1549 ข้อความ
- 1 คนสงสัยแผ่นแปะเท้าเพิ่มความสูง อวดอ้างว่าสามารถช่วยเพิ่มความสูงจากเดิม 10-15 เซนติเมตร🙀นายภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ถึงกรณีที่ในโซเชียวเริ่มมีการกลับมาซื้อขาย แผ่นแปะเท้าเพิ่มความสูง ที่อวดอ้างสรรพคุณช่วยเพิ่มความสูงจากเดิม 10-15 เซนติเมตร เพียงนำมาแปะที่ฝ่าเท้า โดยช่วงเวลาที่เพิ่มความสูงได้คือช่วงที่กระดูกยังอยู่ในช่วงที่มีการเจริญเติบโต โดยสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ รับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะสารอาหารที่จะช่วยเพิ่มความสูงได้ เช่น โปรตีน หรือแคลเซียม โปรตีนมีอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อ นม ไข่ และแคลเซียมมีอยู่ในนมหรือผักใบเขียว ปลาตัวเล็ก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างเพียงพอและมีคุณภาพ โดยควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 – 10 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตในขณะนอนหลับ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขยาสมุนไพรStd47802• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย่าแชร์มั่ว! อ.เจษฎ์ ย้ำอีกครั้ง ต้นตีนเป็ด "ไม่มี" สารพิษไซยาไนด์ แค่กลิ่นเหม็น (หอม?)เรื่องนี้เคยโพสต์เตือนกันทุกปี ในช่วงฤดูที่ต้นตีนเป็ดออกดอก และส่งกลิ่นแรง ว่าเป็นข่าวปลอมข่าวมั่วที่แชร์กันมานานแล้ว แต่วันนี้มีรายงานข่าวในสื่อ อ้างถึงแพทย์แผนไทยท่านนึง ที่บอกว่า "ดอกที่ส่งกลิ่นแรงๆ เป็นกลิ่นของ"ไซยาไนด์" มีผลต่อระบบหัวใจโดยตรง และการหมุนเวียนของเลือดด้วย หากสูบดมนานๆ เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด บริเวณท้ายทอยจะมีอาการตึง อาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ระบบหัวใจอาจล้มเหลวได้" ซึ่งก็ต้องขอแย้งอีกครั้ง ว่าเป็นแค่ข่าวปลอม ที่แชร์กันผิดๆ ครับ โดยรายการ "ชัวร์ก่อนแชร์" ของช่อง 9 อสมท. สำนักข่าวไทย ก็เคยทำรายงานตอนนี้เอาไว้เช่นกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่รายการไปสัมภาษณ์ ก็ระบุชัดเจนว่า กลิ่นของต้นพญาสัตบรรณหรือต้นตีนเป็ดนั้น ไม่ได้มีสารพิษไซยาไนด์อย่างที่ว่า เป็นเรื่องไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อstd46662• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสวดมนต์ สร้างกำลังใจ ปัดเป่าโควิด-19กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – ในวันพรุ่งนี้วัดทั่วประเทศจะร่วมกันสวดบทเจริญพระพุทธมนต์มหาราชปริตร และรัตนสูตร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน และเพื่อความเป็นสิริมงคลของประเทศชาติ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งบทสวดนี้เคยใช้ปัดเป่าโรคระบาดร้ายมาตั้งสมัยพุทธกาล.-สำนักข่าวไทยข่าวการเมืองโควิด 2019วัคซีนโควิดผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมstd46533• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฟ้าทะลายโจรรักษาcovid 19ฟ้าทะลายโจรช่วยรักษาcovid 19โควิด 2019std47679• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันแม่ค้าขายของออนไลน์ชื่อดังในเมืองจันทบุรี โพสต์คลิปลง TikTok ที่ใช้ชื่อว่า VKshop & Vpjeans ระบุว่า แพ้คอลซีลเลอร์รองพื้นตัวดังในเฟซบุ๊กและใน TikTok จนหน้าพังstd47672• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันสำหรับข้อมูลในปัจจุบัน แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีติด COVID-19 พิจารณาใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด COVID-19 ที่รุนแรง และไม่มีข้อห้ามต่อการใช้ฟ้าทะลายโจร เนื่องจากข้อมูลจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า อาจช่วยลดโอกาสการดำเนินโรคไปเป็นปอดอักเสบได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาผลการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาต้านไวรัสชนิดอื่น และไม่แนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ฟ้าทะลายโจรอาจช่วยรักษาโควิดเฉพาะไม่ให้เชื้อลงปอดstd47672• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใส่หน้ากากนานเลือดเป็นกรดจริงหรือไม่หลังจากมีข่าวออกมาว่าทั่วโลกโซเชียลว่า ใส่หน้ากากนาน ๆ จะทำให้ภาวะเลือดเป็นกรด เนื่องจากการใส่หน้ากากอนามัยจะทำให้เราหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมากลับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนJidapha Petlim• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“กฎแห่งกรรม” ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต.. > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน ๕ ~ ๖ คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป... > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง... > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก. เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้.. > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง.. > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น... > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที... แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา... > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น... > ระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน... > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... > ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ ... วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง > แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด... > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น... > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็ก ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... > แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้... > คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว... > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี... > ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง.เธอกำลังให้นม ลูก... > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข... > ทันทีที่ถูกยิง..ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..... > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้.. > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ... > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย... > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ... > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ... > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด... > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ.. > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว... > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้... > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน... > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต.. > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...... > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง... > ชื่อว่า... “ลิงทะโมน” > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก พงษ์เทพต้องเผชิญชตากรรมตามสนองคือ เป็นมะเร็งขั้นรุนแรงที่ตับ ไปผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ มีทรัพย์สินขายเกือบหมด ตอนนี้เหลือบ้านเพียงแห่งเดียวที่ปากช่องพออยู่อาศัย โรคร้ายปะทุยังไม่หายนอนรอวันดับก็น่าสงสาร เพื่อน ๆ วงคาราบาวก็ไปเยี่ยมพร้อมกัน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงครับ https://youtu.be/U2jGXwBDClkภาคอีสานมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยกัญชารักษามะเร็งเปิดใจ “เทพบุตรกัญชา”ใช้เวลา6ปีทดลอง ใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งวันที่ 2 เม.ย. 2562 ความคืบหน้าจากการที่มีกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า “อำนาจ มงคลเสริม” ทดลองใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ อีกหลายโรค ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ จากนั้นได้มอบให้สมาชิกในกลุ่มไปขอใช้สถานที่ของ วัดป่าวชิรโพธิญาณ ตำบลท้ายน้ำ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เป็นสถานที่แจกน้ำมันกัญชา โดยไปขออาศัยให้พระเป็นแจกน้ำมันกัญชาและใช้กุศโลบายทางพระพุทธศาสนา ให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ว่าต้องอยู่ในศีลธรรมมีข้อห้าม เรื่องการกินอยู่ ที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงและใช้ธรรมะในการเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง ซึ่งหลังจากมีภาพการแจกน้ำมันกัญชาแคปซูลเผยแพร่ผ่านสื่อก็ปรากฏว่าขณะนี้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบุกเข้าไปในวัดป่าวชิรโพธิญาณ เพื่อให้คำแนะนำถึงข้อห้ามและข้อปฏิบัติทางกฎหมาย ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่า จะถูกดำเนินคดีอย่างไร หรือไม่Klamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://zd6-video.xyz/2832027167462276/แอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/m8MsWteuEGsไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://www.greenpeace.org/thailand/story/19662/plastic-3-everyday-foods-that-contain-microplastics/ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://thainews.prd.go.th/th/news/print_news/TCATG210719185550954ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสายด่วน..ตำรวจไลน์ เตือน น่ะครับ ทุกท่าน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ต้องเลิกส่ง สวัสดีตอนเช้า ด้วย ภาพพระ วัด ดอกไม้ ภาพสวยงามต่าง ที่ลอกมาจากไลน์ และ เฟส ทุกอย่าง ส่งไม่ได้ครับ เป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ เจ้าของภาพ มิสิทธิ์ฟ้องร้องได้ทุกกรณี ต้องป้องกันตนเองไว้ก่อน ต้องหยุด ที่กระทุ่มแบนจับไปแล้วเสียเงินไป50000฿ตำรวจเรียก200000฿ต่อรองกันเหลือ50000฿เรื่องภาพที่เรา ใช้ส่งให้กันนี่แหละนะ. ไม่ต้องส่งแล้วก็ได้ มีอะไรก็ค่อยไลน์ถึงกันนะ. โชคดี. บาย ถ้าอยากส่ง ไปพบเห็นดอกไม้ แล้วถ่ายภาพด้วยตนเอง ถึงจะส่งได้ครับ ช่วงนี้หยุดก่อน ปลอดภัยครับ ไทยมีตำรวจไลน์แล้วนะ อย่าท้าทาย..เอาจริงแน่ๆ...ตำรวจไลน์เริ่มปฏิบัติงานแล้วครับ http://www.publicpostonline.net/5040 คนเล่นไลน์ต้องอ่าน ***ห้ามบอกว่าไม่รู้.. ใครๆก็ส่งกัน..ส่งต่ออีกทีภาคเหนือไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนักวิทย์ค้นพบ การถือศิลอด กระตุ้นการเกิดสเตมเซลต่อสู้มะเร็งนักวิทย์ค้นพบ การถือศิลอด กระตุ้นการเกิดสเตมเซลต่อสู้มะเร็งMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอากาศร้อน ทำให้โควิดลดลงเนื่องจากเราเคยได้ยินกันมานักต่อนักแล้วว่า “ความร้อนสามารถฆ่าเชื้อโรคได้” ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารปรุงสุกร้อน ๆ การเอาช้อนส้อมจุ่มน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ก็ล้วนแล้วแต่แสดงให้เราเห็นว่าความร้อนมีบทบาทมากแค่ไหนในการฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ตามวัตถุต่าง ๆ แล้วถ้าหากกล่าวถึงเชื้อไวรัสหรือโรคร้ายล่ะ ความร้อนเหล่านี้จะสามารถกำจัดมันได้ไหม หรือที่หลาย ๆ คนอาจสงสัยกันว่า “ฤดูร้อนจะทำให้ไวรัส COVID-19 หายไปได้หรือไม่” คำตอบที่ท่านสงสัยอยู่ในบทความนี้แล้ว ฤดูร้อนทำให้ COVID-19 ลดลง จากข้อมูลของ WHO ได้ไขข้อข้องใจเอาไว้ว่าโดยปกติแล้วเชื้อโรคไวรัสตัวอื่น ยกตัวอย่างเช่นไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีอัตราการแพร่ระบาดลดน้อยลงจริงเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แต่หากนำไปเทียบกับ COVID-19 นั้นอาจมีส่วนช่วยในการลดอัตราการแพร่ระบาดได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากความชื้นในอากาศจะช่วยลดการลอยตัวฟุ้งกระจายของเชื้อโรคให้ตกลงสู่พื้นได้เร็วกว่าอากาศเย็น เป็นผลให้การแพร่เชื้อในอากาศลดลงนั่นเองโควิด 2019piradaparker• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อความด้านล่างนี้ส่งต่อกันทางไลน์มาหลายกลุ่ม ไม่มีที่มาที่ไป เข้าไปดู line และ fb ของโรงพยาบาลศิริราชแล้วก็ไม่พบเจอ ขอความกรุณาช่วยตรวจสอบให้ด้วยว่าจริงไหม ................ แจ้งข่าวจากรพ.ศิริราชครับ เรียนคณบดี ผู้บริหาร หัวหน้าภาคฯ อาจารย์ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน วันนี้ทีมผอ รองผอ ร่วมกับทีมวิศวกรรมศิริราช วิศวะมหิดล วิศวะเกษตร สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย บริษัท PAC บริษัท Meinhard บริษัท วและสหาย บริษัท KLA บริษัท power line บริษัทกรีไทย และบริษัท interpac ได้สำรวจอาคารในศิริราชทั้งวัน รวมถึงหอพัก 8 ไร่ ดำเนินการโดยวิศวะที่มีใบอนุญาตรับรองการตรวจสำรวจ และแบ่งทีมออกสำรวจทั้งหมด 8 ทีม ผลสำรวจอาคารทั้งหมดที่ได้สำรวจ เป็นดังนี้ 1. พบตำแหน่งจุดวิกฤตมาก (สีแดง) ได้แก่ ก. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์ชั้น 6 กับตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ข. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์(ห้องผ่าตัด)ชั้น 3 กับตึกเฉลิมพระเกียรติ ทั้งสองจุดมีความเสี่ยงสูงมากในการหลุดร่วงทั้งทางเชื่อมตกลงมาชั้น 1 (ทั้งสองทางเชื่อม) (ถ้าไปยืนดูจะเห็นว่าแกว่งอยู่ตลอดเวลา) ซึ่งจะทะลุลงหลังคามายังทางเดินชั้น 1 ระหว่างตึกทั้งสอง จึงต้องปิดตั้งแต่ทางเดิน **ห้ามผ่านเด็ดขาด** ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนการแก้ไข จะเริ่มเข้ามาจัดการรื้อหลังคา ตั้งนั่งร้าน ตัดทางเชื่อม โรยส่งลงชั้นล่าง ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1.5 เดือน (เริ่มพรุ่งนี้) ผลกระทบ 1.ปิดช่วงทางเดินระหว่างตึกสยามินทร์และตึกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ทางลงบันไดไปชั้น B1 ในด้านศิริราชมูลนิธิ จนถึงทางขึ้น ramp ฝั่งด้านตึกกายวิภาคฯ 2.บุคลากรจะต้องเดินผ่านขึ้นบันไดข้างตึกศิริราชมูลนิธิ ผ่านไปลงที่ ramp 3.การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรถนั่ง เปลนอน รถเข็นต่างๆ ขึ้นทาง ramp 4.จะรีบดำเนินการสร้าง ramp ชั่วคราวพาดบันไดและเชื่อมไปบริเวณสนามหญ้าหน้าศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายรถนั่ง เปลนอน ได้นำเรียนถึงความจำเป็นของการดำเนินการแผนนี้ต่อศิริราชมูลนิธิแล้ว ซึ่งจะมีแผนย้ายจุดรับบริจาคกลับมายังตึกมหิดลบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง 2. ตำแหน่งจุดวิกฤตปานกลาง (สีเหลือง) ได้แก่ ก.ทางเชื่อมระหว่างตึกพระศรี 100 ปีและตึกโกศล พบว่าโครงสร้างตึกแข็งแรง แต่พบว่ามีพื้นผิวแผ่นปูนตกลงมาที่ทางเดิน และจะมีโอกาสตกเพิ่มขึ้น การแก้ไข วันนี้เริ่มตั้งนั่งร้านขึ้นแก้ผิวฉาบ แต่ต้องระมัดระวังสายต่างๆที่เชื่อมโยง ใช้เวลาดำเนินการ 5 วัน ในระหว่างนี้จะปิดกันทางเดินตั้งแต่ทางออกตึกพระศรี (ข้างร้าน ณ ศิริราช) ที่ต้องเดินผ่าน ramp และซอกทางเดินระหว่างสองตึกนี้ เนื่องจากเศษปูนมีชิ้นใหญ่มาก ให้เดินผ่านทางหน้าร้าน S&P แทน ข.หอพัก 8 ไร่ จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารทั้งสองตึก (ตรวจทุกชั้นรวมที่จอดรถ) ไม่กระทบโครงสร้างใด ๆ เป็นเพียงรอยร้าวของผนังฉาบ แต่พบว่าด้านนอกของอาคาร A&B ด้านปลายทั้งสองฝั่งของทั้งสองตึก มีเศษปูนชิ้นใหญ่ที่สามารถร่วงหล่นลงมา ตึก A จะร่วงลงที่จอดรถด้านนอก ด้านสถานีรถไฟและอีกด้านเป็นด้านคนเดินเข้าตึก ตึก B เป็นด้านติดกับวัดและด้านที่เป็นที่จอดรถหน้าศูนย์ฟอกเลือด การแก้ไข จะต้องโรยตัวลงมากระเทาะพื้นผิวทั้ง 4 ฝั่ง ฉาบพื้นผิวใหม่ ผลกระทบ จะกั้นพื้นที่ช้้น 1 ห้ามจอดรถ ห้ามเดินผ่าน และเข้าแจ้งให้ทางวัดทราบ 3. จุดที่พบว่า ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างหลัก (สีเขียว) อาคารที่สำรวจมีความปลอดภัยในการใช้งาน ยืนยันไม่มีผลต่อโครงสร้าง ก.ตึกที่พบว่าเป็นการแตกร้าวของผนังฉาบหลายชั้น ได้แก่ ตึกนวมินทรฯ ตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ตึกศรีสวรินทราฯ ซึ่งจะดำเนินการเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมแซม แก้พื้นผิว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไล่ตามตึกที่แจ้ง ข.กระเบื้องห้องน้ำหอผู้ป่วยนวมินฯ 12 ที่กำลังจะหลุด 3 ห้อง และที่แขวนทีวี ได้ดำเนินแก้ไขวันนี้แล้ว ค.ฝ้าที่มีความเสี่ยงหลุดร่วงที่โถงตึกศรีสวรินฯ ชั้น 1 ได้ดำเนินการแก้ไขวันนี้แล้ว (วันนี้มีระดับคนงานจากภายนอกมาเตรียมพร้อมแก้ไขหน้างานเลยประมาณ 30 คน) ง.แผ่นผนังกระเบื้องหินหลังพระรูปปั้นสมเด็จย่า มีความเสี่ยงที่จะหลุดร่วงทั้งสองแผ่น จะรีบดำเนินการแก้ไขในวันพรุ่งนี้ จ.ทางเชื่อมระหว่างศูนย์โรคหัวใจและตึกนวมินฯ มีความแข็งแรงปกติ ในการสำรวจมีการลงนามรับรองในส่วนสีเขียวโดยวิศวกร จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้เกิดความมั่นใจ และโปรดประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานทราบถึงผลการสำรวจดังกล่าว ตลอดจนความจำเป็นในการปิดทางสัญจรทางช่่วง ขอบคุณมากครับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช สรุปว่าตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 1. ทางเข้าออกปัจจุบัน(ก่อน 1 เมษายน) ยังเหมือนเดิม ยกเว้นกรณีรถมาจากท่าน้ำวิ่งมาสี่แยกศิริราช ห้ามเลี้ยวขวาเข้าประตู 1 (ประตูตึกอุบัติเหตุ) 2. เพิ่มทางเข้าด้านตึกสลากสำหรับรถที่มาจากสะพานอรุณอัมรินทร์สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าประตู 4 ได้ไม่ระบุชื่อ• 6 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#เสินเจิ้น กับ ซานฟรานซิสโก…เรื่องจริงไม่ได้ออกสื่อทางการ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2023 นายกาวิน นิวซัม(Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เดินทางไปเยือนจีน เมืองแรกที่ไปถึง คือ เมืองเสินเจิ้น ภาคใต้ของจีน นาย นิวซัม ได้ทดลองนั่งรถบัสไฟฟ้ารุ่นใหม่ และ รถยนต์พลังงานใหม่ ของบริษัท BYD แล้วชื่นชมว่า เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ ของจีน เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด และ สิ่งที่ทําให้นายนิวซัมรู้สึก สะเทือนใจ คือ สภาพแวดล้อมที่สะอาด สวยงาม และ เจริญรุ่งเรือง ของเสินเจิ้น เขาพูดซ้ำแล้ว ซ้ำอีกว่า อากาศที่นี่ดีมาก (the air is so clean) สภาพแวดล้อมที่เสินเจิ้น ดีมากๆ ในฐานะสมาชิกอาวุโส ของพรรคเดโมแครต นายนิวซัมให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กับปัญหาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ เขาใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเอง เพื่อโชว์ให้นายกเทศมนตรีเมืองเสินเจิ้นเห็นถึง แอป อุจจาระ ในนครซานฟรานซิสโก ! จะทำให้ เห็นว่า ตามถนนสายต่างๆ ของ ซานฟรานซิสโก มีอุจจาระอยู่ตรงไหน เพื่อจะได้ไม่เผลอ ไปเหยียบอุจจาระของคน เมื่อออกไปเดินเล่น นี่เป็นซอฟต์แวร์ ที่ทางการ ของ ซานฟรานซิสโก เผยแพร่ เหตุผลก็คือ ผู้คนในซานฟรานซิสโก มักจะถ่ายอุจจาระไม่เป็นที่ แอปนี้ ได้รับความนิยมอย่างมาก จากชาวเมืองซานฟรานซิสโก เพราะพวกเขา เบื่อหน่าย กับ สิ่งเลวร้ายที่อยู่บนพื้นถนนมานานแล้ว จึงพากันถ่ายรูปและ อัปโหลด “สมบัติกลิ่นเหม็น” ในสหรัฐ ที่พวกเขาพบตามถนนหนทาง สถิติ ที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า ห้องน้ำสาธารณะ ทั่วเมืองซานฟรานซิสโก มีเพียง 126 แห่ง และ ห้องน้ำสาธารณะส่วนใหญ่จะปิดในเวลากลางคืน ห้องน้ำสาธารณะ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีเพียง 28 แห่งเท่านั้น ส่วนที่ เสินเจิ้น มีห้องน้ำสาธารณะ 4,715 แห่งที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าซานฟรานซิสโก หลายร้อยเท่า นอกจากนั้น จีนมีข้อกำหนดว่า สถานที่สาธารณะต่างๆ รวมถึงโรงแรม ไม่สามารถปฏิเสธ เมื่อ ประชาชนขอเข้าไปใช้ห้องน้ำ เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ซานฟรานซิสโก เกลื่อนด้วยอุจจาระ ก็เพราะว่า คนจรจัด มีมากเกินไป คนติดยา ก็มีมาก ตามสถิติ ของสหรัฐอเมริกา มี "คนจรจัด" ในซานฟรานซิสโก จำนวนวกว่า 8,000 คน จำนวนผู้ติดยาเสพติด นับไม่ถ้วม ซานฟรานซิสโก ก็เหมือนกับเมืองอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา ที่เปิดร้านขายยาเสพติด ที่ดำเนินการโดยรัฐได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เหล่าคนจรจัด และ ผู้ติดยาเสพติด จึงถ่ายอุจจาระ และ ทิ้งขยะไปทุกที่ ส่วนในเวลากลางคืน ก็จะนอนกับพื้นถนนนั้นเอง ในระหว่าง การเยือนจีน ของนายนิวซัม นอกจากเสินเจิ้นแล้ว เขายังไปเยือนอีก 5 เมือง ด้วยสภาพแวดล้อม ที่สวยงาม ไม่ต่างกับเมืองเสินเจิ้นเลย เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมเอเปค จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก ทางการซานฟรานซิสโก ระดมเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ และ จ้างแรงงานอีกกว่า 1,000 คน ทำความสะอาดถนนหนทางให้สะอาดเรียบร้อย ตัวเมืองแบ่งเป็น 24 เขต โดยมี 12 เขต ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม และ ห้ามคนจรจัดเข้าไปใน 12 เขต ที่ทำความสะอาดเพื่อรองรับการประชุม ผู้ที่ถ่ายอุจจาระลงบนถนนจะถูกจับทันที แต่อีก 12 เขต ที่เหลือ ยังเหมือนเดิม เพราะจำนวนแรงงานทำความสะอาดไม่เพียงพอ สิ่งที่ทำให้สะเทือนใจ คือ สื่อชาติตะวันตก เมื่อเร็วๆ นี้ โดย นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) ของอังกฤษได้ประกาศ การจัดอันดับดัชนีความปลอดภัย ของเมืองทั่วโลกประจำปี 2023 โดยมีชื่อ 60 เมืองดีเด่น ของโลก ซานฟรานซิสโก ซึ่งมีอุจจาระ ตามถนนทั่วเมือง ได้รับการจัด อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก ถึงแม้มีห้องน้ำสาธารณะเพียง ไม่กี่สิบแห่ง แม้ มีผู้ติดยาเสพติดอยู่ทุกหนทุกแห่ง แสดงถึง ความมีอคติ ของสื่อชาติตะวันตก โดย กรุงปักกิ่ง จัดอยู่ในอันดับที่ 31 เซี่ยงไฮ้ จัดอยู่ในอันดับที่ 32 เมืองเสินเจิ้น ไม่ติด 60 เมืองดีเด่น ถึงแม้ มีจำนวนห้องน้ำสาธารณะที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ถึง 4,715 แห่ง มีมากกว่า ซานฟรานซิสโก หลายร้อยเท่า (ที่ซานฟรานซิสโก มีห้องน้ำสาธารณะ เพียง 26 แห่ง ที่เปิดตลอด 24 ชม.)อีกทั้ง เสินเจิ้น ไม่มีคนจรจัด ไม่มีผู้ติดยาเสพติดแร่ร่อนตามถนน เหมือนซานฟรานซิสโก ก็ตาม เหลือเชื่อจริงๆ ไหมล่ะ ในรายงานของ นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) ของอังกฤษ ที่ มีอคติ เอียงกระเท่เร่ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 6 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปากกาฟอกฟันขาวอันตรายจริงหรือไม่ ?“ปากกาฟอกฟันขาว” อันตรายจริงหรือไม่ ? ปากกาฟอกฟันขาวที่กำลังเป็นที่นิยมบนโลกออนไลน์ อุปกรณ์ช่วยเสริมความมันใจให้กับรอยยิ้ม ที่ราคาจับต้องได้ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีอันตรายที่ซ่อนอยู่ จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า กรมอนามัยได้ให้ข้อมูลว่าอุปกรณ์ฟอกฟันขาว ที่ขายกันตามอินเตอร์เน็ตนั้น อาจจะมีสาร "ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์" สูงกว่า6 % และอาจจะสูงถึง15 % ซึ่งปกติ ถ้าสูงกว่า 6% ต้องได้รับความควบคุม โดย อย. เพราะสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซต์ ซึ่งมีฤทธิ์ในการฟอกสีให้ขาวขึ้นนั้น ถ้ามีความเข้มข้นสูงมาก จะเป็นอันตราย กัดกร่อนเนื้อฟัน ทำให้เนื้อฟันเสียหาย และเสียวฟันมากขึ้นได้ ถาดที่ใช้ครอบฟัน ในการฟอกสีฟัน ก็ควรทำเป็นรายบุคคลโดยทันตแพทย์ จึงจะพอดีกับฟันของแต่ละคน เพราะถ้าไม่พอดี สารฟอกฟันจะไปโดนเหงือก อาจทำให้เหงือกบวม อักเสบได้ การฟอกสีฟัน สิ่งแรกที่ควรทำคือการมาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุของสีฟันเพื่อวางแผนการรักษา ตรวจสุขภาพฟันให้แน่ชัดว่าไม่มีฟันผุ อาการเสียวฟัน เนื่องจากภาวะเหงือกร่น หลังจากนั้นจะขูดหินปูน หรือขัดคราบสีออก แล้วจึงพิมพ์ปากคนไข้เพื่อสร้างแบบจำลองฟัน นำมาทำถาดฟอกสีฟันโดยทำการบันทึกสีของฟันก่อน จากนั้นจึงทำการรักษาต่อไป (แหล่งข้อมูล : https://www.thaihealth.or.th และ https://cofact.org) ทพ.พิชัย งามวิริยะพงศ์ ทันตแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้ข้อมูลว่า สารที่ใช้ในการฟอกสีฟันมีส่วนประกอบหลัก คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ แส่วนมากจะใช้ความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 25-40% แล้วนำน้ำยาทาบนฟันทิ้งไว้ ทำ 3 รอบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยมีการใส่อุปกรณ์ที่ทำมาเพื่อป้องกันเหงื่อให้คนไข้ โดยจะได้รับการพิมพ์ฟันทั้งฟันบนและฟันล่าง เป็นถาดสำหรับแต้มน้ำยาฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลนั้น ๆ เพราะแต่ละบุคคลจะมีลักษณะฟันที่ไม่เหมือนกัน เป็นการป้องกันไม่ให้ตัวน้ำยาไหลไปโดนเหงือกได้ และหลังทำเสร็จควรจะงดอาหารประเภทที่มีการติดสีมาก ๆ เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม ชา กาแฟ และงดการสูบบุหรี่ บางครั้งสามารถเกิดอาการเสียวฟันได้ชั่วคราวประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารเย็นจัดไปก่อน ทั้งนี้ ทพ.พิชัย ให้ข้อแนะนำว่า ทันตแพทย์ไม่แนะนำการซื้อปากกาฟอกฟันขาวที่ให้ไปทำด้วยตนเอง การฟอกฟันขาวหรือการรักษาฟันจากอาการต่าง ๆ ควรปรึกษาก่อนทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจและเลือกแนวทางการรรักษา หากซื้อผลิตภัณฑ์ทำเองอาจเกิดผลที่เป็นอันตรายได้ และถ้าหากตัดสินใจการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต้องได้รับการควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และดูว่าผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ไม่สูงกว่า 6% ตามที่ อย. กำหนด และควรมีคาร์บอกซี่โพลิเมทิลีน เป็นสารหนืดที่ทำไม่ไห้น้ำยาเหลวจนเกิน เพื่อให้น้ำยาเกาะติดบนผิวฟันได้ เพราะถ้าน้ำยาไหลไปโดยเหงือกอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือไปทำให้เกิดเคมีคอลเบิร์นต่อเหงือกจะเกิดปัญหาตามมาได้ คนที่ไม่สามารถฟอกฟันขาวได้ 1.หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 2.คนที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะชั้นเคลือบยังไม่ได้แข็งแรงมากพอ 3.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟัน ควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน เช่น ฟันผุแบบไม่รู้ตัว ฟันเป็นรู ฟันสึกจากการแปรงฟันแรงเป็นช่องเว้าเข้าไปแถวเหงือก ฟันร้าว มีรอยร้าวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือเดิมคนไข้เสียวฟันอยู่แล้วแค่กินน้ำเย็นกับไอศกรีมก็เสียวฟัน แล้วยังพยายามจะไปฟอกสีฟันก็จะเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ 4.คนที่มีการอุดฟัน อาจจะต้องมาตรวจกับทันตแพทย์ก่อนว่าวัสดุต่าง ๆ มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือเปล่า เพราะบางคนแบบอาจจะอุดตั้งแต่เด็กแล้วมีรูหรือมีช่อง น้ำยาเคมีเกิดมันเล็ดลอดแทรกเข้าไป ทำให้เกิดโพรงประสาทฟันอักเสบได้ 5.ไม่เคยรักษาโรคเหงือก เลือดออกตามไรฟัน หินปูนเกาะเต็มฟันหน้าทั้งบนทั้งล่าง ต้องรักษาโรคเหงือกให้เรียบร้อยเสียก่อน ดังนั้น การฟอกสีฟันควรทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การจะซื้อปากกาฟอกฟันขาวมาใช้เองอาจจะไม่ได้เห็นผลเท่าที่ควร หรือเกิดอันตรายต่อตัวผู้บริโภคได้ และควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนรักษาฟันทุกครั้งสุขภาพธนกฤต ราชัย• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเช็คตัวเองว่ามี 4 อาการที่เป็นสัญญานเตือนของร่างกาย ว่า มีโอกาสตายได้ ภายใน 1~ 10 ปีนี้แล้วแต่อาการมาก-น้อย - นักวิทยาศาสตร์ เผยก่อนเสียชีวิต ภายในเวลาไม่เกิน 10 ปี ร่างกาย จะส่ง 4 สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า - เรื่องนี้ ศึกษา มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal วารสารการแพทย์อังกฤษ ที่ทำงานวิจัยในกลุ่มข้าราชการที่สูงอายุมากกว่า 65 ปี ถึง 6,000 คน (แรกเริ่ม ศึกษามาจากข้าราชการอายุ 35 ปี มากกว่า 10,000 คน จนภายหลัง ผ่านมา 35 ปี เหลือ 6,000 คน) ได้ผลว่า ประมาณ 1 -10 ปีก่อนเสียชีวิต ร่างกายจะส่งคำเตือนหลายอย่าง การจับสัญญาณเหล่านี้อย่างทันท่วงที และ แก้ไข 4 ตัวชี้วัดดังกล่าวได้ ก็สามารถชะลอความชราและ มีอายุที่ยืนยาวออกไปได้ - โดยนักวิทยาศาสตร์ได้พบ 4 ตัวชี้วัด ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการมีอายุยืนยาว หรือ อายุสั้นลง ได้แก่ - 1. ความเร็วในการเดิน - นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักรติดตามผู้คนจำนวนมาก เป็นเวลา 7 ปี และพบว่า (โดยไม่คำนึงถึงดัชนีมวลกาย) คนที่เดินเร็วขึ้นก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่เดินช้า คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนยาวกว่าโดยเฉลี่ย 15-20 ปี - เนื่องจาก “การเดินเร็ว” จะตรงตามข้อกำหนดพื้นฐานในการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและปอด การเดินต้องใช้การประสานงานของกระดูก กล้ามเนื้อ ระบบประสาท ฯลฯ - คนปกติ ควรรักษาความเร็วในการเดินไว้ที่ 0.9 เมตร/วินาที หากความเร็วต่ำกว่า 0.6 เมตร/วินาที แสดงว่ากล้ามเนื้อลีบอย่างรุนแรง หากสังเกตเห็นว่าความเร็วในการเดินลดลงมากเกินไป โอกาสเสียชีวิตภายใน 1 ~10 ปีข้างหน้า มีสูง ต้องรีบแก้ไขด้วยการฝึกเดินให้เร็วขึ้น อาจฝึกเดินช้า/สลับเดินเร็ว รอบละ 2-3 นาที เพียง 10 รอบ ก็เดินได้ 20~30 นาที ต่อวัน สัปดาห์ลั 5 วัน ก็เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุแล้ว - 2. ความสามารถในการนั่งและยืน - ความสามารถในการนั่งและยืน สามารถช่วยทดสอบความยืดหยุ่นของเอ็นแขนขาส่วนล่าง และสุขภาพของข้อเข่าได้ ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของเอ็นที่ดี และ ข้อต่อที่แข็งแรง จะมีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวมากกว่า 10 ปี - เพื่อทดสอบความสามารถในการลุก/นั่ง สามารถเลือกเก้าอี้ที่ไม่มีที่วางแขน นั่งบนเก้าอี้โดยวางเท้าบนพื้น ใช้ 2 มือกอดอก จากนั้นลองยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วนั่ง ภายในเวลา 30 วินาที โดยไม่ใช้มือช่วยเหลือ ~ ผู้ชาย ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 14 ครั้ง ~ ผู้หญิง ควรลุกนั่ง ได้มากกว่า 12 ครั้ง ถ้าลุกนั่งได้น้อยกว่า จำนวนดังกล่าว แสดงว่า กล้ามเนื้อสะโพก และ ขา อ่อนแรง ข้อเข่าไม่ดี มีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 1~10 ปี ถ้าต้องการมีอายุยืนยาวมากกว่า 10 ปี ต้องพยายามลุก/นั่ง ให้ได้มากกว่า อัตราดังกล่าวข้างต้น (ข้าพเจ้า อายุ 78 ปี ทดสอบลุกนั่ง ได้ 26 ครั้ง ภายใน 30 วินาที แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะ สังขารเริ่มเสื่อมถอยลงไปค่อนข้างมาก) - 3. แรงบีบมือที่ดี - ในทางการแพทย์ ความแข็งแรงของแรงบีบที่มือ ยังเป็นการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวมของบุคคลอีกด้วย สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของหัวใจได้ในระดับหนึ่ง โดยคนที่มีหัวใจทำงานปกติก็มีความแข็งแรงของแรงบีบมือที่ดีเช่นกัน - โดยปกติแล้ว ความแข็งแรงของแรงบีบมือจะวัดด้วยเครื่องวัดแรงบีบมือ (Hand Grip Dynamometer) จากข้อมูลของนักวิจัย ความแข็งแรงของแรงบีบในผู้สูงอายุคือ สำหรับผู้หญิง ต้องได้ผลวัดอย่างน้อย 18.5 กก. และ สำหรับผู้ชายคือ 28.5 กก. ถ้าไม่มีเครื่องวัด ก็พยายามฝึกให้มีแรงบีบมือมากๆไว้ก่อน เริ่มจากฝึก กำแบ บ่อยๆ จากนั้น ฝึกออกแรงกำบีบสิ่งของให้แน่น แล้วปล่อย กำบีบแล้วปล่อย ความแข็งแรงกล้ามเนื้อของแรงบีบที่มือก็จะสูงมากขึ้น โอกาสอายุยืนเกิน 10 ปี ก็จะมีมากขึ้น - 4. กิจวัตรประจำวันต้องทำได้ด้วยตัวเอง ได้แก่ : การแต่งตัว นุ่งกางเกง ไม่ลืมรูดซิป ไม่ลืมร้อยหูกางเกง/เข็มขัด เข้าห้องน้ำไม่ลืมกดราด ทำอาหาร ไปตลาด ก้มใส่ถุงเท้า/รองเท้าและ ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่นั่งยองๆแล้วลุกขึ้นได้ไม่หน้ามืด หากทำได้ด้วยตัวเอง…โอกาสมีอายุเกิน 10 ปี จะมีมากขึ้น หากพบว่า การทำสิ่งเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องยาก แสดงว่ามวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ลดลงไปมาก โอกาสเสียชีวิตภายใน 1~10 ปี มีสูง Cr. หมอเฉพาะทางบาทเดียว https://youtu.be/R1ehX4adCog? ให้รีบแก้ไขด่วนด้วยการ 1.ออกกำลังกายให้เหงื่อออก 2.หยุดนํ้าตาลอุตสาหกรรม 3.หยุดอาหารเสริม เพราะอาจทำร้ายร่างกายมากกว่าจะเป็นประโยชน์(ให้แพทย์สั่งดีกว่า) 4.เลิกนอนดึก(ต้องหลับก่อน 23:00 น.)สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยศาลสั่งลงโทษผู้ขายของออนไลน์ ที่คดโกงผู้ซื้อสินค้าอย่างสาสม เพื่อนเป็นผู้พิพากษาส่งให้เพื่อน(ในกลุ่ม) อ่านแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยส่งต่อ มีสาระประโยชน์มากดังนี้... .......................... ผมไม่ค่อยมีเวลา จึงชอบซื้อของทางเน็ต เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ในไทยยังไม่มีการขายของทางเน็ต ได้แต่ซื้อใน eBay มาสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้ไทยเรามีการขายของทางเน็ตกันเพียบ ผมก็ซื้อตามปกติ และไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งได้ไปซื้อของจากค่ายดังของเยอรมัน บริษัท ล. โฆษณาในทีวีน่าเชื่อถือ ในครั้งสุดท้ายที่ซื้อ ปรากฏว่าสั่งของ ๒ ชิ้น ๆ ละ ๙๐๐ บาท พอมาส่งเราก็จ่ายเงินไป ๑,๘๐๐ บาทเลยเมื่อรับพัสดุ แต่เปิดกล่องดูมีของแค่ชิ้นเดียว แถมใบส่งของเป็นคนอื่น แต่ของอย่างเดียวกัน ผมก็ถ่ายรูปของในกล่อง พร้อม Delivery Note ส่งให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่รับปากว่าจะติดต่อในทันที....เงียบหายไปสามวัน มีคนจากบริษัทอะไรไม่รู้โทรมาสอบถาม ผมก็เล่าเรื่องแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๑๐ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ บริษัท ล. โทรมาแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๕ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาอีก ผมเลยบอกว่า "ผมเป็นผู้บริโภคที่ดี จ่ายเงินก่อนเห็นสินค้า (ตามกฎของคุณ) คุณได้เงินผมไปแล้วแต่สินค้าผมได้ไม่ครบ เพราะคุณส่งผิด เวลาผ่านเป็นเดือนยังไม่เรียบร้อย แค่ส่งของให้ผมอีกชิ้นมันยากหรือครับ ความผิดของคุณทำไมผมต้องมารับกรรมนั้นด้วย ผมให้เวลา ๗ วัน เกินจากนั้นไปเจอกันในศาล" เจ้าหน้าที่ก็วางสายไปอย่างไม่พอใจ เพราะได้ยินเสียงแข็ง ๆ ของผมที่เริ่มมีอารมณ์ เย็นวันที่ ๗ ผมก็นั่งพิมพ์ภาพที่ถ่ายส่งให้ดูตอนเปิดกล่อง หลักฐานอย่างอื่นไม่มีอะไรเลย เช้าวันรุ่งขึ้นผมเดินไปศาลแขวงในเขตที่ผมสั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ต ศาลที่มีเขตอำนาจเหนือบ้านผมนั่นเอง เพื่อให้เจ้าพนักงานศาลช่วยจัดการให้ เริ่มเข้าสาระครับ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคบัญญัติให้ต้องมีเจ้าพนักงานศาล ทำหน้าที่ร่างฟ้องให้ผู้บริโภคเรียกกันว่า "เจ้าพนักงานคดี" ช่วยค้นหาหลักฐานทางทะเบียนของจำเลยให้ กรณีนี้คือหนังสือรับรองบริษัท ศาลจะนัดเร็วครับ ประมาณ ๓๐ วันได้เจอกัน ไม่เสียค่าธรรมเนียม ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพราะกฎหมายนี้สร้างเพื่อคุ้มครองใครครับ....แน่นอน ผู้บริโภค เจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้ผมเสร็จเรียบร้อยโดยไม่ต้องมีทนายความ ให้ผมลงชื่อในเอกสารหลายอย่าง แล้วพาไปยื่นที่เคาเตอร์รับฟ้อง ได้วันนัดเป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากได้รับคำฟ้องผมแล้ว บริษัท ล. โทรหาบอกจะคืนเงิน ๙๐๐ บาท ผมบอกว่าตอนนี้จะตกลงอะไรให้ไปคุยกันในศาล เลยได้ส่งอีเมล์ให้ผม บอกว่าได้รับของที่ผมส่งคืนแล้ว ๒ ชิ้น ผมก็เริ่มฉุนเล็กน้อย จะเอามาเป็นทริกในคดีหรือเปล่าว่าผมคืนของเอง ไว้เจอกัน ส่งสองสามครั้ง แถมส่งข้อความมือถืออีกต่างหาก ทีอย่างนี้ดำเนินการรวดเร็วฉับไวในทันที ในวันศาลนัด ทางบริษัท ล. เตรียมทนายความที่จ้างจากนอกบริษัท ล. นิติกรของบริษัท และผู้จัดการ เตรียมเอกสารมาปึกใหญ่ ศาลถามว่าคุณไม่ส่งของใช่ไหม เขาก็ขอไกล่เกลี่ย ในห้องไกล่เกลี่ย ผู้จัดการก็ขอโทษ ทนายเริ่มรู้ว่าผมต้องการเดินไปตรงจุดไหน ทนายความในและนอกห้องพิจารณาก็ทักทายยกมือไหว้ เรียกท่าน หน้าบัลลังก์ก็รู้จัก พอรู้สถานะเราการพูดคุยก็ง่ายขึ้นเยอะ ทนายความไม่โย้เย้เรื่องมากตามสไตล์ ในที่สุดก็ยอมตามฟ้องทุกประการ จ่ายเงินคืนให้ผม ๙๐๐ บาท พร้อมค่าเสียเวลาค่าโมโหอีก ๒๐,๐๐๐ บาท หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ๑๕ วัน และแถมคูปองลดราคามาอีก ๑,๐๐๐ บาท ผมก็เอาเงินที่ได้ไปทำบุญ อยากให้รู้ว่า..... กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้น บัญญัติไว้สำหรับผู้บริโภค 1.ไม่ต้องมีทนายความ 2.ไม่ต้องหาหลักฐานของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 3.มีเจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้เรียบร้อย 4.แถมหากต้องสืบพยาน ศาลถามให้เลย ไม่ต้องรู้อะไรมากครับ แค่รู้ว่าเราเสียหาย เสียเปรียบอย่างไร 5.คุ้มครองไม่ว่าเรื่องการซื้อขาย การให้บริการ สินค้าไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ส่งของไม่ครบ สินค้ามีปัญหากับเนื้อตัวร่างกาย เรียกว่าได้หมด 6.แถมหน้าที่นำสืบตามที่เราฟ้องตกกับฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 7.ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าส่งหมายเลย สรุปง่าย ๆ ไม่เสียเลยสักบาทก็แล้วกัน คนไทยยังรู้เรื่องนี้น้อย แถมยังยอมเสียเปรียบอย่างไม่น่าเชื่ออีกจำนวนมาก หากเราโดนกระทำและเสียหาย การนิ่งเฉย คือการทำลายระบบ เพราะเราไม่ต่อต้านผู้ไม่สุจริต กลับสนับสนุนให้เขาเหิมเกริมกล้าปฏิบัติแย่ๆ กับลูกค้าอีกนับจำนวนไม่ถ้วน การกระทำของผมในครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ทำให้เขาไม่กล้าไปปฏิบัติแย่ ๆ กับประชาชนอีกจำนวนมาก นั่นคือสิ่งที่ผมชนะ .หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ.ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดร.อาทิตย์ เศร้าใจเจอจีนวิจารณ์การศึกษาไทยห่วยแตกตั้งเเต่เด็ก-มหาวิทยาลัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความอ่านแล้วเศร้าใจเจอ "จีน วิจารณ์การศึกษาของไทยห่วยสุดๆ ตั้งแต่ระดับมัธยม จนถึงระดับ มหาวิทยาลัย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Arthit Ourairat” เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ระบุว่า “จีน วิจารณ์การศึกษาของไทย จีนรักไทยจริงใจ...วิจารณ์การศึกษาของไทยแบบตรงๆ...อ่านแล้วเศร้าจัง การศึกษาไทยในมุมมองของจีน ห่วยสุดๆ ตั้งแต่ระดับมัธยม จนถึงระดับ มหาวิทยาลัย 1.สถานทูตจีน เขียนรายงาน (เป็นภาษาจีน) ระบุการศึกษาบ้านเรา เน้นแต่ด้าน ศิลปศาสตร์ นิติฯรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การตลาด บริหารธุรกิจ ซึ่งจบมาแล้ว ไม่มีงานทำ ความรู้กระจอก สักแต่ให้มีใบปริญญา ไม่ได้สร้าง value-added ใดๆ นักวิทยาศาสตร์ การวิจัย แทบจะเป็นศูนย์ Guanmu อดีตเอก อัครราชทูตจีน บอกว่า25 ปีที่ผ่านมา ไทยผลิตยาง ยังไงก็ยังทำแบบนั้น ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นยางรถยนต์ หรือสิ่งประดิษฐ์ อะไรเองไม่เป็น สร้างคิดอะไรไม่ได้ 2.มหาวิทยาลัยไทย รวมไปถึง ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ กิจกรรมเน้นเต้น หลีดโชว์หล่อสวย แต่โง่ ไม่มีการฝึกงานอะไร ที่เป็นประโยชน์ เด็กขอเงินพ่อแม่ เที่ยวกลางคืนไปวันๆ โชว์วัตถุนิยม ว่ารถกูขับรถไร สังคมมันวัดกันแค่นี้ (เห็นมากับตา) พวกดีๆ ก็มีแต่มันน้อย เอาจริงๆนะ ผมว่ามีแค่10% ในขณะที่เด็กสหรัฐฯ พวก MIT Stanford หรือเด็กจีนชิงหัว ปิดเทอม พยายามหางานทำ ฝึกงาน UN World Bank JP Morgan หรือมาค่ายผู้ลี้ภัย ชาวโรฮิงญาในไทย 3.จ่ายครบจบแน่ ปริญญาขยะ เต็มบ้าน คือ หางานไรทำไม่ได้ มีแต่อยากจะรวย "ผมจะทำธุรกิจ" คือมันคิดไรไม่ออก นอกจากขายของ นอกจากนี้ ยังมีทุจริต ผันงบกระทรวงศึกษาให้ทุนกู้ยืมเรียน มหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีนักการเมืองเป็นเจ้าของ สุดท้ายก็หนี้สูญ เพราะเด็กบ้านนอก ได้มาเข้ากรุง สักว่า ได้ปริญญาประดับบ้าน แต่มันหางานทำไม่ได้ ปึหนี่งหมดเงิน ภาษีประเทศชาติ ไปหลายหมื่นล้าน เรื่องเลวๆนี้ ไม่เคยถูกตรวจสอบ 4.ภาษาอังกฤษ ห่วยแตกขั้นเทพ จริงๆ อจ.จุฬาฯส่วนใหญ่ ก็ลอกบทความฝรั่ง มาแปลๆ ไม่มีความคิด อะไรที่ใหม่ หาน้อยคน ที่จบระดับโลก ไปดู CV เอาเอง จบมหาลัยห้องแถว B-class ทั้งนั้น งานวิจัยขยะ copy/paste เด็มไปหมด ครูมัธยม เอาแค่โรงเรียนในกรุงเทพฯ ผมเคยถูกเชิญไปพูด ยังออกเสียงสะกดศัพท์ไม่ถูกเลย จะสอนเด็กให้ถูกได้อย่างไร แล้วโรงเรียน ในอ.ปัว จังหวัดน่าน มันจะห่วยแตก ขนาดไหน คิดดู 5.ความรู้ใหม่ๆ หรือเทคโนโลยี มันหมุนเวียน เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งคนไทยรู้แต่ ภาษาไทยตัวเอง ไม่มีความสามารถ แข่งขันอะไร ในระดับโลก โลกทรรศน์สุดจะแคบ สำนักข่าวไทย รายงานแต่เรื่องเส็งเคร็ง ไม่ได้สร้างสรรค์คุณค่า ความรู้อะไร คนนั้นท้องกับคนนี้ ไปทำงานมา หลายประเทศ เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บอกได้เลย นักเรียนไทย โคตรจะขี้เกียจ ไม่รู้ปีหนึ่งๆ อ่านหนังสือกัน กี่เล่ม รัฐบาลไหนจะคิดแก้ไขบ้างหนอ.ขี้เกียจ ปริญญา ชื้อหาได้ จบได้ กลายเป็นคนโง่ ขึ้นไปอีกคน เพราะมีใบประกาศ มีทิฐิเพิ่ม หมิ่นเงินน้อย ทำอะไรไม่เป็น คิดสร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่ได้ เบียดเบียดครอบครัวประเทศชาติ เป็นภาระเป็นปัญหาสั่งคม ไร้คุณภาพอ้างตกงานที่แท้ขาดความรู้ความสามารถ ทุกอย่างชอบจะชื้อ จะกิน จะอยู่แบบสบาย ขาดการศึกษา กล่อมเกลาจิต ไม่มีความอดทด ต่อสู้ เป็นคนงอมืองอเท้าอาศัยผู้อื่น สมองคนอื่นไปๆวัน ๆ โตแบบแก่งแย่งชิงดีกัน ไม่มีทีมเวิร์ค เริ่มแต่แย่งสมบัติของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ต่อไปบ้านเมืองจะวุ่นวาย เพราะคนในชาติคิดสร้างไม่เป็น หมดสมบัติชาติ ผลาญหมด ผลาญทรัพยากรวัวควายไร่นาป่าไม้แร่ธาตุหมดแล้วจะกลับมาอยู่อย่างเดิมก็ไม่ได้ จบ ป.โท ป.เอก ทำไร่ทำนาไม่ได้ หากินเองไม่ได้ อนาคตเป็นทาสเขา เด็กขาดคุณภาพ ก็เป็นผู้ใหญ่ไร้คุณภาพ เป็นคนชราก็เป็นภาระประเทศชาติแน่นอน มีใบประกาศ ใบปริญญาแต่สังคมโลกไม่ยอมรับก็สูญปล่าว ต้องรีบแก้ไขเรื่องเหล่านี้ด่วน เร่งพัฒนาสังคม เค้าส่งมาอ่านแล้วดีเลยส่งต่อ/ลองดูก็ได้ ถ้าท่านอ่านแล้วส่งกลับให้ผู้ส่งต่อ แสดงว่าท่านอ่านจนจบ ถ้าไม่มีแสดงว่าไม่ได้อ่านหรืออ่านไม่จบ”ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย: ศาลสั่งลงโทษ ผู้ขายของออนไลน์ ที่คดโกงผู้ซื้อสินค้า อย่างสาสม เพื่อนผู้พิพากษา ส่งให้เพื่อน ( ในกลุ่ม ) อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประ โยชน์ เลยส่งต่อ มีสาระ ประโยชน์มาก ดังนี้ * * * * ผมไม่ค่อยมีเวลา จึงชอบซื้อของทางเน็ต เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ ไทย ยังไม่มีการขายของทาง เน็ต ได้แต่ซื้อใน eBay มากว่าสิบปีก่อน ตอนนี้ ไทยเรามีการขายของ ทางเน็ตกันเพียบ ผมก็ ซื้อตามปกติ และไม่ เคยมีปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งได้ไป ซื้อของจากค่ายดังของ เยอรมันบริษัท ล. โฆษ ณาในทีวี น่าเชื่อถือ ในครั้งสุดท้ายที่ซื้อ ปรากฎว่าสั่งของ ๒ ชิ้นๆ ละ ๙๐๐ บาท พอมาส่ง เราก็จ่ายเงินเลยเมื่อรับ พัสดุ แต่เปิดกล่องดู มี แค่ชิ้นเดียว แถมใบส่ง ของเป็นคนอื่น แต่ของ อย่างเดียวกัน ผมก็ถ่ายรูปของใน กล่องพร้อม Delivery Note ส่งให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่รับปากว่าจะ ติดต่อในทันที ..เงียบ หายไปสามวัน มี คนจากบริษัทอะไรไม่ รู้ โทรฯมาสอบถาม ผม ก็เล่าเรื่องแล้วก็ ..เงียบ หายไปอีก ๑๐ วัน ก็มี เจ้าหน้าที่บริษัท ล.โทร มาแล้วก็เงียบ ..หายไป อีก ๕ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ โทรฯมาอีก ผมเลย บอกว่า " ผมเป็นผู้บริโภค ที่ดี จ่ายเงินก่อนเห็น สินค้า(ตามกฎของคุณ) คุณได้เงินผมไปแล้ว แต่สินค้าผมได้ไม่ครบ เพราะคุณส่งผิด เวลา ผ่านไปเป็นเดือนยังไม่ ิเรียบร้อย แค่ส่งของให้ ผมอีกชิ้น มันยากนัก หรือครับ? ความผิด ของคุณ ทำไมผมต้อง มารับกรรมไปด้วย ! ผมให้เวลา ๗ วัน เกินจากนั้น ไปเจอกัน ในศาล " เจ้าหน้าที่ก็วางสาย ไปอย่างไม่พอใจ เพราะ ได้ยินเสียงแข็งๆของผม ที่เริ่มมีอารมณ์ วันที่ ๗ ผมก็นั่งพิมพ์ ภาพที่ถ่ายส่งให้ดูตอน เปิดกล่องหลักฐานอย่าง อื่น ไม่มีอะไรเลย เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเดิน ไปศาลแขวงในเขตที่ ผมซื้อของทางอินเตอร์ เน็ตศาลที่มีเขตอำนาจ เหนือบ้านนั่นเอง เพื่อให้ เจ้าพนักงานศาล จัดการให้ เริ่มเข้าสาระครับ ! .. กฎหมายคุ้มครอง ผู้บริโภคบัญญัติให้ต้อง มีเจ้าพนักงานศาล ทำ หน้าที่ร่างฟ้องให้ผู้บริ โภค เรียกว่า "เจ้าพนักงานคดี " ช่วยค้นหาหลักฐาน ทางทะเบียนของจำเลย ให้ ..กรณีนี้คือหนังสือ รับรองบริษัท ศาลจะ นัดเร็วครับ ประมาณ ๓๐ วันได้เจอกัน ไม่ เสียค่าธรรมเนียม ไม่ ยุ่งยากอะไรเลยเพราะ กฎหมายนี้สร้างเพื่อ คุ้มครองใครครับ? แน่นอน ..ผู้บริโภค ! เจ้าพนักงานศาล ร่างคำฟ้องให้ผมเสร็จ เรียบร้อยโดยไม่ต้องมี ทนายความ และให้ผม ลงชื่อในเอกสารหลาย อย่าง แล้วพาไปยื่นที่ เคาเตอร์รับฟ้อง ได้วัน นัด เป็นอันเสร็จเรียบ ร้อย หลังจากได้รับคำ ฟ้องผมแล้ว บริษัท ล. โทรฯมาหาผมบอกว่า จะคืนเงิน ๙๐๐ บาท ผมบอกว่า ตอนนี้จะ ตกลงอะไร ให้ไปคุย กันในศาล เลยได้ส่ง อีเมล์ให้ผมบอกว่า ได้ รับของที่ผมส่งคืนแล้ว ๒ ชื้น ผมก็เริ่มฉุนเล็ก น้อย ตะเอาใาเป็นทริก ในคดีหรือเปล่าว่า ผม คืนของเอง ไว้เจอกัน ! ส่งมา ๒-๓ ครั้ง และส่ง ข้อความมือถืออีกต่าง หาก ..ทีอย่างนี้ดำเนิน การรวดเร็วฉับไว ในทันที ! ในวันศาลนัด ทาง บริษัท ล. เตรียมทนาย ความ ที่จ้างจากนอก บริษัท ล. นิติกรของบริ ษัท และผู้จัดการเตรียม เอกสารมาปึกใหญ่ ศาล ถามว่า คุณไม่ส่งของ ใช่ไหม? เขาก็ขอ ไกล่เกลี่ย ในห้องไกล่เกลี่ย ผู้ จัดการก็ขอโทษ ทนาย เริ่มรู้ว่า ผมต้องการเดิน ไปตรงจุดไหน ทนาย ืความในและนอกห้อง พิจารณา ก็มาทักทาย ยกมือไหว้เรียกท่าน หน้าบัลลังก์ก็รู้จัก พอรู้จักสถานะเรา การพูดจาก็ง่ายขึ้นเยอะ ทนายความไม่โย้เย้ เรื่องมากตามสไตล์ ในที่สุดก็ยอมตาม ฟ้องทุกประการ จ่าย เงินคืนให้ผม๙๐๐ บาท พร้อมค่า พร้อมค่าเสีย เวลา ค่าโมโหให้อีก ๒๐,๐๐๐ บาท หลังจากทำสัญญา ประนีประนอม ยอม ความกันแล้ว ๑๕ วัน และแถมคูปองลดราคา มาอีก ๑,๐๐๐ บาท ผม ก็เอาเงินที่ได้ไปทำบุญ อยากให้รู้ว่า .. กฎหมายคุ้มครอง ผู้บริโภคนั้น บัญญัติไว้ สำหรับผู้บริโภค .. 1.ไม่ต้องมีทนายความ 2. ไม่ต้องหาหลักฐาน ของฝ่ายประกอบธุรกิจ 3. มีเจ้าพนักงานศาล ร่างคำฟ้องให้เรียบร้อย 4. แถมหากต้องสืบ พยาน ศาลถามให้เลย ไม่ต้องรู้อะไรมากครับ แค่รู้ว่าเราเสียหายหรือ เสียเปรียบอะไร 5. คุ้มครองไม่ว่าเรื่อง การซื้อขาย การให้บริ การ สินค้าไม่ดี ไม่มี คุณภาพ ส่งของไม่ครบ สินค้ามีปัญหากับเนื้อตัว ร่างกาย เรียกว่า ได้หมด 6. แถมหน้าที่นำสืบ ตามที่เราฟ้อง ตกกับ ฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 7. ที่สำคัญไม่ต้อง เสียค่าธรรมเนียม และ ืค่าส่งหมายเลย สรุปง่ายๆ .. ไม่เสียเลยสักบาท ก็แล้วกัน คนไทยยังรู้ เรื่องนี้น้อย แถมยังยอม เสียเปรียบอย่างไม่น่า เชื่ออีกจำนวนมาก หากเราโดนกระทำ และเสียหาย การนิ่งเฉย คือการทำลายระบบ เพราะเราไม่ต่อต้านผู้ไม่ สุจริต กลับสนับสนุนให้ เขาเหิมเกริม กล้าปฏิบัติ แย่ๆกับลูกค้าอีกนับจำ นวนไม่ถ้วน การกระทำของผม ครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ทำให้ เขาไม่กล้าไปปฏิบัติที่ แย่ๆ กับประชาชนอีก จำนวนมาก นั่นคือสิ่ง ที่ผมชนะ หวังว่า ..จะเป็น ประโยชน์ครับ /.ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทุกๆคนต้องรู้นะคะ..เตือนกันอีกทีค่ะ!!!#ร้อนจนตาย Heat stroke (ลมแดด) อาการเป็นอย่างไร สังเกตตัวเอง หรือ #ช่วยชีวิตอย่างไร แดดแรงเปรี้ยง ๆ อยู่ ๆ เขาล้มลง #หมดสติ หลายคนวิ่งไปดู ต่างเอายาดมมาอังจมูก บ้างมาบีบนวด พยายามช่วย เขาไม่ฟื้น . หัวใจเขาหยุดเต้น และเสียชีวิต ทุกคนช็อค เพราะก่อนหน้านี้ เขาดูแข็งแรงดี เป็นนักกีฬา ยังวิ่งเหยาะ ๆ #ไม่มีโรคประจำตัว อะไร ตายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นี่แหละ ความน่ากลัวของ #heatstroke . Heat stroke (อ่านว่า ฮีท สโตรค) มีแพทย์อธิบายไว้หลายท่าน ให้เราอ่านแล้วมึน มากมาย แต่ครูจะอธิบายเป็นภาษาคน ไม่ต้องใช้ศัพท์ยากมาก มันคือ “ภาวะ #ร่างกายร้อนจัด จนเครื่องพัง #ระบบภายในล้มเหลว” วิธีแก้ไขจึงไม่ใช่เอายาดมให้ดม เดี๋ยวจะบอกวิธีขั้นตอนช่วยเหลือให้ แชร์เก็บไว้ช่วยเหลือกันนะ . ฮีทสโตรค พบมากในช่วง #อากาศร้อนจัด และกลุ่มเสี่ยงคือ คนแก่ เด็กเล็ก และนักกีฬาที่ออกกำลังกาย กลางแจ้ง หรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง #ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นเวลานาน . #อาการที่สังเกตได้ ...ก่อนระบบจะล้มเหลว ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต จะมี #อาการนำ หากเราสังเกตทัน ช่วยทัน ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ไม่ใช่แค่คนอื่นนะ ตัวเราก็คอย #สังเกตอาการตัวเอง ด้วยนะคะ . อาการคือ มึน ๆ เวียนหัว ตัวร้อน แต่ไม่มีเหงื่อ จดค่ะ #ตัวร้อนไม่มีเหงื่อ ผิวแห้ง ถ้ายังมีสติ จะรู้สึกอ่อนเพลีย มึนศีรษะ อาจมี เดินเซ พูดไม่ชัด หายใจเร็ว ชีพจนเต้นเร็ว ความดันตก อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน . ถ้าเป็นตัวเราเอง หรือผู้อื่น ถ้ายังมีสติ ให้รีบดื่มน้ำ ทำตัวเองให้เย็นลง #นอนราบให้เลือดเลี้ยงสมองสะดวก ยกเท้าสูงนิดหน่อย เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้เย็นลง พาร่างกายเข้าที่เย็น เช่น ห้องแอร์ เข้าร้านเซเว่น พอร่างกายเย็นลง ก็ดื่มน้ำ #ชดเชยเกลือแร่ ก็จบ ถ้ายังมีสติ ถือว่า ยังไม่อันตรายถึงชีวิต . แต่ถ้าหมดสติ ชัก หรือล้มลง เรียกไม่ตื่น ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ . 1. อันดับแรกโทร 1669 #เรียกรถพยาบาลด่วน . 2. สังเกตว่า เรียกไม่ตื่น ให้ดูว่า ผู้ป่วย ยังหายใจ ไม่มีภาวะ #หัวใจหยุดเต้น หากพบว่าหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการ CPR ปั้มหัวใจ (ถ้าทำเป็น) หากทำไม่เป็นให้ #ตะโกนขอความช่วยเหลือ และส่งไทมุง แทนที่จะยืนมุง ให้พวกเขาวิ่งกระจายกำลังออกไปตะโกนหา คนที่ทำ CPR เป็น และควรทำให้เร็วที่สุด เพราะหากช้า ผู้ป่วยอาจเสียชีวิต หรือฟื้นขึ้นมาช้า สมองพิการได้ . 3. ถ้าเขายังหายใจ หัวใจยังเต้น แต่เรียกไม่ตื่น ไม่ต้อง CRP ระหว่างรอรถพยาบาล ถ้าพบว่าตัวเขาร้อนจัด (ประมาณ 40 องศา ไม่ต้องวัดก็รู้สึกได้) คิดว่าอาจใช่ heat stroke ให้รีบลดอุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยให้เร็วที่สุด หาผ้า ถ้าไม่มีเสื้อใครก็ได้ ชุบน้ำอุณหภูมิห้อง หรือเย็น ไม่ต้องเถียงกัน ขอให้ชุบน้ำ #ทำให้ผู้ป่วยตัวเย็นลงให้เร็วที่สุด . แบ่งงานกันทำ คนนึงเช็ดตัวแรง ๆ (เช็ดย้อนรูขุมขนยิ่งดี) อีกคนเอาผ้าหรือเสื้ออีกตัว กระพือ ให้ลมพัด เอาให้เย็นให้ได้ คนที่ไม่มีส่วนช่วยเหลือ ถอยออกไปห่าง ๆ . 4. ถ้าผู้ป่วยตัวเย็นลง เริ่มมีสติ และพูดรู้เรื่อง ให้จิบน้ำช้า ๆ #อย่ากรอกน้ำใส่ปากขณะที่เขาหมดสติ ถ้าไม่มีสติ ไม่ต้องให้ดื่มน้ำ เพราะจะสำลักเข้าปอด อันตรายหนักกว่าเดิม . 5. รถพยาบาลมาถึง เราทุกคน ทีมช่วยเหลือ ก็สบายใจ . ครูหวังว่าข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ แชร์ได้ แชร์โลด คือ ไม่จำเป็นต้องเอาไปช่วยใครที่ไหน เผลอ ๆ ตัวเรานี่แหละ เริ่มมึน เริ่มเวียนหัว เริ่มร้อน แสบตัว ร้อนแบบไม่มีเหงื่อ เราก็ #ปฐมพยาบาลตัวเอง ตามขั้นตอนที่บอกมานี้ได้เลยค่ะ . หน้าร้อนนี้ ระวังนะคะ พกขวดน้ำติดตัว #อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ อย่ารอให้คอแห้ง หรือรู้สึกหิวน้ำ เพราะนั่นอาจสายไปแล้ว ถ้าร่างกายร้อนจัด มันจะช็อค #ระบบภายในจะล้มเหลว ตับถูกทำลาย ไตวาย หัวใจหยุดเต้น อันตรายกว่าที่เราคิดไว้ ถ้าเริ่มมึน ๆ ตึง ๆ ก็รีบหาน้ำดื่ม #ลดอุณหภูมิร่างกาย# .สภาพอากาศผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทำไมคนแก่ที่อายุ เกิน70 ปี ไม่กี่ปี ก็จะจากไป ?ทำไมคนแก่ที่อายุ เกิน70 ปี ไม่กี่ปี ก็จะจากไป ? ตอบ มีเหตุผล 3 ประการ ที่เป็นเช่นนั้น ถ้ามีใครที่อายุเกิน 70 ปี และเป็นเช่นนั้น ให้ฟังคลิปนี้แล้วปรับตัวตามก็จะช่วยให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนั้นไปได้ ตามการวิจัยกล่าวว่า อายุ 70 ปีขึ้นไป จะดำเนินชีวิตต่อไปก็ยากยิ่งนัก เพราะในช่วงอายุ 70-75 สภาพร่างกายจะทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก 3 ประการต่อไปนี้ 1 จิตใจแก่ ( จิตใจถดถอย) จิตใจที่ท้อแท้ ถดถอย ทำให้ร่างกายที่ยังไม่ถึงเวลาถดถอย จะถดถอยก่อนเวลาเพราะจิตใจเป็นเหตุ การที่จิตใจท้อแท้ ถดถอยส่งผลให้อารมณ์ ความรู้สึก สภาพร่างกายแย่ไป ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข 2. การสูญเสียความมั่นใจ คนอายุเกิน 70 มักขาดความมั่นใจ คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถตามทันโลก ตามทันสังคม มักคิดว่า ถูกสังคมทอดทิ้งเสียแล้ว เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไร้ค่า ตนเองไม่มีประโยชน์เลย ในโลกที่ก้าวกระโดดนี้ ตนเองไม่สามาถชำระเงินผ่านมือถือ หรือใช้เครืองมื่อที่สังคมกำลังใช้กัน ก้าวไม่ทันโลก ไปไม่เป็น และแย่ยิ่งกว่านั้น ยังรู้สึกถูกลูกหลานทอดทิ้ง คุยไม่รู้เรื่องกับลูกหลาน ตามไม่ทัน ยิ่งทำให้อยากอยู่ตามลำพัง ไม่พูดไม่คุยกับใคร เก็บตัว สถานการณ์แบบนี้ ถ้าปล่อยไป อาจทำให้เจ็บป่วยง่าย เพราะสภาพจิตใจที่หมดหวัง คนกลุ่มนี้ มักคิดถึงคู่ของตนที่จากไป ขาดคู่ ชีวิตไม่เหมือนเดิม เกิดการชงักงัน ดำเนินชีวิตต่อไปได้ยาก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้ ไม่นานจะเห็นคนนึงที่เพิ่งจากไป ไม่นานอีกคนก็จะจากไปด้วย 3. ความรู้สึกสูญเสียตัวตน อายุ เกิน 70 รู้สึกว่า ไม่ใช่คนสำคัญแล้ว ไม่ใช่เป็นผู้นำอีกต่อไป กลายเป็นคนอื่นนำ บอกเขาให้ทำตาม ยิ่งถ้าสุขภาพไม่ดี ต้องให้คนอื่นมาดูแล เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดังใจ รู้สึกอับอายว่า ตนทำอะไรไม่ได้ สูญเสียเกียรติ และกลายเป็นภาระของลูกหลาน สังคม ไร้ค่า ไร้ความหมาย หดหู่ ลักษณะแบบนี้ ถ้าไม่สามารถปรับสภาพจิตใจของตนแล้ว จะทำให้สภาพการณ์ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม ขอเสนอ ทางแก้ไข 6 ประการดังต่อไปนี้ 1 เอาใจใส่คู่ของตน เอาใจใส่ดูแลคู่ของตน รักษาถนอมน้ำใจ สร้างความตื่นเต้น ความน่ารักกับคู่ของตน ไม่ต้องไปสนใจเลี้ยงดูหลานหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับลูกของคุณ จำไว้ว่า คู่ของคุณคือของแท้ ที่อยู่ด้วยกับคุณ เป็นคู่ทุกข์คู่ยากที่แท้จริง ถนอมไว้ 2. มีรังเป็นของตนเอง ( บ้าน) บ้านใหญ่บ้านโต แต่ไม่ใช่ของคุณก็ไม่มีประโยชน์ อายุมากแล้วควรมีบ้านที่เป็นของตนเอง แม้จะเป็นบ้านที่เล็กๆ เอาไว้หลบแดดหลบฝนกำบังพายุ เป็นที่พักพิง สงบ ที่ไม่มีใครจะมาไล่เราไปได้ บ้านของพ่อแม่มักเป็นบ้านของลูก แต่บ้านของลูกอาจไม่ใช่บ้านของพ่อแม่ ดังนั้น คนเราแก่แล้ว ต้องมีบ้านของตนเอง เพราะบ้านเป็นที่สุดท้าย เป็นรังที่ๆเราจะได้พัก เป็นพื้นฐานที่ต่ำสุดที่ทุกคนที่แก่แล้วต้องมี 3. มีเงินก้นถุง คนแก่แล้ว ไม่ควรที่จะแก่แบบมือเปล่า คือ แก่แบบที่ไม่มีอะไรติดตัวเลย แม้เงินจะไม่ใช่แก้วสารพัดนึก แต่การไม่มีเงินหรือสมบัติอะไรเลย เป็นความประมาทที่ให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด แก่แล้ว อย่าขี้เหนียวกับตนเองเกินไป อยากกินอะไร ก็กิน อยากไปเที่ยว ก็ไป อยากมีความสุข ก็ให้ตนเองมีความสุข ต้องรู้จักการใช้ชีวิตให้เป็น แต่อย่าลืม เหลือเงินให้กับตัวเองยามฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้ 4 มีสมบัติชิ้นสุดท้าย สมบัติชิ้นสุดท้าย คือ สุขภาพที่ดี , สุขภาพที่ดี คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีค่าที่สุดของเรา และยังเป็นสมบัติของบุตรหลานด้วย ช่วยลูกหลานประหยัดทั้งเวลาและทรัพย์ เมื่อเรามีสุขภาพที่ดี มีสุขภาพที่ดีแล้ว จึงสามารถมีชีวิตที่ดีได้ และไม่เป็นภาระลูกหลาน 5 มีเพื่อนเก่า เพื่อนเก่านำมาซึ่งความชื่นบาน มีเวลานัดเพื่อนๆ ไปเที่ยวด้วยกัน เดินป่า ท่องเที่ยว เล่นไพ่ ฝึกสมอง คุยสร้างสรรค์ คนแก่แล้ว ทำสิ่งที่เคยฝันอยากทำแต่ไม่มีเวลาทำ ทำตามความฝัน แก่แล้ว มีคู่ มีเพื่อนร่วมกัน เราจะไม่รู้สึก เปล่าเปลี่ยว เหงา แต่ชีวิตมีแต่ความร่าเริง สนุกสนาน มีสุข 6. มีความสุข ตลอดชีวิต เหนื่อยมาทั้งชีวิต เครียดมาตลอด บัดนี้เป็นเวลาที่จะมีความสุข ให้ทุกวันเป็นวันแห่งความสุข 6 ประการที่บอก ถ้าได้ไปลองทำ จะเห็นผลและทุกๆวัน ชีวิตก็จะค่อยๆเปลี่ยนไป และความคิดที่ว่า เราแก่แล้ว ไม่มีความประโยชน์แล้ว ความคิดนี้จะค่อยๆหายไป จะยิ่งหนุ่มยื่งสาวขึ้นทุกวัน รวมทั้งท่าทีในใจ ทัศนคติ อารมณ์ สุขภาพก็จะเริ่มเปลี่ยนไปและดีขึ้นเรื่อยๆมะเร็งMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ