2210 ข้อความ
- 1 คนสงสัยกินอึ ฉี่ รัดษาโรคมีข่าวชาวบ้าน ลัทธิกลุ่มหนึ่งกินอึกินฉี่ด้วยความเชื่อที่ว่าสามารถบำบัดโรคต่างๆได้Thanida Toomwong• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขี้ไคลรักษาโรค!!!การที่เรากินขี้ไคลของพระบิดาไปจะช่วยรักษาโรคได้Chayada Sakulpak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจิตแพทย์ชี้ ลัทธิกินอึ-ฉี่ เข้าข่ายงมงาย แนะบำบัดรักษา หมอเตือนอย่ากินเสี่ยงติดเชื้อหมอเตือน "อึ-ฉี่-ขี้ไคล" มีเชื้อโรค ไม่ควรกินตามลัทธิประหลาด ย้ำเป็นของเสียไม่ควรกินจ่อ จิตแพทย์ชี้เข้าข่ายงมงาย ต้องสลายกลุ่มช่วยสลายความเชื่อ แนะนำเข้ามาบำบัดรักษามีมstd47625• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลัทธิกินอึ-ฉี่ลัทธิประหลาดให้กินปัสสาวะ อุจจาระ ขี้ไคล เพื่อรักษาโรคstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/bw-K76XmyUsไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตะไคร้ ใบเตย รักษาโรคเก๊าท์ ปวดข้อได้จริงหรือ?มีหลายข้อความแพร่ในโลกออนไลน์ว่าดื่มน้ำ ตะไคร้ ใบเตยต้มนั้นจะแก้โรคปวดข้อ ปวดเก๊าท์ได้ พร้อมแจกสูตร อ้างว่าดื่มแล้วหายปวดเป็นปลิดทิ้งยาสมุนไพรanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำตอนเล่นมือถือข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต . ตามที่มีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับเรื่องห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีผู้ส่งต่อข้อมูลว่า ห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลิปที่มีการเผยแพร่ต่อ ๆ กันดังกล่าว เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น เพราะหากถูกไฟดูดจริง จะต้องมีการสะบัดมือที่จับโทรศัพท์ หรือร่างกายต้องกระตุกจากการโดนไฟช็อต รวมทั้งกระแสไฟจะต้องครบวงจรก่อน ซึ่งไม่ต้องรอถึงขั้นดื่มน้ำก็สามารถที่จะโดนไฟดูดได้แล้ว . ทั้งนี้ การเสียชีวิตโดยที่มีกระแสไฟวิ่งเข้าหัวใจหลังจากดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับวัสดุที่มีแรงดันไฟฟ้ามาอยู่ใกล้กับอวัยวะในร่างกายที่ค่อนข้างบอบบาง เช่น หู แก้ม เป็นต้น . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.nectec.or.th/ หรือ โทร. 02-564-6900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเสียชีวิตโดยที่มีกระแสไฟวิ่งเข้าหัวใจหลังจากดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับวัสดุที่มีแรงดันไฟฟ้ามาอยู่ใกล้กับอวัยวะในร่างกายที่ค่อนข้างบอบบาง เช่น หู แก้ม เป็นต้น . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมstd48339• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายการใช้โทรศัพท์ในขณะที่แก๊สเปิดอยู่ ไม่มีผลกับโทรศัพท์ และไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีก ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nectec.or.th หรือ โทร.std47954• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ขณะกำลังทำอาหารจะเป็นอันตรายนั้น ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การใช้หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ไม่ได้เป็นอันตราย กล่าวคือไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีกstd47929• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายตามที่มีคำแนะนำเผยแพร่บนสื่อออนไลน์เรื่องห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าข้อความที่ปรากฏนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ขณะกำลังทำอาหารจะเป็นอันตรายนั้น ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การใช้หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ไม่ได้เป็นอันตราย กล่าวคือไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีกStd47935• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายตามที่มีคำแนะนำเผยแพร่บนสื่อออนไลน์เรื่องห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าข้อความที่ปรากฏนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ขณะกำลังทำอาหารจะเป็นอันตรายนั้น ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การใช้หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ไม่ได้เป็นอันตราย กล่าวคือไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีก website 2439 ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nectec.or.th หรือ โทร. 02-564-6900 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การใช้โทรศัพท์ในขณะที่แก๊สเปิดอยู่ ไม่มีผลกับโทรศัพท์ และไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีกข่าวการเมืองstd47948• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเครืสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 44 เรื่องstd48366• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบัญชีและคิวอาร์โค้ดหากส่งสลิปโอนเงินที่มีข้อมูลคิวอาร์โคดให้ผู้อื่น จะถูกแฮ็กบัญชีstd48366• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใบขับขี่เรื่อง กรมขนส่งรับทำใบขับขี่ผ่านไลน์ ทำก่อนจ่ายทีหลังstd48366• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยความเรียบร้อยของสังคมข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดีและความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 49 เรื่องstd48366• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยEXO ย่างหมากินหลังหอข่าวลือเรื่องEXOย่างหมากินหลังหอเกิดจากเหตุผลที่คริสต้องออกจาก EXO เพราะรับไม่ได้ที่เมมเบอร์ย่างหมากินหลังหอมีมล้อเลียน เสียดสีstd46403• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยวัคซีนวัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนพิษสุนัขบ้าวัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไวรัสเรบีpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยSuper Sale ที่สขานาฬิกา Rolex พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลด 80 %<ข่าวล่าสุด> จากข้อมูลล่าสุดกับหัวข้อ “SUMMER SALE” ของบริษัทนาฬิกา Rolex สวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งเปิดสาขาใน ประเทศไทย ซัมเมอร์เซลล์ ลดสูงสุด 80%++ เพียง 999 บาท/เรือน (ราคาเดิม 15000บาท)std48362• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมอร์ด็อก' เจ้าพ่อสื่อผู้ทรงอิทธิพล แทรกแซงการเมืองทั่วโลก?ในหนังสือของ ดอฟ เลวิน (Dov Levin) เรื่อง Meddling in the Ballot Box ระบุว่า ระหว่างปี 2489 ถึง 2543 สหรัฐอเมริกามีส่วนการแทรกแซงการเมืองโดยเฉพาะการเลือกตั้งในต่างประเทศทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยถึง 81 ครั้ง ด้วยการช่วยเหลือ หรือขัดขวางผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรค David Robarge นักประวัติศาสตร์ของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (Central Intelligence Agency) หรือซีไอเอ ได้กล่าวกับ David Shimer ผู้เขียนหนังสือ Rigged ว่า ในช่วงเวลานั้นซีไอเอ “แทบจะไม่เคยทำให้เปลี่ยนผลคะแนนเสียงโดยตรง” ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่า บางครั้งก็เคยทำอย่างนั้นด้วย หลังสิ้นสุดสงครามเย็น ภายในรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งของประเทศอื่น คณะกรรมการข่าวกรองของรัฐสภาเริ่มเก็บตัว แต่การแทรกแซงยังคงดำเนินต่อไป โดยในปี 2543 ประธานาธิบดีบิล คลินตัน มอบหมายให้ซีไอเอให้การสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามของประธานาธิบดีสโลโบดาน มิโลเซวิช ในยูโกสลาเวียในขณะนั้นอย่างลับๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาได้รับเลือกตั้งใหม่ ต่อมารัฐบาลของจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้จัดทำแผนลับเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งรัฐสภาอิรักในเดือน ม.ค. 2548 แต่ได้ยกเลิกไปในเวลาต่อมา เนี่องจากเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐสภา ลีออน พาเนตตา (Leon Panetta) อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวว่า ซีไอเอไม่ได้เปลี่ยนคะแนนเสียงหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด แต่มีการกระทำการต่อองค์กรสื่อต่างประเทศเพื่อ “เปลี่ยนทัศนคติในประเทศนั้น” พาเนตตา บอกกับ David Shimer ว่า ซีไอเอบางครั้งก็ “ซื้อสื่อในประเทศหรือภูมิภาคที่สามารถใช้งานได้สะดวก...ในการส่งสาร” หรือพยายาม “โน้มน้าวผู้คนที่มีความเกี่ยวข้องกับสื่อ...ให้ร่วมมือเพื่อนำเสนอข่าวสาร” การส่งสารที่พาเนตตากล่าวถึงนั้นถูกเข้าใจว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อของซีไอเอที่เกี่ยวกับการเมือง และการเลือกตั้ง การแทรกแซงการเลือกตั้งของประเทศอื่นที่เห็นบ่อยในภายหลังคือ การชี้นำผ่านสื่อผูกขาดของตะวันตก ปัจจุบันบริษัทสื่อ 50 แห่งทั่วโลกครอบครองตลาดสื่อ 95% ของโลก และมากกว่า 90% ของข่าวถูก “ผูกขาด” โดยสื่อตะวันตก News Corporation ที่ก่อตั้งโดย รูเพิร์ต เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) เป็นหนึ่งในบริษัทสื่อครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดและมีความเป็นสากลที่สุดในโลกในปัจจุบัน ด้วยสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นอาณาจักรสื่อขนาดใหญ่อย่างแท้จริง เมอร์ด็อก กลายเป็น “เจ้าพ่อสื่อ” ตัวจริง เพราะมีสื่อดังอยู่ในมืออย่าง Fox News, The Times of London, The Wall Street Journal, New York Post เป็นต้น เมอร์ด็อกเคยกล่าวว่า เขา “ไม่เคยขออะไรจากนายกรัฐมนตรีเลย” แต่ความจริงคือ นักการเมืองของตะวันตกยังต้องเกรงกลัวเขามากกว่า ตามรายงานของ The New York Times ซึ่งดำเนินการสอบสวนเป็นระยะเวลา 6 เดือน และครอบคลุม 3 ทวีป โดยได้สัมภาษณ์มากกว่า 150 ครั้ง ชี้ให้เห็นว่า เมอร์ด็อก และลูกชายได้เปลี่ยนสื่อของพวกเขาให้กลายเป็นเครื่องจักรทรงอิทธิพลทางการเมืองฝ่ายขวาและบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลีย ยกตัวอย่างข่าว Fox News สร้างแรงกดดันต่อพรรครีพับลิกันมาอย่างยาวนาน ทำให้กลุ่มขวาจัดผงาดขึ้นมา และทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เป็นต้น ในกรณีหนังสือพิมพ์ The Sun ของเมอร์ด็อกได้นำเสนอข่าวในเชิงลบของสหภาพยุโรป (EU) ต่อผู้อ่านชาวอังกฤษ และกลายเป็นหนึ่งในการรณรงค์ Brexit ที่ทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าครึ่งหนึ่งลงประชามติสนับสนุนให้ออกจาก EU ในปี 2559 หลังจากนั้นเป็นต้นมาทำให้อังกฤษจมปลักอยู่กับความวุ่นวายทางการเมือง จะว่าไปการควบคุมสื่อของ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก นั้นแข็งแกร่งที่สุดในออสเตรเลีย อาจเพราะเขาเป็นชาวออสเตรเลีย (ภายหลังเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน) โดยเมอร์ด็อกสามารถผลักดันให้ยกเลิกภาษีคาร์บอนของประเทศและมีส่วนร่วมในการขับไล่นายกรัฐมนตรีที่เขาไม่ชอบออกจากตำแหน่ง ในจำนวนนั้นรวมถึงนายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ที่หลุดเก้าอี้เมื่อปี 2561 ในส่วนของเอเชีย เมอร์ด็อกเคยมุ่งเป้าไปที่จีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ โดยในปี 2536 News Corporation ได้เข้าซื้อ Hong Kong Star TV ด้วยเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์จากตระกูล Li Ka-Shing โดยพยายามใช้จุดนี้เพื่อเข้าสู่ตลาดสื่อของจีน ต่อมา เมอร์ด็อกก็พบว่า ธุรกิจของ Star Media ไม่สามารถดำเนินการได้ ในปี 2548 News Corporation จึงได้ร่วมมือกับโทรทัศน์ดาวเทียมท้องถิ่นเพื่อทำตลาดทั้งประเทศจีน แต่สุดท้ายก็ต้องยุติลงเนื่องจากแตะเส้นสีแดงของทางการจีน ในเดือน ม.ค. 2557 บริษัท News Corporation ประกาศขายหุ้น 47% ใน Star Greater China ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท Star Media และ News Corporation ดำเนินการช่องภาษาจีนสามช่องตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้ News Corporation ได้ขายหุ้นใน Phoenix TV ไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ความสนใจของเมอร์ด็อกที่มีต่อตลาดเอเชีย หรือจะเรียกว่าความอุตสาหะหรืออิทธิพลในการแทรกซึมภูมิภาคเอเชียดูเหมือนจะยังไม่หมดลงแค่นั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมอร์ด็อกได้พยายามเข้ามาถือหุ้นในกลุ่มสื่อทรงอิทธิพลในประเทศไทยด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขายังคงมุ่งหน้าปักธงในเอเชียต่อไป เพื่อสนองความทะเยอทะยานที่จะมีอิทธิพลต่อโลกนั่นเองstd46747• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“พิธา” อาจทำก้าวไกลถูกยุบ! พบ “แถลงแยกดินแดน” ก๊อบปี้ “ช่อ-ธนาธร”อ.เจษฎ์ ชี้คำปราศรัย "พิธา" ปัตตานีเลือกนายกฯ หากมีเจตนาแฝงจะเข้าข่ายยุยงปลุกปั่น อาจนำไปสู่การ “ยุบพรรค” ก้าวไกล ด้าน “พล.ท.นันทเดช” ระบุนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง “ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ” จี้สอบทั้งพรรคส้ม-เป็นธรรม-ประชาชาติ พบเนื้อหาแถลงการณ์แยกดินแดนปาตานี เนื้อความเดียวกับคำกล่าวของ “ช่อ พรรณิการ์-ธนาธร” เมื่อปี 65 กรณีที่ “ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ” ที่เรียกตัวเองว่า เปลาจาร์ บังซา จัดปาฐกถาเรื่อง “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง กับสันติภาพปาตานี” เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2566 ที่ห้องประชุมศรีวังสา ตึกรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) โดยได้มีการแจกเอกสารเพื่อลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช มีข้อความว่า “คุณเห็นด้วยกับสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเองหรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกต้อง” ได้สร้างความหวั่นวิตกให้แก่คนไทยทั้งประเทศ ด้วยมองว่านี่คือความพยายามในการแบ่งแยกดินแดน!std48049• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยวัคซีนวัคซีนไข้หวัดใหญไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า (InfluenzaVirus).ในทางเดินหายใจส่วนบนทำให้มีไข้ไอน้ำจมูกคัดจมูกจามอาจมีอาการปวดหัวเมื่อตามตัวและอาจอ่อนเพลีย 1วัคซีนป้องกันไข้วัดใหญ่ชนิด3สายพันธุ์ 2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด4สายพันธุ์วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดฉีด ผลิตจากเชื้อที่ตายแล้ว โดยผ่านกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธภาพสูงในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้แต่อาการจะน้อยลง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ป้องกันไข้หวัดทั่วไปที่เกิดจากเชื้ออื่นๆdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยในเชิงภูมิศาสตร์และธรรมชาติ เมืองไทยเกือบไม่แพ้ประเทศแถบอบอุ่นที่พัฒนาแล้ว แต่ในเขิงสังคมและการเมือง ตอนนี้ประเทศไทยติดอันดับบ๊วยๆ แบบเขมรไม่มีผิดเลย…(หรือจะแย่กว่าเขมรก็ไม่รู้) ….นี่คือความจริง อย่างไรก็ตาม ปชช. คนไทยที่มีสติสัมปชัญญะ มีคุณธรรม อย่าพึ่งท่อนะครับ ต้องจำปล่อยวางและลองอ่านข้อเขียนเกี่ยวกับเมืองไทยในมุมหนึ่ง ของ ดร.ธรณ์ ดูว่าเผื่อจะหายเบื่อและไปพักผ่อนท่องเที่ยวในที่ซึ่งยังไม่เคยไป (ถ้ามีศักยภาพก็ไปเที่ยวเมืองนอกเปรียบเทียบกันดูด้วย) ... ------------------------------------ ระหว่าง นั่งรับลมหนาว น้อย ๆ ที่ ระเบียงหน้าบ้าน จู่ ๆ ก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อนธรณ์ รู้ไหมครับว่า เราอยู่ในประเทศน่าเที่ยว ที่สุดแห่งหนึ่ง ในโลก... ผมมีเหตุผล รองรับตามนี้เลยครับ 1 - ประเทศไทย ทอดยาวอยู่ในแนว เหนือ/ใต้ ทำให้เรามีภูมิอากาศ หลากหลาย หน้าร้อนไปทะเล หน้าหนาว ขึ้นเหนือ/อีสาน ลองดู เพื่อนบ้านของเรา สิงคโปร์ แม้เจริญ แต่อากาศร้อน คงที่ตลอดปี หน้าหนาว อยากไปรับลมเย็นให้ขนลุก ก็ไม่รู้ทำไง ต้องบินไปประเทศอื่น สถานเดียว (ซึ่งก็มาไทย นั่นแหละ) มาเลย์ อินโดนีเซีย เป็นแบบนี้ทั้งนั้น แม้อาจขึ้นเขาไปรับลมหนาว แต่ใช่ว่า ทุกคนจะไปได้ อีกทั้ง ขึ้นไปมีแต่ หินกับต้นไม้ มันดี แต่ถ้ามีเมือง มีร้านค้า มีคาเฟ่ มันก็ดีกว่า เนอะ 🧋 เราไปเชียงใหม่ เชียงราย เชียงคาน หรืออีกหลายร้อยแห่ง ที่นั่งจิบกาแฟ กินไข่กระทะที่อุณหภูมิ สิบกว่าองศาได้ ไอฟีล กู้ดดดดดด… 2 - ประเทศเรา ต่อเนื่องเป็นแผ่นดินเดียวตลอด ลองคิดถึงประเทศเป็นเกาะ จากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง ต้องใช้เฟอร์รี่ หรือไม่ก็เครื่องบิน ซึ่งทำได้ เพียงบางคน แค่นั้น แม้แต่ญี่ปุ่น ที่ทอดตัวแนวเหนือใต้ ยังแบ่งเป็นเกาะใหญ่หลายเกาะ คนโตเกียว จะไปเล่นน้ำทะเล อุ่น ๆ ที่โอกินาวา ก็ต้องใช้เครื่องบิน ขณะที่คนเชียงใหม่ จะไปบางแสน พัทยาก็ขับรถถึง 3 - เรามีทะเล จุดนี้คนลาว คงอิจฉา น้อย ๆ ยิ่งถ้าคิดว่า เรามีทะเล 2 ฝั่ง แม้แต่ คนเวียดนามคนเมียนมาร์ ก็อาจคิด ทะเล 2 ฝั่ง หมายถึง เที่ยวได้ตลอดปี เวียดนาม ชายฝั่งยาวไกล แต่รับลมมรสุม ด้านเดียว เมียนมาร์ ก็เช่นกัน แต่ไทย…ไม่ ช่วงนี้ แม้มีลมแรง / ฝนตกที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก แต่ภาคตะวันออก เริ่มสงบ หรือแม้กระทั่ง อันดามัน เริ่มเปิดให้เที่ยวกันแล้ว ครับ ในช่วงกลางปี ลมเปลี่ยนทาง เราย้ายที่ไป ประจวบ ชุมพร สุราษฎร์ ฯลฯ ได้เช่นกัน ทะเลไทย เที่ยวได้ตลอดปี เราเลือกเที่ยวได้มาตลอด จนอาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ หากันง่าย ๆ 4 - ประเทศเรา ไม่ใหญ่แต่หลากหลาย ไม่ต้องลงทุนเดินทาง มากมายก็เปลี่ยนอารมณ์ได้แล้ว หลาน ผมเรียนอยู่ แคนาดา ตอนนี้หนาวจัด น้องผมไปรับหนีหนาว ต้องบินไกลข้ามไปฟลอริดา ซึ่งตอนนี้ คนอเมริกาก็แห่กันไป รัสเซีย ใหญ่มหึมา แต่บินมาไทยคึ่ก ๆ เพื่อหนีความหนาว คนยุโรป อยากไปนอนอาบแดด แช่น้ำให้คลื่นซัดซู่ ๆจะไปไหนดีล่ะ ? เราอยู่เขาใหญ่ 14 องศา ขับรถไปบางแสน 3 ชั่วโมง อุณหภูมิเพิ่ม 10 องศา ไม่ใช่หากันได้ง่าย ๆ นะจ๊ะ นั่นแค่ สภาพภูมิศาสตร์ อย่างเดียว ยังไม่พูดถึงศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ที่หลากหลาย อาหารอร่อยมากมาย สายมู ก็มีที่ให้เลือกเต็มไปหมด ขอเพียง รักษาธรรมชาติที่แสนดี ศิลปวัฒนธรรมที่แสนงาม วิถีชีวิต ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย รักษาไว้ให้ได้ ประเทศเราจะเป็นประเทศ สุดสนุก แสนสบายในการเที่ยว ของคนไทย และเป็นประเทศ น่าเที่ยวที่สุดของคนทั้งโลก ไปอีกแสนนาน ขอบคุณ ประเทศไทย ครับ 🥰 🇹🇭 🙏🏼สภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยพิษจากดื่มน้ำเย็นิจริงหรือไม่■พิษจากดื่มน้ำเย็น■ ~~~~~~~~~~~~~ ★จะปวดหลัง ข้อเข่า ไตอ่อนแอ •••••••○••••••○•••••• ◆ใครจะไปเชื่อว่า.. การดื่มน้ำเย็นจะมีพิษ มีภัย และให้โทษได้ถึงขนาดนี้ ((((▶ ♣หมอได้พบผู้ป่วย ที่มีอาการแขนขาอ่อน แรง หรือที่เรียกกันว่า โรคอัมพฤกษ์ ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆ ก็พบว่า สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็น หรือ น้ำแข็งเป็นประจำนั่นเอง ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่า ไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆ รับประทานแต่เนื้อสัตว์ ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำ เย็นเป็นประจำมาตั้งแต่ เด็ก และต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้น ■ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น ร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย เห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตา การพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน ต้องนำส่งโรงพยาบาล เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้ว นี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง 40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา ★การดื่มน้ำเย็น สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ "ไต ต้องรับกำจัดความเย็น ออกจากร่างกาย อย่างรวดเร็ว" ขับน้ำเย็นมากักเก็บ ไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมขับออกเป็น น้ำปัสสาวะทำให้ผู้ที่ ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่ง ขาดน้ำจนเลือดข้น หนืดไปหมด ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมัน และของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือด จนเกิดการพอกพูน กลายเป็นโรคหลอด เลือดตีบ ก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบ ทานเป็นประจำนั่นเอง ★ไตของเราเปรียบ เสมือนเครื่องกรองน้ำ อันน่าอัศจรรย์ ทำหน้าที่ช่วยกรอง ของเสียออกจากเลือด แล้วขับออกทาง ปัสสาวะการทำหน้าที่ ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุดของไตนั้น ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้ง ★น้ำเย็นด้วยก็จะทำให้ เกิดภาวะไตอ่อนแอและจะส่งสัญญาณร้อง ให้เราทราบดังนี้ ★1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้อง วิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ กลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว ★2.มีอาการปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ ★3.ปวดเมื่อยตามข้อ และ ร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ ★4.หลอดเลือดตีบตัน หรือ หลอดเลือดแข็งได้ง่าย ★หากใครยังทาน....... ●น้ำเย็น นมเย็น ●กาแฟเย็น น้ำอัดลม ●น้ำหวานเย็น ชาเย็น อยู่เป็นประจำ ●มีอาการปวดหลังแน่ๆ ก็ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้ ■1.ปรับเลือดที่หนืดข้น ให้หายข้นด้วยการเพิ่ม น้ำเข้ากระแสเลือด โดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน ■2.ทำให้เลือดไหล เวียนสะดวกอย่าง ต่อเนื่องด้วยการ..... ■ออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้ หรือ อาจใช้การจัดกระดูก ช่วยให้เลือดไหลเวียน สม่ำเสมอ ■3.ไม่กินอาหาร..... ◆เนื้อสัตว์ ของทอด ◆ของหวานจัดเพราะ ◆ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ปริมาณมากจนทำให้ หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย ■4.งดการทานน้ำเย็น เด็ดขาดรู้แล้วอย่า เฉยเมยนะควรปฎิบัติ ด้วยและรู้แล้วอย่า เก็บไว้คนเดียวโปรด แบ่งปันให้คนรอบข้าง ของตัวเรา (((((((▪ ★พันเอก ดร.นพ.ดำรง หมอประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (((((((▪ (💐ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคถูกมัดมือชก ! จุดจบของไลฟ์สไตล์แสนสบายด้วยเงินอุปถัมภ์ [The End of Millennial Lifestyle Subsidy] ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมานะครับ ถ้าผมอยากนั่งรถไปสยาม ผมก็เอาโทรศัพท์ ออกมาเรียก Grab ราคา 120 บาทไม่เกินนี้ ผมได้ไปสยามละ แต่วันนี้ถ้าผมลองเรียก Grab ไปสยาม ราคามันไม่ใช่ 120 ละ แต่มันขึ้นไปถึง 220 บาท และ ไม่ใช่แค่ Grab นะครับ มีอีกหลายบริษัทที่ ถ้าคุณตื่นเช้ามาเรียก Lineman มาส่งอาหารเช้า ตอนสายๆ นั่ง Grab ไปทำงานที่ออฟฟิศ WeWork ตอนเที่ยงคุณเรียก Foodpanda มาส่งอาหารกลางวันให้คุณ ตอนบ่ายๆ เบื่อๆเข้าไปซื้อของใน Shopee แล้วก็ซื้อคริปโตต่อใน Bitkub เลิกงานเสร็จไปเล่น Jetts Fitness ตกเย็นนั่ง Gojek กลับบ้าน มานอนดู Netfilx จนหลับไป ชีวิตแสนสะดวกสบาย ราคาถูกของคุณ วันนี้ได้มาถึงจุดจบแล้ว เพราะเงินที่อุปถัมภ์ไลฟ์สไตล์ของเราทุกคน มันได้หมดลงแล้ว คุณแค่สงสัยไหมครับ ว่าทุกครั้งที่คุณสั่งอาหารผ่าน Grabfood ด้วยค่าส่ง 5 บาท ทำไมพี่มอเตอร์ไซค์ใจดีอุตส่าห์ ขับรถตากฝนมาส่งอาหารให้กับคุณ เพื่อเงินแค่ 3 บาทหลังหักค่าน้ำมันแล้ว ในความเป็นจริง แล้วมันมีผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยอุปการะไลฟ์สไตล์แสนสบายของคุณนี้อยู่ ซึ่งตอนนี้มันจบลงแล้ว ผมขอใช้บริษัท Grab เป็นตัวอย่างในการอธิบายละกันนะครับ มันมีบริษัทอีกมากมายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ผมคุ้นเคยกับ Grab อยู่สิงคโปร์ตามข่าวทุกวัน เป็นบริษัทที่ใหญ่ ทุกคนรู้จัก เป็น Startup เจ้าแรกๆที่โตจนใหญ่มาก และ เป็นบริษัทที่ผมไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำธุรกิจของเขาที่สุด Grab เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้บริการเป็นแอปเรียกแท็กซี่ในมาเลเซียและสิงคโปร์ ไม่มีอะไรพิเศษเลย ตัวแอป โมเดลธุรกิจก็ลอกมาจาก Uber แต่สิ่งที่ Grab มีมากกว่าเจ้าอื่นที่ทำให้เขาโตเร็วมากคือ เงิน... และมันต้องเป็นเงินจำนวนมากมหาศาล ที่จากทั้งเจ้าของ Anthony Tan (หนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดในมาเลเซีย) และ ผู้ร่วมลงทุนอย่างบริษัท SoftBank ของนาย Masayoshi Son (คนนี้สำคัญครับ เป็นนายทุนหลักและผู้เริ่มแนวคิด Blitzscaling) และอีกมากมายหลายนักลงทุน ปรัชญาการทำธุรกิจของ Grab และบริษัทเหล่านี้คือ Growth หรือการโตของผู้ใช้ รายได้สำคัญกว่า Profit หรือกำไร เราจะขาดทุนเท่าไรก็ได้ไม่สำคัญขอแค่เราโตเร็วแรง มี Market share เยอะๆ ทุกอย่างจะโอเคเอง ซึ่งปรัชญานี้เรียกว่า Blitzscaling (มาจากคำว่า Blitzekrieg ที่แปลว่า การโจมตีคู่ต่อสู้ที่รวดเร็วของกองทัพนาซี และ คำว่า scaling ที่แปลว่า การโตของธุรกิจ) คุณคิดดูนะครับถ้าผมอยากเปิดร้านขายข้าวมันไก่ในตลาด แล้วอยากเป็นร้านเบอร์ 1 ของตลาดภายใน 30 วัน ไม่เห็นจะยากเลย ผมก็ขายข้าวมันไก่กล่องละ 10 บาทตัดราคามันทั้งตลาด ซื้อเยอะแถมส่วนลดไปอีก และที่ Grab ทำแบบนี้ได้ก็เพราะว่า เงินจากนักลงทุนในบริษัทมันหนามากๆๆ ในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ อยู่ 0.5-1% เรียกได้ว่า ต้นทุนการกู้เงินถูกมากๆ นี่เป็นเหตุผลในกองทุนใหญ่ระดับโลก อย่าง Softbank จะเอาเงินไปฝากแบงค์หรือซื้อ Bond ทำไม เอาเงินมาเท่ให้กับ Start Up เหล่านี้ดีว่า เพื่อว่าสัก 1 ใน 100 บริษัทที่ลงทุนไปก็กลายเป็นมหาบริษัทใหญ่ในอนาคต Softbank นี่ละครับตัวดี ชอบลงทุนแบบมหาศาลในธุรกิจที่มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถมีกำไรได้ในอนาคต ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมแค่อยากจะบอกว่า ผมไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจแบบนี้มากๆ ครับ มันเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ Sustainable ไร้ความยังยืน ทำให้สังคมเสียความสมดุล บริษัทอย่าง Grab ทำให้ ผู้เล่นในอดีตอย่างแท็กซี่ตายลงไป ที่สิงคโปร์ ปัจจุบันเหลือคนขับ Taxi น้อยมาก เพราะโดน Grab ดึงไปหมด และเมื่อถึงตอนนี้ Grab ไม่เหลือคู่แข่งแล้ว ก็ขึ้นราคาฟันผู้บริโภค ให้ยับไปเลย และรัฐบาลก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ทำให้ความสมดุลในระบบมันเสียไป ในปีที่ผ่านมา บริษัท 9 เท่าของรายได้ คือขายของได้ 10 บาท แต่ ต้นทุน 100 บาท หุ้นบริษัทตกไปแล้ว 80% และไม่ได้มีแค่บริษัทเดี่ยวนะครับที่เจอปัญหาแบบนี้ Shopee Lazada Wework Foodpanda Netfilx เจอกันหมด Netflix ก็เป็นอีกบริษัทครับที่คิดราคาถูกเกินจริงๆ แชร์ password กันได้ทั้งโรงเรียน ทำให้อุสหกรรมหนัง ภาพยนต์ตายไป โรงหนังตาย แล้ว เดี๋ยวก็จะห้ามแชร์ password ขึ้นราคา เห็นไหมละครับว่าอะไรที่ถูกเกินไปมันไม่ได้ดี ทำสมดุจเสียให้ไปหมด ชีวิตราคาถูกที่แสนสะดวกสบายของคุณ จริงๆแล้วที่นักลงทุนผู้หิวโหยกำไรในอนาคตคอยอุปถัมภ์อยู่ หวังว่าคุณจะเสพติดความสะดวกสบายใช้บริการของเขาในวันที่ส่วนลด ราคาแสนถูกนั้นหายไป และในปีนี้นะครับเงินอุปถัมภ์จากนักลงทุกเหล่านั้น หมดลงแล้วดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ จะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.0% จะไม่มีนักลงทุนคนไหนมาลงทุนด้วยความบ้าคลั่งเหมือนในอดีต บริษัทอย่าง Grab ก็จะต้องปรับสภาพให้เริ่มมีกำไร ทุกบริษัทที่ลดแลกแจกแถมมาเป็นเวลาหลายปีจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติ จะมาทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว และคนที่จะลำบากที่สุดก็คือผู้บริโภคอย่างผมและคุณเนี่ยละครับ #TheWalkingBackpack บทความนี้ น่าสนใจ ผู้บริโภคติดกับดัก https://www.theatlantic.com/newsletters/archive/2022/06/uber-ride-share-prices-high-inflation/661250/?fbclid=IwAR3iHBu3mh5xRQoYn1ChOQDQRmO_SG-uRAWqUpYA7tba8Ll4TCBYkxISp-sผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ