1 คนสงสัย
เสพไอซ์ ทำให้ผอม-ขาว ตรรกะวิบัติของเซเล็บไทย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวคนมีชื่อเสียงเสพ“ยาไอซ์” แต่ก่อนหน้านี้ ดารา นักร้อง หรือนักกีฬาชื่อดัง เองก็เคยมีข่าวเสพยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์เต็มรูปแบบ โดยสถิติล่าสุด จากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ยาไอซ์ กลายเป็นยาเสพติด ที่คนไทยเสพมากที่สุดเป็นอันดับ 3รองจาก ยาบ้า และเฮโรอีน

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีคนดังหลายราย ที่มีข่าวฉาวเกี่ยวกับยาไอซ์ เริ่มจาก นุกนิก เดอะสตาร์ 3 ที่ขนยาไอซ์ 1.2 กรัม ผ่านด่าน อ.อรัญประเทศ เข้ามาในประเทศไทย ตามมาด้วย ไมค์ กิ่งโพยม ที่ถูกตำรวจจับหลังพกยาไอซ์ในครอบครองเกินกำหนด และเสพยาเสพติดขณะขับขี่ยานพาหนะ ขณะที่ “แม็คก้า” หรือแม็ค ชวนชื่น โดนโทษหนักกว่า เพราะ ถูกตำรวจบุกจับคาคอนโดพร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 2 กรัม และ แจ้งข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษอีกด้วย ช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เสก โลโซ และ นก เชิญยิ้ม ก็มีข่าวเสพยาไอซ์เช่นเดียวกัน

ตัวเลขของสถาบันธัญญารักษ์ ระบุว่า สัดส่วนการเสพยาไอซ์ในผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิม 2-3% เมื่อเทียบกับสัดส่วนการใช้ยาบ้า แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของผู้หญิงที่ใช้ยาเสพติดทุกประเภท และ 15% ในผู้ชาย ของผู้ชายที่ใช้ยาเสพติดทุกประเภท ด้วยเหตุนี้ เอเย่นต์จึงเจาะจงขายาไอซ์ ให้กับผู้หญิงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงอายุน้อยๆ

สำหรับ “ยาไอซ์” จัดเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ. 2522 โดยเม็ดยามีลักษณะเป็นผลึกคล้ายน้ำแข็งเป็นที่มา ของชื่อ “ยาไอซ์” ความบริสุทธ์สูง ออกฤทธิ์แรงกว่ายาบ้ามาก ส่วนวิธีใช้ จะใช้ละลายน้ำแล้วฉีดเข้าเส้นบาง ขณะที่บางคนนำไปเผาแล้วสูดดมควัน เหมือนเสพยาบ้า ยิ่งเสพก็ยิ่งให้อารมณ์เคลิ้ม ที่น่าตกใจคือด้วยฤทธิ์ยาที่แรงขนาดนั้น ทำให้เสพติดทันทีใน 1-2 ครั้ง โดยอุปกรณ์การเสพ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีสูบเข้าปอดโดยตรง ผ่านอุปกรณ์ ลักษณะคล้ายบ้องกัญชา เรียกว่า “โจ๋” โดยผู้เสพสามารถทำขึ้นเอง หรือหากไม่อยากทำ ตลาดมืดใต้ดินหลายแห่งก็มีวางจำหน่าย

ทว่า ด้วยราคาที่แพง ถึงกรัมละ 3,000 – 4,000 บาท และมักนิยมเสพกันในหมู่คุณหนูไฮโซ และส่วนใหญ่จะเปิดห้องจัดปาร์ตี้เฉพาะกลุ่ม และเกิดการ ระบาดนอกจากในสถานบันเทิง ด้วยเหตุนี้ ทำให้คนที่เสพยาเชื่อแต่เพียงว่า จะมีฤทธิ์เบากว่ายาบ้า ในความเป็นจริงแล้ว ยาไอซ์จะออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมอง รวมถึงสูญเสียส่วนควบคุมการทรงตัวขณะที่ ความเข้าใจว่า เสพยาไอซ์ จะทำให้ผอม เนื่องจากทำให้กินน้อยลงนั้น อาจเป็นไปได้ในช่วงแรก เพราะเมื่อยาออกฤทธิ์เข้าสู่เส้นเลือด ก็จะทำให้ผู้ที่เสพไม่อยากกินอาหาร และเบื่ออาหาร จึงทำให้เหมือนกับผอมไปพักหนึ่ง ขณะที่หลังจากนั้น ฤทธิ์ของยา จะทำให้เข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายซีด จนถูกคิดว่าเป็นยาที่กินแล้วขาว แต่ในระยะยาวก็จะดำคล้ำขึ้น เพราะไม่เหลือสารอาหารเข้าไปบำรุงผิวอีกต่อไป

ในระยะแยก ผู้เสพจะเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย หน้าตาซูบที่ขอบแก้มด้านหน้า ส่วนขอบตาด้านล่างจะดำ แต่หลังจากนั้น พิษของยาไอซ์ จะเริ่มเห็นผลมากขึ้นจากการทำลายสมอง ยาไอซ์มีฤทธิ์ทำลายสมองที่รุนแรงมาก คนที่เข้ามารับการบำบัดส่วนใหญ่มักเป็นคนที่เสพติดต่อกันนาน 3–5 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง กระทั่งมีอาการทางประสาท รวมไปถึงจิตหลอนตามมา ยิ่งเสพมากเข้า ยิ่งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นคลุ้มคลั่ง หนักกว่ายาบ้า เพราะยาไอซ์ มีผลข้างเคียงล้วนๆ ต่อสมอง ต่างจากยาบ้าที่พอจะมีแป้งผสมบ้าง

ขณะที่การบำบัดอาจต้องใช้เวลาตั้งแต่ 4เดือน ไปจนถึง 1 ปี ตามปริมาณการเสพ และอาการของผู้เสพ โดยส่วนใหญ่ต้องเริ่มจากรักษาอาการทางจิต และตามมาด้วยขั้นตอนการฟื้นฟูอีกเป็นเวลานาน
Nontawattahom
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น

ความสวยความงาม

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    กัญชารักษา39โรคนี้ได้จริงไหมครับ
    💝39โรค หายได้ด้วยกัญชา ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์💝 🍀💐เอาสิ พี่กัญออกฤทธิ์. ปราบเรียบ 39 โรค มีอะไรบ้างไปดูกันเล้ย😊🤟 1 กัญชาสามารถหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งไม่ให้ลุกลามและกำจัดเซลมะเร็งได้ โดยไม่ทำร้ายหรือสร้างความเสียหายให้กับเซลปกติ 2 กัญชาสามารถรักษาต้อหิน 3 กัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้(thcสามารถยับยั้งเซลล์เอเบตาโปรตีนไม่ให้ผลิตสารพิษที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์) 4 กัญชาสามารถช่วยลดอาการอักเสบ 5 กัญชาสามารถควบคุมและรักษาโรคลมชัก 6 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากโรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม 7 กัญชาสามารถรักษโรคโครห์น (Crohn’s Disease) ความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ได้ 8 กัญชาสามารถช่วยควบคุมและรักษาโรคพากินสัน 9 กัญชาสามารถลดความวิตกกังวล 10 กัญชาสามารถช่วยในการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพปอดได้ 11 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากเคมีบำบัด 12 กัญชาสามารถปรับปรุงอาการของโรคลูปัสหรือโรคเอสแอลอี (โรคพุ่มพวง) 13 กัญชาสามารถช่วยปกป้องสมองจากความเสียหายของโรคหลอดเลือดสมอง 14 กัญชาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อกระตุก 15 กัญชาสามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบ 16 กัญชาสามารถช่วยขจัดฝันร้าย 17 กัญชาสามารถปกป้องสมองจากการถูกกระทบกระแทกและการบาดเจ็บ 18 กัญชาสามารถช่วยให้เจริญอาหาร 19 กัญชาสามารถช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม 20 กัญชาสามารถแก้โรคบิด แก้ปวดท้อง และโรคท้องร่วง 21 กัญชาสามารถช่วยแก้อาการประจำเดือนไม่ปกติของสตรี 22 กัญชาสามารแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน 23 กัญชาสามารถแก้ปวดหัวไมเกรน 24 กัญชาช่วยรักษาการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง 25 กัญชาสามารถช่วยบำบัดผู้ติดยาเสพติดชนิดรุนแรงเช่นเฮโรอีน 26 กัญชาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงได้ (รักษาเบาหวาน) 27 กัญชาสามารถช่วยรักษาแผลสด แผลหายยากจากเบาหวาน ให้แห้งและหายได้ 28 กัญชาช่วยทำให้มีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสมีสมาธิและจิตใจสงบ 29 กัญชาสามารถช่วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อHIVหรือเอดส์ให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้น 30 กัญชาสามารถช่วยป้องกันโรคตับแข็ง 31 กัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น 32 กัญชาสามารถช่วยรักษาอาการกระดูกหักให้หายไวขึ้น และยังทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นด้วย 33 กัญชาสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบปเส้นประสาททั้งร่างกายและระบบเชื่อมต่อในสมอง 34 กัญชาสามารถรักษาโรคภูมิแพ้ต่างๆได้ 35 กัญชาสามารช่วยรักษาอาการโรคปลอกประสาทอักเสบหรือโรคเอ็มเอส (MS) 36 กัญชาช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาตได้ 37 กัญชาสามารถแก้ไข้ผอมเหลือง ไม่มีกำลัง ตัวสั่นได้ 38 กัญชาสามารถรักษาแผลในเซลล์ลำไส้ที่เกิดจาการอักเสบของโรค crohn's disease ได้ (จาการทดสอบในตาจึงอาจนำไปสู่การใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่กำลังจะสูญเสียตาได้อีกด้วย) 39 กัญชาสามารถช่วยต่อสู้กับโรคลูคีเมียได้ กัญชาสามารถยับยั้งอารมณ์เกรี้ยวกราดได้ นี่เป็นเพียงบางส่วนเล็กๆเท่านั้นที่กัญชาสามารถทำได้ และโปรดจำไว้ว่า กัญชาเป็นมากกว่ายา..แต่ในฐานะยา.. "กัญชาคือยาที่ปลอดภัยที่สุดในโลก" ..เท่าที่มนุษย์จะหาได้..ในเวลานี้ (กัญชาใช้เป็นยาได้ทั้งมนุษย์และสัตว์) และกัญชายังมีความลับซ่อนอยู่อีกมาก.. 🤔
    Klamongkhon Klinhom
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false