2208 ข้อความ
- 1 คนสงสัยงานศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลต่อการป้องกันการติดเชื้อของ #วัคซีนโควิด ไฟเซอร์และ AstraZeneca: 1. วัคซีน 2 ชนิดมีประสิทธิผล (Effectiveness)ใกล้เคียงกันทั้งหลังโดส 1 และ esp หลังโดส 2 2. ประสิทธิผลของการให้วัคซีน 2 โดสดีกว่า 1 โดสมาก (61/69 กับ 79/80%) 3.การศึกษานี้ทำในช่วงมีสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ระบาด สรุป 1. วัคซีนทั้ง 2 ชนิดป้องกันการติดเชื้อ #โควิด ได้ 2. ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อหลังเข็ม 2 ใกล้เคียงกัน —> ควรร่น AZ เข็ม1 และ 2 มาใกล้กันขึ้น เช่น 8 wks (รวมทั้งเพิ่มผลในการป้องกันเชื้อเดลต้า - อินเดีย: paper อื่น) 3. วัคซีนทั้งสองชนิดป้องการติดเชื้อไวรัสอัลฟา (B.1.1.7/ สายพันธุ์ที่พบครั้งที่อังกฤษ) ได้ 4. การศึกษานี้เป็น real-world experience (จำนวนอาสาสมัคร 383,812) ไม่ใช่การศึกษาใน clinical trial 5. เป็นการศึกษาแรกที่แสดงให้เห็นผลของการป้องกันการติดเชื้อ ไม่ใช่ป้องกันโรคอย่างเดียว cr. Pokrath Hunsasuta https://www.nature.com/articles/s41591-021-01410-wไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยภาคเหนือแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เผชิญไฟป่าครั้งใหญ่พื้นที่ทางภาคเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ชื่อดังที่สุดของสหรัฐฯ เผชิญไฟป่าครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บอีกนับร้อย วันนี้ (10 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ทางภาคเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ต้องเผชิญไฟป่าครั้งใหญ่ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ป่าและย่านพักอาศัยของผู้คนไปแล้วราว 120,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 303,000 ไร่ ใน 3 เขตใหญ่ๆ ได้แก่เมืองนาป้า โซโนม่า และเมนโดซิโน่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ปลูกองุ่น เพื่อผลิตเหล้าไวน์ที่สำคัญที่สุดของสหรัฐ โดยเฉพาะนาป้า และโซโนม่า 2 เขตนี้ จะส่งผลกระทบต่อไวน์คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาทต่อเขตstd46747• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาเจน พลัส กลิ่นมิกซ์ เบอร์รี่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาเจน พลัส กลิ่นมิกซ์ เบอร์รี่ ในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: คอลลาเจน พลัส กลิ่นมิกซ์ เบอร์รี่ (ผงคอลลาเจนจากปลาทะเล, แอล-ซิสเทอีน ไฮโดรคลอไรด์, สารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่, แอล-กลูตาไธโอน, วิตามิน ซี, กรดอัลฟาไลโปอิค)(ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตรา เอช พลัส) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารปลอม ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอสพี สยามแพ็ค จำกัด (จ.นครปฐม)(ใบอนุญาตที่ 73-1-19156) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 12/40 หมู่ 3 ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 73-1-19156-1-0072 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 547/2561 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชวนทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ 40 ข้อ ลุ้นชิงรางวัล iPhone 14 จำนวน 60 เครื่อง วันนี้ (12 ก.ค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญชวนประชาชนทำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ ผ่านเว็บไซต์ https://24hicarecenter.com/cybervaccinated หรือ สแกน QR Code ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมข้อมูลและออกแบบทดสอบมาจากกลโกงของมิจฉาชีพที่มักใช้หลอกลวงประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ และ บอกต่อคนอื่นๆ ให้ทำแบบทดสอบ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ตกเป็นเหยื่อออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง” โดยประชาชนที่ร่วมทำแบบทดสอบยังมีโอกาสลุ้นรับรางวัล 2 ต่อ ต่อที่ 1 สามารถใช้ Whoscall premium เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ และใช้บริการฟีเจอร์เสริมต่างๆ จากแอปได้ฟรี 1 ปี สำหรับผู้ที่ทำแบบทดสอบจบเสร็จสิ้น และต่อที่ 2 มีสิทธิลุ้นชิงรางวัล iPhone 14 มากถึง 60 เครื่อง สำหรับผู้ที่ทำข้อสอบได้คะแนนมากกว่า 35 ข้อขึ้นไป โดยจะมีการสุ่มจับรางวัล เดือนละ 20 เครื่อง รวมระยะเวลา 3 เดือน โดยจะประกาศผลทุกวันสุดท้ายของสิ้นเดือน ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่มีเบาะแสหรือตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 ตลอด 24 ชม.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชวนทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ 40 ข้อ ลุ้นชิงรางวัล iPhone 14 จำนวน 60 เครื่อง วันนี้ (12 ก.ค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญชวนประชาชนทำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ ผ่านเว็บไซต์ https://24hicarecenter.com/cybervaccinated หรือ สแกน QR Code ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมข้อมูลและออกแบบทดสอบมาจากกลโกงของมิจฉาชีพที่มักใช้หลอกลวงประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ และ บอกต่อคนอื่นๆ ให้ทำแบบทดสอบ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ตกเป็นเหยื่อออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง” โดยประชาชนที่ร่วมทำแบบทดสอบยังมีโอกาสลุ้นรับรางวัล 2 ต่อ ต่อที่ 1 สามารถใช้ Whoscall premium เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ และใช้บริการฟีเจอร์เสริมต่างๆ จากแอปได้ฟรี 1 ปี สำหรับผู้ที่ทำแบบทดสอบจบเสร็จสิ้น และต่อที่ 2 มีสิทธิลุ้นชิงรางวัล iPhone 14 มากถึง 60 เครื่อง สำหรับผู้ที่ทำข้อสอบได้คะแนนมากกว่า 35 ข้อขึ้นไป โดยจะมีการสุ่มจับรางวัล เดือนละ 20 เครื่อง รวมระยะเวลา 3 เดือน โดยจะประกาศผลทุกวันสุดท้ายของสิ้นเดือน ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่มีเบาะแสหรือตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 ตลอด 24 ชม.ผู้บริโภคเฝ้าระวังJoke Air• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยกรมควบคุมโรคแนะวิธีใช้สารเคมีทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นผิวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19กรมควบคุมโรคบอกวิธีใช้สารเคมีทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นผิว เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 - ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3% H202) 1 ส่วน ต่อน้ำ 5 ส่วน แต่ต้องระวังการกัดกร่อนพื้นผิว และการสัมผัสของร่างกาย - แอลกอฮอล์ 70% เหมาะสำหรับพื้นผิวโลหะ - ซักฟอกผสมน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผ้า น้ำยาฟอกขาว หรือสารโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย สารเคมีบางชนิดไม่แนะนำให้ใช้กับผิวสัมผัสร่างกาย เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้าดวงตา และการซักเสื้อผ้าด้วยผงซักฟอก ชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ แชมพู ก็เป็นการป้องกันแล้ว.โควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ "มะเร็งตับ" ถือเป็นโรคใกล้ตัวและพบได้บ่อยมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ในเพศชาย และเป็นมะเร็งที่มีการเจริญเติบโตของโรคที่รวดเร็วมาก มักเสียชีวิตภายในระยะไม่เกิน 3-6 เดือน หากมีอาการเบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลืองควรรีบพบแพทย์“มะเร็งตับ” เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และอันดับ 3 ในเพศหญิง และเนื่องจากมะเร็งตับมีการดำเนินโรคที่รวดเร็วมาก ผู้ป่วยที่เข้ามารับการตรวจมักจะเพราะมีอาการผิดปกติหรือโรคลุกลามไปมากแล้ว พอวินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นมะเร็งตับจริง ก็มักเสียชีวิตภายใน 3-6 เดือน!มะเร็งnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย.ขยายเครือข่ายภาคประชาชน “รู้ให้เท่า ก้าวให้ทัน กับข่าวลวง”นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ส่งผลให้เกิดชีวิตวิถีใหม่ ที่เรียกกันว่าNew Normal เช่น การจัดประชุม อบรม สัมมนา มีการปรับเปลี่ยนใช้การสื่อสารด้วยระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งในวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผนึกกำลังกับคณะทำงานภาคประชาชน ซึ่งเป็นเครือข่ายของ อย. จัดเสวนา “รู้ให้เท่า ก้าวให้ทัน กับข่าวลวง” (Fake News) โดยใช้ระบบออนไลน์ในการสื่อสาร เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เพราะสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่าย ทำให้มีโอกาสได้รับข่าวลวงผ่านสื่อออนไลน์ได้เช่นกัน “สำหรับข้อมูลเท็จหรือข่าวลวงบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ การจัดเสวนาดังกล่าวก็เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน รู้เท่าทันรูปแบบต่าง ๆ ของการหลอกลวงที่พบบนโลกออนไลน์ รวมถึงมีทักษะตรวจสอบและรับมือกับข่าวลวงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่พบในสื่อออนไลน์ได้” นพ.ไพศาล กล่าว และว่า งานเสวนที่ผ่านมา นอกจากจะสร้างความรอบรู้แก่ผู้บริโภคให้รู้เท่าทันและป้องกันตนเองจากข่าวลวงได้แล้ว ยังสามารถขยายความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการช่วยขับเคลื่อนเฝ้าระวังข่าวลวงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Fake News) ได้ด้วย โดยกลุ่มเครือข่ายจากภาคประชาชนและภาครัฐที่เข้าร่วมงาน สามารถกระจายความรู้ส่งต่อให้แก่เครือข่าย ตลอดจนบริหารจัดการและรับมือกับข่าวลวงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Fake News) ในพื้นที่ เป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งด้านการเฝ้าระวังข่าวลวงstd47848• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดีเดย์ 9 มกราคม 2566 เริ่มใช้ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถต้องรู้ !! ดีเดย์ 9 มกราคม 2566 เริ่มใช้ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 20 ฐานความผิดตัด 1 - 4 คะแนน ค้างจ่ายค่าปรับตามใบสั่งตัดแต้มด้วย เปิดวิธีคืนคะแนน – เช็กสถานะ ช่องทางจ่ายค่าปรับจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประชาสัมพันธ์ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 • 6 เรื่องต้องรู้ 1.ขับรถต้องมีใบขับขี่ โดยผู้ขับขี่ทุกคน มี 12 คะแนน 2.ทำผิดกฎจราจร ใน 20 ฐานความผิดที่อาจก่ออุบัติเหตุ หรือไม่ชำระค่าปรับจราจร ถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1 – 4 คะแนน ขึ้นอยู่กับความผิด 3.หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน 4.ฝ่าฝืนขับรถในช่วงถูกพักใบขับขี่ มีโทษจำคุก 3 เดือน และ/หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท 5.คืนคะแนนได้ ด้วยการเข้าอบรมกับกรมการขนส่งทางบก หรือรอให้ครบ 1 ปี จะได้คะแนนคืนอัตโนมัติ 6.หากถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในรอบ 3 ปี อาจถูกพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน และหลังจากนั้น ภายใน 1 ปี หากถูกตัดคะแนนอีกจนถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 4 อาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท “การตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ เรายึดหลักความโปร่งใส และความเท่าเทียมกัน โดยให้โอกาสปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรม และป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ตามมาตรฐานสากล เพื่อลดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยให้ทุกคน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าว #ตัดแต้มใบขับขี่ #มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ #policeofficial #สำนักงานตำรวจแห่งชาติMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเพจดัง เหน็บ “ชัชชาติ” ผู้ว่าที่บังเอิญเก่งที่สุดใน 3 โลกเพจเฟซบุ๊ก Street Hero V3 เหน็บ “ชัชชาติ” ผู้ว่าที่บังเอิญเก่งที่สุดใน 3 โลก ล่าสุดไปเดินปากคลองตลาดบังเอิญเจอมิสแกรนด์ เพจเฟซบุ๊ก Street Hero V3 โพสต์ข้อความพร้อมภาพนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ขณะ ผู้ว่าที่บังเอิญเก่งที่สุดใน 3 โลก ไปดูงานที่อังกฤษ บังเอิญเจอ บก. สื่อ สแตนดาร์ด ไปวิ่งที่สวนลุม บังเอิญเจอ ท่านทูตเมกา ล่าสุด ไปเดินงานปากคลองตลอด บังเอิญเจอ Miss Grand Interstd46239• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้มะเร็งยาสมุนไพรstd47009• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้std47894• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 7 คนสงสัยอย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่ายกรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้มะเร็งstd46777• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย10เทคนิค ช่วยให้นอนหลับเพียงพอนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยร่วมกับสมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดงานวันนอนหลับโลกในประเทศไทย ประจำปี 2565 ภายใต้คำขวัญที่ว่า “นอนดีมีวินัย สร้างโลกสดใส จิตใจแข็งแรง” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงการนอนหลับที่เพียงพอและมีสุขอนามัยการนอนหลับที่ดีทุกช่วงวัยซึ่งมีผลต่อสุขภาพ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และโรคประจำตัว นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า วิธีการที่ช่วยให้หลับเพียงพอและมีสุขอนามัยการนอนหลับที่ดี สามารถปฏิบัติได้ตามหลัก 10 วิธี ดังนี้ 1.เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน 2.รับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้าอย่างน้อย 30 นาที 3.ไม่นอนในเวลากลางวัน ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ควรเกิน 30 นาที 4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ก่อนนอน 2 ชั่วโมง ไม่ควรออกกำลังกาย 5.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน และอาหารมื้อดึก อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน 6.งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนนอน 7.นอนเตียงนอนที่สบาย อากาศถ่ายเท ไม่มีแสงเล็ดลอด และเสียงรบกวน 8.ผ่อนคลาย เพื่อลดความวิตกกังวล เช่น การนั่งสมาธิ 9.ใช้ห้องนอนเพื่อนอนเท่านั้น ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือกินอาหารบนเตียงนอน 10.หากนอนไม่หลับภายใน 30 นาที ควรลุกไปทำกิจกรรมอื่นๆแล้วกลับมานอนใหม่อีกครั้งเมื่อง่วง.น้องไข่จ้องคนสวยเองค่ะ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภทกทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภท จริงหรือ? . ตามที่มีการประกาศเรื่อง กทพ. ขยายเวลา ลดค่าผ่านทางพิเศษด่านพระราม 9-1 สำหรับรถทุกประเภท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง ✅ . การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษฉลองรัช ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9-1 (ฉลองรัช) โดยมีส่วนลดจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภทที่ใช้เงินสดและรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน . อัตราค่าผ่านทางที่ปรับลด มีดังนี้ 1. รถ 4 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 40 บาท ปรับลดเหลือ 30 บาท 2. รถ 6-10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 60 บาท ปรับลดเหลือ 50 บาท 3. รถมากกว่า 10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษ ปกติ 80 บาท ปรับลดเหลือ 70 บาท . ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.exat.co.th หรือ โทร. 02-283-3000 สายด่วนศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356 . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวจริง #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวนโยบายรัฐ #ค่าผ่านทาง #ทางด่วน #ลดค่าทางด่วนP Ing Nuttaput• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย'กลุ่มเปราะบาง' ที่ลงทะเบียนหลัง 31 พ.ค. หมดสิทธิ์รับเงินเยียวยา 3,000 บาท จริงหรือคะกลุ่มเปราะบาง จำนวนรวมทั้งสิ้น 6,781,881 ราย ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (อายุ 0-6 ขวบ) จำนวน 1,394,756 ราย 2) ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 ราย 3) คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย รองปลัด พม. ได้ย้ำถึงการรับสิทธิ์ว่า จะต้องเป็น "1 คน 1 สิทธิ์" คือ จะต้องไม่ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือได้รับเงินประกันสังคมจากกระทรวงแรงงานมาก่อน จึงจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 3 พันบาทจาก พม. โดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม อาจมีบางท่านที่จะ "ไม่ได้รับเงิน" เพราะเพิ่งลงทะเบียนของการรับเบี้ยยังชีพทั้งสามกลุ่ม ภายหลังจากวันที่ 31 พ.ค. 63 จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ กะปิมีประโยชน์ถึง 10 ข้อควรกินเป็นประจำกะปิมี 10 ข้อดีที่ควรกินเป็นประจำ โดยอ้างสรรพคุณ ดังนี้ 1. บำรุงกระดูก 2. บำรุงเลือด 3. ช่วยให้ฟันไม่ผุ 4. มีโอเมก้า 3 5. มีจุลินทรีย์ เสริมภูมิต้านทาน 6. บำรุงสายตา 7. มีวิตามินช่วยทำให้ผ่อนคลาย 8. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี 9. บำรุงสมอง และ 10. บำรุงหัวใจ ควรกินเป็นประจำเพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรงnaydoitall• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! พายุเข้าไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่ ฝนตกหนักถึง 80%ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องพายุเข้าไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่ ฝนตกหนักถึง 80% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอพยากรณ์อากาศว่า พายุเข้าไทย 77 จังหวัด ฝนตกหนัก 80% ของพื้นที่ น้ำท่วมใหญ่ และลมแรงนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นข่าวปลอม เป็นข้อมูลที่มิได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีพายุเกิดขึ้นจริง กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน จากการติดตามสภาพอากาศ ในช่วง 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 7 – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนตลอดช่วง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้และมีฝนตกหนักบางแห่งstd48134• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง จะโดนฟ้าผ่าไหม ?หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องบอกต่อกันมานานแล้วว่า การคุยหรือเล่นโทรศัพท์มือถือตอนฝนตก ฟ้าร้อง เป็นอันตราย เพราะเสี่ยงทำให้โดนฟ้าผ่าได้ ซึ่งก็มีทั้งคนที่เชื่อและทำตาม ไม่กล้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ตอนฟ้าร้อง แต่บางคนก็ยังไม่ค่อยเชื่อเต็มร้อย โดยในวันนี้เราจะพาไปคลายข้อสงสัยนี้พร้อม ๆ กัน จะได้รู้กันเสียทีว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความเชื่อกันแน่ ความเชื่อเรื่องเล่นโทรศัพท์จะโดนฟ้าผ่า มาจากไหน ? สำหรับที่มาของความเชื่อดังกล่าวนั้น มาจากข่าวที่มีคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต แล้วพบว่าโทรศัพท์ที่อยู่กับตัวผู้ตายมีรอยไหม้หรือระเบิด ทำให้คนพากันตั้งข้อสงสัยว่า โทรศัพท์เป็นต้นเหตุที่ทำให้ฟ้าผ่าลงมา โดยมีสัญญาณโทรศัพท์เป็นตัวล่อฟ้านั่นเอง หลายคนจึงเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าใช้โทรศัพท์ตอนฝนตก ฟ้าร้อง หรือบางคนอาจถึงขั้นปิดเครื่องไปเลยก็มี เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง จะโดนฟ้าผ่าจริงหรือ ? เคยมีการพิสูจน์เพื่อยืนยันในเรื่องนี้มาแล้ว ด้วยการนำโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องไปวางไว้บริเวณที่มีฟ้าผ่า โดยเครื่องแรกปิดเครื่องไว้ เครื่องที่สองเปิดเครื่องและมีสายเข้า ส่วนเครื่องสุดท้ายมีสายเข้าและตั้งให้รับสายอัตโนมัติ ซึ่งผลออกมาพบว่าไม่มีโทรศัพท์เครื่องใดถูกฟ้าผ่าเลย นั่นก็เป็นเพราะว่าสัญญาณและตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือไม่ได้มีแรงเหนี่ยวนำไฟฟ้ามากพอที่จะทำให้ฟ้าผ่าลงมาได้นั่นเอง จึงสามารถสรุปได้ว่าการเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องแล้วจะโดนฟ้าผ่านั้นไม่เป็นความจริงมีมShoyo Zx• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลี่ เอสพีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลี่ เอสพีในช่วงปี พ.ศ.2561 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: คอลลี่ เอสพี (ผงคอลลาเจนจากปลาทะเล, สารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่, สารสกัดจากส้มแขก, แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท, ผงไซเลี่ยม ฮัสก์, สารสกัดจากชาเขียว, ผงสตรอเบอร์รี่, กรดอัลฟาไลโปอิค) (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: อาหารปลอม ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอสพี สยามแพ็ค จำกัด (จ.นครปฐม)(ใบอนุญาตที่ 73-1-19156) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 12/40 หมู่ 3 ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 73-1-19156-1-0038 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 547/2561 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2561 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgTอย. เพิกถอนnaruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“ปิ่น เก็จมณี” เลิกกับสามี“เจ เจตริน จริงหรือไม่ยังคงเป็นประเด็นให้ติดตามกันต่อเนื่อง เมื่อเพจดังได้ออกมาโพสต์ข้อความทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ถึงคู่รักดาราดังที่ได้เซ็นใบหย่ากันแล้ว ทำเอาหลายคนต่างเดากันไปต่างๆ นานา ซึ่งมีหลายคู่ที่โดนโยงกันจำนวนมาก รวมไปถึงคู่ของ เจ เจตริน กับ ปิ่น เก็จมณี ที่คบกันมาอย่างยาวนานกว่า 28 ปี จนใครๆ ต่างก็ยกให้เป็นคู่รักในตำนานไปแล้ว ซึ่ง ปิ่น เก็จมณี เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ คุยแซ่บShow เมื่อปี 2561 ว่า ตนเองคบกับ เจ เจตริน เป็นแฟนกันก่อนแล้วก็เลิกกันไป แล้วก็กลับมาดีกัน แล้วก็เลิกกัน เลิกกันมา 3 รอบ คือเราเจอกันมาตั้งแต่เด็ก เราคบกันมาตั้งแต่อายุ 20 ปี เมื่อถามว่ารักกันขนาดนี้ ใครหึงใคร?พี่เจจะหึงปิ่นมาก แต่เขาเลือกเพศหึงด้วยนะคะ เพศชายไม่หึง เขาหึงทอม เพราะเขารู้ว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนกล้าเข้ามายุ่งกับเราอยู่แล้ว เพราะเราก็มีสามีแล้ว มีลูกแล้ว อีกอย่างเราไม่เคยเข้าไปยุ่งใกล้ชิดกับผู้ชาย แต่ถ้าผู้หญิง หรือทอม จะเข้าไปใกล้หน่อย กับตัวพี่เจเอง ถ้าไม่ได้ผิดกลิ่นอะไร เราก็จะไม่เข้าไปยุ่ง หรือไปเช็ก ไปตามอะไร เพราะเขาก็รายงานตัวตลอด เขาจะถ่ายรูปให้เราดูตลอด" แล้วที่มันผิดกลิ่นมีมั้ย? "มี มันก็จะมีพฤติกรรมที่แปลกๆ ไปหน่อย บอกตามตรงว่าเจไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ใช่คนที่จะมาทำความเดือดร้อนให้ที่บ้านอยู่แล้ว แต่มันอาจจะมีแบบว่านิดหนึ่ง แต่เขามีชั่วโมงบินสูงก็เลยไม่ทำอะไรให้เดือดร้อนได้ เพราะเคยมีปัญหามาแล้วในชีวิตนี้หนึ่งรอบ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มาก เราก็เลยวางใจว่าเขาคงจะไม่พลาด ไม่ทำให้เป็นปัญหาอีก"น้องไข่จ้องคนสวยเองค่ะ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ D.U.Dตามที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ D.U.D คืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20 ปี ใน 3 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีผลิตภัณฑ์ D.U.D ที่ใช้ข้อความโฆษณาแสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าสามารถคืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20 ปี ใน 3 เดือนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ D.U.D จดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง สำหรับบำรุงผิว มีเลขที่ใบจดแจ้ง 12-1-6300050347 และจากการตรวจสอบเว็บไซต์ขายผลิตภัณฑ์ D.U.D ได้ระบุสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถฟื้นฟู คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวหน้า ลบริ้วรอยทันตาเห็น ลดอายุลงไปจากเดิม 20 ปี ใน 3 เดือน และกล่าวอ้างว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์ดังความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47602• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยจริงหรือ รัฐบาลอนุมัติเงินเยียวยาให้กลุ่ม ที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับการเยียวยาจากมาตรการอื่นๆ ทั้งเราไม่ทิ้งกัน เยียวยาเกษตรกร เรียกว่า"เยียวยากลุ่มเปราะบาง" คนละ 3000 บาทรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในหลักการตามคณะกรรมการกลั่นกรองฯและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เสนอ ให้จ่ายเงิน "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" จำนวน 13 ล้านคน ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เด็กแรกเกิดถึง 6 ปีที่มีฐานะยากจน จำนวน 1.4 ล้านคน 2 ผู้สูงอายุ จำนวน 9.66 ล้านคน และ 3.ผู้พิการ จำนวน 2 ล้านคน ทั้งหมดรวม 13 ล้านคนโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://mof.c-th.cc/ เป็นเว็บไซต์ใหม่ของกระทรวงการคลังกรณีที่มีผู้บอกต่อว่า https://mof.c-th.cc/ เป็นเว็บไซต์ใหม่ของกระทรวงการคลัง ทางกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลังstd46229• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย11 ก.พ. 2565 12:30 น. ข่าว ทั่วไทย ข่าวประชาสัมพันธ์ เปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย สิ้นสุดแล้วโครงการ “FACTkathon” นักศึกษาร่วมระดมสมองส่งผลงานนวัตกรรมเข้าประกวด เพื่อแก้ปัญหาข่าวลวง ข่าวปลอม พร้อมผลักดัน 7 ข้อเสนอให้เกิดเป็นนโยบายแก้ปัญหาเฟกนิวส์เกลื่อนโลกออนไลน์ เปิดไอเดียสุดเจ๋งของเยาวรุ่น ร่วมแก้ปัญหาข่าวลวง สร้างนวัตกรรมพร้อมข้อเสนอผลักสู่ระดับนโยบาย ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับกิจกรรมการแข่งขันระดมสมอง “หักล้างมูลเท็จ แสวงหาความจริงร่วม” “FACTkathon : Fact-Collab to Debunk Dis-infodemic” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) และเป็นความร่วมมือกับสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ มูลนิธิสภาการหนังสือพิมพ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิฟรีดริช เนามัน ประเทศไทย (Fnf Thailand) สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น ChangeFusion Centre for Humanitarian Dialogue (HD) และ ภาคีโคแฟค (ประเทศไทย) งานนี้นอกจากจะเป็นการประชันไอเดียของคนรุ่นใหม่ระดับมหาวิทยาลัย ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแก้ปัญหาข่าวลวงที่มากมายในโลกออนไลน์แล้ว ยังมีการระดมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวทางการหา “ความจริงร่วม” ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมของผู้ที่มีความเห็นต่างได้อย่างปกติสุข จากการแข่งขันครั้งนี้ทีมที่ได้รับรางวัลที่ 1 ได้แก่ ทีมบอท เป็นการผสมผสานทีมจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีไอเดียสุดเจ๋ง “Check-on” หรือ “เช็กก่อน” โดยพัฒนาเครื่องมือ Extension เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอ่านข่าวในเว็บหรือเห็นภาพต่างๆ แล้วสงสัยว่าจริงหรือไม่ ให้คลุมดำที่ข้อความ คลิกขวา จะมีปุ่ม Check หน้าต่างของ Check-On ขึ้นมาแล้วประมวลผลความน่าเชื่อถือจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ อาทิ Cofact ชัวร์ก่อนแชร์ ศูนย์ต่อต้านข่าวลวง เป็นต้น ทีม TU Validator ซึ่งได้รับรางวัลที่ 2 รวมทีมจากคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอแพลตฟอร์มเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาร่วมค้นหาความจริงด้วยกัน พร้อมรับคะแนนและของรางวัล เพื่อสร้างชุมชนในสังคมออนไลน์ ให้ผู้ใช้งานได้มีการถกเถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อข้อมูลต่างๆ จัดกิจกรรม Debate ถกประเด็นกัน เชื่อว่าความจริงต้องเกิดขึ้นได้ สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลที่ 3 คือ ทีม New Gen Next FACTkathon เป็นการรวมตัวของนักศึกษาคณะต่างๆ จากมหาวิทยาลัยพายัพ ออกแบบการนำข้อมูลข่าวสาร มาถ่ายทอดในรูปแบบของการ์ตูน ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันด้วยการสร้างการ์ตูนลงแพลตฟอร์มหนังสือการ์ตูนออนไลน์ (Webtoon) เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านและได้สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบข่าวลวงไปด้วย พร้อมมีลูกเล่นด้วยการให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมไขปริศนา โหวตว่าจริงหรือไม่จริง โดยให้สิ่งตอบแทนเป็นเหรียญ สำหรับใช้เปิดอ่านตอนต่อไป นอกจากกิจกรรมการประกวดเสนอแนวคิดนวัตกรรมแล้ว ยังได้จัดการประชุมเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและข้อเสนอแนะที่จะแก้ปัญหาข่าวลวงอย่างยั่งยืน ซึ่งเห็นตรงกันว่าต้องผลักดันให้เกิดนโยบายที่แก้ปัญหาข่าวลวงที่เกลื่อนโลกออนไลน์ร่วมกันด้วย ดังนี้ 1) ทวงถามความรับผิดชอบกับผู้ผลิตและส่งต่อข่าวลวง : มีข้อเสนอแนะให้มีวิธีการป้องกันและแก้ไขข้อความผู้ผลิตและผู้ส่งต่อข่าวลวง ที่จะช่วยลดการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นลงได้ 2) ให้ความสำคัญกับทักษะ “รู้เท่าทันสื่อ” : การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) ไม่ใช่วิชาที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคดิจิทัล แต่ถูกพูดถึงเรื่องนี้นับตั้งแต่มีการเกิดขึ้นของสื่อมวลชนยุคอนาล็อก (วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์) เช่น กลยุทธ์หรือเทคนิคที่ใช้ผลิตเนื้อหาผ่านสื่อแต่ละประเภทใช้ส่งสารถึงปัจเจกชนหรือกลุ่มคนซึ่งเป็นผู้รับสาร บทบาทของสื่อต่อการสร้างกระแสค่านิยม หรือวัฒนธรรมต่างๆ ในสังคม เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล การผลิตและส่งต่อข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้นทั้งกว้างขวางและรวดเร็ว การรู้เท่าทันสื่อจึงยิ่งมีความสำคัญเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อข่าวลวงหรือข้อมูลบิดเบือน ความเข้าใจในแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Facebook, Twitter, Instagram, Line ฯลฯ ถูกออกแบบมาให้ทำงานอย่างไร และผู้ผลิตเนื้อหา (Content) ใช้วิธีการอย่างไรในการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้รับสาร ซึ่งจะซับซ้อนกว่าสื่อดั้งเดิม เช่น แพลตฟอร์มบางชนิดสามารถใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้สาร (ข้อความ ภาพ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง) ถูกมองเห็นอย่างกว้างขวางและในความถี่ต่อเนื่อง หรือมีสถิติการส่งต่อจำนวนมาก ผู้ที่ไม่รู้เท่าทันวิธีการเหล่านี้อาจเชื่อไปก่อนแล้วว่าเป็นเรื่องจริงโดยไม่ได้ตรวจสอบ 3) ลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล : แม้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่จะถูกมองว่าเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Native) จึงใช้งานได้คล่องกว่าคนวัยอื่นๆ ที่อาจจะเพิ่งรู้จักเทคโนโลยีดิจิทัลในวัยกลางคนหรือวัยเกษียณ แต่ในความเป็นจริงก็ยังพบช่องว่าง กล่าวคือ เด็กและเยาวชนในครัวเรือนที่ไม่มีทุนทรัพย์จัดหาเครื่องมือเชื่อมต่อ (Device) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และเข้าไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านดิจิทัล อาทิ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สัญญาณมีความเสถียร ย่อมมีข้อจำกัดในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลเมื่อเทียบกับเด็กและเยาวชนในครัวเรือนที่มีความพร้อม 4) สนับสนุนบทบาทขององค์กรที่ทำงานต่อต้านข่าวลวงที่มีอยู่แล้ว ให้สามารถนำข้อมูลไปถึงผู้คนได้ง่าย : ปัจจุบันมีความพยายามจากหลายฝ่ายในการต่อสู้กับปัญหาข่าวลวง ทั้งภาครัฐที่มีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ภาคสื่อมวลชนที่มีศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ของ อสมท. และภาควิชาการ-ประชาชน ที่รวมตัวกันในนามโคแฟค ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนให้องค์กรเหล่านี้ทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วแล้ว ควรพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลที่เมื่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไปพบข้อมูลบางอย่างแล้วสงสัย สามารถส่งไปประมวลผลกับระบบขององค์กรข้างต้นได้ทันทีว่าเคยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ เนื่องจากพบว่าข่าวลวงหลายข่าวมักมีลักษณะ “แชร์วนซ้ำ” บางเรื่องพิสูจน์กันไปแล้วหลายปีว่าไม่จริงแต่ก็ยังมีการส่งต่อวนกลับมาอีก 5) ขยายแนวร่วมตรวจสอบข่าวลวงสู่ระดับท้องถิ่น : ในความเป็นจริงที่การสื่อสารรวดเร็ว ข้อมูลถูกผลิตและส่งต่ออย่างมหาศาล ข่าวลวงหรือข้อมูลบิดเบือนจึงมีความหลากหลายซึ่งบางเรื่องอาจจะไม่ได้เป็นกระแสมากพอที่องค์กรจากส่วนกลางจะมองเห็นและเข้าไปตรวจสอบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างแนวร่วมในระดับชุมชน ซึ่งอาจเป็นสื่อมวลชนท้องถิ่น หรือแกนนำชุมชน (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ฯลฯ) โดยให้ผู้ที่สนใจประเด็นข่าวลวงมาฝึกฝนทักษะการตรวจสอบ รวมถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่าจะส่งเสริมเรื่องนี้ในระดับท้องถิ่นของตนเองอย่างไร เพราะแต่ละพื้นที่นั้นมีบริบททางสังคมไม่เหมือนกันผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48026• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนภัยสำหรับผู้มีที่ดินมิจฉาชีพหากินแนวใหม่ด้วยการขอซื้อที่ดินโดยวางมัดจำไว้สูงระบุวันโอนขายที่ดินเช่น 1/3/66แต่ก่อนถึงวันโอนจะโทรมาบอกยกเลิกการซื้อขายยอมให้ยึดเงินมัดจำแต่พอถึงวันที่ 1/3/66 ผู้ซื้อจะไปที่ที่ดินนั่งรอตั้งแต่เช้าให้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปและพนักงานที่ดินเห็นเป็นพยานส่วนผู้ขายก็เข้าใจว่าผู้ซื้อไม่ซื้อแล้วก็ไม่ไปก็จะผิดสัญญาผู้ซื้อจะเรียกค่าปรับตามที่ระบุไว้ในสัญญา3-10เท่าครับเตือนภัยสำหรับผู้มีที่ดินมิจฉาชีพหากินแนวใหม่ด้วยการขอซื้อที่ดินโดยวางมัดจำไว้สูงระบุวันโอนขายที่ดินเช่น 1/3/66แต่ก่อนถึงวันโอนจะโทรมาบอกยกเลิกการซื้อขายยอมให้ยึดเงินมัดจำแต่พอถึงวันที่ 1/3/66 ผู้ซื้อจะไปที่ที่ดินนั่งรอตั้งแต่เช้าให้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปและพนักงานที่ดินเห็นเป็นพยานส่วนผู้ขายก็เข้าใจว่าผู้ซื้อไม่ซื้อแล้วก็ไม่ไปก็จะผิดสัญญาผู้ซื้อจะเรียกค่าปรับตามที่ระบุไว้ในสัญญา3-10เท่าครับผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ