2210 ข้อความ
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักCHAME' Sye Sมีส่วนผสมอย่าง Chitosan ที่สกัดจากเห็ดเข็มทอง มาช่วยลดการดูดซึมแป้งและน้ำตาลในมื้ออาหาร มี Mango Juice Powder ที่ช่วยลดความอยากอาหารทำให้ไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน ทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันใหม่ ช่วยสลายไขมันชนิดไม่ดีจากร่างกายด้วยลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักDHC Diet Powerช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักจากแบรนด์ดังของญี่ปุ่น อย่าง DHC นั่นเองค่ะ ใครที่เป็นสาวกอาหารเสริมของแบรนด์นี้อยู่แล้วต้องไม่พลาดเลย โดยอาหารเสริมตัวนี้เค้าจะเน้นเรื่องการเผาผลาญไขมันเป็นหลักเลยค่ะ โดยมีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยในการลดน้ำหนักถึง 10 ชนิด ที่จะช่วยลดไขมันในร่างกายได้แบบเร่งด่วน เหมาะกับคนที่รักการกินอาหารประเภทมันๆ ทอดๆลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักVISTRA L-Carnitineตัว VISTRA L-Carnitine นี้ จะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกายเพื่อเปลี่ยนเป็นมวลกล้ามเนื้อ กระตุ้นการหลั่ง Growth Hormone ซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันใหม่และดึงไขมันเก่ามาใช้ ทั้งนี้ยังเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอีกด้วยนะคะ เพราะเค้าจะช่วยซ่อมแซมเซลล์กล้ามเนื้อที่บาดเจ็บหลังการออกกำลังกาย ช่วยลดอาการอ่อนล้าที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกายได้ด้วยลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักJEJUVITA XS Capsuleมีสารสกัดเด่นๆ อย่าง Chitosan ที่สกัดจากเห็ดเข็มทอง มาช่วยดักจับไขมัน ลดไขมันส่วนเกิน มีสารสกัด L-Carnitine L-Tartrate ที่มาช่วยเร่งการเผาผลาญ หยิบไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ดีสุดๆ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากชาเขียว สารสกัดจากมังคุด สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว และสารสกัดจากผลส้มแขก รวมถึงสารสกัดอีกหลากหลายชนิดใส่มาในแคปซูลเดียวอีกด้วย ถือว่าเป็นสารสกัดที่รวบรวมมาเพื่อช่วยกู้ร่างพังของเราให้ปังลดความอ้วนnattikasaunsawatsuga• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักโทษของยาลดน้ำหนักปัจจุบันโรคอ้วนเป็นปัญหาอย่างมากในประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งประเทศไทย โดยโรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น ดังนั้นโรคอ้วนจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษา ซึ่งการรักษาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การใช้ยารักษา และการผ่าตัด ในปัจจุบันพบว่าการนำยาลดความอ้วนไปใช้ในทางที่ผิดมีมากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากสื่อต่างๆ และการซื้อยาลดความอ้วนสามารถหาซื้อเองได้ง่าย โดยไม่ได้มีการแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา โดยจากการสำรวจของกองควบคุมวัตถุเสพติด พบว่ายาชุดลดความอ้วนมักจะประกอบไปด้วยยาหลายชนิดเพื่อช่วยเสริมผลในการลดน้ำหนัก ซึ่งจัดไว้เป็นชุดให้รับประทานเหมือนกันในแต่ละวัน โดยยาชุดลดความอ้วนจะประกอบไปด้วยยาประมาณ 1-7 รายการdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัย👉 คลิกที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ หากซื้อ 100 ชิ้น (ราคา 2.5 บาท/ชิ้น) จะได้รับ 50 ชิ้น อีก 50 ชิ้นบริจาคหน่วยงาน ... เทียบง่ายๆ ได้ทุนชิ้นละ 5 บาทค่ะ ... ดีกว่าไปซื้อกล่อง 8-900 ค่ะ สภาเภสัชกรรม เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมเภสัชกรรมการตลาด ( ประเทศไทย ) ร่วมสนับสนุนโครงการธนาคารหน้ากาก (Mask Bank) ของเภสัชกรหญิงสิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ หรือ เภสัชกรบิ๊นท์ นางสาวไทยปี 2562 และ Miss International 2019 และนางสาว ปรางพิสุทธิ์ แดงเดช หรือ ฟ้า นักเดินทางเจ้าของรายการท่องเที่ยว The Passion Thailand เพื่อให้หน้ากากอนามัยสามารถกระจายไปยังเภสัชกร,ร้านยา และประชาชนอย่างทั่วถึง www.maskbank.org #หน้ากาก2บาท50มีจริงส่งถึงบ้าน #ใช้1ให้1 #Get1Give1ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมปลอมมีคนขายครีมที่ทาแล้วปน้าขาวภายใน 7 วันStd47851• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขนหมา ขนแมว เข้าจมูกได้จริงหรือไม่ขนหมา ขนแมว เข้าจมูกได้จริงหรือไม่Up.to.you5796• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตร.เตือนภัยมิจฉาชีพปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ลวงว่าสามารถนำเงินกลับคืนมาได้วันที่ 27 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สอท.พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่าได้รับรายงานจากระบบศูนย์บริหารการแจ้งความออนไลน์ พบผู้เสียหายหลายรายแจ้งความออนไลน์ว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ การถูกหลอกลวงให้กู้เงิน การถูกหลอกลวงให้ลงทุน หรือการถูกหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายจึงได้ใช้คำว่า “ แจ้งความออนไลน์ ” เป็นคีย์เวิร์ด (Keyword) ในการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ค้นหา (Search Engine Site) ยอดนิยมต่างๆ เช่น Google.com, Bing.com เป็นต้นชุมพล ศรีสมบัติ• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย4 อาการรถดับกลางอากาศเมื่อรถดับกลางอากาศหรือขณะรอบเดินเบา จะมีแนวทางในการวิเคราะห์ได้หลายสาเหตุ แต่ต้นเหตุส่วนใหญ่มักจะมาจากระบบระบบน้ำมันเชื้อเพลิง, ระบบไอดี หรือระบบไฟชาร์จ แต่เราสามารถจำแนกลักษณะอาการที่รถดับกลางอากาศได้ 4 ลักษณะดังต่อไปนี้ ปัญหารถดับจากระบบไฟชาร์จ ปัญหาจากระบบไฟชาร์จ เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่พบได้บ่อยเมื่อรถกระตุกดับ โดยจะตรวจสอบง่ายๆจากสัญญาณไฟเตือนหน้าปัดรถเมื่อระบบไฟชาร์จมีปัญหา เช่น สัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่, สัญญาณไฟเตือนไฟชาร์จ, ไฟเตือนเครื่องยนต์ เป็นต้น รวมไปถึงเรายังสามารถตรวจสอบระบบไฟชาร์จได้ด้วยโวลต์มิเตอร์ ถ้าวัดไฟได้น้อยกว่า 12 โวลต์ หรือแอมป์มิเตอร์เมื่อวัดค่ากระแสได้น้อยๆล้อเลียนNontawattahom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมะเร็งกระเพาะอาหาร ไม่ติดต่อทางน้ำลายไม่ใช้ช้อนกลางเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารเพราะติดผ่านทางน้ำลาย ที่มีการแชร์ต่อหลายแห่งบนโลกออนไลน์จึงเป็นข้อมูล “เท็จ”std48921• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโดรนกระสือที่ด่านตำรวจกระแสพูดการถึงกระสือเกิดเริ่มต้นจากการรายงานข่าวเกี่ยวกับหญิงสาววัย 18 ปี จาก ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ที่กล่าวอ้างว่าได้เห็นวัตถุรูปร่างเหมือนคนแต่มีปีกบินอยู่และคิดว่าอาจจะเป็นกระหังตามความเชื่อโบราณ ก่อนที่ความสนใจถูกส่งต่อไปยัง นางนิภา ซุ่มปรึกษา ผู้อาศัยอยู่ใน อ.ชำนิเช่นเดียวกัน ซึ่งได้อ้างว่าตนเองเห็นกระหังและกระสือสู้กันในฝันมาเป็นเวลาหลายปี จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และล้อเลียนในหมู่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่ไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง วันที่ 12 ก.ค. ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Beaw Indy Smile ได้โพสต์วิดีโอของกล้องวงจรปิดที่ดูเหมือนมีภาพแสดงวัตถุลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับข้อความกึ่งเล่นกึ่งจริงว่า "กระสือวาเลนส์ไทส์....." ไปยังเพจ YouLike (คลิปเด็ด)ซึ่งคลิปดังกล่าวมีคนเข้าไปชมแล้วกว่า 2 ล้านครั้ง และมีเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าวัตถุที่ว่านี้น่าจะเป็นโดรนมากกว่าstd46355• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมะเร็งกระเพาะอาหารไม่ติดต่อทางน้ำลายมีการเผยแพร่ข้อมูลตามสื่อต่างๆ ว่า หากไม่ใช้ช้อนกลาง ระวังเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร เพราะติดผ่านทางน้ำลาย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ซึ่งให้ความรู้ว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลมะเร็งกระเพาะอาหารติดต่อได้ทางน้ำลายนั้น สาเหตุการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าเกิดจากเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารเจริญเติบโตผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ มีสาเหตุอาจมาจากการอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H.pylori) และมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังได้ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารประเภทรมควัน และอาหารหมักดอง เป็นต้น ดังนั้นมะเร็งกระเพาะอาหารจึงไม่สามารถติดต่อทางน้ำลายmeandyouxq• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาเพิ่มความสูงยาเพิ่มความสูง กลายเป็นอาหารเสริมยอดนิยม เมื่ออวดอ้างสรรพคุณว่า สามารถทำให้สูงได้ แม้จะอยู่ในช่วงหยุดสูงแล้ว ส่งผลให้คนร่างเล็ก หรือ คนที่อยากมีรูปร่างสูงโปร่ง ต่างหาซื้อกันมารับประทานอย่างแพร่หลายอยู่ช่วงหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ทำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. สั่งแบนห้ามขายยาเพิ่มความสูงเด็ดขาด ถึงแม้ว่า จะมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงหลายคน ที่ออกมารีวิวว่าได้ผลจริงก็ตามstd46461• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยTaylor Swift กำลังออกเดตกับนักร้องนำวง The 1975Taylor Swift กำลังออกเดตกับนักร้องนำวง The 1975มีมImyour Scarystranger• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสมุนไพรดีต่อสุขภาพรับประทานยาสมุนไพรเป็นประจำดีต่อสุขภาพstd47683• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุดในเรือดำน้ำไททัน นำลูกรูบิคลงใต้ทะเลด้วย หวังทำลายสถิติโลกมารดาของ สุเลมาน ดาวุด หนุ่มวัย 19 ปีที่เสียชีวิตในเรือดำน้ำไททัน เปิดใจเป็นครั้งแรกกับบีบีซีว่า ลูกชายของเธอได้นำลูกรูบิค (Rubik’s Cube) ลงไปใต้ทะเลลึกด้วย เพื่อหวังสร้างสถิติแก้ปริศนารูบิค ที่ความลึกที่สุดในโลก หนุ่มวัย 19 ปี ได้สมัครบันทึกสถิติโลกของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนบิดาของเขา ชาห์ซาดา ซึ่งเสียชีวิตในเรือดำน้ำไททันด้วยนั้น ได้นำกล้องไปบันทึกการทำลายสถิติของบุตรชายด้วย คริสทีน ดาวุด และบุตรสาว อยู่บนเรือโพลาร์ พรินส์ เรือแม่และเรือสนับสนุนการสำรวจซากไททานิคของ ไททัน พวกเธออยู่บนเรือด้วย ตอนที่ ได้รับแจ้งว่า ได้สูญเสียการติดต่อกับเรือดำน้ำไททัน “ตอนนั้น ฉันไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร... แต่หลังจากนั้น สถานการณ์มันเลวร้ายลงเร็วมาก” เธอกล่าว นางดาวุด ให้สัมภาษณ์พิเศษเป็นครั้งแรกกับบีบีซี เธอยอมรับว่า มีแผนจะลงไปในเรือดำน้ำไททันพร้อมกับสามีของเธอ เพื่อชมซากเรือไททานิค แต่ต้องยกเลิกแผน เพราะการระบาดของโรคโควิด-19Tunchanok Saetia• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแผ่นดินไหว7 ก.พ. 2566 20:36 น. สกู๊ปไทยรัฐ THE ISSUE ไทยรัฐออนไลน์ แผ่นดินไหวในอนาคต แรงสั่นอาจมากกว่า 10 ตรวจความพร้อมประเทศไทย ... แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ลึกประมาณ 17.9 กม. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ติดพรมแดนประเทศซีเรีย เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตรวมกันสองประเทศกว่า 5 พันศพ บาดเจ็บเกือบ 2 หมื่นราย ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในแอตแลนติกใต้ ในรอบ 1 ปี 5 เดือน จากการระบุของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ขณะที่องค์การอนามัยโลก คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก 8 เท่าผู้บริโภคเฝ้าระวังguamin216• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยฝีดากลิงฝีดากลิงคือไรโรคฝีดาษลิง โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Monnkeypox Virus) เริ่มมีข่าวถึงการแพร่ระบาดมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้หลายคนเริ่มมีข้อสงสัย และกังวลว่า โรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร คืออะไร สาเหตุโรคฝีดาษลิง เกิดจากอะไร อาการน่ากลัวไหม และมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน เรามาทำความรู้จักโรคฝีดาษลิงกันครับ โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Monnkeypox Virus) เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับโรคอีสุกอีใส หรือไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต อย่างไรก็ดีขณะนี้ (เดือนพฤษภาคม 2565) ยังไม่พบการติดเชื้อของโรคนี้ในประเทศไทย แต่ก็ถือเป็นกลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะฉะนั้นผู้ที่กลับจากแอฟริกา หรือสัมผัสกับสัตว์ป่าต่างถิ่น หากมีอาการดังกล่าว หรือพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์สุขภาพdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโฆษณาอาหารเสริม choco Mia ช่วยลดน้ำหนัและขับสารพิสในร่างกายกรณีชวนเชื่อขายผลิตภัณฑ์ช่วยลดน้ำหนัก และขับสารพิษในร่างกาย ไดจริงหรือลดความอ้วนDC 03 earth• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยค่ายมือถือไม่ลดค่าเน็ตจริงไหมแหล่งข่าวจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่สามารถลดค่าบริการ10-30% ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ให้ช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทำโปรโมชั่นในอัตราที่ถูกลงแล้ว โดยทรู ได้แจกซิมฟรี อาทิ สามัญประจำบ้านที่ลูกค้าสามารถรับได้ฟรี โดย 1 บัตรประชาชนสามารถรับได้ 1 ซิม ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา รวมถึงลูกค้าทรู มูฟ เอช สามารถใช้บริการไวไฟฟรีได้กว่า 400,000 จุดทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มทรูวีรูม สำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ เพื่อทำงานหรือเรียนจากที่บ้านโดยไม่เสียค่าบริการโควิด 2019supinya• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"ศาลโลก" รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 สงครามชีวภาพ ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 คือพญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด-19 มาจากฝีมือมนุษย์ สั่งทำโดย โดนัล ทรัมป์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ ของสหรัฐอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด-19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ หรือสงครามเชื้อโรค:- - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือ ทดลองในทหารส่งไปแพร่ระบาดในการแข่งขันกีฬาในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ลุกลามไปอิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม 2564 นายเกรก ก็ได้ ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวไวรัสเองแท้จริงแล้วคืออาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวี (HIV) ได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด-19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัดที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่มความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก! ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่าวัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆกับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่ามีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ (เกิดก่อนการระบาดที่อู่ฮั่น) - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าว ลี่เจียง ได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมากที่ทหารอเมริกาที่มาแข่งกีฬาทหาร นำเชื้อมาแพร่ที่เมืองอู่ฮั่น ในจีน >>>>สหรัฐอเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่เมืองอู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคนที่ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อ เขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด-19 ว่า เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหรัฐอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด-19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาดเท่านั้น แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ กรืออาวุธเชื้อโรค เหมือนไวรัสโรคไข้หวัดเสปน เมื่อ 100 ปีก่อนที่ทหารอเมริกานำไปแพร่ในเสปน >>>ความไร้ยางอายนี้ ทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่าสหรัฐอเมริกา เป็นฆาตกรผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพียงเพื่อจะขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิต กล่าวหาให้จีนรับเคราะห์แทนอย่าง น่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไป แล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัยที่นาย เกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไปอย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียมผลิตยาแก้ยาพิษนั้นๆไว้ก่อนเสมอ!!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆกับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***สหรัฐอเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขาคือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งมลรัฐนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 !! >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อโรคไวรัสโควิด-19 อย่างตั้งใจเพื่อทำลายล้างจีนและประชาชนทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัว และให้ความสาคัญในระดับสูง แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! https://youtu.be/Y04Qm8QVQXE ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์โควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยห้องคลอดทุกห้องต้องมีนาฬิกา อย่างน้อยหนึ่งเรือน ถ้ามีโอกาสเข้าไปสังเกตการณ์การคลอด คุณจะเห็นพยาบาลคนหนึ่งคอยเหลียวมองนาฬิกาเรือนนั้นทันทีที่ทารกคลอดออกมา เธอจะขานเวลาบนหน้าปัดตัวเลขชั่วโมง-นาทีจะไปปรากฏบนสูติบัตร ในช่องว่างหลังคำว่าเวลาคลอด และวันที่บนปฏิทินวันนั้นก็จะไปปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวอีกหลายใบในฐานะวันเกิด วันที่ชีวิตหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา ขณะพยาบาลขานเวลา แพทย์จะใช้ลูกยางสีแดง ดูดน้ำคร่ำ-ที่อาจค้างอยู่-ออกจากปากและจมูกของทารก หลังแน่ใจว่าทารกหายใจเองได้ แพทย์จะใช้แคลมป์สองตัวหนีบสายสะดือไว้ รับกรรไกรที่พยาบาลยื่นส่งให้ จากนั้นจึงใช้มันตัดลงไประหว่างแคลมป์ทั้งสองตัว ฉับ! เลือด 2-3 หยดกระเซ็นอาบคมกรรไกร เลือดไม่กี่หยดนั้นเอง คือหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่า ชีวิตก่อนการเกิดของพวกเรา มีอยู่จริง คนทั่วไปมักสับสนระหว่าง รก และสายสะดือ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งมาเป็นแพทย์ ผมจึงได้รู้ และได้เห็นว่า รกและสายสะดือนั้น มีรูปร่าง และหน้าที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด รกเป็นก้อนกลมๆ นุ่มๆ แบนๆ ดูคล้ายแผ่นพิซซ่า ขณะที่สายสะดือมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ คล้ายสปาเก็ตตี้ รกแปะอยู่ที่ด้านในผนังมดลูกของแม่ โดยมีสายสะดือ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ระหว่างรกและทารก ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองนึกถึงสารคดีวิทยาศาสตร์สักเรื่อง ที่นักบินอวกาศต้องลอยเคว้งคว้างอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก สภาพนั้นไม่ต่างกันนัก กับสภาพของทารกในครรภ์มารดา ขณะทารกน้อยลอยคว้างท่ามกลางน้ำคร่ำในโพรงมดลูก สายสะดือ คือสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเขาไว้กับยาน "แม่" ภายในสายสะดือคือ เส้นเลือดหลายเส้น ทารกจะได้รับสารอาหารจากแม่ผ่านเลือดที่ไหลเวียนในเส้นเลือดเหล่านี้ ขณะเดียวกันของเสียที่ทารกมี ก็จะถูกส่งผ่านเส้นเลือดเหล่านี้กลับไปยังแม่ของเขา และเข้าสู่ระบบกำจัดของเสียของแม่ต่อไป อาจพูดได้ว่า ช่วงหนึ่งในชีวิต เราทุกคนเคยดื่ม กิน ขับถ่าย และหายใจผ่านร่างกายแม่ของเรา คนทั่วไปอาจเรียกมันว่า สายสะดือ แต่สำหรับผมมันคือ "สายสัมพันธ์" สายสะดือคือ สิ่งยืนยันว่าชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นแล้วก่อนหน้าวันเกิดของเรา เป็นชีวิตที่แตกต่างจากที่เราเคยเข้าใจ เป็นชีวิตที่ประกอบด้วยสองหัวใจ กับหนึ่งสายสัมพันธ์ ในห้องคลอด ผมคือชายที่ถือกรรไกร คุณอาจรู้สึกว่า ผมคิดมากเกินไป แต่คุณรู้อะไรมั้ย กรรไกรในมือของผมกำลังจะเปลี่ยนชีวิตที่ปลายทั้งสองของสายสะดือ วินาทีที่ผมกดคมกรรไกร นั่นคือวินาทีแรกที่สองชีวิตต้องแยกจากกัน หลังจากนั้น ทารกน้อยจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะหายใจด้วยปอดของเขาเอง เรียนรู้ที่จะกินได้เองด้วยปากของเขา ขับถ่ายได้เองด้วยระบบขับถ่ายของเขา เขาจะค่อยๆ เติบใหญ่ มีความคิด มีการรับรู้ และมีการสร้างความเข้าใจโลกของตัวเองขึ้นมา เขาจะเริ่มงอแงเมื่อบางอย่างไม่ได้อย่างใจ เขาจะเริ่มหงุดหงิด เมื่อคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเขา เขาจะเริ่มพูดว่า แม่ไม่เคยเข้าใจผมหรอก เขาจะเริ่มบอกว่า แม่ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน และวันหนึ่งเมื่อเติบโตจนถึงวัย เขาก็จะจากแม่ของเขาไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมอยากมีชีวิตของตัวเอง มาคิดๆ ดู ทั้งหมดนี้อาจเริ่มมาจากวินาทีที่คมกรรไกร ถูกกดลงไปบนสายสะดือ จากกรรไกร สองชีวิตจึงจากกันไกล เมื่อชีวิตหนึ่งสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้ สายสัมพันธ์ก็ไม่ใช่สายสำคัญอีกต่อไป มันกลายเป็นสายที่ไร้ประโยชน์ กลายเป็นสาย ที่ไร้ความหมาย กลายเป็นสายที่เกินไป กลายเป็นสายเกินไป สิ่งที่ผมทำไม่ใช่แค่การตัดสายสะดือ คุณอาจรู้สึกว่าผมโทษตัวเองเกินไป แต่คุณรู้อะไรมั้ย หมออย่างผมนี่แหละที่เป็นคนทำลายหลักฐานว่าแม่และทารกเคยเป็นหนึ่งชีวิตเดียวกัน แน่นอน ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น แต่โลกภายนอกไม่ได้ต้องการสายสะดือเหมือนโลกในครรภ์ และด้วยเหตุนั้น แพทย์อย่างผมจึงมีหน้าที่ต้องกำจัดมันไป โดยทั่วไปผมจะตัดสายสะดือให้เหลือตอสั้น ๆ ประมาณ 2 เซนติเมตรจากหน้าท้องของทารก ตอนี้จะค่อยๆ แห้งและหลุดไปไม่กี่วันหลังจากนั้น สายสะดือส่วนที่เหลือจะถูกส่งไปกำจัดพร้อมกับเศษเนื้อเยื่อและชิ้นเนื้ออื่น ๆ ของโรงพยาบาล นับจากวันนั้น เรื่องราวของชีวิตก่อนการเกิด ก็กลายเป็นเพียงอดีตที่สูญหาย เป็นเพียงตำนานที่ไม่มีใครรู้ว่าเคยมีอยู่จริง สายสะดือก็เลยกลายเป็นเหมือนสายลับ สายลับที่คอยลักลอบส่งอากาศและอาหาร สายลับที่ทำงานโดยไม่เคยเรียกร้อง ต้องการอะไร สายลับที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าค่าตา เป็นสายเลือดที่น้อยคนนักจะตระหนักว่ามันเคยมีอยู่จริงๆ การคิดว่า อยู่ๆ ชีวิตก็เกิดขึ้นมาในวันเกิด อาจทำให้คุณพลาดความหมายบางอย่างของชีวิต เพราะความจริงแล้ว ชีวิตที่ไม่เคยถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อาจเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ ไม่มีช่วงเวลานั้น ไหนเลยจะมีคุณมานั่งอ่านบทความนี้ ผมเขียนบทความนี้เพื่อไถ่โทษให้กับการกระทำของตัวเอง ผมคือชายถือกรรไกร ผมทำลายหลักฐานทุกอย่างของชีวิตก่อนการเกิด ของใครหลายคน แน่นอน ผมไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่จะพิสูจน์สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ อย่างไรก็ดี ผมอยากให้คุณได้เห็นอะไรบางอย่าง ผมหวังว่ามันคงช่วยยืนยันสิ่งที่ผมเขียนมาได้บ้าง ขอเพียงคุณเปิดใจมากพอ เลิกชายเสื้อขึ้นดูสิครับ สิ่งที่ผมพูดถึงคือสิ่งที่อยู่กลางท้องของคุณ มองผ่านคราบขี้ไคลลงไป ลองใช้มือสัมผัสมันดูก็ได้ รู้สึกมั้ย นั่นแหละชีวิตก่อนการเกิดของคุณ ฉับ! สำหรับคนทั่วไปเสียงกรรไกรครั้งนั้น เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง แต่สำหรับใครคนหนึ่ง เสียงนั้นไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไรเลย เพราะหลังจากสายสัมพันธ์เส้นนั้นถูกตัดไป ใครคนนั้นก็ยังคงทำหน้าที่ส่งอาหาร จัดการเรื่องการขับถ่าย แม้กระทั่งดูแลเรื่องการหายใจให้กับใครอีกคนอย่างที่เธอเคยทำ เพียงแต่ครั้งนี้ เธอทำมันผ่านสายสัมพันธ์ทางใจ และเท่าที่ผมเห็นมา สายสัมพันธ์นี้ กรรไกรคมแค่ไหนก็ไม่สามารถตัดมันให้ขาดจากกันได้เลย ขอขอบคุณ นพ. คุณากร วรวรรณธนะชัย เจ้าของบทความ Dharma practices...ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปล้นครั้งประวัติศาสตร์! ทะลวงทุกระบบ “ขโมยเพชร” มหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์ “ขโมยเพชร” ที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมณีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัย ซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย แถมเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุม มีสัญญาณเตือนภัยแทบทุกระบบที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาติดตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน เซนเซอร์จับความร้อนจากร่างกายมนุษย์ เซนเซอร์จับแสง มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ตรวจจับแบบแม่เหล็ก ซึ่งทันทีที่ประตูนิรภัยหนา 1 ฟุตเปิดในเวลาที่ไม่ควรเปิด สัญญาณเตือนภัยจะแจ้งเหตุทันที รวมทั้งมีเครื่องกีดขวางยานพาหนะยุคไฮเทค มีกลไกบังคับให้หุบหายลงใต้ดิน และโผล่กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของมันได้ทุกเวลา ที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับแจ้งการก่อเหตุ ผู้ก่อการ “ขโมยเพชร” ก่อนหน้าเกิดคดีโจรกรรมเพชร 2 ปี คือในปี 2001 เชื่อว่าแผนปฏิบัติการการโจรกรรมได้เริ่มขึ้นอย่างแนบเนียนโดยชายวัยกลางคนชาวตูริน ประเทศอิตาลี ชื่อ ลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล ซึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ที่ตั้งของไดมอนด์ เซ็นเตอร์ ฉากหน้าเขาคือนักออกแบบเครื่องประดับ นักธุรกิจค้าเพชร เข้ามาเช่าออฟฟิศและตู้เซฟที่ไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เพื่อเปิดเป็นสำนักงานประกอบธุรกิจค้าเพชร ที่นี่นอกจากจะมีตู้เซฟให้เช่าแล้ว ยังมีห้องเพื่อใช้เป็นสำนักงานธุรกิจค้าอัญมณีของเหล่านักธุรกิจใช้เช่าอีกด้วย โนทาร์บาร์โทโลแฝงตัวเข้ามาเพื่อสำรวจเก็บรายละเอียดของสำนักงานนี้ เขาใช้เวลาเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งระบบความปลอดภัย กิจวัตรในแต่ละวันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนต่างๆ ของอาคาร และเส้นทาง โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ได้มา เขาใช้การจดจำ จากนั้นจะนำมาเขียนบันทึกในห้องทำงาน โนทาร์บาร์โทโลใช้เวลาร่วม 2 ปีแฝงตัวและเก็บข้อมูลในสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าโนทาร์บาร์โทโลคงไม่ปฏิบัติการเพียงลำพัง เขามีผู้ร่วมขบวนการอีกคือ เอลิโอ ดอโนริโอ ผู้เชี่ยวชาญสัญญาณเตือนภัย คนช่างคิดที่สามารถเอาชนะมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายระบบ เฟอร์ดนานโด ฟิน็อตโต อาชญากรมืออาชีพมากประสบการณ์ และ ปิเอโตร ทาวาโน เพื่อนเก่าแก่ที่โนทาร์บาร์โทโลไว้ใจ โนทาร์บาร์โทโลเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เขาเก็บข้อมูลมาให้ผู้ร่วมก่อการฟังอย่างละเอียด รวมทั้งร่วมวางแผนกันภายในร้านกาแฟนในตูรินเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต พวกเขาใช้เวลาเตรียมการรวม 27 เดือน นานกว่าระยะเวลาในหนังโจรกรรมแบบฮอลลีวูด ที่มักเล่าว่าสมาชิกแก๊งใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ปฏิบัติการ “ขโมยเพชร” ครั้งประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ไล่เลี่ยกับช่วงวันวาเลนไทน์ ช่วงวันหยุด ไดมอนด์ เซนเตอร์ แห่งนี้หยุดทำการ ไม่มีการเปิดห้องนิรภัยและตู้เซฟทุกกรณี หากเปิดนอกเวลาทำการเช่นนี้สัญญาณเตือนภัยจะทำงานทันที แต่โนทาร์บาร์โทโลกลับเลือกใช้เวลานี้ปฏิบัติการ เนื่องจากปลอดคนและมีเวลาให้ปฏิบัติการได้มาก การเจาะระบบป้องกัน (โดยคร่าว) ด้วยระบบป้องกันภัยที่ทันสมัยและแน่นหนามาก การเจาะเข้าไปในตู้เซฟจึงต้องผ่านระบบป้องกันหลายด่าน ทั้งการใส่รหัสผ่าน ล็อกกุญแจ เซนเซอร์สนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจจับความร้อน เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเซนเซอร์แสง รายละเอียดมีข้อปลีกย่อยมากมาย ข้อมูลในที่นี้บอกเล่าอย่างคร่าวๆ โดยส่วนหนึ่งมาจากหลักฐานและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เชี่ยวชาญ โนทาร์บาร์โทโลและพวกจำเป็นต้องกำจัดอุปสรรคทีละด่าน ซึ่งผ่านการจำลองสถานการณ์ซักซ้อมมาอย่างดี พวกเขาเริ่มแผนการในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ทาวาโนทำหน้าที่เฝ้าติดตามฟังวิทยุสื่อสารของตำรวจ ทราบความเคลื่อนไหวของตำรวจจากวิทยุสื่อสาร เขาทำหน้าที่อยู่ที่ห้องพักของโนทาร์บาร์โทโล ส่วนโนทาร์บาร์โทโลกับพวกอีก 2 คน สวมถุงมือยาง ขับรถผ่านป้อมตำรวจ ประตูชั้นจอดรถเปิดขึ้น เขาหยุดรถชิดขอบทาง แต่ละคนพาดถุงบนไหล่ มุดผ่านใต้ขอบประตูม้วน พวกเขาใช้กุญแจดอกพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อไขกุญแจประตูทางเข้า เดินลงบันไดถึงหน้าห้องนิรภัย ดอโนริโอใช้แผ่นเหล็กรูปตัวทีประกบแท่งแม่เหล็กทั้งสองที่ติดอยู่บานประตูและขอบประตูด้วยเทปกาวสองหน้า แล้วดึงมันหลุดออกมาโดยแท่งแม่เหล็กไม่แยกจากกัน สัญญาณแจ้งเตือนจึงไม่ดังขึ้น ช่วยให้เปิดห้องนิรภัยกว้างระดับหนึ่ง และสามารถแทรกตัวเข้าไปได้โดยปลอดสัญญาณแจ้งเตือน ตำรวจเชื่อว่าดอโนริโอติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อใช้บันทึกการหมุนรหัสประตูห้องนิรภัย แต่ทฤษฎีของตำรวจมีผู้แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีอุปกรณ์บังรอบตัวหมุนรหัส ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเลข ข้อสันนิษฐานอื่นก็คือ โนทาร์บาร์โทโลอาจได้รหัสมาโดยวิธีอื่น หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจคือ ประตูห้องนิรภัยนี้ไม่เคลียร์รหัสให้เอง หากเปิดแล้วต้องหมุนเคลียร์รหัสเอง ทั้งนี้ผู้ดูแลอาจลืมหรือขี้เกียจเคลียร์รหัส (เก่า) ทำให้รหัสคาอยู่ที่เดิม เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้กุญแจเพียงดอกเดียวเปิดประตูนิรภัยได้ ภายหลังตำรวจสรุปว่าคนร้ายใช้ชะแลงยาว 2 ฟุต งัดประตูห้องเก็บของ เพราะกุญแจที่ทำมาใช้การไม่ได้ (เสียงน่าจะดังมาก แต่ไม่มีสัญญาณเตือนภัย เนื่องจากในพื้นที่ไม่ได้ใช้การตรวจจับเสียง เพราะมองว่า หากมีคนทำของตก สัญญาณย่อมดังขึ้นทุกครั้ง) แต่ในห้องเก็บของมีกุญแจประตูนิรภัย จึงสามารถเปิดห้องนิรภัยได้ ข้างในห้องมืดสนิท และมีเครื่องตรวจจับแสงทำงานอยู่ พวกเขาใช้เทปกาว 2-3 ชิ้นปิดเซนเซอร์แสง แล้วทำการเปิดไฟ ด่านต่อมาคือเซนเซอร์ตรวจจับความร้อน พวกเขาเอาชนะมันด้วยการใช้สเปรย์ตกแต่งทรงผมฉีดใส่เครื่องจนทำให้เครื่องรวนไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวพวกเขาใช้แผ่นโฟมวางทับตัวเซ็นเซอร์ไม่ให้มันทำงาน ด่านสุดท้ายคือเปิดประตูตู้เซฟ พวกเขาประกอบอุปกรณ์ดึงฝาตู้เซฟที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ซึ่งแยกชิ้นส่วนใส่กระเป๋ามา และนำมาประกอบกันตรงกลางห้องนิรภัย เมื่อประกอบเสร็จพวกเขาก็ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดตู้เซฟได้ หลังจากจัดการกับอุปสรรคแต่ละด่านเรียบร้อยแล้ว โนทาร์บาร์โทโลและพวกได้แบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งเปิดตู้เซฟให้เร็วที่สุด อีกสองคนทำหน้าที่แยกของมีค่า ทั้งเพชร นาฬิกา เครื่องประดับ และเงินสด แยกใส่ถุงอย่างละถุง โนทาร์บาร์โทโลเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาอะไรกลับไป และจะปล่อยสิ่งของอะไรไว้บ้างโดยประเมินจากมูลค่าของแต่ละชิ้น โดยรวมแล้วพวกเขาเปิดตู้เซฟได้ 109 ตู้ จาก 189 ตู้ เชื่อกันว่าทรัพย์สินที่กลุ่มนักโจรกรรมกวาดไปได้มีมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตัวเลขมูลค่าของทรัพย์สินที่หายไปยังเป็นที่ถกเถียง จากปากของกลุ่มผู้ก่อการอ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่พวกเขาฉกไปอยู่แค่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอ้างว่าการโจรกรรมเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ใหญ่กว่าเพื่อเคลมเงินประกัน) ขณะที่การออกจากสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องขนสมบัติที่หนักกลับไปพร้อมกับเครื่องมืออุปกรณ์ เดิมทีแล้ว “แก๊งตูริน” นี้จะเก็บทุกอย่างกลับไปเพื่อไม่ให้ตำรวจเก็บหลักฐาน แต่ครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งอุปกรณ์ โดยเช็ดถูให้สะอาดลบร่องรอยอื่นก่อน การหิ้วถุงเพชรขึ้นบันไดขณะออกจากสถานที่เกิดเหตุหลังจากคนดูต้นทางรายงานว่าปลอดโปร่งแล้วก็ต้องหิ้วถุงโดยก้าวอย่างระมัดระวังมากที่สุด ถุงเพชรอย่างเดียวก็หนักเข้าไปถึง 44 ปอนด์ (ราว 20 กิโลกรัม) ขณะที่แบกขึ้นไป คนร้ายอีกรายใช้กุญแจปลอมเข้าไปเปิดประตูห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย เอาเทปบันทึกภาพการก่อเหตุออกจากเครื่อง และใส่เทปเปล่าไปแทน เขายังมองหาเทปเก่าโดยเลือกช่วงเดือนที่ผ่านมาอีก 4 ม้วน เป็นเทปบันทึกภาพช่วงที่สมาชิกเข้ามาทำลายระบบเตือนภัยแม่เหล็กไปด้วย เมื่อคนดูต้นทางแจ้งว่าปลอดภัย พวกเขาก็ออกมาใส่ของที่ท้ายรถที่มาจอดเทียบชิดขอบทาง พวกเขานั่งเบียดกันในรถและขับหายไปตามถนน โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX /AFP) เรื่องเล็กในการ “ขโมยเพชร” ที่พลาดมหันต์ แม้พวกเขาจะทำการสำเร็จ แต่ปัญหาของพวกเขาคือการกำจัดขยะที่เป็นร่องรอยจากปฏิบัติการทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วนักโจรกรรมอัจฉริยะระดับโลกต้องถึงจุดจบ โดยมีหลักฐานคือ “ถุงขยะ” หลังจาก “ขโมยเพชร” แล้ว พวกคนร้ายขับรถซึ่งมีถุงขยะอันบรรจุอุปกรณ์และสิ่งของที่เหลือใช้จากปฏิบัติการเต็มรถไปตามไฮเวย์ด้วยความกระวนกระวาย จนเลือกทิ้งถุงขยะโดยเร็วที่สุดเมื่อออกจากเมือง เลี่ยงความเสี่ยงโดนตำรวจเรียกจอดหากละเมิดกฎจราจร การทิ้งขยะตามสถานที่ส่วนบุคคลหรือเอกชนก็เป็นเรื่องเสี่ยง เพราะเจ้าของกิจการในเบลเยียมจริงจังกับการใช้ถังขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลายแห่งล็อกฝาถัง หรือติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณถังขยะ ปั๊มน้ำมันบนไฮเวย์แทบทุกแห่งมีป้ายห้ามทิ้งสิ่งของส่วนตัว ขณะที่การเผาถุงก็ย่อมมีควันไฟที่เรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ไฮเวย์ ในถุงพวกนี้มีถุงขยะที่ยัดถุงจากร้านค้าซึ่งดันมีใบเสร็จ ซองเอกสาร และเอกสารอื่นจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ และเลือกทิ้งข้างทางหลวงตรงถนนทางเข้าป่าฟลอร์ดัมบอส แต่แล้วดันมีผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินละแวกนั้นที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมาพบถุงขยะ และคู่สามีภรรยาคือกลุ่มที่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ (แม้แต่คำถามว่า ใครกันแน่ที่รู้ว่าถุงขยะเกี่ยวกับการโจรกรรมที่เป็นข่าวดังเวลานั้น และออกไอเดียให้โทรศัพท์หาตำรวจ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่า สรุปแล้วเป็นสามีคือออกุสต์ ฟาน ดัมป์ หรือภรรยาของเขากันแน่) ถุงที่ฟาน ดัมป์ พบคือหลักฐานสำคัญที่ทางการแกะรอยได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด ทำให้ผู้ก่อการทั้ง 4 คนถูกจับในที่สุด โดยเฉพาะใบเสร็จที่เมื่อตำรวจนำไปสอบถามกับแคชเชียร์ พนักงานจำได้ทันที และให้รูปพรรณกับตำรวจซึ่งเชื่อว่าเป็นดอโนริโอ และฟิน็อตโต ขณะที่ตำรวจเบลเยียมส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยให้ตำรวจสากล โนทาร์บาร์โทโลและพวกยังฉลองความสำเร็จ และกำลังเดินทางหลบหนี แต่เหลือสิ่งที่เขาต้องทำคือทำลายร่องรอยที่เหลือในแอนต์เวิร์ป อีกทั้งคืนรถเช่า และทำความสะอาดห้องพักซึ่งจากมาอย่างรีบร้อน และยังต้องรูดบัตรผ่านเข้า-ออกไดมอนด์ เซ็นเตอร์ เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นหลักฐาน เพราะตำรวจจะต้องตรวจสอบว่าผู้เช่ารายใดที่หายไปเลยหลังเกิดเหตุ เมื่อตำรวจตรวจสอบหลักฐานการเข้า-ออกของโนทาร์บาร์โทโล ก็พบว่าเขาอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากอาคารก่อนวันเกิดเหตุ จึงนำภาพวิดีโอหลายชั่วโมงมาดู แล้วพบว่า หนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนเข้า-ออกห้องนิรภัยทุกวันตลอดสัปดาห์ก่อนหน้าเกิดเหตุ ตำรวจเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรม โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่พาดพิงมาถึงเขา แม้ว่าในข่าวจะมีเรื่องพบถุงขยะแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่า เพื่อนร่วมงานฉีกใบจ้างงานติดตั้งกล้องที่ออฟฟิศของเขาแล้วโยนลงถังขยะในครัว ไม่รู้ว่าตำรวจค้นออฟฟิศและตู้เซฟของเขา การกลับที่เกิดเหตุย่อมเหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่โนทาร์บาร์โทโลมั่นใจ และความมั่นใจนั่นเองทำให้เขาโดนรวบตัว ทันทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบูธด้านหน้าเห็นเขาก็คว้าโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่โดยพลัน ช่วงแรกเขายังคิดว่าตำรวจไม่มีหลักฐานพอ และยังเป็นเพียงพยาน แถมยังตีบทงง ไม่เข้าใจว่าควบคุมตัวผู้บริสุทธิ์อย่างเขาทำไม โนทาร์บาร์โทโลมีคำตอบให้ทุกคำถาม แต่ท้ายที่สุดก็จนกับหลักฐานหลายอย่าง ทั้งดีเอ็นเอบนแซนด์วิชไส้กรอกที่โนทาร์บาร์โทโลทำกินเอง แต่กินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งโยนทิ้งถังขยะในครัวขณะเตรียมขนของหนีไปอิตาลี และมันไปโผล่ในถังขยะใกล้ป่าฟลอร์ดัมบอส และยังพบดีเอ็นเอของผู้ร่วมก่อการอีกหลายจุดที่เชื่อมเข้ากับหลักฐานการโจรกรรม แม้ว่าคนร้ายจะถูกจับกุมได้ แต่เพชรที่ถูกปล้นก็ไม่ได้กลับคืนสู่เจ้าของ เพราะไม่มีคนร้ายคนไหนบอกถึงที่อยู่ของเพชรที่ปล้นมา ช่วงที่โนทาร์บาร์โทโลอยู่ในคุกยังให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารไวร์ด (Wired) ว่า การปล้นทั้งหมดเกิดจากแผนที่ผู้เช่าตู้เซฟซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรชาวยิวหวังใช้เรียกค่าประกันจากไดมอนด์ เซ็นเตอร์ โดยที่พวกเขาซึ่งมีผู้เช่าตู้เซฟร่วมแผนการด้วยประมาณ 50-60 ราย จะไม่เอาเพชรหรือของมีค่าใส่ไว้ในตู้เซฟ และวางแผนการปล้นโดยจำลองห้องนิรภัยขึ้นมา แล้วเข้าปล้น เขายังกล่าวต่ออีกว่าแผนการครั้งนี้โดนพ่อค้าเพชรชาวยิวหักหลัง แต่มีหลายคนวิเคราะห์ว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องโกหกของโนทาร์บาร์โทโล เพราะสิ่งที่เขาเล่าย้อนแย้งอย่างมาก อีกทั้งเรื่องที่มีผู้เช่าตู้เซฟวางแผนร่วมกันนั้น ผู้เช่าตู้เซฟเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้น การที่โนทาร์บาร์โทโลให้สัมภาษณ์เช่นนี้ก็เพื่อโยนความผิดให้กับผู้อื่นหรือปกปิดข้อมูลและร่องรอย โนทาร์บาร์โทโลยังต้องการให้นำเรื่องราวของเขาไปทำภาพยนตร์ เพราะเขาหวังส่วนแบ่งรายได้จากสิทธิ์ของข้อมูลเพื่อนำไปใช้อย่างสบายหลังออกจากคุก อีกทั้งเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกกฎหมาย และใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้โดยอ้างแหล่งที่มาของเงินจากส่วนแบ่งการนำเรื่องราวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ (ทั้งที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีวันเผยเรื่องจริง) ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี และรับโทษติดคุก เขาก็ยังไม่ได้บอกที่ซ่อนอัญมณีและแผนการปล้น เขากับพวกอีก 3 คน ถูกปล่อยตัวก่อนกำหนด และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินคดีจนถึงที่สุดแล้ว คดีนี้จึงจบลง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับคดีให้ความเห็นเมื่อปี 2009 ว่า แม้แต่โนทาร์บาร์โทโลนำเพชรหรือทรัพย์สินที่ปล้นมาขายก็อาจไม่สามารถแจ้งจับได้อีก เพราะไม่สามารถฟ้องซ้ำคดีที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาด นอกเหนือจากมีหลักฐานใหม่ แต่สิ่งที่ทำได้เบื้องต้นคือแค่ยึดเป็นของกลางไว้ และอาจดำเนินคดีในอิตาลีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่กลุ่มเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปก็ไม่หวังกันแล้วว่าจะได้ของกลับคืน คนในแวดวงเพชรยังรู้สึกโกรธกับบทสรุป เมื่อพวกคนร้ายติดคุกไม่นาน ทรัพย์สินก็ไม่สามารถติดตามกลับมาได้ ที่สำคัญบทสรุปของเรื่องนี้ยังออกมาว่าการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามคนร้ายและดำเนินคดี แลกมากับการจองจำผู้ก่อเหตุเพียงไม่กี่ปี และยังพิสูจน์อีกว่า ความเสี่ยง ความยากลำบาก การถูกจับและจองจำ อาจคุ้มค่ากับชีวิตหลังผ่านคดี เมื่อพวกที่ก่อการอาจใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างราบรื่นและสุขสบายจากสิ่งที่ได้จากการโจรกรรมมีม เสียดสีputilp148• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัสเซีย : ศูนย์ต้านข่าวปลอมของฮ่องกงระบุ ปูตินไม่ได้อัญเชิญ "พระบรมฉายาลักษณ์" ร.9โครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงแห่งศูนย์สื่อมวลชนศึกษาและวารสารศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง (HKU Journalism) ชี้ว่าภาพประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียอัญเชิญ "พระบรมฉายาลักษณ์" ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แชร์กันทางโลกโซเชียลของไทยเมื่อปลายเดือน ก.พ.ข่าวการเมืองeardoil• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ