่งมอบกันไปแล้ว ซึงความน่าสนใจอยู่ที่ Pixel 8 Pro เพราะรุ่นนี้มีการปรับปรุงเรื่องกล้องครั้งใหญ่พอสมควร จนหลายคนสงสัยว่ามือถือแพงระดับนี้เมื่อเจอกับ iPhone 15 Pro max นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ด้านเว็บไซต์ MacRumors ได้เผยผลกาสรทดสอบออกมาแล้ว สเปกกล้อง iPhone 15 Pro Max กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS + ProRAW 4K 60FPS กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา กล้อง Telephoto 5x แบบ Periscope Zoom กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus วิดีโอ 4K 30/60 FPS, 1080p 30/60 FPS สเปกกล้อง Pixel 8 Pro กล้องหลัง 3 ตัวได้แก่ กล้องหลัก 50 MP, f/1.7, 25mm (wide) 1/1.31", 1.2µm, multi-directional PDAF, Laser AF, OIS Quad-PD กล้อง Ultra-Wide 48MP, f/2.8, 126˚ (ultrawide), dual pixel Quad PDAF กล้อง Telephoto 48 MP dual pixel PDAF, OIS, 5x optical zoom รองรับ Quad-PD วิดีโอ 4K@30/60fps, 1080p@24/30/60/120/240fps; gyro-EIS, OIS, 10-bit HDR กล้องหน้า : 10.5MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@24/30/60fps, โดยภาพชุดแรกที่เห็นนี้พบว่า Google Pixel จะมีรายละเอียดที่สว่างกว่า โดยการทำงานของกล้องที่เน้นระบบ HDR ทำให้การเก็บรายละเอียดวัตถุดทำได้ดีแต่ว่าเมื่อเทียบกับท้องฟ้า iPhone 15 Pro max ให้สีสันของท้องฟ้าที่ภาพรวมแล้วสวยกว่า ส่วนภาพที่มีท้องฟ้าสีไม่สว่างพบว่า หลายภาพของ iPhone 15 Pro Max ให้สีที่มืดกว่าเมื่อเทียกับ Pixel 8 Pro โดยสังเกตว่าจุดสีดำนั้นมีความเข้มกว่าและบางจุดสีบางจุดสะใสกว่า ขณะที่ Google จะเน้น Contrast ที่ลดลงโดยถ่ายภาพสีที่มีความสว่างกว่า ทั้งนี้ในเรื่องการสั่นของวิดีโอแล้ว iPhone 15 Pro Max ยังคงกินขาดกว่า Pixel 8 Pro แต่ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม iPhone 15 Pro Max จะมีตคัวเลือกให้สามารถปรับวิดีโอเป็นแบบ ProRes ที่สามารถเลือก Log ในการจะดการภาพได้ โดยรวมแล้วทั้งคู่ดีกันไปคนละจุด แต่ใครชอบตัวไหนที่สุดคงต้องเลือกกันเองหรือ Comment มาพูดคุยกันได้มีมnamnami• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือ บริษัทน้ำมันพืชของพิธาโดน 3 ธนาคาร ฟ้องอ้างเป็นผู้ล้มละลายเป็นนายกไม่ได้จากข้อความที่มีการแชร์ในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ ว่า พิธาไม่ได้เป็นนายกถูก 3 แบ้งก์ฟ้องบริษัทน้ำมันพืชรำข้าวที่พิธาเป็นผู้จัดการค้ำประกันส่วนตัว และหนี้จำนำหุ้นบริษัทกับสถาบันการเงินมี ไทยพาณิชย์ ธนชาติ และ ยูโอบี ถึง 460 ล้านบาท และสถาบันการเงินทั้ง 3 ได้ฟ้องทวงหนี้ให้ชำระหนี้ 460 ล้าน นายพิธาไม่ยอมชำระหนี้ดังกล่าว แต่กับไปให้ศาลล้มละลายกลางไกล่เกลียหนี้ เพื่อไม่ให้นายพิธาถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย ทำให้นายพิธากลายเป็นบุคคลล้มละลายไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้อีกต่อไป แต่ถ้านายพิธาสามารถฟื้นฟูกิจการได้ตามที่นายพิธาร้องขอต่อศาลล้มละลายกลางได้สำเร็จนายพิธาก็จะสามารถเป็นนายกได้ต่อไป แต่ศาลล้มละลายกลางจึงจำเป็นต้องจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหนี้ทั้งหลายมาขอรับชำระหนี้ต่อศาลล้มละลายกลาง เพราะศาลล้มละลายคือตัวแทนเจ้าหนี้ทำงานรวบรวมทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อนำทรัพย์นั้นขายชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย โดยมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตัวแทนลูกหนี้เป็นผู้รวบรวมทรัพย์ลูกหนี้ และระหว่างมีคำขอชำระหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหลาย ลูกหนี้คือนายพิธาไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของตัวลูกหนี้เองคือนายพิธา โดยไม่รับอนุญาติจากศาลล้มละลายก่อนเพราะว่าการทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆ หลังจากรู้ว่าตัว เองมีหนี้สินล้นพ้นตัวถูก สถาบันการเงินฟ้องทวงหนี้ถึง 460 ล้านบาท การทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายพิธาลูกหนี้ ทำให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบได้รับชำระหนี้ไม่ครบถ้วนตามฟ้องร้องหรือตามที่ขอชำระหนี้ต่อศาลล้มละลายกลางที่นายพิธาขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ทำให้นายพิธาเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับทรัพย์ตัวเองและบริษัทถ้าฝ่าฝืนมีการโอนหุ้น ไอทีวี 42,000 หุ้น ทั้งที่รู้อยู่ว่าตัวเองถูกฟ้องให้ชำระหนี้และมาขอศาลฟื้นฟูบริษัท ยังมาโอนหู้นตัวเองให้บุคคลภายนอก ทำให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบ ทรัพย์สินที่จะเอามาชำระหนี้ลดน้อยลงเป็นการโกงเจ้าหนี้ไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ที่มีอยู่ จึงเข้าข่ายถูกเพิกถอนการโอนหุ้นบริษัทไอทีวี 42,000 หุ้นตามกฎหมายล้มละลายทำให้ผู้พิทักษ์ทรัพย์ตัวแทนลูกหนี้สามารถฟ้องให้การโอนเป็นโมฆะ กลับมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเพื่อขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้มาเฉลี่ยให้กับเจ้าหนี้ทั้งหลายตามกฎหมายล้มละลาย นายพิธาจึงเป็นเสมือนบุคคลล้มละลายไปแล้วมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้อีกต่อไปและไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยตามกฎหมายไทยที่มาของนายกห้ามบุคคลล้มละลายเป็นนายกข่าวการเมือง เสียดสีชุมพล ศรีสมบัติ• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยช้อค ! คำสารภาพจาก "จอมโจรงงัดบ้าน" สติปัญญา น่าจะ โคนัน เลยทีเดียว 1 มีนาคม 2564 ช่วงสุดท้าย โจรพูด ถึงหมาด้วย - - - - 1. อย่าก็เปิดไฟทิ้ง โชว์ไว้ทั้งวันทั้งคืน ให้ ใช้โคมไฟอัตโนมัติ แบบแสงอาทิตย์หรือ ตั้งเวลาเปิดได้ 2 การคล้องกุญแจ ประตูรั้ว ให้คล้องจาก ด้านใน และมีแผงเหล็ก อะไรบังไว้ 3. การติดเหล็กดัด ืต้องติดตากด้านใน ให้โจรทำงานยาก 4. อย่าติดกล่องรับ นสพ.หรือไปรษณีย์ โปร่งๆ โจรมันจะรู้ถ้า มี นสพ.หรือจดหมาย ืคาไว้ 5. มันมักจะเลือก บ้านเดี่ยวที่มีรั้ว และ ลงมือปีนเข้าไปงัด เพราะขั้นตอนการงัด ยังไงก็เกิดเสียง 6. ช่วงที่นิยมลงมือ ืคือตี 3 ไปแล้ว 7. โจรมักจะมาดู ลาดเลาตอนกลางวัน ก่อน ถ้ามานอนดึก สภาพยังแบบเดิม เหมือนไม่มีใครอยู่ ก็ลงมืองัดเลย 8. ถ้าสภาพบ้าน เหมือนไม่มีใครอยู่ แต่ได้ยินเสียงเปิด แอร์กลางคืน ก็จะ ยกเลิกงัด 9. ตู้เซฟทุกชนิด ิถ้ามีบานพับยื่นออก มา เขาใช้เลื่อยตัด บานพับก่อนงัด 10. ตู้เซฟไม่ว่าใหญ่ แค่ไหน ถ้ามันล้มตู้ให้ นอนลงได้ ก็สามารถ เอาแชลงมางัดได้ ทุกตู้ 11. โจรบอก ! ถ้าคุณ เลือกซื้อตู้เซฟ ต้องซื้อ แบบที่มีบานพับซ่อน อยู่ข้างใน 12. ต้องทำช่องโบก ปูน แล้วเอาตู้เซฟฝังเข้า ไปข้างใน ไม่ให้มันดึง ตู้ออกมาได้ ก็จะงัด ไม่ได้ 13. ถ้าโจรขึ้นบ้าน ปุ๊บ! เขาจะขึ้นชั้น 2 เลย เพราะชั้นล่าง มักไม่มี ของมีค่าที่ต้องการเลย 14. ของมีค่าที่โจรมุ่ง หา มักอยู่ในห้องนอน ในตู้เสื้อผ้า หรือตู้หัว เตียง บ้านไหนก็บ้าน นั้น ..ต้องเจอ ! 15. ควรติดสัญญาณ กันขโมยตามหน้าต่าง ประตูแบบมีเสียง โจร จะหนีทันที 16. มิเตอร์น้ำด้วย ! ถ้ารอบแรกมันมาดูตัว เลข แล้วไม่ขยับ แสดง ว่า ไม่มีคนอยู่บ้าน 17.ใบไม้หน้าบ้านไม่ เก็บกวาดมันจะเอาใบไม้ เสียบข้างประตูปิด-เปิด ถ้ายังอยู่ที่เดิมตลอด แสดงว่าไม่มีคนเข้าออก คือไม่มีคนอยู่บ้าน # จากการสอบสวน ปากคำ จากโจร โดยตรงเลย # ข้อสุดท้าย ! ฮา แบบได้ข้อคิด .. จอมโจรคนนี้บอกว่า ควรเลี้ยง"หมา"เฝ้าบ้าน เพราะดีกว่า "ยาม" เขาบอกว่า ยาม ก็คือยาม บ้านคุณ 'ไม่ใช่บ้านยาม' ทรัพย์สินของคุณก็ 'ไม่ใช่ของยาม ' แต่ "หมา" ไม่ใช่ ! บ้านและทรัพย์สิน ของคุณ ก็คือ " ของหมาด้วย " หมาคิดอย่างนั้น .. (โจรรู้อีก ! ) เป็นข้อมูลที่ มีประโยชน์ ครับ /.ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยโรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia)โรคขี้เกียจเดินของผู้สูงวัย. โรคซาร์โคเพเนีย (Sarcopenia) คือ การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ โครงกระดูก และ ความแข็งแรงเป็นผลมาจากการแก่ตัว หรือ การเป็นผู้สูงอายุที่ขี้เกียจเดิน ผู้สูงอายุทุกท่าน ระวัง “ซาร์โคเพเนีย” จะมาเยือนท่าน:- 1. พยายามยืน/เดิน ให้มากขึ้น นั่ง/นอน เท่าที่จำเป็น! 2. หลังอายุ 60 ~ 70 ปี ยากที่จะลดน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถ้าไม่ออกกำลังกาย และพึ่งพา การกินให้น้อยลงเพื่อลดน้ำหนัก! กล้ามเนื้อทั้งหมดอาจหายไป มันอันตรายมากนะ! 3. การเดิน การขี่จักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่ดี และไม่เจ็บเข่า 4. ถ้าผู้สูงอายุป่วย และเข้าโรงพยาบาล การนอนเพียง 1 สัปดาห์ ผู้สูงอายุ จะเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างน้อย 5% ! 5. ปกติผู้สูงอายุ จำนวนมาก ที่ไม่ทำอะไรด้วยตนเอง ที่จ้างผู้ช่วยคอยดูแล คอยพยุง จะยิ่งสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเร็วขึ้น ! 6. ตราบใดที่ผู้สูงอายุ พยายามเดิน หรือเคลื่อนไหวด้วยตัวเองบ่อยๆ กล้ามเนื้อทั้งหมดของร่างกายจะเกี่ยวข้อง! รวมไปถึงการกลืนอาหาร ก็จักดีขึ้น 7. โรคซาร์โคเพเนีย นั้น ความจริง น่ากลัวมากกว่าโรคกระดูกพรุน ! เพราะ โรคซาร์โคเพเนียไม่เพียงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย 8. ผู้สูงอายุ ที่ไม่ค่อยเดิน หรือ ขาเคลื่อนไหวน้อย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง ดังนั้น อย่างน้อย ฝึกนั่งสควอต (ยืน/นั่ง ยอง วันละ 20-30 ครั้ง) หรือ ยืนขึ้นทันที เมื่อก้นของคุณ สัมผัสที่นั่งบนเก้าอี้ วันละ 20-30 ครั้งก็ยังดี ดังนั้น วันนี้ คุณต้องใส่ใจกับ ซาร์โคเพเนีย!แล้วนะ ขึ้น & ลงบันได ... การเดิน ในทุกวัน สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้! เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น…สำหรับทุกคนเมื่อเป็นผู้สูงวัย... ▪️การศึกษา จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์กพบว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ของการไม่เดิน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา สามารถ ลดประสิทธิภาพของขาลงได้ถึง 1 ใน 3 ซึ่งเท่ากับอายุเพิ่มขึ้น 20 - 30 ปี !! งั้นเดินไปเถอะ ▪️เมื่อใด กล้ามเนื้อขาของเราอ่อนแอลง เราจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัวในภายหลัง ▪️ดังนั้น การเดินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ▪️ 50% ของกระดูก & 50% ของกล้ามเนื้อ อยู่ในสองขาของเรา ▪️ข้อต่อ & กระดูกที่ใหญ่ที่สุด & แข็งแรงที่สุด ก็อยู่ที่ขาของเรา ดังนั้น พยายามเดินให้ได้ ในทุกวันMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสถานการณ์โควิด19:52 อรชร @ ปุ๊ ลูกชาย นพ.อดิศักดิ์ si69 อายุ51 เปนนักข่าว AP ที่ NY เสียชีวิตด้วยคว19 ทั้งที่มีอาการเล็กน้อย อจ.อดิศักดิ์เล่าว่า ‘ลูกชายเป็นคนแข็งแรง นักวิ่งมาราธอน ได้เหรียญ Full marathon มา 80 กว่าเหรียญแล้ว วันหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้รู้สึกเหนื่อยและเพลีย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไปหาหมอ เขาก็เลยตรวจ COVID 19 test ปรากฏว่า positive ได้ follow up กับหมอมาตลอด จนกระทั่งมีอาการ breathing issue ถึงได้ไป ER ใน Manhattan พบ Pneumonia เข้า ICU on Ventilator ไม่กี่ ชม. ก็เสียชีวิตครับ มันรวดเร็วมากๆ อยากบอกเพื่อนๆว่า อย่าเอาเรื่องไข้ 37.5 C เป็น indicator ของโรคนี้ Unexplained fatigue ควรรับไว้พิจารณาด้วย.. 19:52 อรชร @ ปุ๊ For your information นะคะ จาก เพื่อนรัก พี่เปิ้ลซึ่งเป็น อาจารย์แพทย์ที่ ศิริราชค่ะส่งมาให้ วันนี้ 16 กค 65 เชื้อ BA5 ติดง่ายมากจนคิดว่าลงท้ายคงเป็นกันทุกคนทั้งโลก เมื่วานนี้มีแพทย์ท่านหนึ่งติดโควิดแล้วหาเตียงตามสิทธิ UC รักษาในรพ.ของรัฐไม่ได้ ขณะนี้อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ใน ICU รพ.เอกชนแห่งหนี่ง ทุก ๆ วันมีญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ปรึกษาผมมาวันละหลาย ๆ รายว่าติดโควิดแต่หาที่รับยาและ/หรือหาเตียงในรพ.ไม่ได้ ซึ่งมีในทุก ๆ สิทธิของระบบการรักษา และเพื่อน ๆ แพทย์ต่างก็ปรารภมากับผมว่าพบเหตุการณ์แบบเดียวกันจำนวนมาก ในฐานะที่ผมเป็นแพทย์คนหนึ่งที่ยังตรวจผู้ป่วยที่รพ.อยู่เป็นประจำ ประเมินจากสถานการณ์จริงว่าขณะนี้น่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มในแต่ละวันเกินกว่าห้าหมื่นคนอย่างแน่นอน มีทั้งแบบไม่มีอาการ แบบอาการน้อยและแบบอาการหนัก (ทั้ง 3 แบบต่างก็แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ทั้งสิ้น) ซึ่งเพื่อน ๆ แพทย์ของผมที่อยู่หน้างานจริงต่างก็คิดเหมือน ๆ กัน ดังนั้นผมจึงขอให้พี่น้องประชาชนทุก ๆ ท่านอย่าประมาทและการ์ดอย่าตกอย่างเด็ดขาดเพราะบางรายแม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 608 และฉีดวัคซีนแล้วไม่ต่ำกว้า 3 เข็มติดแล้วต้องใส่ท่อช่วยหายใจก็ยังมีให้เห็น อีกทั้งโควิดไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่หายแล้วจบ หากแต่ภายหลังหายแล้วระยะหนึ่งอาจเกิด MIS-C (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children) กับลูกหลานของท่านซึ่งเป็นการอักเสบของหลาย ๆ อวัยวะพร้อม ๆ กันทำให้อาจเสียชีวิตได้ รวมทั้งทุก ๆ ท่านที่ติดเมื่อหายแล้วยังอาจเกิด Long Covid ในระยะยาวที่มีอาการได้ทั้งทางสมองและทางร่างกายทุก ๆ ส่วน กับท่านได้อีกด้วยนะครับ ด้วยความรักและความห่วงใย ศ.คลินิกเกียรติคุณนพ.อำนาจ กุสลานันท์ อดีตนายกแพทยสภาโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาการโควิด เร็วมากจริงๆ และไม่มีอาการที่รุนแรงในตอนแรก เรื่องนี้ จริงหรือไม่เขาอนุญาตให้แชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นค่ะ ************************************* คุณพ่อเพื่อนเสียกะทันหันเมื่อคืนค่ะ ทราบทีหลังว่าเป็นโควิด เรื่องราวอาการของคุณพ่อพี่ S คุณพ่อมีอายุ 72 ปี ชอบออกกำลังกาย ขี่จักรยานในหมู่บ้าน (แถวบางแค) เป็นคนค่อนข้างระวังตัวมากๆ ใส่หน้ากากตลอดและเว้นระยะเสมอ เป็นคนออกไปซื้อของเข้าบ้าน ตามร้านแถวบ้าน ไม่เข้าห้างเลย ออกเมื่อจำเป็นเท่านั้น อาการ 30 เมษายน คุณพ่อรู้สึกเหมือนเป็นหวัด ไอเล็กน้อย วัดอุณภูมิวัดได้ 37.XX (ไข้อ่อนๆ) เข้าใจว่าเป็นหวัดเนื่องจากเพิ่งโดนฝนมา 1 พฤษภาคม ไปหาหมอที่โรงพยาบาล แถวสาทร x-ray ปอด คือปรกติ คุณพ่อต้องการ swap test เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่โควิด แต่ทางโรงพยาบาลเห็นจาก x-ray ประกอบกับการสอบถาม ถือว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และประเมินว่าเป็นไข้หวัด 3 พฤษภาคม คุณพ่อตัดสินใจไปโรงพยาบาลรัฐ แถวสีลม เพื่อจะได้ swap test แต่ด้วยประวัติไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และประกอบกับการดู x-ray (จากโรงพยาบาล เซน หลุยส์) ยังคงประเมินว่าเป็นไข้หวัด และเพิ่มยาฆ่าเชื้อให้ 4 พฤษภาคม พักอยู่บ้านดูอาการ 5 พฤษภาคม กลับไปโรงพยาบาลรัฐ แถวสีลม อีกครั้ง หมอสั่งจ่ายยาให้แรงขึ้นกว่าเดิมเพราะยังมีอาการไอมาก 6 พฤษภาคม เหนื่อย และไอ แต่ยังเดินเข้าไปใช้บริการที่โรงพยาบาลได้ ขอ swap test แต่ได้ rapid test ซึ่งผล 50/50 และได้ x-ray ปอดตอน 19:00น. ผลคือมีฝาตรงกลางปอดไม่ใหญ่มาก และยังวินิฉัยว่าไม่น่าใช่โควิด หลังจากนั้น 2- 3 ชั่วโมงถัดมา x-ray ปอดอีกครั้ง ปรากฏว่าฝาเต็มปอดแล้ว ไม่นานคุณพ่อก็เสียชีวิตเลยค่ะ พี่ S ฝากมาให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ทุกคนระวังกันมากๆนะคะ เพราะมันเร็วมากจริงๆ และไม่มีอาการที่รุนแรงในตอนแรก คุณหมอแจ้งว่าไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเพราะ เป็นจากข้างในมาข้างนอก คือลามจากปอดออกมา แนะนำว่ามีเครื่อง Oxemeter (เครื่องวัด oxygen และหัวใจ) ติดบ้านกันไว้ บางทีไข้อาจจะไม่ขึ้น แต่ค่า oxygen อาจจะต่ำลงกว่า 96 ได้ค่ะโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสถานที่เสี่ยงของสมุทรปราการ จริงหรือไม่สถานที่เสี่ยงของสมุทรปราการ... ไม่ต้องไปไหนกันแล้วครับ สถานที่เสี่ยงจะมีดังนี้ 1.บิ๊กซีศรีนครินทร์ 2.แม็คโครศรีนครินทร์ 3.อิมพีเรียลสำโรง 4.เทสโก้โลตัสศรีนครินทร์ 5.เซ็นทรัลบางนา 6.อุดมสุข 7.s&s sukhumvit condo ที่ ถนนสุขุมวิท 101/1 8.บริษัท"....."แถวตลาดคู่สร้าง 9.คอนโด parkland ที่อยู่ติดกับโรงพยาบาลศิครินทร์ (เกี่ยวข้องกับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิเป็นเด็กคนนึง7ขวบ...ทามลายน์เขาอยู่ที่ผู้ติดเชื้อของจังหวัดบึงกาฬ) 10.ร้านปังป๊าสเต็กป๊า ที่อยู่ตรงข้ามเทพารักษ์ 96 (วันเวลาที่เสี่ยงคือ 3 เมษายน) 11.mega บางนาและ ikea บางนา (ทั้ง2 ที่เลย) 12.หมู่บ้านล้วนพฤกษาเลควิลล์ใน ถนนเทพารักษ์ 96 (ผู้ติดเชื้อทราบผลว่าติดเชื้อวันที่ 28 เมษายนวันพฤหัสบดี) 13.โรบินสันสมุทรปราการ 14.ตลาดปากน้ำสมุทรปราการ 15.ร้านเจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ 16.หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10ซอยมังกร และหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 12 17.BTS อ่อนนุช 18.ตลาดสดคลองด่านสมุทรปราการ (ทามลายน์ผู้ติดเชื้อออกมาวันที่ 5 พฤษภาคม) 19.บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี (ข้อ 18 กับ 19 นี่คนติดเชื้อคนเดียวกัน...timeline เขาไปอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา) 20.คลัสเตอร์ใหม่ แคมป์คนงานริมถนนแพรกษา หมู6 ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ติดเชื้อแล้ว 110 ราย ซึ่งเป็น แรงงานไทย พม่า กัมพูชา จากการตรวจทั้งหมด 302 ราย รถพยาบาลกำลังทยอยรับไปส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม 21.พบคลัสเตอร์ใหม่ในบริษัทซีเอสพีสตีลเซ็นเตอร์(เขตอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ตำบลในคลองบางปลากด) 😷พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 128 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและจะแจ้งยอดผู้ป่วยรวมในวันพรุ่งนี้ 22.สุขสวัสดิ์ 72 กับ สุขสวัสดิ์ 78 23.เทศบาลสมุทรปราการ (ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล) ข่าวเทศบาลสมุทรปราการปิดตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 24.เคหะสมุทรปราการ(เป็นข่าวอยู่ใน timeline ผู้ป่วยที่ประกาศวันที่ 5 พฤษภาคม) 25.paradise park วันที่ 24 เมษายนมีผู้ติดเชื้อโควิคเดินทางไป (ออกข่าวทามลายน์ผู้ติดเชื้อโควิดของกทมเขตกรุงเทพมหานครโพสวันที่ 5 พฤษภาคม) 26.บางปู(ตำหรุ) 27.ซอยที่อยู่ใกล้วัดสำโรงเหนือแถวพระประแดง (ทราบข่าว 5-7 วันที่แล้วว่า ผู้ติดเชื้อ 26 คนยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล..ยังอยู่แถวนั้น...แต่ตอนนี้ไม่รู้เขาได้ไปหรือยัง...คนที่แจ้งข่าวนี้คือผู้ที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกับผู้ติดเชื้อ) 28.ไปรษณีย์พระประแดงมีผู้ติดเชื้อเป็นเจ้าหน้าที่ 17 คนโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัย"พื้นที่ที่มี จุดเสี่ยง ในกรุงเทพมหานคร" Update พื้นที่ที่มี "จุดเสี่ยง ในกรุงเทพมหานคร" ทั้งหมด ของการระบาดระลอกใหม่ จากตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร *ใครมีจุดเพิ่มเติมแนะนำได้นะ เก็บ Timeline มาได้เท่านี้ เป็นห่วงทุกคนนน* 25 เขต ในกทม. ที่มีจุดพื่นที่เสี่ยง ------------------------------------- 1. เขต คลองสาน - ร้านสมศักดิ์ ปูอบ สาขาบีทีเอสกรุงธน 2. เขต คันนายาว - รพ.สินแพทย์ จ.กรุงเทพฯ 3. เขต จตุจักร - BTS ห้าแยกลาดพร้าว - MRT บางซื่อ - เซ็นทรัล ลาดพร้าว - ยูเนี่ยน มอลล์ Union Mall - สถานีขนส่งหมอชิต(จตุจักร) กรุงเทพฯ 4. เขต จอมทอง - ตลาดอินดี้ ดาวคะนอง 5. เขต ดอนเมือง - สนามบิน ดอนเมืองอาคาร 2 ผู้โดยสารภายในประเทศ กรุงเทพฯ 6. เขต ดุสิต - โรงพยาบาลวชิระ - กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน สามเสน - รพ.รามาธิบดี 7. เขต ธนบุรี - คอนโด IDEO สาทร กรุงเทพฯ 8. เขต บางแค - เดอะมอลล์ บางแค 9. เขต บางกอกน้อย - ตลาดศาลาน้ำร้อน - ทรูช้อป@ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า - ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า 10. เขต บางกะปิ - เดอะมอลล์ บางกะปิ - โรงแรมอเล็กซานเดอร์ - หอพักหน้ารามคำแหงซอย 29 11. เขต บางขุนเทียน - โรงพยาบาลนครธน - ขนส่งจังหวัดเขตบางขุนเทียน - สำนักงานขนส่งทางบก กรุงเทพมหานครพื้นที่ ๑ 12. เขต บางซื่อ - นมโจ ประชาชื่น (สาขาประชาชื่น39) - รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น จ.กรุงเทพฯ - ศรีสุวรรณ 13. เขต บางนา - ย่านอุดมสุข 14. เขต บางพลัด - ร้านอีสานกรองแก้ว 15. เขต บางรัก - Le Meridien Hotel Bangkok - Pullman G Hotel Bangkok - โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กรุงเทพฯ - วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) กรุงเทพฯ - สีลมคอมเพล็กซ์ 16. เขต บึงกุ่ม - วัดสุวรรณประสิทธิ์ - ตลาดนวดจันทร์ 17. เขต ปทุมวัน - สามย่านมิตรทาวน์ - BTS ราชเทวี - Central World - Mrt ลุมพินี - Mrt หัวลำโพง - โรงแรมอโนมา - มาบุญครอง - สยามสแควร์วัน 18. เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย - โรงพยาบาลกลาง 19. เขต พระนคร - ครัวแซ่บอีสาน 20. เขต ภาษีเจริญ - Seacon Bangkae - โรงพยาบาล พญาไท 3 21. เขต ราชเทวี - แพลตินัม - โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน กรุงเทพฯ - โรงพยาบาลรามาธิบดี Ramathibodi Hospital 22. เขต วังทองหลาง - โรงพยาบาลลาดพร้าว 23. เขต วัฒนา - Lamptitud เอกมัย - ตลาดอ่อนนุช 24. เขต สาทร - อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ 25. เขต หลักสี่ - รพ.มงกฏวัฒนะ จ.กรุงเทพฯ ข้อมูล: ณ วันที่ 25 ธ.ค. 63 โดยศูนย์ติดตามสถานการณ์ COVID-19 และกรมควบคุมโรค #COVID-19 #Covid #โควิด-19 #โควิด #สถานการณ์โควิด19 #สถานการณ์โควิด-19 #สถานการณ์COVID-19 #สถานการณ์COVID19 #ข่าวโควิด #โควิดวันนี้ #ข่าวโควิด #โควิด #ติดตามโควิด #ข่าว #ติดตามข่าวไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยางรถยนต์เปลี่ยนยางสิริกร ฯ.• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฎีกาออกมาแล้ว จอดรถตามห้างสรรพสินค้าฎีกาออกมาแล้ว จอดรถตามห้างสรรพสินค้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีบัตรจอดรถก็ตาม ถ้ากลัวรถหาย มีข้อแนะนำดังนี้ 1.เมื่อขับรถเข้าจอดในห้างใดหรือเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทใด ไม่ว่าในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด เราควรจะถ่ายภาพรถให้เห็นป้ายทะเบียนและให้เห็นสภาพสถานที่จอดให้ชัดเจนว่าเป็นที่ใดด้วยโทรศัพท์มือถือ 2.ถ้ารถหายในห้างอย่าเพิ่งโวยวาย ถ้ายังไม่มีใบเสร็จในการซื้อสินค้าให้รีบเข้าซื้อสินค้าในสรรพสินค้าพื่อให้ได้ใบเสร็จว่าเราได้เข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าในห้าง 3.จากนั้นแจ้งห้างว่ารถหายกับแจ้งความกับตำรวจถ่ายสำเนาใบเสร็จให้ไปแต่เราเก็บใบเสร็จตัวจริงไว้ ถ้าห้างฯไม่จ่ายจะได้ใช้ใบเสร็จกับภาพถ่ายรถในโทรศัพท์มือถือเป็นพยานหลักฐานในการฟ้องร้องทางศาล ซึ่งต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันรถหาย ถ้าเกิน 1 ปี คดีจะขาดอายุความ 4.ชนะคดีแน่นอน เพราะมีฎีกาที่7471/2556 รองรับแล้ว #รถหายในห้างสรรพสินค้าผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ