2435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยCoca Cola ในจีน (1) การตัดสินใจของคณะกรรมการกลางเพื่อสุขภาพและคุณภาพอาหารของประเทศจีน ให้คำแนะนำว่า : เครื่องดื่มCoca Cola ให้จัดอยู่ในหมวดของเหลวเพื่อสุขอนามัย สำหรับการทำความสะอาดท่อน้ำ Coca Cola ก็จะเปลี่ยนจากหมวดเครื่องดื่มไปจำหน่ายสำหรับล้างทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ดังนั้น Coca Cola บริษัทผู้ผลิตอเมริกาก็จะเปลี่ยนหมวดสินค้าไป มีการวิจัยเครื่องดื่มนี้ว่า มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างไร ? มีการคัดเลือกนักโทษจีน500คน จากสถานราชทัณฑ์จีนมาทำการทดลองและวิจัย__ ให้พวกเขาดื่มวันละสามเวลา เป็นเวลา 6 เดือน การทดลองเสร็จสิ้นลง พบว่า75คนกำลังจะตาย อีก 150 คน เกิดอาการเสพติด ส่วนที่เหลือบางส่วนกลายเป็นคนพิการ ส่วนที่เหลืออื่น ก็พบการทรมานจากการกำเริบของโรคเรื้อรังบางโรคและแสดงให้เห็นถึงความ เสื่อมโทรมของสุขภาพในโรคหลายชนิดที่มีความรุนแรงต่างๆ กัน จากข้อมูลนี้ ทางราชการจีน จึงมีการสรุปว่า อันตรายจากเครื่องดื่มบางชนิดเป็นภัยต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ จึงนำไปสู่การตัดสินใจให้ร้านขายของชำทั่วประเทศจีน เอาCoca Cola ออกจากหิ้งทันที (2) ขณะเดียวกัน ก็มีข้อน่าสังเกตว่า คุณสมบัติเชิงบวกของเครื่องดื่มนี้ โดยเฉพาะทางด้านการประปา มีผลดีในการทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งและ โถส้วมในห้องอาบน้ำ และห้องครัว ในประเทศตุรกี ซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการทดลองทางการแพทย์ว่า Coca Cola มีสารบางอย่าง ที่ผสมในเครื่องดื่มCoca Cola ที่อาจก่อให้เกิดโรคปอด ตับ ไทรอย และลูกีเมีย(มะเร็งเลือด) จนเกิดการต่อต้านเครื่องดื่มชนิดนี้ ในประเทศอินเดีย มีการห้ามแจกจ่าย Coca Cola Coca Cola และ Pepsi ในโรงเรียนชั้นประถมศึกษา เนื่องจากเกรงความเสี่ยงต่อสุขภาพ ในประเทศลัทเวีย มีการห้ามแจกจ่ายCoca Cola และ Pepsiในโรงเรียนชั้นประถมศึกษาเช่นกัน ในประเทศอังกฤษ และยูเครน มีการห้ามดื่มในโรงเรียน (3) ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับCoca Cola เมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว ถือว่า ข้อดีของเครื่องดื่มนี้สำหรับลบล้างสนิม หรือ คราบสกปรก หรือ ตะกรันจากกาต้มน้ำ และคราบจุลินทรีย์จากห้องอาบน้ำ เนื่องจากมันมีส่วนผสมของกรด ออโทฟ๊อสโฟริก (Orthophosphoric ชื่อเคมี) บางประเทศในเอเซีย ชาวนาใช้Coca Cola สำหรับฆ่าแมลงศัตรูพืชและอื่นๆ เพราะว่าต้นทุนมันถูกกว่ายาเคมีและได้ผลไม่ต่างกัน ทั่วโลกมีการดื่มCoca Cola 8,000 ถ้วยต่อวินาที เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ไม่ได้เจาะจงเฉพาะ Coca Cola เท่านั้น แต่รวมถึงเครื่องดื่มอื่นทั่วไป และ Pepsi ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พวกเราต้องจำไว้ว่า บริษัทผู้ผลิต เขาคำนึงถึงเฉพาะผลกำไรของเขาเท่านั้น เขาไม่ได้สนใจต่อสุขภาพมนุษย์ ทั้งหมดนี้ มันเพื่อการค้าเท่านั้น เพื่อสุขภาพคุณ คุณต้องเป็นคนคิดเอง ดังนั้น คุณควรงดดื่ม และแนะนำเพื่อน ญาติพี่น้องรอบตัวคุณให้งดดื่มด้วย จริงๆแล้ว มันอร่อย เพราะมันผสมแก็ส น้ำตาลและเคมีบางอย่าง เวลาเดียวกัน มันก็เป็นภัยและ ตายได้ มันก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน และ สูญเสียความทรงจำก่อนวัยอันควรได้ ถวัลย์ แปลสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแนะกินร้อนช้อนกลางล้างมือ ป้องกันโรคอาหารเป็นพิษโรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ แพทย์เน้นย้ำประชาชนยึดหลักกินร้อนช้อนกลางล้างมือ และกินสุกร้อนสะอาด นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษ (Food poisoning) ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 3 สิงหาคม 2565 ว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ จำนวนทั้งสิ้น 1,049 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต ลักษณะการกระจายของโรคพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โดยมีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดในเดือน มิถุนายน จำนวน 223 ราย (ร้อยละ 21.26) กลุ่มอายุที่พบการป่วยสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี จำนวน 166 ราย (ร้อยละ 15.83) รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 35-44 ปี จำนวน 154 ราย (ร้อยละ 14.68) และกลุ่มอายุ 15 – 24 ปี จำนวน 103 ราย (ร้อยละ 9.82) ตามลำดับ อาชีพที่พบการป่วยสูงสุด คือ นักเรียน จำนวน 334 ราย (ร้อยละ 31.84) รองลงมาคือ รับจ้าง จำนวน 244 ราย (ร้อยละ 23.26) และไม่ทราบอาชีพ จำนวน 237 ราย (ร้อยละ 22.59) ตามลำดับ จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด คือ สงขลา จำนวน 616 ราย รองลงมา คือ ตรัง จำนวน 121 ราย, พัทลุง จำนวน 77 ราย, สตูล จำนวน 69 ราย, นราธิวาส จำนวน 65 ราย, ปัตตานี จำนวน 59 ราย และยะลา จำนวน 42 ราย ตามลำดับ (ข้อมูล: ระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506) โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ ลำไส้อักเสบ และอาจมีไข้ ปวดศีรษะร่วมด้วย การดูแลเบื้องต้นสามารถทำได้โดยการดื่มผงละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว นายแพทย์เฉลิมพล แนะนำว่า ประชาชนควรยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” และ “กินสุก ร้อน สะอาด” ปรุงอาหารต้องปรุงให้สุกทั่วถึง หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ใช้การลวก ได้แก่ ปลาหมึกลวก กุ้งลวก ฯลฯ กินอาหารขณะที่อาหารยังร้อน ปรุงสุกใหม่ อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นก่อนรับประทานทุกครั้ง เลือกบริโภคอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็งที่สะอาด เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาดและมีคุณภาพ ควรใช้ช้อนกลางส่วนตัวเมื่อรับประทานร่วมกัน และก่อนหยิบจับอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง สำหรับผู้ประกอบอาหารต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก สวมหมวกคลุมผม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคไปสู่อาหาร หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคอาหารเป็นพิษสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422sirikanyaa2549• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ . ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่าพบกรดเบนโซอิกในก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ โดยแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากที่มีการแชร์ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเมื่อปี 2550 ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านการตรวจวิเคราะห์อาหารของประเทศ ได้มีการตรวจวิเคราะห์เฝ้าระวังการใช้วัตถุกันเสีย (กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค) ในอาหารประเภทเส้นมาอย่างต่อเนื่อง . นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งการผลิตอาหารประเภทเส้น บางชนิดมีการใช้วัตถุกันเสีย เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต หรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดเบนโซอิกทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย แต่หากได้รับในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ ซึ่งข้อมูลของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรและองค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (The joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives, JECFA) ได้ประเมินและกำหนดค่าความปลอดภัย (ADI) พบว่า มีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อย . อย่างไรก็ตามวัตถุกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อกำหนดการใช้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) สำหรับกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในอาหารประเภทเส้นที่ผ่านกระบวนการต้ม การนึ่ง การปรุงให้สุกการพรีเจลาทิไนซ์ (Pre-gelatinized) หรือแช่เยือกแข็ง และเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป . เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเส้นที่ทำจากแป้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาผู้ผลิตให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้วัตถุกันเสียอย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ซึ่งผู้ผลิตจะต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP สำหรับผู้บริโภคควรเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย และไม่ควรรับประทานอาหารซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ . ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www3.dmsc.moph.go.th หรือโทร. 02 9510000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลที่มีการบอกต่อดังกล่าวเป็นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์เมื่อปี 2550 แต่ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นที่ทำจากแป้งให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/ผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้ว3 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเมื่อติดแล้ว ประเด็นไม่ได้อยู่ที่หายหรือไม่หายน่ะครับ มันจะอยู่ที่ ตายหรืออยู่อย่างลำบากไปตลอดชีวิต ดังนั้นพยายามห้ามติดครับ โควิด-l9 เป็นแล้วโอกาสตายน้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ จริงครับ แต่หายแล้ว ปอดอาจพังตลอดชีวิต ลิเดีย-แข็งแรง เหลือปอดทำงาน หกสิบเปอร์เซ็นต์ ล่าสุด...31 ธันวาคม 2563 ผู้ว่าจังหวัดสมุทรสาคร น่าจะเป็นเคสนี้ครับ บทความนี้ถูกส่งต่อกันมา ผมพอทราบว่ามีส่วนจริง แต่ให้แน่ใจ จึงส่งไปถามเพื่อนที่เป็น...’หมอ’ ! เขาตอบว่า...จริง !!! โควิด-I9 เป็นแล้วตายก็จบไป แต่ถ้าไม่ตาย ก็ต้องลุ้น ! คุยกันครั้งใด เขาบอกผม... พี่อย่าให้เป็นนะ อายุเยอะแล้ว ตายก็ลำบากก่อนตาย ไม่ตายก็แย่ไปตลอดชีวิต "ผมกลัว" ที่จะติดเชื้อ Covid-l9 ผมจึงทำตามที่รัฐบาลบอก คือ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และจะออกจากบ้าน เมื่อจำเป็นจริงๆ ผมบอกว่า ผมเชื่อว่าใครที่ติดเชื้อ Covid-l9 จะไม่มีวันกลับไป "ปกติ" เพราะปอดจะไม่ทำงานเต็มร้อยอีกแล้ว แต่...แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต หากคุณติดเชื้อ รู้ไหมว่า มันทรมานแค่ไหน คุณรู้ไหมว่า การรักษาโรคปอดติดเชื้อไวรัส โคโรนา 20l9 หรือ Covid-19 มันไม่ใช่แค่ ใส่หน้ากากออกซิเจน แล้วนอนอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ อยู่บนเตียงสบายๆในโรงพยาบาล เพราะเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วย Covid-l9 (บางคน-ไม่ทุกคน) มันสร้างความเจ็บปวด ต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้ จนกว่าจะหาย หรือตายภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยแทบไม่สามารถขยับตัว การรักษานี้ คนไข้จะถูกจับให้นอนคว่ำกลับหัว มีท่อหายใจต่อจากปากขึ้นไปที่เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูด กิน หรือขับถ่ายได้ตามปกติ แถมเจ็บปวดตลอดเวลา สิ่งที่แพทย์ช่วยได้ก็คือ ให้ยานอนหลับและยาแก้ปวด เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้สามารถทนต่อความเจ็บจากการใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนอยู่ในอาการโคม่าเทียม ผ่านไป 20 วัน ผู้ป่วยจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ สี่สิบเปอร์เซนต์ และมีแผลในปากหรือหลอดลม เช่นเดียวกับปอด เกิดภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนแก่ หรือผู้ป่วยโรคอื่น เช่น ความดัน หัวใจ ไม่สามารถทนการรักษาได้ และอาจตายในที่สุด ย้ำ..นี่ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ ! การให้อาหารเหลวใส่หลอดเข้าไปในท้องของคุณ ไม่ว่าจะผ่านจมูกหรือเส้นเลือด การที่ต้องมีพยาบาลมาช่วยขยับแขนขาทุกสองชั่วโมง เพื่อป้องกันแผลกดทับ และต้องนอนบนเตียงน้ำที่เย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิ 40 องศาของคุณ "มันไม่ใช่เรื่องสนุก" และคนที่บ้านเป็นทุกข์แน่ๆ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ชาติตะวันตก ปล่อยให้ตาย ไม่รับรักษา เพราะสิ้นเปลือง ผมกลัว...ผมจึงอยู่บ้าน ถ้าคุณไม่กลัว ก็ตามสบายนะครับ ไม่สวมหน้ากากตอนออกจากบ้าน ไม่รักษาระยะห่าง ไปในที่สุ่มเสี่ยง เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่คุณมีต่อครอบครัวของคุณเอง ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อคนที่รักคุณ และ เพื่อตัวคุณเอง ใครจะหาว่าผมตื่นตูม ก็ตามสะดวก แต่ผมว่าเราต้อง ‘ตื่นตัว’ แม้คนที่เป็น ไม่ทุกคนที่จะมีสภาพนี้ แต่ก็มีไม่น้อยที่หายแล้วปอดไม่เต็มร้อย ผมว่าปอดพังเร็วมาก ยิ่งกว่าสูบบุหรี่ซะอีก รักใคร ห่วงใคร ก็แชร์กันไป ถ้าคุณได้รับแชร์นี้มาแสดงว่ามีคนรักคุณไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคู่มรณะ อาหารกินคู่กันแล้วอันตราย จริงหรือไม่ด่วน...คู่มรณะ ผลการวิจัยล่าสุดของศาสตราจารย์ Mome Kaowa แห่งสถาบัน Manosatra พบว่า ...: !!!อ า ห า ร ที่ กิ น คู่ กั น . . . อั น ต ร า ย ! ! 1. กินทุเรียนกับ น้ำอัดลม ให้พิษร้าย มากกว่าพิษงูเห่า! 2. เต้าหู้กับน้ำผึ้ง ห้ามรับประทานด้วย กันจะทำให้หูหนวก ... 3. น้ำเต้าหู้ ห้ามใส่ น้ำตาลแดง จะทำให้ เสียวิตามิน 4. มันฝรั่งกับกล้วย ทุกชนิด ห้าม รับประทานรวมกัน จะทำให้หน้าเป็นฝ้า 5. หัวไชเท้ากับผลไม้ ทุกชนิด ห้าม รับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดคอพอก 6. กล้วยกับเผือก ห้ามรับประทานด้วย กัน จะทำให้ท้องอืด 7. บวบ ซือกวย ไชเท้า ห้ามรับประทานวัน เดียวกัน จะทำให้เป็น เบาหวาน ทำให้เชื้อ อสุจิอ่อนไม่แข็งแรง 8. กล้วย+มะละกอ +แตงโม ห้าม รับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นโรคไตกับโรคเบาหวาน 9. มังคุดกับน้ำตาล กินรวมกันจะทำให้เสียชีวิต 10. ผักป๋วยเล้ง ห้าม รับประทาน กับเต้าหู้ จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง 11. น้ำผึ้ง ห้ามชงด้วย น้ำที่ร้อนจะทำให้เสีย วิตามิน 12. ส้มกับมะนาว ห้าม รับประทานด้วยกัน จะทำให้กระเพาะทะลุ 13. ปลาทุกชนิด ห้ามต้มกับผักกาดดอง จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง 14. ขิงดอง ห้ามเข้า ตู้เย็น กินแล้วจะเป็น โรค มะเร็ง 15. น้ำข้าว ห้ามใส่กับ นม จะทำให้เสียวิตามิน 16.น้ำเต้าหู้กับนมสด ห้ามใส่ไข่ เพราะจะทำ ให้ท้องผูกและเส้นเลือดตีบ 17. ถั่วลิสงกับฟักทอง ห้ามรับประทานรวม กัน จะทำให้ทำร้าย ร่างกายและลำไส้ อักเสบ 18. มันเทศกับลูกพลับ ห้ามรับประทานรวม กัน จะทำให้เกิดนิ่ว ในกระเพาะอาหาร 19. เหล้าขาวกับลูก พลับ ห้ามรับประทาน ด้วยกันจะทำให้เป็นพิษ 20. เหล้าขาวกับเบียร์ ห้ามรับประทานด้วย กัน จะทำให้เส้นเลือด ในสมองแตก 21. หัวไชเท้ากับเห็ด หูหนู ทั้งดำและขาว ห้ามรับประทารด้วย กัน จะเป็นโรคผิวหนัง * * มีนักท่องเที่ยว ชาวจีนวัยเพียง28ปี รายหนึ่ง ตอนมาเที่ยว เมืองไทยได้รับประทานทุเรียนไปจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำอัดลม สารคาเฟอินในน้ำ อัดลมก่อให้เกิดความ ดันโลหิตสูงขึ้นอย่าง รวดเร็ว ทำให้หัวใจ วายอย่างเฉียบพลัน + + ประเทศไทย ได้ออกกฎอย่าง ชัดเจนไว้ว่า ภายใน 8 ชั่วโมงหลังจาก การรับประทานทุเรียน เป็นจำนวนมาก ห้ามดื่ม น้ำอัดลม เป็นอันขาด ! ! * ทุเรียนก่อให้เกิด แก๊สในกระเพาะสูงเลยทีเดียว ...เพื่อชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา โปรดแชร์ด่วนเพื่อ ญาติมิตรและเพื่อนคนไทย🎃🍊🍏🍋🍎🍅🍓🍑🍐🍌🍉🍈🌽🍠🍆🍑🌶🍍🍦🍼ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมอยง แจงประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ขึ้นกับพื้นที่ อย่ายึดติดที่ตัวเลข 2021-01-14 17:21:56 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 2564)--นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัฐบาลจะนำเข้ามาฉีดให้ประชาชน ว่า การพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพนั้นอย่าไปยึดติดที่ตัวเลข ขอให้ยึดความเป็นจริง เนื่องจากผลทดสอบในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน สำหรับวัคซีนของบริษัท ซิโนแว็กเทคโนโลยี จำกัด นั้น ทดสอบที่ตุรกีในบุคคลทั่วไปให้ประสิทธิภาพ 90%, อินโดนีเซียทดสอบในบุคคลทั่วไป 60% ขณะที่บราซิลทดสอบในบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูงให้ประสิทธิภาพเหลือ 50% ซึ่งวัตถุประสงค์ของการผลิตวัคซีนมี 3 ประการ คือ 1.ฉีดแล้วป้องกันการติดเชื้อ 2.ฉีดแล้วติดเชื้อแล้วแต่ไม่เป็นโรค และ 3.ฉีดแล้วเป็นโรคแล้วไม่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต "ตอนนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย เพราะกำลังขาดแคลน ถ้าจะให้เลือกวัคซีนที่ดีที่สุดอาจซื้อไม่ได้ แต่องค์การอนามัยโลกบอกป้องกันได้เกิน 50% ก็ยอมรับได้ ถึงแม้เราอยากได้ที่ป้องกันถึง 100%" นพ.ยง กล่าว ตนเองคงไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วจะมีภูมิต้านทานได้นานแค่ไหน เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ อย่างกรณีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าฉีดเข็มเดียวป้องกันได้ตลอดชีวิต ตอนนี้ต้องฉีดเพิ่มอีกเข็ม และจากการศึกษาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบการกลายพันธุ์มีน้อยกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ประมาณสิบเท่า ซึ้งไม่กระทบต่อการผลิตวัคซีน "ถามว่าจะป้องกันได้กี่ปี นานแค่ไหน บอกได้เลยว่าไม่รู้ เพราะวัคซีนนำมาใช้แค่ 3-4 เดือน จะให้บอกว่าป้องกันนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ ต้องติดตามกันต่อไป ความรู้ใหม่จะเกิดขึ้น ถ้าฉีดแล้วยังติดเชื้อก็ต้องฉีดกระตุ้นใหม่ ซึ่งอาจจะอยู่ได้อีก 5 ปี" นพ.ยง กล่าว ส่วนการตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ขึ้นอยู่ความเสี่ยงของแต่ละคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง โดยผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 3-4% ผู้ที่มีอายุเกิน 70 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 10% และผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปีมีโอกาสเสียชีวิต 20% แต่ถ้าเป็นผู้ที่อายุน้อยถึงจะติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ต่อไปโรคนี้อาจเป็นโรคไข้หวัดธรรมดาที่ติดต่อได้ง่ายในเด็กๆ แต่ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันเอง แต่ไวรัสชนิดนี้จะไม่มีวันหายไปแต่จะมีวิวัฒนาการที่ไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรง ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วราว 30 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ฉีดในจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน และวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ฯ ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะเจรจานำวัคซีนที่มีใช้แล้วเข้ามาทดลองฉีดในประเทศไทยว่าจะมีการตอบสนองอย่างไร ตนเองได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมากว่า 3.3 หมื่นคน โดยประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นที่จะรับการฉีดวัคซีน 55% มีผู้ที่ไม่ฉีด 5% เนื่องจากก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขเกิดความกังวลว่าอาจสูญเสียงบประมาณไปเปล่าๆ หากมีการนำเข้าวัคซีนแล้วประชาชนไม่สนใจ นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังให้ความเชื่อมั่นกับวัคซีนที่ผลิตจากประเทศแถบยุโรปและอเมริกามากกว่าวัคซีนที่ผลิตจากที่อื่น อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดมั่นตามมาตรการชีวอนามัย เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย เว้นระยะห่าง ซึ่งตนเองมีประสบการณ์จากการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขแล้วไม่ติดเชื้อหลังกักกันโรคครบกำหนดแล้ว --อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเลิกเชื่อข่าวเท็จ "ฟอกเลือด" ไม่ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ยืนยันหลอดเลือดสมองตีบไม่สามารถรักษาด้วยการฟอกเลือด การกระตุ้นการไหลเวียนจะลดการเกิดโรคจะลดการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ จากกรณีการแชร์ข้อมูลหลอดเลือดสมองตีบรักษาด้วยการฟอกเลือด และกระตุ้นการไหลเวียน ช่วยลดการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ เพราะไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่บอกว่าการฟอกเลือด และการกระตุ้นการไหลเวียนจะลดการเกิดโรคได้std47971• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลาร้าใช่ "โพรไบโอติก" หรือเปล่าถ้าอึไม่ออกต้องกินโพรไบโอติกเช่นพวกผักดอง ของดอง เลยสงสัยว่าปลาร้าก็ใช่ด้วยไหมสุขภาพภาคอีสานมีมAZ• 1 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำมากเกินไปทำให้แร่ธาตุในร่างกายเจือจางเพื่อนบอกว่าดื่มไปอาการจะเป็นอย่างงี้อาย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนมตราหมี ยาฆ่าพยาธิ และน้ำมันหอมระเหยในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงในอินโดนีเซีย ข้อมูลเท็จเกี่ยวการรักษาและป้องกันการติดเชื้อแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เพิ่มสูงเป็นเงาตามตัว โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังประสบปัญหาคนไข้ล้น และการขาดแคลนออกซิเจน ขณะที่ประชาชนต่างพยายามหาหนทางช่วยเหลือญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่ล้มป่วยด้วยโควิด ทีมงานตรวจสอบความจริง "เรียลิตี เช็ก" ของบีบีซี จะพาไปดูข้อมูลเท็จต่าง ๆ ที่ถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในอินโดนีเซียขณะนี้มีมstd48025• 2 ปีที่แล้ว3 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : นมตราหมี ยาฆ่าพยาธิ และน้ำมันหอมระเหย กับข่าวปลอมการรักษาไวรัสในอินโดนีเซียในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงในอินโดนีเซีย ข้อมูลเท็จเกี่ยวการรักษาและป้องกันการติดเชื้อแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เพิ่มสูงเป็นเงาตามตัว โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังประสบปัญหาคนไข้ล้น และการขาดแคลนออกซิเจน ขณะที่ประชาชนต่างพยายามหาหนทางช่วยเหลือญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่ล้มป่วยด้วยโควิดstd47630• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มเเอลกอฮอล์เเล้วจะไม่ติดโควิดถ้าดื่นเเอลกอฮอล์ในทุกๆวันจะป้องกันเชื่อโควิด19 เเละยังให้ผลดีกว่าการออกกำลังกายโควิด 2019Chayada Sakulpak• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย: นมตราหมี รักษาไวรัสในอินโดนีเซียภาพวิดีโอหลายชิ้นที่เผยให้เห็นคนอินโดนีเซียแห่กันไปซื้อนมสดตราหมีกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากมีคำกล่าวอ้างทางโซเชียลมีเดียและกลุ่มสนทนาทางวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ว่าการดื่มนมสดยี่ห้อนี้อาจช่วยสร้างแอนติบอดี หรือสารภูมิต้านทานโควิดได้โควิด 2019std47800• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนมตราหมีรักษาโควิดมีคำกล่าวอ้างทางโซเชียลมีเดียและกลุ่มสนทนาทางวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ว่าการดื่มนมสดยี่ห้อนี้อาจช่วยสร้างแอนติบอดี หรือสารภูมิต้านทานโควิดได้std47901• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : นมตราหมี ยาฆ่าพยาธิ และน้ำมันหอมระเหย กับข่าวปลอมการรักษาไวรัสในอินโดนีเซียในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงในอินโดนีเซีย ข้อมูลเท็จเกี่ยวการรักษาและป้องกันการติดเชื้อแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เพิ่มสูงเป็นเงาตามตัว โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังประสบปัญหาคนไข้ล้น และการขาดแคลนออกซิเจน ขณะที่ประชาชนต่างพยายามหาหนทางช่วยเหลือญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่ล้มป่วยด้วยโควิด ทีมงานตรวจสอบความจริง "เรียลิตี เช็ก" ของบีบีซี จะพาไปดูข้อมูลเท็จต่าง ๆ ที่ถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในอินโดนีเซียขณะนี้std48851• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักโทษของยาลดน้ำหนักปัจจุบันโรคอ้วนเป็นปัญหาอย่างมากในประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งประเทศไทย โดยโรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น ดังนั้นโรคอ้วนจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษา ซึ่งการรักษาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การใช้ยารักษา และการผ่าตัด ในปัจจุบันพบว่าการนำยาลดความอ้วนไปใช้ในทางที่ผิดมีมากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากสื่อต่างๆ และการซื้อยาลดความอ้วนสามารถหาซื้อเองได้ง่าย โดยไม่ได้มีการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา โดยจากการสำรวจของกองควบคุมวัตถุเสพติด พบว่ายาชุดลดความอ้วนมักจะประกอบไปด้วยยาหลายชนิดเพื่อช่วยเสริมผลในการลดน้ำหนัก ซึ่งจัดไว้เป็นชุดให้รับประทานเหมือนกันในแต่ละวัน โดยยาชุดลดความอ้วนจะประกอบไปด้วยยาประมาณ 1-7 รายการdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“หลอกให้รับเงินคืนโดยสแกน QR Code – หลอกให้ใช้สินเชื่อเพื่อแลกรับเงินสดคืน – หลอกให้ติดตั้งแอปฯ”“หลอกให้รับเงินคืนโดยสแกน QR Code – หลอกให้ใช้สินเชื่อเพื่อแลกรับเงินสดคืน – หลอกให้ติดตั้งแอปฯ”Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวดี ม.อ. เปิดตัว โควิด 19 rapid test สามารถรู้ผลได้ภายใน 15 นาทีม.อ. พัฒนาชุดทดสอบ PSU COVID-19 Rapid Test เพื่อตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ รู้ผลการตรวจภายในเวลา 15-20 นาที ลดเสี่ยงบุคลากรทางการแพทย์โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำมันเบนซินถอนพิษจากแมลงกัดต่อยได้น้ำมันเบนซินถอนพิษจากแมลงกัดต่อยได้ ใช้น้ำมันเบนซินทาบริเวณที่โดนตะขาบ หรือแมลงทุกชนิดกัดต่อย เพราะสารระเหยในน้ำมันเบนซิน จะทำการดูดพิษให้หาย ภายใน 3-5 นาที ไม่มีการเจ็บ การบวมteeraphat13281• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาทาเล็บเคลืบฟันเป็นอันตรายต่อช่องปากไหมไม่ควรใช้ยาทาเล็บทาเคลือบฟัน เพราะเป็นการนำผลิตภัณฑ์ทาเล็บไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยการนำไปทาที่ผิวฟันซึ่งเป็นบริเวณภายในช่องปาก เยื่อบุอ่อน นั้นเสี่ยงต่อการกลืนกิน และดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้std47756• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวางมือถือไว้หัวนอน ทำให้เป็นมะเร็งสมองตามที่มีการโพสต์และแชร์ กรณีวางโทรศัพท์มือถือไว้หัวนอน ทำให้เป็นมะเร็งสมอง ทางกรมการแพทย์ ตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่าทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสมองทั้งในผู้ใหญ่และเด็กสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47766• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสระผมก่อนอาบน้ำอาจทำให้เส้นเลือดแตกไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำและควรล้างส่วนอื่นๆของร่างกายก่อนเนื่องจากศีรษะเปียกและเย็นเลือดจะไหลไปที่ศีรษะเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น หากหลอดเลือดแคบลงก็มีโอกาสแตกได้std47924• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจับมือป่วนชิบช็อปใช้’ เป็นยุวชนฐานคะแนนของพรรคการเมืองดัง ข่าวปลอม!! สร้างความปั่นป่วน อย่าแชร์ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ กรณีจับมือป่วนชิบช็อปใช้ เป็นยุวชนฐานคะแนนของพรรคการเมืองดัง นั้นทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข่าวการเมือง เสียดสีakkarawin.keawsuwan• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยจับมือป่วนชิบช็อปใช้’ เป็นยุวชนฐานคะแนนของพรรคการเมืองดัง ข่าวปลอม!! สร้างความปั่นป่วน อย่าแชร์ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ กรณีจับมือป่วนชิบช็อปใช้ เป็นยุวชนฐานคะแนนของพรรคการเมืองดัง นั้นทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อดังกล่าวนั้น เป็น ข้อมูลเท็จข่าวการเมือง เสียดสีTotothaniratn• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยครีมขาวเร็วครีมทาแล้วผิวขาวใน3วันความสวยความงามstd48360• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ