1434 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ผู้ถือบัตรคนจน เตรียมรับเงินโอน 3,000 บาท วันที่ 4-9 ก.ค.นี้กระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางได้พิจารณาเห็นชอบโครงการเยียวยาผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือตามมาตรการอื่นของรัฐให้ได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท จำนวน 1 เดือน ซึ่งได้ข้อสรุปว่ากรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ถือบัตรฯ ในวันที่ 4-9 ก.ค.นี้ จำนวน 1.2 ล้านราย จากจำนวนผู้ถือบัตร 14.6 ล้านราย โดยใช้งบประมาณ 3,600 ล้านบาทในการดำเนินการโควิด 2019วัคซีนโควิดลดความอ้วนยาสมุนไพรข่าวการเมืองสภาพอากาศภาคใต้ภาคเหนือล้อเลียนnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ที่คนไทยสามารถเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ แต่ต้องตรวจโควิด 2 รอบทางการญี่ปุ่นเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 โดยจะอนุญาตให้นักเดินทางจาก 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ โดยอาจจะมีผลในเดือนมิถุนายนนี้ แต่จะต้องมีเอกสารการตรวจโรคโควิด-19 โดยจะต้องไม่พบเชื้อโควิด-19 และเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วก็ต้องมีการตรวจโรคโควิด-19 ที่ญี่ปุ่นอีกครั้งโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยวันที่ 2 3 4 นี้จะมีพายุฝนมาจากประเทศจีนระวังด้วยนะครับอย่าให้โดนฝนเด็ดขาดนะครับเพราะมันจะมีเชื้อโรคพร้อมทั้งสารเคมีเขาเรียกว่าฝนเหลืองมันจะมาพร้อมพายุรอบนี้เตือนคนที่รักด้วยนะครับว่าอย่าให้ใครโดนฝนเด็ดขาดนะครับอันนี้มันเป็นจริงตามทั้งฝรั่งแล้วก็พุทธทำนายว่าจะมีคนตายอีกมากมายนะครับเราหลีกเลี่ยงได้ป้องกันได้ป้องกันไว้ก่อนนะครับรักเสมอครับขอบคุณครับไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#หยุดใช้ยาปฏิชีวนะรักษาโรคติดเชื้อไวรัส 100% ของโรคหวัด (น้ำมูก ไอ เจ็บคอ) เกิดจากไวรัส 100% ของไข้หวัดใหญ่ (ไข้ ปวดตัว ปวดหัว ไอ) เกิดจากไวรัส 100% ของโควิด (ไข้ ไอ เจ็บคอ) เกิดจากไวรัส 90-98% ของไซนัสอักเสบ (ไข้ แน่นจมูก น้ำมูกเหลือง/เขียว) เกิดจากไวรัส 95% ของหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (ไอมาก เสมหะเหลือง/เขียว) เกิดจากไวรัส เพียง 7% ของคอหอยอักเสบในเด็ก (ไข้ เจ็บคอ ไม่ไอ) เกิดจากแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ในโรคติดเชื้อไวรัส เพราะ *ไม่ออกฤทธิ์ต่อไวรัส *ไม่บรรเทาอาการ *ไม่ทำให้โรคหายเร็วขึ้น *ไม่ป้องกันโรคแทรกซ้อน /กินไปไม่ได้ประโยชน์ /แถมได้รับอันตรายจากผลข้างเคียง /ก่อเชื้อดื้อยาสะสมไว้ในร่างกาย /และเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ถาม เมื่อไหร่จะเลิกสั่งยาปฏิชีวนะให้คนเป็นไข้หวัดเสียทีทั้งที่รู้ว่าเกิดจากไวรัส (ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม อดีตนายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย) ตอบ เริ่มวันนี้เลย ด้วยการร่วมด้วยช่วยกัน +ประชาชน งดใช้ งดขอ งดซื้อ +ร้านขายยา งดขาย +แพทย์/ทันตแพทย์/พยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน งดจ่ายยาปฏิชีวนะในโรคติดเชื้อไวรัส #หยุดใช้ยาปฏิชีวนะรักษาโรคติดเชื้อไวรัส สยส. สร้างเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล 19 พย. 2565 ร่วมรณรงค์ในวาระ สัปดาห์รู้รักษ์ ตระหนักใช้ยาปฏิชีวนะ เอกสารอ้างอิง common cold https://www.cdc.gov/antibiotic-use/colds.html acute rhinosinusitis https://academic.oup.com/cid/article/54/8/e72/367144 acute bronchitis https://www.msdmanuals.com/professional/pulmonary-disorders/acute-bronchitis/acute-bronchitis acute pharyngitis https://journal.seameotropmednetwork.org/index.php/jtropmed/article/view/337ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพทางเลือกโรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อไป ได้บุญ 🚫 1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว -------------------------- 🚫 2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้ ------------------------- 🚫 3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ ____________________ 🚫 4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี) -------------------------- 🚫 5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน ------------------------------ 🚫 6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน -------------------------- 🚫 7. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง ------------------------- 🚫 8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ ------------------------ 🚫 9. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ --------------------- 🚫 10. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น. ------------------------- 🚫 11. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน กล้วยน้ำว้า หรือกระหล่ำปลีให้เยอะมาก ------------------------- 🚫 12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง -------------------------- 🚫 13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ ------------------------- 🚫 14. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียว ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และทูน่า --------------------------- 🚫 15. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก) ------------------------ 🚫 16. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้ ------------------------ 🚫 17. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อกโคลี หรือคะน้าวันละ 5 ขีด ------------------------ 🚫 18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี ------------------------- 🚫 19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว -------------------------- 🚫 20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชา ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย --------------------------- 🚫 21. ความดันสูง ต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากิน หรือผักคึ่นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น ------------------------- 🚫 22. เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก โรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อกันไป ได้บุญ... #สุขภาพทางเลือก.ยาสมุนไพรMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเสพไอซ์ ทำให้ผอม-ขาว ตรรกะวิบัติของเซเล็บไทยไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวคนมีชื่อเสียงเสพ“ยาไอซ์” แต่ก่อนหน้านี้ ดารา นักร้อง หรือนักกีฬาชื่อดัง เองก็เคยมีข่าวเสพยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์เต็มรูปแบบ โดยสถิติล่าสุด จากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ยาไอซ์ กลายเป็นยาเสพติด ที่คนไทยเสพมากที่สุดเป็นอันดับ 3รองจาก ยาบ้า และเฮโรอีน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีคนดังหลายราย ที่มีข่าวฉาวเกี่ยวกับยาไอซ์ เริ่มจาก นุกนิก เดอะสตาร์ 3 ที่ขนยาไอซ์ 1.2 กรัม ผ่านด่าน อ.อรัญประเทศ เข้ามาในประเทศไทย ตามมาด้วย ไมค์ กิ่งโพยม ที่ถูกตำรวจจับหลังพกยาไอซ์ในครอบครองเกินกำหนด และเสพยาเสพติดขณะขับขี่ยานพาหนะ ขณะที่ “แม็คก้า” หรือแม็ค ชวนชื่น โดนโทษหนักกว่า เพราะ ถูกตำรวจบุกจับคาคอนโดพร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 2 กรัม และ แจ้งข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษอีกด้วย ช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เสก โลโซ และ นก เชิญยิ้ม ก็มีข่าวเสพยาไอซ์เช่นเดียวกัน ตัวเลขของสถาบันธัญญารักษ์ ระบุว่า สัดส่วนการเสพยาไอซ์ในผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิม 2-3% เมื่อเทียบกับสัดส่วนการใช้ยาบ้า แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของผู้หญิงที่ใช้ยาเสพติดทุกประเภท และ 15% ในผู้ชาย ของผู้ชายที่ใช้ยาเสพติดทุกประเภท ด้วยเหตุนี้ เอเย่นต์จึงเจาะจงขายาไอซ์ ให้กับผู้หญิงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงอายุน้อยๆ สำหรับ “ยาไอซ์” จัดเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ. 2522 โดยเม็ดยามีลักษณะเป็นผลึกคล้ายน้ำแข็งเป็นที่มา ของชื่อ “ยาไอซ์” ความบริสุทธ์สูง ออกฤทธิ์แรงกว่ายาบ้ามาก ส่วนวิธีใช้ จะใช้ละลายน้ำแล้วฉีดเข้าเส้นบาง ขณะที่บางคนนำไปเผาแล้วสูดดมควัน เหมือนเสพยาบ้า ยิ่งเสพก็ยิ่งให้อารมณ์เคลิ้ม ที่น่าตกใจคือด้วยฤทธิ์ยาที่แรงขนาดนั้น ทำให้เสพติดทันทีใน 1-2 ครั้ง โดยอุปกรณ์การเสพ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีสูบเข้าปอดโดยตรง ผ่านอุปกรณ์ ลักษณะคล้ายบ้องกัญชา เรียกว่า “โจ๋” โดยผู้เสพสามารถทำขึ้นเอง หรือหากไม่อยากทำ ตลาดมืดใต้ดินหลายแห่งก็มีวางจำหน่าย ทว่า ด้วยราคาที่แพง ถึงกรัมละ 3,000 – 4,000 บาท และมักนิยมเสพกันในหมู่คุณหนูไฮโซ และส่วนใหญ่จะเปิดห้องจัดปาร์ตี้เฉพาะกลุ่ม และเกิดการ ระบาดนอกจากในสถานบันเทิง ด้วยเหตุนี้ ทำให้คนที่เสพยาเชื่อแต่เพียงว่า จะมีฤทธิ์เบากว่ายาบ้า ในความเป็นจริงแล้ว ยาไอซ์จะออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมอง รวมถึงสูญเสียส่วนควบคุมการทรงตัวขณะที่ ความเข้าใจว่า เสพยาไอซ์ จะทำให้ผอม เนื่องจากทำให้กินน้อยลงนั้น อาจเป็นไปได้ในช่วงแรก เพราะเมื่อยาออกฤทธิ์เข้าสู่เส้นเลือด ก็จะทำให้ผู้ที่เสพไม่อยากกินอาหาร และเบื่ออาหาร จึงทำให้เหมือนกับผอมไปพักหนึ่ง ขณะที่หลังจากนั้น ฤทธิ์ของยา จะทำให้เข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายซีด จนถูกคิดว่าเป็นยาที่กินแล้วขาว แต่ในระยะยาวก็จะดำคล้ำขึ้น เพราะไม่เหลือสารอาหารเข้าไปบำรุงผิวอีกต่อไป ในระยะแยก ผู้เสพจะเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย หน้าตาซูบที่ขอบแก้มด้านหน้า ส่วนขอบตาด้านล่างจะดำ แต่หลังจากนั้น พิษของยาไอซ์ จะเริ่มเห็นผลมากขึ้นจากการทำลายสมอง ยาไอซ์มีฤทธิ์ทำลายสมองที่รุนแรงมาก คนที่เข้ามารับการบำบัดส่วนใหญ่มักเป็นคนที่เสพติดต่อกันนาน 3–5 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง กระทั่งมีอาการทางประสาท รวมไปถึงจิตหลอนตามมา ยิ่งเสพมากเข้า ยิ่งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นคลุ้มคลั่ง หนักกว่ายาบ้า เพราะยาไอซ์ มีผลข้างเคียงล้วนๆ ต่อสมอง ต่างจากยาบ้าที่พอจะมีแป้งผสมบ้าง ขณะที่การบำบัดอาจต้องใช้เวลาตั้งแต่ 4เดือน ไปจนถึง 1 ปี ตามปริมาณการเสพ และอาการของผู้เสพ โดยส่วนใหญ่ต้องเริ่มจากรักษาอาการทางจิต และตามมาด้วยขั้นตอนการฟื้นฟูอีกเป็นเวลานานความสวยความงามNontawattahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลูกกลืนซองกันชื้น แม่ร้องลั่น "ล้างท้อง!" แต่หมอบอกไม่ต้อง แนะวิธีปฐมพยาบาลง่ายๆเด็กเล็กๆ มักสมาธิสั้น และโดยสัญชาตญาณทันทีที่พวกเขาหยิบจับอะไร ก็มักจะนำเข้าปากก่อน ดังนั้นจึงมีกรณีที่น่าสลดใจมากมาย เช่น เด็กสำลักสิ่งแปลกปลอม, กลืนสารเคมีที่เป็นพิษ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่พ่อแม่ยากจะทำใจยอมรับ เพื่อเป็นบทเรียนเตือนใจพ่อแม่ นพ.อู๋ ฉางเถิง ซึ่งทำงานในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเด็กเหอหนาน ประเทศจีน ได้นำเสนอกรณีเด็กวัย 1 ขวบที่กลืนซองสารดูดความชื้นในขนม เพื่อเป็นการเตือนว่าทุกสิ่งรอบตัวเด็กหากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นอันตรายได้เสมอ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว คุณหมอเล่าว่า ช่วงบ่ายวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา เขาได้รับคนไข้เด็กอายุ 1 ขวบ ซึ่งแม่อุ้มเข้ามาโรงพยาบาลด้วยอาการตื่นตระหนก บอกว่าลูกชายของเธอกลืนเม็ดกันความชื้นเข้าไป เธอจึงอุ้มมาเพื่อให้หมอช่วยล้างท้อง แต่หลังจากดูถุงดูดความชื้นที่แม่นำมาด้วย หมอก็ได้อธิบายไปอย่างใจเย็นว่า สารดูดความชื้นที่ใช้กันทั่วไปมีอยู่ 2 ประเภท ในกรณีนี้ทารกกลืนสารดูดความชื้นซิลิกาเจล (Silica Gel) โชคดีที่ตรวจแล้วพบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต สารความชื้นจากซิลิกาเจล (Silica Gel) เมื่อลูกพลาดกลืนลงไปแล้ว ผู้ปกครองต้องจัดการอย่างใจเย็น ธรรมชาติของเม็ดซิลิกาเจลมีความเฉื่อยทางเคมีจึงไม่ทำปฏิกิริยากับร่างกาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอนุภาคป้องกันความชื้นมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ ดังนั้นควรให้เด็กดื่มน้ำสะอาดปริมาณมากๆ เมื่ออนุภาคซิลิกาเจลได้รับการเติมน้ำ จะไม่ทำปฏิกิริยากับเยื่อเมือกของร่างกาย และถูกขับออกทางทางเดินอาหาร ส่วนประเภทที่สองประกอบด้วยแคลเซียมออกไซด์ (calcium oxide) มักบรรจุในซองสีขาวและเขียนตัวอักษรสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสารกัดกร่อนที่เผาไหม้หลอดอาหาร กรณีที่เด็กเคี้ยวหรือกลืนสารกันความชื้นที่ทำจากผงปูนขาวเข้าไป อาจทำให้ปากไหม้ เป็นแผลในคอ ขึ้นอยู่กับระดับของสารเคมีที่เด็กสัมผัส ดังนั้น ผู้ปกครองต้องให้เด็กบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดความเข้มข้นของด่างที่เกิดปฏิกิริยา ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใจเย็น แทนที่จะตื่นตระหนก หรือบังคับให้เด็กอาเจียน เพราะเหตุการณ์เหล่านี้จะส่งผลต่อจิตใจเด็ก ในขณะเดียวกันก็พาเด็กไปที่สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเพื่อรับการตรวจ วินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ คุณหมอเน้นย้ำด้วยว่า ซองดูดความชื้นส่วนใหญ่มักบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กที่จะฉีกบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ออกจากกันเพื่อเล่น อย่างไรก็ดี เนื่องจากซองดูดความชื้นส่วนใหญ่เป็นอันตรายต่อเด็กหากฉีกและกลืน สูดดมหรือทำกระเด็นเข้าตา ในกรณีกระเด็นเข้าตา ต้องใช้น้ำเกลือล้างให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ควรขยี้ตา เพราะจะทำให้กระจกตาเสียหายได้ง่ายกว่า หลังจากนั้นให้ไปที่สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุผู้ปกครองควรระวังอย่าให้เด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่รู้หนังสือ สัมผัสกับบรรจุภัณฑ์ดูดความชื้นทุกชนิด ควรวางผลิตภัณฑ์ที่มีซองดูดความชื้นไว้ในที่สูงและมิดชิดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กเล่นyardtip49• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย📌 ข่าวดี!! เปิดลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำ ค่าไฟ ช่องทางลงทะเบียนค่าไฟฟ้า สำนักงาน การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/SqTWk เบอร์ติดต่อ 1130 สำนักงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/SqTWk เบอร์ติดต่อ 1129 กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/SqTWk เบอร์ติดต่อ 086 848 1284 📌 วิธีลงทะเบียนรับสิทธิลดค่าไฟฟ้า เข้าเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) 1. กรอก ข้อมูลรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์ไฟฟ้า) ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ (เฉพาะหมายเลข 8 หลัก) 2. กรอก บัญชีแสดงสัญญา (เฉพาะหมายเลข 9 หรือ 10 หลัก) 3. กรอก ชื่อ-นามสกุล (ระบบจะค้นหาข้อมูลจากรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า) 4. กรอก ที่อยู่ (ระบบจะค้นหาข้อมูลจากรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า) 5. กรอก หมายเลขบัตรประชาชน ตามที่ระบุในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 6. เบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน 7. กรอก E-mail ของผู้ลงทะเบียน 8. กดปุ่ม ลงทะเบียน 📌 ช่องทางลงทะเบียนค่าน้ำ สำนักงาน การประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/SqTWk ... เบอร์ติดต่อ 1125 สำนักงาน การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://shorturl.asia/SqTWk ... เบอร์ติดต่อ 1662 📌วิธีลงทะเบียนรับสิทธิลดค่าน้ำประปา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1. เข้าเว็บไซต์ การประปานครหลวง หรือ การประปาส่วนภูมิภาค 2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ-นามสกุล ของผู้ลงทะเบียน (ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) 3. กรอก เลขบัตรประชาชน ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ลงทะเบียน 4. กรอก E-mail ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี) , เบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี) 5. เลือก สาขาของบ้าน ที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ 6. กรอก เลขที่ผู้ใช้น้ำ เลขที่ผู้ใช้น้ำของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ 7. เลือกรูปภาพที่ปรากฏให้ถูกต้อง และคลิกที่ปุ่ม “ตกลง” 👉กรณีลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. หรือ กทร. สำเร็จภายในวันสิ้นเดือน และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 ของแต่ละเดือน จะได้รับสิทธิครั้งแรกไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสมุนไพรขันทองพยาบาท รักษาโรคมะเร็งจะเป็นฝีหรือน้ำเหลืองเสีย 🚫ขันทองพยาบาทแก้ปัญหานี้ได้ ❗️❗️ แก้โรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้พิษในกระดูก แก้มะเร็งคุดทะราด แก้กามโรค แก้กลากเกลื้อน แก้ลมพิษ แก้ประดงผื่นคัน แก้ประดง ฆ่าพยาธิ แก้โรคเรื้อน แก้ลมและโลหิตเป็นพิษ ราก รสเมาเบื่อร้อน แก้ประดง แก้พิษในกระดูก แก้ลม แก้โรคผิวหนัง รักษาน้ำเหลืองเสีย เปลือกต้น รสเมาเบื่อ แก้ลมเป็นพิษ แก้โรคตับพิการ แก้ปอดพิการ แก้โรคผิวหนัง ❗️❗️ข้อแนะนำการทาน "ขันทองพยาบาท"❗️❗️ อักเสบไม่มาก : ทานก่อนอาหาร 10 - 20 นาที ครั้งละ 2 เม็ด เช้า - เย็น อักเสบ มีหนอง ปวดมาก : ทานก่อนอาหาร 10 - 20 นาที ครั้งละ 3 - 4 เม็ด เช้า – เย็น หมายเหตุ : สามารถปรับการรับประทานให้เหมาะสมตามอาการ แนะนำงดของกินต้องห้ามระหว่างการรักษา 🚫กลุ่มที่ไม่ควรทาน🚫 📍สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร 📍ทานได้ตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป 📍ผู้ที่มีไข้ 📍ผู้ที่มีค่าไตต่ำกว่า 90 📍โรคมะเร็ง ระยะ 3-4 ยาแผนโบราณ เลขทะเบียนที่ G 166/55 1 กระปุก 50 แคปซูล #ขันทองพยาบาท #ฝีหนอง #น้ำเหลืองเสีย #โรคผิวหนังเรื้อรัง #แผลหายยาก #โรคมะเร็งstd46766• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด....พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด.... คุณหมอเป็นคนเขียนบทความนี้.... เคล็ดลับ เทคนิคปลอดภัยจากโควิด ไม่นำเชื้อไปฝากญาติ หรือชุมชน โดย หากสัมผัส คนติดโควิด หรือไปเที่ยวแหล่งแออัดมา หรือ ขึ้นลงเครื่องบิน หรือรถสาธารณะ ให้กินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ดทันที หลังเดินทาง ,หรือขณะเดินทาง ,หรือ หลังไปเที่ยวมา, หรือสัมผัสคนป่วยโควิด หรือกำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติ , ท่านจะปลอดภัย จากโควิด ไม่นำเชื้อโควิดไปฝากญาติ หรือคนในชุมชน หรือคนใกล้ชิด เชื่อเถอะ ไม่เสียหาย อะไรเลย เพราะตัวเอง ก็แนะนำให้ลูกทำ เวลาเดินทางไปอเมริกา หรือกลับจากอเมริกา และตนเองก็ทำเองด้วย เวลาไปงานแต่ง ,งานสังสรรค์ ที่ว่าฟ้าทะลายโจรทำลายตับ ตัวดิฉัน เป็นหมอใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาคนป่วยโควิด 5 วัน ไม่ค่อยเจอคนไข้ตับเสียหาย แต่กลับเจอว่าคนใช้ ฟาวิพิราเวีย ตับเสียมากกว่า คะ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม ช่วยเผยแพร่ ให้คนทั่วไปได้ทราบ ส่วนการกระตุ้นให้ฉีดวัคซีนซ้ำ บ่อยๆ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน แต่เราจะเสี่ยง ต่อผลข้างเคียงของวัคซีน ไปด้วย ได้ของแถมโดยไม่อยากได้ บางรายถึงชีวิต, บางรายผมร่วง, บางรายแขนขาอ่อนแรง แม้นเจอน้อย แต่ก็ไม่อยากให้เกิดกับใคร คะ ฉีด เท่าที่จำเป็นจริงๆ และฉีดชั้นผิวหนัง ( ID :Intradermal ) ปลอดภัยสุดคะ ตัวเองก็ฉีด Moderna ชั้นผิวหนังมาแล้ว คะ พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค 64 https://www.facebook.com/kamolpan.cheewapansri/posts/10160676858077281โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย(foot)คนญี่ปุ่นนิยมใส่ถุงเท้าก่อนเข้านอน ทั้ง 4 ฤดู หมอญี่ปุ่นวิจัยแล้วพบว่า การใส่ถุงเท้านอน ช่วยให้เท้าอบอุ่นทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยให้หลับง่ายขึ้นกว่าคนที่ไม่สวมถุงเท้านอน จากการวิจัยของหมออเมริกาก็พบว่า อาสาสมัครสองกลุ่มใส่กับไม่ใส่ถุงเท้านอน ผลปรากฏว่า กลุ่มใส่ถุงเท้านอนหลับได้ง่ายกว่ากลุ่มไม่ใส่ถุงเท้า การใส่ถุงเท้านอนยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ดีจากการหลับลึก ด้วยการสวมถุงเท้านอน ส าเหตุนี้เองคนญี่ปุ่นจึงมีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก คนที่อายุมากกว่า 100ปี จำนวน 86,000คน จากประชากร 120 ล้านคน อายุยืนเฉลี่ย 83 ปี นอนวันละ 8ชม. ฉะนั้นจึงแนะนำให้ใส่ถุงเท้านอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเครื่องสำอางปลอมตำรวจ ปคบ. ร่วม อย. บุกทลายโกดังกระจายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางปลอม ย่านปทุมวัน ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ชาวจีนแสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่และกิจการ ให้การปฏิเสธ อ้างไม่รู้ว่าเป็นสินค้าปลอม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ., ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีทลายโกดังเก็บผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, ยาปลอม และเครื่องสำอางปลอม ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง 19 รายการ รวม 6,320 กล่อง มูลค่าสินค้าปลอมกว่า 10,000,000 บาทความสวยความงามstd48370• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยารัโรคแพนิค💥ฟื้นฟูเร่งด่วนด้วย บาลานซ์ ยู คอร์ ช่วยฟื้นฟูที่ต้นเหตุ ป้องกันโรคซึมเศร้า โรคตื่นตระหนก โรควิตกกังวล หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติระดับ พรีเมี่ยมแท้💯 ✅หายและไม่กลับมาเป็นซ้ำ ✅ทานต่อเนื่องไม่มีผลข้างเคียง 🩸โปรโมชั่นพิเศษ 🩸1 กระปุก 990฿ 🩸2 แถม 1 กระปุก 1,980฿ 🩸4 แถม 2 กระปุก 3,960฿ -------------------------------------- ✅สนใจ/สอบถามหรือปรึกษาฟรี ✅สั่งซื้อสินค้าได้ทางlnbox #วิธีรักษาโรคแพนิค #แพนิครักษา #ยารักษาโรคแพนิค #ยาแก้แพนิค #สมุนไพรรักษาโรคแพนิค #ยารักษาอาการซึมเศร้า #ยารักษาอาการหายใจลำบาก #วิธีรักษาอาการวิตกกังวล #ยารักษาอาการแน่นหน้าอก #ยารักษาอาการตื่นตระหนก #ยารักษาอาการหวาดกลัว #ยารักษาอาการหวาดระแวงยาสมุนไพรstd48869• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลการวิจัยยา Ivermectin ในการรักษา ไวรัสโควิด-19 ได้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการใน American Journal of Therapeutic แล้วนะครับ และผลของการวิจัยก็คือ: 1. Ivermectin สามารถลดจำนวนคนตายจากโควิด-19 ได้ 62%. 2. Ivermectin สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ 86% ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีวัคซีนตัวไหนทำได้เลย. 3. ต้นทุนการผลิต Ivermectin ในอินเดียอยู่ที่ $2.90 ต่อ 100 เม็ด (ขนาดเม็ดละ 12-mg) หรือ เม็ดละ 90 สตางค์ หรือ 4.50 บาท ต่อการรักษา 1 ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 (วันละเม็ด เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน. 4. มีใครอยากที่จะฉีดวัคซีนอีกมั้ยครับ?ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยSaudi Arabia locked down, no flights in and outSaudi Arabia locked down, no flights in and out TANZANIA total lockdown. BRAZIL plunges into its deadliest chapter. SPAIN has declared an emergency extendable until March 2021 UK announced one-month lockdown FRANCE 2 weeks GERMANY for 4 weeks ITALY also followed today. ALL these countries have confirmed that the THIRD WAVE is more deadly than the first So we have to be very careful and *Take All Precautions*. Please become a communicator of the Alert among friends and family ... *SAVE EVERYONE YOU CAN FROM THE THIRD WAVE*. We can't take the 2nd LOCKING PHASE AS IF NOTHING HAS HAPPENED ... History tells us that the 3rd wave is more dangerous than the 1st, as was the case from 1917 to 1919 with the Spanish flu. Millions of people died. Protect yourself and your family. Stay safe, wear a mask, keep social distance. * COVID-19 __________ DO NOT keep this information to yourself, share it with your family and friends.Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร PRACHYA ไม่ขออนุญาต อย. จริงหรือคะปราชญา PRACHYA โสมขาวสกัด พบว่า ฉลากไม่แสดงเลขสารบบอาหาร แต่ผลิตและจำหน่ายโดย สถานพยาบาล กุยลิ้มฮึ้งเลขที่ 133-135 ถ.พระราม 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร คาดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการสืบค้นข้อมูลทางเว็บไซต์ www.prachyaherbs.com พบว่ามีการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ถั่งเช่าสีทองสกัด และโสมขาวสกัด ยี่ห้อ ปราชญา แสดงข้อความระบุสรรพคุณผลิตภัณฑ์ว่าเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลร่างกาย ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ลดการเสื่อมของเซลล์ ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำต้มขิงกับขมิ้นชันดื่มต้านโควิด-19 สูตรนี้ใช้ได้จริงไหม?เนื่องจากมีผู้เผยแพร่สูตรสมุนไพรต้านโควิด 19 บนโลกออนไลน์ดังนี้คือ สูตรสมุนไพรป้องกันโควิด ต้มน้ำขิง + ขมิ้นชัน น้ำ 1 แก้ว วิธีทำ ต้มน้ำ 1 แก้ให้เดือด ใส่ขิงกับขมิ้นลงไป ต้ม 5 นาที เทใส่แก้ว กินให้หมดภายใน 4 ชม. หลังจากต้มแล้ว จึงอยากรู้ว่าสูตรนี้จะใช้ได้จริงหรือไม่ มีอันตรายหรือเปล่า?ยาสมุนไพรโควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแชร์ประสบการณ์โอไมครอนแชร์ประสบการณ์โอไมครอนนิดหนึ่งนะ ถ้าแสบคอให้รีบตรวจเลย และถ้าตรวจแล้วขึ้น2 ขีดให้นับย้อนหลังไปอีก 3-4 วันว่าไปไหนมา แล้วจะรู้เองว่าติดมาจากใครเพราะมันติดไวติดง่าย แต่อาการไม่หนักหรอก เหมือนเราเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เมื่อไรที่แสบคอ ให้รีบล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทันทีทุก 4-6 ชม. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ที่สำคัญอย่าเผลอ กลืนเสลดตัวเองเด็ดขาดเพราะเชื้อมันจะลงไปข้างใน (ในช่วง3-4วันแรกที่มีอาการใหม่ๆเชื้อมันยังไม่ลงปอด มันจะอยู่ที่โพรงจมูกและลำคอเราเท่านั้นดังนั้นถ้ารู้ตัวไวก็รักษาง่าย) ถ้ามีไข้ก็กินพาราเซตามอล ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำขิง กับน้ำผึ้ง2ช้อนโต๊ะ มะนาวครึ่งลูกต่อน้ำร้อน1แก้ว ดื่มได้ทั้งวันครับ และพระเอกสุดคือ ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล กินวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร ครั้งละ 3 แคปซูล ตกวันละ 9 แคปซูล กินต่อเนื่องไปเลย 5 วันแรก แล้วเว้นไป 1 วัน แล้วค่อยกลับมากินใหม่ (โดยในวันแรกที่กินฟ้าทะลายโจรทุกครั้ง ผมจะแกะแคปซูลออกแล้วเทฟ้าทะลายโจรลงคอไปเลย 1 แคปซูล ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเจ็บคอก็ทุเลาลงทันตาเห็นครับ ที่แปลกคือมันไม่ขม กินไปกินมาฟ้าทะลายโจรหวานในคอเฉยเลย แต่อย่าให้โดนลิ้นเรานะ ให้มันลงคอไปเลยจะหวานในลำคอครับ) ทำแบบนี้ครบ 7 วันลองเอาชุดตรวจ ATK มาตรวจดู เชื้อจะไม่มีเลย ช่วงแรกจะมีไข้อ่อนๆ 3-4 วัน หลังจากนั้นลิ้นจะไม่รู้รสอยู่เกือบอาทิตย์ครับ แต่พอเชื้อหายแล้ว อาการนี้ก็จะหายตาม คืนแรกๆผมเกือบไม่ได้นอน เพราะผมหายใจไม่ออก ปกติผมจะมีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ฝุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมก็จะมีวิค และยาดมไว้ตรงหัวเตียงตลอด ก็พอช่วยได้ครับ แต่ต้องนอนคว่ำหน้าถึงจะหายใจได้สะดวก พอคืนที่สองผมนึกขึ้นได้ว่าผมมีน้ำเกลืออยู่ เลยเอามาสวนล้างจมูก อาการที่หายใจตอนนอนไม่ได้ก็หายไปทันทีครับ ใครมีญาติหรือเพื่อนที่กำลังเจอโอไมครอนในช่วงนี้ก็แชร์ข้อมูลได้นะครับ เพราะช่วงนี้คนติดวันละหมื่นกว่าละ รพ.ก็เริ่มเตียงไม่พออีกละ แถมรัฐก็ไม่มีเงินช่วยค่ารักษาแล้ว ตอนนี้ใครป่วยก็ต้องรักษาตามสิทธิ์ตัวเอง หรือ ออกเงินเองนะครับ ดังนั้นการรักษาตัวเองที่บ้านจึงปลอดภัยและประหยัดที่สุดแล้วครับโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ของผู้สูงอายุตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย รุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่ง ได้ส่ง VDO link ที่น่าสนใจมาให้ จาก NHK on demand video ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ส.ว. ทั้งหมด (เกิน 250) แต่คนที่ยังไม่เป็น ส.ว. รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะอนาคตเราก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปกันทุกคนอยู่แล้ว เรื่องที่ว่านั้นก็คือ ปัญหาของการที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ (nocturia) เพื่อไปฉี่ ปัญหานี้ ได้มีการทำวิจัยเมื่อต้นปีนี้เอง (กุมภาพันธ์ -เมษายน) ควบคุมโดย Toromoto Kazumasa อาจารย์หมอทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะ (urologist) แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์นารา (Nara Medical University) เนื่องจากโควิดมา ผลการวิจัยนี้จึงเพิ่งจะเผยแพร่สู่สาธารณชน เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้เอง การวิจัย ดำเนินการโดยให้ หนุ่ม Terakita เดินทางไปอยู่ที่บ้านคุณลุง Hayashi ทั้งวัน และทำกิจกรรมต่างๆเหมือนกัน โดยฉี่ให้หมดกระเพาะปัสสาวะ (bladder) ในตอนเช้า จากนั้น ให้กินอาหารเหมือนกัน ดื่มน้ำเท่ากัน ออกกำลังกายเหมือนกัน แล้วฉี่ใส่ถ้วยตวง วัดปริมาณเปรียบเทียบกันดู @07:30 เริ่มกินข้าว เป็นอาหารญี่ปุ่น มีน้ำอยู่ในอาหาร 600 mL (คำนวณโดย Yamaguchi Chikage นักโภชนาการ ของ Nara Medical University Hospital) และดื่มน้ำชา 530 mL รวม 1,130 mL ตอนสาย เจ้าหนุ่ม ฉี่ไป 4 รอบ 300+400+300+100 mL ส่วนลุงฉี่แค่ 2 รอบ 100+110 mL @12:30 มื้อกลางวัน เป็นแซนวิช มีน้ำแค่ 140 mL และดื่มน้ำเปล่าอีกคนละ 380 mL ตอนบ่าย ออกกำลังกาย ไปทำสวนด้วยกัน เข้ามาในบ้าน เล่น VDO game ด้วยกัน (ลุงแกเล่นได้ด้วยแฮะ) ตอนบ่าย เจ้าหนุ่มฉี่อีก 3 ครั้ง 350+200+150 mL คุณลุงก็ฉี่ 3 ครั้งเหมือนกัน แต่ปริมาณน้อยกว่า 40+180+70 mL จนเย็น @18:30 ได้เวลาจากกัน หลังจากอยู่ด้วยกันมาทั้งวัน ค่ำคืนนั้น ก่อนเข้านอน เจ้าหนุ่มฉี่อีก 4 ครั้ง 320+150+180+150 mL แต่ลุงฉี่แค่ครั้งเดียว 180 mL หมอใช้ ultrasound ตรวจดูน้ำในกระเพาะปัสสาวะ - เกือบไม่มีทั้งคู่ ก่อนเข้านอนตอนเที่ยงคืน ในวันนั้น น้ำ เข้าไปร่างกาย คนละ 2,730 mL เท่าๆกัน แต่ลุงมีน้ำเหลืออยู่ในร่างกายเยอะมาก ผลก็คือ เจ้าหนุ่มหลับรวด ไม่ได้ตื่นขึ้นมาฉี่ แต่ลุงต้องตื่นไปฉี่ 3 รอบ 130+420+280 mL วันต่อมาจึงรู้สึกเพลีย การที่กลางวันง่วง และต้องงีบบ่อยๆ เพราะกลางคืนตื่นบ่อย (nocturia) เพื่อไปฉี่ เนื่องจากน้ำที่ดื่มระหว่างวันยังค้างอยู่ในร่างกาย แต่น้ำนั้น ... ไม่ได้อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ! เชื่อหรือไม่ว่า มีความลับในร่างกายของเราอย่างหนึ่ง ก็คือ คนเรามีกระเพาะปัสสาวะที่สอง (2nd bladder) !! ในเมื่อน้ำ ไม่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ แล้วมันไปเก็บอยู่ที่ไหน? ที่ตับ (liver) หรือเปล่า เพราะแอลกอฮอล์ก็ยังไปกำจัดที่ตับ น้ำก็น่าจะไปด้วย … ไม่ใช่ ที่ไต (kidney) ใช่ไหม เพราะเป็นด่านแรก ที่น้ำจะต้องผ่าน ก่อนไปที่กระเพาะปัสสาวะ … ไม่ใช่อีก ที่เส้นเลือด (blood vessels) กระมัง เพราะในเลือดมีน้ำ อาจเก็บน้ำเพิ่มขึ้นได้ … ก็ไม่ใช่ แม้แต่ลำไส้ (intestine) ที่น่าจะมีที่เก็บน้ำไว้ได้มากทีเดียว … ไม่ใช่เหมือนกัน เพราะคำตอบที่ถูกคือ - น่อง (calves) ครับ ! เพื่อเป็นการพิสูจน์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดรอบน่องของลุง Hayashi ตอนตื่นนอนและก่อนนอน พบว่า น่องโตขึ้นจริงๆ (ขวา 40.5 => 42.7 ซ้าย 41.5 => 45.7 cm) ทีมงาน ได้นำอุปกรณ์วัดทันสมัย ไปที่บ้านลุง Hayashi เพื่อวัดปริมาณน้ำในส่วนต่างๆของร่างกาย แล้ว plot มาเป็นกราฟ พบว่า ช่วงเช้า น้ำในลำตัวและแขน เกือบคงที่ แต่น้ำในขา จะค่อยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงบ่าย น้ำในขาเกือบคงที่ แต่ในแขนและลำตัวค่อยๆลด ส่วนตอนค่ำ ก่อนนอน น้ำในลำตัวค่อยๆลด ในแขนคงที่ แต่ในขายังพุ่งขึ้นต่อ สุดท้ายก่อนเข้านอน น้ำในขาของลุง Hayashi มีมากกว่าตอนเช้าถึง หนึ่งลิตรครึ่ง ! ทั้งนี้เพราะ ขาทั้งสองข้าง เป็นเหมือนแท็งค์น้ำ โดยน้ำจะแทรกอยู่ระหว่างกระดูกและผิวหนัง เรียกว่า “interstitium” เมื่อไม่มีน้ำ จะแฟบ พอมีน้ำก็จะพองหนาขึ้น น่อง จึงเหมือนถังน้ำ เก็บไว้ฉี่ทิ้งภายหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ต้องตื่นขึ้นมาฉี่บ่อย คุณหมอ Sone Atsushi Director, Miyazu Takeda Hospital ยืนยันว่า มีคนไข้เป็นอย่างนี้หลายคน มีคำอธิบาย เขียนเป็นไดอะแกรมง่ายๆ เป็นวงจรของเส้นเลือดแดงจากหัวใจลงมาที่น่อง แล้วก็กลับขึ้นหัวใจทางเส้นเลือดดำ ส่วนกระเพาะปัสสาวะอยู่ตรงกลางระหว่างหัวใจกับน่อง การเต้นของหัวใจ กับการเคลื่อนไหวของน่อง จะเหมือนกับปั๊มสองตัวช่วยกันสูบฉีดน้ำในร่างกาย ถ้าน้ำมากไปก็จะไปปล่อยทิ้งที่กระเพาะปัสสาวะ เมื่ออายุยังน้อย ปั๊มที่น่องก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ยิ่งเป็นเด็ก วิ่งกระโดดโลดเต้น น่องจึงแข็งแรง (เพราะฉะนั้น ถึงจะวิ่งไม่ไหว ก็ขยันเดินกันหน่อยนะครับ) แต่เมื่ออายุมากขึ้น น่องไม่ค่อยได้ทำงาน น้ำจึงมาบวมอยู่ที่ขา ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก พอล้มตัวลงนอนตอนดึก น้ำส่วนเกินนี้จึงค่อยๆกลับมาที่กระเพาะปัสสาวะ จนทำให้ต้องลุกไปฉี่บ่อยๆ ดังนั้น ในปีนี้ ทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น จึงมีการปรับแก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ซึ่งไม่มีการแก้ไขมาเลยในรอบสิบปี คุณลุง Ando เป็นคนหนึ่งที่ได้รับการรักษาวิธีหนึ่งในแผนใหม่นี้ สี่ปีมาแล้วที่เขาต้องตื่นมาฉี่ 4~5 ครั้ง ทุกคืน แถมลำบากที่ต้องปีนบันไดขึ้นลง เพราะห้องน้ำอยู่คนละชั้นกับห้องนอน พลาดพลั้งเกิดตกบันไดขึ้นมาก็ยุ่งอีก ชีวิตช่างน่าหดหู่เสียจริงๆ การฉี่บ่อย (nocturia) นำไปสู่ ความรู้สึกหดหู่ และกระดูกหัก !? พูดให้เว่อร์ไปหน่อย ... ความรู้สึกหดหู่ หรือ depression ก็เพราะอดนอน และกระดูกหัก ไม่ใช่เพราะฉี่บ่อยตรงๆ แต่เป็นสาเหตุเกี่ยวเนื่อง โดยเกิดจากการงัวเงียเมื่อตื่นขึ้นมา อาจจะทำให้หกล้ม หรือ ตกบันได แต่กระดูกหักในกลุ่มผู้สูงอายุนี่เรื่องใหญ่นะ วันหนึ่ง ลุง Ando ได้รับ “กล่อง” เพื่อการรักษา หนึ่งเดือนผ่านไป คุณลุงนอนรวดเดียวยันเช้า ไม่ต้องลุกไปฉี่เลย คุณลุง Ando ได้พบ “ทางรอด” แล้ว ที่สามารถจะใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง “ทางรอด” ในกล่องเล็กๆ ที่ทำให้ชีวิตของลุง Ando เปลี่ยนไปเลยนั้น คืออะไร ? คุณ Toshida Masaki Assit. Director, ศูนย์ศึกษาผู้สูงอายุ (แห่ง National Center for Geriatric & Gerontology) มาเฉลยว่า ภายในกล่องนั้น คือ ... “ถุงเท้ารัดน่อง” (compression stockings) ครับ ถ้าสวมมันไว้ตอนกลางวัน จะช่วยทำให้ขาไม่บวม และไม่เก็บน้ำไว้ ทำให้ฉี่ตอนกลางวันมากขึ้น ไม่เก็บไว้ไปฉี่ตอนดึกอีก นอกจากนั้น ยังมีคำแนะนำง่ายๆอีกอย่าง เป็นวิธีการบำบัดข้อที่สอง ที่คุณหมอได้แนะนำให้ลุง Hayashi ที่เข้าร่วมการทดลองในตอนแรก ลองกลับไปทำดู คือการนอนยกขาให้สูงขึ้นหน่อย ประมาณครึ่งฟุต สักครึ่งชั่วโมงในตอนบ่าย แต่อย่างีบหลับไปนะ เดี๋ยวกลางคืนจะนอนไม่หลับอีก คุณลุง Hayashi ได้ลองทำดูประมาณหนึ่งเดือน โดยเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ด้วยการนอนยกขาพาด อ่านหนังสือ หนึ่งเดือนผ่านไป จากการต้องลุกไปฉี่ 3 หนในตอนก่อน ก็เหลือเพียง 1.5 ครั้งโดยเฉลี่ย การรักษานี้เป็นการบำบัดโดยเปลี่ยนอุปนิสัย (behavior therapy) ดีกว่าการใช้ยา เพราะว่าไม่มีผลข้างเคียง (side effect) คำแนะนำเพื่อการบำบัดดังกล่าว มี 3 วิธี คือ :- • สวมถุงน่องแบบรัด • ยกขา • งดกินเค็ม การงดกินเค็มที่แถมมาด้วยนั้น เพราะ การกินเค็ม นอกจากจะทำให้ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ด้วย ของแถมอีกอย่างที่บางคนอาจจะเมิน คือ หมอเขาแนะนำให้เลิกการ “กรุ๊บๆ กรั๊บๆ” ในตอนเย็น เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมกับแกล้มกินเล่นซึ่งมักจะมีเกลือเยอะ จะช่วยกันเรียกความกระหายให้ร่างกายดื่มน้ำมากขึ้น สังเกตได้ว่าถ้ากินเลี้ยงตอนเย็น คืนนั้นก็จะฉี่มากขึ้น คำถามว่า สวมถุงรัดน่องด้วย พร้อมกับนอนยกขาด้วย ได้ไหม - Dr. Yoshida บอกว่า ไม่มีปัญหา แต่สวมถุงรัดน่องไปกินเลี้ยงตอนเย็นนี่คงไม่ช่วยเท่าไหร่นะ งานนี้ สงสัยจะมีคนขอเลี่ยงบาลีไปดื่มตอนเที่ยงแทน คำแนะนำแนวทางทั้งสามนั้น คงจะเป็นประโยชน์กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนเรื่องถุงรัดน่องนั้น ถ้าไปหาตามร้านขายยา ก็จะมีถึงสามชนิดให้เลือก คือ สูงแค่เข่า ซึ่งสวมง่ายหน่อย ยาวขึ้นมาหน่อยคือสวมทั้งขา และที่ยาวสุดคือ สวมขึ้นมาถึงเอว ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามสะดวกครับ รวมทั้ง น่าจะมีขนาดให้เลือกด้วย และสามารถสวมใส่ได้ทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คุณหมอมีคำเตือนสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจหรือเบาหวานว่า ให้ปรึกษาหมอหน่อยก็ดีนะ เรื่องที่จะหาอะไรมารัดน่องนี่น่ะ ที่ง่ายคือการนอน (อย่าหลับ) ยกขาขึ้นมาพาดอะไรที่สูงหน่อยในตอนบ่ายนั้น ก็ต้องบริหารเรื่องเวลาเหมือนกัน ไม่เร็วไป (เพิ่งผ่านเวลาเช้ามาหยกๆ) หรือช้าไป (จะเข้านอนอยู่แล้ว) เพราะจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรทั้งคู่ เวลาแดดร่มลมตก นึกถึงเปลญวนขึ้นมาทีเดียว เพราะเป็นเปลที่ขาถูกยกขึ้นมา ไม่ได้นอนราบๆ แต่ไม่มีเปลญวนก็ไม่เป็นไร หาอะไรหนุนขาเอาก็ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ผมเลยได้ไอเดีย ที่ทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ เพราะว่า ... แทนที่จะนั่งเขียนบทความ บ่ายวันนี้ ผมนอนยกขาเขียนครับ !! ... @_@ ... วัชระ นูมหันต์ 20 ธันวา 63ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยโพสต์นี้เขียนขึ้นตอนเช้าเพราะผมรู้ว่าคุณยังพอมีเวลาอ่าน เขียนขึ้นโดยจะไม่มีการตั้งคำถามใด ๆ หรือต่อว่าใครทั้งสิ้นแล้ว (*ไม่ต้องเอาไปเป็นข่าวนะครับ) แต่เขียนขึ้นเพื่อ "เตือน" ย้ำให้หนักแน่นอีกครั้งหลังผมฟังข้อมูลสำคัญจาก WHO ผ่านทาง TNN 1. ทั่วโลกตายจาก COVID19 เกิน 3 ล้านคนแล้ว ...ล้านคนแรกตายภายใน 5 เดือนแรกที่ระบาด ... ล้านที่ 2 ตายภายใน 4 เดือน และ "ล้านที่ 3" ใช้เวลาทำสถิติอันหดหู่นี้เพียง 3 เดือน ...หมายความว่า "เชื้อมันเร่งการทำลายล้าง" แล้วล่ะ... 2. เชื้อที่กลายพันธุ์ทวีความรุนแรง มีหลายแหล่งที่มา (ตามภาพ) เขาตั้งชื่อเชื้อ ชื่อรหัสไว้หมดแล้ว โดยทั้งหมดเรายังไม่ได้แต่งตั้งว่าเป็นสายพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์วีไอพีไหน ? ...แต่ที่แน่ ๆ เชื้อเข้าร่างกายคนไม่เลือกหน้า ไม่เลือกชื่อชั้น ตำแหน่ง ฐานะ ยากดี มีจน มันโจมตีได้หมด ...หมอ-พยาบาลขนาดระวังตัวมาก ๆ ก็ติดได้ หากหน้ากาก Leak ใส่ไม่ดี ขยับปากพูดมาก ๆ ไหวกายไปมา มันย่อมพลาดได้ 3. เชื้อที่พัฒนามาระลอกนี้มันดันคร่าคนหนุ่มสาวได้ อายุ 20, 30 หรือ 40 ปี ก็มีรายงานการตายออกมาแล้ว (ซึ่งจำนวนตายนี่จริงแท้แน่ เพราะต้องออกใบมรณะบัตร) ฉะนั้นจากความมั่นใจที่เคยมีที่ว่า COVID19 คร่าแต่คนแก่ คนชรา ...ไม่ใช่แล้วนะ ถ้าคุณอ่อนแอ อ้วน นอนน้อย โรครุมเร้า เป็นโรคแนว NCD อยู่แล้ว (โรคไม่ติดต่อแต่เป็นโรคแนว 'ทำเอง' ทั้งหลาย 80% มาจากพฤติกรรม ...ไป Search เอา) ...คุณมีโอกาสม่องเท่ง 4. ผลการศึกษาจากต่างประเทศชี้ว่าบุคคลที่มีกรุ๊ปเลือด A ติดโควิดง่ายกว่ากรุ๊ปอื่น แต่ผู้ป่วยทั้งหมดในเวลานี้ก็มีเลือดคละกันทุกกรุ๊ป ยังไม่มีรายงานว่ากรุ๊ปไหนป่วยมากกว่าใคร ...มีแต่รายงานจากอังกฤษว่าที่ป่วยแล้วตายส่วนมากคือกลุ่มผู้นอนน้อย มีนิสัยการนอนต่ำกว่า 8 ชั่วโมงมาเป็นเวลานาน ... ติดปุ๊ปเชื้อลงปอดไวกว่า ภูมิต้านทานต่ำล่ะว่าง่าย ๆ 5. โลกยังไม่มียารักษาโควิดโดยตรง (มีแต่ยาต้านไวรัสที่ชื่อว่า ‘ฟาวิพิราเวียร์’ แต่ก็ไม่ใช่ไวรัสโคโรน่าโดยตรง) เครื่องมือที่ดีที่สุดทางการแพทย์ ณ เวลานี้คือ "การฉีดวัคซีน" ... ไทยเรามีสัญญาณอัตราเร่งแล้ว ...40 เอกชนรวมตัวกันในนามหอการค้าจะให้พื้นที่รัฐมาเปิดบริการระดมฉีดแบบปูพรม (แบบอเมริกาที่ฉีดได้เร็วมาก 200 ล้านโดสแล้วและเหลือพอต่อทุก ๆ คนที่เข้าประเทศ ฉีดในห้างยา-ร้านรวงเลย ฉีดได้โดยไม่ต้องจอง *มีไลฟ์ของ beartai แบไต๋ ที่ผมจัดไปแล้ว บ้านเรากำลังจะลงทะเบียนกันอีกแล๊ะ 1 พค.นี้กับแอปตัวใหม่ให้คนไทยงงกันอีกครั้งด้วยนาาาา.. เอ้อ~ไม่เอา ๆ ไม่ว่า ๆ โพสต์นี้ไม่ต้องการจะว่าใคร *แค่จะเตือน) แต่การฉีดวัคซีนที่จะเริ่มเห็นผลแบบสงครามสงบได้ ต้องครอบคลุมให้มากกว่า 25% ของจำนวนประชากร ขณะนี้เรายังไปได้แค่ 1.4% (หากคุณไม่ได้อ่านโพสต์นี้ในวันที่ 28 เมษายน ให้ไปดูรายงานสด ๆ ได้จาก https://ourworldindata.org/covid-vaccinations ) วัคซีนทุกตัวมีรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดทั้งสิ้น เรียกง่าย ๆ มีความเสี่ยงทุกตัว แต่น้อยมากกับเคสที่เกิดเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ฉีด ...ฉะนั้นฉีดเถอะเมื่อมันมาถึงคิวคุณ การดื้อดึงไม่เป็นผลดีเพราะคิวจะรวน แถวจะแกว่ง สังคมสับสน ~$#%&£€×¥ ฉีดครบ โลกก็กลับมาไหวกายกันได้ไว ...*และ In Case ว่าคุณไม่ยอมฉีด คุณก็เสี่ยงติด Covid อยู่ดี เพราะเชื้อไม่ได้หายไป มันยังล่องลอยอยู่ในโลก ...โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วทำใจยอมรับซะ ...ความเสี่ยงติดโควิดแล้วตายมีมากกว่าความเสี่ยงในการฉีดแล้วตาย ...ย้อนกลับไปอ่านอัตราเร่งในข้อ 1 ได้นะ สรุป... ทุกวันนี้ให้ทำอย่างไร ? - ออกจากบ้านให้น้อย ล้างมือบ่อย ๆ - สวมหน้ากาก 100% เต็มเมื่อออกนอกชานบ้านหรือมีคนมาหา - รักษาระยะห่าง : อย่าเกรงใจกัน หากกลัวเขามองว่าคุณไม่ไว้ใจเขา ให้เราชิงพูดก่อนเลย "อย่าเข้ามา!! เพราะฉันยังไม่มั่นใจตัวเองเล๊ย~" ... *เมื่อวานผมผ่าน RCA บล็อก D บริษัทอะไรซักอย่างจัดคัดเลือกคน คนตรึมเลย มามุงกันอย่างใกล้ชิด โถ หนุ่มน้อยสาวน้อยทั้งหลาย นาทีนี้ถ้าบริษัทที่คุณทำงานด้วยเขายังไม่มีวิธีป้องกันหรือแสดงออกในการปกป้องคุณ ให้คุณพิจารณางานใหม่เถอะ งานยังมีเยอะแยะ เอกชนยังไม่หยุดจ้างงาน ล็อกดาวน์ก็ไม่กลัวนะเอาจริง ๆ แต่ทั้งนี้ผมก็เชื่อนะว่า การใส่หน้ากากอย่างมิดชิดจริง ๆ (ทับ 2 ชั้นด้วยหลักคิด : หน้ากากอนามัยปิดชั้นแรกแล้วตามด้วยหน้ากากผ้าเพื่อรัดแน่น ไม่ให้ลมหายใจ Leak ออกมา *เช็กได้ด้วยการเป่าปาก หากลมรั่วจะรู้) สามารถบุกตะลุยไปไหนต่อไหนได้เท่าที่จำเป็น ...แล้วผมก็ "เชื่อ" อีกนะว่า ถึงเราจะเผลอสูดไวรัสโคโรน่าเข้าตัวมาแล้ว แต่หากเรา Keep ความแข็งแรงไว้กะร่าง ร่างกายเราจะต่อสู้กับมันได้ ยามว่าง อย่าเอาเวลาไปมัวกิน ให้ยึดหลักสร้างภูมิต้านทานในยามมีศึกสงคราม - ออกกำลังกายในบ้านในแบบที่ทำได้ ทำจำนวนครั้งจนกว่าจะไม่ไหว อย่าปล่อยให้กล้ามเนื้อเหลว ทำให้มันแข็งเข้าไว้ ด้วยการสร้างแรงต้าน - ตัดหวาน เลิกกินน้ำตาล ซึ่งกดภูมิต้านทาน จำไว้ #Sugarเท่ากับฆ่าเรา - เพิ่มภูมิต้านทานด้วยการออกนอกชานบ้านบ้าง มองไปหาแดด ตากแดด ตอนตากแดดถอดรองเท้าด้วย เสียบปลั๊กร่างกายกับผืนโลกหน่อย.. (เรียก #earthing ไปค้นกูเกิล!) พื้นดินกับแดดนี่ปัจจัยลบเพื่อรบกับโควิดเลยนะ ...เชื้อโคโรน่าไม่ชอบอยู่ในอุณหภูมิเกิน 56 องศา ฉะนั้นดื่มน้ำร้อนบ่อย ๆ จิบไว้ตลอดวัน ...ชาร้อน กาแฟดำร้อน ตามชอบ แต่อย่ากินหวาน (ย้ำ) ความขมที่ถมให้หวานได้นี่บัดซบที่สุดฮะ - ส่วนใครจะกินวิตามินใด อาหารเสริม หรือสมุนไพรใด อันนี้ตามศรัทธาของแต่ละคน ผมไม่กล้าแนะนำ เพราะขนาดน้องเภสัชหน้าตาสวยพริ้ม ยังมีดราม่าได้ ... แต่ผมบอกได้เพียงว่า "อะไรที่เขาอัดเม็ดมาขายคุณได้ *มันมีอยู่แล้วในอาหาร" เพียงแต่คุณต้อง "เลือกกิน อย่ากินไม่เลือก" เราอยู่ในยุคอาหารไม่ปลอดภัย ต้องเลือกความ Raw Material อย่าไปถวิลหาการดัดแปรง แปรรูปมากนัก ...ทุกฉลากมี อ่านเยอะ ๆ ตรงนี้เขาโกหกคุณไม่ได้ แต่เขาแค่เขียนตัวเล็กมาก พยายามมองก่อนเอาเข้าปาก (ไว้ผมจะจัดไลฟ์สอนอ่านอีกที) เอาเท่านี้ก่อน....พอแก่แล้วพิมพ์เยอะชิบเป๋งเลย ...แต่เพราะห่วงใยคุณนะถึงเขียน https://www.facebook.com/nuishow/posts/10157850217666976โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสุดช็อค ธนาคารโลกประจานเศรษฐกิจไทยกำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะรัฐบาลโกง ยอดคนอดตาย พุ่งเกินครึ่งของประชากรหรือราว 40 ล้านคน (57%) คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100% ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน รัฐบาลกู้มือเติบ 7 ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น . [[[ เจ๊งทั้งประเทศ ]]] . ธนาคารโลก (World Bank) [1] เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานผลการประเมิน ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100% โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8 ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท . [[[ หนี้ท่วมทะลุเพดาน ]]] . ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น . ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3% เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า 20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35% สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563 มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง . [[[ โกง-จน-เจ๊ง]]] . ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในโลก นำไปสู่ ‘ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน’ ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน . ‘ผู้นำบ้าอำนาจ’ คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม (compromise) และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้ ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง (Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่ . เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ เข้าแข่งขัน ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5% แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60% อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์ . อ้างอิง [1] https://www.posttoday.com/finance-stock/news/639770 [2] https://www.matichon.co.th/economy/news_2359806 [3] https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910375ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมประมง แจง การแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลประเด็นราคากุ้งทะเลที่ลดต่ำลง ซึ่งมีเกษตรกรหลายพื้นที่ได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยชริมพ์บอร์ดได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 ซึ่งมีอธิบดีกรมประมง ในฐานะประธานกรรมการ เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อพิจารณาโครงการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมการค้าภายในจัดทำโครงการ 2 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งโดยเชื่อมโยงการจำหน่ายกุ้งทะเลภายในประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายดูดซับผลผลิตกุ้งทะเลปริมาณรวม 5,000 ตัน ระยะเวลาดำเนินการ 2 เดือน เพื่อให้มีการบริโภคภายในประเทศ โดยรัฐช่วยชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรในอัตรากิโลกรัมละ 20 บาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการด้านการตลาดในอัตรากิโลกรัมละ 10 บาท โดยเสนอขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ 2. โครงการจัดหาปัจจัยการผลิตราคาถูก เพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร (โครงการระยะยาว) นอกจากโครงการที่กล่าวมาข้างต้น กรมประมงยังได้มีการดำเนินโครงการและการส่งเสริมความรู้ให้แก่เกษตรกรในการลดต้นทุนการเลี้ยง เพื่อให้เกษตรกรมีต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลงและมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถประกอบกิจการการเลี้ยงกุ้งได้อย่างยั่งยืน อาทิ -โครงการอาหารกุ้งทะเลธงเขียวเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเลสำหรับบริโภคภายในประเทศ ปี 2566 โดยสนับสนุนเงินค่าอาหารกุ้งทะเล กิโลกรัมละ 2 บาท ให้กับเกษตรกรที่จ้างผลิตโดยใช้เงินทุนของตนเอง ซึ่งโครงการฯ อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) เพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร -โครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน ปี 2564 โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน (Solar cell) การใช้เครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ และการปรับปรุงบ่อเพื่อลดต้นทุนแฝงจากการเกิดโรค -การส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ทดแทนการใช้สารเคมี โดยหน่วยงานของกรมประมงให้บริการหัวเชื้อจุลินทรีย์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ และส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์จุลินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรที่มีความพร้อมในการดำเนินการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่อแจกจ่ายให้แก่สมาชิกในสังกัด เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรโดยครอบคลุมทุกพื้นที่การเลี้ยงกุ้ง -โครงการเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ปี 2565 ระยะที่ 1 โดยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำไปซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ลูกพันธุ์ อาหาร และอื่น ๆ ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่เกิดขึ้น และเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกร นอกจากนี้ กรมประมงยังส่งเสริมให้เกษตรกรมีการวางแผนการผลิตเพื่อให้ได้กุ้งตรงตามขนาดที่ตลาดต้องการ และมีการบริหารจัดการผลผลิตให้เหมาะสมกับฤดูกาลผลิต เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรสามารถลดความเสี่ยงของการประสบปัญหาราคากุ้งตกต่ำได้อย่างยั่งยืนอีกด้วยภาคใต้อันดามันmbamsawy56• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัย(#)จากนี้ไปใครที่มีอุบัติเหตุรถชนใน กทม แล้วต้องการภาพจากกล้องวงจรปิด ขอคลิปออนไลน์ได้ละนะครับ โดยประชาชนที่จะขอไฟล์ภาพต้องแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุก่อน จากนั้นสามารถแจ้งความประสงค์ขอไฟล์ภาพจากกล้อง CCTV ได้ 2 ช่องทาง คือ เว็บไซต์ cctv.bangkok.go.th และไลน์ @CCTVBANGKOK โดยใช้เอกสารและข้อมูลประกอบการขอรับไฟล์ภาพ ได้แก่ . 1. บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ . 2. สำเนาบัตรประชาชน . 3. หมายเลขกล้องวงจรปิด . 4. วันและเวลาของไฟล์ภาพที่ต้องการขอ . เมื่อศูนย์ CCTV ได้รับเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการดำเนินการผ่านไลน์ @CCTVBANGKOK และทางอีเมลที่แจ้งไว้ หรือติดตามสถานะการขอไฟล์ภาพผ่านทางเว็บไซด์ cctv.bangkok.go.th โดยสามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาพผ่านทางเว็บไซต์ cctv.bangkok.go.th ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน หากเกิน 7 วัน จะต้องทำเรื่องขอภาพใหม่ ====================== UPDATE: กทม. เปิด 2 ช่องทางให้ประชาชนขอภาพ CCTV ออนไลน์ได้ใน 24 ชั่วโมงแล้ว . วันนี้ (18 กรกฎาคม) วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้เปิดให้มีการขอภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ของกรุงเทพมหานครทางออนไลน์ได้ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางมาขอภาพด้วยตนเอง . โดยประชาชนที่จะขอไฟล์ภาพต้องแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุก่อน จากนั้นสามารถแจ้งความประสงค์ขอไฟล์ภาพจากกล้อง CCTV ได้ 2 ช่องทาง คือ เว็บไซต์ cctv.bangkok.go.th และไลน์ @CCTVBANGKOK โดยใช้เอกสารและข้อมูลประกอบการขอรับไฟล์ภาพ ได้แก่ . 1. บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ . 2. สำเนาบัตรประชาชน . 3. หมายเลขกล้องวงจรปิด . 4. วันและเวลาของไฟล์ภาพที่ต้องการขอ . เมื่อศูนย์ CCTV ได้รับเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการดำเนินการผ่านไลน์ @CCTVBANGKOK และทางอีเมลที่แจ้งไว้ หรือติดตามสถานะการขอไฟล์ภาพผ่านทางเว็บไซด์ cctv.bangkok.go.th โดยสามารถดาวน์โหลดไฟล์ภาพผ่านทางเว็บไซต์ cctv.bangkok.go.th ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน หากเกิน 7 วัน จะต้องทำเรื่องขอภาพใหม่ . ทั้งนี้ ในการขอรับไฟล์ภาพจะสามารถรับไฟล์ภาพได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถขอข้อมูลไฟล์ภาพได้ไม่เกินครั้งละ 6 กล้อง และไฟล์ภาพต้องมีระยะเวลารวมไม่เกิน 3 ชั่วโมง กรณีการขอไฟล์ภาพที่มีระยะเวลารวมเกิน 3 ชั่วโมง หรือต้องการไฟล์ภาพต้นฉบับให้ติดต่อรับได้ที่ศูนย์ CCTV ทั้ง 13 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาเวอร์ชันใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการขอไฟล์ภาพจากกล้อง CCTV ได้สะดวกและง่ายขึ้น . #TheStandardNewsไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสาเหตุของการนอนไม่หลับ1. ปัญหาสิ่งแวดล้อม เสียงดังรบกวน สว่างเกินไป หรือคับแคบเกินไป ทำให้นอนหลับยาก 2. อาการเจ็บป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ 3. ความเครียด อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต คิดว่าตัวเองไร้ค่า ยึดติดและอยู่กับตัวเองมากเกินไป 4. แอลกอฮอล์ คาเฟอีนในกาแฟ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับ 5. ท้องว่าง ทำให้เกิดอาการอึดอัด หิวขึ้นมาในช่วงดึก หรืออิ่มมากเกินไป จนทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึก จนนอนไม่หลับ 6. ภาวะการนอนหลับ เช่น การนอนละเมอ ฝันร้าย หรือนอนไม่หลับจนติดเป็นนิสัย 7. หน้าที่การงานที่ต้องเปลี่ยนเวลาการนอนอยู่สม่ำเสมอ เช่น พยาบาล ยามanywaystravel02• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกฏจราจรใหม่เริ่มใช้แล้ววันนี้(ปรับสุดโหด) 1.ขับเร็วเกินกำหนด ปรับ 4,000 บาท 2. ผ่าไฟแดงปรับ 4,000 บาท 3. ไม่หยุดรถคนข้ามทางม้าลายปรับ 4,000 บ. 4. ย้อนศรปรับ 2,000 บาท 5.ไม่คาดเข็มขัด ปรับ 2,000บาท 6.ไม่สวมหมวกกันน๊อก ปรับ 2,000บาท 7. ขับทำให้คนอื่นเดือดร้อน แซงซ้ายแซงขวา เบรคจะให้เขาชนท้าย ปรับ 5,000-20,000บาท 8.เมาแล้วขับ 8.1. จับครั้งที่1 ปรับ 5,000-20,000บาท ติดคุก 1ปี 8.2.จับครั้งที่2 เมาอีกในรอบ2ปี ปรับ50,000-100,000 ติดคุก 2ปี 8.3.เมาขับชนคนตาย ปรับ60,000-200,000 ติดคุก 3-10 ปี พอหรือยังสำหรับพฤติกรรม เมาแล้วขับ หัวร้อนบนถนน ขับเร็วแซงซ้ายแซงขวาไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ