1543 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกินอาหารเสริมอาหารเสริมจำเป็นต้องกินเป็นประจำจริงไหมstd47677• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเอาหล่ะสิ! ประกาศห้ามนำ "ภาชนะโฟม-พลาสติก" เข้าอุทยานฯทุกแห่ง ฝ่าฝืนโดนปรับหนัก ประกาศลง"ราชกิจจาฯ" มีผลวันนี้ (6เม.ย.65)เอาหล่ะสิ! ประกาศห้ามนำ "ภาชนะโฟม-พลาสติก" เข้าอุทยานฯทุกแห่ง ฝ่าฝืนโดนปรับหนัก ประกาศลง"ราชกิจจาฯ" มีผลวันนี้ (6เม.ย.65)Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"ระวัง !! ขณะนี้โควิด&ไข้หว้ดใหญ่ กลับมารุนแรง" หากไม่จำเป็นจริงๆ >>ควรงดเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงและงดร่วมกิจกรรมที่ต้องเจอะเจอผู้คนจำนวนมาก กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า : โควิดและไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ■ วิธีป้องกันคือ ⊙ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ ⊙ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ ⊙ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี ดังนั้นควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมาก ๆ เอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ⊙ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว ⊙ งดใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ☆ ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ⊙ อาหารทอด รสจัด ควรงดรับประทานชั่วคราว ⊙ กินวิตามินซีให้ครบถ้วน ■ ศูนย์ควบคุมโรคระบาด แจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ● กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ดังนี้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ ● และประเทศไทย >> จังหวัดเฝ้าระวัง เวลาเดินทาง 8 จังหวัดคือ ▪︎กทม. ▪︎สมุทรปราการ ▪︎ชลบุรี ▪︎เชียงใหม่ ▪︎เชียงราย ▪︎ประจวบคีรีขันธ์ ▪︎กระบี่ ▪︎และ ภูเก็ต ● ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ☆ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด ต้องระวังตัวให้มากที่สุดโควิด 2019ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 6 เดือนที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยช่วยกันส่ง เผื่อจะได้คำตอบนะคะ ถ้ารัฐบาลเศรษฐา "ซื่อสัตย์" ตรงไปตรงมา ไม่มีวาระซ่อนเร้น ⛳️ คำถามที่ 1 : ถ้ามีเงินพร้อมแจกประชาชนจริงๆแล้ว ทำไมไม่โอนเงินเข้าบัญชีของทุกคนโดยตรงเลย ? - ง่ายๆ - ตรงไปตรงมา - โปร่งใส - ตรวจสอบได้ - ไม่มีวาระซ่อนเร้น เพราะไม่สามารถซ่อนเร้นได้ - ประชาชน สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที ✅ ไม่ต้องปวดหัว กับเงื่อนไขหมกเม็ด ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ⛳️ คำถามที่ 2 : สกุลเงินดิจิทัล ที่นายกเศรษฐา แห่งพรรคเพื่อไทยจะนำมาแจกแทนเงินสด เป็นของบริษัทอะไร ? - ทำไมต้องใช้ Token ของบริษัทนี้เท่านั้น - ปัจจุบัน มีใครถือ Token สกุลนี้อยู่บ้าง ? - ถ้าเอาเงินของประชาชน 560,000 ล้านบาท มาซื้อ Token สกุลนี้ มีใครได้รับประโยชน์บ้าง ? (ทั้งบุคคล และ นิติบุคคล) - การทำแบบนี้ "ทุจริตเชิงนโยบาย" ใช่หรือไม่ ? ⛳️ คำถามที่ 3 : ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, นักวิชาการ, นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก, บุคคลทั่วไป, นักธุรกิจ, ภาคเอกชน ไม่เห็นด้วยกับนายกเศรษฐา+พรรคเพื่อไทย ที่พยายามหาทางจะ "แจก Token แทนการให้เป็นเงินสด" นั้น ทำไมจึงยังดื้อด้าน ดันทุรังจะทำให้ได้ เพราะอะไร ? - ถ้าไม่ใช่เจตนาทุจริต แบบดื้อตาใส หน้าด้านๆ - หรือ นายกเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย มีเจตนาทำร้ายคนไทยทั้งประเทศ ให้ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ, ข้าวยาก-หมากแพง ส่งผลทำให้ประเทศไทยล่มสลายทางเศรษฐกิจ 🫵 นายกเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ต้องตอบ 3 คำถามนี้ทันที ให้คนไทยทุกคนรับทราบ - หากนิ่งเฉย หรือ พยายามขับเคลื่อนนโยบาย"แจก Token แทนเงินสด" ต่อไป 🇹🇭 คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไทย ไม่สามารถยอมให้ นายกเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย บริหารประเทศนี้อีกต่อไป ขอให้นายกเศรษฐา เตรียมหาช่องทางหนีออกนอกประเทศไปอยู่กับ "ยิ่งลักษณ์" ในต่างประเทศอย่างมีความสุขได้ ตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศไทยได้ ☠️ 🇹🇭 "กลุ่มคนไทยผู้รักชาติ" 5 เมษายน 2567 🤷🏻♂️ หากท่านใดที่ต้องการทราบคำตอบทั้ง 3 ข้อ เหมือนกับพวกเรา ก็กรุณาส่งต่อคำถามนี้ไปในช่องทางต่างๆ เพื่อให้ถึงนายกเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ด้วยครับ 🙏ข่าวการเมืองการเงิน เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยก้าวไกล มีมติ ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ-พรรครวมไทยสร้างชาติวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลได้จัดประชุม ส.ส.ผ่านทางออนไลน์ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน และการกำหนดทิศทางการร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ได้ข้อสรุปว่า พรรคก้าวไกลยืนยันจะไม่ร่วมรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ 1.เป็นที่แน่ชัดว่าพรรคพลังประชารัฐมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และพรรครวมไทยสร้างชาติมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองเป็นหัวหอกหลักในการยึดอำนาจ ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซ้ำยังมีกระบวนการสืบทอดอำนาจตนเองผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยกลไกและองค์กรสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน 2.พรรคก้าวไกลมีจุดยืนชัดเจนต่อประเด็นการสืบทอดอำนาจ และประกาศตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ว่าจะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ และได้ประกาศย้ำต่อประชาชนในทุกรายการ ทุกเวทีหาเสียงเลือกตั้ง 3.ผลการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม เป็นการประกาศเจตจำนงของประชาชนที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจนชนะเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 เมื่อรวมกันได้ 8 พรรคการเมืองที่มีแนวทางยุติการสืบทอดอำนาจ ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรถึง 312 จาก 500 ที่นั่ง และมีคะแนนดิบสูงถึง 27 ล้านเสียง ไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้ว่าประชาชนต้องการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างรัฐบาล ดังนั้น เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม 4.แม้กลไก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. จะสกัดขัดขวาง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เรายืนยันว่าสิ่งสำคัญในวันนี้ ไม่ใช่พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือก้าวไกลเป็นรัฐบาล แต่คือการจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วย 8 พรรคตามมติประชาชน พรรคก้าวไกลจึงเปิดทางให้พรรคอันดับสองคือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าหาเสียงสนับสนุนตามที่ปรากฏเป็นข่าว 5.แม้การจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด จะมีความสำคัญต่อการเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชน แต่เราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนซึ่งสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง จะนำไปสู่วิกฤตศรัทธาของประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตย จนอาจยากต่อการเรียกกลับคืนข่าวการเมืองมีมstd46768• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยร่างกายอับเสบตัวร้อนเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ . ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการให้ข้อมูลโดยระบุว่า ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภทคือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง โดยพบโรคหลอดเลือดตีบตันมากกว่าเส้นเลือดแตกในสมอง . ซึ่งภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ โรคไต โรคภาวะอุดกั้นลมหายใจขณะนอน (OSA) เป็นต้น . อาการแสดงสำคัญที่ควรรู้ และควรสังเกตอย่างสม่ำเสมอ มีดังนี้ 1. ชา หรืออ่อนแรงที่หน้า แขน หรือขา ซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด 2. พูดลำบาก พูดไม่ได้หรือไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูดอย่างทันทีทันใด 3. มีปัญหาการมองเห็น ตามัว หรือเห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอย่างทันทีทันใด 4. มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ เดินไม่ได้ เดินลำบาก เดินเซ หรือสูญเสียการทรงตัวในการยืนและเดินอย่างทันทีทันใด 5. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างทันทีทันใดโดยไม่ทราบสาเหตุ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือ โทร. 02-306-9899 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการร่างกายอักเสบ ตัวร้อน ไม่ได้เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองดังที่ถูกกล่าวอ้างในข้างต้น แต่เป็นอาการเหล่านี้ได้แก่ หน้า แขน ขา ชาหรืออ่อนแรง , พูดลำบาก , ตามัว มีปัญหาด้านการมองเห็น , เวียนหัวจนเดินไม่ได้ และปวดศีรษะรุนแรง . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ร่างกายอักเสบ #ตัวร้อน #เส้นเลือดในสมองแตกSpark Forme• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพบบัตรเลือกตั้งสีม่วงและสีเขียวทิ้งอยู่ในกองขยะ”วันที่ 22 พ.ค.2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งโพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า ตามที่มีผู้ใช้สังคมออนไลน์ 2 บัญชี นำเสนอข่าวที่เป็นความเท็จว่า “พบบัตรเลือกตั้งสีม่วงและสีเขียวทิ้งอยู่ในกองขยะ” โดยนำเสนอภาพนิ่งและคลิปวิดีโอเผยแพร่ให้แก่สื่อสารมวลชนในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าได้พบบัตรเลือกตั้งดังกล่าวอยู่ในกองขยะ นั้น กกต. ขอเรียนชี้แจงว่า ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ที่ได้นำมาเสนอต่อสาธารณชนเป็นความเท็จทั้งสิ้น กล่าวคือ เหตุการณ์ตามที่นำเสนอ เกิดขึ้นในวันที่ 20 พ.ค. 2566 โดยวันดังกล่าวมีกลุ่มบุคคลที่สร้างความวุ่นวายจำนวนหนึ่ง บุกเข้ามาในสถานที่เก็บรักษาบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ ณ ศาลาประชาคม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 ได้นำบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการออกเสียงลงคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 10 จำนวน 151 หน่วย นำมากองรวมกันไว้บนพื้นห้องโถงของอาคารศาลาประชาคม อำเภอสัตหีบ เพื่อทำการคัดแยกจัดหมวดหมู่ของบัตรเลือกตั้งและเอกสารที่ได้รับจากเขตเลือกตั้งที่ 10 ทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปเก็บรักษาไว้ ณ สนง.กกต.จังหวัดชลบุรี ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 10 ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหญิงผู้ก่อเหตุจำนวน 2 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ได้เข้าไปหยิบฉวยถุงบรรจุบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติก อย่างละ 1 ถุง ออกไปจากความครอบครองของเจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 และนำบัตรเลือกตั้งดังกล่าว ออกไปจากสถานที่เก็บรักษา นำไปแสดงให้แก่ประชาชนที่รออยู่นอกอาคาร กล่าวหาโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า ได้พบบัตรเลือกตั้งจำนวน 2 ถุง ทิ้งอยู่ในกองขยะ กกต. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏว่ามีกองขยะอยู่ภายในอาคารดังกล่าวแต่อย่างใด ภาพที่ปรากฏในสื่อสารมวลชน คือ กองวัสดุอุปกรณ์, ถุงต้นขั้วบัตรเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการเลือกตั้งเป็นบัตรที่ถูกทำลายด้วยวิธีการเจาะรูและร้อยเชือกแล้วทั้งสิ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ของ กกต. และกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งที่ 10 เป็นผู้ควบคุมดูแลและตรวจสอบ เพื่อคัดแยกบัตรดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การนำเสนอภาพข่าวและคลิปวิดีโอ จึงเป็นความเท็จ คำเตือน ผู้ใดแชร์ข่าวดังกล่าวด้วยวิธีการกดไลก์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต๊อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับข่าวการเมืองเลือกตั้งstd46432• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม !! ทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี 5 พันนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีการแชร์และส่งต่อข้อมูล “รัฐฯ ทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,000 บาท ภายในเดือนมิถุนายนนี้” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand : AFNC) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่า “เป็นข้อมูลเท็จ” โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายโอนเงินหรือแจกเงิน 5,000 บาทเข้าบัญชีในเดือนมิถุนายนนี้ “เป็นข่าวปลอมจากผู้ไม่หวังดี ขอประชาชนอย่าได้หลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว โดยประชาชนสามารถตรวจสอบและรับข้อมูลข่าวสารจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ที่เว็บไซต์ www.cgd.go.th หรือโทร 02 127 7000 หรือผ่านทางแฟนเพจ กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department ขอความร่วมมือประชาชนอย่าส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ อีก เพื่อป้องกันความสับสนและความเข้าใจผิดขยายไปในวงกว้างเพิ่มขึ้น” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว นายอนุชา กล่าวว่า เมื่อประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารใด ๆ มา หากมีความสงสัยหรือไม่แน่ใจในข้อมูลเหล่านั้น ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและความถูกต้องจากหน่วยงานเจ้าของเรื่องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเผยแพร่ หรือแชร์ข้อมูลออกไปให้บุคคลอื่น เพราะหากแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องนอกจากจะก่อให้เกิดความสับสน และอาจนำไปสู่การหลอกลวงสร้างความเสียหายแก่ประชาชนได้แล้ว ยังผิดกฎหมายด้วย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมระบุกรณีพฤติกรรมการกด Like และกด Share ของผู้ที่เล่นโซเชียลมีเดียหรือใช้สื่อสังคมออนไลน์ควรรอบคอบ โดยเฉพาะการกดแชร์ ถือเป็นการเผยแพร่ หากการแชร์ข้อมูลนั้นไปกระทบกับบุคคลอื่น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทยดลยา ซื่อตรง เลขที่36• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจังหวัดเชียงราย ในปัจจุบันไม่เหมือน ในอดีตอีกแล้ว ผู้คนแต่งตัวประ ิหลาดสวมถุงดำเดิน กันทััวบ้านทั่วเมือง วัฒนธรรมล้านนา ก็ค่อยๆหายไป มัสยิด ก็ผุดขึ้น มาเหมือนดอกเห็ด มีแขกหลากหลาย สายพันธุ์ ขยายตัว อย่างรวดเร็ว - แขกฮ้อ - แขกปาทาน (ปากี) - แขกโฮริงญา - แขกบังคลาเทศ - แขกอาหรับ หลาก หลายสายพันธุ์ - มีแม้กระทั่งกระ เหรี่ยงแขก ** ที่หนักๆ ก็คือ แขกมะลายู จากสาม จังหวัดชายแดนใต้ หลั่งไหลเข้าไปเหมือ นสายน้ำ เข้าไปเพาะ เชื้อ วางไจ่ เต็มไป หมด โดยมีแขกฮ้อ เจ้าถิ่นคอยรองรับ และอำนวยความ สะดวก เพราะเป็น เรื่อนร่างเดียวกัน ** ผู้นำชุมชน นักการ เมืองท้องถิ่น เป็นแขก ไปได้อย่างไร ? น่าคิด นะครับ - เชียงรายกำลังจะ เป็นเหมือนแม่สอด - ปัจจุบันจังหวัด สระแก้ว ก็กำลังจะเป็น คล้ายๆจังหวัดเชียงราย แขกมันเข้าไปตาม หมู่บ้าน แล้วถามว่าใคร เป็นหนี้ ธกส. บ้าง แล้ว แขกมันก็ล้างหนี้ให้ แต่มีข้อแม้ว่า จะต้อง เป็น อิด-ซา-ลาม ยกครัว หลายคนหลงเชื่อโดย คิดว่าเมื่อล้างหนี้เสร็จ แล้ว "กูจะไม่นับถือ" ใครจะทำไม ! แต่ที่ไหน ได้ ..เมื่อเข้าไปแล้วหาก จะออก โดน " ขู่ - ฆ่า ยกครัว " ** พี่น้องครับ เป็นที่ น่าสังเกตนะครับ แขก มันจะรุกหนักตามแถบ จังหวัดชายแดนของ ไทยเช่น บึงกาฬ หนอง คาย มุกดาหาร แม่สอด แม่สาย สระแก้ว และ อีกหลายๆจังหวัด ชายแดน ** อีกไม่นาน แม่สอด เชียงราย ก็จะเป็นเหมือ นสามจังหวัดชายแดน ใต้ คอยดูกันต่อไป คง ไม่เกิน10 ปี รอให้พวก มาก และอาวุธพร้อม เท่านั้น ** เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ สามารถแยกประเทศ ได้ แม่สอด แม่สายก็ จะขอ แยกตัวทันที หนองจอก มีนบุรี ก็ จะขอปกครองตนเอง เช่นกัน ** ตอนนี้ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ที่เป็น มุด-ซา- ลิม มีมากถึง 40 % แล้ว ** นักการเมือง ชาว พุทธที่เราเลือกเขาไป นั้น ไม่เคยเห็น ไอ้ และ อี หน้าไหน ที่มันทำเพื่อ ประเทศชาติไทย และ ศาสนาพุทธเลย ** แต่ที่เห็น ก็คือ มี 10 กว่าคนของ สส. ิพุทธ ของพรรคการ เมืองพรรคหนึ่งยกมือ สนับสนุนกฎหมาย อิด -ซา- ลาม ฝากไว้ให้คิด และ ได้โปรดตื่นกันบ้างเถอะ พี่น้องชาวพุทธข่าวการเมืองภาคอีสานภาคเหนือภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยมะนาวยังสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 10000 เท่าล้างมะนาวให้สะอาดใส่ช่องแช่แข็ง พอมะนาวแข็งเอามาขูดทั้งลูกพร้อมผิวให้เป็นฝอย นำมาโรยบนผัก สลัด ไอศกรีม ซุบ ชีริล ก๋วยเตี๋ยว สปาเก็ตตี ข้าว ซูชิ อาหารจานปลา และอื่นๆ ใส่แล้วอาหารเหล่านั้นจะมีรสชาดทีดีอย่างคาดไม่ถึง ส่วนมากเรารู้เพียงแต่ว่าน้ำมะนาวมีวิตามิน C การไม่ทิ้งผิวมะนาว นอกจากไม่เป็นการสิ้นเปลืองยังทำให้เราได้รสชาตอาหารที่แปลกใหม่อีก ผิวมะนาวมีวิตามินมากกว่าน้ำมะนาว 5 ถึง 10 เท่า และนั่นคือสิ่งที่สูญเสียไปกับผิวมะนาว ผิวมะนาวช่วยให้เรายังดูหนุ่มและสาว และยังขับพิษที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มะนาวยังสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 10000 เท่า เหตุที่เราไม่ค่อยรู้ถึงประโยชน์อันมหาสารของมะนาว ก็เพราะบริษัทผลิตยารายใหญ่พยายามปิดบัญชี ตอนนี้คุณควรบอกเพื่อนๆถึงคุณค่าของมะนาว นอกจากรสชาตของมัน มะนาวยังสามารถป้องกันผลข้างเคียงจากคีโมที่ใช้รักษามะเร็ง ผู้คนอีกมากเท่าไหร่ที่ต้องเสียชีวิตจากการที่บริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ปกปิดข้อมูลนี้เพื่อผลประโยชน์ ของตัวเขาเอง ผลมะนาวได้รับการยืนยันจากบริษัทผลิตยแห่งหนึ่ง หลังการทดลองถึง 20 ครั้งตั้งแต่ปี 1970 ว่าสารที่ผลิตได้จากมะนาวสามารถฆ่าเชลมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด เช่น มะเร็งเต้านม ต่อมลูกหมาก ปอด และยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ปาราสิต พยาธิ ความดัน คลายเครียดและความผิดปกติของเส้นประสาท สารที่สกัดได้จากมะนาว ยังให้ผลดีกว่าตัวยา Adriamycin ในคืโมที่ใช้รักษามะเร๋งได้ถึง 10000 เท่า ยังช่วยลดการเติบโตของของเชลมะเร็งร้าย โดยไม่ทำลายเชลที่ดีของร่างกายของผู้ป่วย ดังนั้นมะนาวแช่แข็งขูดฝอยจึงมีประโยชน์ต่อทุกส่านของร่างกาย ช่วยส่งข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆเพื่อช่วยชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งยาสมุนไพรมะเร็งMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย***ยางใหม่ใส่ล้อหลัง สำหรับผู้ที่เปลี่ยนยางรถยนต์ ครั้งละ 2 เส้น หลังจากที่ได้เห็นคลิปของบริษัทยาง Michelin ที่ออกมาแนะนำว่า หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ยางรถยนตร์เพียงแค่ 2 ล้อ แนะนำให้เอายางใหม่ใส่ที่ล้อหลังเสมอ เลยเกิดความ สงสัย ว่ามันจริงหรือไม่ เพราะตามความเข้าใจของตัวเอง ที่เคยปฏิบัติมา 30- 40 ปีมาแล้ว หาก ต้องเปลี่ยนยางรถแค่ 2 เส้น จะเอายางใหม่ใส่ล้อหน้าตลอด ด้วยเหตุผลที่ว่าล้อหน้าต้องรับน้ำหนัก เครื่องยนต์และเกิดการสึกหรอมากกว่า เพราะต้องบดพื้นมากกว่า ในช่วงเลี้ยว และความเข้าใจว่า หากยางหน้าระเบิด จะอันตรายมากกว่าหากระเบิดที่ล้อหลัง ในช่วงแรกคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ Michelin จะแนะนำถูก เลยหาข้อมูล ถึงแม้ว่าตัวเองใน 10 กว่าปีมานี้ เปลี่ยนยางครั้งละ 4 เส้นเสมอ แต่มันฝืนความรู้สึกตัวเอง เลยถามเพื่อนๆ 40 กว่าคน จากหลายๆ กลุ่ม คำตอบจากเพื่อนๆที่ได้ผลออกมา 100% เลย ทุกคนตอบว่าต้องเอายางใหม่ มาไว้ที่ล้อหน้าเสมอ รวมถึงไปสอบถามร้านขาย ยางรถยนตร์ ทุกร้านที่ไปถาม บอกเหมือนกันหมดคือเอายางใหม่ ไปไว้ล้อหน้า แต่มีอยู่ 1 ร้าน บอกว่าให้เอายางใหม่ไปใส่ไว้ ที่ล้อขับเคลื่อน สรุป ก็คือยังสรุปไม่ได้ เพื่อความมั่นใจเลยโทรไป Call center ของบริษัทยาง รายใหญ่ เช่น Michelin, Good year, Dunlop, Bridgstone ทั้งหมดตอบเหมือนกันคือ ให้เอายางใหม่ไปใส่ล้อหลัง ยกเว้น Good year บอกให้ใส่ล้อหน้า ถึงตอนนี้คิดว่า Good year จะถูกต้องอยู่รายเดียว แต่เพื่อความมั่นใจเลยบอกให้เขา หาข้อมูลจากบริษัทแม่ ในต่างประเทศแล้วส่งอีเมล์ ยืนยันให้ผม ประมาณ 4-5 วัน ต่อมา เจ้าหน้าที่ท่านเดิมฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ของ Good Year ส่ง email มาให้แล้วโทรมาแจ้งว่า ได้ติดต่อบริษัทแม่ และได้ข้อมูลใหม่ซึ่งเขาก็เพิ่งทราบ คือหากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนยางใหม่2 เส้น ต้องเอายางใหม่ใส่ล้อหลัง ด้วยเหตุผลหลักของการใส่ยางใหม่ ที่ล้อหลังคือยางใหม่มีดอกยางลึก จะให้ช่วยยึดเกาะถนนในขณะขับเข้าโค้ง หรือการเปลี่ยนเลนในสภาวะถนน ที่มีความลื่นได้ดีกว่ายางเก่า และจะไม่เกิดการหลุดโค้งมาก เหมือนยางเก่า มาถึงตรงนี้ สรุปว่าบริษัทฯ ยางทุกยี่ห้อที่ผมติดต่อไปตอบยืนยัน เหมือนกันหมดคือ ให้เอายางใหม่ไปใส่ล้อหลัง ฉะนั้น นี่ อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังทำผิดกันมาตลอด แชร์ให้ทราบ เป็นข้อมูล https://youtu.be/tUW6KmvhyjUไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันนี้ได้มีโอกาสฟังบรรยายเรื่อง #กัญชา จากศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริชัย ชยสิริโสภณ... ท่านเป็นอดีต Neurologist ที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา และได้ไปเป็น Researcher อยู่ที่อเมริกากว่า 30 ปี มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำกว่า 100 ชิ้น ปัจจุบันท่านเป็น Director ของ Comprehensive Epilepsy Program, Kaiser Permanente School of Medicine และท่านมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการใชักัญชามาหลายปีในรัฐแคลิฟอร์เนีย สรุปเบื้องต้นได้ว่า 1. จากการศึกษาที่มีในปัจจุบัน กัญชา ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคสารพัดโรคตามที่กล่าวอ้าง เป็นเพียงการรักษาอาการให้ดีขึ้นในระยะหนึ่งเท่านั้น 2. กัญชา กับ #มะเร็ง มีแต่เพียงการทดลองในเซลล์มะเร็งที่อยุ่ในจานทดลอง กับในหนูเท่านั้นที่ได้ผล ส่วนในคนยังไม่มีการศึกษาใดๆ ที่ชี้ให้เห็นว่า กัญชารักษามะเร็งได้ และถ้าเอาขนาดของกัญชาที่ใช้ทดลองในหนูมาปรับตามน้ำหนักให้เป็นขนาดในคน จะทำให้คนเจอพิษข้างเคียงของกัญชาจนเสียชีวิตไปซะก่อน 3. ในอเมริกามีเพียง 10 รัฐที่กัญชาถูกกฏหมาย และส่วนใหญ่เป็นรัฐริมทะเลที่มีคนเชื้อสายอื่นเป็นจำนวนมาก และผ่านกฏหมายเพราะการเปิด Public vote แต่ในรัฐที่มีคนอเมริกาแท้ๆอยู่เป็นส่วนใหญ่ มีองค์กรแพทย์ ที่เข้มแข็ง ต่อต้านการทำกัญชาให้ถูกกฏหมาย เพราะผลเสียมากกว่าผลดีอย่างมากๆ 4. มีการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำ STROKE พบว่าการใช้กัญชาต่อเนื่องนานๆ เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างชัดเจน ทำให้เป็นอัมพาตได้ 5.การใช้กัญชา ทำให้เนื้อสมองฝ่อ โดยเฉพาะในเด็ก และวัยรุ่น IQ ต่ำลง เฉื่อยชา โดยสรุป ผลเสียมากกว่าผลดี ไว้ถ้ามีโอกาสจะเอามาเล่าอย่างละเอียด ขอไปทำงานสำคัญส่วนตัวให้เสร็จก่อนนะครับ ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ โปรดแชร์ ปล ปกติไม่เคยขอให้ใครแชร์ แต่ครั้งนี้ไม่อยากให้ผลกรรมมาตกกับลูกหลานของเรา เพียงเพราะโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มคนบางกลุ่มนะครับ ขอบคุณมากครับ (จากศาสตราจารย์น.พ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล นายกสภาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย อดีตอธิการบดีจุฬา อดีตคณบดีคณะแพทย์จุฬา อดีตผอ.รพ.จุฬา)ยาสมุนไพรมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยงดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น(red flag)#● งดการเดินทางและกิจกรรมทุกประเภทที่ไม่จำเป็น ▪︎กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า: ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ▪︎วิธีป้องกันคือ ⊙ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ ⊙ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ ⊙ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี. สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี. ▪︎ ควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมากๆเอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ⊙ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว ⊙ งดใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ▪︎ ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ⊙ อาหารทอด รสจัด ควรงดรับประทานชั่วคราว ⊙ กินวิตามินซีให้ครบถ้วน ⊙ ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ● กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการไปท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ดังนี้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และ สิงคโปร์ ● และ จังหวัดเฝ้าระวัง เวลาเดินทาง 8 จังหวัดคือ ▪︎กทม. ▪︎สมุทรปราการ ▪︎ชลบุรี ▪︎เชียงใหม่ ▪︎เชียงราย ▪︎ประจวบคีรีขันธ์ ▪︎กระบี่ ▪︎และ ภูเก็ต ● ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ,ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด สะดวกก็ช่วยกันแชร์ครับ ด้วยความปรารถนาดี จาก...Cr. Dr.Amrinโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย13 กลุ่มสกิลแห่งอนาคตที่คนที่อยากทำงาน (และอยากมีงานทำ) ในโลกอนาคตต้องมี (โดย McKinsey) . . บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอย่าง McKinsey ได้ทำการ Survey คนกว่า 18,000 คนจาก 15 ประเทศเกี่ยวกับเรื่อง “Future Skill” ที่คนต้องมีสำหรับ “Future of Work” และเขาได้สรุปออกมาได้ 4 Categories และ 13 Skill Groups . ใครที่อยากมีงานทำในโลกอนาคต ตามมาอ่านกันได้ครับ 🙂 . Note: ในบทความเขาเขียนมาเป็นแบบ Bullets ในหลายๆ ข้อผมเอามาอธิบาย ขยายความต่อเองนะครับ . #กลุ่มที่1 Cognitive (องค์ความรู้) 1. Critical Thinking – การคิดอย่างมีวิจารณญาณ มี Logic รู้ว่าเพราะสิ่งนั้นเกิด สิ่งนี้ก็เลยเกิด รู้ว่าอะไรผิด ถูกตามบริบทต่างๆ 2. Planning and ways of working – การวางแผน การบริหารจัดการงานและเวลา 3. Communication – การสื่อสาร ซึ่งรวมไปถึงการฟังอย่างตั้งใจ การถามคำถามที่ถูกต้อง และการเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจ 4. Mental Flexibility – การมีจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการแปลงความรู้ให้เหมาะกับสถานการณ์ การปรับตัว และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ . #กลุ่มที่2 Interpersonal (มนุษยสัมพันธ์) 5. Mobilizing Systems – ความสามารถในการเป็น Role Model ความสามารถในการเจรจาต่อรองแบบ Win-win การสร้าง Vision ต่างๆ ว่าง่ายๆ คือเป็นคนที่สามารถชักจูงคนได้ (ผมคิดว่า Skill นี้คือ Skill ที่สำคัญมากๆ ของคนที่เป็น Leader) 6. Developing Relationships – การมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีอารมณ์ขัน เข้าสังคมกับผู้อื่นได้ 7. Teamwork Effectiveness – การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง การโค้ช (ผมคิดว่า Skill นี้คือ Skill ที่สำคัญมากๆ ของคนที่เป็น Manager) . #กลุ่มที่3 Self-leadership (ภาวะผู้นำในตัวเอง) 8. Self-awareness and self-management – มีความเข้าใจในอารมณ์ของตัวเอง ควบคุมตัวเองได้ บริหารตัวเองได้ รู้ว่าตัวเองมีจุดเด่นจุดด้อยอะไร 9. Entrepreneurship – มีความกล้าเสี่ยง กล้าทดลองทำสิ่งใหม่ๆ มีพลังและมองโลกในแง่ดี (ผมคิดว่า Skill นี้คือ Skill ที่สำคัญมากๆ ของคนที่เป็น Entrepreneur และ Intrapreneur) 10. Goals Achievement – เป็นคนที่มีความเป็นเจ้าของ ทำงานแบบเน้นผลลัพธ์ ตั้งใจ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค . #กลุ่มที่4 Digital (ดิจิทัล) 11. Digital Fluency and Citizenship – มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดิจิทัลพื้นฐาน 12. Software Use and Development – ความสามารถในการทำความเข้าใจ ใช้ และสร้างซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล 13. Understanding Digital Systems – การเข้าใจระบบ Digital ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Data, Cybersecurity, AI, Metaverse หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะมีมาอีกในอนาคต . ทั้ง 13 Skill Groups มีประมาณนี้ครับ ซึ่งใน 13 Skill Groups มีแตกย่อยออกไปเป็นอีก 56 Foundational Skills ไปดู Skill ทั้งหมดได้ที่นี่ https://mck.co/3tnlOv1 เลยครับ . #futureskill #futureskills #futureofworkไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำสับปะรด ร้อนๆ ..................................... กรุณากระจายมัน !! กรุณากระจายมัน !! ศาสตราจารย์ เฉิน Huiren จากโรงพยาบาลกองทัพบกปักกิ่ง เน้นว่า หากทุกคนที่ได้รับข่าวนี้ สามารถ ทำสำเนา เป็น สิบเล่ม ไปให้คนอื่นได้ อย่างน้อย หนึ่งชีวิต จะได้รับ การช่วยชีวิต ... ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้ว และหวังว่าคุณจะทำได้เช่นกัน ขอขอบคุณ! น้ำสับปะรด ร้อน สามารถช่วยคุณได้ ตลอดชีวิต น้ำสับปะรด ร้อน สามารถ ฆ่าเซลล์มะเร็ง ได้ 1 ให้ตัดชิ้นเนื้อสับปะรด 2-3 ชิ้น ลงในถ้วย ใส่น้ำร้อน มันจะเป็น "น้ำอัลคาไลน์" ดื่มทุกวัน มันดี สำหรับทุกคน 2 สับปะรด ร้อน ปล่อยสาร ต่อต้านมะเร็ง ซึ่งเป็น ความก้าวหน้า ล่าสุด ในการ รักษาโรคมะเร็ง ที่มี ประสิทธิภาพ ในการแพทย์ 3 ผลสับปะรด ร้อน มีผลต่อ การฆ่า ซีสต์ และเนื้องอก พิสูจน์แล้วว่า สามารถ ซ่อมแซมมะเร็ง ทุกชนิด 4 น้ำสับปะรด ร้อน สามารถฆ่าเชื้อโรค และสารพิษ ออกจากร่างกายได้ทั้งหมด เนื่องจากการแพ้ / แพ้ 5 ประเภทของยา ที่มีสารสกัด จากสับปะรด ทำลาย เฉพาะเซลล์ที่มีความรุนแรง เท่านั้น แต่จะไม่ส่งผล ต่อเซลล์ ที่มีสุขภาพดี ..................................... นอกจากนี้ กรดอะมิโนและสับปะรด โพลีฟีนอลในน้ำสับปะรด สามารถควบคุมความดัน โลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการอุดตัน ของหลอดเลือดภายใน ปรับการไหลเวียนโลหิต และลดการอุดตันในเลือด หลังจากอ่าน บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพของคุณเอง .. กรุณา อย่าซ่อนข้อความ ... กรุณากระจายมัน ออกไป และคุณจะช่วยชีวิตผู้คน .....................................ลดความอ้วนยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดร.พิสิฐขอบิณฑบาตงบศึกษาให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจากกรมสรรพสามิต ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาพรบ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่11 มิ.ย.ที่รัฐสภา ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ ได้ขอบิณฑบาตงบศึกษาให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่อธิบดีกรมสรรพสามิตเสนอ โดยชี้ให้เห็นว่า WHO และ FDA ของสหรัฐไม่รับรองว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดการสูญบุหรี่โดยห้ามบริษัทกล่าวอ้าง ขณะนี้มีกว่า 40 ประเทศที่ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้า เด็กในสหรัฐติดบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 4-5 ล้านคน ประเทศไทยแม้จะมีรายได้รัฐบาลจากบุหรี่ปีละ 6 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีรายจ่ายรัฐบาลที่ต้องรักษาพยาบาลคนป่วย 6 หมื่นล้านบาท ความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งค่ายาและค่าใช้จ่ายอื่นอาจสูงถึง 2 แสนล้านบาทจึงไม่คุ้มกัน แถมมีคนเสียชีวิตปีหนึ่งๆ กว่า 9 หมื่นคนจากโรคภัยที่มากับบุหรี่ เทียบกับโควิดที่เสียชีวิต 980 กว่าคนตั้งแต่ต้นปีในประเทศไทย คนป่วยจากบุหรี่ขณะนี้สูงกว่า 1.2 ล้านคน โดยเฉพาะโรคถุงลมโป่งซึ่งคนป่วยจะมีอาการคล้ายคนจมน้ำที่หายใจไม่ออก ดังนั้น จึงขออธิบดีได้ทบทวนความคิดที่จะให้คนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าโดยหว้งจะได้ภาษี งานนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังพยายามล้อบบี้ โดยเข้ามาแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมาธิการการเงินการคลังที่เชียงราย มีความพยายามมาที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนก็ปฏิเสธที่จะไม่พบด้วย อธิบดีกรมสรรพสามิตได้ตอบตอนท้ายว่าขอรับข้อคิดเห็นของ ดร พิสิฐ ไปพิจารณาไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอันตราย ! ไม่ควรทิ้งขยะ ‘หน้ากากอนามัย’ ใส่ขวด PET !ตือนภัย ! อันตรายขั้นกว่า ! ไม่ควรทิ้ง “หน้ากากอนามัย” ใช้แล้ว ในขวด PET ชี้ กำจัดยาก สร้างมลภาวะมากกว่าเดิม เสี่ยงติดเชื้อต่อผู้เก็บ และกลับมาเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แนะ แยก “ขยะติดเชื้อ” ใส่ถุงแยก มัดปากถุง เขียนหน้าถุง เพื่อนำไปกำจัดแบบประเภท “ขยะติดเชื้อ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “พลังงานจากขยะ” ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ เตือนอันตรายจากการทิ้ง “หน้ากากอนามัย” ใช้แล้ว ในขวด PET โดยมีเนื้อหา ดังนี้ “จากการที่พนักงานเก็บขยะขอความร่วมมือ ปชช. ให้ทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ให้เป็นสัดส่วน แยกจากขยะทั่วไปนั้น ได้มีผู้ที่มีความหวังดี กรุณาเสนอไอเดีย ให้ทิ้งหน้ากากอนามัยใส่ขวด PET แบบนี้ ไปตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งต้องขอชื่นชมในน้ำใสใจจริง แต่ต้องขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ว่าไม่ควรทิ้งแบบนี้ เพราะ 1. การบรรจุขยะประเภทติดเชื้อแบบนี้ ในขวดพลาสติก จะไม่สามารถกำจัดได้โดยง่าย นอกจากการเผาตรง ซึ่งเป็นวิธีที่สร้างมลภาวะมากกว่าเดิม เพราะต้องเผาขวดไปด้วย 2. ถ้าไม่เผาตรง พนักงานเก็บขยะก็ต้องเปิดขวดออก แล้วดึงหน้ากากออกมาอยู่ดี โอกาสติดเชื้อก็เพิ่มมากขึ้น เป็นภาระกับพนักงานเก็บและทำลายขยะเข้าไปอีก 3. ขวด PET ใช้แล้ว ยังมีมูลค่าในตัวเอง และราคาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับขยะพลาสติกอื่น ๆ ถ้าคนเก็บของเก่ามาเจอก่อน มีความเป็นไปได้ว่า เขาจะเปิดขวด เอาหน้ากากออก แล้วเอาขวดไปขาย แบบนี้ยิ่งเสี่ยงมากกว่าเดิม เพราะเชื้อจะแพร่ไปในหลายที่ แบบไม่มีใครทันระวังตัว 4. ขวด PET แบบนี้สามารถนำกลับมารีไซเคิลเป็นเม็ด rPET ได้ใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งนำมาผ่านกระบวนการตามมาตรฐาน แล้วนำกลับมาทำเป็นขวดใหม่ใส่เครื่องดื่มอีกรอบ คิดดูสิว่า จะมีความเสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน 5. โรงงาน recycle พลาสติกดังกล่าวตามข้อ 4 จะไม่ยอมรับขวดพลาสติกที่มีของแข็งหรือของเหลวใด ๆ เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ขวดที่มีลักษณะแบบนี้จะถูกคัดทิ้ง กลับไปสู่จุดรวมขยะหรือกองขยะอีกที ในที่สุดก็จะวนกลับไปที่ข้อ 1 ใหม่ (กรุณาอ่านข้อ 1 - 2 อีกรอบ) วิธีการจัดการที่ถูกต้องคือ จัดการแบบขยะติดเชื้อ กล่าวคือ ให้คัดแยกจากขยะอื่น แล้วนำใส่ถุงแยก มัดปากถุง แล้วเขียนหน้าถุงว่า “ขยะติดเชื้อ” ซึ่งขยะประเภทนี้จะถูกนำไปกำจัดแบบประเภท “ขยะติดเชื้อ” ขอบคุณทุกท่านที่มีจิตสาธารณะ ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เราจะต้องผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันอย่างมีสติ และด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ยั่งยืน” CR : “พลังงานจากขยะ (Energy from Wastes)” https://www.facebook.com/พลังงานจากขยะ-Energy-from-Wastes-265237194982/naydoitall• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทีวีประกาศระดับ 3 แล้ว... *^ปชส.ครับ.ด่วน ไวรัส H3N2 ถึงเชียงใหม่แล้ว ไวรัสตัวใหม่จากวูฮั่น ประเทศจีนทีมีความรุนแรงทำให้เสียชีวิตในเวลาอันสั้น มีผู้ที่เดินทางเข้ามายังสนามบินฯ ซึ่งถูกตรวจพบเชื้อที่สงสัยนี้..ได้ที่สนามบินเชียงใหม่ 3 ราย และได้ถูกนำตัวไปโรงพยาบาลแล้ว จึงขอช่วยกันระมัดระวังภัยจากโรคร้ายแรงนี้ อีกทั้งให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวนี้ด้วย..*ควรจัดเตรียมหน้ากากอนามัยพกพาติดตัวไปด้วย กระทรวงสาธารณะสุขแจ้งเตือนว่า: ไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก มีวิธีป้องกันคือ ต้องรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อเมือกลำคอ อย่าให้ลำคอแห้ง ดังนั้นห้ามทนกระหายน้ำ เพราะถ้าเยื่อเมือกลำคอแห้ง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ เมื่อรู้สึกกระหายน้ำก็ดื่ม ไม่ต้องคำนึงหรือทนกระหายแม้พักนึง แต่ละครั้งให้ดื่มน้ำอุ่น 50-80 ซีซี สำหรับเด็กดื่ม 30-50 ซีซี ควรจะเตรียมน้ำไว้ใกล้มือพร้อมดื่ม ไม่จำเป็นต้องดื่มมากๆ เอาแค่ทำให้เยื่อเมือกลำคอไม่แห้งเป็นใช้ได้ ละเว้นไปสถานที่ที่มีคนหนาแน่นชั่วคราว นั่งรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารมวลชน ถ้าจำเป็นก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย ของทอดอาหารรสจัดงดรับประทานชั่วคราว กินวิตามินซีให้ครบถ้วน (โปรดแชร์ข้อความนี้ให้กับกลุ่มผู้ปกครองทั้งหลายด้วยครับ) ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแจ้งถึงจุดเด่นของไข้หวัดใหญ่ดังนี้: 1 มีไข้ขึ้นอย่างรวดเร็วและลดยาก ไข้ลดแล้วก็ขึ้นอีก 2 หลังเป็นไข้ ก็จะเริ่มไอ และเป็นต่อเนื่องนาน 3 เด็กจะเป็นกันมาก 4 ผู้ใหญ่มีอาการหลอดลมรุนแรง พ่วงด้วยปวดศีรษะและลำตัว 5 การระบาดรุนแรง ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านใส่ใจป้องกันทั้งเด็กและผู้สูงวัยในครอบครัว ขณะนี้เป็นระยะระบาดที่สูงสุด สะดวกก็ช่วยกันแชร์ครับไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มแอลกอฮอล์จะไม่ติดโควิดผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะไม่ติดโควิด และถ้าดื่มทุกวันจะให้ผลดีกว่าออกกำลังกายstd47678• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจีนเทาต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า สืบเนื่องมาตั้งแต่ คดี club one ผับจินหลิง กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่พัทยา ก่อนตำรวจขยายผลหาความเชื่อมโยงว่า กลุ่มทุนจีนเหล่านี้ เข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไร พบว่า เดิมทีกลุ่มนี้มีการใช้วีซ่าท่องเที่ยว ก่อนเปลี่ยนมาเป็นวีซ่านักเรียน และอาสาสมัครมูลนิธิ อย่างผิดปกติ เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ออกวีซ่าจริง จนกระทั่งพบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ ตม.กว่า 100 คน การตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงตำรวจเข้าข่ายฐานความผิดเรียกรับผลประโยชน์ ม.149 จำนวน 9 นาย และ กระทำผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 อีกจำนวน 107นาย ในจำนวนนี้มีข้าราชการตำรวจระดับนายพลอยู่ด้วย 3 นายthanachporn7757• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องจริงหรือโกหก น้ำมันจิ้งเหลนเอามานวดน้องกะปู๋แล้วจะใหญ่ขึ้น 18++ กระทู้คำถาม สุขภาพกาย คือผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆเลยครับว่าน้ำมันจิ้งเหลนสามารถทำให้น้องกะปู๋ของเราใหญ่ขึ้นได้ โดยการจับจิ้งเหลนตัวใหญ่สักหน่อยหรือพอประมานแล้วนำมาย่างให้น้ำมันของจิ้งเหลนออกแล้วเอามานวดน้องกะปู๋ มีใครเคยลองมั๊ยครับแล้วลองแล้วมันได้ผลจิงมั๊ยครับ 0ใหญ่ขึ้น แน่นอน ตอนที่นวดนะ ไม่ต้องถึง นํ้ามันจิ้งเหลน หรอก เอานํ้ามันหมูในครัวนวด ก็ใหญ่ขึ้น (ตอนนวดนะ)std48866• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใบกระท่อมต้านโควิดใบกระท่อมต้านโควิดstd47849• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใบกระท่อมต้านโรคโควิด-19!!!ใบกระท่อมสามารถต้านโควิด19ได้โควิด 2019ยาสมุนไพรnaphechrthnxm• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย7 ผัก-ผลไม้อุดม “วิตามินเอ”สูงช่วยต้านมะเร็งเสริมภูมิคุ้มกัน http://pptv36.news/1edWสุขภาพมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอย่าแชร์! ดื่มมะระขี้นกชงกับน้ำร้อน ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งความเชื่อ! ดื่มมะระขี้นกชงกับน้ำร้อน ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเเละเนื้องอก ความจริงเป็นอย่างไร ประโยชน์ของมะระขี้นก จากที่มีการแนะนำผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ดื่มมะระขี้นกชงกับน้ำร้อน ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเเละเนื้องอกนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ พร้อมชี้แจงว่า แม้จะมีรายงานวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการพบว่ามะระขี้นกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจมีส่วนช่วยต้านเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามะระขี้นกชงกับน้ำร้อนสามารถรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้ รวมทั้งอาหารในกลุ่มพืชผักสมุนไพรจะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายแต่หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์std47925• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ