(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัย๏ทำไมยาเสพติด ไม่หมดไปจากประเทศ๏ 30 วิธีนอกรีต-สืบ-จับ คดียาเสพติด ตำรวจไทย ทุกท่านควรอ่านไว้ เพราะอาจเจอกับตัวเอง! 1. ยัดยาเสพติด สร้างผลงานให้ตนเอง 2. จับแล้ว ลดจำนวนยาเสพติด โดยเรียกเงินผุ้ต้องหา หรือนำยา ไปขายต่อ 3. รับวิ่งเต้นจากผุ้ต้องหา โดยอ้างว่าสามารถลดจำนวนยาเสพติดได้ 4. ลดของกลางยาบ้า โดยเรียกเม็ดละ 5,000 บาท 5. จับผุ้ต้องหา แล้วพาไปกดเงินตู้ เอทีเอ็ม ถ้าไม่พอใจให้ญาติไปกดเงินมาให้เพิ่ม 6. จับผุ้ต้องหาพร้อมยา แต่นำเงินผุ้ต้องหา เข้ากระเป๋าตนเอง 7. จับตัวผุ้ต้องหา และพาทัวร์ ให้ไปหาเงินมาให้ หรือกักตัวใจเซฟเฮ้าส์ 8. จับยาเสพติดในรถยนต์ ถ้าเป็นผัวเมีย ปล่อยเมียไปหาเงินมาให้ 9. จับยาบ้า พร้อมเงินสด และปล่อยผุ้ต้องหาไป นำเงินเข้ากระเป๋า 10. ปลอมปนยาบ้า เอาของปลอมมาผสม และเอาของจริงไปขายต่อ 11. จับผู้ต้องหามาแล้ว ปล่อยตัวไป ให้ไปหาเงินมาส่งส่วยเป็นรายเดือน 12. จับผู้ต้องหาที่ไม่ส่งส่วย ให้ขายยาบ้าได้เฉพาะที่ส่งส่วย 13. จับผู้ต้องหาได้ และซักทอด ก็ออกหมายเรียก และนัดหมายนอกสถานที่รีดเงิน บอกว่าไม่ส่งฟ้อง 14. รับจ้างวิ่งเต้นล้มคดี กับพนักงานสอบสวนด้วยกัน และวิ่งเต้นชั้นอัยการ 15. รับเงินจากผู้ต้องหา เพื่อไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาล โดยอ้างว่านำไปให้อัยการ เพื่อไม่ให้คัดค้านการประกันตัว 16. รับเงินเพื่อทำบันทึกการจับกุมใหม่ เพื่อให้สำนวนอ่อน กลับคำให้การ 17. ถ่ายสำเนา สำนวนดำเนินคดีผู้ต้องหา ให้กับญาติผู้ต้องการ เพื่อให้ทนายความเตรียมการต่อสู้คดีในชั้นสอบสวน และ ชั้นศาล 18. จัดทำบันทึกกาจับกุมเป็นเท็จ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยนำรายชื่อตำรวจไม่เกี่ยวข้องมาร่วมเพื่อสร้างผลงาน 19. จัดหา ทนายความให้ผุ้ต้องหา เพื่อเรียกเงิน 20. จัดหา นายประกันให้ผู้ต้องหา และเรียกเงิน 21. จับผู้ต้องหา แต่ไม่ได้ของกลาง เลยยัดยาเสพติด บังคับให้รับสารภาพ และเขียนด้วยลายมือตนเอง โดยซ้อมผู้ต้องหา 22. รับจ้างเคลียร์คดีให้ผุ้ต้องหา โดยเรียกเงิน โดยเสนอเงินให้พนักงานสอบสวน เป็นค่าตอบแทน 23. รับจ้าง ลบประวัติอาชญากร เพื่อไม่ให้มีการนับโทษต่อ หรือเป็นประโยชน์ให้ผุ้ต้องหา เพียงรอการรับโทษ 24. เรียกเงินจากผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 25. รับเงินจาก ญาติพี่น้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเยี่ยม 26. นำภรรยา ผู้ต้องหา ไปร่วมประเวณี 27. ปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิง และนำมาเป็นสายลับ และ บังคับร่วมประเวณี 28. จับผู้ต้องหา ในอาคารชุด โดยไม่มีหมายจับ จากนั้นทำบันทึกการจับกุมเป็นเท็จ ว่า ทำที่สาธารณะ 29. เดินสายหาเหยื่อ นอกเขตพื้นที่ตนเอง เพื่อเรียกเงินให้ส่งส่วยเป็นรายเดือน 30. นำรถยนต์ของกลางที่จับได้ขณะขายยาเสพติด ไปใช้ส่วนตน และปลอมแปลงทะเบียนและไปขายต่อ” #มิตรสหายท่านหนึ่งผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประเทศต่อไปนี้ประกาศยกเลิกกระบวนการกักกันทั้งหมด การทดสอบโคโรนา และการฉีดวัคซีนภาคบังคับ และพิจารณาว่าโคโรนาเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล: 1) ตุรกี 🇹🇷 2) บราซิล 🇧🇷 3) สหราชอาณาจักร 🇬🇧 4) สวีเดน 🇸🇪 5) สเปน 🇪🇸 6) สาธารณรัฐเช็ก 🇨🇿 7) เม็กซิโก 🇲🇽 8) เอลซัลวาดอร์ 🇸🇻 9) ญี่ปุ่น 🇯🇵 10) สิงคโปร์ 🇸🇬 : จุดจบของไวรัสโคโรน่าด้วยการป้องกันแบบเยอรมันนี นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันประกาศหลังจากการศึกษาหลายครั้งว่า ไวรัสโคโรน่าไม่เพียงแต่แพร่พันธุ์ในปอดเหมือนไวรัสซาร์สในปี 2545 แต่ยังแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในลำคอในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้แนะนำให้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสั่งให้พวกเขาทำภารกิจง่ายๆ หลายๆ ครั้งต่อวัน ซึ่งก็คือการกลั้วคอด้วยสารละลาย Abmonak แบบกึ่งร้อน พวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำเช่นนี้มานานแล้ว และหลังจากผลการทดลองที่ดำเนินการโดยนักชีววิทยาชาวเยอรมันเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนของไวรัสโคโรน่าในลำคอ พวกเขาได้เน้นย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นในการกลั้วคอด้วยน้ำและเกลืออุ่นๆ .. นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันให้คำมั่นกับกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีว่า หากทุกคนล้างคอวันละหลายๆ ครั้งด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือกึ่งร้อน ไวรัสก็จะถูกกำจัดไปทั่วทั้งเยอรมนีภายในหนึ่งสัปดาห์ การทดลองแสดงให้เห็นว่าการกลั้วคอด้วยน้ำและเกลือจะทำให้คอของเรามีสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างโดยสมบูรณ์ และสภาพแวดล้อมนี้เป็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ coronavirus เพราะน้ำเกลือ pH ของปากจะเปลี่ยนเป็นด่าง ค่า pH และหากเรากลั้วคอวันละหลายๆ ครั้งด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ เกือบร้อนแล้ว เราจะไม่ให้โอกาสที่ coronavirus ทวีคูณ ทุกคนจึงจำเป็นต้องกลั้วคอด้วยน้ำเกลือกึ่งร้อนวันละหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะช่วงเช้า ก่อนออกจากบ้าน และหลังกลับบ้าน เพื่อไม่ให้เชื้อโคโรน่าเพิ่มจำนวนขึ้นแต่อย่างใด ในช่วงเริ่มต้นเดียวกัน ขอให้ทุกคนนำเคล็ดลับสุขภาพที่สำคัญและเรียบง่ายเหล่านี้ไปใช้ด้วยความมุ่งมั่น เมื่อบทความนี้กลายเป็นกระแสไวรัล คุณเองก็จะอยู่ในแวดวงของผู้ที่ต่อสู้กับการแพร่กระจายของ coronavirus ข่าวดี ๆ อย่างนี้ สื่อบ้านเราไม่เอามาลงหรอก กรุณาส่งให้คนที่คุณรักด้วยนะโควิด 2019ยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเนปาลเตรียมย้าย ‘เอเวอเรสต์เบสแคมป์ธรรมชาติเตือน! ’ ห่วงอันตรายจากธารน้ำแข็งบางลงรวดเร็ว . ธรรมชาติส่งสัญญาณอีกครั้ง หลังเนปาลเตรียมย้ายที่ตั้งนักปีนเขา บนเทือกเขาเอเวอเรสต์ หรือที่เราต่างคุ้นหูด้วยชื่อ เอเวอเรสต์เบสแคมป์ ด้วยหวั่นความปลอดภัยจากธารน้ำแข็งละลาย ทั้งจากภาวะโลกร้อนและกิจกรรมของมนุษย์ . คงไม่อาจปฏิเสธว่าเอเวอเรสต์กลายเป็นจุดหมายของบรรดานักปีนเขา ที่อยากสัมผัสประสบการณ์สักครั้งในชีวิต ทำให้แคมป์ที่ตั้งดังกล่าวมีผู้ใช้งานมากถึง 1,500 คนในฤดูใบไม้ผลิ ส่งผลให้ธารน้ำแข็งคุมบู หรือ Khumbu Glacier ซึ่งเป็นที่ตั้งของแคมป์นี้บางลงอย่างรวดเร็ว . "ขณะนี้เรากำลังเตรียมการย้าย" เป็นคำยืนยันจากผู้อำนวยการทั่วไป สำนักการท่องเที่ยวเนปาล พร้อมบอกกว่า "เป็นธรรมดาที่ต้องที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นในแคมป์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความยั่งยืนของธุรกิจการปีนเขา" . สำหรับแคมป์ดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ที่ความสูง 5,364 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งฐานที่ตั้งใหม่จะอยู่ต่ำกว่านี้ 200-400 เมตร . และนี่ก็ไม่ใช่ธารน้ำแข็งแห่งเดียวที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังชี้ว่า ในเทือกเขาหิมาลัยยังมีธารน้ำแข็งอีกหลายแห่งกำลังละลายและบางลงอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากภาวะโลกร้อน . Tshering Tenzing Sherpa ผู้จัดการแคมป์เล่าว่า การเคลื่อนตัวทำให้บรรดานักปีนเขาได้ยินเสียงดัง จากน้ำแข็งหรือหินที่ตกลงมา “ในอดีตพื้นจะโผล่ขึ้นหลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ แต่ตอนนี้ มันเกิดขึ้นแทบทุกสัปดาห์” . นอกจากนี้ การต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ขาดสาย ยังก่อให้เกิดความร้อนจากหลายเหตุ อย่างปัสสาวะกว่า 4,000 ลิตรที่เกิดขึ้นทุกวัน รวมถึงการประกอบอาหาร . โดยการดำเนินการทั้งหมดอาจเกิดขึ้นภายในปี 2567 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น บรรดานักปีนเขาก็จะถูกท้าทายจากระยะทางกว่าจะไปถึงแคมป์แรกที่เพิ่มมากขึ้น . . อ้างอิงจาก https://www.bbc.com/news/science-environment-61828753 https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/gto.12215 #brief #TheMATTERMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย⚠️ประกาศ เตือนภัย มิจฉาชีพแฝงตัวในสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ โปรดระวัง เฟซบุ๊ก บัญชีไลน์ หรือ อีเมล ปลอม ส่งคิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ PromptPay เพื่อให้ท่านโอนเงินค่าวัคซีน⚠️ประกาศ เตือนภัย มิจฉาชีพแฝงตัวในสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ โปรดระวัง เฟซบุ๊ก บัญชีไลน์ หรือ อีเมล ปลอม ส่งคิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ PromptPay เพื่อให้ท่านโอนเงินค่าวัคซีน 🌐เพจเฟซบุ๊กปลอม นำตราสัญลักษณ์และภาพไปใช้ โดยชื่อเพจไม่ใช่ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีเฟซบุ๊ค 2 เพจเท่านั้นที่ใช้สื่อสารเรื่องการจัดสรรวัคซีน ได้แก่ 1️⃣ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์) ผู้ติดตาม 662k และ 2️⃣ ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์) ผู้ติดตาม 155k ❎บัญชีไลน์ปลอม ส่งคิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ PromptPay ให้โอนเงิน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีช่องทาง LINE Official account: @Chulabhornhospital Add Friend > http://nav.cx/8DqLuQm มีผู้ติดตามเป็น Friends 2.6M สำหรับใช้สื่อสารบริการและประกาศประชาสัมพันธ์ต่างๆเท่านั้น ไม่มีบริการตอบคำถามประชาชนในไลน์บัญชีนี้ ทั้งนี้ ไม่มีบริการส่ง Link โอนเงินค่าวัคซีนซิโนฟาร์ม หรือวัคซีนโควิด19 ทุกชนิดผ่านไลน์ !!! และไม่มีการจัดตั้งบัญชี LINE ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อบริการตอบคำถามประชาชน 📧อีเมลปลอม ส่งคิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ PromptPay ให้โอนเงิน องค์กร/นิติบุคคล ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนสามารถตรวจสอบวิธีการโอนเงิน และพิมพ์ใบนำฝากเงิน ผ่านการล็อคอินเข้าสู่ระบบ “ลงทะเบียนองค์กรผู้ได้รับการจัดสรรวัคซีน” ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เท่านั้น เพื่อโอนเงินผ่านช่องทางต่างๆที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ❌ไม่มีการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน 2564โควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยงานจะยุ่งขนาดไหน ก็ต้องอ่าน เพียงกินแค่ส้มโอ ก็ทำให้เกือบเสียชีวิตได้ อันตราย...จำเป็นต้องระวัง!! วันนี้ที่เมืองเจียงซี มีผู้สูงวัยคนหนึ่งกินส้มโอเข้าไป หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงรู้สึกผิดปกติ ที่บ้านจึงพาไปโรงพยาบาล ขณะที่เดินทางไปโรงพยาบาล ผู้สูงวัยก็รู้สึกโลกหมุน หัวใจเต้นเร็ว และก็เป็นลมไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตรวจร่างกายเรียบร้อย แพทย์ที่รักษาดูอาการได้วิเคราะห์สาเหตุออกมาว่า ส้มโอไม่มีพิษภัยต่อร่างกาย ถ้าจะมีปัญหาคือก่อนกินส้มโอ ผู้สูงวัยได้กินยา ลดความดัน แพทย์ได้แนะนำว่า ส้มโอมีผลต่อการทำงานของยา ลดความดัน ทำให้ยา กลายเป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกายได้ ภายในส้มโอมีสาร Coumarin ซึ่งมีผลต่อเอนไซม์ในตับ ทำให้การทำงานของเอนไซม์นั้นลดลง ซึ่งเอนไซม์นี้มีผลต่อการเผาผลาญยา เมื่อยาเผาผลาญไม่ได้ ทำให้ความเข้มข้นของยาในเลือดเข้มข้นขึ้น ทำให้สะสมกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ในส้มโอยังมีสารที่เรียกว่า Naringenin ทำให้ยาเข้าไปในลำไส้ได้เร็วขึ้น เมื่อยาถูกดูดซึมเข้าไป ก็จะทำให้ในเลือดมีความเข้มข้นของยาสูง ทำให้ร่างกายของคนเกิดอาการมึนหัวหรือความดันเลือดต่ำได้ แพทย์ผู้ชำนาญการได้เตือนว่า การกินส้มโอแบบนี้ให้โทษแก่ร่างกาย หากเป็นห่วงคนรอบตัว กรุณาส่งต่อให้พวกเขา! 1.ส้มโอไม่ควรกินพร้อมกับอาหารทะเล เพราะส้มโอมีวิตามินซีสูง ในอาหารทะเลจะมีธาตุสารหนูสูง วิตามินซีและสารหนู เมื่อเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เกิดสารจำพวกอาร์เซนิกไตรออกไซด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งหากร่างกายได้รับเป็นปริมาณมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 2.ส้มโอไม่สามารถกินร่วมกับยาบางชนิดได้ เช่น ยาลดไขมันในเส้นเลือด, ยาแก้แพ้ (Terfenadine), ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine), คาเฟอีน, ยาต้านแคลเซียม (Calcium Channel Blocker), ยาลดอาการปวด (Cisapride) เป็นต้น ดังนั้นผู้ป่วยที่รับประทานยาเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ไม่ควรกินส้มโอหรือน้ำส้มโอ เรื่องนี้กรุณาอย่าเก็บไว้ดูเพียงคนเดียว ส่งต่อให้คนอื่นให้ได้มากที่สุด สิ่งนี้อาจช่วยชีวิตคนรอบข้างและเพื่อนๆ ของคุณให้พ้นจากอันตรายเหล่านี้ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนนิยมกินส้มโอ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน หวังว่าคุณจะเป็นคนแรกที่ส่งต่อเรื่องราวที่มีประโยชน์นี้ ยิ่งส่งต่อมาก ก็จะทำให้คนยิ่งระมัดระวังกันมากขึ้น เพียงใช้เวลาแค่หนึ่งวินาทีในการส่งต่อแก่คนรู้จัก ขอบคุณมากๆไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่รู้เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง รึเปล่านะ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ ถือได้ว่าเป็นข่าวดีของชาวโลก * เร็ว ๆ นี้สหรัฐอเมริกาจะมียารับประทานสำหรับการรักษาโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะรับประทานยาที่บ้านเป็นเวลา 5 วันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะถูกกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์และผู้ป่วยจะฟื้นตัวเต็มที่ * * ยาที่แปลว่า "Molnupiravir" ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย บริษัท ยารายใหญ่สองแห่งคือ "Rigibel" ในเยอรมนีและ "Merck" ในสหรัฐอเมริกาและประสบความสำเร็จในการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 1 และ 2 ในมนุษย์ ผลกระทบคือ 100%; การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในปัจจุบันใกล้สิ้นสุดลงและผลดีมาก หากเป็นไปได้ดีจะวางจำหน่ายในตลาดภายใน 4 ถึง 5 เดือน * * ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้ด้วยตัวเองที่บ้านและหายใน 5 วันซึ่งสะดวกในการใช้มาก การรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอนาคตก็เหมือนกับการรักษาโรคหวัดในตอนนี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่น่ากลัว * * ยานี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ มันเป็นสารประกอบหลักการคือการป้องกันไม่ให้เอนไซม์ของไวรัส ia นั่นคือการป้องกันไม่ให้ไวรัสจำลองตัวเองเพื่อกำจัดไวรัสอย่างรวดเร็ว หลักการของวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาในปัจจุบันคือกำหนดเป้าหมายไปที่หน้าแปลนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งจะช่วยป้องกันการรวมกันของโคโรนาไวรัสตัวใหม่และเซลล์ของมนุษย์ หลักการของทั้งสองข้อแตกต่างกัน * * ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายนปีที่แล้วโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในฟาร์มมิงค์ในเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ส่งผลให้มิงค์เสียชีวิตจำนวนมากนับล้านตัว ฟาร์มมิงค์เลี้ยงมิงค์ด้วย "โมนาปินาเวียร์" และพบว่าไม่มีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในตัวมิงค์ที่ป่วยใน 24 ชั่วโมงต่อมา ฟาร์มมิงค์หยุดการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น บริษัท ยารายใหญ่ทั้งสองจะดำเนินการทดลองทางคลินิกในระยะแรกกับมนุษย์ หลังจากประสบความสำเร็จพวกเขาจะทำการทดลองทางคลินิกขั้นที่สองและสาม จนถึงตอนนี้พวกเขาจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ * * นี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะในวงการแพทย์ บางทีอาจเป็นไปตาม Valium แอสไพรินและเพนิซิลลินและ Apin เป็นยาคลาสสิกสี่ชนิด * https://www.wtsp.com/article/news/health/coronavirus/antiviral-drug-molnupiravir-showing-promise-in-trials-against-coronavirus/67-87f24932-8244-439a-a664-ba6aa21aac01 * รอเพียงไม่กี่เดือนแล้วรับประทานยารับประทานตามท้องตลาดโดยไม่ต้องฉีดยา *โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว3 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนักวิชาการแนะ ทำบุญอย่าปล่อย ปลาดุก ลงในแม่น้ำลำคลอง จริงหรือดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน้ำจืด เตือนว่าทำบุญอย่าปล่อย "ปลาดุก" ชี้ปลาดุกส่วนใหญ่ เป็นปลาดุกบิ๊กอุย กินพืชและสัตว์น้ำ กินปลาเล็กไม่เลือก ตั้งสมมติฐานชี้ภาพ กระทบระบบนิเวศ ปัจจุบันมีผู้นิยมนำปลาดุกบิ๊กอุย ไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อทำบุญ แต่การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่นั้นๆ โดยปลาดุก กินอาหารวันละ 5% ของน้ำหนักตัว โดยกินทั้งพืชและสัตว์ ปริมาณที่เท่าๆ กัน ซึ่งปลาดุกที่ปล่อยจะมีน้ำหนักประมาณ 3 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม และจะถูกนำไปปล่อยลงแหล่งน้ำที่สมบูรณ์มีอาหารให้กิน ยกตัวอย่าง หากต้องการปล่อยปลาดุก 1,000 กิโลกรัม คิดเป็นปลาดุกประมาณ 3,000 ตัว ปลาดุก 1,000 กิโลกรัม จะกินอาหารวันละ 50 กิโลกรัม ในอาหาร 50 กิโลกรัมนี้เป็นสัตว์ครึ่งหนึ่ง ดังนั้น คิดเป็นสัตว์น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม หรือ 25,000 กรัม ปลาดุกตัวขนาดนี้ สัตว์น้ำท้องถิ่นอย่าง ลูกปลาบู่ ลูกปลาตะโกก ลูกปลาตะเพียน ปลาซิว กุ้งฝอย และหอยขม ที่กินได้พอดีๆ คำ จะตัวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็จะหนักไม่เกิน 5 กรัม ดังนั้น ปลาดุก 3,000 ตัว ที่ปล่อยไปนี้ ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดี ก็ต้องกินสัตว์น้ำอื่นๆ ไปวันละ 5,000 ตัว หรือปีละ 1,800,000 ชีวิตanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยงานจะยุ่งขนาดไหน ก็ต้องอ่าน เพียงกินแค่ส้มโอ ก็ทำให้เกือบเสียชีวิตได้ อันตราย...จำเป็นต้องระวัง!! วันนี้ที่เมืองเจียงซี มีผู้สูงวัยคนหนึ่งกินส้มโอเข้าไป หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงรู้สึกผิดปกติ ที่บ้านจึงพาไปโรงพยาบาล ขณะที่เดินทางไปโรงพยาบาล ผู้สูงวัยก็รู้สึกโลกหมุน หัวใจเต้นเร็ว และก็เป็นลมไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตรวจร่างกายเรียบร้อย แพทย์ที่รักษาดูอาการได้วิเคราะห์สาเหตุออกมาว่า ส้มโอไม่มีพิษภัยต่อร่างกาย ถ้าจะมีปัญหาคือก่อนกินส้มโอ ผู้สูงวัยได้กินยาลดความดัน แพทย์ได้แนะนำว่า ส้มโอมีผลต่อการทำงานของยาลดความดัน ทำให้ยากลายเป็นพิษร้ายแรงต่อร่างกายได้ ภายในส้มโอมีสาร Coumarin ซึ่งมีผลต่อเอนไซม์ในตับ ทำให้การทำงานของเอนไซม์นั้นลดลง ซึ่งเอนไซม์นี้มีผลต่อการเผาผลาญยา เมื่อยาเผาผลาญไม่ได้ ทำให้ความเข้มข้นของยาในเลือดเข้มข้นขึ้น ทำให้สะสมกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ในส้มโอยังมีสารที่เรียกว่า Naringenin ทำให้ยาเข้าไปในลำไส้ได้เร็วขึ้น เมื่อยาถูกดูดซึมเข้าไป ก็จะทำให้ในเลือดมีความเข้มข้นของยาสูง ทำให้ร่างกายของคนเกิดอาการมึนหัวหรือความดันเลือดต่ำได้ แพทย์ผู้ชำนาญการได้เตือนว่า การกินส้มโอแบบนี้ให้โทษแก่ร่างกาย หากเป็นห่วงคนรอบตัว กรุณาส่งต่อให้พวกเขา! 1.ส้มโอไม่ควรกินพร้อมกับอาหารทะเล เพราะส้มโอมีวิตามินซีสูง ในอาหารทะเลจะมีธาตุสารหนูสูง วิตามินซีและสารหนู เมื่อเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เกิดสารจำพวกอาร์เซนิกไตรออกไซด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งหากร่างกายได้รับเป็นปริมาณมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 2.ส้มโอไม่สามารถกินร่วมกับยาบางชนิดได้ เช่น ยาลดไขมันในเส้นเลือด, ยาแก้แพ้ (Terfenadine), ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine), คาเฟอีน, ยาต้านแคลเซียม (Calcium Channel Blocker), ยาลดอาการปวด (Cisapride) เป็นต้น ดังนั้นผู้ป่วยที่รับประทานยาเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ไม่ควรกินส้มโอหรือน้ำส้มโอ เรื่องนี้กรุณาอย่าเก็บไว้ดูเพียงคนเดียว ส่งต่อให้คนอื่นให้ได้มากที่สุด สิ่งนี้อาจช่วยชีวิตคนรอบข้างและเพื่อนๆ ของคุณให้พ้นจากอันตรายเหล่านี้ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนนิยมกินส้มโอ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน หวังว่าคุณจะเป็นคนแรกที่ส่งต่อเรื่องราวที่มีประโยชน์นี้ ยิ่งส่งต่อมาก ก็จะทำให้คนยิ่งระมัดระวังกันมากขึ้น เพียงใช้เวลาแค่หนึ่งวินาทีในการส่งต่อแก่คนรู้จัก ขอบคุณมากๆไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยจะตรวจสอบอย่างไรว่าเป็นภาพ Ai หรือภาพจริงบ่อยครั้งที่เราเห็นภาพต่าง ๆ ทางโซเชี่ยลในสถานการณ์ความขัดแย้ง ชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วสงสัยว่า คือ ภาพที่ Ai เจนเนอร์เรตขึ้น หรือ เป็นภาพจริง จะมีวิธีดูอย่างไรข่าวไทยกัมพูชาสุชัย เจริญมุขยนันท• 6 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย.เปิด 3 ยี่ห้อยาสีฟัน ขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก "โฆษณาเกินจริง"การซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านโซเซียลมีเดีย ยังต้องระวังอย่างมาก นอกจากเลียนแบบรูปลักษณ์ ยังเลียนแบบสรรพคุณเกินจริง อาจทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์การโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินจากความเป็นจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภค เนื่องจากยาสีฟันเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปากเพื่อทำความสะอาดเท่านั้นstd47688• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคณะกรรมการการสลากฯ พิจารณาเลื่อนออกรางวัลงวดวันที่ 1 ส.ค. 64พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จในลักษณะข่าวปลอม(Fake News) จากผู้ไม่หวังดีที่พยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48451• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหมอบอกจะมีคนไทยติดเชื้อ 35 ล้านคนและตาย 30,000 กว่าคนแน่นอน ภายใน 100 วันหมอบอกจะมีคนไทยติดเชื้อ 35 ล้านคนและตาย 30,000 กว่าคนแน่นอน ภายใน 100 วัน ต้องรอดูว่าพูดจริงไหมMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยเตรียมประกาศห้ามเดินทางระหว่างจังหวัดทั่วประเทศ#เป็นไปตามคาด ประกาศหยุดเที่ยวบินในประเทศทั้งหมดไปก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้ บขส. หยุดวิ่งทุกเส้นทางทั่วประเทศ และต่อไปก็จะห้ามรถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งระหว่างจังหวัด ถ้ายังเอาไม่อยู่ จะตบท้ายด้วยเคอร์ฟิว 24 ชม ตามลำดับ เบาไปหาหนัก เตรียมตัวกันเอาไว้Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่เลือกงานไม่ยากจนตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน โครงการ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ให้คนไทยมีรายได้เสริมจากงานฝีมือ ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงาน ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง อีกทั้งข้อความดังกล่าวมิได้มาจากส่วนราชการของกรมการจัดหางาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคข่าวการเมืองstd47638• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบ. ไทยดีเลิศ รับสมัครชายไทยทำงานไต้หวัน ผ่านกระทรวงแรงงาน ทางข้อมูลเรื่องบริษัทจัดหางาน ไทยดีเลิศ จำกัด รับสมัครแรงงานชายไทยไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน ถูกกฎหมาย ผ่านกระทรวงแรงงาน ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทจัดหางานฯ ผู้ประกาศรับสมัครงานดังกล่าว ไม่ได้ยื่นหนังสือแสดงความต้องการแรงงานของนายจ้างในต่างประเทศ (Demand Letter) และหนังสือมอบอำนาจให้บริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่งคนหางานให้กับนายจ้างในต่างประเทศ ต่อกรมการจัดหางานเพื่อขอโฆษณาจัดหางานstd48057• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริมกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน โครงการ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ให้คนไทยมีรายได้เสริมจากงานฝีมือ ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงาน ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง อีกทั้งข้อความดังกล่าวมิได้มาจากส่วนราชการของกรมการจัดหางาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคstd48057• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริมกรณีที่มีการโฆษณาว่า กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน โครงการ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ให้คนไทยมีรายได้เสริมจากงานฝีมือ ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงาน ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง อีกทั้งข้อความดังกล่าวมิได้มาจากส่วนราชการของกรมการจัดหางาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมNichaphat• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bianตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสร้างรายได้รับค่าจ้าง 1,500 – 2,500 บาทต่อวัน ผ่านเพจ Ange Bian ทางผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมPakin Bunya-arak• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bianตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสร้างรายได้รับค่าจ้าง 1,500 – 2,500 บาทต่อวัน ผ่านเพจ Ange Bian ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงานดังกล่าวไม่เป็นความจริง มีการใช้ตราสัญลักษณ์ กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตstd47601• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bianตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสร้างรายได้รับค่าจ้าง 1,500 – 2,500 บาทต่อวัน ผ่านเพจ Ange Bianstd47716• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bianตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสร้างรายได้รับค่าจ้าง 1,500 – 2,500 บาทต่อวันPiyanat Rattanapan• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bianกรณีที่มีการโฆษณาว่า กรมจัดหางาน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจ Ange Bian ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจสร้างรายได้รับค่าจ้าง 1,500 – 2,500 บาทต่อวัน ผ่านเพจ Ange Bian ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงานดังกล่าวไม่เป็นความจริง มีการใช้ตราสัญลักษณ์ กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตstd47707• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปารีสหวานมาก “เจนนี่ BlackPink” เดินควงแขนจับมือ “วี BTS” ออกเดตริมแม่น้ำแซนข่าวลือการคบหากันของทั้งคู่เริ่มขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. 2022 โดยเป็นภาพขณะที่ทั้งคู่รั่งอยู่ในรถคันเดียวกันขณะควงกัรไปเที่ยวที่เกาะเจจู โดยต้นสังกัดของทั้งคู่ทั้ง YG Entertainment และ HYBE ต่างก็ไม่ได้ออกมายอมรับหรือปฏิเสธข่าวดังกล่าว จึงทำให้แฟนๆหลายคนยังคงเคลือบแคลงสงสัยว่าทั้งคู่คบหากันจริง หรือภาพคู่ต่างๆที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพตัดต่อกันแน่ แต่จากคลิปล่าสุดนี้ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทั้งคู่คบหากันจริง และอินเลิฟกันมานานแล้วchavisa7002• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเวนดิ้งแมชชีนเซ็นเตอร์ ร่วมกับกรมจัดหางาน รับสมัครคนตอบแชทออนไลน์ตามที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับกรมการจัดหางานร่วมกับบริษัท เวนดิ้งแมชชีนเซ็นเตอร์ จำกัด รับสมัครคนตอบแชทออนไลน์ รายได้ 800 บาทต่อวัน ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ภาพประกาศเชิญชวนรับสมัครงาน ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์กรมการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และข้อความดังกล่าวมิได้มาจากส่วนราชการของกรมการจัดหางาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคstd48085• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโจรไซเบอร์ ปั่นข่าวปลอมออมสินปล่อยสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกโรงเตือนประชาชนระวังโจรไซเบอร์ หลังข่าวปลอมสัปดาห์ล่าสุด ประชาชนแห่สนใจเรื่องการกู้เงินออนไลน์ให้วงเงินสูง ปลอดดอกเบี้ย หลังมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อเงินกู้ฉุกเฉิน ขณะที่ข่าวปลอมครม. อนุมัติถอนเงินชราภาพได้ก่อน 30% กดรับสิทธิ์ผ่านลิงก์ ขึ้นแท่นข่าวปลอมที่คนสนใจสุงสุด ย้ำ! ต้องมีสติ ตรวจสอบข้อมูลให้ครบทุกด้าน อย่าหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และโฆษกกระทรวงฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึง ผลการมอร์นิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 12 – 18 พฤษภาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,189,887ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 274 ข้อความ ทั้งนี้ช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 240 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 34 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 189 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 85 เรื่องผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd48423• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
