14113 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกินฉี่รักโรคต่างประเทศมีการนำสูตรยาผสมปัสสาวะมาใช้หยอดตา หยอดหู ใช้กลั้วคอรักษาอาการเจ็บคอ ทาแผลที่ถูกแมลงกัดต่อย รักษาผมร่วง รวมทั้งรักษาโรคติดเชื้อต่าง ๆ หรือแม้แต่การอาบน้ำปัสสาวะstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโฆษณากู้เงินจากYouTubeสามราถกู้เงินได้สูงสุด10,000บาทโดยใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชน ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีภาษีstd48001• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเชื้อโอไมครอนเชื้อโอไมครอน ยังไม่มีหลักฐานมีอยู่จริงในไทย เป็นเพียงการวินิจฉัยเดาสุ่มstd48458• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดความอ้วนกินติดต่อกัน1อาทิตย์ลดได้10กิโลกรัมลดความอ้วนอย. เพิกถอนstd47999• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมขาวใสภายใน3วันภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า หัวเชื้อผิวขาวตัวดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริง ในกรณีที่มีการเขียนข้อความว่า สามารถทำให้ผิวขาวขึ้นโดยสามารถเปลี่ยนสภาพผิวได้จากเดิมอย่างผิดปกติ จากผิวดำกลายเป็นขาว และที่มีข้อความว่าสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 3 วัน หรือ 7 วัน ถือว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากปกติแล้วไม่สามารถยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงการผลิต เม็ดสีเมลานิน จึงไม่สามารถทําให้สีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ รวมถึงเน็ตไอดอลชื่อดังที่มีรูปในการโฆษณาก็อาจจะมีความผิดฐานโฆษณาเกินจริงได้เช่นกัน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของเราอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งไปยังผู้โพสต์เพื่อระงับโฆษณาและดำเนินการแจ้งความผิด ซึ่งโฆษณามีความผิด ฐานเกินความจริงหรือก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรมกับผู้บริโภค โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทนอกจากนี้จะมีการตรวจสอบไปยังบริษัทผู้ผลิตว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือไม่ด้วยstd48002• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยลุงวัย 59 ชาวแพร่ ซื้อสลากดิจิทัลตามเลขทะเบียนรถ เฮงถูกรางวัลที่ 1 ได้ 12 ล้านคุณลุงวัย 59 เจ้าของร้านอะไหล่ยนต์ที่ จ.แพร่ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล จากแอปฯ เป๋าตัง โดยเลือกเลขทะะเบียนรถคันโปรด 4872 ตามมา 3 ปี งวดนี้เฮงถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบรับทรัพย์ 12 ล้านบาท ทำเอาดีใจกันทั้งบ้านPanisara Rukngam• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเพียงแค่โทร 1111 ได้รับเงินเยียวยา 5,000 ทันทีจากกรณีที่มีข้อความข่าวชวนเชื่อ แนะนำเทคนิคหากไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท เพียงแค่โทร 1111 จะได้รับเงินทันที นั้น ธนาคารกรุงไทยได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยใช้ระบบ AI คัดกรองอย่างละเอียด ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน. com เลือกเมนู ตรวจสอบสถานะ ตามด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก วันเดือนปีเกิด พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน โดยสถานะการลงทะเบียนมี 3 แบบ ได้แก่ ได้รับสิทธิ์รอการโอนเงิน อยู่ในกระบวนการคัดกรอง ข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากธนาคารกรุงไทย ได้ที่ เฟซบุ๊ก Krungthai Care หากต้องตรวจสอบสิทธิ์ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน. com เลือกเมนูตรวจสอบสถานะFang Orawan• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยแอปเป๋าตัง ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท ลงทะเบียนได้ทุกอาชีพจากกรณีการโพสต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังนั้น ทางธนาคารกรุงไทยได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีบริการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-wallet) รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็กสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม.รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีกยศ. สะดวก และรวดเร็วstd48451• 2 ปีที่แล้ว
- 12 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำจากกรณีที่มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า พบสารประกอบของปรอท ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบความสวยความงามstd48012• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาไซนัสตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่าง ๆ ถึงประเด็นเรื่องใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd48461• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกรมประมง แจงข่าว "หอยตาวัวฆ่าคน" ลวงโลก ยันกินได้ ไม่มีพิษจากกรณีเว็บไซต์ Gmmwork ได้เผยแพร่ข่าวหญิงสาวเสียชีวิตริมหาดภูเก็ต โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่กรมประมงให้ข่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากนอนทับหอยตาวัว ซึ่งเป็นหอยมีพิษ ทำให้เวลาต่อมามีคนแชร์ข่าวดังกล่าวจำนวนมากนั้นstd47988• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดริ้วรอยลดริ้วรอยใน3วันความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47981• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเอลิซาเบธ โฮล์มส์ เริ่มรับโทษจำคุก 11 ปีโฮล์มส์ในวัย 39 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาสมคบคิดหลอกลวงนักลงทุน 1 กระทง และข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีก 3 กระทง ในการพิจารณาคดีเมื่อต้นปี 2565 และเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธคำร้องของเธอที่ยื่นขอประกันตัวเพื่อสู้คดีข่าวการเมืองstd47994• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยกรมจัดหางานร่วมกับภาคเอกชน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจบริษัทจัดหางานออนไลน์กรณีที่มีการโฆษณาข้อมูลว่า กรมจัดหางานร่วมกับภาคเอกชน เปิดรับสมัครงาน ผ่านเพจบริษัทจัดหางานออนไลน์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จแอคปลอมkhendolukkha489• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรงแรม ปทุมธานีเพลสกำลังจะไปพักที่โรงแรมนี้ค่ะเห็นเพื่อนบอกต่อๆกันมาว่าเคยมีคน ผูกคอใช่ไหมคะ เกิดอุบัติเหตึขึ้นบ่อยๆเช่น รถชน อยากเอาให้แน่ใจค่ะว่าเป็นแค่ข่าวโคมลอยหรือเรื่องจริงแล้วคนที่ผูกนั้นอยู่ห้องไหนหรอคะPXN• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลดจริง ลดไว เห็นผลภายใน7วันสูตรเข้มข้นเห็นผลเร็วที่สุด 1 อาทิตย์ ลงไม่ต่ำกว่า 1-2 โล เร่งการเผาผลาญไขมันเก่าถึง 2 เท่า แขนขาเรียวเล็ก หน้าท้องยุบ แบนราบ ใจไม่สั่นstd47985• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยล้างไขมันในลำไส้ ด้วยชามะละกอไขมันในลำไส้กำจัดได้ด้วยชามะละกอ !std48467• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผย กรณีที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่าง ๆ ว่า ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้ พบเป็นข้อมูลเท็จ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือแชร์ข้อมูลต่อจากที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคไซนัส ด้วยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกทุกวัน ทำให้อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายขาดในที่สุดนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์และทางคลินิกที่น่าเชื่อถือรองรับ โดยน้ำปัสสาวะเป็นของเสีย หรือสารที่เป็นส่วนเกินของร่างกายที่ไตขับออกมาstd47976• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย20 ปี คดีลวงโลก “หมวยโซ” กุเรื่องข่มขืนบนตุ๊กๆ หลักฐานสำคัญปิดคดีย้อนไป 20 ปี คดีลวงโลกที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตำรวจไทย หนีไม่พ้นกรณี “หมวยโซ” จอมลวงโลก ที่อ้างว่าถูกชาย 4 คน ข่มขืนบนรถตุ๊กๆ แต่ตำรวจสืบสวนจนได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จนสามารถปิดคดี และล้างข้อครหาให้กับคนขับรถตุ๊กๆ ชาวไทย ที่เกือบกลายเป็นแพะรับบาป 20 ปี คดีลวงโลก “หมวยโซ” กุเรื่องข่มขืนบนตุ๊กๆ หลักฐานสำคัญปิดคดีstd47990• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเริมที่ปากแก้ได้ด้วยการดื่มน้ำจากเปลือกไข่ไก่โรคเริมจัดเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังและเยื่อบุ ซึ่งสามารถติดต่อได้ เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus (HSV) โดยมีอาการแสดงหลักคือผื่นที่มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำพองใส หลังจากนั้นจะแตกออกเป็นแผลตื้น อาจมีอาการเจ็บหรือปวดแสบปวดร้อนในบริเวณนั้น แผลจะค่อย ๆ แห้งและตกสะเก็ดในที่สุด อาการร่วมอื่น ๆ ที่พบ ได้แก่ อาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ต่อมน้ำเหลืองโต อาการทางผิวหนังมักหายในเวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน การรักษาตามอาการจัดเป็นการรักษาหลัก ได้แก่ การดูแลแผล การรับประทานยาลดไข้แก้ปวด การพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสจึงสามารถหายได้เอง แต่สามารถกลับเป็นซ้ำได้ การรักษาเฉพาะ คือ การให้ยาต้านเชื้อไวรัส เช่น Acyclovir Valacyclovir หรือ Famciclovir ซึ่งผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการก่อนได้รับยา เปลือกไข่มีลักษณะแข็ง ประกอบด้วยคอลลาเจน (Collagen) และผลึกหินปูน (แคลเซียมคาร์บอเนต) เป็นส่วนใหญ่ มีสารแมกนีเซียมฟอสเฟตและแมกนีเซียมคาร์บอเนตอยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งส่วนประกอบดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติในการยับยั้งหรือฆ่าเชื้อไวรัส จากข้อมูลดังกล่าวจึงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ในการนำเปลือกไข่มารักษาการติดเชื้อเริมFang Orawan• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“อนุทิน” ฉะแรง มีแต่ควายทุ่มซื้อ “งูเห่า” 100 ล้าน ปัดแข่งตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายการเมืองดาหน้าปฏิเสธ กระแสทุ่มหลักร้อยล้านซื้องูเห่า “ประเสริฐ” ขู่พวกที่คิดจะเป็นงูเห่าพึงระวังตัว ลั่นเพื่อไทยไม่มีฟรีโหวตเลือกประธานสภาฯ “เศรษฐา” ย้ำการแข่งขันจบไปแล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือตั้งรัฐบาลให้ได้ ก้าวไกลรอให้เพื่อไทยตกผลึกก่อน “ชัยธวัช” ชี้ผลโหวต ปธ.สภาฯ สะท้อนต่อการตัดสินใจ ส.ว.เลือกนายกฯ ว่าขั้ว 8 พรรคยังเหนียวแน่น “อนุทิน” แขวะมีแต่ควายเท่านั้นที่คิดจะซื้องูเห่า 100 ล้าน ยันไม่มีทางเกิด รบ.เสียงข้างน้อย “พิธา-ก.ก.” มีผวา ศาล รธน.จี้ อสส.แจงผลสอบคดีชูนโยบายแก้ ม.112 คืบหน้าถึงไหน “ลุงป้อม” กลับจากอังกฤษแล้ว เรียกติวเข้ม ส.ส.โหวต ปธ.สภาฯ-นายกฯ “พรเพชร” เชื่อ ส.ว.ไม่มีทางโหวตไปทางเดียวกัน ศาลนัดไต่สวนคดี “อุปกิต” ฟ้อง “โรม”Panisara Rukngam• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายมะเร็งstd47983• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยน้ำส้มเก๊ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการแต่ละวันเท่ากับ 75 มิลลิกรัมในผู้หญิงและ 90 มิลลิกรัมในผู้ชาย ซึ่งปริมาณนี้สามารถรับได้เพียงพอจากการรับประทานส้มวันละ 1-2 ผลหรือน้ำส้มคั้นวันละ 1 แก้วก็เพียงพอแล้ว ความเชื่อเรื่องการรับวิตามินซีเสริมเพื่อป้องกันหวัด ป้องกันหรือรักษามะเร็ง จนถึงปัจจุบันไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่เชื่อถือได้มาสนันสนุนครับความสวยความงามstd47998• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแพทย์ยัน! Cs-137 ถูกหลอม ไม่อันตรายเท่าที่คิด หวังสถานการณ์ไม่บานปลายผศ.ดร.กิติวัฒน์ คำวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ ยืนยัน Cs-137 ที่ถูกหลอมไม่อันตรายตามที่พูดกัน เหตุรังสีของแท่ง Cs-137 เหลือน้อย ห่วงแค่การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม หวังสถานการณ์ไม่บานปลาย ad จากกรณีมีการประกาศตามหาท่อขนาดใหญ่ที่มี “ซีเซียม-137” สารกัมมันตรังสีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากไม่ได้อยู่ในท่อ หรือถูกแกะออก ซึ่งหายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการเปิดเผยว่า ท่อสารซีเซียม-137 หายไปตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 แต่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเพิ่งทราบเรื่องและแจ้งให้หน่วยงานราชการทราบในวันที่ 10 มีนาคม 2566 จนนำไปสู่การประกาศตามหา ต่อมาผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีแถลงยืนยันแท่งเหล็กบรรจุ "ซีเซียม-137" ถูกหลอมในโรงงานพื้นที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นสั่งปิดพื้นที่-หยุดงานทันที เตรียมตรวจเลือดกลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kitawat Khamwan” หรือ ผศ.ดร.กิติวัฒน์ คำวัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์แท่งเหล็ก Cs-137 ที่ถูกหลอมจะอันตรายเพียงไหน หลังมีการแชร์ข้อความว่าสารอันตรายสามารถกระจายได้ถึง 1 พันกิโลเมตร โดยได้ระบุข้อความว่า “ขอให้คนในวงการรังสีได้มีโอกาสพูดบ้างนะครับ หากแท่งเหล็ก Cs-137 ที่หายไปถูกหลอมไปแล้วจะเป็นอย่างไร อันตรายมากน้อยแค่ใหน หลังจากที่มีการแถลงข่าวถึงสถานการณ์ Cs-137 ที่หายไป จนตอนนี้เริ่มพูดกันในวงกว้างและคนเริ่มกลัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ มีการแชร์ข้อมูลต่างๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก fake news ในโลกโซเชียล และจนถึงขั้นที่ว่าหากถูกหลอมไปแล้วจริงจะเกิดการฟุ้งกระจายไปในบรรยากาศปลิวไปไกลเป็นพันๆ กิโลฯ เป็นอันตรายต่อคนทั้งประเทศ จริงๆ แล้วก็คิดว่าคงไม่ขนาดนั้นนะครับ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการรังสี Napapong Pongnapang ก็ได้ออกมาพูดแล้วตามที่เห็นในสื่อต่างๆ ที่แชร์กันใน FB/tiktok หลายๆ ข่าวก็ดูจะเกินจริงไปหน่อย ทาง ปส.ก็ได้ทำการวัดรังสีรอบๆ พื้นที่ที่คาดว่าจะมีการปนเปื้อนรังสีก็วัดไม่ขึ้นครับ ในส่วนบริเวณพื้นผิวของถุงบิ๊กแบ็กเท่าที่ทราบคืออัตราปริมาณรังสีที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 3 ไมโครซีเวิร์ต/ชั่วโมง ซึ่งเมื่อยิ่งอยู่ห่างออกมาปริมาณรังสีจะยิ่งลดลงตามกฎกำลังสองผกผัน ส่วนเหตุการณ์โคบอลต์-60 ที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปี 2543 อันนั้นปริมาณรังสีสูงกว่าเหตุการณ์นี้เยอะมากๆๆ ประมาณ 10,000 เท่า เพราะเป็นที่ส่วนหัวที่ใช้สำหรับฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง ความแรงรังสีของ Cs-137 ที่เหลืออยู่ของแท่งนี้อยู่ที่ประมาณ 41 มิลลิคูรี เทียบเท่ากับปริมาณซีเซียม-137 0.00047185 กรัม โดยประมาณเท่านั้น ซึ่งแทบจะเทียบกันไม่ได้เลยกับ Cs-137 ปริมาณ 27 กก. จากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิล Cs-137 ถ้าถูกหลอมไปแล้วจริง คงจะต้องไปดูเรื่องของการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอันตรายแบบเฉียบพลันจากการรับปริมาณรังสีมากๆ ในครั้งเดียว หรือที่เรียกว่า “acute effect” ตามที่แชร์กันคงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ แต่อาจจะต้องติดตามดูผลระยะยาวเรื่องความเสี่ยงโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมไทรอยด์ของคนในพื้นที่ ซึ่งที่ต่างประเทศเมื่อเกิดเหตุลักษณะแบบนี้เขามีการติดตามดูผลระยะยาวไปถึง 20-30 ปีข้างหน้า เช่น เหตุการณ์อุบัติเหตุทางรังสี Cs-137 ที่เมืองโกยาเนีย ประเทศบราซิล ปี 1987 (บ้านเราก็น่าจะมีโมเดลนี้เช่นกันหรือเปล่า??) หากเกิดฟุ้งกระจายออกไปในชั้นบรรยากาศจริง ต้องเทียบปริมาณรังสีกับพื้นที่ชั้นบรรยากาศทั้งจังหวัด หรือรอบๆ แถวนั้นอย่างน้อยที่สุด ซึ่งความเข้มข้นของ Cs-137 ต่อตารางเมตรจะน้อยมาก ปริมาณรังสีอยู่ในระดับที่ต่ำมากจนเครื่องวัดรังสีอาจจะวัดไม่ขึ้น ไม่อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าร่างกายของคนเราเองก็มีความทนทานต่อรังสีในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกทีครับว่าระดับปริมาณรังสีเกินกว่าในชีวิตประจำวันหรือไม่ หากอ้างอิงตัวเลขจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency) ค่ารังสีส่วนเกินจากธรรมชาติที่คนทั่วไปควรได้รับไม่ควรจะเกิน 1 มิลลิซีเวิร์ต/ปี คนเราได้รับรังสีจากทางธรรมชาติทุกวัน เช่นรังสีคอสมิกจากนอกโลก รังสีเรดอนจากพื้นโลก อาคารที่พักอาศัย แม้แต่อาหารที่รับประทานเข้าไป ก็ยังมีโพแทสเซียม-40 ซึ่งเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต ธาตุนี้เป็นไอโซโทปรังสีที่ปลดปล่อยรังสีแกมมาและบีตา มีค่าครึ่งชีวิตยาวนานยิ่งกว่า Cs-137 และพบได้ในธรรมชาติ เช่น ในดินและพืช ซึ่งเราได้รับธาตุนี้จากการบริโภคอาหาร ซึ่งเราก็ยังสามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ถ้าหากซีเซียม-137 ถูกหลอมและออกไปสู่สิ่งแวดล้อมจริงๆ คิดว่าคงไม่เกินค่าระดับรังสีพื้นหลัง เนื่องจากถูกเจือจาง (dilute) ไปในธรรมชาติจนอยู่ระดับที่ต่ำมาก ค่าเฉลี่ยระดับรังสีพื้นหลัง (background radiation) ทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 3 มิลลิซีเวิร์ต/ปี อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ถึงแม้ทาง ปส.ออกมายืนยันว่าไม่พบการปนเปื้อนของ Cs-137 ของคนในโรงงาน และค่าปริมาณรังสีที่วัดได้จากพื้นที่ชุมชนรอบๆ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย แทบจะไม่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สบายใจได้ 100% จึงควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่ประมาทแต่ก็ไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกจนเกินไป หวังว่าสถานการณ์จะไม่บานปลายเลวร้ายถึงขั้นประชาชนแห่กันไปซื้อพรัสเซียนบลู (Prussian blue) หรือไอโอดีนมากักตุนเพื่อเอาไว้กำจัดสารกัมมันตรังสี Cs-137 ออกจากร่างกายนะครับ เพราะ ณ ขณะนี้คงไม่มีความจำเป็นและรุนแรงถึงขนาดนั้น และขอร่วมเป็นกำลังใจให้คนในพื้นที่สามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีนะครับ ภาพตัวอย่างคือ Cs-137 ที่ใช้สำหรับการปรับเทียบเครื่องมือทางรังสี dose calibrator ในแผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวันครับ”std48462• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสไปร์ทใส่เกลือแก้ท้องเสียได้!!!!ฤดูร้อน ท้องเสียง่าย ต้องใช้สูตรดื่มสไปร์ทใส่เกลือก จะ บรรเทาอาการท้องเสียได้ค่ะ เปรียบได้กับเกลือแร่ดีๆ นี่เอง เพราะในสไปร์ทมีน้ำและน้ำตาลกลูโคส ผสมอยู่ นั่นเอง ทำไมต้องใช้สไปร์ท ใช้น้ำอัดลมอย่างอื่นไม่ได้?... ที่ต้องใช้สไปร์ทเพราะ สไปร์ทเป็นน้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน น้อยที่สุดในบรรดาน้ำอัดลมทั้งหมด การที่เติมเกลือลงไป ในสไปร์ทนั้น ก็เพราะว่าเกลือจะเป็นช่วยไล่แก๊สที่อยู่ในน้ำ อัดลมนั้นเอง เนื่องด้วยถ้าเราดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป อาจ จะทำให้เกิดกรดเกินในกระเพาะอาหาร หรือแน่นท้องได้std48456• 2 ปีที่แล้ว