1 คนสงสัย
อนุทิน ให้ทุกจังหวัด เปิดวอล์กอินฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มแรกได้ จริงหรือ
ที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 /2564 มีมติเห็นชอบเพิ่มการจัดหาจำนวนวัคซีน COVID-19 อีก 50 ล้านโดส เพื่อเตรียมไว้ฉีดให้กับประชากร ทำให้ไทยจะมีวัคซีน COVID-19 ในปี 2565 จำนวน 150 ล้านโดส และเร่งเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมการกลายพันธุ์ รวมทั้ง​ปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค เริ่มได้ทันทีตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยการฉีดวัคซีนจะมี 3 รูปแบบ​ คือ

1.นัดหมายผ่าน แอปหรือไลน์ หมอพร้อม

2.การนัดหมายเป็นกลุ่มก้อน ของทางหน่วยงาน เพื่อขอรับวัคซีน

3.รับการฉีดแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า หรือ วอร์กอิน
anonymous
 •  3 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น

โควิด 2019วัคซีนโควิด

Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

จังหวัดไหนพร้อมเริ่มได้ทันที! "อนุทิน" ไฟเขียวให้ทุกจังหวัด เปิดวอล์กอินฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มแรก อุดช่องโหว่หวังครอบคลุม 70% ของประชาชนแต่

ที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/304278

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ด่วน‼ Mike Yeadon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Pfizer กล่าวว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 เขาขอเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดสารพิษร้ายแรงนี้ ให้ต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของมนุษย์และชีวิตของลูกหลานในอนาคต นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกกล่าวต่อไป....ถึงกระบวนการ/แผนการ ที่จะฆ่าคนส่วนใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทันทีที่ได้รับการฉีดเข็ม แรกประมาณ 0.8% ของผู้คนที่รับ จะเสียชีวิตภายใน 2 สัปดาห์. ผู้ที่ยังรอดชีวิต...มีจะอายุขัยโดยเฉลี่ย 2 ปี แต่จะลดลงเรื่อยๆเมื่อ ฉีดเสริม(เข็มต่อๆมา) หรือ ฉีด "บูสเตอร์ * ทุกครั้ง วัคซีนเสริม...อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของอวัยวะอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ... ด้วยความคุ้นเคยอย่างใกล้ชิดกับการทำงานและเป้าหมายของการวิจัยและพัฒนาของยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม..ไฟเซอร์เป็นเวลา 2 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ Yeadon กล่าวว่าเป้าหมายสุดท้ายของปัจจุบันของการฉีดวัคซีน..อาจเป็นเพียงเหตุการณ์การลดจำนวนประชากร..ซึ่งจะทำให้สงครามโลกทั้งหมดที่รวมกันดูเหมือนเป็นเพียงการสร้างมิกกี้เมาส์ 'หลายพันล้านคนได้รับผลร้ายไปแล้ว... ความตายและเจ็บปวดรวดร้าว ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผู้ที่ได้รับการฉีดแต่ละคนจะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน และ 3 ปีเป็นการประมาณที่เมตตาแล้วสำหรับระยะเวลาที่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ " https://www.lifesitenews.com/news/exclusive-former-pfizer-vp-your-government-is-lying-to-you-in-a-way-that-could-lead-to-your-death
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผู้สูงอายุไม่ควรฉีดวัคซีน
    4 เหตุผลที่ไม่ควรให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ศาสตราจารย์นายแพทย์สุจริต ภักดีเป็นนักไวรัสวิทยาชาวเยอรมันและศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา เขาเป็นคนไทยที่เกิดในสหรัฐอเมริกาและได้รับการศึกษาที่โรงเรียนในสวิตเซอร์แลนด์อียิปต์และไทย เขาเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยบอนน์ เขาเป็นอดีตหัวหน้าสถาบันจุลชีววิทยาทางการแพทย์และสุขอนามัยในเยอรมนี นายแพทย์สุจริต ภักดี อายุ 73 ปี บอกว่าจะไม่ยอมให้ฉีดวัคซีนป้องกัน Covid -19 อย่างเด็ดขาดและนี่คือ 4 เหตุผลของท่าน 1. วัคซีน เฉพาะตัวมันเองก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงอยู่แล้ว : วัคซีนป้องกัน Covid - 19 นี้ไม่เคยทดสอบกับผู้สูงอายุ เกือบทั้งหมดทดลองกับคนหนุ่มสาวที่แข็งแรง เท่านั้น ราวครึ่งนึงมีไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ มีภาวะบวมน้ำเหลือง ปวดหัว และไม่สบาย ดังนั้นถ้าฉีดวัคซีนนี้ให้กับคนสูงอายุที่มีอาการเหล่านี้อยู่ก่อนแล้ว ก็จินตนาการไม่ออกว่าหลังจากได้รับวัคซีนไปแล้วจะเป็นอย่างไร 2. วัคซีนมีส่วนประกอบหลายอย่างซึ่งสารหรือสิ่งที่ถูกห่อหุ้ม (mRNA) อาจทำให้เกิดการแพ้อย่างรุนแรง 3. วัคซีนนี้อาจทำให้เกิดปฎิกริยาเกินจริง (Overreaction) กับการติดเชื้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามมา เช่นไข้หวัดใหญ่ วัคซีนจะทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำงานเกินจริง ผลการทดลองในสัตว์ สำหรับเชื้อไวรัส ซาร์ - โควิด -1 พบว่ามันทำให้เกิดการขยาย (Amplification) ของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อทำปฎิกริยากับโรค ส่งผลให้สัตว์ทดลองเกือบเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เมื่อคุณฉีดวัคซีนเข้าไป ภายในเวลาไม่กี่นาที วัคซีน (mRNA) จะกระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว และมันจะเข้าไปยังเซลล์ที่ไม่ได้ติดเชื้อด้วย และมันจะผลิตไวรัสโปรตีนในเซลล์ของเรา ทำเซลล์ของเราให้เป็นโรงงานผลิตโปรตีน และจะทำให้เกิดอาการแพ้ภูมิตัวเอง รวมทั้งอาจส่งผลถึงภาวะเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ 4. วัคซีนนี้ไม่ควรใช้กับสตรีมีครรภ์ (BioNtechไบโอเอนเทค ถึงกับห้ามให้วัคซีนกับสตรมีครรภ์เลยทีเดียว) และหากสตรีได้รับการฉีดวัคซีนนี้แล้วก็ไม่ควรมีครรภ์ในระยะ 2 เดือนหลังจากได้รับวัคซีน Cr. V.Chalermchai ผู้แปล
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่ อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Pfizer กล่าวว่าการฉีดวัคซีน Covid-19 ส่งผลให้อายุสั้นลง
    ด่วน‼ Mike Yeadon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Pfizer กล่าวว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 เขาขอเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดสารพิษร้ายแรงนี้ ให้ต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของมนุษย์และชีวิตของลูกหลานในอนาคต นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกกล่าวต่อไป....ถึงกระบวนการ/แผนการ ที่จะฆ่าคนส่วนใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทันทีที่ได้รับการฉีดเข็ม แรกประมาณ 0.8% ของผู้คนที่รับ จะเสียชีวิตภายใน 2 สัปดาห์. ผู้ที่ยังรอดชีวิต...มีจะอายุขัยโดยเฉลี่ย 2 ปี แต่จะลดลงเรื่อยๆเมื่อ ฉีดเสริม(เข็มต่อๆมา) หรือ ฉีด "บูสเตอร์ * ทุกครั้ง วัคซีนเสริม...อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของอวัยวะอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ... ด้วยความคุ้นเคยอย่างใกล้ชิดกับการทำงานและเป้าหมายของการวิจัยและพัฒนาของยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม..ไฟเซอร์เป็นเวลา 2 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ Yeadon กล่าวว่าเป้าหมายสุดท้ายของปัจจุบันของการฉีดวัคซีน..อาจเป็นเพียงเหตุการณ์การลดจำนวนประชากร..ซึ่งจะทำให้สงครามโลกทั้งหมดที่รวมกันดูเหมือนเป็นเพียงการสร้างมิกกี้เมาส์ 'หลายพันล้านคนได้รับผลร้ายไปแล้ว... ความตายและเจ็บปวดรวดร้าว ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผู้ที่ได้รับการฉีดแต่ละคนจะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน และ 3 ปีเป็นการประมาณที่เมตตาแล้วสำหรับระยะเวลาที่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ "
    nutyty_MJU
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากหมอ โสภณ เมฆธน อดีตปลัด สธ และผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ Covid-19: ความหวังและความยากลำบาก Update ข่าวดีและข่าวร้าย หลังผ่านไป 18 วัน จากนี้ไปข้างหน้าเราต้องเตรียมตั้งรับกับสิ่งใด และมองย้อนหลังไปเราทำกันมาได้ขนาดไหน ผมทำกราฟมาอธิบายให้ครับ ประเมินสถานการณ์ตัวเลข ณ วันนี้: 1. ข่าวดีสำคัญ สงกรานต์ที่เงียบมาก ทำให้เราสามารถช่วยกันหนี %Increase ระดับ 40% ของ British Variant มาได้แล้ว วันนี้ตัวเลขมาอยู่ที่ 15.26% และเริ่มเข้าสู่ Negative Exponential Curve ของกราฟ %Increase เราซื้อเวลาสำเร็จระดับนึง 2. ข่าวร้าย การผ่านตัวเลขระดับ 13,000 ที่ %Increase ระดับ 15.26% ถือว่าร้ายแรงมาก แทบไม่เคยมีประเทศใดจบที่ต่ำกว่าแสนและไม่มีประเทศใดที่เจอแบบนี้ครั้งแรกแล้วระบบสาธารณสุขไม่ล่มอย่างหนัก EURO5 โดนแบบนี้ไปเมื่อ Wave#1 เอาตัวไม่รอดทั้งที่เป็น Variant ที่รุนแรงน้อยกว่านี้ ดังนั้นอย่าไปเดินตามและทำตาม EURO5 ครับ 3. ตัวเลข 13,000 ใหญ่กว่าทั้ง Wave#2 ของไทยเราที่ตัดแรงงานต่างด้าวออกไปแล้วซึ่งแค่ 9,300 เท่านั้น โดย Wave#3 นี้แทบไม่มีตัวเลขจากแรงงานต่างด้าวเลย 4. ความหวังสำคัญ ผมมีข้อมูลพอทำกราฟของ Best Case Scenario ได้แล้ว กราฟบอกเราว่า ถ้าช่วยกันสู้เต็มที่ ยังสามารถต่ำกว่าแสนได้ครับ กราฟตัวเลขจริงเปรี่ยบเทียบ 3 Wave: ข่าวร้าย: เส้นสีแดงของ Wave#3 เห็นได้ชัดเจนนะครับว่า หนักหนาสาหัสกว่า Wave 1 และ 2 แบบเทียบกันไม่ได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมทีมงานสาธารณสุขของเราจึงทำงานหนักมากตอนนี้ และทำไมศบค.จึงต้องวางมาตรการที่เข้มข้นมาก ถึงแม้จะไม่สามารถ Lockdown ได้เพราะแรงกดดันรอบทิศก็ตาม และทุกคนควรตระหนักอย่างยิ่งและทำตามมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดครับ จากข้อมูล 17 วัน ผม Fine Tune พารามิเตอร์ต่างๆของกราฟใหม่ และมองไปข้างหน้า 1 เดือนได้ตามนี้ครับ กราฟ Total Case ประเมินไปข้างหน้า 1 เดือนครึ่ง: ข่าวร้าย: 1. ถึงจะทำดีที่สุดเต็มที่ ปลายเดือนเม.ย.ก็น่าจะถึง 35,000 คือจากนี้ไปอีก 13 วันเตรียมรับอีกอย่างน้อย ประมาณ 20,000 ครับ 2. ตัวเลข Daily New Case จะยืนอยู่ระดับ 1,600 - 1,800 ไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ 3. ตัวเลข Daily New Case จะอยู่ระดับ >1,000 ไปจนสิ้นเดือนเม.ย. เดือนพ.ค.เราจึงจะเริ่มเห็นระดับที่ต่ำกว่าพันอย่างมีนัยะสำคัญ 4. วันที่ 18 พ.ค. เปิดเทอมตัวเลขจะอยู่แถวๆ 44,000 และมี Daily New Case ประมาณ 215 จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ 5. วันที่ 31 พ.ค. ตัวเลขจะอยู่แถวๆ 45,500 และมี Daily New Case ประมาณ 48 จะใกล้จบถ้าไม่มีใครการ์ดตกยืนระยะไม่อยู่เสียก่อน 6. นี่คือ Best Case Scenario 7. แทบไม่เคยมีใครวิ่งตามเส้น Best Case Scenario นี้ได้ ยกเว้น จีน ออสเตรเลีย เกาหลี และประเทศไทยเราเองใน Wave#1 และ Wave #2 ช่วงเดือนม.ค. ข่าวดี: 1. อย่างน้อยวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็ยังอยู่แถวๆ 15,000 ซึ่งต่ำกว่า 40,000 ซึ่งเป็น Worst Case มาก 2. ถ้าช่วยกันจะสามารถจบได้ภายใน 2 เดือนโดยอยู่แถว 45,000 ครับ 3. เราเคยวิ่งตาม Curve แบบนี้สำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ถ้าร่วมมือกันทำเต็มที่ครับ กราฟ %Increase ข่าวดี: %Increase ลดลงมาอยู่ที่ 15.26% แล้ว และลู่เข้าสู่กราฟ Negative Exponential ที่มี Time Constant 9.1 มาแล้ว 5 วัน ซึ่งหมายถึงเรากำลังเริ่มตั้งหลักได้และสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีครับ จากนี้ไปต้องรักษา Momentum ให้ได้ และอย่าให้การเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟนี้เด็ดขาด ข่าวร้าย: ไม่มีสำหรับกราฟนี้ คำแนะนำที่สำคัญที่สุด "อย่าทำแบบ EURO5 โดยเฉพาะอังกฤษ ห้ามเอาพวกเขามาเป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาดครับ" สาเหตุครับ 1. พวกเขาทุกประเทศตายมาแล้วเป็นแสน ประเทศไหนยังไม่ถึงแสน เดี๋ยวก็จะถึงครับ 2. อัตราการตายของ EURO 5 อยู่ที่ 1.9 - 3.0% มากว่าเรากว่า 10 เท่า 3.อังกฤษอยู่ใน Lockdown รวมกัน 2 ครั้งกว่า 7 เดือน มากกว่าไทยเราที่อยู่ใน Full Lockdown 1.5 เดือน Semi Lockdown ประมาณ 1.5 เดือนเท่านั้น 4. เศรษฐกิจก็แย่กว่าเรา UK Annual GDP fell by 9.9% in 2020, the largest yearly fall on record 5. มีคนตายคาบ้านเยอะมากเพราะโรงพยาบาลไม่พอ โรงพยาบาลสนามก็ไม่พอ การรักษาตัวอยู่บ้านคือทางสุดท้ายเพราะจนแต้มนะครับ ไม่ใช่ทางเลือกที่ใครต้องการเลย แม้แต่ญี่ปุ่นก็ตายคาบ้านไปหลายศพเช่นกันครับ 6. อังกฤษไม่มีตัวเลขอะไรที่ดีกว่าเราเลยนะครับ ยกเว้นอัตราการฉีดวัคซีน สิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจทุกฝ่ายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า 1. ช่วยกันรักษาปกป้องระบบสาธารณสุขของเรา นี่คือ 1st Priority ครับ กำลังใจของทีมงานสาธารณสุขสำคัญมาก ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมีโอกาสติดเชื้อและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อย่าโกหก Timeline อย่าปล่อยปละละเลยจนติดเชื้อมากเกินไปจนล้นร.พ. 2. ภาคเอกชนใหญ่ต้องช่วยกันสร้างรพ.สนามและ Hospitel อย่าให้ต้องรักษาตัวอยู่บ้านกัน เพราะเมื่อนั้นอัตราการตายจะพุ่งสูงทันที อย่าให้ได้มีใครต้องเสียชีวิตที่บ้านโดยไม่ทันถึงมือหมอเลยนะครับ 3. ต้อง Work from Home กันอย่างจริงจังมากๆ ใครทำได้ต้องทำ คนทำไม่ได้มีเยอะครับ เขาจะเสี่ยงน้อยลง ต้องช่วยกันรักษา Momentum ของเราไปอีก 1 - 2 เดือน ให้สำเร็จครับ 4. ป้องกันการติดเชื้อในภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ครับ โดยเฉพาะชลบุรี ระยอง 5. อย่าให้เกิด Cluster ตลาดและแรงงานต่างด้าวขึ้นมาซ้ำเติม เพราะเราไม่มีทรัพยากรจะไปปิดกรณีแบบนั้นอีกแล้ว 6. โรงเรียนจะเปิดเทอม 18 พ.ค. ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จให้ได้ เด็กรุ่นนี้เรียนออนไลน์กันมานานมากจนแย่แล้ว มันไม่ดีกับพวกเขาเลย อย่าให้อบายมุขและความละเลยเป็นสาเหตุทำให้เด็กต้องอดไปโรงเรียนอีกเลยนะครับ 7. ยึดกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี กลับคืนมาให้ได้ และต้องรักษาหัวเมืองใหญ่ โคราช ขอนแก่น อุบล อุดร นครศรี สุราษฎร์ สงขลา เอาไว้ให้สำเร็จครับ 8. ดีเดย์วันที่ 1 มิ.ย. วัคซีนต้องปูพรมครับ ไม่งั้นโดน Wave#4 แน่ ภาคเอกชนต้องช่วยกันเสริมทัพแล้วล่ะครับ ภาครัฐอย่างเดียวเอาไม่อยู่แน่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนจากนี้ไปอีก 1 เดือนคือการมีวินัยและดูแลตัวเอง อย่าป่วยไข้ อย่าขับรถเร็วประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ ระบบสาธารณสุขของเราคือด่านหน้าที่ตอนนี้ข้าศึกบุกมาเต็มกำลังจนยากแก่การรับมือแล้ว ขอเพียงพวกเรามีวินัย ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ มีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือ อยู่บ้านให้มากๆเข้าไว้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบุคลากรด่านหน้าและประเทศชาติได้มากแล้วครับ ช่วยกันครับ เรายังมีความหวังอยู่เสมอครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    🇦🇺 ออสเตรเลีย อาจเผชิญการระบาดของ COVID ระลอกใหม่
    สถานการณ์โควิดต่างประเทศ 🇦🇺 ออสเตรเลีย อาจเผชิญการระบาดของ COVID ระลอกใหม่ หลังมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องในรัฐวิกตอเรียและเวสเทิร์นออสเตรเลีย ออสเตรเลียอาจเผชิญการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ สนข. ABC News ของออสเตรเลีย รายงานโดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของนาย Paul Kelly หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของรัฐบาลออสเตรเลีย ว่า ออสเตรเลียพบจำนวนผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่เพิ่มมากขึ้นในสัปดาห์ก่อน ประมาณ 40,000 คน โดยเฉพาะในรัฐวิกตอเรียและเวสเทิร์นออสเตรเลีย และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ นาย Kelly ยังระบุว่า สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย XBB BQ 1.1 และ B2 กำลังเริ่มระบาดในออสเตรเลีย รวมทั้งมีแนวโน้มจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและอาจติดเชื้อซ้ำ อย่างไรก็ตาม คาดว่า สถานการณ์แพร่ระบาดจะไม่รุนแรง ขณะเดียวกัน Australian Technical Advisory Group on Immunisation (ATAGI) เตรียมเสนอคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็ม 5 ที่จำเพาะต่อสายพันธุ์โอมิครอน เพื่อรับมือกับการระบาดดังกล่าว ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ #ศูนย์ข้อมูลCOVID19 #PRDCOVID19
    Mrs.Doubt
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ไทยร่วมใจฯ เชิญชวนผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ตามที่มติชนออนไลน์เสนอข่าว “กทม. ได้รับการจัดสรรวัคซีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 5 แสนโดส แต่กลับไม่เร่งนำมาฉีดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยร่วมใจ” นั้น ไม่เป็นความจริง กรุงเทพมหานคร ขอชี้แจงว่า กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีนครบจำนวน 500,000 โดส เมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2564 เมื่อ 14 ก.ค.64 มีมติให้เร่งรัดฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และอาจมีอาการที่รุนแรง รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตสูง จึงจำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุให้ครบทั้งหมดโดยเร็ว โดยกำหนดเปิดรับลงทะเบียนผ่าน www.ไทยร่วมใจ.com ตั้งแต่ 16 ก.ค.64 เป็นต้น และจะเริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 19 ก.ค.64 ณ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย ทั้ง 25 จุด กรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป (เกิดก่อน 17 ก.ค.2504) สัญชาติไทย และพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถเดินทางมายังสถานที่ฉีดวัคซีนได้ ลงทะเบียนเพื่อนัดหมายฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่บัดนี้ ————-
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สธ.สั่งโรงพยาบาลเอกชนระงับจองฉีดวัคซีน COVID จริงหรือ
    กรณีมีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งโฆษณาเปิดจองวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดยต้องเสียค่าใช้จ่าย 500 บาท สธ.ย้ำรัฐบาลยังคงบริหารจัดการวัคซีน COVID-19 ตามสภาวะฉุกเฉิน ยังไม่อนุญาตให้สถานพยาบาลเปิดให้ประชาชนจองวัคซีนทุกกรณี ล่าสุดสั่งให้โรงพยาบาลเอกชนระงับการจองวัคซีนแล้ว จริงหรือ
    anonymous
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    มีรายงานผลการศึกษาประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส COVID -19 ภายหลังการฉีดวัคซีน Sinovacc โดย นพ.โรม บัวทอง แพทย์เชี่ยวชาญ กองระบาดวิทยาและกองด่านและทีมงานด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ได้ศึกษาในเจ้าหน้าที่จำนวน 54 คน ช่วงเดือน มี.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจเช็คระดับภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีน ในช่วงเวลาดังนี้ ✅ 24 ชม. หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 1 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 16.78 % ✅ 7 วัน หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 1 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 25.62 % ✅ 21 วัน หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 1 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 30.99 % ✅ 24 ชม. หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 2 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 35.68 % ✅ 7 วัน หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 2 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 78.66 % (ซึ่งเกินระดับ protection มาเยอะเลย 🎉🎉) ✅ 14 วัน หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 2 ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 83.45 % ✅ 21 วัน หลังรับ วัคซีนเข็มที่ 2 วัดระดับภูมิคุ้มกันได้ที่ 100 % 💉💉 หมายความว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วทุกท่านมี Antibody เต็มร้อย แต่เรายังต้องปฏิบัติตัวในวิถี New Normal ไปอีกระยะจนกว่ายอดผู้รับวัคซีนทั่วประเทศเกิน 70 % ของประชากรประเทศไทยทั้งหมด #การ์ดอย่าตก 💪💪
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยง
    คลัสเตอร์ปาร์ตี้! บุคลากรแพทย์ติดโควิดนับสิบ แนะ 6 ข้อ ก่อนไปงานเลี้ยง ข่าว 27 มิถุนายน 2565 เวลา 8:07 น. โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย …สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้ สธ. ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนไปมากน้อยเพียงใด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะมีโอกาสติดเชื้อได้ ป่วยได้ และเป็น Long COVID ได้ ความเสี่ยงในการติดเชื้อ แพร่เชื้อ จนป่วยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จะยิ่งมากเป็นเงาตามตัว หากประเทศนั้นๆ เปิดเสรีการใช้ชีวิต โดยคนในสังคมไม่ได้ระมัดระวังป้องกันตัวอย่างดีพอ เช่น ไม่ใส่หน้ากากระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เฮฮาปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง ฯลฯ ก็จะพบว่าการระบาดในระลอกหลังก็จะทำให้ติดเชื้อ และป่วยมากขึ้นกว่าเดิมได้ แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนครอบคลุมสูงก็ตาม >> ขอนำสิ่งที่ตนเองปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันเวลาต้องไปงานที่มีคนจำนวนมาก มาแชร์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม 1. ประเมินดูว่างานนี้จำเป็นต้องไปหรือไม่? 2. หากต้องไป หรืออยากไปมาก ก็วางแผนให้ดีว่าจะทำอะไรบ้าง โดยดูรายละเอียดของงานที่จะไป หากเป็นไปได้ก็เลือกงานที่มีคนน้อย และมีมาตรการรักษาความสะอาดและตรวจคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน 3. จัดเวลาเผื่อ โดยกินอาหารมื้อนั้นให้เรียบร้อยที่บ้าน หรือที่ร้านโปร่งโล่งใกล้สถานที่ที่จัดงาน เพื่อจะได้เลี่ยงการ (เปิดหน้ากาก) กินดื่มที่ไม่จำเป็นระหว่างเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก 4. ในงาน พบปะผู้คน - พูดคุยทักทายได้ โดยใส่หน้ากากเสมอ! - พยายามเลี่ยงการสัมผัสตัวคนอื่น - หากสัมผัสกันจับมือกันกอดกัน ก็ใส่หน้ากากและล้างมือทุกครั้ง ! 5. หากเป็นงานสัมมนายาวนานเป็นวัน - ครอบคลุมการกินดื่มหลายมื้อ หากนำอาหารมาแยกกินได้ก็จะดี - แต่หากกินดื่มรวมกัน ก็กินดื่มโดยใช้เวลาสั้นๆ - ระหว่างกินดื่มจะไม่พูดคุย หากจะพูดคุยก็ ใส่หน้ากากก่อนเสมอ - ล้างมือด้วยเจล หรือสเปรย์แอลกอฮอล์.ทุกครั้งหลังจับอุปกรณ์หรือภาชนะต่างๆ ของสาธารณะ 6. หลังกลับจากงาน คอยสังเกตอาการของตนเองว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และติดตามข่าวคราวจากกลุ่มผู้ไปร่วมงานด้วยว่ามีปัญหาการเจ็บป่วยไม่สบายหลังจากไปร่วมงานหรือไม่ จะได้จัดการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ COVID-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก ติดเชื้อไม่จบ แค่ชิลๆ แล้วหาย แต่..ป่วยได้ ตายได้ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ที่สำคัญคือ เรื่องภาวะผิดปกติระยะ..ยาว อย่าง Long COVID การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด. ความใส่ใจด้านสุขภาพ การป้องกันตัวเอง จะเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงของเราและคนใกล้ชิด เพื่อจะได้ปลอดภัยไปด้วยกัน . . ****ต้องเน้นย้ำว่าพฤติกรรมการป้องกันตัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์ระบาดช่วงนี้เพิ่มขึ้นมากหากสังเกตคนรอบตัวที่ติดเชื้อ โดยจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รายงานเข้าสู่ระบบ . . “ การใส่หน้ากาก ” เสมอเวลาตะลอนนอกบ้าน เป็นหัวใจสำคัญที่จะลดความเสี่ยง ย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นมาก
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    7 โรคกลุ่มเสี่ยง ลงทะเบียนรับวัคซีนโควิดได้ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม จริงหรือ
    กระทรวงสาธารณสุขทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19 ที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งประกอบไปด้วย 8 ขั้นตอน ใช้เวลารวมไม่เกิน 40 นาที ตั้งแต่กระบวนการคัดกรอง ยืนยันคุณสมบัติของผู้ได้รับการฉีดวัคซีน จนถึงการได้รับวัคซีน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในระบบบริการฉีดวัคซีน COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย มีระบบการติดตามผล หลังการฉีดวัคซีน COVID-19 ด้วยช่องทาง Line Official Account “หมอพร้อม”
    anonymous
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false