1435 ข้อความ
- 1 คนสงสัยปลุกกระแส “เกลียดกลัวอิสลาม”ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนที่ยุยงให้เกิดความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ถูกนำมาใช้โจมตีทางการเมืองเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่านักการเมืองหรือพรรคการเมืองนั้นให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “ขบวนการกลืนชาติ” ที่บ่อนทำลายพระพุทธศาสนาเพื่อให้ไทยกลายเป็น “รัฐอิสลาม” ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเท็จที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภรรยา นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จที่ไหลเวียนอยู่ในโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันสนทนามาไม่ต่ำกว่า 7 ปี แต่ถูกนำกลับมาเผยแพร่ซ้ำในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งข่าวการเมืองภาคใต้ เสียดสีstd47625• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 3 คนสงสัยดื่มปัสสาวะรักษาโรคแปลกแต่จริง สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมายาวนาน และมีการเปิดเผย แสดงตัวชัดเจนกับ "วัฒนธรรมการดื่มน้ำฉี่ หรือปัสสาวะของตัวเอง" ถึงแม้คนหลายกลุ่มจะรู้สึก "ไม่เห็นด้วย" เพราะเหตุผลนานัปการ แต่คนที่ "ยึดถือปฏิบัติ" ก็ยังดื่มอย่างต่อเนื่องด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จนกระทั่งล่าสุด มีร้านก๋วยเตี๋ยวเผยสูตรเด็ด นำปัสสาวะมาผสมลงในหม้อน้ำซุปอ้างว่าทำให้สุขภาพแข็งแรงรักษาโรคได้std46411• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยวัคซีนวัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนพิษสุนัขบ้าวัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไวรัสเรบีpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือฆ่าโควิด-19 ได้ !ว่าการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือ น้ำสมุนไพร และน้ำมะนาว สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19std47719• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากพัสดุไปรษณีย์ไทยได้แจ้งขอให้ทุกท่านที่ได้รับจดหมาย หรือพัสดุไปรษณีย์ ให้ใส่ถุงไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเปิด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าบ้าน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วนั้น ไปรษณีย์ไทยแจ้งว่า ไม่เป็นความจริง และทางไปรษณีย์ไทยได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรค COVID-19 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงาน สถานที่ รวมถึง การดูแลความสะอาดไปรษณียภัณฑ์ทุกชิ้น พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อรถขนส่งไปรษณีย์ทุกคัน เป็นต้นSanem Ntch• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยืนตากแดด ฆ่าโควิด-19 ได้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการนำมาแชร์ซ้ำก็คือ การยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งความร้อนจากแสงแดดนั้นมีความร้อนไม่ถึงระดับนี้แน่นอน ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดก็ไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้เช่นกันstd46771• 2 ปีที่แล้ว
- 22 คนสงสัยชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Test สามารถใช้ตรวจเองได้ !จากที่มีการนำชุดตรวจโควิด-19 แบบ Rapid Test มาขายออนไลน์ และระบุว่าประชาชนสามารถซื้อมาตรวจเองได้เลย จริง ๆ แล้ว กระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุญาตให้ขายชุดตรวจเร็วในช่องทางออนไลน์ เพราะชุดตรวจ Rapid Test เป็นการตรวจว่ามีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งต้องตรวจและแปลผลโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เพราะหากแปลผลผิด ก็จะทำให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่รู้ตัวแพร่เชื้อไปถึงผู้อื่นได้โควิด 2019dogney077• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยJuvelook คืออะไร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานกี่เดือน?Juvelook ฉีดผิวสวยฉ๋ำวาว ตามสไตล์สาวเกาหลี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระตุ้นคอลลาเจน ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำความสวยความงามอย. เพิกถอนborforiam• 5 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ ความเชื่อที่บอกว่าการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยให้สิวหาย ?“จริงหรือไม่ ความเชื่อที่บอกว่าการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยให้สิวหาย ?” สิว เป็นหนึ่งในปัญหาผิวพรรณที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้หญิงวัยหนุ่มสาว หลายคนจึงมองหาทางออกในการรักษาสิวให้หายขาด หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงกันมาก คือ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งเชื่อกันว่านอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังสามารถช่วยลดปัญหาสิวได้อีกด้วย (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=62) • จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านขายยาเภสัชกรอิ่ม จ.มหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า “การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดสามารถใช้เพื่อรักษาสิวได้หรือไม่ ถ้าตอบโดยทั่วไปคือ จริง เพราะการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวมีส่วนช่วยในการควบคุมไม่ให้ฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) ที่ส่งผลทำให้เกิดการผลิตความมันบนผิวหนังมากขึ้น ยาเม็ดคุมกำเนิดจะทำให้ปริมาณของฮอร์โมนเพศชายลดลง ในส่วนของการติดเชื้อและการอุดตันของเซลล์ผิวอาจจะต้องมีการใช้ยาอย่างอื่นร่วมด้วย” ทั้งนี้ เภสัชกร ณภัทร ได้ให้ข้อแนะนำในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิวเพิ่มเติมว่า “โดยตามหลักแล้วเราไม่ได้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวในการรักษาสิว ยาเม็ดคุมกำเนิดจะเหมาะกับคนที่ใช้ยาทามาสักระยะแล้วยังรู้สึกว่ายังไม่ได้ผลเท่าที่ควร แล้วเราค่อยนำยาเม็ดคุมกำเนิดไปเสริมเพื่อช่วยในการรักษาสิวได้” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567) • ดังนั้นการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดรักษาสิวควรที่จะเช็คตนเองก่อนว่ามีโรคประจำตัว หรือมีข้อห้ามในการรับประทานยาอะไรหรือไม่ เช่น ถ้าเป็นคนที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม หรือ โรคประจำตัวบางอย่างที่อาจจะไม่ได้ถึงกับเป็นข้อห้ามแต่ควรที่จะระมัดระวังมากขึ้น เช่น โรคความดันหรือโรคไขมันสูง ควรจะต้องตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดและปรึกษากับทางแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามล้อเลียนแอคปลอมAirada Netchinpukdee• 10 เดือนที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน…สิงคโปร์ตัดสินใจวันนี้…กลับมา”ปิดเมืองปิดประเทศ”อีกครั้ง จริงหรือไม่ด่วน…สิงคโปร์ตัดสินใจวันนี้…กลับมา”ปิดเมืองปิดประเทศ”อีกครั้ง (ไม่กล้าเสี่ยงอีกต่อไป) ไฟเซอร์ 2 เข็ม 82% ของพลเมืองช่วยไม่ได้ หลังจาก”ทดลองเปิด”อยู่ 3 สัปดาห์ Infection Rate พุ่งทะยานจาก 3 คนต่อวัน เป็น 1,650 คนต่อวัน - กลับมา Work from Home 100% นักเรียนต้องเรียน On Line 100% ร้านอาหารนั่งได้เเค่ 2 คน ต่อ 1 โต๊ะ บ้าน ไม่ให้อยู่เกิน 2 คน นักธุรกิจจะเข้าประเทศยากมากเเล้ว ตอนนี้ รัฐบาลบอกว่า “ชีวิตคนมีค่ากว่าเศรษฐกิจเเละเงินทอง”Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศบค. กำลัง misinformation ประชาชน กรณี วัคซีน Sinovac หรือไม่การที่เพจ ศบค./ไทยรู้สู้โควิด โพสต์ข่าว WHO รับรอง Sinovac ให้ใช้ฉุกเฉินได้ แต่กลับไปอ้างตัวเลข % ประสิทธิภาพที่ไม่มีอยู่ในต้นทางดังกล่าวมาโพสต์ (แถมแคปภาพให้ไม่ติด ตัวเลขประสิทธิภาพ 51% ในเอกสาร) ถือว่าเป็น misinformation แบบหนึ่งหรือไม่ ?วัคซีนโควิดWhee Pongpiphat• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--start4 ความเห็น
- 1 คนสงสัย'ถั่งเช่า กินแล้วเสี่ยง' ไตวาย จริงไหม ? เปิดมุมมองแพทย์แผนจีนถั่วเช่า ได้มีการอวดอ้างถึงสรรพคุณที่เกินจริง จนมีผู้ผู้คนตกเป็นเหยื่อการตลาดของบรรดาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผสมถั่วเช่า นำมาสู่การตรวจค้นตรวจสอบและดำเนินคดี จากกระแสการตรวจสอบโฆษณาเกินจริงยาสมุนไพรPYU 3• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพระเจ้าอัลเฟรอเป็นกษัตริย์องค์แรกของอังกฤษหรือไม่พระเจ้าอัลเฟรด มหาราชทรงขึ้นปกครองอังกฤษใน ค.ศ.871และขับไล่พวกแดนมาร์กออกไปในปี ค.ศ. 871และรวบรวมแผ่นดินอังกฤษให้เป็นปึกแผ่นจริงหรือไม่?Konpapha Thainukun• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#ฐานทัพสหรัฐ ในไทย ฉบับอ่านง่าย คุณ @Don Plooksawasd เขียนบทความน่าสนใจมาให้อ่านกันเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ส่งกันตามไลน์ว่าประเทศไทยกำลังจะได้อเมริกามาตั้งฐานทัพแล้ว หลังจากเอาฮากันไปแล้ว บทความนี้จะมาดูกันแบบจริงจังว่าที่ลือ ๆ กันนั้นมันมีมูลความจริงแค่ไหน ---------------- TLDR สำหรับโควต้า 7 บรรทัด: โอกาสในปัจจุบันยังต่ำมาก เพราะจากประวัติศาสตร์แล้วการที่ไทยจะเชิญสหรัฐฯมาตั้งฐานทัพมีปัจจัยหลัก 3 ประการคือ 1. ทั้งสองประเทศต้องเห็นภัยคุกคามร่วมกัน 2. ภัยคุกคามนั้นสูงจนรัฐไทยมองว่าอาจเป็นภัยต่อสถาบันหลักชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์ 3. ทางสหรัฐฯต้องมองเห็นประโยชน์ในแง่ภูมิศาสตร์และยุทธศาสตร์ของการมาตั้งฐานทัพในไทยด้วย ปัจจัยเหล่านี้เป็นจริงในยุคสงครามเวียดนาม แต่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนเป็นก้าวไกลหรือรัฐบาลจากพรรคประชาธิปไตยอื่นก็ตาม ---------------- แรกเริ่มฐานทัพสหรัฐฯในไทย ไทยเชิญสหรัฐฯมาตั้งฐานทัพในช่วงปี 1961 สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มองการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์และแนวคิดเศรษฐกิจคอมมิวนิสต์ว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประกอบกับสหรัฐฯในยุคนั้นดำเนินนโยบายให้การสนับสนุนประเทศที่ถูกคุกคามจากภัยคอมมิวนิสต์ ฐานทัพสหรัฐฯแห่งแรกในไทยคือดอนเมือง จากนั้นเพื่อรองรับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯในเวียดนามก็ผุดฐานทัพใหม่ๆ ในภาคอีสานเพื่อรองรับการภารกิจต่าง ๆ เช่นการสอดแนมและทิ้งระเบิด ซึ่งเที่ยวบินกว่า 80% บินออกจากฐานในไทย ฐานทัพที่สหรัฐฯใช้ปฎิบัติการทั้ง 7 ฐานถือว่าเป็นของรัฐบาลไทย ผู้บัญชาการฐานทัพเป็นนายทหารไทย แต่สหรัฐฯให้เงินสนับสนุนด้านต่างๆ รวมถึงการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม นอกจากตั้งฐานทัพตามคำเชิญแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯยังวางรากฐานในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันหลักของชาติในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ เช่นการจัดตั้งตำรวจตระเวณชายแดน, การให้ความสนับสนุนสถาบันศาสนาผ่าน Asia Foundation, รวมถึงความสัมพันธุ์อันดีเยี่ยมระหว่างราชวงศ์ไทยและสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากการมาเยือนในระดับประธานาธิบดีจากทั้ง Johnson และ Nixon ยังมีการเสด็จเยี่ยมทหารสหรัฐฯในไทยจากทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินินาถ ---------------- ปิดม่าน ความทรหดในสนามรบของเวียดนามเหนือบวกกับกระแสต่อต้านสงครามเวียดนามที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้หลังจากการลงนามสัญญาปารีสในปี 1973 แล้วรัฐบาล Nixon เริ่มลดกำลังทหารในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงในไทยลง ซึ่งสอดคล้องพอดีกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยที่เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516(1973) ขับไล่รัฐบาลจอมพล ถนอม พร้อมกับแสดงถึงความไม่พอใจขอสาธารณชนต่อสถานะของสหรัฐฯที่ถูกมองว่าเป็นนั่งร้านสนับสนุนรัฐบาลไทยด้วย เมื่อรัฐบาลเสนีย์ ปราโมทย์ ชนะการเลือกตั้งในปี 1975 จึงเปลี่ยนโยบายการต่างประเทศให้เป็นมิตรกับคอมมิวนิสต์จีนมากขึ้นเพื่อปักกิ่งลดการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยลง นับเป็นยุทธวิธีที่เห็นโอกาสที่เกิดจากการแตกหักในโลกคอมมิวนิสต์ระหว่างจีนกับสหภาพโซเวียต โดยสหรัฐฯเองก็ส่งประธานาธิบดี Nixon ไปเยือนจีนก่อนหน้าตั้งแต่ปี 1972 เพื่อเพิ่มสัมพันธ์เช่นกัน ไทยวางตัวเป็นอิสระบนเวทีโลกมากขึ้นเพื่อลดภาพการเป็นตัวแทนสหรัฐฯในภูมิภาค สหรัฐฯถูกขอให้ถอนทหารจากฐานทัพต่างๆ ภายในปี 1976 ซึ่งสหรัฐฯตกลงถอนทหารภายในเวลาที่กำหนดรวมถึงยกสิ่งปลูกสร้างและยุทโธปกรณ์ที่ขนย้ายลำบากให้กับทางการไทย แต่วิธีการบริหารภัยคุกคามคอมมิวนิสต์ของรัฐบาลเสนีย์ถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยมในประเทศบางส่วนมองว่าอ่อนปวกเปียกและมีความชะล่าใจมากเกินไป มีความพยายามเรียกร้องให้สหรัฐฯชะลอแผนถอนทหารลงแต่ไม่เป็นผล ซึ่งความกระวนกระวายนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 (1976) ในเวลาต่อมา ในตอนนั้นแม้สหรัฐฯจะถอนกำลังจากไทยไปหมดแล้วตั้งแต่มิถุนายน 1976 แต่ก็เป็นชาติแรกที่ไทยเข้าหาเพื่อให้สนับสนุนด้านภาพพจน์ของรัฐบาลที่เสียหายจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในธรรมศาสตร์และรัฐประหารที่ตามมา ในทศวรรษต่อ ๆ มา สหรัฐฯ-ไทย ยังมีความร่วมมือหลายด้าน เช่น ด้านข่าวกรองแลกกับการใช้สถานที่ใทยสำหรับหน่วยงาน NSA, การฝึกทหารร่วมกัน และการขายอาวุธทันสมัยอย่าง F-16 ----------------- ถ้าเราย้อนกลับไปดูปัจจัยทั้ง 3 ประการข้างต้นจะเข้ามาและจากไปของฐานทัพสหรัฐฯในช่วงสงครามเย็น 1. ทั้งสองประเทศต้องเห็นภัยคุกคามร่วมกัน: สหรัฐฯและไทยเห็นคอมมิวนิสต์เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ แต่พอเข้ายุค 70s สหรัฐฯไม่ได้มองการลงมาต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ในเอเซียว่าเป็นเรื่องคุ้มตค่า 2. ภัยคุกคามนั้นสูงจนรัฐไทยมองว่าอาจเป็นภัยต่อสถาบันหลักชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์: ประเด็นนี้จริงในยุค 60 แต่ภายหลังปี 1973 ยุทธวิธีทางการทูตใหม่ ๆ ของรัฐบาลเสนีย์ที่อาศัยการแตกกันของ จีน-โซเวียต ทำให้การมีอยู่ของฐานทัพเป็นเรื่องไม่จำเป็น 3. ทางสหรัฐฯต้องมองเห็นประโยชน์ในแง่ภูมิศาสตร์และยุทธศาสตร์ของการมาตั้งฐานทัพในไทยด้วย: การทิ้งระเบิดทางยุทธวิธีในเวียดนาม ต้องอาศัยฐานบินในประเทศไทย เมื่อสงครามเวีดนามจบ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฐานในไทยอีก ------------------- เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ถ้าเราเอาปัจจัยสามข้อที่ว่ามากาง เทียบกับบริบทความขัดแย้งในเอเซียในปัจจุบัน จะพบว่าโอกาสการเชิญสหรัฐฯมาตั้งฐานทัพในไทยมีโอกาสความเป็นไปได้ต่ำ 1. ทั้งสองประเทศต้องเห็นภัยคุกคามร่วมกันหรือไม่? ปัจจัยที่จะเกิดสงครามครั้งใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐฯคือประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนและบางชาติใน ASEAN รวมถึงกรณีไต้หวัน ซึ่งในเรื่องนี้ไทยไม่มีส่วนได้เสีย กับพื้นที่ในทะเลจีนใต้เลย ขณะเดียวกันชาติ ASEAN เช่นเวียดนามและฟิลิปินส์ที่เพิ่มระดับความเป็นมิตรกับสหรัฐฯเป็นพิเศษในหลายปีที่ผ่านมาเพราะขัดแย้งกับจีนในเรื่องผลประโยชน์ทะเลจีนใต้ทั้งสิ้น กระทั่งประเทศเหล่านี้ก็มองความขัดแย้งของตัวกับจีนแยกกับประเด็นไต้หวัน 2. ภัยคุกคามนั้นสูงจนรัฐไทยมองว่าอาจเป็นภัยต่อสถาบันหลักชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์หรือไม่? ประเทศไทยไม่ได้มองจีนเป็นภัยคุกคามด้วยซ้ำ กระทั่งพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยอย่าง #ก้าวไกล หรือ #เพื่อไทย ก็มองผลประโยชน์ด้านการค้าและการท่องเที่ยวกับจีนเป็นหลัก ยังไม่มีคำพูดจากผู้สมัครพรรคการเมืองคนไหนเลยที่บอกว่าไทยต้องลดระดับความสัมพันธ์กับจีนหรือสหรัฐฯ การยกตัวอย่างกรณี รัสเซีย-ยูเครน ก็เป็นการเทียบที่ไม่เข้าท่า เพราะในขณะที่รัสเซียมีมายาคติเชื่อว่าประเทศตนเองจะเป็นจักรวรรดิยิ่งใหญ่ในยูเรเซียได้ต้องมียูเครนเป็นบริวาร ไทยไม่ได้ถูกมองแบบนั้นในจินตนาการของทั้งจีนหรือสหรัฐฯ ถ้าเทียบในบริบท รัสเซีย-ยูเครน ไต้หวันต่างหากที่พอจะเข้าข่าย เพราะการยึดไต้หวันคือการปิดฉากสงครามกลางเมืองจีนอย่างสมบูรณ์ 3. ทางสหรัฐฯมองเห็นประโยชน์ในแง่ภูมิศาสตร์และยุทธศาสตร์ของการมาตั้งฐานทัพในไทยไหม? ถ้าเราดูแผน Army 2030, Marine 2030 ซึ่งเป็นการออกแบบกำลังของสหรัฐฯในยุคทศวรรษหน้า จะเห็นว่าไทยไม่ได้อยู่ในแผนการวางกำลังเลยเพราะภูมิศาสตร์ประเทศอยู่ห่างจากสนามรบในทะเลจีนใต้ค่อนข้างมาก คนละเรื่องกับสมัยสงครามเวียดนามที่อยู่แทบจะติดกับพื้นที่การรบ รายงาน U.S. Ground Forces in the Indo-Pacific: Background and Issues for Congress ที่ทำโดยสภาคองเกรสเมื่อปีที่แล้ว มีพูดถึงแผน Army 2030 กับ Marine 2030 ไม่ได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการตั้งฐานทัพในไทย แต่มีการระบุเรื่องย้ายหน่วย Marine 3rd Expeditionary Force จากโอกินาว่าไปเกาะกวม รายงาน Indo-Pacific Deterrence and the Quad in 2030 ที่จัดทำโดยเพนตากอนในปี 2021 มีการพิจารณาเรื่องการตั้งฐานทัพใหม่ ๆ ให้กระจายไปตามเกาะต่างๆ ของมหาสมุทร Pacific เพื่อลดอันตรายจากการโจมตีจากจีน รวมถึงระบุแนวทางการตั้งฐานทัพร่วมกับพันธมิตร QUAD (สหรัฐฯ-อินเดีย-ออสเตรเลีย-ญี่ปุ่น) โดยมีเกาะ Nicobar ในทะเลอันดามัน ซึ่งมีประโยชน์ในการสกัดกั้นเส้นทางขนถ่ายน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปยังจีน และฐานทัพในออสเตรเลียเพราะอยู่นอกระยะทำการ 4,000 กิโลเมตรของขีปนาวุธ DF-26 อาวุธใหม่ ๆ ที่สหรัฐฯทำการวิจัยอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ Hypersonic, จรวด PrSM Inc 4 พิสัย 1,000 กิโลเมตรที่ใช้กับ HIMARS, เรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่สร้างให้ออสเตรเลียร่วมกับกลุ่ม AUKUS รวมถึงอาวุธพิสัยไกลปล่อยเป็นฝูงได้จากเครื่องบินขนส่ง C-130 ชี้ไปยังแผนยุทธศาสตร์ที่มีศูนย์กลางเป็นมหาสมทุรแปซิฟิก, การหยุดยั้งการข้ามช่องแคบไต้หวันและการปิดเส้นทางเดินเรือทางทะเลจีนเป็นหลักโดยไม่พึ่งพาฐานทัพที่อยู่ในระยะโจมตีจากจีนมากเกินไป สหรัฐฯสามารถสกัดกั้นจีนได้มีประสิทธิภาพกว่า ด้วยความช่วยเหลือของประเทศเป็นมิตรอย่างฟิลิปินส์และเวียดนามที่มองจีนเป็นภัยคุกคามจากกรณีทะเลจีนใต้ รวมถึงมีภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับแนวรบพอดี ------------------ ด้วยปัจจัยทั้งสามอย่างแล้วเราจึงสรุปได้ว่าความเป็นไปได้ที่ไทยจะเชิญสหรัฐฯมาตั้งฐานทัพมีต่ำมาก แต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ผู้เล่นในภูมิภาคไม่ได้มีเพียงไทยหรือสหรัฐฯเท่านั้น การเคลื่อนไหวของจีนและประเทศอื่นๆ ใน ASEAN สามารถส่งผลให้ปัจจัยข้อ 1,2 เปลี่ยนไป เช่นหากจีนต้องการกดดันให้แน่ใจว่าไทยจะวางเฉยด้วยการขยายฐานทัพเรือในกัมพูชา, สนับสนุนท่าทีของกัมพูชาให้ก้าวร้าวกับไทยมากขึ้น หรือใช้พม่ากดดันไทยผ่านทะเลอันดามัน การประเมินภัยคุกคามของไทยก็อาจเปลี่ยนไปและเป็นปัจจัยให้เชิญสหรัฐฯเข้ามาตั้งฐานทัพได้เช่นกัน ในอนาคตที่ไม่แน่นอนการวางยุทธศาสตร์และการจัดซื้ออาวุธของประเทศจึงควรมีภาพที่ชัดเจนว่าจะสงครามจะเกิดอย่างไร, ที่ไหน และบทบาทของไทยเพื่อป้องกันการเกิดสงครามคืออะไร หากเกิดสงครามคืออะไร? ในฐานะประชาชน เราไม่ควรตื่นตูมกับข่าวประเภทนี้แต่ควรพยายามเข้าใจบริบทในอดีตและเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างไม่ใช้อารมณ์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อผู้ที่มีเป้าหมายทางการเมืองได้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0EW5mpomMTGW6KpnPN7DaixNzTukfdL3M3AZ3t5CVx7AXWveWGChjAsyCxXgvjRG6l&id=100047386231809&sfnsn=mo&mibextid=jf9HGSข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย1FALSE BASE STATION’ จากเครื่องมือสืบสวนอาชญากรรม สู่อุปกรณ์ก่อเหตุ‘SMSดูดเงิน’ของมิจฉาชีพเมื่อเร็วๆ นี้ บทความเตือนภัยมิจฉาชีพส่ง SMS ตีเนียนเป็นธนาคารหลอกให้คลิก Link ของผู้เขียนเพิ่งได้รับการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ cofact.org ซึ่งรวบรวมคำเตือนของผู้รู้ทั้ง อ.ปริญญา หอมเอนก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) รวมถึง พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ว่าด้วยอุปกรณ์ “False Base Station (FBS)” ที่สามารถส่ง SMS ปลอมเป็นใครก็ได้เข้าเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เข้ามาอยู่ในรัศมีทำการ โดยไม่ต้องอาศัยผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ (เช่น AIS , DTAC , True) อีกทั้งเครื่องนี้สามารถติดตั้งในห้องพักหรือแม้แต่ในรถยนต์ มีขนาดไม่ใหญ่และง่ายต่อการเคลื่อนย้าย จึงยากต่อการเฝ้าระวัง บทความที่แล้วผู้เขียนยังอ้างถึงรายงานข่าวในต่างประเทศ ซึ่งย้อนไปในปี 2557 ที่ประเทศจีนมีการกวาดล้างอุปกรณ์ FBS ครั้งใหญ่ เนื่องจากมีรายงานมิจฉาชีพนำเครื่องติดตั้งไว้ในรถแล้วขับตระเวนไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน แล้วยิง SMS ปลอมเป็นธนาคารหรือหน่วยงานของรัฐ กระทั่งในที่สุด เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ก็มีหลักฐานยืนยันได้ว่า อุปกรณ์ FBS ได้ถูกมิจฉาชีพนำมาใช้ในประเทศไทยแล้ว หลังมีการรายงานข่าวเรื่องนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์ FBS ที่ติดตั้งในรถยนต์ ขับตระเวนก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd48204• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำมันงาช่วยรักษาข้ออักเสบได้จริงไหมโรคข้ออักเสบ การศึกษาชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำมันงาในการบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคข้ออักเสบพบว่าการรับประทานน้ำมันงา 1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุกวันต่อเนื่องนาน 28 วัน มีประโยชน์ในการช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระและสารเคมีที่ก่อการอักเสบในร่างกายของผู้ป่วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการผ่อนคลายของของหลอดเลือดแดงเอออร์ตา และมีแนวโน้มที่จะลดการบวมของเท้าด้านหลัง ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ส่งผลดีต่อตัวผู้ป่วยเอง ทั้งนี้งาดำจะนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคข้ออักเสบได้จริงหรือไม่คงต้องรอผลการศึกษาในอนาคตที่แน่นอนกว่านี้ต่อไปWantanee Chiansunan• 5 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“อนุทิน” ฉะแรง มีแต่ควายทุ่มซื้อ “งูเห่า” 100 ล้าน ปัดแข่งตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายการเมืองดาหน้าปฏิเสธ กระแสทุ่มหลักร้อยล้านซื้องูเห่า “ประเสริฐ” ขู่พวกที่คิดจะเป็นงูเห่าพึงระวังตัว ลั่นเพื่อไทยไม่มีฟรีโหวตเลือกประธานสภาฯ “เศรษฐา” ย้ำการแข่งขันจบไปแล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือตั้งรัฐบาลให้ได้ ก้าวไกลรอให้เพื่อไทยตกผลึกก่อน “ชัยธวัช” ชี้ผลโหวต ปธ.สภาฯ สะท้อนต่อการตัดสินใจ ส.ว.เลือกนายกฯ ว่าขั้ว 8 พรรคยังเหนียวแน่น “อนุทิน” แขวะมีแต่ควายเท่านั้นที่คิดจะซื้องูเห่า 100 ล้าน ยันไม่มีทางเกิด รบ.เสียงข้างน้อย “พิธา-ก.ก.” มีผวา ศาล รธน.จี้ อสส.แจงผลสอบคดีชูนโยบายแก้ ม.112 คืบหน้าถึงไหน “ลุงป้อม” กลับจากอังกฤษแล้ว เรียกติวเข้ม ส.ส.โหวต ปธ.สภาฯ-นายกฯ “พรเพชร” เชื่อ ส.ว.ไม่มีทางโหวตไปทางเดียวกัน ศาลนัดไต่สวนคดี “อุปกิต” ฟ้อง “โรม”Panisara Rukngam• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://vt.tiktok.com/ZSd8fmToK/?k=1ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ เทคฮอร์โมนในปริมาณที่มากทำให้ใบหน้าสวยขึ้นในปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายที่มีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ การเทค ฮอร์โมนจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมาก แต่มีผู้คนไม่น้อยที่ไม่ทราบการเทคฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และอาจไปซื้อยา มาเทคฮอร์โมนเองจนเกิดอันตรายต่อร่างกาย ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ) จากการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิง ข้ามเพศเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย พร้อมกับให้ยากดฮอร์โมนเพศชายที่มีตามเพศสภาพให้ ลดลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการเทคฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น เช่น มี หน้าอก เสียงเล็กแหลมขึ้นหนวดเคราน้อยลง กล้ามเนื้อเล็กลง เป็นต้น (ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ) ข้อแนะนำในการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ • ร่างกายของคนข้ามเพศแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยาที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงต่างกัน ควรที่จะเข้ารับการปรึกษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มให้ฮอร์โมน • หาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนที่ถูกต้อง รวมทั้งอันตรายของการใช้ยาเกินขนาด • วัดระดับฮอร์โมน testosterone และ estradiol ทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่จะ ตามมา ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ) ดังนั้นการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ เป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย และกดฮอร์โมนเพศชาย ให้ลดลง ซึ่งนั่นจะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น แต่ไม่สามารถเปลี่นรูปลักษณ์ของใบหน้าได้ ปรับเปลี่ยนได้แค่สรีระร่างกายสุขภาพความสวยความงามChittakon Pawakho• 10 เดือนที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำกระชาย ต้านโควิดได้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง "เหตุผล" ยังไม่มีวิจัยอย่างเป็นทางการใดรายงานว่ากระชายสามารถต้านโควิดได้ อย่างไรก็ตาม กระชายนั้นมีสรรพคุณที่มีประโยชน์หลายอย่าง เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงโควิด 2019ยาสมุนไพรtanapon313131• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแบงก์ชาติไม่มีโครงการให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือกรณีชำระหนี้ไม่ไหว “โดยให้กู้เงินและผ่อนจ่ายเดือนละ 416 บาทข่าวมั่ว ไม่มีนโยบายให้ประชาชนผ่อนชำระเงิน 416 บ./ด . อย่าหลงเชื่อ! แบงก์ชาติไม่มีโครงการให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือกรณีชำระหนี้ไม่ไหว “โดยให้กู้เงินและผ่อนจ่ายเดือนละ 416 บาท” ❌ แบงก์ชาติไม่ทำธุรกรรมทางการเงินกับประชาชน❌ อ่านรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบธุรกิจได้ที่เว็บไซต์แบงก์ชาติ 👉 https://bit.ly/3kC9gKU หรือติดต่อ Call center ของสถาบันการเงินทุกแห่งโดยตรง 👉 https://bit.ly/3k8IgDe . Fact Checker เครือข่ายมูลนิธิชุมชนขอนแก่นทศวรรษหน้าข่าวการเมืองอีสานโคแฟค• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้เชี่ยวชาญอังกฤษเตือนให้ระวัง "วินเทอร์ เวฟ" การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงฤดูหนาว จริงหรือคะด้านสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์อังกฤษ เตือนให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขรับมือการแพร่ระบาดระลอกสอง ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ในกรณีที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้เร็วขึ้น โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 กำลังเร่งขยายพันธุ์ในหลายประเทศก่อนเข้าสู่ "วินเทอร์ เวฟ" (winter wave) ฤดูหนาวปลายปีนี้ สภาพอากาศจะเย็นลงและยังเป็นช่วงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้การควบคุมโรคทำได้อย่างยากลำบาก แต่ความสูญเสียอาจบรรเทาลงหากมีมาตรการรับมือดีๆ จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ ประเทศในแถบยุโรปเช่นฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และอีกหลายประเทศ เริ่มมองเห็นเค้าลางว่าจะเกิดสงครามใหญ่ในอีกไม่กี่ปีนี้ หลายๆประเทศจึงเตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าแต่ละประเทศต่างคงเร่งผลิตอาวุธ ผลิตโดรนที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ผลิตจรวดความเร็วสูง ผลิตรถถัง ผลิตเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือรบด้วย ถ้ามองอย่างเป็นกลางในตอนนี้ อาวุธทางฝั่งประเทศยุโรปและอเมริกามีความทันสมัยมากกว่า สงครามใหญ่จะลุกลามไปหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง จะขยายวงกว้างมากขึ้น มากขึ้น ประเทศอิสราเอลคือสารตั้งต้น ที่ทำให้เกิดสงครามใหญ่ในแถบตะวันออกกลาง อีกไม่นานเกินรอ พี่น้องชาวมุสลิมหลายประเทศจะรวมตัวกันต่อสู้กับอิสราเอล...ผู้นำอิสราเอลโนสน โนแคร์ คำเตือนของผู้นำอเมริกา ที่แนะนำอิสราเอลว่าอย่าโจมตีเมืองราฟาร์ เพราะพลเมืองผู้บริสุทธิ์จะล้มตายจำนวนมาก...อิสราเอลไม่ยินยอมให้ UN ส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่มให้ชาวปาเลสไตร์ ทางอเมริกาและชาติอื่นๆต้องส่งเสบียงอาหารทางเครื่องบิน และทางเรือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรชาวปาเลสไตร์ที่หิวโหยอดอยากอยู่ในขณะนี้...อิสราเอลเหมือนจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตร์...คอยจับตาดูเมื่อไหร่ที่สงครามในประเทศตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น มันจะเป็นสัญญาณว่า...”สงครามศาสนา”...ได้เริ่มขึ้นแล้ว บรรดาชาติอาหรับจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น การสู้รบจะแผ่ขยายไปทั่ว จากสงครามใหญ่ จะพัฒนามาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศอิสราเอลมีสิทธิที่จะถูกลบออกจากแผนที่โลก หรืออย่างน้อยพื้นที่ประเทศอิสราเอลก็จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ................................................ ประเทศรัสเซียถูกก่อวินาศกรรม พลเมืองชาวรัสเซียตายไป 139 คน บาดเจ็บอีกนับร้อยคน งานนี้ปูตินผู้นำประเทศรัสเซียคงไม่ยอมจบง่ายๆ พลเมืองชาวรัสเซียต้องไม่ตายฟรี กลุ่มผู้ก่อการร้ายถูกจับกุม 11 คน คาดว่าคนเหล่านี้คงจะถูกจัดหนักจัดเต็มตามสไตร์ โหด สัส รัสเซีย ถูกทรมานไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ให้ตายง่ายๆ กลุ่มนักรบ ISIS-K (กลุ่มรัฐอิสลามแห่งโคราซาน) ออกมารับผิดชอบ แต่ผู้นำรัสเซียปูติน ไม่ฟังแถมยังพุ่งเป้าไปที่ยูเครนเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้ายขับรถมุ่งหน้าจะเข้าประเทศยูเครน...หวยจึงไปออกที่ประเทศยูเครน ถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนักต่อเนื่องติดๆกัน รัสเซียระบายความแค้นกับยูเครนอย่างหูดับตับไหม้ และคาดว่าเบื้องหลังทางรัสเซียคงหาวิธีสางแค้นกลุ่ม ISIS-K ที่เป็นผู้ก่อวินาศกรรม...รัสเซียคงจะรีบเผด็จศึกยูเครนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เตรียมตัว ผลิตอาวุธ ธุทโธปกรณ์เพิ่มให้มากที่สุด ทางรัสเซียเองก็คงรู้ว่าอีกไม่นานนี้...”สงครามใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้น”...อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีอาวุธสำรองให้มากที่สุด สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ใกล้จะเกิดขึ้น ประเทศแถบยุโรปและประเทศตะวันตก แต่ละประเทศต่างมีอาวุธที่ล้ำสมัย รวมทั้งเรือดำน้ำ เรือรบ และอื่นๆที่ล้ำหน้าและมีอานุภาพรุนแรงมาก ตอนนี้รัสเซียไม่ใช่สู้กับยูเครนเพียงประเทศเดียว แต่กำลังสู้กับบรรดาชาตินาโต้ที่สนับสนุนอาวุธให้กับยูเครน ต้องนับถือรัสเซียที่สามารถทำลายอาวุธของชาติยุโรปและชาติตะวันตกที่ส่งมาให้ยูเครน จนพังเสียหายไปมากมาย .....................................................กองทัพเรือของรัสเซียมีจุดอ่อนอยู่มากมาย ถูกยูเครนใช้โดรนและจรวดผิวน้ำจมเรือรบไปแล้วหลายลำ ทางกองทัพเรือรัสเซียต้องรีบหาวิธีป้องกันให้เร็วที่สุด แม้แต่เครื่องบินรบของรัสเซียที่ว่าเจ๋งๆ ยังถูกยูเครนสอยร่วงไปแล้วหลายลำ...เรือรบของประเทศอังกฤษก็อ่อนแอ สามวันดี สี่วันไข้ ต้องเข็นเข้าอู่ซ่อมหลายลำเช่นกัน คิดว่าทางรัสเซียคงจะมีการปรับปรุงกองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น ทางรัสเซียมีโคตรจรวดที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูงจำนวนมาก ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้น แรกๆจะไม่มีการใช้จรวดนิวเคลียร์ยิงถล่มกัน แต่ใช้น้องๆจรวดนิวเคลียร์เข้าถล่มกัน การยิงนิวเคลียร์จะยิงออกจากเรือดำน้ำก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะเริ่มใช้นิวเคลียร์ก่อนเท่านั้น หลังจากยิงนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะยิงนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่นอกประเทศของแต่ละฝ่ายเข้าใส่กัน ถ้ายังย่อยยับกันไม่พอก็จะใช้เครื่องบินบรรทุกจรวดนิวเคลียร์ไปหย่อนใส่ประเทศฝ่ายตรงกันข้าม คิดว่าการยิงจรวดนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศของตนเอง จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายเหมือนเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายถ้าประเทศตัวเองเริ่มเสียเปรียบในการทำสงคราม...คนหนุ่มคนสาวยุคนี้จะได้ชมและได้ดมพิษสงของนิวเคลียร์ (ยกเว้นประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมทำสงคราม) คนจะตายกันหลายสิบล้านคน อาจจะตายถึงนับร้อยล้านคนก็เป็นไปได้เช่นกัน ..................................................ประเทศจีน คงซุ่มผลิตอาวุธ และพัฒนาอาวุธอยู่ตลอด ประเทศจีนจะมีทหารมากที่สุด คิดว่าจะมีทหารอย่างน้อยก็ 30-50 ล้านนาย...ประเทศจีนทุ่มเงินซื้อตัวนักบินทหารที่เกษียณอายุราชการจากประเทศอังกฤษหลายนายมาเป็นครูสอนเด็กหนุ่มชาวจีนที่มีอายุ 18 ปี ให้เป็นนักบิน ควบคุมเครื่องบินรบ รุ่นหนึ่งรับเด็ก 200-300 คน ต้องเรียนต้องฝึกให้ชำนาญใช้เวลาประมาณ 4 ปี ต่อหนึ่งรุ่น พอฝึกรุ่นนี้เสร็จก็จะรับเด็กหนุ่มรุ่นต่อๆไปให้เข้ามาฝึกบิน เมื่อถึงเวลาเกิดสงครามคาดว่าประเทศจีน จะมีนักบินทหารมากที่สุดในโลก และคิดว่าประเทศจีนจะมีอาวุธบางชนิดที่ล้ำสมัยที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถ้าเกิดสงครามขึ้น ดาวเทียมของสหรัฐจะถูกรบกวนหรือถูกทำลายไปบางส่วน แต่ไม่รู้ว่าประเทศจีนหรือรัสเซียเป็นผู้ลงมือทำลายหรือรบกวนดาวเทียมของสหรัฐ คาดว่าสหรัฐคงรู้เรื่องนี้และคงหาทางป้องกันดาวเทียมของตนเองอยู่เช่นกัน ดาวเทียมของสหรัฐมีหลายดวง ไม่ใช่แค่ดวงเดียว เพราะฉะนั้นฝ่ายผู้ที่คิดจะทำลายดาวเทียมของสหรัฐต้องหาวิธีปิดตาดาวเทียมของสหรัฐให้มากที่สุด หลายๆประเทศต่างก็มีดาวเทียมของตนเอง ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นอินเตอร์เน็ตคงใช้ไม่ได้ การติดต่อสื่อสารจะเป็นอัมพาต ใช้บัตรถอนเงินจากตู้ ATM ไม่ได้ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของไม่ได้ และกดถอนเงินสดออกจากตู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรสำรองเงินสดเอาไว้ เตรียมซื้อข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และยา โดยเฉพาะคนที่ต้องกินยารักษาโรคประจำตัวทุกวัน ............................................ประเทศเกาหลีเหนือ ไม่รู้ว่าจะมีอาวุธที่ทันสมัยจริงหรือไม่? เพราะเป็นประเทศที่ถูกปิด ถูกบอยคอตจากชาติตะวันตกและชาติยุโรปมานานแล้ว แต่หลายๆประเทศต่างก็รู้สึกหวั่นเกรงอาวุธของเกาหลีเหนือเหมือนกัน เพราะเห็นเกาหลีเหนือทดลองการยิงจรวดอยู่เสมอ แถมยังขู่ว่ามีอาวุธนิวเคลียร์สามารถยิงได้ไกล จนประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นต่างก็หวั่นเกรงเกาหลีเหนือไม่น้อย ถ้าเกิดสงครามใหญ่ขึ้นเกาหลีเหนือก็มีทหารมากเหมือนกัน แต่จะรบเก่งแค่ไหนไม่รู้ คงต้องฟังแผนการรบจากประเทศจีนเป็นหลัก...ประเทศอิหร่าน ประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน สี่ประเทศนี้รวมตัวกันจะเป็นพี่ใหญ่ของประเทศตะวันออกกลางทั้งหมด...เพียงแต่ให้ประเทศอิหร่านคุมกำลังนักรบประเทศตะวันออกกลาง...ส่วนประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือ จะเป็นผู้ปะทะกับกองกำลังของชาตินาโต้เป็นหลัก...สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดแน่นอน อาจจะเกิดเร็วกว่าที่คาดไว้...หลายคนกังวลว่าประเทศไทยจะถูกถล่มจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วย แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเข้าร่วมรบก็โง่บรรลัย...ประเทศไทยจะเป็น “ครัวโลก” ส่งออกอาหาร ข้าวสาร และแป้งสำหรับทำขนมปัง และพืชผักนานาชนิดจำนวนมาก รวมทั้งอาหารทะเลด้วย ราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆจะแพงมาก การขนส่งก็ลำบากเพราะภัยสงครามเกิดขึ้นไปทั่วโลก...ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ประเทศเวียดนาม ก็พลอยได้อานิสงส์จากราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆไปด้วย เกษตรกรจะร่ำรวยก็คราวนี้แหละ...บางคนคิดว่าสถานทูตอเมริกาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการขุดลึกลงไปหลายร้อยเมตร ทำเป็นสถานที่เจาะล้วงความลับความมั่นคงของชาติตรงกันข้าม จะถูกถล่มไปด้วย แต่ผมมั่นใจว่าสถานฑูตแห่งนี้มีสิทธิ์ที่จะถูกปิดตายจากวิธีใดวิธีหนึ่ง และท้ายที่สุดสถานฑูตแห่งนี้จะไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จ.เชียงใหม่จะไม่ถูกถล่มด้วยระเบิดอานุภาพแรงสูงอย่างแน่นอน แต่สถานฑูตอาจจะถูกก่อวินาศกรรม...หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 สงบลง จังหวัดตราด จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มากขึ้น หรืออาจจะมีอำเภอ / จังหวัดใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย เพราะประเทศเขมรจะต้องคืนพื้นที่ๆติดกับจังหวัดตราดให้กับประเทศไทย ในขณะนี้ไทยกับเขมรกำลังหาทางลงเรื่องเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกันอยู่ ในอดีตมีนักการเมืองบางคนที่ชั่วช้าเลวทราม ไปทำ MOU กับฮุนเซน แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย มีสองทางที่ไทยจะได้พื้นที่คืนจากเขมรคือจะได้ด้วยการเจรจา หรือได้มาจากการทำสงครามรบกับเขมร ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย ไทยจะได้พื้นที่คืนมาอย่างแน่นอน / ด้วยความเคารพ หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ 28 มี.ค. 2567 ...ข่าวการเมืองภาคเหนือภาคตะวันออก มีม เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยจากดร.อาทิตย์. อุไรรัตน์ ถึงคนไทยทั้งประเทศ ท่านรู้หรือไม่? มีเรื่องพวกนี้ เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ฟังแล้วอย่าเมินเฉย. หนึ่งคะแนนเสี่ยงของท่านช่วยกันแก้วิบัติของชาติได้ " 5 ปีแห่งความทุกข์ระทมของประชาชน 5 ปีแห่งความหายนะของชาติบ้านเมือง บอกได้คำเดียวว่า หนักกว่านักการเมืองอาชีพ ชาตินี้คงจะหาผู้นำที่สร้างความบรรลัยให้ชาติบ้านเมืองมากเท่าลุงคนนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว/นายทุน น่าเกลียดจริงๆ > ที่ดินรถไฟมักกะสันปอดของกรุงเทพฯที่ ร.5 ท่านประทานไว้เป็นสาธารณะประโยชน์กับคนไทย ก็ใส่พานประเคนให้เจ้าสัวซี.พี. > ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนไปทำอหังสาฯ และยังปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไทย ทำให้บุหรี่ไทยแพงขึ้นเทียบเท่าบุหรี่นอก คนก็เลยหันไปสูบบุหรี่นอก ทำให้โรงงานยาสูบที่เคยกำไรหมื่นล้าน กลายเป็นขาดทุนหลายพันล้าน > ให้เจ้าสัวเจริญต่อสัญญาเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยไม่ต้องประมูลแข่งขัน และแก้ไขสัญญาเช่าจาก 25 ปี เป็น 50 ปี > ให้ต่างชาติ+นายทุน เช่าที่รัฐ 99 ปี ปชช.ไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนเป็นให้เช่า 50 ปี ต่อสัญญาได้อีก 49 ปี สรุปคือให้เช่า 99 ปี > เดินหน้าโครงการเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด(นิคมอุตสาหกรรม) บางพื้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นิคมอุตสาหกรรมสกปรก อันตรายแค่ไหนก็ดูมาบตาพุดเป็นตัวอย่าง > ยกที่สาธารณะ ที่ป่า รวมถึงไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเศรษฐกิจพิเศษ > ให้ต่างชาติซื้อที่ดินใน 13 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่อั้น > โครงการ EEC เอื้อประโยชน์สุดๆให้ต่างชาติและนายทุน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี / อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ต่ำสุดในอาเซียน / ยกเว้นภาษีนำเข้า เครื่องจักร วัตถุดิบ / สนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการลงทุน การวิจัย / อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน / ให้สิทธิ์การเช่าที่ดินรัฐ ถึง 50 ปี และสามารถพิจารณา ต่ออายุอีก 49 ปี / วีซ่าทำงาน 5 ปี > มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และ บางใหญ่-กาญจนบุรี ใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง 1.4 แสนล้าน แต่ไม่มีปัญญาทำด่านเก็บเงิน ต้องให้เอกชนมาสัมปทานเป็นผู้ทำด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยรัฐจ่ายค่าจ้างให้เอกชนปีละ 2,000 ล้าน สัญญา 30 ปี รวยแบบง่ายๆไม่ต้องมีความเสี่ยงใดๆ > ดึงโครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เอื้อประโยชน์ให้นายทุนรวย > ค่าโง่คลองด่านคดียังไม่สิ้นสุด แต่รีบจ่ายงวดแรกไป สุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่ต้องจ่ายค่าโง่ แต่ค่าโง่งวดแรกที่จ่ายไปก็ไม่ยอมทวงคืน > ส่อแววล้มมวยเรื่องค่าโง่เหมืองทองคำ ที่ถูกบริษัทคิงส์เกตจากออสเตรเลียฟ้องร้อง เพราะคิงส์เกตเคยติดสินบนรัฐมนตรีอุตสาหกรรมไทย และข้าราชการระดับสูงของไทย ในสมัย คสช. 3,000 ล้าน โดยทางตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียส่งหลักฐานการโอนเงินมาให้กลต.ไทย และได้ส่งต่อมาให้ปปช.อีกทีในปี 2558 แทนที่รัฐบาลจะเร่งรีบตรวจสอบเอาผิด เพื่อนำมาใช้ต่อสู้คดีถูกฟ้องเรียกค่าโง่ ซึ่งก็จะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ ก็กลับดองเรื่องเงียบ ไม่เคยพูดถึงสักแอะ ส่อเจตนาจริงๆ > เบื้องหน้าสั่งปิดเหมืองทอง แต่เบื้องหลังยังเดินหน้า มีการไล่ยึดที่ดินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเหมืองทอง > เอาเงินสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้น > ข้าวดี ตีเป็นข้าวเสื่อมราคาแล้วขายถูกเอื้อประโยชน์นายทุน > ขายเหมาเข่ง 11 รัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติ โดยใช้แผนตบตาคนไทยด้วยการตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจ อ้างให้รัฐดูแล แต่เปิดทางให้นายทุนเข้ามาถือครอง > ปลดล็อคผังเมืองเอื้อนายทุน โครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม-ชุมชน ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป > ผ่านพรบ.แร่เอื้อนายทุน ทีนี้ประทานบัตรเหมืองแร่ไปทับที่ดินชาวบ้านคนไหน เจ้าของที่ดินก็จะกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเอง > ไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านที่อยู่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพื่อไปยกให้นายทุนทำเหมืองแร่ ชาวบ้านคนไหนไม่ยอม ก็ฟ้องเอาติดคุก มีติดคุกไปหลายราย ผู้สูงวัยทั้งนั้น > เดินหน้ายัดเยียดเหมืองโปรแตซทำลายเกษตรกรรมที่ภาคอีสาน เอื้อนายทุน >ยัดเยียดการสร้างเขื่อนวังหีบ จ.นครศรีธรรมราช และแอบอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 เพื่อให้ปชช.ยอมรับ ทั้งที่ในหลวงท่านไม่เคยยัดเยียดโครงการใดๆถ้าหากปชช.ไม่ต้องการ(โครงการนี้มีปชช.ทูลขอพระราชทาน ในหลวงท่านจึงได้ให้หน่วยงานรับผิดชอบไปศึกษาโครงการ แต่สรุปแล้วไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ และยังไปทำลายป่าลุ่มน้ำชั้น 1 โครงการจึงล้มเลิกไป แต่ถูกดันโครงการอีกครั้งในรัฐบาลนี้และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นโครงการของในหลวง สารเลวจริงๆ) > เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินสกปรกหลายจังหวัดเอื้อประโยชน์นายทุนเหมืองถ่านหิน ทั้งที่ทั่วโลกทยอยยกเลิก เพราะมันสกปรกมีมลพิษอันตราย > ยัดเยียดการขุดเจาะปิโตรเลียมที่บ้านนามูล ดูนสาด จ.ขอนแก่น เอื้อนายทุนบริษัทน้ำมัน มีชาวบ้านคัดค้าน ก็ส่งฝ่ายปกครองไปข่มขู่ให้ยินยอม > เชฟรอนโกงภาษี 3,000 ล้าน แทนที่จะไล่กลับอเมริกา กลับใจดีต่อสัมปทานให้แหล่งทานตะวันในอ่าวไทยของเชฟรอนไปอีก 10 ปี ที่สุดอุบาทว์คือ คิดค่าลงนามต่ออายุสัมปทานแค่ 15 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากการขายเพียง 1% จากมูลค่าปิโตรเลียมของแหล่งนี้ 3-5 แสนล้านบาท(แหล่งนี้ขุดน้ำมันดิบมูลค่า 40 ล้านบาท/วัน ขุดวันเดียวก็ได้เงินมากกว่าที่จ่ายค่าลงนามต่อสัญญากับรัฐกว่าเท่าตัวแล้ว และแหล่งนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติอีกมาก) > เชฟรอนเจตนาสำแดงใบขนน้ำมันปลอดภาษีเท็จซ้ำซาก ผิดกฏหมายอาญาแผ่นดิน ก็อุ้ม ไม่เอาผิด และยังให้ร่วมประมูลสัมปทาน > ส่วนกรณีนี้ยิ่งหนัก 7 บริษัทน้ำมันทำผิดกฏหมาย ลักลอบขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก. ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้เลิกขุด แต่นอกจากคสช.จะไม่เอาผิดแล้ว ยังใช้ ม.44 ล้างผิดให้ และแก้กฏหมายส.ป.ก.อนุญาตให้เอกชนขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก.ต่อไปได้ ขนาดคำสั่งศาลยังไร้ความหมาย แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร > มีก๊าซ มีน้ำมันเต็มแผ่นดิน แทนที่จะขุดเอง เพื่อให้รายได้เข้ารัฐเต็มๆ ไม่ต้องไปแบ่งให้ใคร ก็ไปแจกสัมปทานให้ต่างชาติรวย > แจกสัมปทานปิโตรเลียมโดยเลือกระบบที่รัฐเสียประโยชน์ ระบบจ้างผลิตที่รัฐได้ประโยชน์ 80-90% ไม่เอา แต่เลือกระบบ PSC(จำแลง) ที่ได้ส่วนแบ่งแค่ 30% > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียมให้ไทยตกเป็นทาสบริษัทน้ำมันต่างชาติหนักข้อขึ้นกว่าเดิม > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียม ลดการจัดเก็บภาษีรายได้จากบริษัทน้ำมันผู้สัมปทาน จากเดิมเก็บอยู่ 50% ก็ลดเหลือ 20% > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีรายได้จากผู้สัมปทานปิโตรเลียมได้ราว 1 แสนล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บแค่ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท/ปี > ขูดรีดภาษีน้ำมันปชช. อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตกว่าทุกรัฐบาล > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีน้ำมันปชช.อยู่ราว 6 หมื่นล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บ 2.2 แสนล้านบาท/ปี ขึ้นราคาก๊าซ LPG อย่างบ้าคลั่ง ขึ้นมากที่สุดกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านๆมาชนิดทิ้งไม่เห็นฝุ่น > ขึ้นลงราคาน้ำมันไม่เป็นธรรมกับปชช. ตลาดโลกขึ้น น้ำมันไทยรีบขึ้นราคาตาม ตลาดโลกลดลง น้ำมันไทยไม่ค่อยจะลงตาม และหลายครั้งขึ้นราคาสวนทางตลาดโลกแบบหน้าด้านๆ และตอนขึ้น 50 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตอนลง 20-40 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นลงลักษณะนี้จนปชช.ด่าจนหมดคำด่าไปแล้ว > แยกธุรกิจค้าน้ำมันออกจากปตท.ไปยกให้นายทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นบางจากที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้กลุ่มทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม(SPRC)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้นายทุน > ปตท.โกงท่อก๊าซ ก็ไม่ยอมทวงคืน > แยกท่อก๊าซออกจากปตท.ไปให้นายทุน > อุ้มธุรกิจปิโตรเคมีของปตท. ด้วยการยกเลิกเก็บเงินภาคปิโตรเคมีเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งที่เดิมเขาก็จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันน้อยกว่าประชาชนอยู่แล้ว ทำให้ทุกวันนี้ภาคปิโตรเคมีไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันสักบาท ทั้งที่ใช้ก๊าซ LPG มากกว่าใคร ใช้มากกว่าภาคครัวเรือนที่คนไทยใช้หุงต้มกันทั้งประเทศอีก > เขมรบุกยึดที่นาคนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ก็ไม่ขับไล่ออกไป แถมให้คนของรัฐไปกล่อมชาวบ้านให้แบ่งที่ให้เขมร อ้างเพื่อความสัมพันธ์(น่าจับไปตัดคอทิ้งจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างอนุสาวรีย์บนพื้นที่ทับซ้อนที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ละเมิดข้อตกลงไทย-เขมร ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ทับซ้อน > ปล่อยเขมรเอาหลักเขตมาปักบนปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ คนไทยรักชาติจะถอนออก ก็สั่งทหารใหญ่ที่ดูแลให้ล้อมลวดหนามเอาไว้ไม่ให้ถอนออก(ระยำจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างกาสิโนล้ำแดนที่ด่านช่องสายตะกู บุรีรัมย์ คุณวีระ สมความคิดจะไปตรวจสอบ ก็ถูกข่มขู่ > MOU43 เขียนสมัย ชวน หลีกภัย รองรับแผนที่เขมร จะทำให้ไทยเสียดินแดนบนบกในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร และ MOU44 ที่เขียนสมัย ทักษิณ ชินวัตร ไปรองรับไหล่ทวีปเขมร จะทำให้ไทยเสียพื้นที่ทางทะเลในบริเวณเกาะกูดที่มีน้ำมัน คสช.ก็กอดไว้เหนียวแน่น ไม่ยอมยกเลิก > ปล่อยเขมรบุกยึดดินแดนอย่างง่ายดายในหลายพื้นที่ ไม่คิดปกป้องอธิปไตย แต่ช็อปอาวุธกระจาย ทั้งรถถัง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ > ในหลวงเคยรับสั่งว่าทะเลบ้านเราตื้น ไม่เหมาะกับการมีเรือดำน้ำ แต่ลุงซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล้านหน้าตาเฉย >อ้างศาสตร์พระราชา อ้างเศรษฐกิจพอเพียง แอบอ้างในหลวง โหนพระองค์ท่านเรียกคะแนนนิยมให้ตัวเอง แต่ทำตรงข้าม ทั้งอุ้มทุน ทั้งใช้จ่ายเกินตัว ฟาดแต่เมกกะโปรเจ็ควงเงินสูงๆ สร้างหนี้มากมายมหาศาล > เขียนรัฐธรรมนูญเปิดทางขายชาติให้ทางสะดวก ม.190 เดิม เรื่องหนังสือสัญญา การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ ที่ทั้งประชาธิปัตย์ และเพื่อไทยพยายามแก้ไข เพื่อให้ผ่านสภาง่ายๆ โดยเรื่องที่จ้องกันตาเป็นมัน ก็คือเรื่องของการตกลงแบ่งผลประโยชน์พลังงานบนพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยกับเขมร แต่ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแก้ไม่สำเร็จ เพราะถูกปชช.รู้ทันคัดค้าน แต่สุดท้ายก็มาสำเร็จด้วยฝีมือลุงตู่ เพราะไปหลอกคนไทยว่าเป็นรธน.ปราบโกง และห้ามวิพากษ์วิจารณ์รธน.ก่อนลงประมามติ โดยโยกไปแก้ที่ ม.178 เพื่อหลบหลีกสายตาคนไทย > เขียนรธน.ม.146 ริดรอนอำนาจพระมหากษัตริย์ จากเดิมที่ร่างพระราชบัญญัติใดๆ ถ้าพระมหากษัตริย์ทรงไม่เห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อครบ 90 วันแล้วยังไม่พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัตินั้นใหม่ ก็แก้ไขเป็นว่า ถ้าเสียง 2 ใน 3 ของสภาเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้นายกฯนำร่างพระราชบัญญัติทูลเกล้าอีกครั้ง ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงปรมาภิไธย หรือไม่พระราชทานคืนมาภายใน 30 วัน ก็ให้นายกฯนำพระราชบัญญัตินั้นประกาศใช้ได้ เสมือนว่าพระมหากษัตริย์ได้ลงปรมาภิธัยแล้ว(หลังรธน.ผ่านการลงประชามติ และได้นำทูลเกล้า ก็ได้มีการตีกลับให้ไปแก้ไขในหมวดอำนาจพระมหากษัตริย์ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับมาตรานี้หรือเปล่า เพราะนายกฯปิดปากเงียบ) ฯลฯ ทุกเรื่องที่ว่าไป มาจากสื่อหลักๆ ผมเคยทำโพสต์และแชร์ออกไปแล้วทั้งนั้น นี่แค่เท่าที่จำได้นะ หรือถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็มาบอกไว้ในคอมเม้นต์ได้ ผมจะนำมาใส่เพิ่มเติม อาทิตย์ อุไรรัตน์ ช่วยกันส่งต่อให้ประชนคนไทยทุกคนทราบทั่วกันอย่าได้เลือกมันกลับมาทำลายชาติบ้านเมืองของเราอีกเลยข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ