1543 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่❗️ ห้ามดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือน🥛🥥คนไทยมีความเชื่อว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้เลือดมีกลิ่นคาวมากขึ้น, ประจำเดือนผิดปกติ, หรือปวดท้องมากขึ้น ความจริง ไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ในการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือน แต่การดื่มในปริมาณมากเกินไปอาจมีผล เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย อาจส่งผลต่อการบีบตัวของมดลูกหรือการหลั่งประจำเดือน อย่างไรก็ตาม การดื่มในปริมาณที่เหมาะสมสามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนเพลียจากการสูญเสียเลือด คำแนะนำจากแพทย์ ควรดื่มน้ำมะพร้าวในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณหนึ่งแก้วต่อวัน) หากไม่มีอาการผิดปกติ หากมีความกังวลควรหลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงมีประจำเดือน และเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมายเหตุ: ข้อมูลปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนสุขภาพ65011215039• 9 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เฟซบุ๊กแจ้งเตือนแอดมินเพจหน่วยงานต่าง ๆ ให้กรอกข้อมูลก่อนโดนลบเพจตามที่พบข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่องเฟซบุ๊กแจ้งเตือนแอดมินเพจหน่วยงานต่าง ๆ ให้กรอกข้อมูลก่อนโดนลบเพจ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ จากการตรวจเจอข้อมูลเรื่องพบเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งส่งข้อความถึงแอดมินเพจเฟซบุ๊กเพจอื่นให้กรอกข้อมูล ทางสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า มีการแจ้งเตือนจากเครือข่ายของ Cyber community by NCSA ว่า ในปัจจุบันมีแฮกเกอร์ส่งข้อความหลอกลวง เพื่อให้แอดมินเพจเฟซบุ๊กของหน่วยงานกรอกข้อมูลเพื่อแฮกเกอร์จะเข้ามาทำการแฮกข้อมูล และอาจสื่อสารข้อมูลข่าวปลอมออกไป ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ncsa.or.th หรือ โทร. 02-142-6888 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : หากพบเห็นเพจที่มีลักษณะดังกล่าว หรือมีการส่งข้อความชักชวนให้กรอกข้อมูลใด ๆ ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจเข้ามาแฮกข้อมูล และส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd46361• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลัดอำเภอวังนํ้าเย็นขับรถเสยท้ายรถพ่วงดับที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาว ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงอย่างรุนแรง จนด้านหน้ารถยุบไปถึงที่นั่งคนขับ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อ นายธนกร อักษรคง หรือ ป. คิงส์ ปลัดอำเภออำเภอวังน้ำเย็น มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เพิ่งย้ายมาเป็นปลัดอำเภอวังน้ำเย็นได้ไม่นานstd47875• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรนัลโด้ย้ายกลับไปสปอร์ติ้งลิสบอนคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นต้องออกโรงสยบข่าวลือด้วยตัวเอง ยืนยันว่า ข่าวการย้ายกลับไปค้าแข้งให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่เป็นความจริง อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ Sport TV สื่อของโปรตุเกส ได้ออกมารายงานข่าวว่า โรนัลโด้ ที่กำลังมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีม กำลังเจรจาย้ายกลับไปเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยสื่อดังกล่าว อ้างอิงภาพรถของ CR7 ว่าจอดอยู่ในสนาม เอสตาดิโอ โฆเซ่ อัลวาลาเด้ ของทีมสปอร์ติ้ง กระทั่ง ล่าสุด โรนัลโด้ ก็ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าว แบบทันที โดยโดยไปตอบในช่องคอมเมนท์ ของโพสต์ข่าวดังกล่าว ว่า "Fake" เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่อย่างใดstd48324• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมกระปุกขาวใส 3วัน ! 7วัน !กำลังฮิตบนติ๊กต่อก อ้างเนรมิตผิวขาวใสใน 3-7 วัน เตือนอันตรายก่อโรคผิวหนังได้ในระยะยาว และอันตรายถึงชีวิต พร้อมแนะนำ ผิวสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องขาวstd48136• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แจ้งเตือน 13 แอปพลิเคชันอันตราย ดูดเงิน อ่านข้อความ และสอดแนมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย โพสต์สเตตัสในช่วงเช้าของวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ระบุว่า “มีรายงานจาก Kaspersky บริษัทรักษาความปลอดภัยด้านไอทีว่า พบแอปพลิเคชัน Joker หรือแอปที่มีโฮสต์มัลแวร์อันตราย ที่สามารถขโมยเงินสดของผู้ใช้ อ่านข้อความ และสอดแนมการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องได้ โดยมีทั้งสิ้น 13 แอป และแนะนำให้ผู้ใช้ลบทิ้งทันที” ข้อสังเกตคือ แอปต่างๆ อาจหยุดทำงานโดยไม่มีเหตุผล, อุปกรณ์ทำงานช้าลงกว่าเดิมมาก หรืออาจรู้สึกว่าแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติมาก เพราะมีการเรียกใช้งานทรัพยากรในเครื่องพุ่งสูงขึ้นstd48370• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกกต.โต้ข่าวปลอม! รับรอง ส.ส.เขต 100 คน เป็นความเท็จกกต.ร่อนเอกสารโต้! ข่าวรับรอง ส.ส.เขต 100 รายชื่อ เป็นข่าวปลอม แจงอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบเรื่องคัดค้าน ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบรับรอง ส.ส. วันที่ 14 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แจ้งว่า ตามที่เว็บไซต์ https://www.brighttv.co.th ได้โพสต์ข้อความว่า "เลือกตั้ง 66เดินหน้าแล้ว กกต. รับรอง ส.ส. แบบแบ่งเขต ไปแล้วกว่า 100 รายชื่อ คาดว่าภายใน พรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) จะมีการรับรอง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ" กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความที่นำมาโพสต์เป็นความเท็จ เนื่องจาก ขณะนี้อยู่ใน ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบการร้องคัดค้าน รวมทั้งข้อมูลที่ได้รับรายงานจาก ผู้ตรวจการเลือกตั้ง และข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ที่ได้รับจากแหล่งข้อมูลต่างๆภาคใต้std48370• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเทคนิคการทำ IF ให้ถูกวิธี ลดจริง ไม่ทรมาน และไม่เสียสุขภาพการทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่หลายครั้งที่อ่านรีวิวพบว่าบางคนทำแล้วเห็นผลไว บางคนทำแล้วไม่เห็นผล แถมยังโยโย่ นั่นเป็นเพราะการทำ IF ไม่ดีหรือเปล่า? สำหรับมือใหม่หัดทำ IF และคนที่ทำ IF มาพักได้ใหญ่ๆ แต่รู้สึกทรมานกับการอดอาหาร เครียด วิตกกังวล หรือมีอาการโยโย่ นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังทำ IF ผิดวิธี วันนี้ OfficeMate จะพาไปขจัดความเชื่อผิดๆ ของการทำ IF พร้อมเทคนิคการทำ IF แบบถูกต้อง ทำแล้วเห็นผล ลดจริง แถมไม่ทรมาน ไปดูกันเลย! IF คืออะไร? IF เรียกเต็มๆ ว่า Intermittent Fasting การทำ IF เป็นเทคนิคการลดน้ำหนัก และลดไขมันโดยจำกัดเวลาการกินอาหาร ช่วงที่กิน เราเรียกว่า Feeding และช่วงอดอาหารจะเรียกว่า Fasting ในช่วง Fasting หรือช่วงที่อดอาหารนั้น ตามหลักการแล้วจะสามารถดื่มได้แต่น้ำเปล่า หรือกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล เมื่อเราอดอาหาร ร่างกายจะได้หยุดพักจากการย่อย ระดับอินซูลินในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้ระดับโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพิ่มสูงขึ้น (ฮอร์โมน 2 ตัวนี้ ทำงานคนละเวลากัน) ซึ่งโกรทฮอร์โมนนี้ มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยเบิร์นไขมัน และร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ การทำ IF จึงช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายลงได้ ประโยชน์ของการทำ IF ช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันสะสม ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย เนื่องจากร่างกายมีเวลาซ่อมแซมตัวเองเพิ่มขึ้น ในช่วง Fasting ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ เบาหวาน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้สุขภาพดีขึ้น ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ดีขึ้น (ร่างกายดื้ออินซูลิน เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำตาล เป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่ความคิดที่ว่าเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตใน น้ำตาล มีมาตั้งแต่ปี 1924 ของ ดร. Otto Warburg’s ในชื่อเรื่องว่า “On Metabolism of Tumors” Warburg ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ในสาขานักชีววิทยาด้านเซลล์ ในงานวิจัยที่มหาวิทยาลัย Duke เซลล์มะเร็งจะใช้น้ำตาลในอัตราที่สูงเพื่อที่จะไม่ทำตามคำสั่งของเซลล์เพื่อที่จะถูกทำลาย ตามวงจรเหมือนเซลล์ทั่วไป ที่จะตายลงเมื่อถึงเวลา ทำให้มีความเชื่อว่าการงดกินน้ำตาลจะทำให้เซลล์มะเร็งไม่เติบโต อันที่จริงแล้วการงดน้ำตาลโดยเด็ดขาด จะทำให้เซลล์ปกติเองก็อ่อนแอไปด้วย เพราะเซลล์ปกติก็ต้องการน้ำตาลในมื้ออาหารเช่นกัน การทำให้เซลล์ทั้งหมดขาดน้ำตาลจะไม่ฆ่าหรือป้องกันมะเร็งอย่างที่คิด แต่อาจจะทำให้เราขาดภาวะสมดุลทางโภชนาการของ ร่างกายอ่อนแอ และอาจเป็นสาเหตุการลุกลามของมะเร็งมากกว่า สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือเราควรรับประทานน้ำตาลธรรมชาติบ้างในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำผลไม้ธรรมชาติ แต่ควรลดการเติมแต่งจากน้ำตาลเสริม เช่น ขนมหวาน การทานกาแฟเติมน้ำตาลมากๆ กล่าวง่ายๆ การทานน้ำตาลเกินความจำเป็นของร่างกาย จะเป็นการไปเสริมการเติบโตของมะเร็ง แต่หากเราทานน้ำตาลธรรมชาติเพียงพอแก่ร่างกายไปใช้ ย่อมทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอและแข็งแรงขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรทานอาหารรสหวานจัด และรวมถึงผู้ที่ยังไม่ป่วย จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงมะเร็ง และโรคอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกันน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล่นมือถือจนหน้าเบี้ยวที่ 6 มี.ค.66 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย | Anti-Fake News Center Thailand แจ้งว่า ตามที่มีข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องเล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลเตือนว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแอคปลอมNutt Tahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งจากที่มีการแชร์ข้อความบนสื่อออนไลน์ว่าเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl;PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ;PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์ โดยเม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง การกินเม็ดชานมไข่มุกก็เหมือนการกินแป้ง จึงยังสามารถกินชานมไข่มุกได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัว คือการกินชานมไข่มุกในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจได้ เพราะนอกจากในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยแป้งมันสำปะหลังแล้วนั้น ในน้ำชานมยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำเชื่อม ครีมเทียม นมข้นหวาน ซึ่งจัดได้ว่าชานมไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูง และมีคุณค่าทางสารอาหารน้อย จึงควรกินชานมไข่มุกนาน ๆ ครั้งเท่านั้น หรือหากต้องการกินอาจลดปริมาณน้ำตาล หลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมในชานมไข่มุกมีมน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูปจากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาวมีมน้อย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเหล้าแล้วหายเป็นโรคหวัดแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดภูมิต้านทานในร่างกาย อีกทั้งยังอาจไปละลายตัวยารักษาอาการหวัดที่คุณกินเข้าไปอีกด้วย ดังนั้นหากรู้ตัวว่ากำลังป่วยอยู่ ก็ลด ละ เลิก จากสุรา รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิดจะดีกว่าแอคปลอมNutt Tahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกกต.โต้ข่าวปลอม รับรองสส.เขต 100 คน เป็นความเท็จกกต.ร่อนเอกสารโต้! ข่าวรับรอง ส.ส.เขต 100 รายชื่อ เป็นข่าวปลอม แจงอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบเรื่องคัดค้าน ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบรับรอง ส.ส.std47729• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรายงานทางการแพทย์ชี้ ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์จากที่มีการแชร์ข้อความว่า มีรายงานทางการแพทย์มากมายที่บอกว่า ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์ กินไข่เป็ดแบบไม่สุกเต็มที่ เชื้อไม่ถูกฆ่าตาย ทางสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสากน้อย เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ Salmonella Typhi หรือ Salmonella Paratyphi ซึ่งติดต่อจาก “คนสู่คน” ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบริโภคไข่ไก่หรือไข่เป็ด โดยเชื้อชนิดนี้จะปนเปื้อนอยู่ในอุจจาระของคนstd46207• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโจมตีพรรคคู่แข่ง-เพิ่มคะแนนนิยมให้กับพรรคช่วงเลือกตั้ง 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพล สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0std49570• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปวดท้องตรงไหน เป็นโรคอะไรบ้างปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรงหรืออาเจียนด้วยอาจเป็นตับอ่อนอักเสบ หากคลำเจอก้อนเนื้อขนาดใหญ่ และแข็งแสดงว่าตับโต หรือหากคลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ อาจเป็นกระดูกลิ้นปี่ หากอืดแน่นท้องเป็นๆ หายๆ เป็นเวลานาน อาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดีstd47798• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเซลส์ขายรถสาวหายไปปริศนา พบลูกค้าชายเซลส์ขายรถสาวที่เชียงใหม่ หายไปเมื่อวาน (29 เม.ย.) หลังมีลูกค้าชายวัยกลางคนนัดคุยซื้อรถที่ร้านกาแฟ ล่าสุดเมื่อกลางดึกพบตัวชายต้องสงสัย แต่วิ่งหลบหนี ตร.เข้าป่า จนท.ระดมค้นหาจนเช้ายังไม่พบตัว กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ปุงคาย น้ามปายน้อย" ซึ่งเป็นเพื่อนกับเซลส์สาว ได้ประกาศทางโซเชียลตามหาคนหายพร้อมรูปภาพรูปพรรณสัณฐานของเพื่อนสาวที่หายไป โดยเธอบอกไทม์ไลน์ว่าstd49567• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินแฮมแล้วทำให้อายุยืนยาว?กินแฮมแล้วทำให้กินแฮมแล้วทำให้อายุยืนยาวจริงหรือ?sanukulmallika• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยื่น กกต. ฟันเพื่อไทย 'แจกเงินดิจิทัล' ส่อขัดกม.พรรคการเมือง-เลือกตั้ง21 เม.ย. 2566 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง/นายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้วินิจฉัยคำชี้แจงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่ กกต. ได้เปิดเผยข้อมูลการชี้แจงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ต้องใช้เงิน ตามมาตรา 57 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งนโยบายที่เป็นที่พิพากษ์วิจารณ์คือนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุว่าต้องใช้วงเงินถึง 5.6 แสนล้านบาทในการดำเนินนโยบายนั้น แต่ปรากฏว่าในเอกสารชี้แจงของพรรคการเมืองดังกล่าวระบุที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการว่า จะใช้การบริหารงบประมาณปกติ และบริหารระบบภาษีนั้น ซึ่งเป็นการชี้แจงตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตามมาตรา 57 หรือไม่ ส่วนรายละเอียดของที่มาของวงเงินที่ระบุว่าจะนำมาจาก 1.ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 67 : 260,000 ล้านบาท 2.ภาษีที่ได้จากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย : 100,000 ล้านบาท 3.การบริหารจัดการงบประมาณ : 110,000 ล้านบาท และ 4.การบริหารจัดการงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน : 90,000 ล้านบาทนั้น ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นที่สงสัยว่าจะตรงกับข้อเท็จจริงเพียงใดหรือไม่ เพราะวงเงิน 5.6 แสนล้านบาทต้องนำมาใช้ในครั้งเดียวก่อนเริ่มโครงการ จะอ้างนำภาษีที่ได้จากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย 1 แสนล้านบาทมารวมก่อนไม่ได้ ส่วนการตัดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนก็ไม่แจ้งให้ชัดว่าจะตัดงบประมาณด้านใด ตัดงบบัตรคนจน ตัดงบผู้สูงอายุ ใช่หรือไม่ เป็นต้น ที่สำคัญ หากพรรคเพื่อไทยจัดสรรเงินที่จะต้องนำมาใช้จ่ายตามกรอบวงเงินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่จะต้องใช้วงเงิน 560,000 ล้านบาทนั้น จะไปกระทบกับวงเงินงบประมาณจากนโยบายการใช้จ่ายเงินอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทยที่มีรวม 70 นโยบาย 15 ด้าน ตามเอกสารชี้แจง ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินที่ใช้ดำเนินการตลอดระยะเวลา 4 ปี ตามวาระรัฐบาล รวมเป็นเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทด้วยstd48866• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเซลส์ขายรถสาวหายไปปริศนา พบลูกค้าชายเอามือถือไป ตร.ตามเจอกลับวิ่งหนีเข้าป่าเซลส์ขายรถสาวที่เชียงใหม่ หายไปเมื่อวาน (29 เม.ย.) หลังมีลูกค้าชายวัยกลางคนนัดคุยซื้อรถที่ร้านกาแฟ ล่าสุดเมื่อกลางดึกพบตัวชายต้องสงสัย แต่วิ่งหลบหนี ตร.เข้าป่า จนท.ระดมค้นหาจนเช้ายังไม่พบตัวstd46413• 2 ปีที่แล้ว
- 4 คนสงสัยฟุตบอลคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นต้องออกโรงสยบข่าวลือด้วยตัวเอง ยืนยันว่า ข่าวการย้ายกลับไปค้าแข้งให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่เป็นความจริง อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ Sport TV สื่อของโปรตุเกส ได้ออกมารายงานข่าวว่า โรนัลโด้ ที่กำลังมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีม กำลังเจรจาย้ายกลับไปเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดยสื่อดังกล่าว อ้างอิงภาพรถของ CR7 ว่าจอดอยู่ในสนาม เอสตาดิโอ โฆเซ่ อัลวาลาเด้ ของทีมสปอร์ติ้ง กระทั่ง ล่าสุด โรนัลโด้ ก็ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าว แบบทันที โดยโดยไปตอบในช่องคอมเมนท์ ของโพสต์ข่าวดังกล่าว ว่า "Fake" เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด สำหรับ โรนัลโด้ วัย 37 ปี เวลานี้ กำลังรักษาความฟิตอยู่ในโปรตุเกส เมืองลิสบอน เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้เนทางไปเตะพรีซีซั่นกับ แมนยู เนื่องจากมีปัญหาด้านครอบครัว ทำให้ "ปีศาจแดง" ให้เจ้าตัวอยู่เคลียร์ปัญหาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน ท่ามกลางข่าวลือว่า ดาวยิงโปรตุเกส ต้องการที่จะย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดล้อเลียนstd46452• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรายงานทางการแพทย์ชี้ ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์มีรายงานทางการแพทย์มากมายที่บอกว่า ไข่เป็ดปนเปื้อนเชื้อไทฟอยด์ กินไข่เป็ดแบบไม่สุกเต็มที่ เชื้อไม่ถูกฆ่าตาย ทางสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสากน้อย เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ Salmonella Typhi หรือ Salmonella Paratyphi ซึ่งติดต่อจาก “คนสู่คน” ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบริโภคไข่ไก่หรือไข่เป็ด โดยเชื้อชนิดนี้จะปนเปื้อนอยู่ในอุจจาระของคน ส่วนโรคที่อาจเกิดจากการบริโภคไข่ไก่หรือไข่เป็ด คือ โรคซาลโมเนลโลซีส (salmonellosis) ที่สามารถติดต่อสู่คนได้ เกิดจากเชื้อ Salmonella Typhimurium หรือ Salmonella Enteritidis สามารถเกิดได้ทั้งไข่ไก่ และไข่เป็ด ซึ่งหากบริโภคไข่ไก่หรือไข่เป็ดที่ไม่ผ่านความร้อนจะมีโอกาสในการรับเชื้อชนิดนี้ เนื่องจากเชื้อซาลโมเนลลา เป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไปในสัตว์ปีกสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถ้าร่างกายได้รับเชื้อนี้ในปริมาณมาก จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ ปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และความรุนแรงของอาการที่เกิดนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับ ซาลโมเนลลา เป็นเชื้อที่ไม่ทนความร้อน จึงถูกทำลายได้หากได้รับความร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 20 นาที หรือ 62 องศาเซลเซียส นาน 4 นาทีstd46447• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง ยาลดนํ้าหนักโฆษณายาลดนํ้าหนักผ่านสื่อเฟสบุคstd48002• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิทยาศาสตร์ลวงโลก (Pseudoscience)คือ ข้อเขียนที่อ้างว่าเป็นทั้งวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริง แต่จริง ๆ แล้วขัดแย้งหรือเข้ากันไม่ได้กับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่มีหลักฐานหรือความเป็นไปได้ใด ๆมาสนับสนุน มักจะมาในรูปแบบของบทความทางการแพทย์หรือบทความสุขภาพที่แฝงโฆษณายารักษาหรือ อุปกรณ์เพื่อสุขภาพ โดยแอบอ้างว่าได้ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว มีการสร้างภาพผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาstd48465• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ