ข่าวจริงหรือข่าวลวง

เนื้อหานี้อยู่นอกเหนือการตรวจสอบของ cofact

นอร์เวย์ ปรับรายงานประมาณการตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน COVID-19 ของบริษัทไฟเซอร์และบีออนเทค เพิ่มขึ้นเป็น 29 คน พร้อมเตือนความเสี่ยงต่อผู้สูงอายุมากและมีปัญหาสุขภาพร้ายแรง

วัคซีนแต่ละตัวประสิทธิภาพต่างกัน ต้องดูองค์ประกอบ อย่ายึดแค่ตัวเลข ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า โควิด-19 วัคซีน ผลการศึกษาประสิทธิภาพจึงต่างกัน ผลของประสิทธิภาพวัคซีนในการศึกษาต่างสถานที่ ต่างกลุ่ม ประสิทธิผลทำไมไม่เท่ากันเพราะการประเมินประสิทธิภาพ จะประเมินอะไร ป้องกันการติดเชื้อ หรือ ป้องกันการเกิดโรค (ติดเชื้อได้แต่ไม่เป็นโรค) เป็นโรคแต่ไม่รุนแรง เช่นไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่เสียชีวิต ประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 จะประเมินตรงไหน ต้องชี้แจงให้ละเอียด ไม่ใช่บอกแต่ตัวเลข ประเด็นที่ 2 ที่มีการประเมินผลวัคซีนเดียวกัน ทำในสถานที่และประชากรต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชากรที่ศึกษา ทำให้ผลต่างกัน เช่น การศึกษาวัคซีน HIV ในประเทศไทย ได้ประสิทธิภาพป้องกันกันโรคได้ 30% ศึกษาที่แอฟริกา ได้ 0% เพราะ แอฟริกา มีความเสี่ยงสูงกว่าไทย ในทำนองเดียวกัน การศึกษาวัคซีนท้องเสียโรตาในแอฟริกา ประเทศเมารี ได้ประสิทธิภาพ ร้อยละ 50 แต่ใช้วัคซีนเดียวกัน ทำในยุโรปได้ประสิทธิภาพสูง 83-90% เพราะแอฟริกาเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรค และการติดโรคได้สูงกว่าในยุโรป กระดูกทับเส้น ปวดสะโพกลงขา ปวดหลัง ผู้เป็นหนักเน้นนวดก่อนนอน ตื่นเช้าเบาตัว #ไม่ปวดทรมาน Npraya ทำนองเดียวกันการศึกษาโควิดวัคซีน ถ้าทำในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ย่อมมีประสิทธิภาพป้องกันในการศึกษาต่ำกว่า การศึกษาในประชากรทั่วไป ที่มีความเสี่ยงต่ำ การศึกษาของวัคซีนของจีนประสิทธิภาพที่จีนประกาศ 79% โดยรวม ตุรกี ประกาศผลประชากรทั่วไปได้ 91% และอินโดนีเซียได้ 65% ตัวเลขต่างกัน คือ บราซิลในบุคลากรทางการแพทย์ ได้ 50.4% ดังนั้นประสิทธิภาพของวัคซีนในแต่ละตัว การแปลผลจะต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงตัวเลข

เนื้อหาอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ตามที่ได้มีการแชร์ภาพในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ จำนวนมาก เกี่ยวกับกรณี น้ำท่วมเมืองปัตตานี เป็นน้ำสีฟ้าทั้งเมือง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมชลประทาน พบว่าภาพดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพน้ำท่วม โดยระบุว่าน้ำที่ท่วมในเมืองปัตตานีเป็นน้ำสีฟ้า ใส ทั้งเมืองนั้น ทางกรมชลประทานได้ชี้แจงว่า ตามภาพที่ปรากฏเป็นการตัดต่อภาพ เปลี่ยนสีน้ำให้กลายเป็นสีฟ้า เพื่อคลายความเครียดจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยทางกรมชลประทาน ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ การรายงานและแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง และได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ นำไปติดตั้งยังจุดเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

Powered by Streamlyn ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับเต็ม จําคุก “ทักษิณ ชินวัตร” 5 ปี คดีหุ้นชินคอร์ป เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระหว่าง อัยการสูงสุด (โจทก์) และ นายทักษิณ ชินวัตร (จำเลย) เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม หรือคดีหุ้นชินคอร์ป

ตามที่ได้มีการแชร์ข้อความผ่านทางสื่อโซเชียล เกี่ยวกับเรื่อง คลินิกแก้หนี้ ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ดำเนินผ่านธนาคารออมสิน กรุงไทย และ ธ.ก.ส. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารธ.ก.ส. พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีชวนเชื่อโครงการเงินกู้ระบุในชื่อโครงการคลินิกแก้หนี้ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ที่ดำเนินการผ่านธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ธ.ก.ส. โดยเมื่อทางธนาคารต้นเรื่องทั้ง 3 แห่งได้ตรวจสอบแล้ว ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่าข้อมูลที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจาก ทั้ง 3 ธนาคารไม่ได้มีส่วนในการดำเนินโครงการ และไม่ได้มีการร่วมมือกับโครงการดังกล่าวตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อโครงการดังกล่าว

ตามที่มีการกล่าวถึงในประเด็นเรื่องโควิด-19 ไม่ใช่ไวรัส แต่เกิดจากแบคทีเรียสัมผัสรังสี 5G ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีส่งต่อคลิปที่มีเนื้อหาอ้างถึงหน่วยงานต่างประเทศโดยระบุว่าโควิด-19 ไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่เกิดปฏิกิริยาเคมี กับรังสี 5G ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า จากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลในคลิปดังกล่าวที่ถูกส่งต่อกันเป็นจำนวนมากนั้น ไม่เป็นความจริง หรือมีข้อมูลที่ถูกต้องแต่อย่างใด อย่าหลงเชื่อ อย่าแชร์

รายงานการเสียชีวิตดังกล่าว อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิดที่ฉีดไปก็ได้ ต้องมีการสอบสวนโรคในภายหลัง และพึงระลึกไว้เสมอว่า วัคซีนย่อมมีผลข้างเคียงของมัน ไม่ว่าจะเป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ หรืออาการแพ้อย่างรุนแรง แม้จะเกิดได้น้อยมาก แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ วัคซีนจะได้ผล หรือสามารถยับยั้งการระบาดได้ ก็ต่อเมื่อมีการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มประชากรในจำนวนมากๆ แล้วจึงจะ "ค่อยๆ เห็นผล" ในการควบคุมการระบาดของโรค โดยจะไม่ได้เห็นผลอย่างทันทีทันใด ดังนั้น วิธียับยั้งการระบาดที่ดีที่สุดคือ การป้องกันการระบาดของโรค และการใช้วัคซีนอย่างเหมาะสมและระมัดระวังที่สุด ประกอบกับการเก็บข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยไปเรื่อยๆ ถึงประสิทธิผลของการใช้วัคซีน

จากข้อความที่มีการส่งต่อในสื่อออนไลน์ ธ. ออมสิน เพิ่มช่องทางซื้อสลากออมสิน ที่เพจขายหวยออนไลน์ ทางธนาคารออมสินชี้แจงว่า ธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเพจหรือสื่อออนไลน์ดังกล่าว เป็นการแอบอ้างนำข้อความ “สลากออมสิน” และตราสัญลักษณ์ของธนาคารไปใช้สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากเป็นบริการสลากออมสินของธนาคารฯ จะต้องทำธุรกรรมผ่านช่องทางเคาน์เตอร์สาขาปกติ และผ่านระบบโมบายแบงก์กิ้ง (MyMo) ของธนาคารออมสินเท่านั้น

จากที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องการรักษาโควิด-19 ด้วยสูตรยาสมุนไพร ที่ประกอบด้วย ขมิ้นชัน หอมแดง กระเทียม และมันมะพร้าวสกัดเย็นนั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ชี้แจงว่า สมุนไพรดังกล่าวเป็นทางเลือกเสริมในการบรรเทาอาการเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่สามารถใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19 ได้ ต้องศึกษาวิจัยในคนเพิ่มเติม เพื่อยืนยันผลการรักษาก่อนเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนเป็นยาต่อไป

วนมาอีกแล้ว มั่ว❌ อย่าแชร์ ด่วน!! กรมอุตุไม่เคยพยากรณ์แบบนี้ในรอบ 5 ปี! ** คลื่นความหนาวแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาคตั้งแต่ 24.00 น. คืนนี้เป็นต้นไป.. โดยภาคเหนือ-อีสาน ลดลง 10-12° c กรุงเทพร่วง8-10°c มากสุดในรอบ14ปี! อีกราว 12 ชั่วโมงนับถอยหลัง ฝนจะเทภาคเหนือและอีสาน ตามด้วยลมแรง แล้วอุณหภูมิจะลดลงเต็มๆ เตรียมพร้อมรับมือด้วยกับ extreme weather change ส่งต่อครับ ## พายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ และปริมณฑล. นครปฐม. สมุทรสาคร. นนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี เวลาประมาณ 22.00 น. คืนนี้ครับ ขอให้ทุกท่าน หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงคืนนี้ และเตรียมเทียนและไม้ขีดไว้ เพราะอาจจะเกิดไฟฟ้าดับได้ และ พรุ่งนี้คาดว่าฝนจะตกหนักทั่ว กทม. และปริมณฑล

อความข้างต้นไม่ได้มีแหล่งที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา โดยขณะนี้ไม่มีการประกาศแจ้งเตือนสภาพอากาศรุนแรงแต่ประการใด และไม่ระบุวันเวลาที่ชัดเจน กรมอุตุนิยมวิทยากำลังจะพิจารณาดำเนินการเอาผิดกับผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าว ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ อย่าได้ส่งต่อข้อความดังกล่าว เพื่อมิให้เกิดความสับสนและ ตื่นตระหนก

ภาพที่ปรากฏเป็นการตัดต่อภาพ เปลี่ยนสีน้ำให้กลายเป็นสีฟ้า เพื่อคลายความเครียดจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เริ่มคลี่คลายแล้ว

เป็นข่าววนซ้ำตั้งแต่หลายปีที่แล้ว เป็นการตัดต่อข้อความมั่ว ตามการตรวจสอบของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นข่าวลือมั่วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562

วันนี้ ( 13 ม.ค.64) เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ออกประกาศสถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อน โดยระดับน้ำเก็บกักสูงสุด 115 ม.รทก. ระดับน้ำเวลา 00.00น.วันนี้ 114.75 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 4 เซนติเมตร ระดับน้ำในเวลา 8.00 วันนี้ 114.77 ม.รทก. โดยการประเมินสถานการณ์ พบมีน้ำไหลเข้าอ่างต่อเนื่องเเละมากกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออก ทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น คาดว่า 5-6 วัน น้ำจะเกินกว่าระดับเก็บกักปกติ เเละหากมีมรสุมหรือฝนตกเพิ่ม อาจต้องเปิดประตูน้ำล้นอีกครั้ง

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล

โคแฟคระบุ 5 ข่าวเฟกนิวส์ เกี่ยวกับโควิด-19 ยังวนกลับมาเผยแพร่ซ้ำ สร้างความสับสนให้กับประชาชนจำนวนมาก แนะตรวจสอบให้ดี และหยุดเผยแพร่ต่อ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โคแฟค ประเทศไทย CofactThailand เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นการรวมตัวกันของภาคประชาสังคม เพื่อเปิดพื้นที่การใช้นวัตกรรมตรวจสอบข่าวลือข่าวลวง ผ่านสื่อออนไลน์ ได้รวบรวม 5 ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดโควิดที่วนซ้ำกลับมาอีกรอบ เพื่อการรู้เท่าทันของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ดังนี้ 1."คลิปเสียงปลอม" ความยาว 1.20 นาที อ้างว่าเป็นเสียงของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช 2.การดื่มน้ำมะนาวฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ 3.เลือดเป็นด่างมีโอกาสติดไวรัสโควิด-19 ได้น้อยลง 4.พัสดุไปรษณีย์เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 5.ยืนตากแดดฆ่าเชื้อโควิด-19 ในร่างกายได้

คลังจ่อเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนปลายเดือน ม.ค. 64 เล็งปรับเกณฑ์คุณสมบัติ ตีกรอบคิดรายได้เป็นครัวเรือน คาดคัดกรองผู้มีสิทธิเหลือไม่ถึง 14.6 ล้านคน ลั่นผู้ถือบัตรเดิมไม่ผ่านเกณฑ์ลงทะเบียนรอบใหม่ต้องนำบัตรเก่ามาคืนคลัง

จากกรณีที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ครม. อนุมัติแจกเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 3,500 บาท/เดือน และลดค่าน้ำ-ค่าไฟ 2 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ที่ประชุมเมื่อวานนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้มี "พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" ซึ่งจะเข้มกว่าพื้นที่สีแดง โดยจะมีทั้งหมด 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ถูกบังคับใช้ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ งดการเดินทางข้ามพื้นที่ แต่หากผู้ใดมีความจำเป็นเดินทางออกนอกจังหวัดทั้ง 5 นี้ จำเป็นต้องมี “เอกสารเดินทางข้ามจังหวัด” เพื่อยืนยันแก่เจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ไม่จริงเพราะว่าคนที่เป็นผมหงอกจะหงอกไปเรื่อยตามอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นการถอนหรือไม่ถอนผมหงอกไม่ส่งผลใดๆ

Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย จำนวนผู้เข้าชม 4,697,913 ค้นหาข่าวปลอม แจ้งเบาะแสข่าว วันที่ข่าว : ทั้งหมด หมวดหมู่ :ทั้งหมด ทั้งหมด ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมขนส่งทางบกอนุญาต ไม่ดำเนินคดีต่อผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ GPS เริ่ม 18 ม.ค.64 วันที่ 12 ม.ค. 2564 13:49 น. FacebookTwitterLine ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความถึงเรื่อง กรมขนส่งทางบกอนุญาต ไม่ดำเนินคดีต่อผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณ GPS เริ่ม 18 ม.ค.64 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าข้อมูลที่ปรากฏดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็น เราไม่ทิ้งกันรอบใหม่ รับ 8,000 บาท/คน ส่วนคนละครึ่งเพิ่มเป็น 5,000 บาท 3 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ