1435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยขอเชิญร่วมลงชื่อคัดค้าน และเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท และร่วมร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจ ดำเนินการส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ข้าพเจ้า วิรังรอง ทัพพะรังสี ได้ทำการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วตามรายละเอียดด้านล่างนี้ หากท่านเห็นด้วยกับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว และต้องการเป็นผู้หนึ่งในการร่วมคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท โปรดสนับสนุนด้วยการร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มนี้ค่ะ https://forms.gle/4fuBV1WFaHWn2HUn9 ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมลงชื่อ ขออนุญาตรวบรวมชื่อของท่าน เพื่อส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ ขอบกราบขอบพระคุณคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่านที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” และขออนุญาตนำแถลงการณ์นำส่งเป็นเอกสารแนบยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมถึงเหตุและผลที่ควรยกเลิกนโยบายดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก ข้าพเจ้าไม่อาจทราบว่าที่กระทำไปนี้จะได้ผลอย่างไรหรือไม่ เพราะรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีนสิน ดูจะเดินหน้าไม่ฟังเสียงประชาชนเลย คิดว่าคงทำได้ตามกำลังเพียงเท่านี้ แต่ก็รู้สึกดีกว่าการที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย....... วิรังรอง ทัพพะรังสี ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ _________________________ ที่ ๐๔/ ๒๕๖๖ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง ร้องเรียนนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ๑๐,๐๐๐ บาท ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน ๑ ฉบับ ๒. แถลงการณ์ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงิน ดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท กราบเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนว่า รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน มีนโยบายแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้กับประชาชนทุกคนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปเพื่อกระตุ้นการบริโภค และได้มีผู้ที่มีความรู้ตลอดจนประชาชนจำนวนมาก ออกมาคัดค้านแสดงความไม่เห็นด้วย และขอให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันที่จะเดินหน้าต่อไป ล่าสุด เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ นักวิชาการและอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ๘๑ ท่าน รวมทั้งอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ๒ ท่าน คือ นางธาริษา วัฒนเกส และนายวิรไท สันติประภพ ได้ร่วมกันลงชื่อในแถลงการณ์ เห็นพ้องต้องกันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะเป็นนโยายที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” โดยให้เหตุผลประกอบอย่างละเอียด (เอกสารแนบ ๒) ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ข้าพเจ้า นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง มีความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายที่จะสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรมในสังคมให้เกิดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเศรษฐีและมหาเศรษฐี ที่อายุเกิน ๑๖ ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือด้วยทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังห่วงใยว่า นโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง แต่เป็นการสร้างหนี้จำนวนสูงมากโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจจะส่งผลทำลายเสถียรภาพทางด้านการคลังของประเทศในระยะยาว โดยประชาชนทั้งประเทศจะต้องแบกรับความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับกรณีโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านกฎหมาย รัฐบาล โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงในวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๖ ว่าการจ่ายเงินดิจิทัล สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แม้รัฐบาลจะประกาศว่า “เงินดิจิทัล” ที่จะออกมาตามโครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” นั้น จะไม่ใช่การออก “คริปโตเคอร์เรนซี” ซึ่งจะไม่สามารถทำได้ เพราะจะผิดตาม พ.ร.บ.เงินตรา ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย “หนึ่งประเทศจะมีสองสกุลเงินไม่ได้” แต่จะออกมาในรูปแบบเหรียญ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภท “ยูทิลิตี้ โทเคน (Utility Token)” ซึ่งจะเป็น “โทเคน” เพื่อการอุปโภคบริโภค จึงไม่ได้เป็นการสร้างสกุลเงินใหม่ และไม่ใช่กรณีเดียวกับ Bitcoin Luna หรือ USDT แต่เป็นเหรียญ คูปอง หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้ “ดิจิทัลโทเคน” ประเภทยูทิลิตี้ โทเคน จะเป็นเหรียญ หรือจะเป็นคูปอง แต่เมื่อออกโดยรัฐบาล และประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าได้แทนเงินสดกับร้านค้าได้ทั้งหมด เช่น ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อ ห้างแม็คโคร รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าจะแตกต่างกับการใช้เงินตราตรงไหน เหตุใดจึงไม่แจกเป็นเงินสดเข้ากระเป๋าสตางค์ให้แก่ประชาชนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องยุ่งยาก ร้านค้าที่รับก็ไม่ต้องลำบากในการนำไปแลกคืนกับรัฐบาลเพื่อรับกลับมาเป็น “เงินบาท” ข้าพเจ้ามีความสงสัยว่า ลักษณะของเหรียญ หรือคูปอง ที่รัฐบาลจะนำออกมาใช้นี้ อาจเข้าข่ายเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง และเมื่อมีสภาพเป็นเงินตราก็จะเข้าบังคับพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. ๒๕๐๑ เนื่องด้วย “.....ตามเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย “ยูทิลิตี้ โทเคน จะสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้า และการบริการต่างๆ แบบเฉพาะเจาะจง ภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ต้องไม่มีลักษณะเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง ในลักษณะของการใช้แทนเงิน (Means of Payment: MOP) เป็นการทั่วไป ดังนั้น จึงอาจจะต้องพิจารณาให้ดีว่า การใช้โทเคนดังกล่าวในการซื้อสินค้า และบริการกับร้านค้าทั่วประเทศ อาจจะเข้าข่ายเป็น “การชำระในลักษณะการเป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการในวงกว้าง” หรือ การใช้แทนเงิน ซึ่งจะผิดกฎเกณฑ์ของทางธนาคารแห่งประเทศไทย.....” ที่มาของข่าวและข้อมูล: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7856583 https://www.thairath.co.th/money/experts_pool/columnist/2721853 สุดท้าย แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่ตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน และไม่เกี่ยวกับการฟอกเงินตามที่มีผู้กล่าวอ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีเงินสดที่จะแจกให้กับประชาชนได้ การแจกเงินก็ควรจะสามารถทำได้ตรงๆ เหมือนสมัยที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแจกประชาชนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยและใช้เป็นอยู่แล้ว แต่การที่รัฐบาลไม่แจกเป็นเงิน ทำให้เกิดเป็นเรื่องยุ่งยากที่ถกเถียงกันในสังคมทั้งด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและด้านกระบวนการปฏิบัติ ยังไม่รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการชำระเงินดิจิทัล สร้างแอปพลิเคชันในการชำระเงิน และสร้างบล็อกเชนใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนและระยะเวลาจำนวนมาก สังคมจึงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า นโยบายดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติในภาพรวม แต่อาจเป็นการหลบเลี่ยงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศ และขัดต่อวินัยการเงินและการคลังของประเทศอย่างร้ายแรง ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยประเทศชาติ จึงได้ส่งหนังสือร้องเรียนนี้มากราบเรียนขอให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน วินิจฉัย หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ากระทำดังกล่าวของรัฐบาลขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร ต่อไป ขอแสดงความนับถือ นางวิรังรอง ทัพพะรังสีข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนักเรียนรรชื่อดังตบกันมีนักเรียนโรงเรียนดังตบกันแต่แม่มาช่วยลูกตบMoui• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ขณะนี้ร่างระเบียบฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายพอเถอะบัง ตังผมหมด• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไปเทยวเกาหลีอยากไปสิริกร ฯ.• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยโคโรน่าแพร่ผ่านทางสายเลือดมีผู้โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตว่าเชื้อโคโรน่าถ่ายทอดไปยังลูกๆได้ มีการอ้างอิงถึงแม่ลูกคู่หนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์และเมื่อคลอดลูก ลูกลับติดเชื่อละเสียชีวิตstd48019• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือน!! "ยาชุด" ซุกร้านชำ อันตรายผสมเอ็นเสด ทำ "ไตวาย" ไม่รู้ตัว พบระบาดถึงเมืองกรุงอันตราย! "ยาชุด" ซุกซ่อนร้านชำต่างจังหวัด แพร่ระบาดถึง กทม. มียาเอ็นเสดประกอบหลายตัว ส่งผล "ไตวาย" จากการใช้ยา บางคนใช้ไม่รู้ตัวว่าป่วยยิ่งซ้ำเติม จี้รัฐ สธ. อย. เอาผิด กวาดล้างโฆษณายาชุด เผย 8 ปัจจัยเสี่ยงทำไตเสื่อใจากยาเอ็นเสด เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่สถาบันวิจัยสังคม อาคารวิศิษฐ์-ประจวบเหมาะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานแถลงข่าว “ดูแลไตอย่างไรให้มีสุขภาพดี: เมื่อต้องใช้ยา” ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการ กพย. กล่าวว่า ปัจจุบันไทยติด 1 ใน 5 ประเทศของโลกที่มีอัตราการเกิดโรคไต ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่า ผู้ป่วยไตเรื้อรังมี 11.6 ล้านคน โดยมากกว่า 1 แสนคนต้องล้างไต สาเหตุมาจากกินเค็มและการใช้ยา ซึ่งหลายชนิดก่อปัญหาโรคไตได้ ทั้งยาชุด ยาแก้ปวด ยาสมุนไพรบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะยาชุดยังคงเป็นปัญหา มีอันตราย เพราะไม่มีชื่อทางยาใดๆ มีส่วนประกอบ ทั้งสเตียรอยด์ กลุ่มยาเอ็นเสด พาราเซตามอล ยากล่อมประสาท ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ เมทีลีนบลู ซึ่งถอนทะเบียนแล้วแต่ยังมีคนเจอ ไซบูทรามีน วิตามิน นอกจากนี้ ยังมียากษัยเส้นบำรุงไต แต่องค์ประกอบพบกลุ่มเอ็นเสด มีผลทำให้ไตวายได้ง่าย "ยาเอ็นเสด เป็นยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ มีทั้งหมด 29 ชื่อสามัญทางยา รวม 1,163 ทะเบียนตำรับยา มียาฉีด 8 ชื่อสามัญทางยา รวม 49 ทะเบียนตำรับยา มีคำเตือนเยอะมาก ทั้งห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ ผู้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร คนเป็นโรคตับ โรคไต อย่างรุนแรง หลายคนไม่รู้ อย่างชาวบ้านใช้กันมาก โดยไม่รู้จักชื่อยา ใช้โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคไต ที่สำคัญไม่มีเครื่องมือตรวจว่า กินยาเอ็นเสดไปแล้ว ซึ่งยาชุดหลังๆ เลี่ยงสเตียรอยด์ หันมาใช้เอ็นเสดแทน และใช้หลายเม็ด ดังนั้น มาตรการควบคุม ควรมีการสแกนในชุมชน ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” ผศ.ภญ.นิยดา กล่าวstd48402• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกินยาชุดหายทุกโรคจริงมั้ย" ยาชุด" ซุกซ่อนร้านชำต่างจังหวัด มียาเอ็นเสดประกอบหลายตัว ส่งผล "ไตวาย" จากการใช้ยา และไม่สามารถรักษาโรคได้std47912• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเปิดตัว TJA&COFACT ดึง “นักข่าว” ร่วมตรวจสอบ FAKE NEWS ประเดิม 5 ข่าวปลอม ข่าวลวง ที่ถูกแชร์วนซ้ำวันที่ 1 เมษายน 2564 นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(TJA) เปิดเผยว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ร่วมมือกับ “COFACT Thailand” หรือ ภาคีโคแฟคประเทศไทย ภายใต้ชื่อ TJA&Cofact ในการตั้งกองบรรณาธิการเฉพาะกิจ ที่ดึงนักข่าวมืออาชีพจากหลากหลายสายข่าว เข้ามาเป็น Fact-Checking ร่วมตรวจสอบ Fake news หรือ ข่าวลวง ข่าวปลอม ที่แพร่กระจายอยู่ในโซเชียลมีเดียด้วยวิธีการทำข่าวอย่างนักข่าวมืออาชีพ โดยจะมีการนำข่าวลวง ข่าวปลอม ไปสัมภาษณ์ขอข้อมูลจากบุคคลที่นักข่าวเรียกว่า “แหล่งข่าว” ในหน่วยงาน/องค์กร ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อยืนยันว่าข่าวว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “TJA&Cofact จะเริ่มความร่วมมือตรวจสอบข่าวลวง ข่าวปลอมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นโครงการนำร่อง 3 เดือนก่อนในเบื้องต้น จะมีการแถลงความร่วมมือในวันที่ 2 เมษายน2564 สมาคมนักข่าวฯมีความยินดีที่ Cofact เชิญเข้าร่วมในภารกิจนี้ เพราะมองเห็นปัญหาข่าวลวง ข่าวปลอม ตรงกันว่า เป็นปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน แม้บางข่าวจะดูเป็นข้อความที่อาจจะไม่สำคัญ แต่หากเกี่ยวข้องสุขภาพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้”std48204• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องจริงหรือโกหก น้ำมันจิ้งเหลนเอามานวดน้องกะปู๋แล้วจะใหญ่ขึ้น 18++ กระทู้คำถาม สุขภาพกาย คือผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆเลยครับว่าน้ำมันจิ้งเหลนสามารถทำให้น้องกะปู๋ของเราใหญ่ขึ้นได้ โดยการจับจิ้งเหลนตัวใหญ่สักหน่อยหรือพอประมานแล้วนำมาย่างให้น้ำมันของจิ้งเหลนออกแล้วเอามานวดน้องกะปู๋ มีใครเคยลองมั๊ยครับแล้วลองแล้วมันได้ผลจิงมั๊ยครับ 0ใหญ่ขึ้น แน่นอน ตอนที่นวดนะ ไม่ต้องถึง นํ้ามันจิ้งเหลน หรอก เอานํ้ามันหมูในครัวนวด ก็ใหญ่ขึ้น (ตอนนวดนะ)std48866• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจับกระแสการเมือง : วันที่ 14 มิ.ย.2566 "คนดังส่อวืด ส.ส. หลังเอกสาร กกต.หลุด"กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ หลังครบรอบ 1 เดือนเลือกตั้ง 2566 ว่าที่ ส.ส.ใหม่ไฟแรง หลายคนจากหลายพรรคการเมือง ที่ลุยงานตั้งแต่ไม่ได้เดินเข้าสภา ออกอาการร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน เมื่อเอกสารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลุดเสนอรายชื่อว่าที่ ส.ส. จำนวน 400 เขตให้ กกต.พิจารณา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้พบว่ายังไม่มีการลงนามรับรอง ส.ส. เนื่องจากมี 71 เขตเลือกตั้งที่อยู่ระหว่างการไต่สวนหาข้อเท็จจริง กรณีมีเรื่องร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง จึงให้กกต. นำกลับไปพิจารณาให้ได้ข้อยุติ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต.สัปดาห์หน้า พร้อมกับ 100 รายชื่อว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อstd4835• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่std48851• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาลstd48004• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนายอมรับว่าทีมงานต่อต้านข่าวปลอมทำงานกันอย่างยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม ทาง Newsweek ก็มีการตรวจสอบว่าเป็นข่าวลวงเช่นกัน โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ ส่วนในประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นฉีดวัคซีนไปแล้ววัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์การกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน นำไปสู่ความกังวลว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีผลข้างเคียงคือรหัสพันธุกรรมของตนจะเปลี่ยนไปด้วย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด แม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริงวัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“น้ำมะนาว” ยาวิเศษแก้สารพัดโรคก่อนหน้านี้ “น้ำมะนาว” ถูกแชร์ต่อๆกันว่า เอาไปผสมโซดาแล้วจะช่วยฆ่าเชื้อมะเร็งได้ ยุคหลังๆมาบอกว่า “น้ำมะนาว” ช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฆ่าเชื้อมะเร็ง หรือ ฆ่าเชื้อโควิด-19 ก็ได้รับการยืนยันจาก นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค รวมถึงคุณหมออีกหลายคน ที่พูดตรงกันว่า ข่าวนี้เป็นข่าวปลอม มะนาวเป็นผลไม้มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ช่วยไม่ให้เชื้อโรคสามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่ายเท่านั้น แต่ไม่สามารถฆ่าไวรัสได้โควิด 2019ยาสมุนไพรstd48096• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยปิดมือถือหนี “รังสีคอสมิก”00.30 - 03.30 น. เป็น “ช่วงเวลาทอง” ของการปิดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เนื่องจากดาวเคราะห์ของเราจะมีการแผ่รังสีที่สูงมาก “รังสีคอสมิก” จะผ่านเข้ามาใกล้โลก และอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ข่าวนี้ถูกส่งต่อมานานมาก เป็นหนึ่งในข่าวปลอมยุคดึกดำบรรพ์ที่เล่นตลกกับชีวิตเรามากผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10%เป็นอีกหนึ่งข่าวปลอมสุดคลาสสิกที่ถูกนำมาแชร์กันต่อเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาใกล้สิ้นสุดปีงบประมาณของทุกปี แต่หากใครติดตามข่าวสารเป็นประจำก็จะรู้ได้ทันทีว่า “เป็นเรื่องปกติ” เพราะรัฐบาลจะต่ออายุการลดภาษี VAT เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดผลกระทบทั้งค่าครองชีพ และรักษาการบริโภคภายในประเทศ ภาษี VAT” มีอัตราการจัดเก็บที่ 10% แบ่งเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจริง 9% และภาษีท้องถิ่นอีก 1% แนวทางนี้กำหนดเอาไว้ตั้งแต่ปี 2535 แต่ไม่เคยจัดเก็บจริงข่าวการเมืองstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ กระทรวงดีอีเอสฯ สั่งฟ้องนักข่าวไทยพีบีเอส แพร่ข่าวปลอมหญิงแพ้วัคซีน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ชี้มี “ขบวนการสร้างข่าวปลอม” ยุคโควิด-19 กับวาทะล่าสุด “ยังไม่มีใครต้องติดคุกเพราะไปด่ารัฐบาล” โฉมใหม่ "กฎหมายคุมสื่อ" ทำไมสมาคมนักข่าว-สภาการสื่อมวลชน ถึงพอใจร่าง พ.ร.บ. จริยธรรมสื่อ ที่ ครม. เห็นชอบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ขณะนี้ร่างระเบียบฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และคาดว่าจะประกาศใช้ในเวลาอีกไม่นานโควิด 2019วัคซีนโควิดJittiphatsa8416• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ข่าวการเมืองgam.muensri• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌เช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌ เช็ครุ่นรถยนต์ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.checkairbag.com/ (หรือสแกนคิวอาร์โค้ด) อ่านเพิ่มเติม : https://www.js100.com/en/site/post_share/view/124248 #ถุงลมนิรภัย #ถุงลมนิรภัยระเบิด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน #JS100 ได้ที่ >> goo.gl/hoc9w8ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ แคลเซียมไม่ได้ทำให้ตัวสูงแคลเซียมเพิ่มความสูงได้จริงหรือไม่? แร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบร่างกายของเรา ถือว่าเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ดี เราจำเป็นต้องบริโภค แคลเซียม เพื่อช่วยให้กระดูกแข็งแรง และทำให้สารสื่อประสาทระหว่างสมอง และอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ปกติ แคลเซียมในรูปแบบของอาหารเสริม นำมากินเพื่อที่จะเพิ่มความสูง ซึ่งแท้จริงแล้ว การบริโภค แคลเซียมอย่างเดียวนั้น ไม่ได้ทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น แต่จะต้องทานร่วมกับโปรตีน และจะต้องเป็นโปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่วเท่านั้น รวมถึงการออกกำลังกายร่วมด้วย จึงจะทำให้สูงขึ้นได้ โปรตีน และแคลเซียม มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เราจำเป็นต้องรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่ตอความต้องการของร่างกาย และถ้าอยากสูงและมีร่างกายที่แข็งแรง ควรควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPYU4 kunticha• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยช็อค ค่าไฟแพง ครวญผ่านโลกโซเชียล เจอค่าไฟถึงกับจุกทวิตเตอร์ ติดเทรนด์ 19 เมย "ค่าไฟแพง" เห็นบิลค่าไฟถึงกับต้องครวญผ่านสื่อโซเชียลกันถัวนหน้าnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"น้ำที่เข้าสู่ร่างกายกำหนดอายุขัยมนุษย์ได้" ผู้เขียน : ดร. เอฟ. แบทแมน ดร. แบทแมนเป็นลูกศิษย์ของอเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ผู้ค้นพบเพนนิซิลินและผู้ได้รับรางวัลโนเบล เขาอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาผลการบำบัดของน้ำ น้ำเพียงสองแก้วสามารถบรรเทาอาการปวดท้องรุนแรงที่เกิดจากแผลในกระเพาะอาหารได้ เขารักษาคนไข้มากกว่า 3,000 คนด้วยน้ำโดยไม่ต้องใช้ยา 1. เขาพบว่าน้ำสามารถรักษา: 1.1 โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง: เพราะน้ำสามารถเจือจางเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 โรคกระดูกพรุน: เพราะน้ำสามารถทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นในระหว่างการเจริญเติบโต 1.3 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง: เพราะน้ำสามารถขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ได้ และเซลล์มะเร็งเป็นเซลล์ที่ไม่ใช้ออกซิเจน 1.4 ความดันโลหิตสูง: เพราะน้ำเป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 1.5 โรคเบาหวาน: เพราะน้ำสามารถเพิ่มปริมาณทริปโตเฟนในร่างกายได้ 1.6 นอนไม่หลับ: เพราะน้ำสามารถผลิตสารควบคุมการนอนหลับตามธรรมชาติได้ - เมลาโทนิน 1.7 ภาวะซึมเศร้า: เพราะน้ำสามารถเพิ่มปริมาณเซโรโทนินในร่างกายได้ตามธรรมชาติ 2. บทนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ : 2.1 ควรดื่มน้ำบริสุทธิ์ 2 ถึง 3 ลิตรต่อวัน ดื่มหลังตื่นนอน 1-2 แก้ว และจิบทุกๆ ครึ่งชั่วโมงตลอดวัน(จะไม่ทำให้ฉี่บ่อย) อย่ารอจนกระหายน้ำจึงจะดื่มน้ำ 2.1.1 พยายามดื่มน้ำบริสุทธิ์แทนน้ำอัดลมและกาแฟ 2.1.2 คนสมัยใหม่ รวมถึงแพทย์ส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจถึงความสำคัญของน้ำในร่างกายมนุษย์ 2.1.3 ยาสามารถบรรเทาอาการได้ แต่ไม่สามารถรักษาโรคที่เกิดจากการแก่ชราได้ 2.1.4 เราจะรู้ทันทีว่าสาเหตุของโรคต่างๆ มากมายก็คือการขาดน้ำ 2.1.5 การขาดน้ำในร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติของการเผาผลาญน้ำ และความผิดปกติทางสรีรวิทยาในที่สุดก็นำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ มากมาย 2.2 น้ำเป็นแหล่งที่มาของชีวิต : เหตุผลที่มนุษย์สามารถเติบโตบนบกได้ก็เพราะว่าร่างกายมีระบบกักเก็บน้ำที่สมบูรณ์ 2.2.1 ระบบนี้กักเก็บน้ำไว้ในร่างกายมนุษย์เป็นจำนวนมาก คิดเป็นประมาณ 75% ของน้ำหนักตัว 2.2.2 ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงปรับตัวให้เข้ากับภาวะขาดแคลนน้ำชั่วคราวได้ในช่วงเวลาสั้นๆ 2.2.3 ในขณะเดียวกัน ร่างกายของมนุษย์ยังมีกลไกการจัดการภาวะขาดน้ำแคลนในร่างกายอีกด้วย เมื่อร่างกายมนุษย์ขาดน้ำ น้ำที่กักเก็บไว้ในร่างกายจะถูกกระจายอย่างเข้มงวด และอวัยวะที่สำคัญที่สุดจะได้รับน้ำและสารอาหารที่ขนส่งทางน้ำในปริมาณที่เพียงพอก่อน 2.2.4 ในการกระจายน้ำ สมองจะได้รับความสำคัญสูงสุด 2.2.5 สมองคิดเป็น 1/50 ของน้ำหนักร่างกายมนุษย์ แต่ได้รับการไหลเวียนของเลือดทั้งหมด 18%-20% และมีสัดส่วนของน้ำเท่ากัน 2.2.6 เมื่อร่างกายขาดน้ำ กลไกการจัดการภาวะขาดแคลนน้ำในร่างกาย จะให้ความสำคัญกับ อวัยวะที่สำคัญก่อน ดังนั้นอวัยวะอื่นๆ จะได้รับน้ำไม่เพียงพอ 2.2.7 ในเวลานี้ พวกมันจะส่งสัญญาณเตือน ซึ่งบ่งชี้ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งขาดน้ำ 3. ผู้เขียนเป็นแพทย์มาหลายปี และมักพบสถานการณ์นี้บ่อยครั้ง: เป็นสัญญาณจากร่างกายอย่างชัดเจนว่าน้ำกำลังขาดแคลนและจำเป็นต้องเติมน้ำอย่างเร่งด่วน แต่ผู้คนใช้ยาเคมีเพื่อจัดการกับสัญญาณการขาดแคลนน้ำเหล่านี้ น่าเสียดายที่ความผิดพลาดนี้จะยังคงดำเนินต่อไป อาการของร่างกายจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น และภาวะขาดน้ำจะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ 3.1 อย่าดื่มน้ำแข็งเปล่า (น้ำผสมน้ำแข็ง หรือน้ำแช่เย็น) ผู้คนเทน้ำ 0℃ ลงในกระเพาะที่อุณหภูมิ 37℃ แต่ปัสสาวะกลับร้อน ซึ่งก็คืออุณหภูมิของร่างกายที่ 37℃ 3.2 อะไรเปลี่ยนน้ำที่เย็น 0℃ ให้เป็นปัสสาวะที่อุณหภูมิ 37℃ เขาคือม้ามและกระเพาะ เมื่อม้ามและกระเพาะอาหารไม่สามารถทนรับเครื่องดื่มที่เย็นขนาดนั้นได้ พวกเขาจะดึงเอาสิ่งสำคัญ (พลังชีวิต) จาก "ไต" แล้วนำมาแปลงเป็นพลังงานความร้อนเพื่อปรุง ให้ร่างกายกลับมาที่อุณหภูมิ 37℃ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สกัดออกมาจากไตจะทำให้ไตของคุณอ่อนแอ 4. หากคุณชอบดื่มน้ำเย็น ไตของคุณจะอ่อนแอ ซึ่งจะส่งผลต่อความจำของคุณ ทำให้คุณต้องนั่งรถเข็นเมื่อแก่ชรา และทำลายกระดูกของคุณ... ※อุณหภูมิที่ส่งเข้าสู่ร่างกายจะกำหนดอายุขัยของคุณ Cr : บทความภาษาอังกฤษ จาก ห้อง TRAFS Chat Room บันทึกโดย taew lalida - อนามัย อภัยโส แปลไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้ว
- 2 คนสงสัยใครชอบกินมะม่วงต้องอ่าน!!! เปิดอนาคตวงการแพทย์ คิดไม่ถึงว่า "มะม่วง" จะส่งผลต่อร่างกายขนาดนี้ ถ้าไม่อ่าน ระวังคุยกับคนทั้งโลกไม่รู้เรื่อง!!! ถ้าพูดถึงผลไม้ที่คนไทยนิยมทานกันอย่างแพร่หลาย เชื่อว่าหนึ่งในตัวเลือกของคุณต้องมี "มะม่วง" อยู่อย่างแน่นอน ทั้งมะม่วงเปรี้ยว มะม่วงมัน มะม่วงน้ำปลาหวาน แต่ละเมนูทำเอาเปรี้ยวปากทั้งนั้น แต่ความเด็ดของมะม่วงไม่ได้มีดีแค่รสชาติเท่านั้น แต่มะม่วงยังมีประโยชน์ต่อร่างกายชนิดที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว มะม่วงนั้นไม่ว่าจะกินตอนดิบหรือสุกแล้วก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่ก็มีหลายคนไม่ชอบทาน เพราะเชื่อว่ามะม่วงมีแป้งเยอะ ทานแล้วจะทำให้อ้วน หารู้ไม่ว่ามะม่วงนี่ล่ะคือผลไม้มากคุณประโยชน์ที่รู้แล้วต้องกรี๊ด วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปพบกับข้อมูลคุณประโยชน์ของมะม่วงอันน่าตื่นตาตื่นใจ ว่าจะดีจริงหรือไม่ รับประทานแล้วจะอ้วนหรือเปล่า ต้องอ่านไม่งั้นเดี๋ยวคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะ มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และโซเดียมต่ำ และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 6 วิตามินเอ และวิตามินซี รวมทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ก็ยังมีเควอซิทิน (Quercetin) เบต้าแคโรทีน (Beta Carotine) กรดโฟลิก และ แอสตรากาลิน (astragalin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีทรงพลัง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ ริ้วรอยก่อนวัย โรคมะเร็ง หรือภาวะเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ ลองมาดูกันสิว่ามะม่วง มีแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ขนาดนี้ แล้วคุณประโยชน์จะมีมากขนาดไหนกัน บอกได้เลยว่าเพียบ ! 1. ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถลดระดับความดันโลหิตได้ เพราะในมะม่วงมีสารอาหารที่สำคัญต่อระบบการไหลเวียนของเลือดอย่างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ทำให้ระดับความดันโลหิตถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปกติ นอกจากนี้มะม่วงยังมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศอีกด้วย 2. ป้องกันโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอล ที่พบในมะม่วงอย่างเช่น เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทริน (isoquercitrin) แอสตรากาลิน (astragalin) ไฟเซติน (fisetin) เมทิลแกทเลท (methylgallat) มีฤทธิ์เป็นสารต้านนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการตอต้านการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ในมะม่วงก็ยังมีเพคติน (pectin) สูง และมีผลการวิจัยพบว่าสารเพคตินนี่ล่ะที่มีผลต่อการป้องกันการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้ 3. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารขอแนะนำให้รับประทานมะม่วงเลยล่ะ เพราะในมะม่วงนั้นมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนให้ง่ายต่อการดูดซึมของร่างกาย ขณะที่ไฟเบอร์ในมะม่วงก็สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย 4. ป้องกันโรคหัวใจ วิตามินเอและวิตามินอีในมะม่วงรวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) สามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ไม่เพียงเท่านั้นในมะม่วงยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจด้วยการลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) เพราะเจ้าโฮโมซิสเตอีนนี่เป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผนังหลอดเลือดได้ อันเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง 5. ลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกาย เพคตินและวิตามินซีในมะม่วงเป็นพระเอกที่ขาดไม่ได้เลย เพราะสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในร่างกายได้ แต่ทั้งนี้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคไขมันในเลือดสูงก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานจะดีกว่า 6. บำรุงสมอง วิตามินบี 6 ในมะม่วงนอกจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันและสร้างเสริมการทำงานของสมอง เพราะเจ้าวิตามินบี 6 นี้มีส่วนสำคัญในการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยในการกำหนดอารมณ์และรูปแบบในการนอนหลับ การเติมมะม่วงลงไปในอาหารจะช่วยให้ร่างกายได้รับกลูตาไมน์ (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สมองสามารถจดจำและมีสมาดีขึ้น และยังทำให้เซลล์สมองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย 7. รักษาโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน วิธีการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดคืออการไม่รับประทานของหวาน ซึ่งมะม่วงก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงแต่ขอบอกไว้เลยว่ามะม่วงนี่ล่ะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ เพียงแค่นำใบมะม่วง 10-15 ใบแช่ลงในน้ำอุ่นและปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้านำน้ำนี้มาดื่มในขณะที่ท้องว่าง จะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ วิธีนี้สามารถรับประทานได้ทั้งคนที่เป็นเบาหวานหรือไม่เป็นก็ได้หากผู้ที่มีสุขภาพปกติดื่มน้ำแช่ใบมะม่วงก็จะยิ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น 8. บำรุงสายตา มะม่วงมีวิตามินเอสูง ดังนั้นจึงช่วยบำรุงสายตาให้ยังใสปิ๊งปั๊งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องการการเสื่อมของจอประสาทตาเมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ 9. บำรุงผิวพรรณ ต้องยกความดีความชอบให้กับวิตามินเออีกครั้งเพราะวิตามินเอในมะม่วงนั้นมีคุณประโยชน์เพียบพร้อมจริง ๆ แม้แต่ในเรื่องผิวพรรณ การรับประทานมะม่วงทำให้เราได้รับวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อและผิวหนัง ช่วยให้การอุดตันของรูขุมขนลดลงส่งผลให้ผิวพรรณเรียบเนียนได้ 10. รักษาสิว หากใครไม่ชอบทานมะม่วงแต่ก็อยากรักษาสิวให้หายโดยไม่พึ่งยาละก็ลองหันมาใช้มะม่วงในการรักษาได้ค่ะ เพราะเนื้อมะม่วงนี้แม้เราจะไม่ได้รับประทานแต่ก็สามารถใช้บำรุงผิวพรรณ ลดสิวบนใบหน้าที่กวนใจได้ เพียงฝานมะม่วงบาง ๆ วางใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออก วิตามินเอในมะม่วงก็ช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นปลิดทิ้งเลย 11. รักษาโรคโลหิตจางในหญิงที่ตั้งครรภ์ มะม่วงเปรี้ยว ๆ ถือเป็นของที่ถูกใจว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยรักษาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามะม่วงมีดีเพียงแค่นั้น เพราะมะม่วงก็มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์เช่นเดียวกันเพราะหญิงตั้งครรภ์นั้นมักจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย และการรับประทานมะม่วงก็จะช่วยให้ธาตุเหล็กอันเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางมีระดับสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ 12. สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มะม่วงมีสารเบต้าแคโรทีมเช่นเดียวกับผักผลไม้มีสีส้มและสีเหลืองอื่น ๆ เช่น แครอท เป็นต้น โดยสารเบต้าแคโรทีนนั้นเป็นสารแคโรทีนอยด์อันมีคุณสมบัติในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฉะนั้นถ้าไม่อยากป่วยง่ายก็ควรจะรับประทานมะม่วงเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับสารพิษและแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โอ้โห! ประโยชน์ดีเพียบพร้อมขนาดนี้ จะให้เมินมะม่วงก็คงจะไม่ใช่เรื่องแล้วใช่ไหมล่ะ แต่จะเลือกมะม่วงดิบหรือมะม่วงสุกก็ว่ากันไป ที่สำคัญคือห้ามลืมว่ามะม่วงสุกมีน้ำตาลสูง ไม่อยากอ้วนละก็อย่ารับประทานจนเกินพอดีละ ไม่อย่างนั้นจะได้รอบเอวหนา ๆ มาเพิ่มด้วยจะร้องไม่ออกนะจะบอกให้ นี่คือข้อดีของมะม่วง เมื่อผู้ป่วย เป็นโรคมะเร็งเราจะให้เข้าคอร์สกินข้าวสวยมะม่วงเกลือผลไม้อื่นๆ 10 วัน ทุกคน กินผ่านวิกฤตของอาการป่วยได้ เพราะมันคือยาฆ่าเชื้อ และมีแร่ธาตุวิตามิน เสริมให้กับร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์แล้วร่างกายฟื้นขึ้นมาเร็วและสามารถขับของเสีย จนร่างกายมีภูมิต้านทานสู้กับโรคได้สุขภาพมะเร็งยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันนี้ ขอ กราบ ไหว้ ประเทศไทย และ คนไทยเราทุกคน ที่ได้ช่วยสร้างชาติ มาตลอด มาดูว่า ประเทศไทย ในสังคมโลกเป็นอย่างไร,,,, อย่าลืมกด see all ซ้ายล่าง นะครับ จะได้อ่านให้ครบ ********************* สถานภาพของประเทศไทยที่ถูกต้อง…ที่คนไทยควรทราบความจริง ====== 1. ในบรรดาประเทศ…ที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ…เกือบ 200 ประเทศ …แต่ มีประเทศ…ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ…ที่จะเป็นสมาชิกขององค์การ การค้าโลก จำนวน 156 ประเทศ เท่านั้น…สำหรับประเทศไทย…มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่…เป็นอันดับที่ 31 ของโลก 2. ไทย…เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ของโลก…ดังนั้น…อียู และ…อเมริกาจืงกระตือรือร้น…ที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี …ที่เรียกว่า Free Trade Area กับไทย 3. ประเทศไทย…เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ของโลก…ซื่งแสดงว่า …ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ …หรือ มีปัญหาการส่งออก…ก็ทำให้โลกวุ่นได้เหมือนกัน… เห็นกันมาแล้ว…ในตอนที่รัฐบาลบริหารงานน้ำไม่เป็น …ในปี 2554…ที่เกิดอุทกภัยใหญ่…นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่ง…ถูกน้ำท่วม…การผลิตรถยนต์ …การผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ชะงัก …ทำให้วุ่นวายไปหมดทั้งโลก ~ เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงิน…ก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย …รัสเซีย …ยุโรปด้วย …ไปจนถืงละตินอเมริกา ……เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว…ในคราววิกฤติต้มยำกุ้ง 4. CIA แอบรวบรวมข้อมูล…เงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่า…ไทยมีถืง 200 พันล้านเหรียญ …อันนี้เป็นลงทุนจริงๆ …ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น …เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมากพอสมควร ~ เวียดนาม…ได้ทุ่มสุดตัว…สร้างโรงกลั่นน้ำมัน …ปรากฏว่า…กลั่นไม่ได้เรื่อง …น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ …ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย …นักเคมีไทย …ไทยเป็น…ประเทศผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย 5. เทียบกันทั่วโลกแล้ว …ประเทศไทย…จัดว่า…เป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก… เท่าๆแคนาดา …และเยอรมัน …เช่น กู้เงินได้เร็ว …ก่อสร้างได้เร็ว …หาคนทำงานได้เร็ว …จดทะเบียนบริษัทได้เร็ว 6. ไทย …เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้า…อันดับที่ 20 ของโลก……ประเทศไทยทำได้ไม่เลว … 7. ไทย ทำรายได้จากอุตสาหกรรม…ฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่ 30 ของโลก 8. ไทย เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับ 17 ของโลก 9. ประเทศไทย…ผลิตสินค้าเกษตร…เป็นอันดับที่ 11 ของโลก 10. ไทย…เป็นผู้ส่งออกอาหาร…อันดับ 6 ของโลก พอๆกับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย 11. ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยว…เข้ามาเป็นอันดับที่ 19 ของโลก 12. ไทย ขายบริการสนามบิน…ได้เป็นอันดับที่ 17 ของโลก 13. กรุงเทพและลอนดอน…แย่งกันเป็นเมืองอันดับหนึ่ง…ด้านการท่องเที่ยวของโลก …มาหลายปี …ในที่สุด…กรุงเทพได้คะแนนจากชาวต่างชาติเป็นอันดับ 1 ของโลก 14. ประเทศไทย…มีสำรองเงินตราต่างประเทศ…อันดับ 12 ของโลก สูงกว่าเยอรมัน ค่าเงินเสถียรมาก แข็งเหมือนกับเงินสวิสเซอร์แลนด์ ถือเป็น Safe Haven ของโลกด้านการเงิน… ในขณะนี้…ถือว่า…พวกเราโชคดี…ที่อยู่ในประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ…และ…เราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป 15. เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลก…เลื่อนประเทศไทย…ขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง …upper middle income country …เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551 … 16. ประเทศไทย…มีอัตราคนว่างงานต่ำ…เป็นอันดับ 2 ของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีกประมาณ 3.7 ล้านคน แสดงว่า…ไทยมีงานเกินจำนวนแรงงานคนในชาติ ~ การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรี…กับออสเตรเลีย …นิวซีแลนด์ …จีน …อินเดีย …อาเซียน …เกาหลี …รวมประชากร…ร่วม 2,000 ล้านคน …90 % ของสินค้าในกลุ่มอาเซียน…ภาษีเท่ากับศูนย์ …เมกา กับยุโรป…จืงต้องการเข้ามาร่วมมาก 17. ค่าครองชีพเมืองไทย…อยู่ที่อันดับ 81 ของโลก…ถูกกว่าพม่า… อินโดเยอะ 18. ไทยถูกจัดเป็นประเทศ…ที่น่าลงทุนอันดับ 8 ของโลก 19. ถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ …ผลการสำรวจบอกว่า…เมืองไทยเหมาะมาก ที่จะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย…ในอันดับ 9 ของโลก 20. ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออก…ดิสค์อันดับ 1 ของโลก ส่งออกยาง และ น้ำตาลอันดับ 2 ของโลก…ส่งข้าวออก…เป็นที่ 6 ของโลก ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่ 15 ของโลก … ไทยเป็นผู้ผลิตส่งออก…หมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม้…ตีตลาดโลก…แบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ 21. คนต่างชาติ…ชอบมาอยู่เมืองไทย …มาทำงานเมืองไทย… ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย …อาหารดี …โรงพยาบาลดี ทุกสถานทูตในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทใหญ่ๆ …ในเวียดนาม ลาว กัมพูชา ตะวันออกกลาง…มาใช้บริการทางการแพทย์ของไทย…การแพทย์ไทยดังมาก…อยู่ประเทศอื่น…ต้องมาใช้บริการรักษาพยาบาลในเมืองไทย …มีโรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำหลายสิบแห่ง …เที่ยวได้ทั้งคืน …กินเหล้าได้ทั้งคืน …มีทะเลภูเขา …ป่าไม้ …มีอาหารทุกชาติ …ห้างใหญ่สุด…ให้เมียได้เดินช้อปปิ้งเป็นวันๆ… รถไฟฟ้าก็มี …เป็นเมืองของหนุ่มสาว …บรรยากาศทั่วไปปลอดภัยดีกว่าอีกหลายประเทศมาก 22. คนไทย…ต้อนรับคนทุกศาสนา…ทุกคน… มีเสรีภาพในการ…เป็นเกย์ ทอม ดี้ เลสเบี้ยน 23. ไทย มี ระบบคมนาคม…ดีกว่าจาร์กาต้า …ฮานอยเยอะ 24. ในเมืองไทย คุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป …เรื่องนี้สำคัญสุดๆ…สำหรับผู้หญิงทุกคน 25. สถานทูตอเมริกัน…ขนชาวอเมริกันมารับเอกสิทธิ์ทางการทูต…มาอยู่กันในไทย…มากกว่า 4,000 คน อาจมีจำนวนคนในสถานทูตอเมริกัน มากกว่าคนในสถานทูตอเมริกัน…ที่ไปอยู่ในประเทศอื่นๆก็ได้ 26. คนไทยส่วนใหญ่ …มีนิสัยดี …มีกาละเทศะ …ไม่วุ่นวายเหมือนคนชาติอื่น ให้เกียรติคนต่างชาติ 27. ประเทศไทย…อากาศไม่ร้อนจัด …ไม่เย็นจัด…เหมือนประเทศอื่น 28. เมืองไทย…น่าอยู่ …น่าทำงาน …คนแพรคติคอล …ดีกว่าคนในประเทศอื่น 29. ชาวต่างชาติ …ยกย่องวัฒนธรรมไทย…ว่าสูงเด่น …เข้มแข็ง …เป็นอันดับ 8 ของโลก ~ ต้องการบอกกล่าว …ความจริงในเรื่องราวเหล่านี้…ให้คนไทย…ลูกหลานของเรา …นักเรียนของเรา…ภูมิใจในความเป็นคนไทย…ในชาติไทยของเรา… บอกเล่าให้เพื่อนต่างชาติของคุณได้ทราบ… เพื่อเขาจะได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น…เพื่อท่านและลูกหลานของท่าน…จะได้รู้จักและภูมิใจในประเทศของตนเอง และ…จะได้รู้ว่าคนรุ่นก่อนๆ…และ…บรรพบุรุษของเรา…ได้ร่วมกันสร้างประเทศนี้กันขื้นมา… ~ ขอให้ทุกคน…มีความกตัญญูต่อประเทศชาติมากขึ้น มาจากไลน์ครับ จากบทความความแข็งแกร่งของประเทศไทย ว่างๆจะปรับปรุงตัวเลขใหม่ ดีกว่าเดิมเยอะ . Cr-@สมเกียรติ โอสถสภาข่าวการเมืองสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ