2434 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกัญชาสามารถรักษา14โรคนี้ได้จริงหรอครับ1. รักษาภาวะเบื่ออาหาร กัญชาใช้เป็นสารกระตุ้นความอยากอาหาร จะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง 2. การป้องกันการคลื่นไส้ อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด 3. รักษาโรคลมชักที่รักษายากและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษาภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง 4. รักษาภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ที่ใช้วิธีการรักษาอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล 5. บรรเทาหอบหืด ยาแก้หอบหืดทุกตัวมีข้อเสียคือมีข้อจำกัด ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากกัญชาขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม6. การใช้กัญชาในการรักษาต้อหิน คือ การรักษาตาต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้ คนตาบอดในสหรัฐ คนอเมริกาเกือบล้านที่ป่วยด้วยต้อหินที่รักษาได้ด้วยกัญชา กัญชาทำให้ความดัน ภายในลูกนัยน์ตาลดลงได้ดีหลายชั่วโมงในคนปกติและในคนที่ความดันลูกนัยน์ตาสูงจากต้อหิน การให้กัญชาทางปากหรือทางหลอดเลือดดำให้ผลเหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับชนิดอนุพันธ์กัญชามากกว่า จะเกิดจากฤทธิ์กล่อมประสาทของกัญชา กัญชาไม่ได้รักษาโรคขาด แต่ช่วยยับยั้งการบอดไม่ให้เป็นมากขึ้น เมื่อยาทั่วไปไม่อาจช่วยได้ และการผ่าตัดเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป 7. ลดอาการปวด สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะ THC สามารถช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง และช่วยให้สามารถนอนหลับได้เพิ่มขึ้น และช่วยลดอาการปวดข้อ แต่สำหรับอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยมะเร็งนั้นยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกที่ชัดเจน 8. รักษาโรคพาร์กินสัน แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 9. รักษาโรคอัลไซเมอร์ แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 10. รักษาโรคปลอกประสาทอักเสบอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม 11. นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ เปิดเผยถึงข้อมูลในตำราพระโอสถพระนารายณ์ และตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ พบตำรับยาไทยที่เข้ากัญชาอยู่หลายตำรับ เช่น - ตำรับศุขไสยาศน์ สรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปวด เจริญอาหาร นำมาใช้ทดแทน/เสริมกับยาแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายเครียด - ตำรับทำลายพระสุเมรุ มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์ อัมพาต - ตำรับน้ำมันสนั่นไตรภพ ช่วยเรื่องท้องมาน ท้องบวม คลายลมในท้อง ท้องอืดจากโรคมะเร็งตับ ใช้ทาบริเวณท้อง - ตำรับทัพยาธิคุณ ช่วยเรื่องโรคเบาหวาน ลดน้ำตาล 12. รักษาโรคริดสีดวงทวาร เมื่อทายาริดสีดวงและโรคผิวหนังเป็นประจำ พบว่าอาการอักเสบและอาการปวดลดลง หัวริดสีดวงที่โผล่ออกมานอกหรืออยู่รอบๆรูทวารฝ่อลง 13. รักษามะเร็ง สารสกัดจากกัญชาอาจยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดและยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งบางอย่างในหนูทดลองได้ หลังจากนั้น เมื่อมีการวิจัยเพิ่มขึ้น พบว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้จริง โดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นเลือดของก้อนมะเร็ง (Angiogenesis) และลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ (Metastasis) ในโรคมะเร็งหลายชนิด ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างโปรแกรมการตายของเซลล์มะเร็ง (Program cell death) ผ่านกระบวนการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของการรักษาโรคมะเร็งด้วยสารสกัดกัญชา จึงต้องมีการศึกษาวิจัยในรายละเอียดแต่ละประเด็นต่อไป 14. คลายความวิตกกังวล จากประวัติการใช้กัญชาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายในอดีตทำให้มีความเป็นไปได้ที่สารกลุ่มแคนนาบินอลน่าจะมีฤทธิ์คลายความวิตกกังวล แต่อย่างไรก็ตามพบว่ากลไกการออกฤทธิ์นั้นซับซ้อนและยังไม่มีการอธิบายที่ชัดเจน จากรายงานทางคลินิกพบว่าการใช้สาร Fatty acid amide hydrolase inhibitors (FAAH inhibitors) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Endocannabinoids มีความสามารถในการลดอาการวิตกกังวลได้ ปัจจุบันสารหลายชนิดในกลุ่มนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกยาสมุนไพรKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยตำลึง เคล็ดลับความสวยใบตำลึง Coccinia grandis เป็นผักริมรั้ว เลอค่า อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ รวมไปถึงการช่วยซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย โบราณนิยมใช้สมุนไพรแก้สิวและพอกหน้าเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส สำหรับสาวๆ ที่กำลังมีปัญหาสิวอักเสบ สิวหนอง สิวเสี้ยน ฝ้า กระ รอยด่างดำ และริ้วรอยต่างๆ เรามีเคล็ดลับบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึง ขาว สวย แบบง่ายๆ ด้วยใบตำลึง รับรองว่าประหยัดเงิน ปลอดภัย และสวยขึ้นอีกด้วยความสวยความงามstd47859• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"natthakrittasangchouy• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ไซบูทรามีน" แอบผสมในยาลดความอ้วน ผอมด่วน-ตายเร็วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือน “ยาลดความอ้วน” ที่มีสารอันตราย "ไซบูทรามีน" หาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต 20 ยี่ห้อเมื่อปี 2560 ขณะที่ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” 1 ใน ผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอันตรายชนิดเดียวกัน วันนี้ (16 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ยาลดความอ้วน” สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ ที่พบว่า มีสารอันตรายที่ชื่อว่า “ไซบูทรามีน” เป็นส่วนผสม ขณะที่อย.พบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ลีน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และผลการชันสูตรจากแพทย์ ยืนยันว่า "ลีน" ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต ข้อมูลจากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารไซบูทรามีน มีลักษณะเป็นผงขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้บริโภคลดความอยากอาหารและรู้สึกอิ่มเร็ว โดยในปี 2540 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดสารไซบูทรามีนนี้เป็นยาที่ได้รับการควบคุมดูแลเป็นพิเศษและแพทย์ต้องเป็นผู้พิจารณาในการใช้ยาเท่านั้น โดยใช้ในการรักษาโรคอ้วนพร้อมกับการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงร้อยละ 5-10 ขณะที่ในปี 2553 มีการตรวจสอบพบผลข้างเคียงที่อันตราย อาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตกะทันหัน โดยมีภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงทำให้ประเทศในแถบยุโรปประกาศยกเลิกไม่ให้ใช้สารนี้ในคนทั่วไป และนำยาไซบูทรามีนออกจากชั้นวางขายและงดจำหน่ายทันที ยาตัวนี้จึงหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไปนอกจากในตลาดมืดที่มีการลักลอบผลิต สำหรับในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกเลิกสารดังกล่าวในทะเบียนตำรับยา และกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอันตราย 20 ยี่ห้อ โดยพบว่า มีสารไซบูทรามีนผสมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความอันตรายของสารไซบูทรามีน แสดงออกผ่านผลข้างเคียงของผู้บริโภค โดยจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงกล้ามเนื้อกระตุก รวมไปถึงสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า กังวล หวาดระแวง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต อย่างกรณีผู้บริโภคอาหารเสริมลีนแล้วเสียชีวิตไป 3 คน เมื่อช่วงต้นปี 2561 ผลการชันสูตรจากแพทย์ พบว่าผู้เสียชีวิตใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากสารไซบูทรามีน ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" ความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเข้าถึงโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ จนทำให้การตรวจสอบและควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หากผู้ผลิตและจำหน่ายยังคงผสมสารอันตราย "ไซบูทรามีน" ส่วนผู้บริโภคต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยละเอียด ผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ "ลีน" อาจไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วย "ยาลดความอ้วน"ลดความอ้วนSirilawan Sukphithak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฮือฮา โพสต์รับสมัครทหารรับจ้างประเทศเพื่อนบ้าน ให้เดือนละ 5,0000 บาท หน่วยงานความมั่นคงเช็คแล้ว เป็น "เฟคนิวส์" ล่าสุดลบโพสต์แล้วความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งใช้พื้นที่ในโลกโซเชียล โพสต์ประกาศรับสมัครทหารรับจ้าง Free Burma Ranger (FBR) จนสร้างความสนใจให้กับหลายๆ โดยมีการแชร์โพสต์ออกไป โดยโพสต์ระบุว่า “FBR เปิดรับสมัครงาน โอกาสทั้งชายหญิงไทยที่มีความฝันอยากเป็นนักรบ เงินเดือนดี พักฟรีด้วย สนใจรีบสมัครเลยครับ” พร้อมแนบอินโฟกราฟฟิก มีข้อความ “รับสมัคร เงินเดือน 50,000+++ บาท นักรบประชาธิปไตย ทหารปลดประจำการ บุคคลกล้าหาญ คุณสมบัติ เพศชาย/หญิง อายุ 16-40 ปี ใจกล้า สุขภาพแข็งแรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ถ้าสามารถพูดภาษากะเหรี่ยง ภาษาอังกฤษ ภาษาพม่า หรือเป็นคริสต์ศาสนิกชน จะได้รับพิจารณาพิเศษ” พร้อมระบุสถานที่รับสมัครไว้จำนวน 2 จุด ที่ออฟฟิศพื้นที่ ต.วัดเกต เมืองเชียงใหม่ ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ (6 กันยายน 65) ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ ซอยโอสถาพันธ์ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบว่าออฟฟิศที่ระบุว่าเป็นสถานที่รับสมัครทหารรับจ้าง Free Burma Ranger เป็นที่ทำการของมูลนิธิฟรี เดอะ โอเพรส (Free the Oppressed Foundation) หรือ FTO ซึ่งสนับสนุนงานของ Free Burma Rangers (FBR) ที่เป็นองค์กรเพื่อมนุษยธรรมจากหลายเชื้อชาติ ที่ทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ ความหวัง และ ความรักแก่ผู้คนในเขตความขัดแย้งของพม่า อิรัก และซูดาน โดยทำงานร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่สนับสนุนประชาธิปไตยในท้องถิ่น และประสานงานกับทีมบรรเทาทุกข์อเนกประสงค์ที่เคลื่อนที่ การรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่สำคัญ ที่พักพิง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และเอกสารด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่std48388• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)13 รายวิชา สจล. สำหรับผู้สนใจ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 1.) การถ่ายภาพเบื้องต้น | Basic Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL001+2017/about 2.) การถ่ายภาพด้วยเทคนิคสร้างสรรค์ | Creative Photography https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL009+2019/about 3.) โมชั่นกราฟิกพื้นฐาน | Foundation of Motion Graphic https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL011+2019/about 4.) คอมพิวเตอร์เพื่อการพูดและการนำเสนอ | Computer for Speech and Presentations https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL003+2017/about 5.) หลักเศรษฐศาสตร์เกษตร | Principles of Agricultural Economics https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL005+2017/about 6.) การท่องเที่ยวโดยชุมชน | Community Based Tourism https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL014+2019/about 7.) สร้างสรรค์สื่อวีดิทัศน์ยุคใหม่ | Creative Video Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL002+2017/about 8.) การผลิตหนังสั้น | Short Film Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL010+2019/about 9.) การเลี้ยงสัตว์เบื้องต้น | Principle of Animal Husbandry https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL007+2017/about 10.) หลักและวิธีการส่งเสริมการเกษตร | Principles of Agricultural Extension https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL004+2017/about 11.) การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสู่ธุรกิจเงินล้าน | Algal Cultivation https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL012+2019/about 12.) การจัดการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสวยงาม | Pet Management https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL013+2019/about 13.) การปลูกพืชเบื้องต้น | Principle of Crop Production https://lms.thaimooc.org/courses/course-v1:KMITL+KMITL006+2017/about . 📌 วิธีการสมัครเข้าเป็นสมาชิก https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1646232145708423 📌 ขั้นตอนเรียนออนไลน์กับ Thai MOOC https://www.facebook.com/ThaiMOOC/posts/1678665039131800 . #สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง #ThaiMOOCระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี24ชั่วโมง #คอร์สออนไลน์ #คอร์สฟรี #KMITL ———— ©️CMMU Library แหล่งรวมงานวิจัย บทความ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ ข่าวสารการศึกษาในแวดวงวิชาการ, คอร์สออนไลน์ อัปเดตทุกวัน . 📌 ติดตาม CMMU Library Website : http://library.cmmu.mahidol.ac.th Facebook : CMMU Library twitter : @cmmulib IG : cmmu.library Youtube : http://bit.ly/2OPiBfQMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Albumเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์ นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือ หรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ขอใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือ ข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆ ละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพและ ลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวร กู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเนท ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ-เพลง-เกมส์- app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIP มือถือช้า-อืด-เม็มเต็มMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยความจริงของ lineเก็บไว้ดูจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก เล่น #ไลน์ กันมานาน มาทำความเข้าใจกับ Note กับ Album Note และ Album ในไลน์นั้น ไม่ใช้พื้นที่ความจำของ เครื่องโทรศัพท์มือถือหรอกนะ 1...ทั้ง note และ album ..ไม่กิน memory ใน mobile ของใครเลย เพราะเก็บใน server ของ Line 2...ที่กินที่ ram+memory ของmobile คือข้อความแชท และภาพที่รับ-ส่งกันใน กระดานสนทนา ซึ่งควรล้าง ออกทุกวัน จะได้พื้นที่ ram+memory คืนมา 3...อีกรายการที่ใช้พื้นที่มาก คือการ save ภาพที่รับ-ส่งไว้ ในแกลเลอรี่ของ mobile 4...อัลบั้มในห้องLine มีโควต้า ห้องละ 100 อัลบั้มๆละ ไม่เกิน 1,000 ภาพ สมาชิกทุกคนเข้าเพิ่มภาพ และลบภาพได้ ********************* ถ้าลบภาพจะเป็นการลบออก จาก server ของ Line อย่างถาวรกู้กลับคืนไม่ได้ ********************* 5...Note ใน Line ไม่มีโควต้า ถ้าเก็บเยอะก็ค้นหายากหน่อย และผู้ที่ Post (นำเข้า) ภาพ/ คลิปเท่านั้นที่จะลบได้ ดังนั้น ผู้ที่ post ลง Note เมื่อหมดกิจกรรมหรือหมด ประโยชน์ก็ควรจะลบออก เป็นระยะ ๆ และหากผู้ post ลง Note ออกจากกลุ่ม หรือ เปลี่ยนหรือยกเลิกไลน์เดิม ภาพ/คลิปนั้นก็จะคงอยู่เป็น อมตะนิรันดร์ 6...การท่องเน็ต ...รับ-ส่งโทรศัพท์ ...รับ-ส่งSMS ...downloadภาพ- เพลง-เกมส์ app ต่างๆ ...ถ่ายภาพด้วย mobile ล้วนเป็นกิจกรรมที่กิน พื้นที่ ram และ memory ทั้งนั้น ...จึงควรเข้าไปตรวจดูว่า รายการเหล่านี้ใช้ ram +memoryไปเท่าไร ...ถ้าลบประวัติการใช้หรือ รายการที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ก็จะได้พื้นที่คืนมาทันที 7...ตรวจดูเสมอว่า RAM ควรมี พื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 15% mobile จึงจะทำงานได้ปกติ ไม่อืด เครดิต-ทิพย์วรรณ-TIPMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวดี..👩🌾👨🌾 พี่น้องเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ชาวสวน โปรดทราบ อภัยหนี้ จากระบบหนี้ หนี้ธาตุในระบบ (ไม่รวมหนี้นอกระบบ) ธนาคาร ธกส. เป็นธนาคารนำร่อง ยกหนี้ จะมีเอกสารแจ้งหนี้จากธนาคารรัฐบาล 1. ธนาคารธกส. 2. ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารออมสิน ถึงเกษตรกรโดยตรงแจ้งหนี้หนี้นั้นเป็น 0 ถ้ายังไม่มีหนังสือแจ้งหนี้จะมีหนังสือแจ้งหนี้ตามมาทุกคน เหมือนกันทั่วประเทศ เกษตรกรท่านใดที่ได้รับหนังสือแจ้งหนี้จากธนาคารต้นสังกัด นำเอกสารฉบับนั้นไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากความไม่เข้าใจที่รัฐบาลบัตรเขย่ง ปิดบังความจริง เจ้าหน้าที่ธนาคารจะอธิบายชี้แจงให้เข้าใจอย่างละเอียด เข้าใจง่ายๆเป็นกันเอง ☑️แล้วเจ้าหน้าที่จะมอบเอกสาร ที่เป็นหลักฐานค้ำประกันเงินกู้ คืนให้แก่ท่าน ☑️จากนั้นท่านจะหลุดพันจากการ เป็นหนี้ทาสทันที ไม่ต้องตกเป็นทาสหนี้อีกต่อไป 🙏👑 ด้วยบารมีจากล้นเกล้าพ่ออยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 นำเงินส่วนพระองค์ นำมาจ่าย ยกหนี้ ล้างหนี้ให้กับท่าน 🙉ไม่มีหน้าม้า 🙈ไม่มีนายหน้า จะไม่มีตัวแทนจากธนาคารของรัฐฯไปยื่นเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกอบต. เจ้าพนักงานตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด 📢 กรุณาช่วยกันเป็นสื่อกระจายข่าว ถึงพี่นอนเกษตรกร ทุกสาขา ทุกอาชีพและรับทราบ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี https://youtu.be/-a3UaJZuFkMข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 2 คนสงสัยช่วยแชร์เรื่องนี้ว่าให้ ระวังไว้บ้างก็ดีช่วยแชร์เรื่องนี้ว่าให้ ระวังไว้บ้างก็ดี การตั้งไลน์กลุ่ม ตั้ง4คนแต่มา5มา6 ……….พี่คนนึงตั้งกลุ่มแชทสี่คนพี่น้องไว้่สื่อสารกันระหว่างพี่น้อง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่มีการเชิญคนอื่น มาเมื่อเช้าวานพี่นึกยังไงไม่ทราบไปย้อนดูข้อความที่คุยกับพี่ชายเมื่อวันเสาร์และสังเกตุเห็นว่าอ่านโดย 5 ก็ตกใจเพราะที่ถูกต้องอ่านโดย3เท่านั้น จึงไล่ย้อนขึ้นไปอีกกลายเป็นอ่านโดย6ก็มีค่ะ เมื่อโทรถามพี่น้องให้ช่วยดูปรากฎว่าเหมือนๆกันหมด พอดีพี่ชายคนโตกำลังอยู่ในเซ็นทรัล จึงเดินไปถามร้านมือถือ เขาบอกว่่ามีคนมาถามเรื่องนี้ 2-3รายแล้ว ลักษณะโดนแฮ็กเพราะไปโหลดสติ๊กเกอร์ฟรีมาค่ะ ทำเพื่อสอดแนมกรณีมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือ เขาแนะนำให้รีบออกจากห้องแชท คือปิดตัวไปเลย ทิ้งไว้สัก24ชม.ค่อยเปิดใหม่และเตือนให้ระวังเวลาจะโหลดสติ๊กเกอร์ฟรีทั้งหลาย บอกด้วยว่าส่วนใหญ่จะแฮ็กพวกกรุ๊ปแชท เพราะยิ่งจำนวนคนในกรุ๊ปมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสรู้ตัวน้อยมาก **วิธีแก้ไข การ Hack (line) สำหรับ (line) ส่วนตัว -เข้าไปที่ more มุมขวาล่าง -แล้วเข้าที่ setting และ account -กด off ที่ allow login คนอื่นจะไม่สามารถ login account ส่วนตัวเราได้ *สำหรับกลุ่ม -เข้าไปในกลุ่ม -กดที่มุมบนขวามือ เลือก edit -กด off ที่ invite by link จะทำให้ไม่มีใครเข้ากลุ่มผ่าน link ได้ ไม่งั้นใครเอา link เราไปลงใน pantip ก็จะเข้ากลุ่มได้ไดยไม่ต้อง inviteผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle5 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใดเรียน ทุกท่าน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการสอบถามดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ ) เข้ามาเป็นจำนวนมากถึงผลิตภัณฑ์ สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและตัวดิฉัน (ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์) หรือไม่ ดิฉันขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า 1. จุฬาเภสัช หรือ บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ แต่อย่างใด ร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเพียงร้านเดียวคือโอสถศาลา ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่หน้าคณะเท่านั้น 2. สารสกัดลำไยไซรัปที่วางจำหน่ายและกล่าวอ้างสรรพคุณว่าใช้พ่นคอและจมูกป้องกันไวรัสนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับงานวิจัยของข้าพเจ้า 3. ประกอบกับการนำชื่อข้าพเจ้าไปกล่าวอ้างเพื่อใช้ในการโฆษณานั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากข้าพเจ้าแต่ประการใด จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ และโปรดใช้วิจารณญาณ ในการ ใช้หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวด้วย ขอบคุณค่ะ ด้วยความเคารพ ศ. ภญ. ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยสรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช.สรุปผลการทดลองค้นหาสารอาหาร ของ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ และ อจ.ยงค์ ภู่วรวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญชีวเคมี มช. ซึ่งเป็นคนแรกๆ ของโลก ที่ค้นพบ แต่ช้าในเรื่องการโฆษณาเผยแพร่ สรุปผลของสารอาหารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียงลำดับตั้งแต่ทำลายสูงสุดลงไป ดังนี้ :- 1. มะนาว , มะกรูด , ส้มทุกชนิด กินป้องกัน (พระเอก) มีฤทธิ์ -9.5 2. ยา (Favipiravir-RTP) มีฤทธิ์ -8.8 3. ชาเขียว(ชาชง) กินป้องกัน มีฤทธิ์ -8.5 4.1 ข้าวไร้ซ์เบอรี่ , รำข้าวสีม่วง , มันม่วง , ข้าวโพดม่วง กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.9 4.2 (Masitinib) ยารักษาไขข้อ มีฤทธิ์ -7.9 5.1 กระชายขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 5.2 งาดำ กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.8 6. ฟ้าทะลายโจร (กินรักษาเมื่อติดเชื้อแล้ว) มีฤทธิ์ -7.3 7. ชาขาว กินป้องกัน มีฤทธิ์ -7.0 8. องุ่น กินป้องกัน มีฤทธิ์ -6.9 9. ขมิ้นชัน กินป้องกัน (ฤทธิ์น้อยสุด) มีฤทธิ์ -6.1 ❤️ ค้นพบอาหารอาหารที่ยับยั้งโควิคตัวใหม่หลายตัว ที่เก่งกว่ากระชายขาว และบางตัวดีกว่าฟ้าทะลายโจร (ช่วยกันแชร์เพื่อคนไทยทั้งประเทศด้วยนะค่ะ) https://www.youtube.com/watch?v=-Fmg51FC9U0โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแจ๊ค หม่า เผยความลับ คนจีน 1,300 ล้านคนตกตะลึง เฉินหลง หลิวเต๋อหัว โจวซินเฉือ ฟังแล้วร้องให้ -หากชีวิตเรา ถือเงินทอง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความยากลำบาก -หากชีวิตเรา ถือบุตรธิดา เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเหนื่อยล้า -หากชีวิตเรา ถือความรัก เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บปวด -หากชีวิตเรา ถือการแข่งขัน เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ -หากชีวิตเรา ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้าง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข -หากชีวิตเรา ถือความพอเพียง เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ความสุข -หากชีวิตเรา ถือบุญคุณ เป็นจุดมุ่งหมาย ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา -คุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้น @ “อย่าอวด”... 1. อย่าอวดอ้างเงินของคุณในโรงพยาบาล เพราะมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น 2. อย่าอวดอ้างงานที่คุณทำ เพราะเมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกมาก ที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ 3. อย่าอวดอ้างบ้านช่องของคุณ เพราะเมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลาย เป็นรังของคนอื่น 4. อย่าอวดอ้างรถของคุณ เพราะเมื่อคุณจากไป กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวดอ้างได้ คือ “สุขภาพที่ดีของคุณ”... ขอให้เพลิดเพลินกับชีวิต ที่มีสุขภาพดี... จงดูแลรักษาตัวเองให้ดี เนื่องจากอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้ และราคาสุดแพง ที่สำคัญคือ ไม่มีของให้. เมื่อดูจบขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดีไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 4 คนสงสัยคำแนะนำนี้ จริงหรือไม่ผมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ชิโนแวค ที่ประเทศจีนเแล้ว : ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ทางหมอจีนมีคำเตือนมากมาย ซึ่งได้ยินว่า ที่ประเทศไทย หมอไทยไม่ได้มีคำเตือนแบบนี้เลย. ผมจึงนำมาแบ่งปันครับ .. Review : . ก่อนฉีด - พักผ่อนหลับนอนให้เต็มที่ / กินข้าวให้อิ่มก่อนรับการฉีด .. หลังฉีด หมอสั่งดังนี้ . 1. ห้ามกินเหล้า+กาแฟขม-ป้องการวัคซีนหมดฤทธิ์ ในเวลา 3 วัน 2. ห้ามอาบน้ำหลังฉีด 24 ชม. ป้องกันการไม่สบาย เพราะร่างกายอ่อนแอลงหลังฉีด 3. ห้ามออกกำลังกายหนัก 3 วันและควรกินอาหารรสจืด .. วัคซีน ที่ต้องฉีด ๒ เข็ม ก็ต้องฉีดให้ครบในเวลากำหนด และเมื่อครบแล้ว ภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ สร้างขึ้น คนที่ฉีดแล้ว ก็ยังติดใหม่ได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง กับทั้ง ภูมิคุ้มกันจะอยู่แค่ ๖ เดือนเท่านั้น ... ดังนั้น ถ้าไม่เร่งฉีดให้ครบทุกคน จนกำจัดเชื้อโรคร้ายไปจนหมด เชื้อโรคที่หลงอยู่ ก็จะวนเวียนเวียน สร้างปัญหาได้ใหม่เช่นเดิม ต้องเร่งฉีดวัดซีน และบริหารจัดการให้ดี ... ที่สำคัญที่สุด คือ แม้จะฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แพทย์ก็ยังเตือนว่า ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพราะแม้จะฉีดแล้วก็ยังติดได้ แต่ความรุนแรงจะลดลง ดังนั้น ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเหมือนเดิม Cr. พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ฑูตตำรวจไทยวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสสจ.สมุทรสาครแจ้งข่าวมาดังนี้ เนื่องจากตอนนี้จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดรายแรก (ผลตรวจของจังหวัดเป็นpositive และผลคอนเฟิร์มจากศูนย์วิทย์เป็นpositive) โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการไข้ไอน้ำมูก มีเพียงอาการปวดเมื่อยตัวนิดหน่อย ไม่เคยไปต่างประเทศ ทำงานร่วมกับแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก แต่อาการสำคัญที่ทำให้แพทย์ตัดสินใจตรวจโควิดคือ จมูกไม่ได้รับกลิ่นมา4 วัน admit รพ.สมุทรสาคร วันที่7ธค63 เวลา ตี2.25 เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ทำงานขายกุ้งอยู่ในตลาดกุ้ง ทำให้มีผู้สัมผัสทั้งเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงจำนวนมาก ขอให้ทุก รพ.เตรียมความพร้อมเหมือนการระบาดรอบแรก โดยเฉพาะ 1. คลินิก ARI 2.ห้องพ่นยาแยกจากพื้นที่ ER 3.การตรวจผู้ป่วยทุกรายโดยมีแผงฉากพลาสติกกั้นระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ และแผงพลาสติกกั้นระหว่างผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ 4.การเว้นระยะห่าง การลงชื่อในสมุดหรือ สแกนไทยชนะ 5. แมสสำคัญมากและแอลกอฮอล์เจลหรือสเปรย์ในจุดสำคัญ 6.ห้องอาหารมีแผงพลาสติกกั้นที่โต๊ะคือญาติผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ควรกินอาหารแบบโซเชียลดิสแตนท์ ถ้าจะพูดคุยกันต้องใส่แมส 7.ซักประวัติการเดินทางและอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น 8.ซักประวัติทุกคนที่มาตรวจที่ รพ. เรื่องเคยไปตลาดกุ้ง ช่วงวันที่ 13-16 ธันวาคม หรือไม่ 9.ในกรณีที่มีผู้ไปขอตรวจโควิดที่ รพ.เอกชนทุกแห่ง รบกวนส่งชื่อที่อยู่เบอร์โทร มาที่ สสจ.ทางไลน์ส่วนตัวคุณอรุณศรี (กรณีคนไข้ยินดีจ่ายเงินเอง)โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีข้อมูลโรงแรมในกรุงเทพ ที่ประกาศขายแล้วนะครับ เพราะเหตุการณ์ Covid ในปัจจุบัน ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก คนตกงาน ไฮโซ กลายเป็นคนธรรมดา หลังโควิดจบจะอย่างไรกันครับ 1.) โรงแรมแอมบาสเดอร์ 4 ดาวอยู่สุขุมวิท11.ราคาขาย 8,800.ล้าน 2.).โรงแรม ภัทรา ราคาขาย 580 ล้าน 3.)โรงแรม ดีวารีดีว่า 4 ดาว ราคาขาย 385. ล้าน 4.)โรงแรมซีตรัส 4 ดาว อยูสุขุมวิท20 ราคาขาย 430.ล้าน 5.)โรงแรมบอสสูท 4 ดาว ราคาขาย 750.ล้าน 6.) โรงแรมไทปัน 4 ดาว ราคาขาย 1,500.ล้าน 7.) โรงแรมพัชราสูท 4 ดาว ราคาขาย 2,150.ล้าน 8.)โรงแรมมาร์เวล 4 ดาว อยู่สุขุมวิท22 ราคาขาย 2,500.ล้าน 9.)โรงแรม เพรสซิเด้นท์ พาร์ด 4 ดาว ราคาขาย 1,850. ล้าน อยู่สุขุมวิท24 10.) โรงแรม โนโวเต็ล กรุงเทพฯฟีนิก สีลม 4 ดาว ราคาขาย 1,950.ล้าน 11.) โรงแรมโกลด์เด้นท์ ทิวลิปโซเวอร์เรนท์ 4 ดาว ราคาขาย 3,400.ล้าน 12.)โรงแรมรามาการ์เด้น 4 ดาว อยู่ถนนวิภาวดี-รังสิต หลักสี่ ราคาขาย 8,800.ล้าน 13.) โรงแรมเดอะ ดิโพเรียม +ห้างฯ เดอะดิโพเรียม 5 ดาวอยูสุขุมวิท24 ราคาขาย 17,500.ล้าน 14.)โรงแรม แกรนด์สุขุมวิท 5 ดาว อยู่สุขุมวิท6 ราคาขาย 8,500.ล้าน 15.) โรงแรมมนเทียรริเวอร์ไซค์ 5 ดาว อยู่ถนนพระราม3 ราคาขาย 7,000.ล้าน 16.)โรงแรมมิลเลนเนี่ยม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 5 ดาว ราคาขาย 8,500.ล้าน 17.)โรงแรมมาริอ้อท เอ็กเซ็ก คูซีพ เซอร์วิส สาธร 5 ดาว ราคาขาย 3,500.ล้าน 18.)โรงแรม ฮาร์เบ้อร์วิวซิเด้นท์ 4-5 ดาว อยู่บนถนนห้าแยกคลองเตย ราคาขาย 4,800.ล้าน 19. โรงแรม แกรนไดมอน 3,800 ล. 20.โรงแรมเวสติน 10,717,030,000 ล. 21.โรงแรมฮิลตัน กทม.8,500 ล 22.โรงแรมพูลแมน สุขุวิท 9,000 ลโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย#กินเค็มระวังความดันขึ้น…#กินเค็มระวังความดันขึ้น… คำแนะนำทางการแพทย์ดังกล่าวนี้ ผมได้ยินมาตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์… จนเป็นอาจารย์ และในที่สุด จนเป็นความดันโลหิตสูง เสียเอง ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมมี ภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่า 2 ปี แล้วผมจะได้รับคำแนะนำให้เริ่มต้นรักษา ด้วยการปรับวิธีการใช้ชีวิต และหนึ่งคำแนะนำนั้นก็คือ หมอต้องลดปริมาณเกลือในอาหารลงเยอะๆเลยนะครับ… ถ้าไม่ดี เดี๋ยว start amodipine เลยนะ ผมก็พยายามควบคุมทุกอย่าง งดอาหาร ที่มีรสชาติเค็มที่ผมรัก แกงไตปลา สะตอผัดกะปิ และ ทานน้ำมากๆ…. แต่ที่ผมยังกินอยู่เหมือนเดิมก็คือ เข้าไปน้ำตาล แต่เหมือนดูจะไม่ดีขึ้นก็คือ ผมยังคงอ้วนลงพุง มีกรดยูริคสูง มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงของผมไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงจนกระทั่ง หรือ เพราะว่า เส้นเลือดของผมเริ่มแข็ง กรอบเหมือนเส้นเลือดคนแก่ ทั้งๆที่อายุยังไม่ถึง 50 จริงๆเนี่ยนะ… ในที่สุด เกิดภาวะวิกฤตบางอย่างกับตัวผม เนื่องจากความดันโลหิตที่สูงอย่างมาก…. ซึ่งผมเคยเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรบ้าง มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ผมคิดว่าผมจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อหลุดพ้นจากภาวะนี้ จากวิกฤตนั้น ผมจึงคิดทบทวนใหม่ว่า ผู้ร้ายตัวจริงที่สร้างปัญหาให้กับผมตอนนี้ มันต้องไม่ใช่ แค่ การกินเค็ม การกินกาแฟ หรือ เส้นเลือดผมแข็งกรอบตามวัยมากจนเกินไป…. ผมจึงจะเริ่มตั้งต้นจากคำว่า metabolic syndrome ซึ่งเป็นความผิดปกติทั้งหมดที่ผมมี ไม่ว่าจะเป็น อ้วนลงพุง ความดันสูง ไขมันในเลือด ยูริคสูง… หลังจากนั้นผมก็เริ่มรู้ว่า สิ่งที่ผมเป็น ว่าเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน หรือ insulin resistance… มาจากการบริโภค น้ำตาล น้ำหวาน คาร์โบไฮเดรตแปรรูป แบบไร้ระเบียบวินัยของตัวผม ตลอดระยะเวลานับ 10 ปีที่ผ่านมา จากการทบทวนความรู้ต่างๆทำให้ผมพบว่า ภาวะดื้ออินซูลินนั้น ส่งผลกระทบ ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ด้วยกลไกหลายอย่าง ได้แก่ 1) มีการเพิ่มการดูดกับโซเดียมที่หน่วยไตหลายตำแหน่ง 2) มีการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกผ่าน RAAS 3) มีการเพิ่มการหดตัวของกล้ามเนื้อในหลอดเลือด ผ่านกลไกของ การเพิ่มแคลเซียมเข้าเซลล์ รูปภาพที่ประกอบการโพสต์นี้ แสดงให้เห็นถึงผลของ ฮอร์โมนอินซูลิน ที่มีต่อการกระตุ้นให้ไต เกลือโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ผ่าน receptor ต่างๆในรูป ดังนั้นการรักษาภาวะ ดื้อต่ออินซูลิน หากประสบความสำเร็จในการักษา ก็จะส่งผลให้ความดันโลหิต กลับมาสู่สภาวะปกติได้ และมีรายงานการรักษา ในแนวทางนี้หลายรายงาน พบว่าสามารถช่วยให้ผู้ป่วย สามารถลดและหยุดยาลดความดันโลหิตได้ แล้วภาวะดื้อต่ออินซูลิน ผู้ต้องหาในคดี metabolic Syndrome เกิดจากอะไร… ถ้าได้ติดตามที่ผมเขียนมาตั้งแต่ต้น ก็จะตอบได้ทันทีว่า "เกิดจากการบริโภค น้ำหวาน น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตแปรรูปต่างๆ ในปริมาณที่มาก แล้วต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ" ดังนั้น ผู้ต้องหาตัวจริง ก็คงหนีไม่ น้ำตาลน้ำหวานและคาร์โบไฮเดรตแปรรูป ที่เรารับประทานอย่างมาก ไม่มีขีดจำกัด ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆนั่นเอง ถ้าผมเลือกรักษาตัวเองที่ปลายเหตุมันง่ายมากเลยครับ คือ รักษาตามกลไกล ข้อ 1) ทานยา HCTZ กลไกล ข้อ 2) ทานยา enalapril และ กลไกลข้อ 3) ทานยา amlodipine เลือกเอาเลย… ทานยาลดความดันแล้วนั่งดูความดันลด ปรับยา แต่ผู้ร้ายต้นเหตุไม่ถูกกำจัด… รอวันสร้างหายนะรอบใหม่ ทีหนักกว่าเดิมนั่นคือ เบาหวานชนิดที่2 และก็ต้องถามตนเองว่า แล้วผมต้องกินยาถึงเมื่อไหร่อีกด้วยครับ… ผมเลยตัดสินใจทดสอบ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ ในครั้งนี้กับตัวผมเอง ด้วยการรักษาตนเอง ตามแนวทางของการ รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ และจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร… และผมต้องใช้ความอดทน และการปรับตัว อย่างสูงมาก เพราะเดิมพันนี้มันคือ ชีวิตของตนเอง ผ่านไป 1 เดือน ผมไม่เคยมีระดับความดัน 160/100 อีก ยังมี ตัวบน 130-140 บ้าง… และที่ระยะเวลาผ่านไป 3 เดือนความดันตัวบน (Systolic) ของผม ไม่เคยเกิน 120 ตัวล่างไม่เคยเกิน 80 อีกเลย แม้จะวัดในสภาวะหลังออกกำลังกายทันทีก็ตาม… ร่วมกับน้ำหนักตัวที่หายไปกว่า 13 กิโลกรัม (วิชาตัวเบามันเป็นแบบนี้นี่เอง) สรุปคือ ผู้ร้ายตัวการ ตัวสำคัญสำหรับโรคความดันโลหิตสูง นั่นก็คือ "ภาวะดื้อต่ออินซูลิน" อันเนื่องมาจาก การบริโภคน้ำตาล คาร์แปรรูปนั่นเอง เขียนแบบนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าจะ ไปกินเค็มหนักๆ อันนั้นก็ไม่ควรนะครับ แม้เขาไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริง แต่ถ้าเรากินแบบไม่คิด ผู้ร้ายตัวปลอมนี้เขาก็พร้อมจะพายเรือให้โจรนั่งนะครับ ผมหวังว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์ กับผู้ติดตามทุกท่าน ในการนำไปปรับใช้ อย่ารอให้ ชีวิตต้องเจอแบบที่ผมเจอ แล้วจะคิดจะเริ่มนะครับ #หมอจิรรุจน์ สำหรับท่านที่สนใจเนื้อหาเพิ่มเติม เราเข้าไปอ่านใน Reference ที่แนบไว้ได้นะครับ ที่มาภาพ: Insulin resistance and hypertension: new insights, Kidney International Vol.87 2015 ที่มาข้อมูล Obesity-related hypertension: pathogenesis, cardiovascular risk, and treatment. A position paper of The Obesity Society and the American Society of Hypertension. J Clin Hypertens (Greenwich). 2013; 15: 14 Insulin resistance, obesity, hypertension, and renal sodium transport. Int J Hypertens [online]. 2011; 2011: 391762Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเริ่มมีคุณหมอหลายท่านแสดงความเห็นว่า วัคซีนหลักปัจจุบันที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนจะมีความปลอดภัยมากกว่าวัคซีนไฟเซอร์ และ โมเดอนน่า ในระยะยาว ลองอ่านบทความของคุณหมอท่านหนึ่งครับ พวกบินไปฉีด Pfizer หรือ Moderna หรือกำลังจะไป ต้องอ่าน mRNA สามารถสร้าง PROTEIN เพี้ยนที่คุมไม่ได้นะครับ คนไทยโชคดีได้ SINOVAC ปลอดภัย และ ASTRAZENECA ปลอดภัยมาก สำหรับคนมีอายุและโรคประจำตัว ********** ...ความน่ากลัวของวัคซีนที่ใช้ mRNA - Pfizer & Moderna...ตั้งใจอ่านนิดหนึ่งจะเข้าใจครับ... mRNA vaccine ฉบับอ่านง่าย (for dummies) ที่มาของบทความนี้ก็คือ พอเขียนเรื่องประวัติศาสตร์ได้แล้ว ก็เลยอยากรู้ว่าจะเขียนแนวอื่นได้ไหม เผอิญท่านรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ Phichet Banyati เคยชวนว่าให้เขียนเรื่อง mRNA vaccine สิ เลยน่าจะลองดู จะเห็นว่าปัจจุบันวัคซีนโควิดมีการผลิตหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะใช้เชื้อตาย (Sinovac), ชิ้นส่วนของไวรัส (Aztra) แต่อันที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็น่าจะเป็น mRNA เทคนิค แล้วจริงๆ มันคืออะไรเหรอ ?!?! นักเรียนสายวิทย์คงทราบมาตั้งแต่สมัยเรียนชีววิทยา ม.ปลายแล้ว (ถ้าจำได้) ว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของร่างกายก็คือโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนทางกายวิภาคหรือสรีรวิทยาของร่างกายก็ต้องมีโปรตีนเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น คราวนี้โปรตีนสร้างจากอะไร มันก็มีสูตรของมัน คือ "DNA สร้าง RNA สร้าง โปรตีน" (ดูภาพด้านล่าง ) อันนี้คือแบบแผนที่แน่นอน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์ สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนะครับ สรุปก็คือโปรตีนที่เราต้องการจะถูกสร้างมาจาก RNA ต้นแบบ ซึ่งมี 3 ชนิด แต่ที่สำคัญมากก็คือ mRNA หลักการของ mRNA วัคซีนก็คือ ใส่ mRNA ที่สร้างโปรตีนของไวรัสโควิด (ซึ่งอันนี้เราสามารถรู้ได้อยู่แล้วจากการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัส เหมือนเราทำขนมแหละครับ mRNA คือสูตรขนม เราก็สร้างโปรตีนคือตัวขนมออกมาได้) เข้าไปในร่างกาย เมื่อเซลล์ของร่างกายรับ mRNA นี้เข้ามาก็จะสร้างโปรตีนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวไวรัสออกมา (คิดง่ายๆ mRNA คือสูตรขนม เซลล์ของร่างกายมีวัตถุดิบเช่นแป้ง น้ำตาล ฯลฯ อยู่แล้ว เมื่อเซลล์ของร่างกายมีสูตรขนมก็ใช้วัตถุดิบผลิตเป็นขนมขึ้นมา) แต่เท่านี้ยังไม่จบ เมื่อร่างกายสร้างไวรัสจำลองออกมาแล้ว ไวรัสจำลองเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้สร้างสารทางภูมิคุ้มกันออกมา (ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่ในร่างกายมาก่อน เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมพวกนี้เกิดขึ้นมาร่างกายก็ย่อมสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้าน ซึ่งเป็นกลไกในการปกป้องร่างกายตามธรรมชาติ) และภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้ก็จะปกป้องเราเมื่อมีการติดเชื้อโควิดไวรัสจริงเข้ามา (ก็แน่ล่ะ เพราะอาศัยสูตรขนมเดียวกัน คือลอก mRNA มานิ) ฟังดูตามหลักการแล้วก็น่าจะดีเนอะ แต่คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า 1. ไม่เคยมีวัคซีนที่ผลิตโดยเทคนิคนี้ขึ้นมาก่อนในโลก ดังนั้นก็เหมือนขนมที่ไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน ใช้วัตถุดิบแปลกใหม่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้น เรากินแล้วจะมีปัญหาอะไรไหม ? 2. ปกติการสร้างโปรตีนของร่างกาย มันจะมีระบบควบคุมต่างๆเพื่อไม่ให้การสร้างโปรตีนผิดเพี้ยนไป (เหมือนคอยควบคุมไม่ให้ขนมผิดสูตร) แต่คราวนี้ mRNA ตัวนี้ไม่ใช่ของร่างกาย แต่เป็นของที่ฉีดเข้ามา (จาก Pfizer, Moderna คงคุ้นชื่อเนอะ) ระบบควบคุมคุณภาพเหล่านี้จะไปจับความผิดพลาดได้ไหม (เหมือนคุณมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสในคอม แต่ถ้าไวรัสแปลกๆเข้ามา มันอาจจะตามไม่ทันถ้าไม่อัพเดท หรือถ้าเปรียบเทียบกับทำขนม แทนที่จะหยิบน้ำตาลมาใส่ ดันไปหยิบเกลือโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเป็นเกล็ดขาวๆ เหมือนกันก็จะได้ขนมรสชาติแปลกประหลาดออกมา) 3. มันมีโรคทางระบบประสาทหลายโรค ที่ปัจจุบันยอมรับแล้วว่าเกิดจากโปรตีนที่ผิดเพี้ยนในร่างกาย (เรียกว่า misfolded protein) เช่น อัลไซเมอร์, พาร์คินสัน, ALS (ใครดูหนังเรื่อง the theory of everything หรือรู้จักอัจฉริยะฟิสิกส์ Stephen Hawking ก็โรคนั้นแหละครับที่เขาเป็น) ดังนั้นถ้าจากเหตุผลในข้อ 2 แล้วมีโปรตีนผิดเพี้ยนต่างๆเกิดขึ้นมาในอนาคต เราจะเป็นโรคเหล่านี้ไหม ? ก็ไม่มีใครบอกได้ เหตุผลที่เอาเทคนิคนี้มาใช้ผลิตวัคซีนโควิดเพราะว่าวิธีนี้สามารถสร้างวัคซีนขึ้นมาในปริมาณมากโดยใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับภาวะเร่งด่วนแบบที่เราเจอวิกฤตในปัจจุบัน แต่ด้วยเหตุผลทางด้านบนจึงมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนตั้งข้อกังขาและไม่สบายใจเกี่ยวกับ mRNA วัคซีนที่ใช้กันเยอะในเมืองนอกตอนนี้ อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่ทฤษฎีนะครับ คงต้องรอเก็บข้อมูลในอนาคตต่อไป เพิ่มเติม : ด้านล่างสำหรับเด็กสายวิทย์นะครับ ไม่ใช่สายวิทย์ผ่านไปได้เลย เพราะใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือยเยอะ ประเด็นที่น่ากังวลของ mRNA vaccine คือ 1. ไม่เคยมี mRNA vaccine ใช้มาก่อนเลยในโลกนี้ 2. จะเอาวัคซีนเข้าร่างกาย RNA ต้อง stable มาก และต้องให้เซลล์มัน uptake เข้าไป และสร้างไวรัสจำลองขึ้นมา ร่างกายถึงสร้าง immunity จะคุม stability ยังไงให้มั่นใจ 3. วิธีการใส่ mRNA เข้าไปในร่างกาย ถ้าจะให้เข้าเซลล์ได้มีประสิทธิภาพจริงก็ไม่สามารถฉีดไปแบบฉีดยาธรรมดา มันต้องใช้ Gene gun หรือ electroporation ซึ่งเขาก็ปรับปรุงโดยใช้ nanoparticle มาหุ้ม แล้วทำให้เข้าเซลล์ง่ายขึ้นโดยใช้การฉีดแบบวัคซีนธรรมดาได้ แต่ยังไม่รู้ว่า nanoparticle เหล่านี้จะมีผลข้างเคียงใดๆในระยะสั้นหรือระยะยาว ไหม {ตอนนี้ Moderna vaccine เจอบวมแดงที่แขนมากหลังฉีดหลายราย เป็นพวก hypersensitivity type 4 (หรืออาจจะ type 3 ในบางคนแบบ Arthus reaction) อาจถึงขนาดเป็นตุ่มน้ำพอง ไม่ทราบว่าจะจาก nanoparticle พวกนี้ไหม } 4. มีโอกาสที่ mRNA มันจะสร้างโปรตีนอื่นที่ผิดเพี้ยนขึ้นมา ถ้าดันเป็น misfolded protein คนไข้มีสิทธิ์เป็น Alzheimer's หรือโรค neurodegenerative disease อื่นๆได้ แค่ฉีดให้มันเข้าไปในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วเซลล์รับมันเข้าไปข้างใน และสร้างโปรตีนไวรัสจำลองออกมานี้ก็ยากแล้ว และยังไม่รู้เลยว่าพอมันอยู่ในเซลล์แล้วจะพลาดไปสร้างโปรตีนอะไรประหลาดๆออกมาไหม มันเหมือนเรารับ foreign genetic material อันนึงเข้าไปในร่างกายและไม่รู้จะควบคุมได้แค่ไหน... Pfizer ดันไปทะลึ่งยุ่งกับตัดเปลี่ยน DNA จะเป็นซอมบี้เต็มไปหมด Cr: นพ.พิเชษฐ์ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคนไทยช่วยกันครับ แชร์กันให้เยอะๆ ให้ถึงมือผู้ที่ได้รับความทุกข์โศกอยู่ในขณะนี้ ได้บุญครับ #รถที่จมน้ำทุกคันมีทางแก้เคยเจอมาแล้ว เมื่อปี 54 #ช่างจันทร์ขอแนะนำ รถที่จมน้ำในตอนนี้!๚ 1.ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกหนึ่งข้าง บวก หรือ ลบ ก็ได้ 2.เอามือถือถ่ายรูปรถทุกจุดที่น้ำเข้า 3.ถ่ายรูปตอนน้ำท่วมสูงสุดจะได้รู้ว่า ถึงจุดไหนของรถ 4.พอน้ำลง โทรตามบ.ประกันภัยรถให้มาซ่อม 5.ประกันภัยมาดูรถ ขอให้ใส่แบต ขอติดเครื่องยนต์,#ห้ามเด็ดขาด เพราะน้ำเข้าท่อไอดี ไปอยู่ที่หัวลูกสูบ พอติดเครื่อง น้ำก็จะอัดในห้องเครื่องทำให้ก้านสูบคดงอ พังในที่สุด ซ่อมใหม่ก็หลายๆหมื่น เลยทีเดียว 6.ให้ประกันลากเข้า 0 บริการ พร้อมทำหนังสือ(ใบเครมซ่อมรถ)ว่า จะรับผิดชอบทุกอย่าง ทำให้เหมือนเดิม แล้วเซ็น 7.คนไหน #ไม่มีประกันภัย ให้ทำตาม "ช่างจันทร์ บอกต่อไปนี้ 7.1 ถอดแบต 7.2 เอาลมเป่า ตามปลั๊กไฟทุกจุด และถอดกล่อง ECU มาเป่า, ใช้ลมเป่าเบาๆ หรือไดร์เป่าผมก็ได้ แล้วตากแดด 20 นาที [กล่องจมน้ำไม่พัง #ถ้าลมเป่าแรงๆพังเลย กล่องพวกนี้เขามีน้ำยาเคลือบมาแล้ว จมน้ำเลยไม่เสีย แต่ใส่แบตผิดเสียเลย เปลี่ยนใหม่ หลักหมื่น 7.3 ถ่ายน้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย ทิ้ง เติมใหม่ 7.4 รถ #เบนชิล ถอดหัวเทียนออก ติดเครื่อง 3 วิ ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ครั้งแรกน้ำพุ่งออกรูหัวเทียนมาก #ห้ามลืมถอดหัวเทียนนะ ก้านสูบคด เสียเงินหมื่น 7.5 #เครื่องดีเชล ถอดหัวฉีด หรือหัวเผาก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วติดเครื่อง 4 วิ ทำ 4 ครั้ง 7.6 ประกอบคืน ล้างถังน้ำมันเชื้อเพลง เติมใหม่ แล้วติดเครื่องได้เลย #เย้ๆดีใจ เครื่องติดแล้ว ทำตามที่บอก อย่าข้ามขั้นตอน แค่นี้ ก็ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น 7.7 เมื่อเครื่องยนต์ ติดแล้ว เข้าเกียร์ไม่ได้ วิ่งไม่ได้ เพราะผ้าครัชติดกับหวีครัช #ไม่ต้องยกเกียร์ให้ลำบาก ทำง่ายๆ นาทีเดียวก็ ดีเยี่ยม #เข้าเกียร์ 2 ติดเครื่อง 8 วินาที ใช้ได้เลย,ใช้ได้ 2,000 โล เปลี่ยนลูกปืนครัชใหม่ ราคาไม่ถึงพัน 8. มอไซค์ ที่จมน้ำ 8.1 ให้ทำทุกอย่าง เหมือน 7.1 ถึง 7.6 มอไซค์ ดีอย่าง แบตเตอรี่ จมน้ำไม่เสีย, แบตแห้งใง #คนใหนอ่านจบ คนนั้นเป็นคนดีของสังคม แล้วแชร์ ให้เพื่อนๆ ที่อยู่ สกลนคร และทุกคนที่รถจมน้ำ อย่างน้อย ช่างจันทร์ ก็ถือว่า ได้ช่วย ได้บุญ, ส่วน#คนที่กดแชร์ ก็ได้บุญใหญ่ คนไทยช่วยกัน ช่วยกันนะครับบบบ.ไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูปตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเล่นมือถือนานๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆและเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข AFNCAFNCTHAILANDข่าวปลอมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหน้าเบี้ยวเล่นมือถือโทรศัพท์มือถือ ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง website 2378 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 16:30 น. website 2374 ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 13:30 น. ข่าวล่าสุด website 2384 ข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน การเงิน-หุ้น website 2383 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2382 สธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย จริงหรือ? นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2381 ข่าวปลอม อย่าแชร์! เพจ SAO Trading ในเครือของ AOT เปิดให้ลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท การเงิน-หุ้น website 2380 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วัน นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร เมนูหลัก หน้าแรก แจ้งเบาะแสข่าวและติดตาม คลังความรู้ ข่าวสาร ดาวน์โหลดคู่มือประชาชน เกี่ยวกับการใช้งาน ตัวช่วยเหลือในการเข้าถึงเว็บไซต์ นโยบายรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว line facebook twiter twiter twiter call สายด่วน : 1111 ต่อ 87 Logo Copyright © 2023 ANTI-FAKE NEWS CENTER THAILAND ขออนุญาตใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอสุขภาพสุริยนต์ พักแดงพันธ์• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยคิดอยู่แล้ว ว่าสตช.ต้องหน้าแตกซ้ำ เหมือนที่กรมการขนส่งฯเขาไม่เอาด้วยกับเรื่องต่อทะเบียนรถ คราวนี้ ผู้พิพากษาก็ไม่เอาด้วย กับการออกมาข่มขู่ประชาชน ตามสันดานที่เคยทำมาของตำรวจ 📌“ผู้พิพากษา” กางข้อกฎหมายไม่จ่าย “ค่าปรับใบสั่งจราจร” เจอ “ออกหมายจับ” ?? 🖋นายสันติ ผิวทองคำ ผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระยอง เผยแพร่บทความในประเด็นนี้โดยระบุว่าคดีความผิดตามใบสั่ง กฎหมายถือเป็นคดีความผิดลหุโทษ มีอายุความเพียง 1 ปี ส่วนการดำเนินคดี ในกรณีที่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด หรือ กล้อง CCTV หรือไม่ ตำรวจต้องให้โอกาสเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองโต้แย้งตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 140 ถึง มาตรา 141/1 ก่อน จะขออนุมัติศาลออกหมายจับทันทีนั้นไม่ได้ ❗️“เนื่องจากคดีประเภทนี้เป็นความผิดเล็กน้อย และหากเป็นกรณีที่ตำรวจพบการกระทำความผิดผ่าน กล้องวงจรปิด ซึ่งไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า เบื้องต้นตำรวจย่อมมีข้อมูลเพียงอย่างเดียวคือ หมายเลขทะเบียนรถ ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร กรณีไม่แน่ชัดว่าผู้มีรายชื่อถือกรรมสิทธิ์รถหรือผู้มีรายชื่อเป็นผู้ครอบครองรถนั้นเป็นผู้ขับขี่ฝ่าฝืนหรือกระทำผิด พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในข้อหาที่กล้องวงจรปิดหรือ กล้อง CCTV บันทึกไว้ได้หรือไม่ กฎหมายจราจรจึงกำหนด ขั้นตอนให้โอกาสแก่บุคคลผู้มีรายชื่อเป็นเจ้าของรถหรือมีรายชื่อเป็นผู้ครอบครองได้โต้แย้งข้อหาที่กล้องบันทึกไว้ก่อนที่จะส่งเรื่องไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตำรวจยังไม่สามารถกล่าวโทษหรือกล่าวหาอันนำไปสู่การออกหมายเรียกหรือออกหมายจับผู้มีรายชื่อเป็นเจ้าของรถหรือผู้มีรายชื่อเป็นผู้ครอบครอง ได้ทันทีแต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 140 ถึง มาตรา 141/1”❗️ 🖋กรณีต้องการขอหมายจับต้องเข้า “กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน” และพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองให้มาพบอย่างน้อย 2 ครั้ง 🖋ซึ่งการส่งหมายเรียกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ป.วิ.อาญา และต้องมั่นใจว่าเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองได้รับหมายเรียกแล้ว “จงใจไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวน” ตามที่กำหนด และพยานหลักฐานต้องเพียงพอเชื่อได้ว่าเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองเป็นผู้ขับขี่รถในวันเกิดเหตุ และจงใจไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้คดีต้องไม่ขาดอายุความ “ศาลจึงจะพิจารณาอนุมัติหมายจับ” เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองตามที่ร้องขอ ❗️“กรณีหาอาจอนุมัติหมายจับตามใจเจ้าพนักงานตำรวจไม่ เพราะศาลเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญาแก่สังคม”❗️ 🖋ถึงแม้ศาลอนุมัติหมายจับให้แต่ตำรวจก็ต้องติดตามตัวเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองมาแจ้งข้อหาให้ได้ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ และแม้จะพบตัวเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถตามหมายจับ ก็ไม่อาจควบคุมตัวหรือควบคุมขังเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองได้เพราะเป็นเพียงคดีความผิดเล็กน้อย หรือ ลหุโทษ คงได้แต่ เพียงสอบถามชื่อนามสกุล และ แจ้งข้อหาให้ทราบแล้วต้องปล่อยตัวไปเท่านั้น 🖋จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการขออนุมัติศาลออกหมายจับในคดีความผิดตามใบสั่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกฎหมายมองว่าเป็นเพียงคดีความผิดที่มีโทษเพียงเล็กน้อยและเป็นคดีลหุโทษ จึงกำหนดเงื่อนไขไว้ค่อนข้างเคร่งครัด 🖋นอกจากนี้แม้ศาลอนุมัติหมายจับแล้วในคดีความผิดลหุโทษหรือความผิดตามใบสั่งตำรวจจะต้องทำสำนวนสอบสวน และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ พิจารณา และต้องฟ้องเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองต่อศาลภายใน 1 ปี มิฉะนั้นคดีเป็นอันขาดอายุความ ก็ไม่สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองได้อีกเช่นกัน 🖋จากขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดเพื่อควบคุมการใช้อำนาจของตำรวจ ประกอบกับการออกหมายจับหรือไม่เป็นดุลพินิจโดยแท้ของศาล ที่กฎหมายให้อำนาจศาลถ่วงดุลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และพนักงานสอบสวนอีกส่วนหนึ่ง และระยะเวลาการดำเนินคดีที่สั้น ประกอบกับตำรวจหรือพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจควบคุมตัวผู้กระทำผิดในคดีลหุโทษหรือคดีความผิดตามใบสั่ง ❗️ผู้ใช้รถใช้ถนนหรือเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถ จึงไม่ควรกังวลกับข่าวที่แพร่ออกทางสื่อสารมวลชนดังกล่าวมากจนเกินไป เพราะการอนุมัติหมายจับเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถในคดีความผิดตามใบสั่ง #เป็นดุลพินิจของศาล_หาใช่เป็นดุลพินิจของตำรวจไม่❗️ ที่มา : ขั้นตอนการขออนุมัติหมายจับในคดีความผิดตามใบสั่ง By ท่านติ ภาพประกอบ : internetผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยBonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบียซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของดร. บอนนี่เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและรักษาระยะห่างทางกายภาพสองเมตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิวที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึกในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจงของ COVID-19 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วนแล้วไปอาบน้ำ ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกันทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกันไวรัสโควิด -19 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมดในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้าก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ด้วยน้ำส้มสายชูน้ำอ้อยและขิง! สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกันไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน อาจจะรบกวนการหายใจและระดับออกซิเจนของคุณลดลง จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือและแพร่เชื้อได้ง่ายหากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ จะดีกว่า ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อ ร่ายกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาดเป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวานและเครื่องดื่มเติมอากาศ จงฉลาด ใช้ชีวิต รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล อย่าวิตก จนเกินไป ชีวิตจะปลอดภัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66ผู้ส่งต่อข่าวสารว่า พายุอินเดียเตรียมเข้าไทย ครอบคลุมทุกภูมิภาค ฝนตกหนักมาก 80% ของพื้นที่ ชุ่มฉ่ำทั่วไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่มิได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีพายุเกิดขึ้นจริงและมีผลกระทบกับประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศให้ทราบอย่างน้อย 3 วันstd48460• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66เตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66สภาพอากาศPakin Bunya-arak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66จากกรณีที่มีผู้ส่งต่อข่าวสารว่า พายุอินเดียเตรียมเข้าไทย ครอบคลุมทุกภูมิภาค ฝนตกหนักมาก 80% ของพื้นที่ ชุ่มฉ่ำทั่วไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่poonpun196• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ