915 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าแจ้งความเวทีสัมมนาแยกปาตานีกว่า 10 คนกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าแจ้งความเวทีสัมมนาแยกปาตานีกราวรูดกว่า 10 คนข่าวการเมืองภาคใต้Abd Zaaq• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดูค่าอาหาร ของ สส และ สว ที่รัฐสภา คนละ 2,500 บาท/คน/วัน...มันกินอะไรกันขนาดนั้น.มาดูค่าอาหาร ของ สส และ สว ที่รัฐสภา คนละ 2,500 บาท/คน/วัน...มันกินอะไรกันขนาดนั้น. -สส 500 คน 500×2500= 1,250,000 บาท/วัน สว.=250 คน 250×2500= 625,000 บ/วัน สว+สส=750 คน หนี่งเดือน =750×2500×30=56,250,000 บ/เดือน.... สมมุติ หนึ่งปี.มีประชุม 8 เดือน =8×56,250,000 =450,000,000 บาท 4 ปี =450,000,000×4=1,800,000,000 บ (หนึ่งพันแปดร้อยล้านบาท) สรุปมันเข้ากินกันอย่างจริงจัง.และจริงใจ อยากไปรับทำอาหารเลี้ยง สส.สว. ที่สภามากๆ เส้นคงใหญ่.แบ่งกำไรเข้ากระเป๋าใคร สืบเอาเองนะครับ เบี้ยคนชรา 600 บ/คน/เดือน = คนละ 20 บาท/วัน ค่าอาหารเด็กนักเรียน 20 บ/ วัน รัฐบาลใจดีเพิ่มให้เป็น 21 บ/วัน ...เยี่ยมจริงๆ. ขอให้เจริญๆนะ.. ขอขอบคุณ.ท่าน สส.ที่มาเผยให้ทราบ พวกเราจึงควรเผยแพร่ต่อไป.ข่าวการเมืองมีม เสียดสีMrs.Doubt• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยส.ส.เขต 2 ชลบุรี ขาดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี เนื่องจากไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นข่าวการเมืองเลือกตั้งภาคตะวันออกPotter• 1 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตัวเเทนผู้ส่งสารพระเจ้าของศาสนาคริสต์การประกาศเป็นบุญราศี (อังกฤษ: Beatification) คือกระบวนการที่คริสตจักรโรมันคาทอลิกกำหนดขึ้นเพื่อรับรองว่าบุคคลหนึ่งได้เข้าสู่สวรรค์และสามารถวอนขอพรจากพระเป็นเจ้าแทนมนุษย์บนโลกได้ กระบวนการนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สี่ของการประกาศเป็นนักบุญ ประวัติ แก้ไข แต่เดิมการประกาศเป็นบุญราศีเป็นกระบวนการที่แต่ละมุขมณฑลดำเนินการเอง และมักจะเป็นการยกย่องมรณสักขีในท้องถิ่นนั้น ๆ ตั้งแต่ ค.ศ. 1983 เป็นต้นมาศาสนจักรคาทอลิกกำหนดว่าต้องมีปาฏิหาริย์หนึ่งอย่างที่ (เชื่อว่า) เกิดจากการที่ผู้นั้นได้อ้อนวอนขอพรพระเจ้าตามการอธิษฐานของคริสต์ศาสนิกชน ในกรณีที่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นมรณสักขี ศาสนจักรจะดำเนินการประกาศเป็นบุญราศีให้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องปาฏิหาริย์มารับรองความศักดิ์สิทธิ์ เพราะถือว่าการพลิชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในคริสต์ศาสนาถือเป็นวีรคุณธรรมที่แสดงความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ความเคารพและการเฉลิมฉลองบุญราศีจะจำกัดเฉพาะภายในภูมิภาคหรือประชาคมที่บุญราศีนั้นเคยเกี่ยวข้องขณะยังมีชีวิตอยู่ จนเมื่อได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้วจึงจะได้รับความเคารพและจัดงานฉลองจากคริสต์ศาสนิกชนได้ทั่วโลก[1] เช่น คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทยกำหนดให้ฉลองเจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอนในวันที่ 16 ธันวาคม[2] และฉลองบุญราศีนิโคลัส บุญเกิด กฤษบำรุง ในวันที่ 12 มกราคม[3] บุญราศีชาวไทย แก้ไข ชาวไทยได้รับการประกาศเป็นบุญราศี 2 ครั้ง รวม 8 องค์ ได้แก่ เจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอน ผู้สร้างวีรกรรมความศรัทธาเมื่อ ค.ศ. 1940 ในสมัยที่ไทยมีกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส กรณีดินแดนในแถบอินโดจีน ช่วงนั้นมีคนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส ทางการไทยจึงได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่มีชาวบ้านอยู่ 7 คนที่ไม่ยอมละทิ้งศาสนา นำโดยนายสีฟอง อ่อนพิทักษ์ (อายุ 33 ปี) , ภคินี 2 รูปคือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข (อายุ 31 ปี) และซิสเตอร์คำบาง สีฟอง (อายุ 23 ปี) , สตรีสูงวัย 1 ท่านคือนางพุดทา ว่องไว (อายุ 59 ปี) , และเด็กสาวอีก 3 ท่านคือ นางสาวบุดสี ว่องไว (อายุ 16 ปี ), นางสาวคำไพ ว่องไว (อายุ 15 ปี) และเด็กหญิงพร ว่องไว (อายุ 14 ปี) ทั้งหมดถูกยื่นคำขาดว่าจะต้องถูกฆ่า หากไม่ยอมละทิ้งศาสนาคริสต์ ทั้ง 7 คนจึงพร้อมใจกันยอมสละชีวิตที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ โดยมีตำรวจเป็นคนคร่าชีวิต ปี 1989 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศสดุดีให้ทั้ง 7 คน เป็น "บุญราศีมรณสักขี" หมายถึง คริสตชนผู้ที่ประกอบกรรมดีและพลีชีพเพื่อประกาศยืนยันความเชื่อในพระเจ้าไม่ยอมละทิ้งศาสนา อีกทั้งประกาศให้มีพิธีรำลึกบุญราศีสองคอนทั้ง 7 ในวันที่ 16 ธันวาคม โดยมีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในมหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ซึ่งหลังจากการสถาปนาบุญราศีทั้ง 7 แล้ว โบสถ์สองคอน จึงได้จัดงานชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อฉลองบุญราศีที่ประเทศไทย เรียกงานนี้ว่า “งานสันติร่วมจิตใจเดียว” ในปีต่อ ๆ มา จัดเป็นงานวันรำลึกบุญราศีทั้ง 7 แต่เพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจอยากไปร่วมงาน การฉลองที่โบสถ์สองคอนจึงกำหนดให้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ใกล้เคียงกับวันที่ 16 ธันวาคมที่สุด [4] บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง[5] เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1895 และรับศีลล้างบาปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895 ที่โบสถ์นักบุญเปโตร สามพราน นครปฐม และรับศีลอนุกรมเป็นบาทหลวง โดยมุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโร เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1926 ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงบุญเกิดทำงานอภิบาลที่โบสถ์หลายแห่ง คือ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก, โบสถ์เซนต์นิโคลาส พิษณุโลก, อาสนวิหารพระหฤทัย เชียงใหม่, โบสถ์คาทอลิกในลำปาง, อาสนวิหารแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด นครราชสีมา และโบสถ์นักบุญเทเรซา โนนแก้ว บาทหลวงบุญเกิดถูกจับในวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ หลังจากประกอบศาสนกิจที่โบสถ์นักบุญยอแซฟ บ้านหัน เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1941 ในข้อหาเป็นกบฏภายนอกราชอาณาจักร ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ระหว่างอยู่ในคุกที่เรือนจำกลางบางขวางเป็นปีที่สาม ท่านป่วยเป็นวัณโรคเป็นเวลา 9 เดือน และถึงแก่กรรมในคุกนั้นเอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1944 รวมอายุ 49 ปี ศพของท่านถูกนำไปฝังไว้ที่วัดบางแพรกซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้เรือนจำ หลังจากนั้นในเดือนมีนาคม มุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโรจึงได้รับอนุญาตให้นำศพของท่านมาฝังที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงนิโคลาสเป็นบาทหลวงที่เอาใจใส่งานอภิบาล มีใจเมตตาต่อคนยากจน และมีความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี ระหว่างที่อยู่ในคุก ท่านได้สอนคำสอนและโปรดศีลล้างบาปให้นักโทษด้วยกันที่ใกล้ตายจำนวน 68 คน พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้เสนอกรณีของท่านให้สมณะกระทรวงการสถาปนานักบุญพิจารณา หลังจากตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ชัดแจ้งว่าท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พลีชีพเพราะเห็นแก่ความเชื่อในพระเป็นเจ้า สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 และประกอบพิธีสถาปนาเป็นบุญราศีมรณสักขี ในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2000 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลีข่าวการเมืองภาคอีสานputilp148• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัสเซีย : ศูนย์ต้านข่าวปลอมของฮ่องกงระบุ ปูตินไม่ได้อัญเชิญ "พระบรมฉายาลักษณ์" ร.9โครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงแห่งศูนย์สื่อมวลชนศึกษาและวารสารศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง (HKU Journalism) ชี้ว่าภาพประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียอัญเชิญ "พระบรมฉายาลักษณ์" ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แชร์กันทางโลกโซเชียลของไทยเมื่อปลายเดือน ก.พ.ข่าวการเมืองeardoil• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยค้องฉีดวัคซีนไปเลือกตั้งจะไปเลือกตั้งต้องฉัดวัคซีนข่าวการเมืองเลือกตั้งสุขภาพวัคซีนโควิดศุภกฤต หนูเงิน• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://www.tiktok.com/@tar3126/video/7253125811669159174https://www.tiktok.com/@tar3126/video/7253125811669159174ข่าวการเมืองnofarright• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฟ้องหมิ่นประมาท! พรรคอนาคตใหม่ จัดการคนสร้างข่าวเท็จ-กล่าวหาล้มล้างสถาบันฯน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ จะเดินทางไปยังศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นฟ้องกรณีถูกใส่ร้ายหมิ่นประมาท ดังนี้ 1.ยื่นฟ้องคดีอาญา ม.จ.จุลเจิม ยุคล กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวหาพรรคอนาคตใหม่และหัวหน้าพรรคมีนโยบายล้มล้างสถาบันฯ 2.ยื่นฟ้องคดีอาญากรณีเว็บไซต์ในเครือ T-news กล่าวหาพรรคอนาคตใหม่และหัวหน้าพรรคมีนโยบายล้มล้างสถาบันฯ 3.ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อบุคคลที่ส่งต่อข่าวเท็จใส่ร้ายพรรคอนาคตใหม่และหัวหน้าพรรค กรณีเป็นเจ้าของโรงเลื่อยเถื่อนข่าวการเมืองstd49571• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยก้าวไกลขอเชิญทุกคนร่วมทำภารกิจด่วน! "พฤหัสสีส้ม" เชิญชวนทุกคนร่วมใส่เสื้อผ้าสีส้ม ติดสัญลักษณ์ ร่วมสื่อสารทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสนับสนุนให้รัฐสภาลงมติโหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ให้สำเร็จ โดยทุกคนสามารถออกมาร่วมติดตามผลการโหวตของรัฐสภาได้ที่แต่ละจุดใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ แต่หากใครอยู่กรุงเทพ เราชวนทุกท่านมาร่วมติดตามกันที่รัฐสภา แยกเกียกกาย ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 โดยพร้อมเพรียงกันข่าวการเมืองมีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายตามที่มีคำแนะนำเผยแพร่บนสื่อออนไลน์เรื่องห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าข้อความที่ปรากฏนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ขณะกำลังทำอาหารจะเป็นอันตรายนั้น ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การใช้หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ไม่ได้เป็นอันตราย กล่าวคือไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีก website 2439 ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nectec.or.th หรือ โทร. 02-564-6900 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การใช้โทรศัพท์ในขณะที่แก๊สเปิดอยู่ ไม่มีผลกับโทรศัพท์ และไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีกข่าวการเมืองstd47948• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนายกประยุทธ์วางมือการเมืองแล้วจริงไหมนายกประยุทธ์วางมือการเมืองแล้วจริงไหมข่าวการเมืองMrs.Doubt• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เดือน ก.ค. เตรียมเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามที่มีการโพสต์เนื้อหาบนสื่อออนไลน์เรื่องเดือน ก.ค. เตรียมเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าเนื้อหาดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ จากการพบวิดีโอส่งต่อข่าวสารเกี่ยวกับผู้สูงอายุเตรียมตัวรับเงิน เพิ่มเบี้ยยังชีพจำนวน 3,000 บาท ในเดือน ก.ค. นั้น ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันรัฐบาลยังคงยึดตามหลักเกณฑ์เดิมข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47082• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เดือน ก.ค. เตรียมเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามที่มีการโพสต์เนื้อหาบนสื่อออนไลน์เรื่องเดือน ก.ค. เตรียมเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าเนื้อหาดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46974• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยตั๋วช้างคุณกำลังอ่าน: ‘ตั๋วช้าง’ คืออะไร? สรุปอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งใน และนอกสภา ของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม แบบครบจบรวดเดียว BRIEF RECAP 25.5K ‘ตั๋วช้าง’ คืออะไร? สรุปอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งใน และนอกสภา ของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม แบบครบจบรวดเดียว Posted On 19 February 2021 The MATTER ADVERTISEMENT RECAP : ‘ตั๋วช้าง’ คืออะไร? สรุปอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งใน และนอกสภา ของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม แบบครบจบรวดเดียว วันนี้ (19 ก.พ.) เป็นวันที่ 4 ของอภิปรายไม่วางใจนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีอีก 9 คน โดย ส.ส.รังสิมันต์ โรม เป็นตัวแทนจากพรรคก้าวไกลรับหน้าที่อภิปรายเรื่อง ‘ตั๋วช้าง’ แต่ในระหว่างการอภิปรายมีการคัดค้าน และประท้วงหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งหมดเวลา ทำให้รังสิมันต์ตัดสินใจออกมาอภิปรายรายละเอียดของประเด็นตั๋วช้างด้านนอกสภา ตั๋วช้างคืออะไร ? และเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีประวิตร วงษ์สุวรรณอย่างไร The MATTER จะมาสรุปรายละเอียดการอภิปรายทั้งหมดของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม ให้ฟัง สืบเนื่องจากกรณีที่นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรีประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้มีตำแหน่งในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่การในโยกย้าย แต่งตั้ง และจัดสรรข้าราชการตำรวจ เป็นเหตุให้นายกฯ และรองนายกฯ เป็นผู้รับรู้เหตุการณ์ต่างๆ ภายใน ก.ตร. อย่างอัตโนมัติ ส.ส.รังสิมันต์ กล่าวว่า การดำรงตำแหน่งระดับสูงของนายกฯ และรองนายกฯ กลับไม่สามารถกำจัดการแทรกแซงการใช้อำนาจในทางที่ผิดใน ก.ตร. ได้ ยังมีการซื้อขายตำแหน่งหน้าที่อย่างเปิดเผย และไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยเขาเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งพลตำรวจตรี วิสุทธิ์ วานิชบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งว่า ถ้าไม่มีผู้ใหญ่คอยหนุน ก็จะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง แต่หากมี ‘ตั๋ว’ ราคาที่ต้องจ่ายก็จะถูกลง คำถามที่ตามมาคือ ‘ตั๋ว’ ที่มีการเอ่ยถึงนั้นคืออะไร และมีอำนาจมากแค่ไหน ? รังสิมันต์ยังได้เปิดหนังสือเอกสารชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ผบก.ตร.มหด.รอ.904) ในขณะนั้น เป็นผู้รับผิดชอบการแต่งตั้งครั้งนี้ และเป็นผู้ส่งชื่อไปให้ ผบ.ตร พิจารณาต่อไป นำมาสู่การตั้งขอสังเกตว่า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ มีอำนาจหน้าที่ใดในการแต่งตั้งข้าราชการนอกกองของตนเอง หากอ้างอิงจาก พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2554 แนวทางปฏิบัติในการจัดการข้าราชการตำรวจจะต้องจัดการกองใครกองมัน และไม่ก้าวก่ายหน่วยงานอื่น ดังนั้น การใช้อำนาจของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ นั้นถือว่าขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นอกจากประเด็นเรื่องการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ รังสิมันต์ยังพูดถึงความสัมพันธ์ของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ และนายกฯ ประยุทธ์ และรองนายกฯ ที่มีการเอื้อประโยชน์ในการเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ซึ่งรังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ มีการเติบโตในเส้นทางอาชีพตำรวจรวดเร็วผิดปกติ หากย้อนกลับไป พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ เริ่มต้นอาชีพตำรวจในปี พ.ศ.2541 ในตำแหน่งรอง สว. ซึ่งหลังจากนั้นการเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ก็อยู่ในระดับปกติ จนกระทั่งปี พ.ศ.2561 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ได้ขึ้นเป็น ผบก.ป. ซึ่งได้รับตำแหน่งโดยการยกเว้นหลักเกณฑ์ และหลังจากนั้น พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ได้เลื่อนตำแหน่งอีก 3 ครั้ง โดยมีเงื่อนไขการยกเว้นหลักเกณฑ์อีก 2 ครั้ง เท่ากับว่าพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ใช้เวลาเพียง 3 ปี 4 เดือนในการเลื่อนตำแหน่งเพิ่ม 3 ตำแหน่ง ประหยัดเวลาจากการยกเว้นหลักเกณฑ์ไปได้ 8 ปี 8 เดือน จากเดิมที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ทำงานเวลากว่า 12 ปี การยกเว้นหลักเกณฑ์นั้นสามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขความสามารถ และผลงานจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่รังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ มีคุณสมบัติข้อใดจึงได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ถึง 3 ครั้ง ในเมื่อที่ผ่านมา พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ มีข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาตลอด หรือเขามี ‘ตั๋ว’ จากใครที่สามารถสั่งให้นายกฯ และรองนายกฯ เซ็นอนุมัติให้ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษนี้ นอกจากพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยังมีข้าราชการตำรวจคนอื่นๆ อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. รวมถึงพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์เหล่านี้นำมาซึ่งความไม่โปร่งใสในการแต่งตั้ง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่เป็นธรรมต่อนายตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบการทำงานมาโดยตลอด ย้อนกลับไปเรื่องการใช้อำนาจในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจของพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ที่กล่าวถึงในข้อ 3 หากดู ‘เหตุสนับสนุนขอรับการแต่งตั้ง’ แล้ว เหตุผลที่พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ อ้างในการแต่งตั้งกลุ่มตำรวจนอกองบังคับบัญชาคือ ตำราจเหล่านั้นผ่านการอบรมหน่วยจิตอาสา 904 หลักสูตรประจำ และได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหน่วยอาสา 904 ได้มอบหมายภารกิจแล้ว เพื่อประโยชน์ตามหน่วยจิตอาสาใหญ่ 904 จึงขอสนับสนุนเข้ารับการแต่งตั้ง รังสิมันต์ได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า เพราะเหตุใดการปฏิบัติตามภารกิจจิตอาสา 904 จึงกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในการได้รับการแต่งตั้ง ? ทั้งที่ข้าราชการตำรวจเองก็มีเกณฑ์ ก.ตร. พื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว แล้วทำไมการแจ้งรายชื่อสนับสนุนขอรับการแต่งตั้ง ส่วนนี้จึงเป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กรักษาพระองค์ ไม่ได้มีหน้าที่ตามข้อกำหนด ข้อมูลในการอภิปรายครั้งนี้ ยังชี้ถึง ‘ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา 904’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ซึ่งโครงการนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำหนดนโนยายและภารกิจ โดยมี พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง เป็นประธาน ส่วนรองประธาน คือพล.อ.จักรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรรมการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และหนึ่งในคณะกรรมการ คือ พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ นายทหารราชองครักษ์, รองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หากถามว่าคนกลุ่มนี้มีความข้องเกี่ยวกันอย่างไร? รังสิมันต์ เปิดเผยว่า พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นพี่ชายร่วมสายเลือดของพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ และพล.อ.จักรภพ ภูริเดช ก็เป็นพี่ชายของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม และพลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ก็มีสักพี่เขยของพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ทั้งหมดถือเป็นเครือญาติกัน และเมื่อดูจากไทม์ไลน์การแต่งตั้ง และเลื่อนตำแหน่งต่างๆ พบว่ามีความเกี่ยวข้อง และเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงเรียนอาสา โดยเอื้อประโยชน์จากตำแหน่งในเครือญาติ เป็นสถานที่ออก ‘ตั๋วตำรวจ’ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ สำหรับโรงเรียนจิตอาสา ตามเว็บไซต์ส่วนราชการของพระองค์ระบุว่า ตำรวจนายตั๋วจะต้องผ่านวิชาทหารทั่วไป อบรมความรู้เรื่องอุดมการณ์ มีระยะเวลาฝึก 6 สัปดาห์ เฉลี่ยฝึกวันละ 11 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการเบียดเบียนเวลาการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจธรรมดา หากโรงเรียนจิตอาสา ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์เป็นทางผ่านในการเลื่อนตำแหน่ง จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไหนอยากทำงานตามหน้าที่ อีกทั้งการนำโรงเรียนจิตอาสามาเป็นทางผ่านในการแต่งตั้งตำแหน่ง เท่ากับว่าเอาความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเงื่อนไขในการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ ไม่เพียงเท่านั้น รังสิมันต์ยังระบุว่า นายกฯ กับรองนายกฯ ยังปล่อยให้คนกลุ่มนี้ มีอำนาจสั่งการให้ ผบ.ตร ‘โอนย้าย’ ตำรวจไปยังหน่วยงานนอกสังกัดคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) อีกด้วย โดยเรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.2562 มีหนังสือจากสำนักงานราชเลขานุการส่วนพระองค์ ลงนามโดยพล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ซึ่งไม่มีอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สั่งให้นำตำรวจมาบรรจุกองบัญชาการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ซึ่งอยู่ใต้สังกัด สตช. นำสู่คำถามว่า เหตุใดจึงมีการนำคนนอกหน่วยงานมาทำหนังสือในลักษณะสั่ง ผบ.ตร. ได้. แม้คำสั่งจะดำเนินการอย่างไม่ถูกตั้ง แต่ สตช. ไม่ได้ขัดขวางถือทักท้วงแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการสั่งการให้ตำรวจแต่ละหน่วยคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติดี เข้าร่วมภารกิจพิเศษที่ ส.ตร. จะมอบหมาย พร้อมสั่งว่า หากข้าราชการตำรวจคนไหนไม่เข้าการคัดเลือก ให้ตรวจสอบว่าเป็นเพราะเหตุใด และทำหนังสือส่งไปให้อย่างละเอียด หลังจากสั่งการครั้งแรก สตช. ได้มีการคัดเลือกข้าราชการตำรวจรอบที่ 2 โดยระบุว่าคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นหน่วยตำรวจมหาดเล็ก จากนั้นจะส่งไปเป็น ‘ข้าราชบริพาร’ รวมมีเข้าร่วมคัดเลือกมากกว่า 1 พันนาย ซึ่งมีข้าราชการตำรวจ 100 คนที่ไม่สมัครใจเข้าร่วม และโดนคำสั่งธำรงวินัยทำให้มีตำรวจ 3 นายลาออกทันที ขณะที่อีก 97 คนนั้นถูกส่งตัวไปปรับทัศนคติ นอกจากนี้ทาง สตช. ยังตั้งศูนย์ธำรงวินัย เพื่อสั่งให้ทั้ง 97 คนไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 9 เดือน และหลังจากเวลา 9 เดือนนั้น ทั้งหมดยังถูกดองงาน ไม่ให้เลื่อนขั้นอีกด้วย การอภิปรายเรื่องนี้นำมาสู่การตั้งข้อสงสัยว่า นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงอำนาจตำรวจ และเพิกเฉยต่อการตรวจสอบ รวมถึงบกพร่องในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรังสิมันต์ มองว่าเป็นเหตุที่ไม่อาจวางใจให้นายกฯ และรองนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ “ผมไม่รู้ว่าผลจากการทำหน้าที่ในวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อผมในหลังจากนี้ ผมไม่รู้ว่าในสามวันข้างหน้า มีอะไรรอผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าสามเดือนครั้งหน้าจะเกิดอะไรขึ้นต่อผม ผมจะพูดแทนพี่น้องประชาชนได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อตัวผม ผมก็ไม่เสียใจที่ได้ทำหน้าที่ของผมในวันนี้” ส.ส.รังสิมันต์ โรม กล่าวหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา โดยตอนนี้ #ตั๋วช้าง ก็ได้ติดอันดับ 1 เทรนด์ของทวิตเตอร์ในไทย ที่มีผู้พูดคุยประเด็นนี้มากกว่า 7.5 แสนทวิตแล้วด้วย ตามไปดูสไลด์อภิปรายไม่ไว้วางใจหัวข้อ ‘ตั๋วช้าง’ ของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม ได้ที่ : ADVERTISEMENTข่าวการเมืองstd48042• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง-ลาออกรวมไทยสร้างชาติพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศผ่านเพจพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันอังคาร (11 ก.ค.) ว่าขอวางมือจากกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมด และขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ "จากนี้ไป ผมขอประกาศวางมือทางการเมือง ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และขอให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง ปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปด้วย"ข่าวการเมืองเลือกตั้งstd48042• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"อัจฉราพร คงยสวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชูสามนิ้วในสนามเเข่ง"พลเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “จุลเจิม ยุคล” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 140,000 บัญชี ตัดสินใจลบโพสต์ที่เขากล่าวหาอัจฉราพร คงยศ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ว่าแสดงออกทางการเมืองด้วยการ “ชูสามนิ้ว” ในสนามแข่ง และประกาศขอโทษที่สร้างความเข้าใจผิด หลังจากอัจฉราพรออกมายืนยันผ่านสื่อมวลชนว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นรหัสมือสื่อสารแผนการเล่นกับเพื่อนร่วมทีม ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองข่าวการเมืองมีม เสียดสีstd47997• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ไปรายงานตัวที่เขตเตือนข่าวปลอม อย่าหลงเชื่อ เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ทุกคนไปรายงานตัวที่เขต ตรวจสอบแล้วเป็นข้อมูลเท็จ ปัจจุบันยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดช่วงอายุตามเดิม วันที่ 24 มิถุนายน 2565 แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความว่า ตามที่มีข้อความแจ้งในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ทุกคนไปรายงานตัวที่เขต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีข้อความที่ระบุว่ามีการปรับเบี้ยผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นคนละ 100 บาท โดยให้ผู้มีสิทธิ์ทุกคนไปรายงานตัวที่เขตด่วนนั้น ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่าเดิม ตามแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และในปัจจุบันจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ คือ – อายุ 60 - 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท – อายุ 70 - 79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาท – อายุ 80 - 89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 800 บาท – และอายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 1,000 บาท แต่สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2565 ดังนี้ 1. ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน 2. ผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 - 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาท ต่อเดือน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารกรมกิจการผู้สูงอายุ สามารถติดตามได้ที่โทร. 02-642-4336.ข่าวการเมืองหนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชาวบ้านงง ช่างก็งง ถนนงบ 6.9 ล้าน สร้างไม่ตรงกัน อบต.แจงแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้โดยจุดที่เป็นประเด็น อยู่ห่างจากปากซอยบ้านหนองแฝกเข้าไปประมาณ 500 เมตร มีการเทคอนกรีตแบ่งออกเป็น 2 เลน โดยเลนที่กำลังเทไปแล้วคือเลนซ้าย ส่วนฝั่งที่เทมาบรรจบกันได้มีการเริ่มเทมาจาก บ้านโนนดู่ มีส่วนที่เหลื่อมกันอยู่ประมาณ 1.5 เมตร และส่วนที่เกินออกไปประมาณ 1 เมตร จากการสอบถาม คนงาน (ไม่เปิดเผยชื่อ) ทราบว่า ที่เทแบบนี้เนื่องจากชาวบ้านชี้แนวเขตไม่ตรงกัน ทำให้ช่างเข้าใจผิดคิดว่าที่ถนนเดิมซึ่งความจริงเป็นที่นาชาวบ้าน จึงทำให้เทคอนกรีตเลื่อมเข้าไปในที่นาชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านมาร้องว่าล้ำเข้าไปในที่นา จึงหยุดการเทเอาไว้ จากนั้นจึงไปเทจากอีกหมู่บ้านถึงมาบรรจบกัน และจะแก้ไขส่วนที่ผิดทีหลัง ด้าน นายวินัย อายุ 48 ปี ชาวบ้านหนองแฝก ที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมาเป็นประจำ เผยว่า จุดดังกล่าวที่ไม่ตรงกันนั้น ได้สร้างมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ตอนแรกก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่มาดูการสร้างแล้วพบว่า ไม่มีแนวเขตที่ชัดเจน ไม่มีการวางผังให้ตรงกับเจ้าของที่ ทำให้เจ้าของที่ไม่ยอมจึงได้หยุดเอาไว้ก่อน เช่นเดียวกันกับ นายสมบัติ อายุ 48 ปี ชาวบ้านหนองแฝก เผยว่า ถ้าแบบนี้ตนเองคิดว่าไม่ผ่าน ต้องแก้ไขโดยเร็วเพราะถึงจะเทแค่เลนเดียวแต่ชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้ จึงควรทำให้สามารถสัญจรได้ ทั้งนี้ พบว่า ถนนเส้นดังกล่าวได้มีการขยายแนวเขตจากเดิม มีการนำดินมาถมใหม่ พบว่าดินบางจุดมีการทรุดตัวเนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากกว่านี้ข่าวการเมืองล้อเลียนstd47988• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"เตอร์ ณธีภัสร์" โต้เฟกนิวส์ ยันพรรคไม่ได้กดดันให้ลาออก"เตอร์ ณธีภัสร์" โต้เฟกนิวส์ ยันไม่เคยพูดประโยคนี้ แจงพรรคไม่ได้กดดันให้ลาออก และตัวเองก็ไม่เคยเรียกร้องให้พรรคออกมาปกป้อง จากกรณี "ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์" ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 พรรคก้าวไกล ถูกจับเมาแล้วขับ ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้แถลงข่าวยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากพรรค ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด เตอร์ ณธีภัสร์ ได้ทวีตภาพผ่านทวิตเตอร์ @nateepat_mfp ซึ่งเป็นภาพกราฟิกรูปหน้าตัวเอง ที่มีข้อความว่า "Fake news พร้อมประโยคที่บอกว่า ตอนดูเมาแล้วขับไม่เป่าฯ ก็กดดันให้กูรับผิดชอบ กูก็ยินดี เพราะกูรักพรรคกู แต่พอหัวหน้าใหญ่ทำผิดกลับช่วยเหลือปกป้อง ไม่เห็นปกป้องกูบ้าง ไหนว่าคนเท่ากัน สรุปมันไม่มีจริง มันคือ โปลิตบูโรจริงๆ" พร้อมแคปชั่นว่า "เตอร์ขอชี้แจงว่าเตอร์ไม่เคยพูดประโยคในภาพนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว การลาออกในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของเตอร์เอง พรรคไม่ได้กดดันให้เตอร์ลาออก และเตอร์ก็ไม่เคยเรียกร้องให้พรรคหรือใครออกมาปกป้องหรือปกปิดความผิดทั้งนั้นครับ" ซึ่งหลังจากที่ทวีตข้อความออกไป ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก.ข่าวการเมืองstd46717• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเลือกตั้งฟิลิปปินส์ : “นักการเมืองจ้างให้ฉันเผยแพร่เรื่องเท็จวันจันทร์นี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในฟิลิปปินส์จะเลือกประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ ท่ามกลางเรื่องราวโป้ปดมดเท็จทางโซเชียลมีเดียและการโกหกหลอกลวงจำนวนมาก "ผมมองตัวเองว่า เป็นพวกเกรียน หรือ ออกมาพูดเรื่องการเมือง ผมเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดทางโซเชียลมีเดีย" จอน นามสมมุติ คือส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่อาจมีส่วนสำคัญต่อการเลือกประธานาธิบดีคนต่อไปของฟิลิปปินส์ เขาบอกว่า เขาทำงานเกือบทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-03.00 น. ดูแลเพจเฟซบุ๊กหลายร้อยเพจ และโปรไฟล์ปลอมเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าของเขา ซึ่งเป็นบรรดานักการเมืองและหัวคะแนน เขาบอกว่า ลูกค้าของเขามีทั้งที่เป็นผู้ว่าการ, สมาชิกรัฐสภา และนายกเทศมนตรีข่าวการเมืองstd46503• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัฐแจกเงินทั่วประเทศข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ รัฐฯ แจกเงินทั่วประเทศ เริ่ม 10 ก.ค. 66 นี้ . ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อโซเชียลเรื่องรัฐฯ แจกเงินทั่วประเทศ เริ่ม 10 ก.ค. 66 นี้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีคลิปวิดีโอส่งต่อข้อมูลว่า รัฐฯ เตรียมแจกเงินสดคนละ 1,000 บาท โอนให้พร้อมกันทั่วประเทศ 10 ก.ค. 66 นี้ ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข่าวสารที่เชื่อถือไม่ได้ และไม่ใช่ข้อมูลประกาศจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายแจกเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mof.go.th หรือ โทร. 1689 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นข่าวสารที่เชื่อถือไม่ได้ และไม่ใช่ข้อมูลประกาศจากหน่วยงานรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายแจกเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวนโยบายรัฐ #รัฐบาลแจกเงิน #เงินช่วยเหลือ #เงินเยียวยาข่าวการเมืองแอคปลอมstd48133• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพิธาเป็นคนเขมรพิธา เป็นคนเขมร ชาวเน็ตกัมพูชาเคลมข่าวการเมืองล้อเลียนThanatcha Intapanom• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพิราเป็นเขมร'พิธา' เป็นคนเขมร พร้อมงัดหลักฐานคือรูปใน IG ของ พิธาเองข่าวการเมืองโควิด 2019ภาคเหนือมีมล้อเลียนแอคปลอมMoui• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพิธา" บุกเซ็นทรัลเวิลด์ปลุกโอกาสทวงคืนความปกติชาติ ขอเป็นนายกฯของทุกคนสัญญาพรุ่งนี้จะสว่างไสวหัวหน้าก้าวไกล ปราศรัย หน้าลานเซ็นทรัลเวิร์ล ขอบคุณทุกคะแนนเสียง มอง เป็นโอกาสทองคืนความปกติให้ประเทศ ชื่นชม ส.ส. - ส.ว. ไม่โหวตสวนมติประชาชน ขอเป็นนายกฯ ของทุกคน สัญญา พรุ่งนี้จะสว่างไสวกว่าในวันนี้ที่มืดมิดข่าวการเมืองเลือกตั้งstd48855• 1 ปีที่แล้ว