1 คนสงสัย
5 วิธีปฏิบัติ เลี่ยงการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
ไม่ระบุชื่อ
 •  2 เดือนที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Thanathun. เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

การดื่มน้ำทั้งน้ำธรรมดา น้ำอุ่น 1 แก้ว ไม่ช่วยลดภาวะลิ่มเลือดหนืดอุดตัน ทั้งหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง รวมถึงภาวะเวียนหัวหรือวูบ และไม่ม

ที่มา

https://www.antifakenewscenter.com/ผลิตภ⋯ธีปฏิบัติ-เลี่ยงการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว/

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    กีฬาแบดมินตัน เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันจริงหรือไม่?
    กีฬาแบดมินตันเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริงหรือไม่? จากการสัมภาษณ์คุณพีระ นนทะคำจันทร์ นักวิชาการศึกษา โรงพยาบาลสุทธาเวช และนักกีฬาแบดมินตันของทีมบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้ให้ข้อมูลว่า กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาที่มีความเข้มข้นสูงและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริง เนื่องจากลักษณะของกีฬาแบดมินตันต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เข้มข้น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) ซึ่งสามารถทำให้อัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูงถึง 170-180 ครั้งต่อนาที หากผู้เล่นมีโรคประจำตัวซ่อนอยู่ อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงมากอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการเล่นกีฬาแบดมินตันหรือกีฬาชนิดอื่นๆที่มีจะต้องมีการขยับร่างกายอย่างรวดเร็วและมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงในระยะเวลาอันสั้นหรือกีฬาที่จะต้องรับแรกกระแทกในการเล่น ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริง สนามกีฬาทุกแห่งจึงควรมีเครื่อง AED หรือเครื่องกระตุกไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่สามารถใช้ช่วยผู้ป่วยที่หมดสติและหัวใจวายฉับพลันขณะเล่นกีฬา ขั้นตอนการใช้เครื่อง AED -เปิดเครื่อง AED ติดแผ่นแพดแผ่นแรกที่หน้าอกตอนบน และแผ่นที่สองที่หน้าอกตอนล่าง (ทำตามคำแนะนำบนเครื่อง) ให้เครื่องวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจ ห้ามสัมผัสผู้ป่วยระหว่างนี้ -หากเครื่องแนะนำให้กดปุ่ม “Shock” ให้กดปุ่มนี้โดยห้ามสัมผัสผู้ป่วย และทำ CPR ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที -หากเครื่องแนะนำว่า “สามารถสัมผัสผู้ป่วยได้” ให้ทำ CPR ทันที ควรทำ CPR อย่างต่อเนื่อง จนกว่าเครื่องจะเริ่มวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจอีกครั้ง ทุกนาทีที่ผ่านไปมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรอดชีวิต
    wararat.bs
     •  1 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    *หลีกเลี่ยงการตายกะทันหันในตอนกลางคืน แบ่งปันโดยแพทย์ ... *สำหรับผู้ที่ตื่นนอนตอนกลางคืนเพื่อตรวจบ้านหรือปัสสาวะ *คุณจะต้องทำตามคำแนะนำ "สาม ครึ่งนาที" นี้ เพราะมันสำคัญ "สามครึ่งนาที" จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตกะทันหันได้อย่างมาก *บ่อยครั้ง บุคคลที่ยังดูมีสุขภาพดีต้องเสียชีวิตในตอนกลางคืน เรามักจะได้ยินเรื่องราวของคนพูดว่า: "เมื่อวานฉันคุยกับเขา ทำไมเขาถึงตายกะทันหัน? เหตุผลก็คือ เวลาตื่นนอนตอนกลางคืนเพื่อไปเข้าห้องน้ำมักจะทำอย่างรีบร้อน สมองไม่มีการไหลเวียนของเลือด "สาม ครึ่งนาที" จึงสำคัญมาก *ในช่วงกลางดึก เมื่อปวดปัสสาวะ ร่างกายปลุกคุณให้ตื่นขึ้น รูปแบบคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะเปลี่ยนไป เพราะเมื่อลุกกระทันหัน สมองเปลี่ยนระดับ โลหิตขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่ทัน จะเสียการทรงตัว ทำให้ล้ม บาดเจ็บ และอาจทำให้หัวใจล้มเหลวเนื่องจากขาดเลือด *ขอแนะนำให้คุณฝึก "สาม ครึ่งนาที" ซึ่งได้แก่: 1.เมื่อคุณตื่นจากหลับ ให้นอนบนเตียงเป็นเวลาครึ่งนาทีแรก 2.นั่งบนเตียงอีกเป็น ครึ่ง นาทีที่ 2 3.ลดขาของคุณนั่งบนขอบเตียงอีก เป็นครึ่งนาทีสุดท้าย หลังจากผ่านไป "สามครึ่งนาที" คุณจะไม่มีสมองขาดเลือดและหัวใจจะไม่ล้มเหลว ลดโอกาสที่หกล้มและเสียชีวิตกะทันหัน *แบ่งปันให้กับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่คุณรัก มันสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงอายุ หนุ่มหรือแก่ *พยายามส่งสิ่งสำคัญนี้ไปให้ทุกกลุ่มของคุณ *แล้วคุณและคนในครอบครัวของคุณควรปฏิบัติตามด้วย.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนทุกกรณี..! ความเพียรของคุณฉลาดและระมัดระวังตนเองอย่างถูกวิธี ด่วน!... FDA (อย.สหัฐ) และ Pfizer แพ้คดี ไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนให้เปิดเอกสารผลข้างเคียง 9 หน้า ทั่วโลกตกตะลึง !... เนื่องด้วยคำตัดสินของศาล ทำให้บริษัทผู้ผลิตพัฒนาวัคซีน Pfizer จะต้องรายงาน ซึ่งเดิมทีมีกำหนดจะนำข้อมูลออกให้ประชาชนรู้ในปี 2085 คืออีก 63 ปีข้างหน้า รายงานนี้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร PHPMPT ฟ้อง FDA ในเขต Northern District of Texas เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว โดยตั้งคำถามกับ FDA เรื่องการปกปิดข้อมูลจริงเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนต่อมนุษย์จากบริษัทยาเช่น ไฟเซอร์ FDA ได้ปฏิเสธว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 55 ปี ในการเปิดเผยตามกฎหมาย แต่ตอนรับเรื่องจากบริษัท Pfizer และอนุมัติ ใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ ดังนั้น ด้วยการพ่ายแพ้ต่อศาลนี้ จึงทำให้บริษัท Pfizer จะต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะเป็นชุดๆ หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาให้ FDA แพ้คดี (ไม่งั้นก็เข้าคุก) นี่เป็นผลข้างเคียงของวัคซีน (Vaccine Side Effect) ที่เผยแพร่ครั้งแรกต่อสายตาชาวโลก ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้าไปแล้ว ไม่มีทางแก้ไข รอผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดกับบุคคล เพราะในเอกสารข้อมูลระบุชัดว่า ทางบริษัท Pfizer ได้ใส่เชื้อไวรัส อันก่อให้เกิดโรคเข้าไป เพื่อให้ประชาชนเจ็บป่วย เพื่อจะได้ขายยารักษาโรคนั้นๆ ในอนาคต ไวรัสที่ผสมในวัคซีนและฉีดให้ผู้คนได้แก่ ไวรัสที่กระตุ้นโรค ดังนี้ - โรคลูปัสผิวหนังเฉียบพลัน, - โรคไข้สมองอักเสบเฉียบพลัน, - การบาดเจ็บที่ไตเฉียบพลัน, - จอประสาทตา macular ภายนอกเฉียบพลัน, - cardiomyopathy เฉียบพลัน, - ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน, - vasculitis บริเวณที่ฉีด, - อาการชัก, - ผมร่วงเป็นหย่อมๆ, - อาการช็อกจากภูมิแพ้, - แอนาฟิแล็กซิสของการตั้งครรภ์, - โรคโลหิตจางชนิดอะพลาสติก, - ภาวะโรคลิ่มเลือด, - หัวใจเต้นผิดจังหวะ หอบหืด, - หลอดลมหดเกร็ง, - หัวใจหยุดเต้น, - หัวใจล้มเหลว, - ไม่สบายแน่นหน้าอก, สำลัก, -glomerulonephritis แพ้ภูมิตัวเองเรื้อรัง, - โรคลูปัสผิวหนังเรื้อรัง erythematosus, - ลมพิษที่เกิดขึ้นเองเรื้อรัง, - โรคโลหิตจาง hemolytic, - อาการลำไส้ใหญ่บวม, - โรคผิวหนัง, - โรคเบาหวาน, - งูสวัดกระจาย, - เส้นเลือดอุดตันในสมอง, - ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ, - อาการคัน, ตาบวม, - ใบหน้าอัมพาต, - เริมที่อวัยวะเพศ, - อัมพาตเส้นประสาท - glossopharyngeal, - vasculitis ริดสีดวงทวาร, - ปากมดลูกอักเสบ, - โรคลูปัส โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ, - โรคลูปัส โรคไข้สมองอักเสบ, - หลายเส้นโลหิตตีบ, - myasthenia gravis ทารกแรกเกิด, - โรคไขข้อ, - โรคหูน้ำหนวกไม่ติดเชื้อ, - ไทรอยด์อักเสบ, - โรคตับอักเสบ... ตัวอย่างไวรัสดังกล่าวยังไม่หมด นี้เป็นเพียงข้อมูล 10 แผ่นที่เปิดเผยออกมาจากทั้งหมด 85,000 แผ่น ที่จะทะยอยออกมาตามคำสั่งของศาล เชื้อไวรัสที่ผสมในวัคซีน ดังปรากฏข้างต้นมีปฏิกิริยามากกว่าหนึ่งพันแบบ ไม่จำกัดเฉพาะผลข้างเคียง/อาการไม่สบายกายที่หลายคนจะมี เป็นพฤติกรรมทางเลือกที่ทำร้ายตัวเองเพราะกลัว... จากการทดสอบ 46,000 คน 42,000 คนมีอาการไม่พึงประสงค์ ! เสียชีวิต 1,200 ราย CR :: AFP, Reuter, CNN
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ปั้มหัวใจกู้ชีพ (CPR) กับตัวเอง โปรดสละเวลา 2 นาทีอ่านข้อมูลนี้:
    ปั้มหัวใจกู้ชีพ (CPR) กับตัวเอง โปรดสละเวลา 2 นาทีอ่านข้อมูลนี้: 1. สมมุติว่าเป็นเวลา 19.25 น. คุณกำลังกลับบ้านตามลำพังคนเดียวหลังจากทำงานหนักเป็นพิเศษมาแล้วทั้งวัน 2. คุณอ่อนล้า อารมณ์ก็ไม่ดี 3. คุณรู้สึกปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน เริ่มที่น่าอก ลามลงไปที่แขน แล้วย้อนกลับขึ้นไปที่ขากรรไกร คุณอยู่ห่างจากโรงพยาบาลใกล้บ้านที่สุดประมาณ 5 ก.ม. 4. โชคร้ายที่คุณไม่รู้ว่าจะไปถึงหรือไม่ 5. คุณผ่านการฝึกให้เป็นนักปั้มหัวใจกู้ชีพ (CPR) แต่ครูไม่ได้สอนวิธีทำกับตัวเอง 6. คุณจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไรถ้าอยู่คนเดียว เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่เผชิญภาวะหัวใจล้มเหลวขณะที่อยู่ตามลำพังโดยไม่มีคนช่วย คนที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะและเริ่มรู้สึกจะเป็นลมมีเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้นก่อนที่จะหมดสติ 7. อย่างไรก็ตาม ผู้ตกเป็นเหยื่ออาการดังกล่าวสามารถช่วยตัวเองได้โดยไอแรง ๆ และถี่ ๆ ก่อนไอให้หายใจเข้ายาว ๆ ลึก ๆ แบบเดียวกับเวลาจะขากเสมหะหรือเสลด การหายใจเข้าแรง ๆ สลับขากเสมหะต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกสองวินาทีจนกว่าจะมีคนมาช่วยหรือเมื่อรู้สึกว่าหัวใจเต้นเป็นปกติ 8. การหายใจเข้าแรงและลึกทำให้อ๊อกซิเจนเข้าไปในปอด อาการไอบีบหัวใจและช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต การนวดห้วใจช่วยให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติเพื่อผู้ป่วยจะได้ไปถึงโรงพยาบาลทันท่วงที 9. โปรดบอกต่อให้ทราบทั่วกัน คุณอาจช่วยชีวิตพวกเขาได้ 10. แพทย์โรคหัวใจบอกว่า ใครก็ตามที่ได้รับข้อความนี้ โปรดส่งต่อให้เพื่อน 10 คน รับรองได้ว่าคุณจะช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อย่างน้อย 1 ชีวิต 11. แทนที่จะส่งเรื่องขำขัน... โปรดส่งข้อมูลนี้ ซึ่งสามารถช่วยชีวิตคนได้ 12. ถ้าข้อมูลนี้มาถึงคุณมากกว่า 1 ครั้ง โปรดอย่าเสียอารมณ์... คุณควรมีความสุข ที่คุณมีเพื่อนผู้หวังดีที่คอยพร่ำเตือนคุณว่าต้องทำอย่างไรถ้าหัวใจเกิดล้มเหลว เพื่อน ๆ ช่วยกันหน่อยรู้แล้วก็ช่วยแชร์ต่อ เราสามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้เป็นกุศล !!!
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    นักวิจัยในเยอรมนีและนอร์เวย์ ทำการศึกษาและค้นพบว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ (A+) มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด-19 สูงกว่า และมีอาการรุนแรงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น ๆ จริงหรือคะ
    จากการวิจัยพบว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ป เอ จะมีโอกาสสูงกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่นถึง 45% ที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลว ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขามีโอกาสสูงที่จะต้องการออกซิเจน หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษาโควิด-19 และข้อมูลนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้กับทีมหมอและพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพราะสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 คือ ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหายใจล้มเหลว มีอาการติดเชื้อในปอด หรือกลุ่มที่มีอาการหายใจไม่ออกเฉียบพลัน ในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับในประเทศไทย เลือดกรุ๊ปเอเป็นหมู่โลหิตที่มีมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งจากการศึกษาชิ้นนี้พบกว่าคนเลือดกรุ๊ปโอ กลับมีโอกาสที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลวจากโควิด-19 น้อยกว่าหมู่เลือดอื่นๆ ถึง 35% ผลจากรายงานนี้คล้ายกับการศึกษาก่อนหน้านี้ในจีนและสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ จะมีโอกาสติดโควิด-19 มากกว่ากรุ๊ปโอ อีกด้วย จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    #​ กรุณาอ่านให้จบฉีดวัคซีน​ไปแล้วแก้ไขไม่ได้ส่งให้ญาติด้วย... (ฉีดยา) ใครที่ยังไม่ฉีดถือว่ายังโชคดี... * ศาลฎีกายกเลิกการฉีดวัคซีนถ้วนหน้า * ในสหรัฐอเมริกาศาลฎีกาได้ยกเลิกการฉีดวัคซีนสากล Bill Gates หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ Fauci แห่งสหรัฐอเมริกาและ Big Pharma แพ้คดีในศาลสูงสหรัฐโดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวัคซีนทั้งหมดของพวกเขาในช่วง 32 ปีที่ผ่านมาปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน! คดีดังกล่าวยื่นฟ้องโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยวุฒิสมาชิกเคนเนดี Robert F.Kennedy Jr .:“ เราควรหลีกเลี่ยงวัคซีนการฉีดวัคซีน COVID ใหม่ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ฉันขอให้คุณให้ความสนใจอย่างเร่งด่วนในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ครั้งต่อไป เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการฉีดวัคซีน วัคซีน mRNA รุ่นล่าสุดแทรกแซงโดยตรงกับสารพันธุกรรมของผู้ป่วย ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการตัดแต่งพันธุกรรม ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่แล้วและก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเป็นอาชญากรรมด้วย ระวัง !!! VACCINE โคโรนาไวรัส ไม่ใช่ VACCINE! วัคซีนคืออะไร? มันก็คือเชื้อโรคนั่นเอง - จุลินทรีย์หรือไวรัสที่ถูกฆ่าหรือลดทอนลงนั่นคือทำให้มันอ่อนแอลง - และถูกนำเข้าสู่ร่างกายเพื่อผลิตแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันโรค แต่วัคซีนโคโรนา มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะซิ! มันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม mRNA (mRNA) ใหม่ล่าสุดที่ถูกเรียกว่าเป็น "วัคซีน" เมื่อมันเข้าไปอยู่ภายในเซลล์ของมนุษย์ mRNA จะเปลี่ยนโปรแกรม RNA / DNA ปกติซึ่งจะเริ่มสร้างโปรตีนอื่น มันไม่ใช่วัคซีนแบบดั้งเดิม! นั่นก็คือมันเป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลทางพันธุกรรม มันคือ อาวุธทางพันธุกรรม! พวกมันจะทำลายจากภายในและผู้รอดชีวิตจะกลายเป็นคนที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO หลังจากที่เราได้รับวัคซีน mRNA ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้ที่ถูกฉีดวัคซีนจะไม่สามารถรักษาอาการของวัคซีนได้อีกต่อไป ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องทำใจกับผลที่ตามมาเพราะพวกเขาจะไม่สามารถรักษาให้หายได้อีกต่อไปโดยการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายมนุษย์ เช่นเดียวกับคนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมเช่น พวกดาวน์ซินโดรม Klinefelter syndrome, Turner syndrome, ภาวะหัวใจล้มเหลวทางพันธุกรรม , ฮีโมฟีเลีย, ซิสติกไฟโบรซิส, Rett syndrome ฯลฯ ) เพราะพันธุกรรมจะบกพร่องตลอดไป! นี่หมายความอย่างชัดเจนว่า: หากอาการของการฉีดวัคซีนพัฒนาขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน MRNA ทั้งฉันและนักบำบัดคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถช่วยคุณได้เพราะ ความเสียหายทางพันธุกรรมที่เกิดจากการฉีดวัคซีนจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้เลย การฉีดวัคซีน - คือ​ อาวุธฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งศตวรรษที่ 21 Mike Yeedon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ไฟเซอร์แสดงจุดยืนอีกครั้งว่า ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้วที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดสารที่เรียกกันว่า "วัคซีนโควิด -19" เขาสนับสนุนให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดยาพิษนี้ให้ต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขา ชีวิตลูก ๆ และคนรอบข้าง นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติกล่าวต่อไปถึงกระบวนการที่เขาบอกว่าจะฆ่าคนส่วนใหญ่: “ ทันทีหลังการฉีดวัคซีนครั้งแรกประมาณ 0.8% ของผู้คนเสียชีวิตภายในสองสัปดาห์. อายุขัยเฉลี่ยของผู้รอดชีวิตจะอยู่ที่สูงสุดสองปี แต่ก็จะลดลงด้วยเมื่อ "ฉีด" ใหม่แต่ละครั้ง " นอกจากนี้ วัคซีนยังคงได้รับการพัฒนาเพื่อทำให้อวัยวะบางส่วนเสื่อมสภาพรวมทั้งหัวใจปอดและสมอง หลังจากสองทศวรรษที่ Pfizer ศาสตราจารย์ Yedon คุ้นเคยกับหน้าที่และเป้าหมายการวิจัยและการพัฒนาของ Pfizer ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรมและกล่าวว่าเป้าหมายสูงสุดของระบบ "การฉีดวัคซีน" ในปัจจุบันเป็นเหตุการณ์ที่มีผล กระทบต่อประชากรทุกชาติพันธ์จำนวนมหาศาลที่จะทำให้สงครามโลกที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเหมือนแค่การ์ตูน มิคกี้เม้าส์ “ ผู้คนหลายพันล้านคนต้องถูกตัดสินให้ต้องเสียชีวิตอย่างเจ็บปวดและหลีกเลี่ยงไม่ได้. ทุกคนที่ได้รับการฉีดยาจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และประเมินว่าพวกเขาจะอยู่รอดได้ไม่เกิน เราอยู่ใน Telegram: 👉 t.me/nastikatube 🔥
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สารโอเลอันดริน ที่พบในดอกยี่โถ สามารถใช้รักษาโควิด ได้ จริงหรือ
    มีการวิจัย สาร โอเลอันดริน เป็นสารเคมีที่พบในยี่โถซึ่งเป็นไม้พุ่มไม้ดอกประดับหรือต้นไม้ขนาดเล็ก มันคือไกลโคไซด์เกี่ยวกับการเต้นของหัวใจซึ่งเป็นสารเคมีที่สามารถเพิ่มความเร็วและแรงในการหดตัวของหัวใจ คุณสมบัตินี้ได้รับการควบคุมในยาดิจอกซินซึ่งเป็นสารเคมีที่คล้ายคลึงกันซึ่งได้มาจากพืชฟ็อกโกลฟ Digoxin เป็นยาที่ได้รับอนุญาตซึ่งยังคงใช้เป็นครั้งคราวในการรักษาปัญหาจังหวะการเต้นของหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว อย่างไรก็ตามผู้ที่รับประทานยานี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์เนื่องจากอาจทำให้เกิดพิษและผลเสียที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ ข่าวดังกล่าวติดตามผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าโอเลแอนดรินฆ่าไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิด COVID ในห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อไวรัสยังไม่ได้รับการทดสอบในสัตว์ซึ่งมีน้อยกว่าในมนุษย์มาก จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    👉..คนที่ตื่นรู้ ย่อมรู้..จงศึกษาให้ดี ก่อนจะฉีด..สำหรับคนที่ลงทะเบียนไว้ ถอนตัวยังทัน..🙏👇🙏 โปรดอ่าน "ศาลฎีกาได้ยกเลิกการฉีดวัคซีนสากลในสหรัฐอเมริกา ศาลฎีกาได้ยกเลิกการฉีดวัคซีนสากล Bill Gates, Fauci หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ แห่งสหรัฐอเมริกา และ Big Pharma แพ้คดีในศาลสูงสหรัฐ โดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวัคซีนทั้งหมดของพวกเขาในช่วง 32 ปีที่ผ่านมา ปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน! คดีถูกฟ้องโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยวุฒิสมาชิกเคนเนดี Robert F.Kennedy Jr. : " ควรหลีกเลี่ยงวัคซีน COVID ใหม่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ฉันขอให้คุณให้ความสนใจอย่างเร่งด่วนในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ครั้งต่อไป เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการฉีดวัคซีนวัคซีน mRNA รุ่นล่าสุด จะรบกวนสารพันธุกรรมของผู้ป่วยโดยตรง ดังนั้นจึงเปลี่ยนสารพันธุกรรมแต่ละชนิดซึ่งเป็นการตัดแต่งพันธุกรรม ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่แล้วและก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นอาชญากรรม ไวรัสโคโรนา VACCINE ไม่ใช่ VACCINE! น่าสนใจ! วัคซีนคืออะไร? มันเป็นเชื้อโรคเสมอ - จุลินทรีย์หรือไวรัสที่ถูกฆ่าหรือลดทอน นั่นคืออ่อนแอลง - และถูกนำเข้าสู่ร่างกายเพื่อผลิตแอนติบอดี ไม่มีแม้แต่วัคซีนโคโรนา! เธอไม่ว่าเลย! มันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม mRNA (mRNA) ใหม่ล่าสุด ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "วัคซีน" เมื่ออยู่ในเซลล์ของมนุษย์ mRNA จะสร้างโปรแกรม RNA/ DNA ตามปกติซึ่งจะเริ่มสร้างโปรตีนอื่น นั่นคือไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวัคซีนแบบเดิม! นั่นคือมันเป็นเครื่องมือของอิทธิพลทางพันธุกรรม อาวุธยีน! นั่นคือพวกมันกำลังจะทำลายจากมนุษย์ต่างดาวและผู้รอดชีวิตจะกลายเป็นจีเอ็มโอ! หลังจากได้รับวัคซีน mRNA ที่ไม่เคยมีมาก่อน การฉีดวัคซีนจะไม่สามารถรักษาอาการของวัคซีนได้อีกต่อไป ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องทำใจกับผลที่ตามมาเพราะไม่สามารถรักษาให้หายได้อีกต่อไป โดยการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายมนุษย์เช่นเดียวกับคนที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมเช่นดาวน์ซินโดรม Klinefelter syndrome, Turner syndrome, โรคหัวใจล้มเหลว , ฮีโมฟีเลีย, ซิสติกไฟโบรซิส, Rett syndrome ฯลฯ ) เพราะพันธุกรรมบกพร่องตลอดไป! นี่หมายความอย่างชัดเจนว่า : หากอาการของการฉีดวัคซีนพัฒนาขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน mRNA ทั้งฉันและนักบำบัดคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถช่วยคุณได้ เพราะความเสียหายที่เกิดจากการดูดจะไม่สามารถย้อนกลับได้โดยกำเนิด ❗การฉีดวัคซีน - อาวุธแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งศตวรรษที่ 21 Mike Yeedon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ไฟเซอร์แสดงจุดยืนอีกครั้งว่า ตอนนี้สายเกินไปที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดสารที่เรียกว่า "วัคซีนโควิด -19" ต่อสาธารณะ เขาสนับสนุนให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดยาพิษให้ต่อสู้เพื่อชีวิตคนรอบข้างและชีวิตของลูกๆ นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติกล่าวต่อไปถึงกระบวนการที่เขาบอกว่าจะฆ่าคนส่วนใหญ่ "ทันทีหลังการฉีดวัคซีนครั้งแรกมีคนประมาณ 0.8% เสียชีวิตภายในสองสัปดาห์ของอายุขัยเฉลี่ย ... ที่มา : PROJECT CAMELOT #Poonpavee Nikki 31/05/2021
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "เหลียวพม่า มองไทย" ย้อนศึกษาประวัติศาสตร์ ช่วยบอกปัจจุบันและอนาคต ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวตะวันตกรู้จักและมีความสนใจแค่ 2 มหาอำนาจในดินแดนตะวันออกไกล ซึ่งก็คืออินเดียและจีน เท่านั้น จุดเริ่มต้นจริงๆ ที่ทำให้ประเทศในดินแดนในแหลมอินโดจีนโดนคุกคาม นั้นมาจากพม่าที่เริ่มต้นไปกระตุกหนวดเสือ เพราะพม่าคิดว่าตัวเองเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลอยู่ในแถบนี้ จึงส่งกองทัพไปบุกโจมตีเพื่อจะขยายอำนาจเข้าไปในเบงกอล ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐอิสระในเขตอิทธิพลของอังกฤษในอินเดีย แต่สงครามจบลงด้วยการพ่ายแพ้อย่างยับเยินของพม่า และที่สำคัญคือการทำให้อังกฤษสนใจจะขยายอำนาจจากอินเดียที่ตนครอบครองอยู่แล้ว เข้ามาสู่พม่าและดินแดนถัดไปในแหลมอินโดจีน ที่มีไทยอยู่ในจุดศูนย์กลาง ก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ พม่าคือชาติมหาอำนาจในดินแดนแถบนี้ แล้วเวลาผ่านไปพม่าก็เริ่มเสื่อมลง แต่พม่ายังคงเข้าใจว่าตัวเองยิ่งใหญ่ เมื่ออังกฤษมีอำนาจเหนืออินเดีย พม่าจึงลองของ หวังจะแสดงฤทธานุภาพ เช่นเดียวกับจีน ที่ ณ เวลานั้นความยิ่งใหญ่จากยุคที่เคยเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกในอดีต ทำให้จีนยังคงลำพอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยพัฒนาอะไรใหม่ขึ้นมาเลย ผิดกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมสำเร็จ จนเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยี เมื่ออังกฤษมาถึง ทั้งจีนและพม่าจึงพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เพราะประเมินตัวเองสูง แต่ประเมินอังกฤษไว้ต่ำ ในขณะที่ไทยเรา หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก แล้วสมเด็จพระเจ้าตากสินมากู้แผ่นดิน ตามต่อมาด้วยพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ตั้งใจทะนุบำรุงบ้านเมือง จากรัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 5 ที่เป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเริ่มขยายอำนาจมาถึง ไทยก็เป็นประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียไปแล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 4 บวชเรียนอยู่หลายสิบปี ศึกษาศิลปวิทยาทั้งไทยและเทศ จนเป็นปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เมื่อขึ้นครองราชสมบัติก็จ้างฝรั่งมาทำงาน รวมทั้งจ้างฝรั่งมาสอนภาษาและศิลปวิทยาการสมัยให้กับพระราชโอรสและพระราชธิดา ข้าราชบริพาร เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 ครองราชย์ และมีอำนาจเต็มเมื่อพระชนมพรรษา 20 ก็ทรงรอบรู้ศิลปวิทยาการสมัยใหม่เรียบร้อยแล้ว จนมีหลักฐานบันทึกไว้ว่า ทรงได้รับการยกย่องจากชาติตะวันตก ว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่สมาร์ทที่สุดในเอเชีย สมาร์ทในที่นี้หมายถึง ความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ รวมทั้งหมายถึงการแต่งกายและการเข้าสังคมแบบชาวตะวันตก ทรงไม่ได้รับมือ มหาอำนาจของโลกด้วยการทหาร อย่างจีนและพม่า แต่ทรงใช้วิธีพัฒนาประเทศและบุคลากรให้ทันสมัยเทียมหน้าฝรั่ง รวมทั้งทรงใช้ทูตเป็นเครื่องมือในการต่อกรกับมหาอำนาจฝรั่ง ความสามารถทางการทูตของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ชัด ทั้งการเดินทางไปเจรจาทางการทูตด้วยพระองค์เอง และทั้งส่งพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการเป็นตัวแทนพระองค์ วันที่พม่าเสียเมือง คณะราชทูตไทย และคณะราชทูตพม่าอยู่ที่อังกฤษเรียบร้อยแล้ว แต่พม่าเดินเกมส์การเมืองผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ยากจะเยียวยา วันนั้น คณะราชทูตพม่า ประเทศที่เคยเป็นศัตรูสู้รบกันมาหลายร้อยปี ยังไม่ทันมีโอกาสจะเข้าเจรจาการทูต เพราะพม่าเสียเมืองให้อังกฤษไปเสียก่อนแล้ว จึงมาขอเข้าพบเพื่อปรับทุกข์กับคณะราชทูตของไทย คณะราชทูตพม่าต้องมานั่งร้องไห้เสียใจกับคณะราชทูตของไทย กับการเสียเมืองในคราวนั้น ในอดีต พม่าประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ กว่า 135 ชนชาติ จนกระทั่งตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และได้แบ่งการปกครองในพม่าออกเป็น 2 ส่วน คือ เขตพม่าแท้และเขตภูเขา โดยเขตพม่าแท้อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เขตภูเขามี 7 รัฐ คือ ฉาน กะเหรี่ยง มอญ กะยา กะฉิ่น ชิน ยะไข่ โดยเฉพาะ “รัฐฉาน” มี 34 เมืองแต่ละเมืองมีเจ้าฟ้าปกครองดูแล รัฐฉาน หรือเมืองไต เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศพม่า ภูมิประเทศเป็นผืนป่าและภูเขาสูง เป็นรัฐที่ร่ำรวยไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่ในอดีตเรื่อยมาจนถึงปี 2502 รัฐฉานได้ปกครองด้วยระบบเจ้าฟ้า หรือคล้ายๆ กับเจ้าเมืองปกครอง โดยเจ้าฟ้าสืบทอดเชื้อสายในตระกูล ในบันทึกประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมของอังกฤษ รัฐฉานมีเจ้าฟ้าปกครองทั้งสิ้น 34 หัวเมือง อังกฤษบอกว่าถ้าต้องการได้รับเอกราชจากอังกฤษ ต้องรวมการปกครองให้เป็นหนึ่งเดียวเสียก่อน เขตพม่าแท้จึงชักชวนเขตภูเขาให้มารวมตัวเป็นประเทศเดียวกันเป็นการชั่วคราว หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายพลอองซาน บิดาของนางอองซาน ซูจี ได้หันมาโน้มนาวให้รัฐต่างๆ รวมถึงรัฐฉานร่วมกับพม่าเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ ด้วยความที่ไม่เชื่อใจพม่ามาตั้งแต่ต้น ทางเจ้าฟ้าจึงได้ขอให้มีการทำข้อตกลงกันไว้ที่เมืองป๋างโหลง ทางใต้ของรัฐฉานเมื่อปี 2490 ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า “สัญญาป๋างโหลง” ซึ่ง 1 ใน 9 ข้อตกลงนั้นระบุไว้ว่า หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษและอยู่ร่วมกับพม่าครบ 10 ปี รัฐฉาน รัฐชินและรัฐคะฉิ่นที่เข้าร่วมลงนามสัญญาป๋างโหลงมีสิทธิ์แยกตัวออกจากพม่าไปตั้งประเทศได้ตามที่ต้องการ ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของพม่าก็มีการเขียนไว้ด้วยว่า ‘รัฐฉานสามารถเป็นอิสระจากพม่าได้ในปี 2501’ หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐต่างๆ และพม่าได้รวมตัวก่อตั้งเป็นสหภาพพม่าขึ้น มีประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและใช้ระบบสภา แต่อาจกล่าวได้ว่า การรวมกันเป็นสหภาพนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากแนวคิดของนายพลอองซาน มาตั้งแต่ต้น แต่มาจากริเริ่มของเจ้าฟ้าไทใหญ่ ที่พยายามก่อตั้งสหภาพขึ้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ 2488 โดยในตอนแรกมีแนวคิดจะร่วมกับรัฐคะฉิ่นและรัฐชิน แต่ไม่รวมกับพม่า หลังจากพม่ารวมประเทศ "เจ้าฟ้าส่วยแต๊ก" แห่งเมืองหย่องห้วย (ยองห้วย) รัฐฉาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของพม่า มีนายอองซานได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมานายอองซานถูกลอบสังหาร นายอูนุจึงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ จนกระทั่งครบ 10 ปี รัฐต่าง ๆ จึงขอแยกตัวเป็นอิสระตามข้อตกลงใน “สัญญาปางโหลง” แต่นายอูนุ ไม่ยอมเนื่องจากกลัวว่าจะสูญเสียรายได้จำนวนมากที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติในดินแดนของรัฐต่างๆ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง ความพยายามขอแยกตัวออกมาจากพม่ายังไม่ประสบความสำเร็จ ในปี 2502 เจ้าฟ้าถูกขอให้สละอำนาจ ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกับพม่า แต่ความไม่ชอบมาพากลเริ่มเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อกองทัพพม่าได้ส่งทหารพม่าเข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆ ของรัฐฉาน โดยใช้ข้ออ้างเข้ามาปราบปรามทหารก๊กมินตั๋งที่ถอยร่นมาจากประเทศจีน แต่ฝันร้ายที่สุดของรัฐฉานเกิดขึ้นจนได้ในปี 2505 เมื่อนายพลพม่านามว่า ‘เนวิน’ ได้ยึดอำนาจและปกครองประเทศโดยระบอบเผด็จการทหาร จากความอ่อนแอของรัฐบาลชุดนายอูนุ ทำให้นายพลเนวิน ผู้บัญชาการทหารบกของพม่าขณะนั้น ปฏิวัติยึดอำนาจในปี พ.ศ.2505 ประกาศยุบสภา ส่งผลให้สัญญาปางโหลงกลายเป็นโมฆะไป บรรดาพระเทวี เจ้าชาย เจ้าหญิง ตามเมืองต่างๆ จึงต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น หลังจากการรัฐประหาร บรรดาเจ้าถูกกวาดล้างและถูกควบคุมในวัง จะไปไหนอย่างไรต้องรายงานทหารและถูกควบคุม หลังเนวินยึดอำนาจในปี 2505 เจ้าฟ้าเมืองต่างๆ ทุกพระองค์ถูกยึดทรัพย์ และถูกจับกุมตัวไปคุมขังไว้ที่คุกอินเส่ง ในย่างกุ้งเป็นเวลานานเกือบนับ 10 ปีในฐานะนักโทษทางการเมือง เจ้าฟ้าบางพระองค์สิ้นพระชนม์ในคุก หนึ่งในนั้นคือเจ้าฟ้าส่วยแต้ก แห่งเมืองหยองห้วยที่สิ้นพระชนม์จากโรคหัวใจล้มเหลว หลังอยู่ในคุกนานกว่า 8 เดือน เจ้าส่วยแต้กดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศพม่า ในหนังสือ ‘The White Umbrella’ ได้กล่าวไว้ว่า ในงานพิธีศพของเจ้าส่วยแต้กที่จัดขึ้นที่วังหยองห้วยนั้น มีประชาชนจำนวนมาก ทั้งชาวไทใหญ่ ชาวพื้นเมืองที่เดินเท้ามาจากภูเขาอันห่างไกลเป็นเวลาหลายวันเพื่อมาเคารพศพของเจ้าส่วยแต้กเป็นครั้งสุดท้าย ภาพของผู้คนจำนวนมากที่มาร่วมงานศพของเจ้าฟ้าองค์นี้กลายเป็นภาพที่แสดงออกถึงการต่อต้านไม่ยอมรับกองทัพพม่าโดยปราศจากอาวุธ เป็นงานศพเจ้าฟ้าที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นในรัฐฉาน อีกหนึ่งเจ้าฟ้าที่ชีวิตพลิกผันนั่นคือ ‘เจ้าจายหลวงแห่งเมืองเชียงตุง’ เมืองใหญ่สำคัญอันดับต้นๆ ของรัฐฉาน เจ้าจายหลวงที่สำเร็จการศึกษามาจากต่างประเทศและเพิ่งได้ขึ้นบริหารเมืองเชียงตุงเพียง 15 ปี ถูกเนวินจับคุมขังเป็นเวลา 6 ปี ที่คุกอินเส่ง มรสุมชีวิตของท่านยังไม่จบแค่นั้น ถึงแม้ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเชียงตุง ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ย่างกุ้งจนวาระสุดท้าย เจ้าจายหลวงวัย 70 ปี สิ้นพระชนม์ที่ย่างกุ้งเมื่อปี 2540 โดยไม่มีโอกาสได้เห็นบ้านเกิด ปิดฉากเจ้าฟ้าองค์สุดท้ายแห่งเชียงตุง รัฐฉานน้อยใหญ่ทางตอนเหนือของพม่า ที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเป็นพม่า ได้นัดแนะจะรวมชาติเป็นสหภาพแห่งรัฐฉาน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของพม่า ที่ขอให้รัฐฉานมารวมกับพม่า เป็นสหภาพพม่า เพื่อรวมกำลังเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษก่อนแล้วค่อยแยกประเทศ แต่เมื่อได้เอกราชจากอังกฤษ พม่าก็หักหลัง ฉีกสัญญาที่จะให้รัฐฉานเป็นอิสระ ตอนจบของเรื่องนี้ พม่าเสียเมือง สิ้นแสงฉาน แต่สยามยังอยู่ยั้งยืนยงคงเอกราชเอาไว้ได้จนถึงปัจจุบันนี้ ก็เพราะพระบารมี พระปรีชาสามารถ และพระวิริยอุตสาหะในการทนุบำรุงชาติและประชาชนของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ เกิดเป็นไทยแล้ว ต้องรู้คุณแผ่นดิน ต้องรู้คุณพระมหากษัตริย์ไทย อย่าได้ให้ใครมาทำร้ายลูกหลานเหลนโหลนของราชวงศ์จักรี ที่ทุ่มเททุกอย่างให้คนไทยมีแผ่นดินอยู่ เหลียวดูพม่าแล้ว มองกลับมาที่ไทยเรา ใครที่หลอกคนไทย ว่าไทยไร้ซึ่งอิสรภาพ เสรีภาพและความเสมอภาค ถึงแม้ว่าเราจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา แต่เราคือหนึ่งในอันดับต้นๆ ของประเทศที่กำลังพัฒนา และเราคือประเทศที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในแหลมทองอินโนจีนแห่งนี้ ประชาชนชาวพม่า ลาว กัมพูชา ผู้น่าสงสารนั้น บ้านเมืองเคยผ่านความไม่สงบสุข เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจนั้นถูกทำลาย จนถึงทุกวันนี้พม่า ประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และทรัพยากรมากมายมหาศาลยังคงไม่เคยได้รับการพัฒนา เพราะการเมืองที่ขาดคนกลาง อย่างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจอย่างที่คนไทยมี และถึงแม้จะเปลี่ยนทั้งเมืองหลวงและชื่อประเทศมาหลายครั้ง ก็ยังคงมีปัญหาการเมืองไม่สิ้นสุด ทุกวันนี้เราพบชาวพม่าต้องทิ้งถิ่นที่อยู่ออกมาขายแรงงานอยู่ทั้วไทย แต่ถ้าเรายังขาดสติและปัญญา ปล่อยให้นักการเมืองที่หวังเพียงผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องหลอกลวง ส้กวันเราอาจจะเป็นอย่างพม่า ใช้สติและปัญญาทบทวนให้ดีๆ ว่าใครหวังดี ใครหวังร้ายต่อชาติและประชาชน อัษฎางค์ ยมนาค #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ทุกๆคนต้องรู้นะคะ..เตือนกันอีกทีค่ะ!!!#ร้อนจนตาย Heat stroke (ลมแดด) อาการเป็นอย่างไร สังเกตตัวเอง หรือ #ช่วยชีวิตอย่างไร แดดแรงเปรี้ยง ๆ อยู่ ๆ เขาล้มลง #หมดสติ หลายคนวิ่งไปดู ต่างเอายาดมมาอังจมูก บ้างมาบีบนวด พยายามช่วย เขาไม่ฟื้น . หัวใจเขาหยุดเต้น และเสียชีวิต ทุกคนช็อค เพราะก่อนหน้านี้ เขาดูแข็งแรงดี เป็นนักกีฬา ยังวิ่งเหยาะ ๆ #ไม่มีโรคประจำตัว อะไร ตายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นี่แหละ ความน่ากลัวของ #heatstroke . Heat stroke (อ่านว่า ฮีท สโตรค) มีแพทย์อธิบายไว้หลายท่าน ให้เราอ่านแล้วมึน มากมาย แต่ครูจะอธิบายเป็นภาษาคน ไม่ต้องใช้ศัพท์ยากมาก มันคือ “ภาวะ #ร่างกายร้อนจัด จนเครื่องพัง #ระบบภายในล้มเหลว” วิธีแก้ไขจึงไม่ใช่เอายาดมให้ดม เดี๋ยวจะบอกวิธีขั้นตอนช่วยเหลือให้ แชร์เก็บไว้ช่วยเหลือกันนะ . ฮีทสโตรค พบมากในช่วง #อากาศร้อนจัด และกลุ่มเสี่ยงคือ คนแก่ เด็กเล็ก และนักกีฬาที่ออกกำลังกาย กลางแจ้ง หรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง #ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นเวลานาน . #อาการที่สังเกตได้ ...ก่อนระบบจะล้มเหลว ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต จะมี #อาการนำ หากเราสังเกตทัน ช่วยทัน ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ไม่ใช่แค่คนอื่นนะ ตัวเราก็คอย #สังเกตอาการตัวเอง ด้วยนะคะ . อาการคือ มึน ๆ เวียนหัว ตัวร้อน แต่ไม่มีเหงื่อ จดค่ะ #ตัวร้อนไม่มีเหงื่อ ผิวแห้ง ถ้ายังมีสติ จะรู้สึกอ่อนเพลีย มึนศีรษะ อาจมี เดินเซ พูดไม่ชัด หายใจเร็ว ชีพจนเต้นเร็ว ความดันตก อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน . ถ้าเป็นตัวเราเอง หรือผู้อื่น ถ้ายังมีสติ ให้รีบดื่มน้ำ ทำตัวเองให้เย็นลง #นอนราบให้เลือดเลี้ยงสมองสะดวก ยกเท้าสูงนิดหน่อย เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้เย็นลง พาร่างกายเข้าที่เย็น เช่น ห้องแอร์ เข้าร้านเซเว่น พอร่างกายเย็นลง ก็ดื่มน้ำ #ชดเชยเกลือแร่ ก็จบ ถ้ายังมีสติ ถือว่า ยังไม่อันตรายถึงชีวิต . แต่ถ้าหมดสติ ชัก หรือล้มลง เรียกไม่ตื่น ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ . 1. อันดับแรกโทร 1669 #เรียกรถพยาบาลด่วน . 2. สังเกตว่า เรียกไม่ตื่น ให้ดูว่า ผู้ป่วย ยังหายใจ ไม่มีภาวะ #หัวใจหยุดเต้น หากพบว่าหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการ CPR ปั้มหัวใจ (ถ้าทำเป็น) หากทำไม่เป็นให้ #ตะโกนขอความช่วยเหลือ และส่งไทมุง แทนที่จะยืนมุง ให้พวกเขาวิ่งกระจายกำลังออกไปตะโกนหา คนที่ทำ CPR เป็น และควรทำให้เร็วที่สุด เพราะหากช้า ผู้ป่วยอาจเสียชีวิต หรือฟื้นขึ้นมาช้า สมองพิการได้ . 3. ถ้าเขายังหายใจ หัวใจยังเต้น แต่เรียกไม่ตื่น ไม่ต้อง CRP ระหว่างรอรถพยาบาล ถ้าพบว่าตัวเขาร้อนจัด (ประมาณ 40 องศา ไม่ต้องวัดก็รู้สึกได้) คิดว่าอาจใช่ heat stroke ให้รีบลดอุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยให้เร็วที่สุด หาผ้า ถ้าไม่มีเสื้อใครก็ได้ ชุบน้ำอุณหภูมิห้อง หรือเย็น ไม่ต้องเถียงกัน ขอให้ชุบน้ำ #ทำให้ผู้ป่วยตัวเย็นลงให้เร็วที่สุด . แบ่งงานกันทำ คนนึงเช็ดตัวแรง ๆ (เช็ดย้อนรูขุมขนยิ่งดี) อีกคนเอาผ้าหรือเสื้ออีกตัว กระพือ ให้ลมพัด เอาให้เย็นให้ได้ คนที่ไม่มีส่วนช่วยเหลือ ถอยออกไปห่าง ๆ . 4. ถ้าผู้ป่วยตัวเย็นลง เริ่มมีสติ และพูดรู้เรื่อง ให้จิบน้ำช้า ๆ #อย่ากรอกน้ำใส่ปากขณะที่เขาหมดสติ ถ้าไม่มีสติ ไม่ต้องให้ดื่มน้ำ เพราะจะสำลักเข้าปอด อันตรายหนักกว่าเดิม . 5. รถพยาบาลมาถึง เราทุกคน ทีมช่วยเหลือ ก็สบายใจ . ครูหวังว่าข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ แชร์ได้ แชร์โลด คือ ไม่จำเป็นต้องเอาไปช่วยใครที่ไหน เผลอ ๆ ตัวเรานี่แหละ เริ่มมึน เริ่มเวียนหัว เริ่มร้อน แสบตัว ร้อนแบบไม่มีเหงื่อ เราก็ #ปฐมพยาบาลตัวเอง ตามขั้นตอนที่บอกมานี้ได้เลยค่ะ . หน้าร้อนนี้ ระวังนะคะ พกขวดน้ำติดตัว #อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ อย่ารอให้คอแห้ง หรือรู้สึกหิวน้ำ เพราะนั่นอาจสายไปแล้ว ถ้าร่างกายร้อนจัด มันจะช็อค #ระบบภายในจะล้มเหลว ตับถูกทำลาย ไตวาย หัวใจหยุดเต้น อันตรายกว่าที่เราคิดไว้ ถ้าเริ่มมึน ๆ ตึง ๆ ก็รีบหาน้ำดื่ม #ลดอุณหภูมิร่างกาย# .
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false