(1461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ขณะนี้ร่างระเบียบฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายพอเถอะบัง ตังผมหมด• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไปเทยวเกาหลีอยากไปสิริกร ฯ.• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยโคโรน่าแพร่ผ่านทางสายเลือดมีผู้โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตว่าเชื้อโคโรน่าถ่ายทอดไปยังลูกๆได้ มีการอ้างอิงถึงแม่ลูกคู่หนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์และเมื่อคลอดลูก ลูกลับติดเชื่อละเสียชีวิตstd48019• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือน!! "ยาชุด" ซุกร้านชำ อันตรายผสมเอ็นเสด ทำ "ไตวาย" ไม่รู้ตัว พบระบาดถึงเมืองกรุงอันตราย! "ยาชุด" ซุกซ่อนร้านชำต่างจังหวัด แพร่ระบาดถึง กทม. มียาเอ็นเสดประกอบหลายตัว ส่งผล "ไตวาย" จากการใช้ยา บางคนใช้ไม่รู้ตัวว่าป่วยยิ่งซ้ำเติม จี้รัฐ สธ. อย. เอาผิด กวาดล้างโฆษณายาชุด เผย 8 ปัจจัยเสี่ยงทำไตเสื่อใจากยาเอ็นเสด เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่สถาบันวิจัยสังคม อาคารวิศิษฐ์-ประจวบเหมาะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานแถลงข่าว “ดูแลไตอย่างไรให้มีสุขภาพดี: เมื่อต้องใช้ยา” ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการ กพย. กล่าวว่า ปัจจุบันไทยติด 1 ใน 5 ประเทศของโลกที่มีอัตราการเกิดโรคไต ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่า ผู้ป่วยไตเรื้อรังมี 11.6 ล้านคน โดยมากกว่า 1 แสนคนต้องล้างไต สาเหตุมาจากกินเค็มและการใช้ยา ซึ่งหลายชนิดก่อปัญหาโรคไตได้ ทั้งยาชุด ยาแก้ปวด ยาสมุนไพรบางชนิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะยาชุดยังคงเป็นปัญหา มีอันตราย เพราะไม่มีชื่อทางยาใดๆ มีส่วนประกอบ ทั้งสเตียรอยด์ กลุ่มยาเอ็นเสด พาราเซตามอล ยากล่อมประสาท ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ เมทีลีนบลู ซึ่งถอนทะเบียนแล้วแต่ยังมีคนเจอ ไซบูทรามีน วิตามิน นอกจากนี้ ยังมียากษัยเส้นบำรุงไต แต่องค์ประกอบพบกลุ่มเอ็นเสด มีผลทำให้ไตวายได้ง่าย "ยาเอ็นเสด เป็นยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ มีทั้งหมด 29 ชื่อสามัญทางยา รวม 1,163 ทะเบียนตำรับยา มียาฉีด 8 ชื่อสามัญทางยา รวม 49 ทะเบียนตำรับยา มีคำเตือนเยอะมาก ทั้งห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ ผู้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร คนเป็นโรคตับ โรคไต อย่างรุนแรง หลายคนไม่รู้ อย่างชาวบ้านใช้กันมาก โดยไม่รู้จักชื่อยา ใช้โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคไต ที่สำคัญไม่มีเครื่องมือตรวจว่า กินยาเอ็นเสดไปแล้ว ซึ่งยาชุดหลังๆ เลี่ยงสเตียรอยด์ หันมาใช้เอ็นเสดแทน และใช้หลายเม็ด ดังนั้น มาตรการควบคุม ควรมีการสแกนในชุมชน ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” ผศ.ภญ.นิยดา กล่าวstd48402• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกินยาชุดหายทุกโรคจริงมั้ย" ยาชุด" ซุกซ่อนร้านชำต่างจังหวัด มียาเอ็นเสดประกอบหลายตัว ส่งผล "ไตวาย" จากการใช้ยา และไม่สามารถรักษาโรคได้std47912• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเปิดตัว TJA&COFACT ดึง “นักข่าว” ร่วมตรวจสอบ FAKE NEWS ประเดิม 5 ข่าวปลอม ข่าวลวง ที่ถูกแชร์วนซ้ำวันที่ 1 เมษายน 2564 นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(TJA) เปิดเผยว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ร่วมมือกับ “COFACT Thailand” หรือ ภาคีโคแฟคประเทศไทย ภายใต้ชื่อ TJA&Cofact ในการตั้งกองบรรณาธิการเฉพาะกิจ ที่ดึงนักข่าวมืออาชีพจากหลากหลายสายข่าว เข้ามาเป็น Fact-Checking ร่วมตรวจสอบ Fake news หรือ ข่าวลวง ข่าวปลอม ที่แพร่กระจายอยู่ในโซเชียลมีเดียด้วยวิธีการทำข่าวอย่างนักข่าวมืออาชีพ โดยจะมีการนำข่าวลวง ข่าวปลอม ไปสัมภาษณ์ขอข้อมูลจากบุคคลที่นักข่าวเรียกว่า “แหล่งข่าว” ในหน่วยงาน/องค์กร ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อยืนยันว่าข่าวว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “TJA&Cofact จะเริ่มความร่วมมือตรวจสอบข่าวลวง ข่าวปลอมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นโครงการนำร่อง 3 เดือนก่อนในเบื้องต้น จะมีการแถลงความร่วมมือในวันที่ 2 เมษายน2564 สมาคมนักข่าวฯมีความยินดีที่ Cofact เชิญเข้าร่วมในภารกิจนี้ เพราะมองเห็นปัญหาข่าวลวง ข่าวปลอม ตรงกันว่า เป็นปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน แม้บางข่าวจะดูเป็นข้อความที่อาจจะไม่สำคัญ แต่หากเกี่ยวข้องสุขภาพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้”std48204• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องจริงหรือโกหก น้ำมันจิ้งเหลนเอามานวดน้องกะปู๋แล้วจะใหญ่ขึ้น 18++ กระทู้คำถาม สุขภาพกาย คือผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆเลยครับว่าน้ำมันจิ้งเหลนสามารถทำให้น้องกะปู๋ของเราใหญ่ขึ้นได้ โดยการจับจิ้งเหลนตัวใหญ่สักหน่อยหรือพอประมานแล้วนำมาย่างให้น้ำมันของจิ้งเหลนออกแล้วเอามานวดน้องกะปู๋ มีใครเคยลองมั๊ยครับแล้วลองแล้วมันได้ผลจิงมั๊ยครับ 0ใหญ่ขึ้น แน่นอน ตอนที่นวดนะ ไม่ต้องถึง นํ้ามันจิ้งเหลน หรอก เอานํ้ามันหมูในครัวนวด ก็ใหญ่ขึ้น (ตอนนวดนะ)std48866• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจับกระแสการเมือง : วันที่ 14 มิ.ย.2566 "คนดังส่อวืด ส.ส. หลังเอกสาร กกต.หลุด"กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ หลังครบรอบ 1 เดือนเลือกตั้ง 2566 ว่าที่ ส.ส.ใหม่ไฟแรง หลายคนจากหลายพรรคการเมือง ที่ลุยงานตั้งแต่ไม่ได้เดินเข้าสภา ออกอาการร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน เมื่อเอกสารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลุดเสนอรายชื่อว่าที่ ส.ส. จำนวน 400 เขตให้ กกต.พิจารณา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้พบว่ายังไม่มีการลงนามรับรอง ส.ส. เนื่องจากมี 71 เขตเลือกตั้งที่อยู่ระหว่างการไต่สวนหาข้อเท็จจริง กรณีมีเรื่องร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง จึงให้กกต. นำกลับไปพิจารณาให้ได้ข้อยุติ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต.สัปดาห์หน้า พร้อมกับ 100 รายชื่อว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อstd4835• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่std48851• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาลstd48004• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนายอมรับว่าทีมงานต่อต้านข่าวปลอมทำงานกันอย่างยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม ทาง Newsweek ก็มีการตรวจสอบว่าเป็นข่าวลวงเช่นกัน โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ ส่วนในประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นฉีดวัคซีนไปแล้ววัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์การกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน นำไปสู่ความกังวลว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีผลข้างเคียงคือรหัสพันธุกรรมของตนจะเปลี่ยนไปด้วย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด แม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริงวัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“น้ำมะนาว” ยาวิเศษแก้สารพัดโรคก่อนหน้านี้ “น้ำมะนาว” ถูกแชร์ต่อๆกันว่า เอาไปผสมโซดาแล้วจะช่วยฆ่าเชื้อมะเร็งได้ ยุคหลังๆมาบอกว่า “น้ำมะนาว” ช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฆ่าเชื้อมะเร็ง หรือ ฆ่าเชื้อโควิด-19 ก็ได้รับการยืนยันจาก นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค รวมถึงคุณหมออีกหลายคน ที่พูดตรงกันว่า ข่าวนี้เป็นข่าวปลอม มะนาวเป็นผลไม้มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ช่วยไม่ให้เชื้อโรคสามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่ายเท่านั้น แต่ไม่สามารถฆ่าไวรัสได้โควิด 2019ยาสมุนไพรstd48096• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยปิดมือถือหนี “รังสีคอสมิก”00.30 - 03.30 น. เป็น “ช่วงเวลาทอง” ของการปิดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เนื่องจากดาวเคราะห์ของเราจะมีการแผ่รังสีที่สูงมาก “รังสีคอสมิก” จะผ่านเข้ามาใกล้โลก และอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ข่าวนี้ถูกส่งต่อมานานมาก เป็นหนึ่งในข่าวปลอมยุคดึกดำบรรพ์ที่เล่นตลกกับชีวิตเรามากผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10%เป็นอีกหนึ่งข่าวปลอมสุดคลาสสิกที่ถูกนำมาแชร์กันต่อเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาใกล้สิ้นสุดปีงบประมาณของทุกปี แต่หากใครติดตามข่าวสารเป็นประจำก็จะรู้ได้ทันทีว่า “เป็นเรื่องปกติ” เพราะรัฐบาลจะต่ออายุการลดภาษี VAT เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดผลกระทบทั้งค่าครองชีพ และรักษาการบริโภคภายในประเทศ ภาษี VAT” มีอัตราการจัดเก็บที่ 10% แบ่งเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจริง 9% และภาษีท้องถิ่นอีก 1% แนวทางนี้กำหนดเอาไว้ตั้งแต่ปี 2535 แต่ไม่เคยจัดเก็บจริงข่าวการเมืองstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ กระทรวงดีอีเอสฯ สั่งฟ้องนักข่าวไทยพีบีเอส แพร่ข่าวปลอมหญิงแพ้วัคซีน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ชี้มี “ขบวนการสร้างข่าวปลอม” ยุคโควิด-19 กับวาทะล่าสุด “ยังไม่มีใครต้องติดคุกเพราะไปด่ารัฐบาล” โฉมใหม่ "กฎหมายคุมสื่อ" ทำไมสมาคมนักข่าว-สภาการสื่อมวลชน ถึงพอใจร่าง พ.ร.บ. จริยธรรมสื่อ ที่ ครม. เห็นชอบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ขณะนี้ร่างระเบียบฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และคาดว่าจะประกาศใช้ในเวลาอีกไม่นานโควิด 2019วัคซีนโควิดJittiphatsa8416• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ข่าวการเมืองgam.muensri• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌เช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌ เช็ครุ่นรถยนต์ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.checkairbag.com/ (หรือสแกนคิวอาร์โค้ด) อ่านเพิ่มเติม : https://www.js100.com/en/site/post_share/view/124248 #ถุงลมนิรภัย #ถุงลมนิรภัยระเบิด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน #JS100 ได้ที่ >> goo.gl/hoc9w8ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ แคลเซียมไม่ได้ทำให้ตัวสูงแคลเซียมเพิ่มความสูงได้จริงหรือไม่? แร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบร่างกายของเรา ถือว่าเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ดี เราจำเป็นต้องบริโภค แคลเซียม เพื่อช่วยให้กระดูกแข็งแรง และทำให้สารสื่อประสาทระหว่างสมอง และอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ปกติ แคลเซียมในรูปแบบของอาหารเสริม นำมากินเพื่อที่จะเพิ่มความสูง ซึ่งแท้จริงแล้ว การบริโภค แคลเซียมอย่างเดียวนั้น ไม่ได้ทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น แต่จะต้องทานร่วมกับโปรตีน และจะต้องเป็นโปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่วเท่านั้น รวมถึงการออกกำลังกายร่วมด้วย จึงจะทำให้สูงขึ้นได้ โปรตีน และแคลเซียม มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เราจำเป็นต้องรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่ตอความต้องการของร่างกาย และถ้าอยากสูงและมีร่างกายที่แข็งแรง ควรควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPYU4 kunticha• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยช็อค ค่าไฟแพง ครวญผ่านโลกโซเชียล เจอค่าไฟถึงกับจุกทวิตเตอร์ ติดเทรนด์ 19 เมย "ค่าไฟแพง" เห็นบิลค่าไฟถึงกับต้องครวญผ่านสื่อโซเชียลกันถัวนหน้าnaydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องนี้น่าสนใจมาก...หากประสบผลสำเร็จ คนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดคงจะสบายสักที...... --------‐--‐-----//------------------ มนุษย์จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น! ทำความรู้จัก “อนุภาคนาโน” ที่ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้ว และอาจทำให้ “โรคหัวใจ” กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์ ทุกวันนี้ เวลาได้ยินข่าวคนดังเสียชีวิต มักมีสาเหตุมาจาก “มะเร็ง” และพานคิดว่ามะเร็งน่าจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ปัจจุบันคือ “โรคหัวใจ” หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” มนุษย์ที่เสียชีวิตเพราะโรคกลุ่มนี้ในแต่ละปีมากถึง 30% และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แซงหน้ามะเร็ง 1.เราอาจสังเกตว่า “คนสมัยก่อน” มักจะไม่ได้ตายเพราะ “โรคมะเร็ง” หรือ “โรคหัวใจ” . เหตุที่ช่วงหลังมานี้ “โรคมะเร็ง” และ “โรคหัวใจ” ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามนุษย์ปัจจุบันอายุยืนขึ้น เราไม่ค่อยตายจากสงครามและโรคติดเชื้อต่างๆ แบบในอดีต พออยู่มาจนแก่ . เราจึงเผชิญหน้ากับโรคที่โดยทั่วไปใช้เวลาพัฒนาหลายสิบปีกว่าจะพัฒนาจนคร่าชีวิตผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคไต ฯลฯ 2.ก่อนหน้านี้ โรคที่ฆ่ามนุษย์เป็นอันดับ 1 คือ “มะเร็ง” เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำว่า “มะเร็ง” นั้นกินความกว้างมากๆ เพราะเกิดจากการที่เซลล์ของอวัยวะร่างกายกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย เรียกได้ว่าเกิดเนื้อร้ายส่วนไหนก็นับเป็นมะเร็งหมด พอแก่ตัวไป แนวโน้มที่เซลล์จะกลายพันธุ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น . ผลในทางสถิติคนก็เลยเป็นมะเร็งกันเยอะ และในอดีตเป็นโรคที่ “ไม่มีทางรักษา” . แต่ยุคหลังๆ เริ่มมีแนวทางการรักษาใหม่ๆ เริ่มมีเทคนิคการคัดกรองที่ดีขึ้น คนก็เลย “จัดการ” กับมะเร็งได้ดีกว่าก่อนมาก ส่งผลให้ “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่กลายเป็นภัยต่อชีวิตอันดับ 1 ของมนุษย์ 3.คำว่า “โรคหัวใจ” ในความหมายของโรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นคำที่กินความกว้างมากคือ กินความตั้งแต่ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตีบทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไปจนถึงภาวะผิดปกติทางกายภาพของหัวใจที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด . อย่างไรก็ดี สิ่งที่ใกล้ชิดกับโรคหัวใจที่สุดก็คือภาวะอย่าง ‘หลอดเลือดแข็งตัว’ (atherosclerosis) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด” ในระดับที่เรียกได้ว่า เป็นภาวะยอดฮิตที่คนจะป่วย และพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจในที่สุด . แม้ว่าคนจะนิยมเรียกกันแบบนี้ แต่สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดนั้นไม่ใช่ “ไขมัน” แต่คือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายขณะที่มันพยายามจะทำลายคอเลสเตอรอลที่หลุดเข้ามาในผนังหลอดเลือด . (ซึ่งคอเลสเตรอลไม่ใช่ไขมัน ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นพลังงานไม่ได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเรา “เบิร์น” ตอนออกกำลังกาย แล้วจะเอาคอเลสเตอรอลมาใช้ ร่างกายเราไม่ได้ทำงานอย่างนั้น) . พอซากเซลล์เม็ดเลือดขาวตายสะสมกันในผนังหลอดเลือดมากๆ หลอดเลือดก็จะหนาขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เราเลยเรียกภาวะนี้ว่า “หลอดเลือดแข็งตัว” 4.ถ้าที่ว่ามาฟังเข้าใจยากไป ก็คิดซะว่าหลอดเลือดเราเป็น “ท่อ” ก็ได้ . ภาวะที่ว่ามาคือภาวะ “ท่อตัน” และพอ “ท่อตัน” เลือดก็จะไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้านั่นเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหรือสมอง เราก็จะเสียชีวิต (ทั้งนี้เวลาเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้จะเรียก Heart Attack ส่วนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะเรียก Stroke สองภาวะนี้มีสาเหตุพื้นฐานคือ “ท่อตัน” นั่นเอง) . ดังนั้นปัญหาที่คร่าชีวิตมนุษย์แบบนับไม่ถ้วน ก็คือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท่อตัน” นี่เอง เพียงแต่ท่อที่ว่าคือเส้นเลือดแดงในร่างกายที่คอยส่งออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงอวัยวะ 5.คำถามต่อมาคือ แล้วภาวะ “ท่อตัน” นี่จัดการแค่ใส่ “น้ำยาล้างท่อ” ลงไปไม่ได้หรือ? . คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาจึงต้อง “ผ่าตัด” “ทำบอลลูน” และ “ทำบายพาส” กันให้วุ่นวาย . วิธีการรักษาปัจจุบันคือ ถ้า “ท่อตัน” ทำได้แต่ผ่าตัด (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ซึ่งก่อนผ่าตัด เราก็ต้องระบุให้ได้ว่า “ท่อ” ตรงส่วนไหนตัน โดยการ “ฉีดสี” และทำ MRI . ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า “แพงมาก” แม้ว่าประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศยุโรปหรือไทย คุณต้องผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด ถึงจะได้ทำการวินิจฉัยว่าคุณกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงส่วนไหนของร่างกาย เรียกว่าผู้ป่วยจะได้ทำเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น . ปัญหาคือทุกวันนี้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเรา “กำลังจะท่อตัน” ตรงไหน เพราะมันไม่มีทางจะมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเราด้วยการวินิจฉัยทั่วๆ ไป การไป “ตรวจสุขภาพประจำปี” ซึ่งตรวจด้วยวิธีทั่วไป ก็ไม่มีทางรู้ได้ 6.ปกติเราจะรู้ได้ว่า ตัวเรามีความเสี่ยงต่อโรคกลุ่มนี้ก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และวิธีการ “พยุงอาการ” ของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหลักๆ คือเขาจะให้กิน “ยาลดความดัน” กับ “ยาลดคอเลสเตอรอล” ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต . และผลหลักๆ คือการชะลอภาวะ “หลอดเลือดแข็งตัว” หรือลดความเสี่ยงของการที่คุณจะ “ท่อตัน” จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ จนพิการหรือถึงแก่ความตายในที่สุด . นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็เน้นว่าคือการ “ชะลอ” เท่านั้น ยังไม่ใช่การ “รักษา” และที่เป็นแบบนี้ เพราะระบบสาธารณสุขไม่ว่าที่ใดในโลก ยังไม่มีต้นทุนพอที่จะจับคนทุกคนมาฉีดสีและทำ MRI เพื่อหาว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงไหนของร่างกาย . ผลก็คือ วิธีชะลอดังกล่าวก็เลยให้กินยาไปเรื่อยๆ แทน เพราะนั่นสมเหตุสมผลในเชิงงบประมาณมากกว่า ถ้าต้องจัดการกับ “กลุ่มเสี่ยง” จำนวนมากหลักล้านคน 7.ประเด็นคือ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเป็นภาวะที่แทบทุกคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่แก่ตัวไปยังไงก็เป็น ไม่ว่าจะด้วยอาหาร ด้วยวิถีชีวิต และด้วยอายุที่ยืนขึ้น . เรียกได้ว่าถ้า “ท่อยังไม่ตัน” เมื่อแก่ตัวไป ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่ภาวะ “ท่อกำลังจะตัน” . ดังนั้น ถ้าจะว่ากันในแง่หนึ่งแล้ว นี่คือ “โรคของทุกคน” ที่ในทางเทคนิค ในปัจจุบันยังไม่มี “ยารักษา” ใดๆ ที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ คนกินทีเดียวแล้วหายได้ 8.แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในชื่อเรื่อง ต่อไปนี้โรคหัวใจอาจเป็นแค่อดีต . เพราะเมื่อต้นปี 2020 ในขณะที่ชาวโลกกำลังตื่นตระหนกกับโรคระบาดใหม่อย่างโควิด-19 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ คือพวกเขาค้นพบอนุภาคนาโนที่จะ “คืนชีพ” ให้พวกเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กินคอเลสเตอรอลแล้วตายในผนังหลอดเลือด ให้ฟื้นขึ้นมากินพวกคอเลสเตอรอลและซากเซลล์ที่ตายไปแล้วในผนังหลอดเลือด . ผลก็คือ สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดจน “แข็งตัว” ก็จะค่อยๆ ลดลงไป และผนังหลอดเลือดก็จะเป็นปกติในที่สุด . หรือพูดให้มันง่ายกว่านั้น “อนุภาคนาโน” ก็คือ “น้ำยาล้างท่อ” ของ “ภาวะท่อตัน” ในหลอดเลือดนั่นเอง . เรียกได้ว่ามีอนุภาคนี้คือจบเลย เราไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า “ท่อตัน” ตรงไหน ฉีดเข้าไปในเลือด อนุภาคนี้จะค่อยๆ จัดการท่อที่ตันเอง ไม่ต่างจากที่คุณเทน้ำยาล้างท่อตอนต่อตัน คุณไม่ต้องรู้หรอกว่ามันตันตรงส่วนไหน น้ำยาจัดการให้หมด . และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเซปต์ลอยๆ เพราะขณะนี้ อนุภาคนี้ทดลองในหนูสำเร็จแล้ว และก็ไม่แปลกเลยที่อีกไม่นานก็น่าจะได้ทดลองในมนุษย์แน่ๆ . ถ้าสำเร็จ ถึงตอนนั้น คนที่ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิตก็อาจไม่ต้องกินกันอีกแล้ว . และถ้ามากไปกว่านั้น นี่อาจเป็นการบอกลาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับคนแทบทั้งหมดในโลกก็เป็นได้ อ้างอิง: ScienceDaily. Nanoparticle chomps away plaques that cause heart attacks. https://bit.ly/3dzPx9V NHI. Plaque-eating nanoparticles may help prevent heart attacks. https://bit.ly/3iTUNX2 #Nanoparticle Cr.BrandThinkไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยเศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬#เพื่อนบอกโปร - เศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬 . 🦠 สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่อินเดีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 300,000 คน ทำลายสถิติโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทำสถิติสูงสุดในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 64 จำนวน 346,786 คน . การระบาดหนักรุนแรงทำให้หลายประเทศทั่วโลก มีคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากประเทศอินเดียเดินทางเข้าประเทศเพื่อป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เล็ดลอดเข้าประเทศ . ในระหว่างนี้เศรษฐีอินเดียจึงพากันช่วงชิงโอกาสเดินทางไปยังประเทศที่ยังไม่มีมาตรการห้ามผู้เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนเศรษฐีอินเดียในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินโดยสารพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราคาตั๋วเครื่องบินเมื่อวันศุกร์ที่ 23 เม.ย. เที่ยวบินจากเมืองมุมไบไปยังดูไบ ราคาพุ่งขึ้น 10 เท่าตัว และราคาตั๋วจากกรุงนิวเดลีไปยังดูไบพุ่งขึ้น 5 เท่าตัว . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศระงับเที่ยวบินไปยังประเทศอินเดียตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. 64 . เที่ยวบินจากอินเดียไปยังดูไบในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. เต็มทุกเที่ยวบิน . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เครื่องบินเจ็ตเช่าเหมาลำก็บินออกจากอินเดียกันขวักไขว่ . “ลูกค้าส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดบินไปดูไบ แต่มีบางรายที่บินไปประเทศไทย” บริษัทบริการเครื่องบินเช่าเหมาลำรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี . 📲 แหล่งข่าว : https://bit.ly/3njqsVE ภาพจาก AP . #เพื่อนบอกข่าวโควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเขตพื้นที่สีแดงภายในจังหวัดเนื่องจากโควิด19จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศพื้นที่สีแดงภายในจังหวัด และขอความร่วมมืองดการเข้าออกพื้นที่สีแดงโควิด 2019nutyty_MJU• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินข้าวมื้อเย็นแล้วจะลดความอ้วนจริงหรือการกินข้าวตอนเย็นทำให้สามารถลดไขมันได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นมื้อใหญ่ก็ตามอาย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มปัสสาวะรักษาโรคได้ว่ากันว่า นี่คือเรื่องจริงซึ่งมีการระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ในสารานุกรมถูกตีพิมพ์ในประเทศเยอรมนีเมื่อปี 2390 การันตีถึงสูตรยาผสมน้ำปัสสาวะ สามารถใช้ทารักษาอาการผมร่วง ใช้หยอดตารักษาอาการเจ็บตา ใช้กลั้วคอแก้อาการเจ็บคอ ใช้ดื่มรักษาโรคดีซ่าน ฯลฯ ประจวบเหมาะกับความเชื่อของคนไทยแต่โบราณ ที่ยึดถือปฏิบัติในคนบางกลุ่ม เช่น การใช้ผ้าอ้อมชุบน้ำปัสสาวะเด็กแล้วกวาดลิ้นเด็กเพื่อแก้อาการฝ้าขาว, ใช้น้ำปัสสาวะทาหรือปัสสาวะรดบริเวณแผลที่ถูกแมลงต่อย เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนยาสมุนไพรมีมstd47625• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
