13121 ข้อความ
- 1 คนสงสัยติ๊กตอกเกอร์ต่างชาติ แฉเขาเขียวมีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมในการเลี้ยงสัตว์ภาคตะวันออก มีมKANTA• 1 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยต้องไม่ยอมมัน! อดีตรองอธิการบดี มธ. ปลุกขวางแก้ รธน. ทำลายความถูกต้อง-เป็นธรรม 22 ก.ย.2567-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า การแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ควรต้องเป็นการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ของชาติ เราไม่อาจยอมให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมือง และนักการเมืองใดๆ เราเริ่มได้เห็นอานุภาพของรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ฉบับปัจจุบัน ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะเสนอแต่งตั้งบุคคลที่เคยถูกจำคุกตามคำสั่งศาล และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า เป็นผู้ที่จัดการให้มีการนำถุงขนมที่บรรจุเงิน 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศาล อ้างว่าหยิบถุงผิดใบ แต่กลับได้รับรางวัลให้เป็นรัฐมนตรี ปรากฏการณ์ครั้งนี้ทำให้พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล มีความระมัดระวังมากขึ้นในการเลือกสรรผู้ที่จะให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้เรามีความหวังว่า ในระยะยาวระบอบประชาธิปไตยของเราน่าจะมีความก้าวหน้าขึ้น และนักการเมืองเลวๆที่มุ่งแสวงหาอำนาจ เพื่อโกงกินชาติ น่าจะค่อยๆน้อยลง พรรคการเมืองที่เคยต้องทุ่มเงินกันอย่างมหาศาลเพื่อเอาชนะเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล จากนั้นก็จะหาเงินจากการทุจริตคอรัปชัน นำมาใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปน่าจะมีน้อยลง ข้างต้นคือวงจรอุบาททางการเมืองที่แท้จริงที่ดูจะไม่มีใครทำลายได้ การทำรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจก็ไม่สามารถทำลายได้ แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้เราเริ่มมีความหวัง แม้เพียงรำไรแต่ก็นับว่ายังมีความหวัง ในขณะที่เราเริ่มมีความหวัง พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำรัฐบาล คือพรรคเพื่อไทยก็ประกาศแบบไม่สนใจความรู้สึกของใครทั้งสิ้น ว่าจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราอย่างเร่งด่วน เช่น ที่กำหนดในมาตรา 160 ว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ จะแก้เป็น ” ไม่มีพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต “ แปลว่า ไม่ต้องมีความซื้อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ก็ได้ ขอเพียงไม่ประจักษ์ชัดว่าไม่ซื่อสัตว์สุจริต ก็ใช้ได้แล้ว ที่ว่า ต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก็เปลี่ยนเป็น ต้องเป็นผู้ที่กำลังถูกดำเนินคดี และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเท่านั้น ถ้าไม่ได้กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาลก็ไม่ขาดคุณสมบัติ นอกจากนั้นยังจะแก้ไขอีกหลายมาตรา ที่น่าเกลียดที่สุดคือ มาตรา 256 ซึ่งบัญญัติไว้เป็นเงื่อนไขเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในเรื่องสำคัญได้ง่ายๆ โดยเฉพาะ (ที่กำหนดว่า การแก้ไขหมวด 1 คือบททั่วไป และหมวด 2 เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และหมวด 15 ซึ่งเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของศาลและองค์กรอิสระ เหล่านี้จะแก้ไขเพิ่มเติมได้ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พรรคเพื่อไทยต้องการแก้ไขมาตรา 256 (พวกเขาจะแก้ไขเป็นว่า ให้จัดให้มีการออกเสียงประชามติเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 1 และหมวด 2 และการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติม หน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระ ไม่ต้องมีการออกเสียงประชามติแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการแก้ไขมาตรา 211 เกี่ยวกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อสมาชิกภาพของ ส.ส. สว. และการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง จากการใช้เสียงข้างมากของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาเป็นการใช้เสียง 2 ใน 3 ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น คูณเศรษฐา ทวีสินก็จะไม่ต้องพ้นจากแหน่งนายกรัฐมนตรี นั่นหมายความว่า พวกเขาตั้งใจจะลดบทบาทหน้าที่ และอำนาจของศาลและองค์กรอิสระ โดยไม่ต้องมีการออกเสียงประชามติ ซึ่งในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องออกเสียงประชามติ จึงน่าจะเป็นการขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านประชามติ ความพยายามในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราครั้งนี้ หากทำได้สำเร็จ จะเป็นลดความสำคัญของความซื่อสัตย์สุจริต และมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับการเลือกสรรผู้ที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีลง ซึ่งไม่ควรจะเป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย และไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ และต่อประชาชน จะทำให้ความหวังว่า ประเทศเรามีโอกาสมากขึ้นที่จะได้คนเก่งคนดีมาเป็นรัฐมนตรี ต้องพังทลายลง แล้วใครเล่าจะได้ประโยชน์นอกจากพรรคการเมือง และนักการเมืองกันเอง ข้ออ้างของการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็คือ เรื่องความซื่อสัตย์และเรื่องจริยธรรม เป็นเรื่องที่ตัดสินยาก ไม่มีบรรทัดฐานที่ชัดเจน และการพิจารณาตัดสินเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ควรจะเป็นการตัดสินของคนเพียงไม่กี่คน แต่ควรเป็นการตัดสินของสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภา ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามา บอกได้เลยว่า สภาผู้แทนราษฎรตามที่เป็นอยู่ในเวลานี้และตลอดมา อาศัยเสียงข้างมากลากไป ไม่ได้โหวตโดยยึดหลักความถูกต้อง แต่ยึดหลักเพียงว่าต้องโหวตให้พวกเดียวกันไว้ก่อน ถูกผิดไม่เป็นไร โดยเรียกมันว่า “เป็นมารยาททางการเมือง” แล้วเราจะหวังอะไรได้จากสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ดี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พรรคเพื่อไทยจึงยังไม่กล้ายื่นต่อรัฐสภา แต่จะนัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเสียก่อน สังเกตว่าพรรคเพื่อไทยไม่หารือกับฝ่ายค้าน ซึ่งก็คงเป็นเพราะฝ่ายค้านจะไม่ค้าน เพราะเป็นการสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ก็ต้องรอดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะว่าอย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลเออออด้วยไปกับพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะหมดหวังแล้วกับระบอบประชาธิปไตยแบบที่เป็นอยู่ และก็สมควรแล้วที่หากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะถูกยุบ จากการที่ไปร่วมประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อย่าได้มาอ้างด้วยว่า ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก็เพื่อไม่ให้มีการถูกร้องจนไม่เป็นอันได้ทำอะไร จนทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ขอบอกว่า หากจะเดินหน้าต่อไปสู่หายนะ ก็สู้ไม่ต้องเดินหน้าเสียเลยจะดีกว่า ท้ายที่สุด อยากบอกประชาชนทุกคนบนผืนแผ่นดีนนี้ ที่ยังยึดหลักความถูกต้องและเป็นธรรมว่า เราต้องไม่ยอมมัน !!!! https://www.thaipost.net/x-cite-news/661161/ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหากลืมรับประทานยา สามารถทานรวมกับมื้อถัดไปได้หรือไม่ ?ยาแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและคำแนะนำในการรับประทานแตกต่างกัน เช่น ยาบางชนิดต้องการความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับยาในเลือด หากไม่รับประทานตามเวลาที่กำหนด อาจทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่เต็มที่และส่งผลเสียต่อร่างกายได้ "ดังนั้นการลืมรับประทานยาจึงไม่ควรรับประทานรวมกับครั้งถัดไป เพราะอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่เต็มประสิทธิภาพ เกิดการดื้อยา และร่างกายอาจได้รับยาเกินขนาด"สุขภาพThitiwut Apiraktanakul• 1 เดือนที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้พิการที่ทำบัตรผู้พิการหลัง 31 ส.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาทไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย5 วิธีปฏิบัติ เลี่ยงการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงศึกษาธิการจัดให้มีหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี พร้อมมอบใบรับรองและทุนการศึกษาไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครม. ขยายเวลาคงอัตรา VAT 7% ต่อไปอีก 1 ปี ถึง 30 ก.ย. 68ข่าวการเมืองการเงินไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ประสบภัยน้ำท่วมทำบัตรประชาชนหาย ทำใหม่ได้ฟรี ภายใน 15 วัน นับจากวันประกาศพื้นที่สาธารณภัยไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยราชตฤณมัยสมาคมฯพลิกโฉม“หนองจอก” ผุดสนามม้าแห่งใหม่ 3,000ไร่ ดันราคาที่ดินพุ่ง 4 เท่า จากไร่ละ 9 แสนขยับเป็น 3-4 ล้านบาทต่อไร่ .ราชตฤณมัยสมาคมฯอยู่ระหว่างรวบรวมที่ดินซึ่งอยู่บริเวณเขตหนองจอก ย่านมิตรไมตรี ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งว่าง และ บริเวณถัดจากสถานีตำรวจนครบาลราชกระบังเขตลาดลาดกระบัง จำนวน2000ไร่ . พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พื้นที่สีม่วง(ที่ดินประเภทอุตสาหกรรม) สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ขึ้นตึกสูงได้ โดยราคาที่ดินที่กำหนดไว้9แสนบาทต่อไร่ แต่เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไป ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นเป็นไร่ละ3-4ล้านบาทหรือประมาณ4เท่า และมีแนวโน้มจะขยับขึ้นขึ้นอีกคาดว่าอีก2เดือนข้างหนาจะทราบชัดเจน ว่าแบบและแปลงที่ดินเป็นแบบใดและอยู่บริเวณไหน ความคืบหน้า สำหรับโครงการจะเป็น สปอร์ตคลับ สูง 789 ชั้นประกอบด้วย โรงแรม5ดาว ศูนย์การค้า มีสนามเลี้ยงม้า และสนามม้า สวนสาธารณะ ถอดแบบสนามม้านางเลิ้ง . "จะพัฒนา เน้นนวัตกรรม คล้ายสนามรังนกที่จีน และ การแสดง สนามเลี้ยงม้า แข่งม้าโรงแรม5ดาวห้าง กสิโนถูกกฎหมาย เน้นวัสดุรักษ์โลก . 📌อ่านข่าวเพิ่มเติมในคอมเมนต์ไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยล้อเลียน เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไฟไหม้โรงงานในนิคมฯมาบตาพุด ทำให้สารเคมีรั่วไหลสู่ชุมชนส่งผลให้อากาศเป็นพิษ อันตรายต่อชุมชนสุขภาพภาคตะวันออก สภาพอากาศKANTA• 1 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรมต.หน้าตาเหมือนตัวดักแด้สงสัยว่า ผู้ว่าธปท.จบอะไรมาถึงพูดไม่รู้เรื่องก็มีผู้ตอบว่าท่านหลังจากชั้นมัธยมที่ประเทศฝรั่งเศสก็มาจบป.ตรีที่ Swathmore College ด้วยเกียรตินิยมสูงสุด และ ป.โท ป.เอก ที่ Yale ก็เลยสงสัยว่า Swathmore College คืออะไร ก็ทราบว่าเป็น Liberal Arts College เล็กๆมีนักศึกษาเพียง 1000 กว่าคน มีการสอนแค่ปริญญาตรี แต่เก่าแก่ก่อตั้งมาถึง 160 ปี จึงไม่นับเป็น University ตามคำจำกัดความของอเมริกา เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เข้ายากที่สุดในอเมริกา มีอัตราการตอบรับแค่ 7% ของผู้ที่ยื่นใบสมัคร และเมือขึ้นปีสามจะคัดเลือกนักศึกษาจำนวนหนึ่ง 4 5 คนเข้า Honour Program ซึ่งต้องไปค้นคว้าและส่งผลงานวิจัยสั้นๆทุกเทอม จนก่อนจะจบปีสี่ต้องส่งวิทยานิพนธ์ยาว และต้องผ่านการตรวจสอบปากเปล่าจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก และผลจะออกมาเป็นสามอันดับ คือ Highest Honour High Honour และ Honour ซึ่งท่านผู้ว่า ได้อันดับ Highest Honour หลังจากจบแล้วส่วนใหญ่จะไปเรียนต่อ ตามมหาวิทยาลัยระดับต้นๆของประเทศเช่น Harvard Princeton Yale etc. จะเห็นได้ว่าท่านผู้ว่า ทางวิชาการท่านอยู่เหนือพวกนักการเมืองที่อยู่ในคณะรัฐบาลทั้งหมด และประสบการณ์จากการทำงาน World Bank มาอีก 10 ปี เราควรจะเชื่อใคร***ข่าวการเมืองการเงิน เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย10 อาหารป้องกันการติดเชื้อไวรัสและไซนัสเรื้อรังไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยต้องเป็นคนไทย มีบัตรคนจนและต้องยื่นภาษีเงินได้ไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสารส้มผสมน้ำใช้ล้างตาช่วยรักษาโรคตาแดงไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการจัดส่งพัสดุของคุณล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถติดต่อผู้รับได้ กรุณาตรวจสอบสถานะและยืนยันการจัดส่งที่ linkup-express.comแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำท่วมไปทุกจุดไม่เอางบไปช่วยน้ำท่วม เสือกเอามาทำฝาท่อ มึงบ้าหรือเปล่าเรื่องไม่เป็นเรื่องเก่งนัก #ผวสต https://www.facebook.com/share/r/3GctSC9eFxyCmhoY/?สภาพอากาศการเงินไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนรับประทาน2อาทิตย์กระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่?ผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนรับประทาน 2 อาทิตย์กระจ่างใส จริงหรือไม่? จากประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนสามารถทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่ รศ. พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร แพทย์ประจําหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนว่า กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย (ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.rama.mahidol.ac.th ) ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูต้าไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับการ อนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็ง กระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่ กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูต้าไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากกลูต้าไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนัง เปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำ ให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกรูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่ น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์ของกลูต้าไธโอนในการทำให้ผิวขาวได้อย่างแท้จริง (ข้อมูลจากเว็บไซต์https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผิวที่ขาวขึ้นจากกลูต้าไธโอนนั้นยังอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการให้ผลอยู่ในระยะยาวจำเป็นต้องทานซ้ำเป็นระยะๆ ทำให้ยาสะสมในร่างกายมากขึ้น และอาจมีความเป็นพิษต่อตับ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ กลูตาไธโอนชนิดฉีดหรือชนิดรับประทานเพื่อให้ผิวขาวใสนั้นยังไม่มีการพิสูจน์ผลที่ชัดเจน ความปลอดภัยในการใช้ยาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง และพึงระลึกไว้เสมอว่า “ ไม่มียาชนิดใดในโลกที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ” ดังนั้นก่อนการใช้ยาใดๆ ก็ตามควรศึกษาข้อมูลปรึกษาเภสัชกร ก่อนรับประทานให้ละเอียดเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://hdmall.co.th/ )ความสวยความงามอย. เพิกถอนsatit1302• 1 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตร.สอบสวนกลาง เตือนประชาชนอย่ารับสายเบอร์ขึ้นต้น +697 , +698 , +66 เป็นเบอร์มิจฉาชีพ เผยแพร่: 20 ก.ย. 2567 16:33 ปรับปรุง: 20 ก.ย. 2567 16:33 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ 2,937 เพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง” เตือนประชาชนห้ามรับสายเบอร์ ขึ้นต้นด้วย +697 หรือ +698 เเละ +66 คือเบอร์มิจฉาชีพ โทรจากต่างประเทศ เพราะอาจถูกหลอกลวงหรือขโมยข้อมูลส่วนตัวได้ วันนี้ (20 ก.ย.) เพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนประชาชนห้ามรับสายเบอร์ ขึ้นต้นด้วย +697 หรือ +698 เเละ +66 คือเบอร์โทรจากมิจฉาชีพ โดยระบุว่า “มีสายเรียกเข้าขึ้นต้นด้วยเบอร์นี้อย่ารับสาย หากได้รับสายจากเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 หรือ +698 เเละ +66 นั่นคือสายจากมิจฉาชีพที่ใช้ระบบ VoIP โทรเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่ง กสทช. ได้กำหนดให้โอเปอร์เรเตอร์ (Operatore) แปะรหัสนี้ไว้เพื่อให้ผู้รับสายระวังตัวรู้ว่าคือเบอร์โทรจากมิจฉาชีพ ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ขอแนะนำว่าหากมีเบอร์ ขึ้นต้นด้วย +697 หรือ +698 เเละ +66 โดยไม่มีธุระติดต่อจากต่างประเทศ ให้วางสายทันที อย่ารับสายหรือโต้ตอบ เพราะอาจถูกหลอกลวงหรือขโมยข้อมูลส่วนตัว ทั้งนี้ สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเกี่ยวกับมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว ได้ที่สายด่วนศูนย์ AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมงครับ ”ไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 1 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น